คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : icegun :; ... เพื่อนใหม่กับพี่รหัส(?) ...
IceGun :; … เพื่อนใหม่กับพี่รหัส(?)
[ฉากและเหตุการณ์ในเรื่องเป็นเพียงเรื่องสมมติ เพราะถ้าเอาตามจริงเลยมันจะวุ่นวายอะฮะ - -;; ]
“คณะเศรษฐศาสตร์ทางนี้จ้าาาา ^O^ !!!” เสียงหวานของรุ่นพี่คนหนึ่งตะโกนทะลุเข้าโสตประสาททำให้กันที่กำลังเดินงุ่นง่านหาคณะของตัวเองต้องหูผึ่งพร้อมมองรอบๆตัวเพื่อหาต้นเสียง
“ทรโข่งก็มี ทำไมเธอไม่ใช้ล่ะยัยเอ้ก - - แหกปากอยู่ได้“ พี่สาวหน้าสวยอีกคนเดินมาเอ็ดเพื่อนตัวเองเบาๆ
“ก็แหม แบบนี้มันสนุกกว่านี่นา><! ..อ๊ะ! น้องคนนั้นอยู่คณะเศรษฐศาสตร์รึเปล่าจ๊ะ ^ ^ ?”เธอหันไปเถียงเพื่อนก่อนสายตาจะมาสะดุดที่คนตัวเล็กที่ด้อมๆมองๆอยู่ใกล้ๆซุ้มรับน้องใหม่ของคณะเศรษฐศาสตร์ กันสะดุ้งเล็กน้อยเนื่องจากเผลอจ้องรุ่นพี่คนลืมตัว ร่างบางหากแต่สูงโปร่งของรุ่นพี่คนนั้นเดินเข้ามาใกล้ๆพร้อมรอยยิ้มกว้างที่แต่งเติมคนใบหน้าหวาน
… สวยคร้าบบบ >O< !!!
“ว่าไงจ๊ะ ? อยู่คณะนี้รึเปล่า ^ ^”
“อะ…เอ่อ ฮะๆ อยู่คณะนี้ครับ -/////-“คนตาหวานตอบตะกุกตะกักเพราะโดนดวงตาคู่สวยของหญิงสาวรุ่นพี่(ที่ตัวสูงกว่า)จ้องซะรู้สึกเขิน เธอหัวเราะน้อยๆให้กับท่าทางน่ารักๆนั่นก่อนจะถือวิสาสะดึงมือของรุ่นน้องให้เดินตามเข้ามาในซุ้มทันที
“เอ้าๆ อย่าอู้สิ น้องมาแล้วเนี่ยเห็นมั้ย”เอ้กหันไปกระตุ้นกลุ่มเพื่อนผู้ชายสี่ห้าคนที่มีหน้าที่เช็คชื่อและเขียนป้ายชื่อให้น้องปีหนึ่งอย่างหัวเสีย แต่มือขาวของเธอก็ยังไม่ละออกจากข้อมือสีน้ำผึ้งของอีกคน
… พี่ฮะ น้องกันเขิน >/////////<
“จ้าๆ เธอนี่น่าจะไปเป็นแม่แทนเป็นหัวหน้าคณะนะ สั่งจริง = =”รุ่นพี่ผู้ชายตัวสูงหน้าตาดูดีลุกจากเก้าอี้ก่อนเดินเข้าประจำที่ ตามด้วยพี่ผู้ชายอีกสามคนก็เริ่มขยับตัวทำหน้าที่ของตัวเอง เหลือเพียงผู้ชายร่างสูงใบหน้าคมที่นั่งนิ่งไม่สนใจเสียงบ่นของเอ้กเลยสักนิด
“โตโน่ - - ลุกได้แล้ว!”
“คนมีตั้งเยอะตั้งแยะ พวกไอ้ไนท์ก็ทำอยู่จะมายุ่งอะไรกับฉันไม่ทราบ?”ไอ้หนุ่มโตโน่ปรายตาตี่ๆมองเพื่อนสาวด้วยความรำคาญก่อนจะคว้าสายหูฟังเสียบเข้ารูหูเพื่อตัดขาดจากโลกภายนอก กันยืนมองการกระทำนั่นอย่างงงๆแต่ก็อดหมั้นไส้ไม่ได้ -*-
แต่ที่สำคัญตอนนี้คือ … อุณหภูมิของคนที่ยืนอยู่ข้างๆนี่มัน…
ร้อนสาดๆเลยคร้าบบบ TOT!!
“โตโน่….”เอ้กเค้นเสียงรอดไรฟัน หากแต่ชายหนุ่มอีกคนยังนั่งนิ่งไม่แยแส
“ไอ้โตโน่….”คำสรรพนามเริ่มหยาบไปพร้อมๆกับอารมณ์ของผู้พูดที่เริ่มเดือด แต่ถึงอย่างนั้นโตโน่ก็ยังนั่งฟังเพลงสบายอุราไม่แคร์สถานการณ์และยมบาลที่กำลังจะมารับตัวเขาในอีกไม่ช้าเลยแม้แต่น้อย - -;;
“ไอ้บ้าโตโน่!!!! ทำไมนายชอบทำให้ฉันตบะแตกนักหา!!!!”คำด่าออกจากริมฝีปากสีหวาน ส่วนมือนุ่มก็ปล่อยมือกันทิ้งลงข้างตัวตามด้วยร่างบางทั้งร่างถลาเข้าไปกระชากข้อเสื้อไอ้หน้าตี๋ที่กำลังนั่งฟังเพลงอย่างคนสติแตก
… เมื่อกี้พี่สาวเป็นนางฟ้าไม่ใช่เหรอ?
ทำไมตอนนี้โคตรนางมารเลยวะครับ T____T ???
“บอกให้ไปทำงานได้ยินมั้ย!!! มือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำ! แล้วก็ไม่ต้องเป็นพวกชอบแกว่งเท้าหาเสี้ยน ไม่งั้นฉันจะตัดคะแนนกิจกรรมนายซะ!!!!!”เธอขย้ำคอเสื้อนักศึกษาของเพื่อนแน่น ปากก็ตะคอกใส่หน้าร่างสูงอย่างไม่รู้จักกลัว อาจจะเพราะความสูงที่ไล่เลี่ยกันบวกกับตำแหน่งหัวหน้าคณะที่ตัวเองดำรงอยู่ทำให้เธอกล้าที่จะมีเรื่องกับโตโน่แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายส่วนเธอจะเป็นผู้หญิง = =^
“โอ๊ยๆ! แค็กๆ … ปล่อยก่อนได้มั้ยยัยบ้า! ถ้าฉันตายไปเธอจะว่ายังไงหา!!!”มือใหญ่พยายามปัดป้องสองมือของเพื่อนสาวให้ออกห่าง ทั้งที่เขาเป็นผู้ชายแต่ดูเหมือนศึกครั้งนี้คนตบะแตกจะชนะขาด เพราะเอ้กทั้งขย้ำทั้งเขย่าจนร่างทั้งร่างสั่นหงึกๆอยู่บนเก้าอี้อย่างน่าสมเพช
สม :’P!
“เอาอีกแล้ว - - เฮ้ออ.. น้องๆ มานี่ดีกว่า ปล่อยพวกมันไปเถอะ อย่าสนใจเลย”รุ่นพี่ผู้ชายผิวขาวหน้าหล่อคนหนึ่งเดินเข้ามาบ่นใกล้ๆกับกัน ก่อนจะเรียกให้เขาเดินตามไปยังซุ้มข้างๆที่มีโต๊ะตัวยาววางเรียงกันอยู่ และมีหญิงชายในชุดนักศึกษาที่กันคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนร่วมคณะของเขาต่อแถวกันลงชื่อและรอรับป้ายชื่ออยู่ตามโต๊ะ
“น้องชื่ออะไรครับ?”พี่ที่มีป้ายห้อยคอเขียนไว้ว่า ‘ P’ รุจ’ เอ่ยถาม
“ชื่อนภัทรฮะ”เสียงหวานตอบพลางเขย่งปลายเท้า(เนื่องจากตี้ย)ขึ้นมองใบรายชื่อที่รุจถืออยู่ในมือด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“อะๆ ไม่ต้องพยายามขนาดนั้นก็ได้ ฮ่าๆๆๆ นี่ไงชื่อเรา นภัทร…อินใจเอื้อใช่มั้ย?” รุจว่าเจือหัวเราะ ร่างสูงย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็นให้กับรุ่นน้อง นิ้วเรียวชี้ลงไปที่กระดาษตรงที่มีชื่อของกันปรากฏอยู่
“ใช่ฮะ ^ ^”ร่างเล็กตอบรับด้วยรอยยิ้ม รุจเหยียดยิ้มบางตอบรับก่อนจะจรดปากกาเพื่อเช็คชื่อให้กัน
“เดินไปหาพี่คนนั้นนะ เดี๋ยวมันจะทำป้ายชื่อให้”รุจบอกแล้วชี้ไปที่ผู้ชายอีกคนที่ตัวสูงรูปร่างสมส่วนที่ยืนก้มๆเงยๆอยู่กับโต๊ะโดยมีรุ่นน้องสามสี่คนยืนรอป้ายชื่ออยู่ใกล้ๆ
.”คร้าบบบ” กันตอบเสียงใสก่อนจะผละออกมาตรงไปที่ที่มีพี่ผู้ชายอีกคนนั่งประจำอยู่
“นี่คร้าบบบ ^ ^ เสร็จแล้วไปนั่งรวมกับเพื่อนๆเลยนะครับผม”พี่ที่มีป้ายห้อยคอเขียนว่า ‘ P’ ดิว ‘ บอกรุ่นน้องเสียงสดใสพลางส่งป้ายชื่อในมือให้ เรียกเสียงกรี๊ดและอาการเขินเล็กๆให้กับรุ่นน้องผู้หญิงเจ้าของป้ายชื่อใบนั้นได้เป็นอย่างดี
พี่คนนี้รึเปล่าหว่า -0-?
“น้องๆ มาทำป้ายชื่อเร็ว เดี๋ยวคนอื่นเค้าไปก่อนไม่รอน้า~”รุ่นพี่อารมณ์ดีร้องเรียกคนตัวเล็กที่ยืนเฉยให้เดินเข้ามาหา ซึ่งเจ้าตัวก็ทำตามคำเรียกอย่างง่ายดาย ดิวเริ่มควานหาแผ่นกระดาษแข็งร้อยเชือกที่เขาเตรียมไว้ ส่วนมืออีกข้างก็จับปากกาเตรียมทำหน้าที่
“ชื่ออะไรครับ ^ ^”คำถามที่ดูสุภาพจากคนพูดที่ดูจะยิ้มง่ายกว่าใครเพื่อนทำให้กันเริ่มใจชื้นขึ้นมาบ้าง ดวงตากลมมองแผ่นกระดาษที่จ่ออยู่ตรงหน้าก่อนริมฝีปากบางจะค่อยๆเอ่ยบอก
“ชื่อน้องกันฮะ”คำเรียกแทนตัวเองตามความเคยชินทำให้ดิวที่นั่งรอคำตอบถึงกับเผลอหัวเราะเบาๆออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
…ฮะๆ หายากนะเนี่ย~ เด็กมหาลัยที่แทนตัวเองด้วยคำว่า ‘น้อง’
อืม~ ไอ้หมอนี่มันน่ารักแฮะ! ฮ่าๆๆๆ
“น้อง…กัน… นี่ครับ ไปนั่งรวมเลยนะครับน้องกัน ^_______^ “ดิวว่าแต่ดูเหมือนเจ้าตัวคนพูดจะเน้นคำว่า ‘น้องกัน’ จริงจังจน ‘น้องกัน’ตัวจริงถึงกับต้องยิ้มแหยๆเมื่อสำนึกได้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป - -;; ป้ายห้อยคอกระดาษแข็งถูกคนทำเอื้อมตัวขึ้นมาคล้องคอให้คนตัวเล็กอย่างถือวิสาสะ รอยยิ้มพรายปรากฏบนใบหน้าใสของรุ่นพี่ด้วยความพึงพอใจ แต่ก่อนที่กันจะได้เอ่ยอะไรเขาก็เร่งให้รุ่นน้องคนนี้เดินไปรวมเร็วๆซะแบบนั้น = =^
กันพยักหน้ารับก่อนสาวเท้าเดินไปอีกยังลานที่มีผู้คนชายหญิงนั่งรวมตัวกันอยู่จำนวนมาก ทั้งที่คิดว่าตัวเองมาเช้าแล้ว - - แต่ดูเหมือนคนอื่นๆจะมาเร็วกว่าเขาเสียอีก คนเกือบครึ่งร้อยนั่งต่อแถวกันโดยแยกเป็นห้าแถว และแต่ละแถวก็ยาวเหยียดจนกันคิดว่าถ้ารุ่นพี่เสียงไม่ดังพอเขาคงไม่เป็นอันได้ยินอะไรแน่ๆ = =
ฟุบ
ร่างเล็กทรุดตัวนั่งลงต่อท้ายแถวที่สั้นที่สุด เพื่อนร่วมคณะที่นั่งอยู่บริเวณใกล้ๆหันมามองเขาเป็นตาเดียวอย่างกับไม่เคยเห็นคนยังไงยังงั้น - -^
แต่คนตาหวานหาแคร์ไม่ ~ ยังคงนั่งนิ่งไม่สนใจสายตาที่จ้องปานจะถลกหนังหัวนั่นเลยสักนิด - -
“ไปยืนล้อมน้องไว้เลยนะ! แล้วถ้านายคิดจะหนีเหมือนปีที่แล้วล่ะก็..ฉันจะเขียนใบรายงานพฤติกรรมแล้วส่งให้อาจารย์!!!”เสียงแหลมออกแนวหวานของเอ้กดังมาจากทางด้านซุ้ม ตามด้วยร่างเจ้าหล่อนเดินเข้ามาใกล้บริเวณลาน มือขวาสีขาวนั่นทำการบิดหูเจ้าหนุ่มหน้าตี๋เพื่อลากให้เจ้าตัวแสบประจำคณะเดินตามมาแต่โดยดี
สมน้ำหน้า :’P
“โอ๊ยยยย! เออๆ บอกดีๆก็ได้นี่หว่า ไม่เห็นต้องใช้กำลังเลย … เจ็บนะเนี่ย อูย = =;;”โตโน่ว่าพลางลูบหูที่แดงเถือกของตัวเองไปพลาง ใบหน้าคมง้ำงอด้วยความเจ็บ ปากก็บ่นนู่นนี่นั่นไปเรื่อยๆจนเรียกสายตาเชือดเฉือนจากเพื่อนสาวได้เป็นอย่างดี พ่อหนุ่มหน้าตี๋จึงเป็นต้องรีบพาชีวิตตัวเองหนีเงื้อมมือมารโดยเดินมาประจำที่หลังแถวมันซะเลย -*-!
“ยัยซาดิสต์เอ๊ย ! บิดมาได้ หูคนนะไม่ใช่มอไซต์ จะได้บิดเอาบิดเอา - -+ !!”เสียงเข้มบ่นกระปอดกระแปดกับตัวเอง แต่คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ใกล้เขาที่สุดกลับได้ยินมันชัดเจน ดวงตาหวานเงยขึ้นมองเจ้าของร่างสูง ใบหน้าตี๋ จมูกโด่งสัน ริมฝีปากบางเฉียบ นัยต์ตามีเสน่ห์ ทรงผมยุ่งๆสีน้ำตาลเข้มนั่นด้วยหางตา
ชิ้งงง~!
( - -) >>> <<< (- -+ )
“มองอะไรของนาย!? มีหน้าที่ฟังก็ฟังไปสิวะ ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมา!”คนตัวสูงดูเจ้าอารมณ์ตะคอกใส่หน้ารุ่นน้องร่วมคณะจนกันสะดุ้งเฮือกรีบเบลนสายตากลับมามองไปทางด้านหน้าที่มีพี่เอ้กยืนอยู่อย่างรวดเร็ว
ไอ้พี่โหด =[]=!
“หงุดหงิดว่ะ! ฮึ่ย!!”โตโน่สบถอุบ ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นขยี้หัวตัวเองอย่างแรงเหมือนคนมืดแปดด้าน การกระทำที่ดูจะไร้สมองที่อยู่ภายใต้การสอดส่องของกันตลอดเวลา
บ้าไปแล้วรึไง - 0 - ???
“เอาล่ะ น้องๆคงจะเคยได้ยินคำว่า ‘พี่น้องรหัส’ ใช่มั้ย? ที่คณะของเราก็มีเหมือนกันจ๊ะ ^ ^ และพวกเธอก็จะได้พี่รหัสในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แหละ”เสียงของเอ้กที่กำลังพูดเรื่องพี่น้องรหัสทำให้นักศึกษาปีหนึ่งทุกคนที่กำลังนั่งคุยนั่นเล่นนี่ต้องรีบหันไปสนใจเธอ รวมถึงร่างเล็กที่กำลังนั่งจ้องโตโน่นี่ก็ด้วย - -‘
“อันที่จริงก็อยากจะอธิบายให้พวกเธอฟังนะว่าพี่รหัสจำเป็นต่อพวกเธอยังไง แต่เนื่องจากว่าพวกเราต้องรีบไปที่ห้องประชุมเพราะใกล้ถึงเวลาที่ลงทะเบียนไว้แล้ว เพราะฉะนั้นเอาไว้ให้พี่รหัสของเธออธิบายให้ฟังก็แล้วกันนะ ^-^
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ขอให้ทุกคนยืนขึ้นแล้วเดินมาจับกระดาษจากกล่องนี้ไปคนละใบ หลังจากนั้นถ้าพี่ให้สัญญาณก็เปิดออกดู พวกเธอจะเห็นชื่อของพี่หรัสอยู่ในนั้นนะจ๊ะ … เอ้า เรามีเวลาสิบห้านาที ถ้าได้ยินเสียงนกหวีดหมดเวลาให้รีบมานั่งรวมเหมือนเดิม ..ภายในสิบห้านาทีใครที่ยังหาพี่รหัสไม่เจอก็ตัวใครตัวมันแล้วกันนะจ๊ะ ^______^”คำอธิบายหยาวเหยียดถูกปิดท้ายด้วยรอยยิ้มกว้าง รุ่นน้องทุกคนลุกขึ้นยืนกันพรึบพรับอย่างกระตือรือร้น ดิวที่เป็นคนถือกล่องสลากเดินไล่ไปทีละแถวๆ มือแล้วมือเล่าล้วงเข้าไปในกล่องสีทึบด้วยหัวใจระทึก บางคนนี่ถึงกับเหงื่อแตกพลักเลยทีเดียว = =;;
“จับเลยครับน้องกัน ^ ^” ในที่สุดรุ่นพี่อารมณ์ดีก็เดินมาถึงแถวเขาซึ่งเป็นแถวสุดท้าย และดูเหมือนว่าเขาเองก็เป็นคนเกือบๆสุดท้ายแล้วเช่นกัน มือเล็กสีน้ำผึ้งล้วงลงไปยังรูที่เจาะไว้ ในใจก็ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยดลบันดาลให้ตัวเองได้พี่รหัสดีๆ ~
อย่างไอ้พี่โตโน่นั่นน้องกันไม่เอา !! -3-
“จับกันครบแล้วใช่มั้ย? … โอเค! เปิดได้!!!”สิ้นคำสัญญาณ ปีหนึ่งทุกคนก็รีบแกะแผ่นกระดาษที่เย็บด้วยแม็กออกกันที …
“ว้าย! ฉันได้พี่รุจแหละแก><”เสียงแหลมเล็กกรีดร้องด้วยความดีใจ - -
“ฉันก็ได้พี่ดิวเหมือนกัน >o<!”เสียงหวานใสตะเบ่งอย่างไม่ยอมแพ้ - -;
“เฮ้ย! กูได้พี่เอ้กว่ะ *O* !!”เสียงทุ้มร้องด้วยความยินดี = =
“กูได้พี่ต้นว่ะ -0- “เสียงเนือยๆเอ่ยด้วยความเบื่อหน่าย = =^
“ฉันได้พี่ฟลุ๊ค! อ๊ายยยยยยยยยยยยย>O<!!”เสียงแปดหลอดของชายใจหญิงที่กรี๊ดลั่นพร้อมทำท่าทางประกอบ = =;;
และเสียงระงมงึมงำก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะนึกศึกษาปีหนึ่งคณะเศรษฐศาสตร์เริ่มวิ่งวุ่นตามหาหัวของพี่รหัสที่ตัวเองจับได้กันให้ว่อง
…ถึงเสียงส่วนใหญ่ดูเหมือนจะยินดีกับพี่รหัสของตัวเอง …
แต่เขานี่สิ …
ทำไม?
ทำไม??
ทำไม???
ทำไมต้องเป็นไอ้พี่โตโน่คนโก้จอมหัวเสียด้วยวะครับพระเจ้า !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
น้องกันอยากตายยยยย T____________T !!!
“อย่าบอกนะว่านายเป็นน้องรหัสฉัน?”เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลังทำให้คนที่กำลังยืนปลงกับชีวิตสะดุ้ง เมื่อหันไปมองก็เห็นดวงตาคมกำลังจ้องมองดูแผ่นกระดาษใบเล็กในมือเขาอย่างหงุดหงิด(สุดๆ)
“เอ่อ…”
“บัดซบจริง - - “คำสบถที่เป็นปกติของคนพูดแต่มันกลับดูรุนแรงสำหรับคนได้ยิน
คนตัวเล็กผู้มีขีดความอดทนเป็นศูนย์จึงไม่อาจทนได้อีกต่อไป!
“นั่นปากเหรอฮะ!? จะพูดกับคนอื่นน่ะพูดให้มันดีๆหน่อย ยิ่งพี่เป็นรุ่นพี่และเป็นพี่รหัสของกันด้วยแล้วพี่ควรจะเป็นตัวอย่างให้รุ่นน้องเซ่! ไม่ใช่มาอารมณ์เสียต่อหน้าคนอื่นแบบนี้!!”คำบ่นที่คล้ายคำด่าถูกคนตัวเล็กตะคอกใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างตาต่อตาฟันต่อฟัน กลีบปากสีสดที่กำลังมีประโยคเสียดแทงพรั่งพรูออกมายังคงขยับแม็บๆๆแบบไม่กลัวฟ้าดิน ขณะที่คิ้วของรุ่นพี่หน้าตี๋เริ่มขมวดเข้าหากันทุกทีๆ
จนตอนนี้มันกลายเป็นโบประดับบนใบหน้าหล่อเหลา - -
“ชิส์! คิดว่ากันอยากได้พี่เป็นพี่รหัสรึไง!? คนอะไรนอกจากจะขี้เกียจแล้วยังปากเสียอีก…”
“นาย… ว่าใคร?”โตโน่เอ่ยขัดเจ้าคนอารมณ์ร้อนที่ยังบ่นไม่หยุดปากด้วยเสียงในลำคอ ทำให้เสียงหวานที่กำลังพ่นน้ำลายแตกฟองต้องเงียบกริบ ตากลมช้อนขึ้นมองใบหน้าคมเข้มของคนที่ตัวสูงกว่าก่อนจะกลืนน้ำลายลงเสียงคอเสียงดัง ‘เอือก’
“คะ…คือว่า…”
“นายบอกว่าฉันปากเสียงั้นเหรอ?”หนึ่งปากว่าสองเท้าก้าวเดิน เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมเจ้าของร่างเข้าประชิดร่างของอีกคนอย่างรวดเร็วจนคนตัวเล็กกว่าตกใจเผลอก้าวถอยหลังหนี
“ง่า กันแค่…”
“นายไม่อยากเป็นน้องรหัสของฉันใช่มั้ย?”
“แบบว่า….”
“ถ้านายคิดว่านายเป็นคนความอดทนต่ำล่ะก็…ฉันน่ะความอดทนต่ำกว่านายสามเท่า!!!”เสียงทุ้มคะตอกพร้อมฝ่ามือใหญ่จับหมับเข้าที่ไหล่เล็กของคนตรงข้าม ใบหน้าคมคายแสดงอาการหงุดหงิดขั้นสูงสุด ขณะที่แรงจากฝ่ามือก็เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“อ๊ะ!”เสียงหวานอุทาน ใบหน้าเรียวเหยเกเพราะความเจ็บ แต่ก่อนที่คนตัวสูงจะรังแกอะไรอีกคนมากไปกว่านี้ เสียงตะหวาดก็ดังมาจากด้านหลังเสียก่อน
พลัก!
“โตโน่!! นายแกล้งอะไรน้อง!!!!”ร่างสูงสมส่วนถูกผลักกระเด็นจนเจ้าตัวเกือบเซล้ม เอ้กวิ่งเข้าแทรกระหว่างกันกับโตโน่ด้วยความโมโห ดวงตาหวานตวัดมองเพื่อนร่วมคณะอย่างโกรธๆ
“นายเป็นบ้าไปแล้วรึไง!!! จะทำอะไรน่ะคิดก่อนได้มั้ย! น้องเค้าเพิ่งเข้ามา เค้าไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นคนยังไง ใจเย็นๆก่อนสิ!”เธอตะหวาดเสียงกร้าวอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ สถานการณ์รอบข้างมีแต่คนปิดปากเงียบไม่กล้าแม้แต่จะเข้ามาห้าม คณะอื่นๆที่เคยส่งเสียงเอะอะก็เงียบกริบ มีเพียงตัวต้นเหตุเท่านั้นที่แค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
“หึๆ งั้นก็ขอโทษที …แต่คราวหน้าเธอก็ช่วยสอนน้องดีๆหน่อยล่ะกัน”โตโน่ว่าพลางยักคิ้วส่งให้ก่อนจะเดินฝ่าวงล้อมของผู้คนออกไปอย่างเงียบๆ หญิงสาวมองตามเพื่อนชายของตัวเองแล้วก็ต้องฮึดฮัดอย่างหงุดหงิดอีกครั้ง
ไอ้ตี๋บ้า… แกจะสร้างปัญหาให้ฉันทุกๆปีเลยใช่มั้ย!?
ฮึ่ย! ทำไมปีก่อนเธอไม่เตะหมอนี่ออกนอกคณะไปเลยเนี่ย!?
“น้อง..เป็นอะไรของเปล่า?”สบถพรืดกับตัวเองได้ไม่ทันไรก็สำนึกได้ว่าคนถูกกระทำยังยืนอยู่ข้างหลัง เอ้กเอี้ยวตัวกลับมาดูกันด้วยความเป็นห่วง เช่นเดียวกับดิวที่เดินเข้ามายืนใกล้ๆร่างของรุ่นน้อง
“ไม่.. ไม่เป็นไรฮะ”เสียงหวานแหบพร่าตอบกลับ นัยน์ตาคู่โตที่มักจะฉายประกายซุกซนและไม่ยอมใครตอนนี้กลับสั่นระริกเป็นนัยเหมือนร่างทั้งร่างที่เหมือนจะล้มทั้งยืน
เมื่อกี้… เขากลัวงั้นเหรอ?
เขา.. กลัวไอ้พี่โตโน่นั่นน่ะนะ!?
แล้วทำไมเขาต้องกลัวด้วยเล่า!!!
“พี่ขอโทษแทนมันด้วยนะ มันเป็นพวกจุดเดือดต่ำน่ะ น้องก็อย่าไปสะกิดต่อมตบะของมันมากแล้วกันนะจ๊ะ เพราะหมอนั่นน่ะสติแตกง่ายอย่างกับคนเป็นโรคประสาท”
“ฮะๆ ไม่ต้องกลัวหรอก เดี๋ยวนานๆไปหมอนั่นก็จะดีกับนายเอง”เสียงมาพร้อมกับมืออุ่นๆลูบกลุ่มผมนุ่มของคนด้านข้างไปตาตบท้ายด้วยการจับศีรษะร่างเล็กโคลงเล่นอย่างสนุกมือ ส่วนคนเป็นน้องก็พยักหน้ารับ
จะดีกับเขา?
เห็นทีแบบนี้ไอ้พี่ตี๋คงได้ฆ่าเขาตายก่อนเรียนจบแน่ๆ
พระเจ้านี่….ชักจะเล่นแรงเกินไปแล้ว - -^
เดี๋ยวไอ้เด็กหื่น เดี๋ยวไอ้พี่วอก เดี๋ยวไอ้เมะเตี้ย…
ตอนนี้ยังอุตส่าห์บันดลไอ้พี่เจ้าอารมณ์มาเป็นของแถมให้อีก!
แล้วคนต่อไปมันจะเป็นยังไงวะครับพระเจ้า!!!!!????
- - - - - - - - - - - - Ice & Gun - - - - - - - - - - - -
“นี่เป็นแผนผังมหาลัยของเรานะ เห็นตรงที่เม้าส์ชี้มั้ยจ๊ะ นั่นน่ะคือโรงอาหารขนาดใหญ่ มีอาหารอร่อยๆหลายเมนูเลย ไว้ค่อยลองไปชิมกันเอาเองเนอะ ส่วนนี่ก็โรงยิม…” และบลาๆๆๆ - -^
ไฟทุกดวงในห้องประชุมขนาดย่อมถูกปิดไว้ไม่ได้ใช้งาน มีเพียงแสงสว่างจากจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้า โดยมีหญิงสาวหน้าหวานนั่งประจำอยู่หน้าโน้ตบุ๊คค่อยชี้จุดต่างๆเพื่ออธิบายให้รุ่นน้องฟัง
ห้องประชุมนี้เป็นห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก พอจะสามารถรองรับนักศึกษาได้ไม่เกินสามร้อยคน ระดับของพื้นอยู่ในระนาบเดียวกันทั้งห้อง มีเก้าอี้เลคเชอร์จัดวางอยู่กลางห้องเป็นแนวนอนแถวละสิบตัวซึ่งตอนนี้ถูกนักศึกษาปีหนึ่งคณะเศษรฐศาสตร์จับจองกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ส่วนเรื่องการเรียน พี่ก็ไม่ขอพูดอะไรมากเพราะพี่คิดการที่ทุกคนมาได้ถึงตรงนี้นั้นก็แปลว่าพวกเธอมีความสามารถพอตัว ที่เหลือก็เพียงแค่ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดแล้วกันนะจ๊ะ ^^”เอ้กเอ่ยผ่านไมค์เป็นเสียงดังกังวานทั่วทั้งห้อง พวกแถวหน้าเหมือนจะตั้งใจฟังอย่างสนอกสนใจ แต่ใครจะรู้ว่าคนที่อยู่แถวหลังน่ะมันไม่สะดวกเอาเสียเลย = =
เพราะเขาดันเข้ามาเป็นคนเกือบๆสุดท้ายทำให้ที่นั่งข้างหน้าถูกแย่งหมดซะก่อน ส่วนตัวเองก็เสือกซวยเกิดมาสายตาสั้น และเผอิญว่าวันนี้เขาเจือกเกิดอาการเลอะเลือนลืมหยิบแว่นมาด้วยซะแบบนั้น - -^ ไหนจะนับรวมไอ้เพื่อนร่วมคณะเพศผู้ที่ตัวสูงโย่งแต่สะเออะนั่งอยู่ด้านหน้าเขาเล่นเอาบังจอจนแทบมิด!
แบบนี้ใครมันจะไปรู้เรื่องวะ!!!???
“นี่.. ไอ้นั่นมันคืออะไรอะ?”เสียงหวานกระซิบแผ่วพร้อมกับมือน้อยๆสะกิดที่หัวไหล่ของคนข้างๆยิกๆ ทำให้ใบหน้าขาวท่ามกลางความมืดสลัวละจากจอด้านหน้าหันมาเหล่มองคนตัวเล็ด้วยหางตา
“แหะๆ คือฉันมองไม่เห็น มัน..ไกลไป - -;; “กันว่าเสียงเบาๆพลางหันไปสบกับสบตากับอีกคน เจ้าของดวงตาคู่สวยจ้องใบหน้าหวานอยู่นาน .. นานจนร่างเล็กสงสัยว่าจะจ้องกูทำไมนักหนา?
“นาย.. เป็นอะไรรึเปล่า -0-?”
“…”ไร้เสียงตอบรับ แต่คนถูกถามกลับเบือนใบหน้าหนีโดยไม่ปริปากตอบอะไรสักคำ
หมอนี่เป็นใบ้เหรอ?
“ -O-??? อืม~ ฉันชื่อกัน นายชื่ออะไร ^O^ “ถึงจะไม่รู้ว่าหมอนี่เป็นใบ้จริงมั้ยก็เหอะ แต่ก็ขอสร้างสัมพันธไมตรีเอาไว้ซะก่อน เพราะตั้งแต่ตอนเช้ามานี่เขายังไม่ได้คุยกับเพื่อนร่วมคณะเลยสักคน
“…”
“อ่า… อ๋อ นายก็ชื่อเซนสินะ ^ ^ ”เจ้าตัวชะโงกหน้าไปมองป้ายชื่อของคนด้านข้างอย่างไม่สนใจสายตาคมที่เหล่มองเป็นระยะๆ ป้ายห้อยคอที่เขียนว่า ‘N’เซน’ ทำให้กันพยักหน้าหงึกๆกับตัวเอง
“อื้อ~.. เซนเป็นเพื่อนกับกันมั้ย ^ ^?”คำสรรพนามแทนตัวเองและคำนามแทนอีกฝ่ายถูกเปลี่ยนทันทีที่รู้ชื่อของอีกคน เสียงหวานกระซิบอย่างอารมณ์ดี หากแต่คำถามที่ถามไปก็ยังคงไร้เสียงตอบรับเช่นเดิม - -
หรือมันจะเป็นใบ้จริงๆ?
“…”
“โอเค~ ต่อไปนี้กันกับเซนเราเป็นเพื่อนกันนะ ^_______^”คนตัวเล็กพูดเองออเองโดยพละการไม่สนใจอาการเย็นชาของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย คนตัวสูงเหล่มองการกระทำนั่นด้วยใบหน้าไร้อารมณ์คล้ายจะไม่สนใจทั้งๆที่ได้ยินเต็มสองรูหู
แต่มันก็น่าแปลกที่อาการเหมือนคนใบ้ของเซนไม่ได้ทำให้ร่างเล็กรู้สึกหงุดหงิดเหมือนคนอื่นๆแม้แต่น้อย นอกจากนั้นดูเหมือนจะทำให้คนตาหวานรู้สึกสนุกสนานอย่างแปลกๆที่ได้พูดเองเออเองคนเดียว(?)อีกด้วย
“เอาล่ะ มีใครจะถามอะไรมั้ยจ๊ะ?”เสียงเอ้กดังขึ้นทำให้กันหันมาสนใจสิ่งรอบข้างต่อ(ทั้งๆที่ไม่ได้ฟังมาตั้งแต่ต้น - -;) นึกศึกษาครึ่งร้อยนั่งเงียบกริบรอคอยเวลาอิสระเต็มแก่ เช่นเดียวกับเอ้กที่รู้สึกดีใจที่ไม่มีใครถามจะได้รีบปล่อยรีบไปพักสักที = =’
“โอเคจ่ะ งั้นวันนี้คาบเช้ายังไม่มีเรียนนะเพราะอาจารย์ประจำวิชาปล่อยฟรีสไตล์ให้พวกเธอคุ้นชินกับมหาลัย ส่วนการเรียนคาบต่อๆไปก็ดูที่ตารางเรียนเองแล้วกันนะ .. เอาล่ะ ทุกคนไปพักได้ ขอให้โชคดีกับการเรียนในรั้วมหาลัยนะจ๊ะ ^ ^”จบประโยค รุ่นน้องปีหนึ่งทุกคนก็ลุกพรึบขึ้นพร้อมกันก่อนจะทยอยเดินออกจากห้องประชุมทีละคนสองคน
ฟึบ!
“อะ..อ่าว -0-! รอด้วยสิ~!”คนตัวสูงข้างกายลุกพรวดก่อนเดินจ้ำอ้าวไปทางประตูอย่างรวดเร็วโดยไม่รอเพื่อนใหม่(ที่ไม่ได้อยากให้เป็น)ไปโดยไม่สนใจ ลำบากถึงคนตัวเล็กต้องรีบวิ่งตามเพราะกลัวจะคลาดกับเพื่อนใหม่(ที่ถูกเจ้าตัวยัดเยียดให้เป็น)เสียก่อน
หมับ!
“เซนไม่รอกันอะ!”น้ำเสียงง้องแง้งมาพร้อมฝ่ามือเล็กคว้าเข้าที่ไหล่ของคนตัวสูงกว่า ดวงตาคมตวัดมองคนตัวเล็กที่ยืนค้ำไหล่เขาอยู่ด้วยแววตาไร้อารมณ์ก่อนจะสาวเท้าเดินนำโดยไม่พูดอะไรสักคำ
สงสัยที่น้องกันคิดว่าหมอนี่เป็นใบ้เห็นจะเป็นเรื่องจริง - -
“เฮ้อ~ มนุษย์สัมพันธ์แย่ชะมัดเลยแฮะ”เจ้าตัวบ่นกับตัวเองแต่ก็ยอมก้าวเท้าเดินตามร่างของเซนที่เดินตรงไปยังโรงอาหารโดยไม่นึกหงุดหงิดเลยแม้แต่น้อย
เพราะอะไรกันล่ะนี่?
“เซน -0- นี่ไม่คิดจะพูดอะไรจริงๆเหรอ?”เมื่อสามารถเดินขึ้นมาประกบข้างอีกฝ่ายได้ ริมฝีปากบางก็เริ่มขยับแม็บๆอีกครั้ง
ใบหน้าเรียบนิ่งมองคนตัวเล็กข้างๆเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะเดินไปต่อแถวเพื่อรอซื้ออาหาร คนจอมเซ้าซี้เบะปากอย่างงอนๆ แต่สามวิต่อมาก็กลับมายิ้มพรายอีกครั้ง
“จะกินอะไรอะ สั่งให้กันด้วยสิ ^^”ความพยายามที่จะสร้างมนุษย์สัมพันธ์อันดียังเป็นเลิศ นอกจากจะพูดเสียงแจ้วๆอยู่ข้างๆหู มือไม้ยังไม่อยู่สุขสะกิดไปเรื่อย - -;;
“…”
ฟึบ
“เดี๋ยวดิ! ง่า -0- ทำไมเย็นชางี้วะ -3-“เซนหันหลังกลับจะเดินผละหนี แต่ก้าวเท้าได้เพียงก้าวเดียว คนตัวเล็กกว่าก็ย้ายร่างเล็กๆของตัวเองมากันทางเขาไว้ซะแบบนั้น
ฟึบ
“จะไปไหนอะ? เซนไม่กินข้าวเหรอ?”ก้าวซ้ายก็แล้ว ก้าวขวาก็แล้ว ไปข้างหน้าก็แล้ว ถอยหลังก็แล้ว แต่ดูเหมือนคนปากมากยังไม่ยอมปล่อยเขาไปไหน ยังเดินมาบังหน้าเอาไว้หน้าตาเฉยทั้งๆที่เซนส่งสายตาเยือกเย็นไปให้จนจะสามารถแช่ร่างของกันให้แข็งได้อยู่แล้ว!
“นี่จะไม่พูดจริงๆน่ะ?”
“….ถอย” ประโยคสั้นๆและคำศัพท์คำแรกที่ดังออกมาจากคน(เหมือนจะ)เป็นใบ้ทำให้ร่างเล็กยิ้มกริ่ม แม้มันจะเป็นคำที่ไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่ก็เถอะ -*-
“อื้ม~! เซนก็ไม่ได้เป็นใบ้นี่นา ^ ^ ไปกินข้าวกันเถอะ”ยิ้มยิงฟันขาวใส่ก่อนมือเล็กจะฉวยข้อมือของคนตัวใหญ่กว่าให้เดินตาม หากแต่ร่างสูงกลับไม่ปฏิเสธ ใบหน้าใสยังเรียบเฉย จะมีก็แต่ดวงตาคู่แข็งที่ชักจะมีประกายหงุดหงิดเล็กๆเท่านั้น
“ร้านนี้เป็นไง น่าอร่อยดี~!”เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านขายข้าวขาหมูแล้วก็จัดการลากเพื่อน(ที่โดนบังคับ)ให้เดินตามมา
“เซนกินมั้ย?”ก็ยังดีที่มีจิตสำนึกหันมาถามความเห็นของอีกคนน่ะนะ - -;;
“…”ไร้เสียงตอบกลับ ดวงตาของคนตัวสูงกว่าหรี่ลงเล็กน้อยพลางจ้องมองคนตรงหน้าอย่างพิจารณา
…ใครอยากมีสัมพันธ์กับไอ้ตัวเล็กนี่กัน?
“เซนไม่กินเหรอ?”
…ปากมาก…
“ไม่กินไม่ได้นา~ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง-0- ..เอาเป็นว่าเอาข้าวขาหมูสองจานฮะ”พูดเองตัดสินเองโดยไม่ถามความเห็นของอีกฝ่าย(ตามเคย) - -^
…แล้วทำไมต้องมายุ่งกับเขาด้วย?
“งั้น… เซนยกจานข้าวไปนั่งรอกันที่โต๊ะนะ เดี๋ยวกันไปซื้อน้ำให้ ^-^”พ่อตาหวานผู้ชอบบงการชีวิตคนอื่นว่าจบก็เดินออกมาทันที ทิ้งให้ร่างสูงยืนตีหน้านิ่งอยู่หน้าร้านข้าวขาหมุ - -*
…เขาตกลงตอนไหนว่าจะเป็นเพื่อนกับหมอนี่?
…ขี้มั่ว…
“ก็ไม่ได้เป็นใบ้นี่หว่า -3-! แล้วทำไมชอบทำหน้าอย่างกับตายมาแล้วสามปีเศษแบบนั้นวะ? ไม่ได้ๆ งานนี้ต้องมีเคลียร์!”คนตัวเล็กที่เดินผละออกมาคนเดียวว่าอย่างมาดมั่น เพราะไอ้การที่มาเจอคนหน้าไร้อารมณ์และทำเมินเขาแบบนี้มันไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบเท่าไรนัก แต่ไม่รู้ทำไม ทั้งๆที่กับคนอื่นกันคงจะด่าสาดไปแล้ว แต่พอมาเจอเซน…
…ก็แค่อยากรู้ว่าคนใบ้เวลาตบะแตกมันจะเป็นยังไงแค่นั้นเอง~ ^ ^
TBC…
ความคิดเห็น