ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic]AF8 -| Dark Friend's เพื่อนรักเพื่อนเลว - เต๋าคชา.

    ลำดับตอนที่ #5 : SF เต๋าคชา - No Feel (in my feel.)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.72K
      4
      4 ต.ค. 54



    No Feel
    (in my feel)


    Story :: No Feel

    Couple :: Kao x Kacha

    Rate :: (?)

    Mode :: No Thing

    Writing :: ปั๊บไม่ใช่มนุษย์ 8?

    Note :: แค่ชื่อเรื่องก็ไม่น่าอ่านแล้วเนอะ .. แต่อ่านเถอะค่ะเพราะมันเป็น SF ที่เอาความรู้สึกเป็นหลัก (:

     

     

     

    มันอยากให้เธอกับเขาเลิกกัน

    ให้เธอเป็นของฉันให้เขาไม่เหลือใคร

    แต่ในโลกความจริงความคิดเลวเลวต้องเก็บไว้

    ปล่อยเธอจากไปทำได้แค่นี้

                (*คิดเลวทำดี เล้าโลม)

     

                เสียงเพลงท่วงทำนองเอกลักษณะของวงเล้าโลมดังจากปลายสมอลท็อกก้องโสตประสาทของผมอยู่ไม่ห่าง เพลงนี้ .. ไม่ได้ฟังมานานแค่ไหนแล้วนะ จำได้ว่าโหลดไว้ในโทรศัพท์ตั้งนานแล้วแต่ไม่เคยคิดจะเปิดฟังเพราะเนื้อเพลงไม่ตรงกับชีวิตกับเลยสักนิด

                แต่ตอนนี้มันกลับถูกผมขุดขึ้นมาฟังอีกครั้งด้วยอารมณ์ที่ตรงกับเพลง .. มากเกินไป

                ประโยคที่ร้อยเรียงออกมาเป็นเนื้อเพลงอาจจะดูรุนแรงในสายตาของใครบางคน ในขณะที่คนอีกจำพวกหนึ่งกลับคิดว่ามันช่างเหมาะสมกับสถานภาพของพวกเขาเหลือเกิน และผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

                ฟังดังขนาดนั้นไม่กลัวหูแตกรึไงกัน หูฟังถูกดึงจนหลุดจากหูของผมมาพร้อมกับร่างสูงของใครคนหนึ่งนั่งลงข้างๆพร้อมตีหน้าเข้มใส่ อะไรกัน คนกำลังดื่มด่ำกับเพลงแท้ๆ

                ก็เพลงมันเพราะดีนี่นา ผมตอบอ้อมแอ้ม ไม่กล้าเถียงอะไรมากเพราะเถียงกับเขาทีไรผมไม่เคยชนะเลยสักที

                เลิกฟังได้แล้ว กลับบ้าน พี่เต๋าสั่งแล้วฉุดให้ผมลุกขึ้นซึ่งผมก็ยอมทำตามแต่โดยดี ฝ่ามืออบอุ่นกุมมือผมไว้หลวมๆ ภายใต้ความอึดอัดใจผมกลับรู้สึกดีใจที่เขาจับมือผมไว้แบบนี้ แต่มันก็เป็นเพียงความคิดชั่ววูบเท่านั้นแหละนะ

                เรื่องเฟรมเป็นไงบ้าง พี่เต๋าถามด้วยเสียงไม่ใส่ใจเท่าไรนัก ผมไม่ได้ตอบอะไรแต่รับเอาหมวกกันน็อคมาสวมใส่แล้วขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซต์แทน ก่อนที่พี่เต๋าจะเริ่มออกรถ

                เรื่องเฟรมงั้นเหรอ เพื่อนร่วมรุ่นที่ผมรักข้างเดียวมาสองปีกว่า มันจะเป็นยังไงได้ล่ะ ก็คงเหมือนเดิมนั่นแหละ เฟรมรู้ว่าผมชอบ แต่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา เรื่องมันก็ซ้ำๆซากๆ จะถามไปทำไมกัน

                “…พี่ทะเลาะกับจอยอีกแล้ว เมื่อเห็นว่าไม่มีคำตอบอะไรจากผมในที่สุดร่างสูงที่กำลังคร่อมมอเตอร์ไซต์อยู่ก็เป็นฝ่ายเอ่ยปาก ประโยคเดิมๆที่ผมได้ยินจนเบื่อ แต่ต่อให้เบื่อแค่ไหนผมก็ทนที่จะฟังต่อไป ไม่ใช่ว่าอยากฟัง แต่เพราะเป็นเรื่องของพี่เต๋า ผมจึงต้องรับฟัง ..

                “ทำไมล่ะ

                มันงี่เง่า ชอบชวนพี่ทะเลาะ รู้ว่าพี่ไม่ชอบให้คุยกับคนอื่นก็ยังจะคุยน้ำเสียงของพี่เต๋าเล่นเอาผมชาไปทั้งร่าง แต่ก็ชินซะแล้วล่ะกับความรู้สึกแบบนี้ มันเป็นแบบนี้มานานแล้วตั้งแต่ตอนนั้น

    ตอนที่พี่เต๋าบอกว่าชอบผมทั้งๆที่คบอยู่กับจอย

    และตอนที่ผมบอกว่าชอบพี่เต๋าทั้งๆที่ยังรักเฟรม

    ผมไม่รู้หรอกว่าพวกเราทำผิดหรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมเดินกลับหลังไม่ได้แล้วล่ะ

    เพราะพี่เต๋ากำลังกัดกินพื้นที่ในหัวใจของผมมากขึ้นทุกวัน ในขณะที่ผมอาจจะยังยึดพื้นที่ในหัวใจของพี่เต๋าได้เพียงเสี้ยวเดียวเท่าเดิม

    แต่ช่างเถอะ ผมไม่หวังอะไรอยู่แล้วนี่นา

    เดี๋ยวจอยก็เข้าใจเองแหละว่าพี่หวงเขาน่ะ อย่าคิดมาก ประโยคเดิมๆกับเหตุการณ์เดิมๆ ไม่ได้ทำให้ผมเบื่อหน่ายที่จะพูด แต่บางครั้งมันก็ทิ่มแทงจนผมอ่อนล้า จริงอยู่ผมไม่ได้รักพี่เต๋า แต่ถึงจะแค่ชอบผมก็ให้ความสำคัญกับพี่เต๋ามาก ผมใส่ใจ ผมเป็นห่วงและผมแคร์ เพราะหัวใจมันตัดสินแล้วว่าพี่เต๋าคือคนสำคัญของผม

    ช่างมันเถอะ

    เขาตัดบทแล้วเร่งคันเร่งเพื่อให้พวกเราทั้งสองรนปลอดภัยจากละอองฝนน้อยที่สุด

    ผมเกลียดฝนและบรรยากาศเหงาๆแบบนี้จังเลย

     

     

     

     

    เมื่อเขาเจ็บ .. ผมน่ะเจ็บกว่าเป็นล้านเท่า

    พี่ทนไม่ไหวแล้วว่ะพี่เต๋าพรวดพราดเข้ามาที่หอพักของผมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด ดวงตาคมคู่ที่ผมคุ้นเคยกำลังสั่นระริก เขาดูเจ็บปวด .. จนผมเจ็บตาม

    ทนไม่ไหวก็เลิก

    ก็รักไง

    ถ้ารักก็ต้องทน

    อือ คงต้องแบบนั้นแหละ

    นั่นคือคำตอบที่ชัดเจนของพี่เต๋าซึ่งผมก็คิดไว้แบบนั้นอยู่แล้ว ไม่ว่าผมจะภาวนาให้พวกเขาเลิกกันมากี่ครั้งมันก็ไม่เคยสำเร็จสักที

    เปล่าเลย .. ผมไม่ได้อยากครอบครองหรือเป็นเจ้าข้าวเจ้าของพี่เต๋าหรืออะไรทั้งนั้น ที่ผมอยากให้พวกเขาเลิกกันเพราะจอยทำพี่เต๋าเจ็บมามากพอแล้ว กี่ครั้งแล้วนะที่พวกเขาเลิกกันแล้วพี่เต๋าต้องเสียน้ำตาให้กับผู้หญิงงี่เง่าคนนั้น เขาไม่รู้หรอกว่าเห็นเขาเจ็บผมก็เจ็บ

    แต่ผมบอกแล้วไงผมไม่ได้รักพี่เต๋า แต่ผมแคร์เขาเพราะเขาสำคัญสำหรับผมแค่นั้นเอง

     

     

     

     

    นานวันเข้า

    ในขณะที่ผมแคร์พี่เต๋ามากขึ้นทุกวัน

    เขากลับละความสำคัญกับผมมากขึ้นทุกที

    พี่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศคำแรกที่ดังขึ้นทำลายความเงียบบริเวณสวนหย่อมยามเช้าของหอพัก ผมที่นั่งอยู่ข้างๆค่อยๆวางหนังสือเล่มหนาลงก่อนชายมามองร่างสูงข้างกาย พูดแบบนั้นออกมา พี่คิดดีแล้วเหรอ ?

    ไม่ไปไม่ได้เหรอ ผมคิดว่าผมใช้น้ำเสียงเว้าวอนที่สุดแล้วนะ ไม่ได้หรอก ผมไม่อยากให้พี่เขาไป ถึงจะปวดใจแค่ไหน แต่ความเคยชินของผมคือการมีพี่เต๋าอยู่ข้างๆนี่นา

    คิดถึงรึไง คำถามแบบตรงไปตรงมาเล่นเอาผมใจเต้นตุบตุบ คิดถึงเหรอ.. อาจจะแบบนั้นมั้ง

    แล้วพี่เต๋าไม่คิดถึงผมเหรอผมเลยเบี่ยงด้วยการถามกลับแทน ให้ตอบไปตรงๆแบบนั้น ผมก็อายเป็นนี่นา

    ไม่ไปหรอกยังไงก็คงคิดถึงจอยอยู่ดีคำตอบที่เล่นเอาผมสะอึก

                นิสัยไม่ดีอย่างหนึ่งของพี่เต๋าคือเขามักจะสนใจเรื่องของตัวเองก่อนเสนอ คุยเรื่องของผมไม่กี่ประโยคก็ย้อนกลับไปเรื่องตัวเองแล้ว ขณะที่ผมถามเขาว่ากินข้าวหรือยัง ไม่มีหรอกที่เขาจะถามกลับ

                แต่ .. ผมชินแล้วล่ะ

                นั่นสินะสุดท้ายผมก็ได้แต่ตอบรับเบาๆแล้วหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านต่อ ไม่อยากยอมรับเลยว่าผมกำลังรู้สึกน้อยใจอยู่

                ผมก็แค่รู้สึกในใจน่ะ ผมไม่สิทธิ์เรียกร้องอะไรอยู่แล้วนี่นา

     

     

     

     

                ผมเคยคิดนะ

              ว่าผมสามารถยอมเป็นอะไรก็ได้สำหรับเขา

    เป็นอะไร พี่เห็นซึมๆตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้วจะดีใจดีไหมนะที่จู่ๆช่วงบ่ายวันหนึ่งพี่เต๋าก็ถามคำถามนี้ขึ้นมา ในเมื่อถามมาแบบนี้ ผมก็ขอตอบตรงๆเลยแล้วกัน เพราะผมเองก็อึดอัดจนทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

    ผม .. แค่คิดถึงเฟรม ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่พี่บอกคิดถึงจอย คำตอบของผมนี่เข้าใจยากนะว่าไหม แต่มันคือความจริง ผมกำลังคิดถึงเฟรม .. และผมกำลังน้อยใจเขาที่บอกคิดถึงจอยอยู่

    ก็จอยเป็นแฟนพี่

    รู้แล้ว แต่ไม่เห็นต้องบอกผมเลยนี่นาผมพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น รู้แล้ว รู้แล้วว่าผมไม่มีสิทธิ์หวงอะไรทั้งนั้น แต่ได้โปรด ผมทนไม่ไหวแล้ว

    แล้วจะให้พี่พูดอะไร ผมไม่รู้หรอกว่าน้ำเสียงแบบนี้ของพี่เต๋าคืออะไร เขาโกรธผมรึเปล่านะที่พูดแบบนั้นออกไป

    “…พี่ยังต้องการผมอยู่รึเปล่า ผมตัดสินใจที่จะไม่ตอบแต่ถามออกไปแบบนั้น ผมไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ผมเป็นอะไรสำหรับเขา

    ต้องการสิ

    “…พี่ยังชอบผมอยู่รึเปล่าผม ..มันก็แค่คนโลภที่ไม่รู้จักพอ แค่อยากจะมั่นใจว่าเขาต้องการผมอย่างที่พูดจริงๆ

    “…พี่กลัวจะชอบคชามากกว่านี้คำตอบที่ทำใจเต้นไม่เป็นส่ำ แค่นี้ก็น่าจะเกินพอได้แล้วสำหรับคนแบบผม แต่ .. ผมอดไม่ได้ที่จะเอ่ยประโยคแบบนี้ออกไป

    ถ้าอย่างนั้นอย่าพูดเรื่องจอยเวลาที่อยู่กับผม ผมไม่ชอบ.. ไม่ชอบเลยจริงๆ ผมไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายเพราะกลัวจะเห็นแววตาแสดงความรำคาญจากดวงตาคู่นั้น นี่ผมขอมากเกินไปหรือเปล่านะ ..

    ได้ พี่จะไม่พูดเรื่องจอยแล้ว

    แล้วพี่อยากจะห่างผมไหม…” โธ่เว้ย ใครก็ได้เอาผ้ามาอุดปากผมที ไม่รู้ทำไมมันถึงได้พูดไม่หยุด แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วนี่นา พอแล้วล่ะ คนแบบผมพอใจแล้วสำหรับคำตอบเหล่านี้จากปากของเขา

    ไม่ ไม่อยากเลย .. ห่างคชาพี่คงเหงา

    ได้สิ ผมจะไม่ไปไหนหรอก เพราะพี่ต้องการผมนี่นา..”

    ประโยคสุดท้ายพร้อมรอยยิ้มจากเศษเสี้ยวหัวใจอันบอบช้ำ

    ไม่รู้เมื่อไหร่เรื่องเหล่านี้ถึงจะจบไป และก็ไม่รู้ว่าหัวใจจะทนได้อีกนานแค่ไหน

    แต่ผมเลือกแล้วนี่นา .. เลือกที่จะยอมให้หัวใจถูกบดขยี้จนเหลวแหลก

    เลือกที่จะแบกรับความเจ็บปวดจากคนที่ผมชอบและพร้อมจะทำให้ผมเจ็บปวดได้เสมอ

    ไม่เป็นไรหรอก ผมชินแล้วล่ะ

    ทั้งเรื่องของเฟรมที่ไม่มีวันเป็นไปได้ และเรื่องของพี่เต๋าที่ยังค้างคา

    เพราะผมน่ะ.. ขาดเขาไม่ได้

    ไม่อย่างนั้นเศษเสี้ยวของหัวใจที่เหลืออยู่น้อยนิดมันคงไม่สามารถทำงานเพื่อแบกรับความเจ็บได้อีกตลอดไป

     

     

     

     

     

     

    PUPPAP

    อย่าเพิ่งด่าค่ะว่าปี้เอาอะไรมาให้อ่าน

    แทนที่จะอัพฟิคยาวเสือกเอา SF มาคั่นซะงั้น

     

    SF สั้นๆมึนๆเมาๆที่กลั่นออกมาจากความรู้สึกไม่ใช่สมอง

    ใครที่ไม่ได้อยู่ในสถานะนี้อาจจะอ่านแล้วเข้าใจยากสักหน่อย

    แต่ปั๊บเข้าใจคชามากถึงมากที่สุด

    SF ที่มาจากความจริงบางประการของปั๊บที่กำลังประสบอยู่

     

    ถ้าถามว่าดราม่ามั้ยก็คงต้องบอกว่าประมาณหนึ่ง

    แต่ถ้าถามว่า SF เรื่องนี้เป็น SF ที่ไม่มีอะไรเลยใช่รึเปล่าก็ตอบได้ว่าใช่

    มันไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่อาการพร่ำเพ้อของคชา 6 หน้าเวิร์ด

    พยายามจะถ่ายทอดความรู้สึกของคชาให้ออกมาในแบบเปิดเผยและปกปิดที่สุด

     

    และขอโทษด้วยสำหรับฟิคยาวที่ไม่ได้อัพ

    ไม่ใช่ว่าตั้งใจดองค่ะแต่ป่วยและไม่ว่าง

    บวกกับอารมณ์ตาม SF เรื่องนี้ด้วย

     

    ไม่เกินวันศุกร์อัพแน่นอน อย่างน้อยๆก็คง 50%(ที่ยาวพอดู)

    วันนี้อาจจะมาแบบวิชาการหน่อยเพราะแต่งไปอินไป

    ถึงจะดูไม่มีอะไร แต่ความรู้สึกของปั๊บใน SF เรื่องนี้เยอะมากจริงๆ

     

    ปล. ใครชอบหรืออะไรยังไงก็เม้นบอกด้วยนะคะ ปั๊บชอบอ่านคอมเม้น (:

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×