คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : icegun :; ... ไอ้คุณพี่เก่ง O[]O!? ...
IceGun :; … ไอ้พี่เก่ง O[]O!? …
(พี่กิ๊ก .. รูปในความคิดไอซ์ปั๊บขอเปลี่ยนได้ป่ะ? อยากเอาอีกรูปอะ มันแบ๊วดี -..- เดี๋ยวออนเอ็มเเล้วคุยกัน ฮ่าๆๆ)
[ ขออภัยถ้าอิน้องคนนี้มันเรื่องมาก _ _ ]
“พี่เดินเร็วๆหน่อยสิครับ - -^ รู้ว่าตัวเองขาสั้นก็กรุณาก้าวเท้าเร็วๆหน่อย”ร่างสูงกว่าหันกลับมาสั่งคนตัวเล็กที่เดินสะง้องสะแง้งมาตลอดทาง ในมือของเด็กหนุ่มผิวขาวจัดมีถุงอะไรมากมายห้าหกถุง ส่วนอีกสองสามถุงก็ถูกแบ่งเบาไปโดยให้พี่ชายเป็นคนถือ
“ก็แล้วนายจะเดินเร็วหาพระง้าวเจ้าแสงอะไรล่ะเว้ย!”คนเดินตามหลังตะโกนด่าอย่างหงุดหงิดก่อนจะใช้เท้าน้อยๆเตะก้อนหินก้อนเล็กที่ตกเกลื่อนกราดอยู่บนพื้นเพื่อระบายอารมณ์ ไอ้อาการเจ็บปวดตามก้นกบก็ยังไม่ทันจะหายดีแล้วนี่มันเหตุอะไรที่เขาต้องมาเดินต๊อกแต๊กแบบนี้ด้วยวะ!?
“ได้ข่าวว่าคุณน้าบอกให้พี่มาเป็นพี่เลี้ยงผมนะ ไม่ใช่ให้ผมมาเป็นพี่เลี้ยงพี่ = =”ไอซ์กล่าวอย่างอนาถจิตเป็นที่สุดก่อนจะตัดสินใจสาวเท้ากลับมาแล้วลากเอาข้อมือเล็กให้พี่ชายสับเท้าให้ทันเขา
มันบอกว่าแม่เขาบอกให้เขามาเป็นพี่เลี้ยงมัน…
แล้วนี่มันใช่หน้าที่ของเขาที่ไหนล่ะโว๊ยยยยยยยยยย!!!!????
ไอ้เด็กเดนนี่ก็ตัวโตอย่างกับควาย แม่ก็ยังอุตส่าห์หาข้ออ้างให้เขามาช่วยมันซื้อของเตรียมเปิดเทอมในฐานะ ‘พี่เลี้ยง’
ไอ้จะให้ปฏิเสธก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ แต่มันติดอยู่ตรงที่ทำได้แต่เขาไม่กล้าทำ _ _ ยามริมฝีปากพระมารดาผู้ประเสริฐขยับออกคำสั่งมันเป็นคือ ‘คำสั่ง’ ไม่มีคำว่า ‘ปฏิเสธ’ สำหรับของแม่ของเขา
และนั่นก็ทำให้เขาต้องมาเดินด๊อกแด๊กๆเหงื่อไหลไคลย้อยตามไอ้เด็กเปตรนี่ทั้งที่ยังก้นก็ยังเจ็บ สะโพกก็ยังเคล็ดไม่หาย!!!
พระเจ้าโคตรลำเอียง!! T^T
“พี่ช่วยเลิกทำหน้าอยากตายสักทีเถอะ ไม่งั้นผมอุ้มพี่เข้าโรงแรมนี่จริงๆด้วย เอาเดะ -..-“ คำขู่ที่ดูเหมือนจะทำจริงทำให้กันจำต้องเลิกเดินอืดเพราะความเจ็บมาเดินลิ่วนำหน้าเด็กน้ำแข็งไปอย่างไม่ต้องหยุดคิด ไอซ์หัวเราะหึหึในลำคอก่อนจะก้าวเท้าเดินตามไป
อากาศตอนบ่ายที่โคตรจะร้อนอบอ้าวบวกกับสิ่งแวดล้อมและการจราจรที่โคตรจะแออัดทำให้เขาอยากจะวิ่งแจ้นกลับไปนอนตีพุงเล่นอยู่บ้าน ไอ้การมาเดินเตร็ดเตร่โดยที่สองมือถือของพะรุงพะรังมันไม่ใช่สิ่งที่น่ารื่นรมย์เลยสักนิด แล้วยิ่งมีพี่ชายตัวเล็กติดสอยห้อยตาม(เพราะโดนบังคับ)มาด้วยอีก ทำให้ไอซ์อยากจะอุ้มพี่ชายเข้าโรงแรมแล้วจับกดซะเป็นการแก้เครียด - -;;
“เฮ้ยๆ ร้านอยู่นี่พี่จะไปไหนเล่า - -* ”เจ้าตัวร้องเรียกให้คนตัวเล็กที่เดินเลยร้านไปแบบไม่สนใจโลกาให้หันกลับมา กันสบถยาวพรืดกับตัวเองแล้วเดินกลับมาพร้อมใบหน้าบูดๆ
“ทำหน้าแบบนี้อยากโดนกดว่างั้นสิ ^ ^”เจ้าคนทะเล้นยังคงออกลายแม้ว่าสิ่งรอบข้างตอนนี้จะไม่ได้น่าหยอดมุกเลยสักนิด คนจะโดนกดอยู่ทุกวี่ทุกวันเบะปากอย่างขัดใจแต่ไม่เอ่ยอะไรโต้ตอบ ตามใบหน้าหวานที่มักจะง้ำงอเวลาเจ้าตัวหงุดหงิดมีเหงื่อเม็ดเล็กเม็ดน้อยผุดขึ้นเต็มใบหน้า ดวงหน้าสีน้ำผึ้งเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อแดงก่ำจนคนเป็นน้องตัวว่าถ้าไม่พาไปหาที่ที่มีอากาศเย็นๆตอนนี้ กันคงได้เป็นลมล้มพับลำบากถึงเขาต้องแบกกลับบ้านแหงๆ -*-
“เข้าร้านนี้แหละ ผมจะไปซื้อชุด”ฝ่ามือใหญ่ดันแผ่นหลังอีกคนให้เดินเข้าไปในร้านขายชุดนักเรียนขนาดใหญ่ เมื่อเข้ามากันก็แทบจะนั่งฮวบลงกับพื้นเพราะทั้งเหนื่อยทั้งเมื่อย ไอ้ความรู้สึกปวดหัวตุบตับๆที่มักจะเป็นเสมอตอนเจอแดดจัดๆนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าพิสมัยเลยแม้แต่น้อย ดีหน่อยที่ร้านนี้เปิดแอร์ซะเย็นไปถึงเหยื้อหุ้มกระดูกชนิดที่ว่าเข้ามาแล้วแทบอยากจะวิ่งออกไปในทันที = =;;
“นั่งรอนี่แหละ เดี๋ยวผมมา”เจ้าเด็กตัวโย่งสั่งอย่างกับมันแป็นพี่เลี้ยงเขาซะเองแล้วยัดถุงในมือมันมาใส่มือเขาก่อนจะผละออกไปหาซื้อชุดนักเรียนที่จนถึงตอนนี้กันก็ยังไม่เข้าใจว่า…
นักเรียนโรงเรียนนานาชาติจะมาหาซื้อชุดนักเรียนตามร้านทำเบ๊วอะไร = = !?
แต่มันก็เป็นแค่คำถามคาใจที่ไม่ได้ต้องการคำตอบ คนตัวเล็กตัดสิใจหอบทั้งถุงพลาสติกทั้งถุงกระดาษเกือบสิบถุงที่อยู่ในมือเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ว่างที่ตั้งอยู่อีกมุมของร้าน
เหนื่อยชิบ!!
ปวดขา! ปวดแขน! ปวดเท้า! ปวดหัว! ปวดก้น! ปวดสะโพก!
และอาการปวดทั้งหลายแหล่นี่ก็มาจากต้นเหตุคนเดียวคือไอ้เด็กเวรนั่น!!!
ตอนจะมาเขาก็บอกแล้วว่าให้เอามอไซต์มาๆ แต่ไอ้หอกนี่ก็เสือกบอกว่ามันเปลืองน้ำมันก็เลยจบลงตรงที่เขาและมันต้องเดินขาลากจากบ้านมาถึงหน้าปากซอย!!!
ไอ้เด็กไร้สมองเอ๊ยยยยยยยยยยยย - -+ !!
ใจก็นึกด่าไอ้คนที่มาด้วยปาวๆๆๆ ถุงนับสิบถูกวางลงไว้ข้างตัวขณะที่ผู้คนเดินเข้าออกร้านเป็นว่าเล่น
จะว่าไปร้านนี้ก็เหมือนจะเป็นร้านที่ดีนี่หว่า ~ คนเข้าอย่างพรึบคนออกอย่างพรับ!
กำไรเห็นๆ * *
นักคณิตศาสตร์คนเก่งคิดพลางทำตาเป็นประกายบ่งบอกความรู้สึกว่าเจ้าตัวตอนนี้คงจะถูกใจกิจการของร้านนี่เข้าซะแล้ว
ถ้าวันนึงขายได้สัก … อืม …
เอาเถอะ! ยังไงก็ได้กำไรชัวร์ๆ >O<!!!
ก๊ากๆๆๆ น้องกันจะรวยแล้วคร้าบบบบบบบบบบบบ^O^!
“อ่าว.. กัน?” อาการของคนกำลังเพ้อถึงฝันอันสดใสในอนาคตข้างหน้าถูกสะกัดด้วยเสียงเรียกของใครคนหนึ่งที่เล่นเอาเจ้าคนช่างเพ้อถึงกับสะดุ้งโหยง
“หือ … พี่เก่ง O.O!!!”กันเงยหน้าขึ้นไปสบตาคนเรียก ใบหน้าคมคายที่ขาวกว่าเขาสามล้านเท่าได้กำลังยกริมฝีปากสีสดยิ้มให้ ส่วนสูงที่ดูจะสูงกว่าเขาอยู่มาโขและสีผิวที่แค่เห็นก็เดาได้เลยว่าตอนเด็กแม่ของหมอนี่คงละลายแฟบให้กินเป็นอาหารทำให้กันเบิกตาโพลงเพราะผู้ชายผิวโอโม่มันเป็นอะไรที่เขาคุ้นมากกกกกกกกก! O[]O!
“ว่าไง ไม่ได้เจอกันนาน ตัวไม่โตขึ้นเลยนี่เรา ฮ่าๆๆๆ”เจ้าของร่างขาวหรือคนที่กันเรียกว่า ‘พี่เก่ง’ กระเซ้าเข้าให้อย่างสนิทสนมแต่คนถูกแหย่กลับอยากจะกราบสามทีแล้วยกตีนตัวเองอุดปากหมอนี่ซะ!
คุณพี่เก่ง…
ไอ้พี่เก่ง…
ไอ้คุณพี่เก่ง!!!
ไอ้พี่ของเพื่อนจอมกวนประสาทที่เจอหน้าเขาเป็นต้องหาเรื่องวอนตีนได้ตลอดเวลา!!!
ปัดโธ่เว้ยพระเจ้า!! นอกจากจะใจร้ายบันดาลให้เขาได้เจอกับไอ้เด็กแสบที่ไม่ได้พบกันตั้งหนึ่งปีแล้วยังอุตส่าห์สะเออะส่งเขามาเจอไอ้รุ่นพี่ผิวสีวอกที่ไม่ได้เจอกันเกือบสามปีนี่อีก!!
บังเอิญขนาดนี้ทำไมไม่จับเขาไปเล่นเอ็มวีเพลง ‘บังเอิญ โลกกลม พรหมลิขิต’ ของวงมันฝรั่งเลยล่ะวะ!?
ชิบเอ๊ยยย! -^-
แต่ถ้าจะผิดจริงๆก็คงเป็นไอ้พี่เก่งบ้านี่แหละ = = สามปีก่อนบอกว่าจะไปเรียนต่อ แต่ไหงวันนี้กลับมาเดินตะแร๊ดแต๊ดแต๋อยู่นี่ได้ล่ะวะ!?
“พี่เก่งเหอะ วอกยังไงก็ยังวอกอย่างงั้น -*-“
“ปากดีไม่เปลี่ยนด้วยว่ะ เออ ได้ข่าวว่าเราจะเข้ามหาลัยที่อยู่ใกล้ๆนี่ใช่มั้ย~?”
“อื้อ - - บอกไว้ก่อนเลยนะว่าน้องกันไม่ได้ตั้งใจจะเข้า ที่ต้องเข้าเพราะโดนแม่บังคับหรอก -3-“คำแก้ตัวมาพร้อมกับคำสรรพนามแทนตัวเองทำให้เก่งตัวเราะน้อยๆอย่างพอใจ
มันก็ยังเป็น ‘น้องกัน’ คนเดิมกับเมื่อสามปีก่อนล่ะว้า~
ส่วนสูงเพิ่มขึ้นประมาณเซนของเซน หน้าที่เมื่อก่อนว่าหวานแล้วก็ชักจะหวานเข้าไปใหญ่ ลำตัวบางๆที่ว่าเมื่อก่อนบางแล้วก็เล็กลงๆไม่ได้ดูโตขึ้นเลยสักนิด
ที่ยังเหมือนเดิมทุกประการก็เห็นจะเป็นไอ้นิสัยปากดีและอาการฟอร์มจัดนี่ล่ะมั้ง~
“อ้อ~ โอเคๆ โดนแม่บังคับ~”คนตัวสูงกว่าทวนคำพลางทำหน้าล้อเลียนอย่างน่าถอดรองเท้าแล้วเอาขว้างใส่ซะให้เสร็จเรื่อง = =
“ว่าแต่พี่เก่งมาทำอะไร? เรียนต่อจบแล้วเรอะ!?”คนตัวเล็กเปลี่ยนเรื่องอย่างดื้อๆอย่างรู้ทันว่าถ้าคุยเรื่องนั้นต่อไปเขาต้องโดนไอ้พี่บ้านี่กวนประสาทอีกแน่ๆ เก่งเลิกคิ้วกับคำถามก่อนเปลี่ยนมาเป็นหัวเราะหึหึ
“มาตากแอร์เล่น~ ส่วนเรื่องเรียนต่อพี่ยกเลิกไปตั้งแต่สามปีก่อนแล้วว้อย = = เราเหอะมาทำไม? อย่าบอกนะว่ามาซื้อชุดนักศึษา?”
“ตลกแล้ว - -^ ใครเค้าจะเตรียมตัวก่อนวันเปิดเทอมแค่อาทิตย์เดียวเล่า พี่นี่ยังประสาทกลับเหมือนเดิมว่ะ ให้ตาย”กันว่าด้วยสีหน้าระอา แต่คนถูกวิจารณ์ทำแค่ไหวไหล่น้อยๆอย่างไม่ถือสาเพราะรู้อยู่เต็มอกว่าประโยคพวกนั้นมันก็เป็นแค่คำยั่วยวนจากฝ่ายตรงข้าม
แค่เขาไม่ใส่ใจที่จะเถียงกลับ อีกฝ่ายก็จะยอมแพ้ไปเอง~
“ฮ่าๆ แล้วนั่น..ถุงพวกนั้นมันของเราเหรอ?”เก่งเอ่ยถามเพื่อสายตาเบนไปเห็นถุงมากมายวางอยู่ข้างๆน้องชายร่างเล็ก กันหันไปมองเหล่าถุงสารพัดสีสันก่อนหันมาตอบ
“เปล่า ของน้องมันน่ะ”
“หืม เรามีน้องเหรอ?”
“น้องข้างบ้าน”
“อ่อ ~ เออ… ไอ้เกรซมันบอกว่าอยากเจอกัน ว่างๆก็ไปหามันหน่อยล่ะกัน”เก่งอ้างถึงอีกคนที่ไม่ได้อยู่ร่วมวงสนทนา ‘เกรซ’ ที่ว่าก็คือน้องสาวแท้ๆของเก่ง ปกติตอนที่เพื่อนเขาไปบ้านพี่เก่งเขาก็มักจะไปกับมันด้วย ทำให้กันสนิทกับเก่งและเกรซไปโดยปริยาย
“ดูจากสถานการณ์แล้วคิดว่าน้องกันจะว่างมั้ยล่ะ?”คำยั่วที่ดูเหมือนจะเป็นการปฏิเสธอย่างกรายๆเรียกเอาใบหน้าคมคายแย้มยิ้มมุมปาก
“ก็เอาตอนว่างๆไง”
“ก็ได้ๆ -*- ”สุดท้ายเจ้าตัวก็ต้องตบปากรับคำไปเพราะใจจริงเขาก็อยากเจอเกรซเหมือนกันน่ะแหละ
อยากจะไปดูว่ามันสวยแค่ไหนแล้ว ~
“เอามือถือกันมาดิ๊”
“เอาไปเพื่อ?”
“เอาเบอร์เราไง - - “
“น้องกันไม่ให้ได้ป่ะ?”
“เดี๋ยวพี่เตะกระเด็น = =”
“พี่เก่งกล้าเหรอ?”ประโยคท้าทายพร้อมใบหน้าหวานที่ยิ้มยั่วทำให้เก่งกลอกตาไปมาก่อนจะเอากับมันสักหน่อย
ร่างสูงโน้มลงหวังจะล็อคคนปากเก่งให้สยบอยู่ตรงหน้าเขา แต่อีกฝ่ายกลับใช้ข้อดีของการตัวเล็กกว่าลุกหนีไปได้อย่างหวุดหวิด เก่งหันหลังกลับเอื้อมมือจะไปคว้าเจ้าเด็กดื้อไว้ แต่กันก็สามารถวิ่งหนีได้ทันท่วงที
และเพราะแบบนี้ … สงครามย่อมๆถึงเกิดขึ้นในมุมหนึ่งของร้านขายชุดนักเรียน~
- - - - - - - - - - - - Ice & Gun - - - - - - - - - - - -
“ครับ ขอบคุณครับ”เด็กหนุ่มอายุสิบหกแต่กลับมีความสูงที่โด่งไกลกว่าใครเพื่อนเอ่ยขอบคุณก่อนเดินออกมาจากบริเวณหน้าเคาเตอร์ ในมือมีถุงสีขาวที่ข้างในมีชุดนักเรียนเซ็ตใหม่ที่เขาจำเป็นต้องออกมาซื้อเองเพราะตัวเองดันเป็นนักเรียนกลางซีซั่น
“เอาเบอร์มาซะดีๆ”เสียงหนึ่งดึงขึ้นจากอีกมุมของร้านอย่างอารมณ์ดี แต่ไอซ์ไม่คิดจะสนใจถ้าหากไม่ใช่เพราะอีกเสียงที่ตามมา
“โอเคๆ ให้ๆ แต่ปล่อยน้องกันก่อนเถอะ รู้ว่าตัวเองแก่กว่าก็อย่ารังแกเด็ก -3-“น้ำเสียงหวานขึ้นจมูกเป็นอะไรที่ไอซ์จำได้แม่น สองเท้าสาวตามเสียงนั่นอย่างไม่ลังเล ใจนึกสงสัยว่าไอ้คนที่พี่ชายของเขากำลังคุยด้วยนั่นเป็นใคร? ทำไมพี่กันถึงเรียกแทนตัวเองแบบนั้นทั้งทั้งที่คำนั้นถูกใช้กับไม่กี่คน
“ศูนย์แปดxxxxxxxx” เสียงบอกตัวเลขสิบหลักดังขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับที่คนตัวสูงเดินเข้ามา ภาพตรงหน้าทำให้คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยๆ
พี่ชายของเขากำลังนั่งบอกเบอร์ตัวเองให้ชายผิวขาวอีกคนกดตู๊ดๆบันทึกลงโทรศัพท์
หมอนั่นมันเป็นใคร -*- ??
“พี่กัน”เอ่ยออกไปพร้อมก้าวเท้าไปยืนข้างๆคนตัวเล็ก ชายผิวโอโม่เงยหน้าจากโทรศัพท์ขึ้นมามองเขาก่อนยิ้มอ่อนๆให้อย่างเป็นมิตร
“ซื้อของเสร็จแล้ว?”
“อื้อ”
“โอเค งั้นกลับ!”น้ำเสียงหวานเด็ดขาดพร้อมเจ้าคนจอมบงการลุกพรึบอย่างรวดเร็ว เก่งหัวเราะเบาๆให้กับอาการบ้าบอไปถึงขั้นบ๊องแบ๊งของรุ่นน้อง แล้วก็ต้องหัวเราะยาวเมื่อสังเกตได้ถึงสีหน้าเอือมๆจากเด็กหนุ่มผู้มาใหม่
มีหมอนี่เป็นพี่ชายก็ต้องทำใจรองรับอารมณ์ขึ้นๆลงๆของมันเอาไว้บ้าง ฮ่าๆๆๆ
“พี่เก่ง น้องกันกลับแล้วนะ ขอให้ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีกเป็นดี!”คำบอกลาที่ออกจะตะหงิดๆของคนตัวเล็กที่สุดเรียกเอาร้อยยิ้มโผล่บนใบหน้าคมขาวอีกครั้ง
“ก็ต้องดูกันไป~”
“พูดงี้ตีกันมะ - -^”
“เอาดิ ถ้ากันกล้าน่ะนะ ฮ่าๆๆ”
“ไอ้…”
“พี่กัน - - ไหนบอกว่าจะกลับแล้วไง”คนกลางที่ดูจะหมดความอดทนเอ่ยขัดทำให้คนปากดีชะงักริมฝีปากที่กำลังจะพ่นคำด่า กันหันมาแยกเขี้ยวใส่รุ่นน้องอย่างคาดโทษก่อนหันกลับไปแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อีกคน
“ไปๆ น้องอารมณ์เสียแล้ว ระวังจะโดนทำโทษ ฮ่าๆๆ”เก่งว่าก่อนหัวเราะ ดวงตาคมหันมาสบกับนัยน์ของคนอ่อนวัยที่สุดเพียงชั่ววูบก่อนจะทำเป็นมองเมิน
“แต่ก่อนไปนี่ไม่คิดจะแนะนำน้องนุ้งให้พี่รู้จักบ้างเลย?”
“แล้วรู้ไปมันได้อะไรขึ้นมา -0-“
“คุณน้าไม่เคยสอนเรื่องมารยาท?”คำถามที่เล่นเอาคนไร้มารยาทสบถอุบด้วยคำหยาบชนิดที่เอาออกอากาศไม่ได้ กันเบะปากตามนิสัยก่อนเอื้อมมือไปดึงแขนเสื้อเจ้าเด็กโย่งข้างตัวให้ขยับเข้ามาใกล้อีกนิด
“หมอนี่ชื่อไอซ์ และไอซ์ ไอ้บ้านี่ชื่อพี่เก่ง โอเคยัง = =”คำพูดแบบขอไปทีทำให้เก่งหัวเราะพรืดอย่างขำขัน จะผ่านไปกี่ปีหมอนี่ยังติ๊งต๊องเหมือนเดิม ฮ่าๆๆๆ
“โอเคแล้ว ยินดีที่ได้รู้จัก^ ^”
“เช่นกันครับ”
“เออ รู้จักกันแล้วก็กลับบ้านสักทีเหอะ เหนื่อยโว๊ยยยยยยยยย!!”เจ้าตัวโวยวายเสียงดังลั่นร้านอย่างลืมคำว่า ‘มารยาท’ ที่เพิ่งถูกสั่งสอนไปหยกๆ สองมือคว้าเอาถุงทั้งหลายแหล่ก่อนเดินนำน้องชายออกจากร้านไปอย่างหงุดหงิด
“นายว่าคู่กัดมันจะกลายมาเป็นคนรักได้รึเปล่า?”เสียงของคนศักดิ์สูงกว่าทำให้สองขาที่กำลังจะก้าวเดินชะงัก ไอซ์หันมามองรุ่นพี่ที่เขาเพิ่งรู้จักอย่างงงๆ
“พี่หมายถึงใครครับ?”หางเสียงที่แสดงถึงความเคารพทำให้เก่งกระตุกยิ้มอีกครั้ง
“หมอนั่นมันยังไม่รู้ว่ามันอยู่มหาลัยเดียวกับฉัน นายว่า…ถ้าฉันนึกคึกจะจีบมันตอนนี้ ยังจะทันมั้ยวะ?”คำถามที่ทำเอาคนอ่อนวัยกว่าขมวดคิ้วมุ่น หางประโยคที่แสดงถึงการไม่ถือตัวทำให้ไอซ์สำนึกได้เล็กน้อยว่าคนคนนี้มีสัมพันธไมตรีที่ดีชะมัดยาด
“มันก็ขึ้นอยู่กับว่าพี่จะจีบเขาแบบไหน”
“อะฮ่า! แสดงว่านายไม่หวง?”คำถามอีกประโยคที่ไอซ์ต้องใช้สมองส่วนลึกในการคิดหาคำตอบ
หวงเหรอ???
มันไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องหวงพี่กันสักหน่อย = =
ถึงจะชอบขู่ว่าจะจับกดบ่อยๆก็เหอะ
“ตอนนี้ไม่ แต่ต่อไปไม่แน่”คำตอบลองเชิง…
“ตกลงนายจะเอายังไงเนี่ย?”
“ก็แล้วแต่พี่เถอะครับ ถ้าจะจีบผมก็จะเอาใจช่วย แต่เขาไม่ใช่คนที่จะจีบติดง่ายๆ”
“หึหึ ฉันรู้จักหมอนั่นนานกว่าที่นายรู้จักเขาอีกนะไอ้น้อง เรื่องแค่นี้ทำไมฉันจะไม่รู้”
“งั้นพี่ก็น่าจะรู้ว่าเขาเกลียดคนที่เข้าหาเขาก่อนนะครับ ^ ^ ”ประโยคส่งท้ายก่อนคนพูดจะโค้งหัวแล้วผละออกมา
“ฮ่าๆๆๆ ก็ลองดูว่าหมอนั่นจะเกลียดฉันอย่างที่นายว่ารึเปล่าน่ะนะ~”ประโยคแผ่วเบาที่เขาต้องการให้ผู้รู้มีแค่ตัวเอง…
TBC…..
ความคิดเห็น