คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ` 1st. ¦ - `S.O.M.L.(story of my love)。[♡ end]
S.O.M.L.
Story Of My Love
Harry Styles & Louis Tomlinson
สำคัญ : เวิ่นลงทวิตเตอร์ได้ด้วยการติดแท็ก #larrystoryofmyLOVE นะคะ อยากให้เวิ่นมากนะ TOT
ปล.เหยเตง เวิ่นได้และเม้นได้นะบ่องตง 5555555555555555555555
หมายเหตุ* : ภาษาห่วยแตกมากขอถอนหายใจแรงๆสามสี่ที OTZ / คำผิดยังไม่ได้แก้กรรม T^T
- - - - - - - - - -
[!!] Secret Scoop : แฮร์รี่ สไตลส์ เปิดอกเล่ารักฝังใจ ไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน!
Q : ช่วยเล่าเรื่องหัวใจของคุณให้เราฟังสักนิดได้ไหมคะ
HS : เอาจริงๆนะ…ผมไม่ได้รู้สึกพิเศษกับใครมาสามปีกว่าแล้ว ถ้าจะเล่าก็คงต้องเล่าเรื่องคนรักเก่า คุณอยากจะฟังมันเหรอครับ
Q : แฟนๆอยากฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับคุณค่ะ
HS : โอเค บอกไว้ก่อนเลยว่าเรื่องนี้ผมไม่เคยเล่าที่ไหน ที่นี่คือที่แรก มันอาจจะดูน้ำเน่า แต่ถ้าคุณอยากฟังผมก็เต็มใจจะเล่านะ
Q : *ยิ้ม*
HS : ครับ *หัวเราะ* ผมกับเขาเรียนมหา’ลัยเดียวกันที่บ้านเกิดของผม พวกเราเริ่มคบกันตอนปีสอง เขาน่ารักนะครับถึงจะขี้งอนไปบ้าง แต่ผมก็รู้สึกว่าพวกเราเข้ากันได้ดีนะ คนในมหา’ลัยอิจฉากันใหญ่เลย *หัวเราะ*
s t o r y o f m y l o v e l a r r y s t y l i n s o n
…
..
.
“ฉันชอบนายนะ ลองคบกันไหม”
หลังจากตบตีกับความคิดตัวเองอยู่นานสองนาน ในที่สุดผมก็สามารถรวบรวมความกล้าที่จะเอ่ยออกไปได้สำเร็จ
ลืมตาดูโลกมายี่สิบปีกับอีกสองสามสี่เดือน สารภาพรักกับคนมาหลายต่อหลายคน ผมสาบานเลยว่าไม่เคยมีครั้งไหนที่รู้สึกตื่นเต้นเท่าครั้งนี้ สิ่งมีชีวิตในอกข้างซ้ายที่เคยเต้นเป็นจังหวะบัดนี้กระเพื่อมรัว เร็ว และแรงจนสัมผัสได้ มือไม้ชาและดูเกะกะไม่รู้จะเอาไปซุกไว้ตรงไหน สุดท้ายก็ได้แต่กำหมัดแน่นแล้วทิ้งลงข้างกายคล้ายคนเก็บกดก็ไม่ปาน ผมรู้สึกว่าริมฝีปากตัวเองแห้งผาก ความมั่นใจที่เคยมีมากมายลดฮวบเหลือแค่ศูนย์
ภายใต้ท้องฟ้าสีครามยามเย็นกับแสงไฟสลัว ผมกลับเห็นดวงหน้าน่ารักของคนตรงหน้าชัดเจน… ลูอีจ้องผมเขม่งด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกว่าเขากำลังจะสื่ออะไร อาจจะตกใจ ดีใจ สงสัย หรือไม่ก็รังเกียจ ให้ตายเถอะ ผมรู้สึกหวาดกลัวดวงตาสีสวยนั่นจนต้องทำตัวเป็นไอ้ตุ๊ดก้มหน้ามองพื้นดิน
กลัวโดนปฏิเสธ … ผมกลัวโดนเขาปฏิเสธ
เป็นเวลาสักพักใหญ่ๆที่พวกเราทั้งสองคนปล่อยให้ความเงียบเป็นตัวกลาง เขาไม่ตอบ…ผมก็ปอดแหกเกินกว่าจะย้ำคำถาม สิ่งที่ทำคือการหยุดสายตาที่ปลายเท้าตัวเองราวกับมันมีอะไรน่าสนใจนักหนา ทั้งที่ความจริงสิ่งที่ต้องการทำคือการเงยหน้าขึ้นสบกับนัยน์เนตรสีน้ำทะเลคู่นั้น ริมฝีปากผมเม้มกันจนแทบจะเป็นเส้นตรง ว่ากันตามจริงสมองของผมตอนนี้ขาวโพลนไปหมด ไม่รู้ว่าควรอย่างไรหากคำตอบที่ได้คือคำว่า ‘ตกลง’
และไม่รู้จะทำเช่นไรหากลูอี ‘ปฏิเสธ’ กลับมา
ชายหนุ่มที่คนทั้งมหาวิทยาลัยรู้จักในฐานะเพลย์บอยด้านได้อายอดไม่ได้เก่งกล้าสามารถอย่างที่พวกเขาเข้าใจเลยสักนิด
ผมมันก็แค่ผู้ชายขี้ปอดคนหนึ่ง
นานแสนนานในความรู้สึกที่คนตัวเล็กตรงหน้าเอาแต่ยืนนิ่ง ระหว่างเรามีเพียงความเงียบงันจนได้ยินเสียงใบไม้ไหวกอปรกับสายลมแผ่ว ผมคิดเอาไว้ว่าความรักครั้งนี้คงได้แห้วเป็นสิ่งตอบแทนแล้วแน่ๆ… แค่คิดแบบนั้นขอบตาของผมมันก็ชักจะร้อนจนต้องกระพริบตาปริบๆไล่น้ำงี่เง่าที่ตั้งท่าจะไหล ส่วนไอ้หัวใจที่เต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเมื่อครู่ก็เหมือนจะหมดแรงลงดื้อๆ
ให้ตาย…
มันยังเต้นอยู่รึเปล่านะ
“ทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้”
เสียงหวานที่ได้ยินทำผมผงกศีรษะขึ้นด้วยความตกใจระคนสับสน ปากขยับเพื่อจะถามว่าที่พูดออกมาเขาหมายความว่าอะไรกันแน่ แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรภาพที่เห็นก็ทำให้หัวใจที่เกือบจะหยุดเต้นได้กลับมากระเพื่อมรัวแรงอีกครั้ง
ลูอียืนอยู่ตรงหน้าผม … ผมเห็นเขากัดริมฝีปากตัวเอง เห็นดวงตาสีฟ้าที่มองมาอย่างงะๆเงิ่นๆ เห็นพวงแก้มใสขึ้นสี
น่ารักจัง
“บอกเร็วกว่านี้ก็กลัวโดนลูตบกลับมา” ตอบด้วยเสียงที่ฟังแล้วก็อยากตบปากตัวเองสักทีสองที มันจะสั่นเพื่อใครกันวะ ไหนจะมือที่ยกขึ้นมาเกาท้ายทอยแก้เก้อของผมนี่อีก เห็นสภาพตัวเองแล้วไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเคยไปม่อใครต่อใครเอาไว้หลายสิบคน ผมเหมือนเด็กประถมกำลังข้อความรักจากพี่มัธยมเลย
“ไม่ทำแบบนั้นหรอก…”
“…”
“…ก็รอฟังอยู่เหมือนกันนี่นา”
(T____________________T)
#)_#(@_())%)#_#($*#%_()_#$(_)$(#_($#)$#$&%_#(@%#_@($+_@T^$*@&_@*#()#*
บอกทีดิ๊ว่าผมไม่ได้หูฝาดหรือผิดหวังจนประสาทหลอน ลูอีกำลังจะสื่อว่าเขาก็ชอบผมใช่ไหม มันคือคำตอบรับใช่รึเปล่า
ผมรู้สึกได้ว่าริมฝีปากตัวเองแย้มรอยยิ้มที่กว้างที่สุดเท่าที่เคยยิ้มมา สมองก็ยังขาวโพลนเหมือนเดิม แต่เมื่อเรียวปากได้รูปของลูอีบิดโค้งส่งรอยยิ้มน่ารักกลับมาให้.. รู้ตัวอีกทีผมก็ถลาเข้าไปรวบตัวเจ้าของกลุ่มผมสีอ่อนเข้าสู่อ้อมกอดแล้วอุ้มคนตัวเล็กหมุนไปรอบๆเหมือนคนบ้า ได้ยินเสียงลูอีหัวเราะข้างใบหู ก่อนที่พวกเราทั้งคู่จะล้มลงบนพื้นหญ้าสีสดพร้อมๆกัน
มีความสุขยิ่งกว่าเอ็นติดอีก
“ปล่อยได้แล้วเดี๋ยวก็มีคนมาเห็น” คนตัวเล็กว่าพลางพยายามใช้มือน้อยๆนั่นผลักให้ผมลุกออก แต่ผมไม่ใช่คนว่าง่ายขนาดนั้นสักหน่อย เย็นขนาดนี้ไม่ค่อยมีนักศึกษาอยู่แถวนี้แล้ว ดังนั้นผมก็เลยลอยหน้าลอยตากอดลูอีต่อเหมือนเดิม
“อยากกอดแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ขอกอดก่อนนะ”
“เว่อร์”
“พูดจริงๆ ชอบลูตั้งแต่ต้นปีแล้วอ่ะตอนนั้นคือโคตรไม่อยากเป็นเพื่อน”
“…” ลูอีไม่ตอบแฮะ แต่เขากำลังพยายามเบี่ยงหน้าแดงๆของตัวเองหลบจากสายตาผมอยู่ อยากบอกว่าไม่มีประโยชน์หรอก ผมเห็นเต็มสองตาทุกอย่างเลย ท่าทางแบบนั้นแหละที่ทำให้หัวใจของผมพองโตจนเหมือนจะหลุดออกมาจากอกอยู่แล้ว
“ตกลง...ชอบฉันใช่ไหม” ผมถามเสียงแผ่วข้างใบหูที่แดงไม่จากดวงหน้าของเขา แขนก็กระชับมั่นรั้งร่างเล็กให้พวกเราใกล้กันมากยิ่งขึ้น
คำถามนี้แตกต่างจากคำถามแรกอย่างสิ้นเชิง … เพราะผมไม่ต้องกลัวจะถูกปฏิเสธอีกแล้ว
“อื้อ”
“อื้ออะไร”
“ก็ชอบ”
“ชอบใคร”
“ชอบแฮร์รี่”
“ใครชอบแฮร์รี่”
“ลูอี”
“ลูอีทำไมนะ”
“ลูอี…ชอบแฮร์รี่”
“แฮร์รี่ก็ชอบลูอีเหมือนกัน… ชอบมากๆเลย” ว่าแล้วก็ฉวยโอกาสหอมแก้มนุ่มนั่นหนึ่งที ผมอยากทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว.. และตอนนี้ผมก็ได้ทำมันแล้ว ลูอีหน้าแดงแล้วพยายามผลักผมออกอีกครั้ง แต่ผมก็ยึดมือเขาเอาไว้กับอก สัมผัสได้ถึงหัวใจสองดวงที่ดูเหมือนพวกมันจะเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน
ถ้าถามว่าคนที่มีความสุขที่สุดในโลกคือใคร
ผมตอบได้เลยว่าคือตัวผมเอง
s t o r y o f m y l o v e l a r r y s t y l i n s o n
Q : คุณกำลังจะบอกว่าคุณเคยเป็นคนเจ้าชู้ แต่พอมาเจอเขาคุณก็เลิกทำแบบนั้นเหรอคะ
HS : จะว่างั้นก็ได้มั้งครับ ตั้งแต่คบกับเขาผมก็ไม่ได้ไปยุ่งกับใครอีกเลย *หัวเราะ*
Q : แล้วตอนที่คบกันความสัมพันธ์ของพวกคุณเป็นยังไงบ้างคะ
HS : พวกเราก็เหมือนคู่รักทั่วไปแหละครับ ผมจะเป็นคนไปรับไปส่งเขา ถ้าว่างๆเราก็จะนั่งติวหนังสือกัน ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเท่าไหร่แต่ผมก็มีความสุขกับความสัมพันธ์แบบนี้นะ
s t o r y o f m y l o v e l a r r y s t y l i n s o n
…
..
.
“มาช้าอ่ะ”
ผมยิ้มรับคำบ่นของลูอีที่ตีหน้ายุ่งเดินเข้ามาหา แต่ทั้งที่เป็นแบบนั้นเขาก็ยังอุตส่าห์ยืนนิ่งๆให้ผมสวมหมวกกันน็อคให้อย่างที่ทำเป็นประจำ ผมล็อคหมวกที่ใต้คางของเขาก่อนจะเช็คให้แน่ใจว่ามันจะช่วยรักษาความปลอดภัยให้ลูอีได้ มือก็เอื้อมไปคว้าแขนแล้วออกแรงดึงเพียงเบาๆจนคนตัวเล็กยอมขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์ของผมด้วยหน้ามุ่ยที่ดูยังไงมันก็ยังน่ารัก
“ก็อาจารย์ปล่อยเลท เตี้ยอย่างอนดิคนขี้งอนเขาว่าแก่ไวนะ” ผมกระเซ้าเสียงกลั้วหัวเราะ แล้วกถูกตีเบาๆที่ลาดไหล่เป็นของขวัญกลับมา ได้ยินเสียงหวานบ่นหงิงว่า ‘รีบขับไปเลย’ แต่ถึงกระนั้นเรียวแขนเล็กก็ยังไม่ลืมกอดรอบเอวผมแน่นเหมือนที่เขาชอบทำ
ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแต่เลือกที่จะสตาร์ทรถแล้วบิดคันเร่งตามที่ลูอีสั่ง วันนี้ผมกับเขามีนัดติวหนังสือกันนิดหน่อยเพราะอีกสามสี่วันจะมีสอบปากเปล่ากับเจ๊โหด ถึงจะเรียนเอกชีววิทยาก็เถอะ แต่ความรู้ของผมมันมีเท่าหางอึ่ง เอาชีวิตรอดผ่านปีหนึ่งมาได้ก็ถือว่าโคตรเก่งแล้ว ไม่เหมือนลูอีหรอกรายนี้ทำคะแนนดีตลอดเลย
ผมขับรถด้วยความเร็วที่ไม่เร็วและไม่ช้าจนเกินไป ถ้าปกติก็คงไม่ระวังอะไรขนาดนี้หรอกแต่ตั้งแต่มีลูอีเป็นผู้โดยสารประจำตัวแล้วผมรู้สึกว่าตัวเองขับรถเป็นผู้เป็นคนขึ้นเยอะ ใช้เวลาไม่นานพวกเราก็มาถึงหอสมุดกลางของมหาวิทยาลัย สถานที่ที่ผมเข้าออกบ่อยรองจากคณะตัวเอง ผมกับลูอีเดินเข้ามายังด้านในด้วยกัน นักศึกษามากหน้าหลายจากหลายคณะส่วนหนึ่งก็รวมตัวกันอยู่ที่นี่
สายตานับยี่สิบคู่ละจากสิ่งที่ตัวเองกำลังทำจับจ้องมาที่พวกเราแทบจะทันที ผมค่อนข้างชินกับการถูกมองนะเพราะยังไงเขาก็มองผมเป็นผู้ชายเจ้าชู้บ้าบอไรนั่นอยู่แล้ว แต่กับลูอีที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น คนตัวเล็กสาวเท้าเข้าใกล้ผมมากขึ้น หน้าก็ก้มงุดเพื่อหลบหลีกจากสายตาคนรอบข้าง
ผมก็ไม่ชอบให้คนอื่นมองลูอีด้วยสายตาแบบนั้นนะ บางทีก็เหมือนจะมองด้วยความอิจฉาแต่บางคนก็คล้ายมองด้วยความดูแคลน ดังนั้นผมจึงตัดสินใจคว้ามือเล็กนั่นมากุมเอาไว้หลวมๆแล้วพาเดินเลี่ยงไปหาโต๊ะที่ว่างโดยไม่สนว่าใครจะมองว่ามันควรไม่ควรยังไง
“บอกกี่รอบแล้วว่าไม่ต้องไปสนใจคนพวกนั้น” ผมขยี้กลุ่มผมนุ่มสีอ่อระต้นคอด้วยความหมั่นเขี้ยวหลังจากพวกเราหาที่นั่งได้ ขอบคุณพระเจ้าที่มันอยู่มุมห้องและติดเสา ลูอีจะได้ไม่ต้องอึดอัดกับสายตาคนเหล่านั้น
คนตัวเล็กหน้าบูดบึ้ง ตวัดดวงตาสีฟ้าขุ่นเคืองมาเถียง “ไม่ชอบถูกมองอ่ะ มันเหมือนฉันไปทำความผิดไรไว้เลย”
ผมหัวเราะ
“เตี้ยก็ทำความผิดจริงๆนั่นแหละ”
“หะ ฉันเนี่ยนะ”
“ช่าย…” ลากเสียงยาวเพื่อยั่วให้อีกคนอยากรู้ ผมชอบจริงๆนะเวลาเห็นลูอีขมวดคิ้วมุ่นแบบนั้น คุณอาจจะมองว่าผมโรคจิตก็ได้ แต่ผมว่าผมเหมือนคนหลงแฟนเลย
ไม่ว่าลูอีจะอะไรทำไมมันถึงได้ดูน่ารักไปหมดเลยนะ
“ฉันทำอะไรอ่ะ”
“ข้อหาร้ายแรง”
“แฮร์รี่บอกมาเดี๋ยวนี้เลย”
“บอกดีไหมนะ”
ผมแสร้งทำหน้าครุ่นคิดราวกับมันเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสเต็มประดา เรียกเอานัยน์ตาคู่สวยนั่นจ้องเขม่งเหมือนจะฆ่าแกงกันให้ได้ มีลางสังหรณ์ว่าจะถูกงอนในอีกไม่ช้า แต่ความสุขของผมการได้แกล้งลูอี ผมเลยทำเพียงฉีกยิ้มกว้างส่งกลับไป
แล้วก็เป็นตามที่คิดแหละ ลูอีงอนแล้ว
“เตี้ยงอนอีกล้ะ” ผมแกล้งแหย่แล้วเขยิบเก้าอี้เข้าหาจนพวกเราตัวแทบจะติดกัน คนตัวเล็กเมินผมโดยการหยิบเอาหนังสือเล่มหนาขึ้นมาเปิด … ขนาดงอนอยู่ลูอียังน่ารักเลยให้ตายดิ หนังสือที่เขาเอาขึ้นมาไม่ใช่หนังสือของเขานะ แต่มันเป็นหนังสือของผมที่มีเนื้อหาที่ต้องใช้สอบในอีกสี่วันข้างหน้า หน้าที่ลูอีเปิดก็คือหน้าที่ผมเน้นเอาไว้ว่าออกสอบทั้งนั้น
ผมต้องง้อแล้วล่ะ ลูอีน่ารักไม่ทน
แก้มป่องๆเป็นบริเวณที่ผมเลือกที่จะจิ้มลงไปเป็นการปูทาง ก็พอรู้ว่าลูอียังไม่หายงอนง่ายๆหรอกแต่ก็ยังจิ้มซ้ำๆแบบนั้นเอาว่าเป็นการกอบโกยผลประโยชน์แก่ตัวเองล้ะกัน
“ไม่อยากรู้แล้วเหรอว่าตัวเองทำผิดข้อหาอะไร”
“ไม่อยากรู้แล้ว ขี้ลีลา”
“โหยก็อยากหยอกอ่ะ ชอบเวลาเตี้ยทำหน้าบูดๆ”
“ก็แล้วฉันทำอะไรผิดมากมายล่ะ”
“ขโมยหัวใจฉันไปนี่ร้ายแรงพอป่ะ”
โดนไปหนึ่งดอก
คนถูกหยอดหันขวับมาจิกกัดทางสายตาใส่ผมคอแทบเคล็ด ตรงข้ามกับใบหน้าน่ารักที่แดงแจ๋เหมือนโดนมือดีมาปาสีใส่ กำปั้นเล็กชกบริเวณหัวไหล่ผมเบาๆก่อนเจ้าของมือน้อยนั่นจะหันกลับไปซ่อนดวงหน้าขึ้นสีโดยการก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ แต่พวกเราน่ะนั่งใกล้กันจะตาย ระยะห่างแค่นี้ปกปิดอะไรผมไม่ได้หรอกนะ ความน่ารักของลูอียังอยู่ในกรอบสายตาของผมไม่หายไปไหน
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะนั่งมองเขาแบบนี้ทุกวันเลย
ตลอดไปได้ยิ่งดี…
s t o r y o f m y l o v e l a r r y s t y l i n s o n
Q : แฟนคนนี้ของคุณน่ารักจังนะคะ
HS : ครับ เขาน่ารัก…น่ารักมากๆเลย *ยิ้ม*
Q : คุณชอบอะไรในตัวเขาคะ
HS : ผมเหรอ ผมชอบความน่ารักของเขานั่นแหละ เขาน่ะหน้าตาน่ารัก นิสัยน่ารัก เสียงกับรอยยิ้มก็น่ารัก แต่ที่ชอบที่สุดคงเป็นตรงที่เขาตัวเล็กกว่าผมเยอะเลยครับ ผมชอบเวลาที่ผมกอดเขาอ่ะ *หัวเราะเสียงดัง*
s t o r y o f m y l o v e l a r r y s t y l i n s o n
…
..
.
ฤดูหนาวมาถึงแล้ว
เมื่อก่อนผมเกลียดฤดูหนาวมากเลยนะ มันเป็นฤดูที่น่าเบื่อ ออกจากบ้านก็เจอลมหนาว ต้องใส่เสื้อหนาๆหลายๆชั้นอึดอัดจะตายชัก แต่ครอบครัวผมน่ะชอบฤดูหนาวกันทุกคนเลย เจมม่าบอกว่าฤดูหนาวเป็นฤดูที่เต็มไปด้วยเทศกาล เธอชอบเวลาเห็นแสงไฟหลากสีถูกประดับตามท้องถนน แม่ของผมบอกว่าฤดูหนาวเป็นฤดูที่ทำให้ครอบครัวอบอุ่นเพราะพ่อจะกอดแม่เวลาเข้านอน ส่วนพ่อเหรอ..พ่อบอกว่าชอบฤดูหนาวเพราะได้กอดแม่แน่นๆ
ผมคบกับคนมาหลายคน ในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ก็เคยคบ ผมเคยนอนกอดพวกเธอนะ แต่มันไม่ได้ทำให้ผมชอบฤดูหนาวขึ้นมาเลยสักนิด ผมไม่เคยเข้าใจคำของแม่และพ่อเลย
จนกระทั่งตอนนี้
“เตี้ยมือเย็นจัง” ผมพูดแล้วจับมือเย็นเฉียบของลูอีซุกเข้ากระเป๋าเสื้อโค้ชของตัวเองก่อนจะกุมมือเขาเอาไว้อีกทีหนึ่ง
ถนนระหว่างคณะถูกปิด หากสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือร้านค้าหลายร้านตั้งเต็มสองข้างทาง นักศึกษาหลายต่อหลายคนเดิมกันขวักไขว่ มันไม่แปลกอะไรเพราะนี่คืองานประจำปีของมหา’ลัยพวกเรา อีกไม่กี่วันก็จะปีใหม่แล้ว ดังนั้นทางมหา’ลัยจึงได้จัดงานนี้ขึ้นเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่ มีนักศึกษาบางกลุ่มออกร้านขายเสื้อผ้าของกระจุกกระจิกรวมถึงของกินไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนจากข้างนอกมาขายมากกว่า ผมคิดว่ามันเป็นงานที่ดีนะ ติดแต่ปีก่อนผมไม่เคยมาเพราะอากาศมันหนาวจนไม่อยากออกจากหอ
แต่ปีนี้…ผมยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย โดยมีคนเคียงข้างคือเจ้าของร่างเล็กน่าทะนุถนอมที่ชื่อลูอี ทอมลินสัน
ลูอีอ้อนจะมาให้ได้นี่นา อะไรที่ทำให้เขายิ้มได้ผมก็ยอมหมดแหละ
“แฮร์รี่ๆๆๆๆ กลุ่มพี่เลียมออกร้านขายช็อคโกแล็ตอยู่ข้างหน้าอ่ะ ไปซื้อกัน” เสียงหวานเจื้อยแจ้วมาพร้อมแขนข้างที่ว่างเอื้อมมาเขย่าแขนผมเหมือนเด็กเล็กๆที่อ้อนพ่อให้ซื้อลูกโป่งสวรรค์ให้ ผมมองตามมือของลูอีเห็นหน้าพี่เลียมที่ยืนอยู่หลังตู้ใสเด่นหรามาเป็นคนแรก ต่อมาคือใบหน้าหนวดเครารกรุงรังของพี่เซน แล้วที่ยืนข้างๆพี่เซนก็คือไอ้ไนออลที่ได้ข่าวว่าอยู่คนละคณะแล้วไปยุ่งกับพวกพี่เลียมได้ไงวะ -_-
ผมพยักรับก่อนจะโดนคนตัวเล็กลากให้เดินตามทางร้านนั้น
“ว่าไงคู่รัก” พี่เซนทักทายอย่างเป็นกันเองพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้หน้าเถื่อนๆนั่นดูเป็นมิตรขึ้นมาอีกสามสิบเปอร์เซ็นโดยมีพี่เลียมยืนยิ้มดูดีเป็นลูกคู่อยู่ใกล้ๆ
“หวัดดีครับ พี่เลียมทำไมมันเหลือแค่นี้อ่ะ” คนตัวเล็กข้างกายจดๆจ้องๆที่ตู้ใสที่กั้นระหว่างตนเองกับช็อคโกแล็ตหน้าตาน่ากินเอาไว้ ตอนแรกก็มองเฉยๆหรอกแต่ทำไมไปๆมาๆลูอีถึงเกาะตู้ก็ไม่รู้ 555555555555555555555555555555555555555
“เรามาช้าคนอื่นเขาก็ซื้อไปหมดแล้วสิ คนขายหล่อก็งี้” ไม่น่าเชื่อว่าคนแบบพี่เลียมจะกล้าเล่นมุขนี้ =___=
ผมปล่อยให้ลูอีเลือกช็อคโกแล็ตไปส่วนตัวเองก็ยืนรอเงียบๆ แอบอมยิ้มกับตัวเองในใจยามเห็นดวงตาสีฟ้าเป็นประกายสดใสเมื่อเจ้าตัวชี้นิ้วบอกจะเอาชิ้นนั้นชิ้นนี้
ลูอีชอบช็อคโกแล็ตมาก มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยแหละไม่มากไม่ธรรมดา ถ้าคุณไปที่ห้องของเขาแล้วลองเปิดตู้เย็นนะ นอกจากนม น้ำเปล่า ผลไม้ แล้วก็ของกินอีกสองสามอย่าง พื้นที่ที่เหลือลูอีใช้เก็บช็อคโกแล็ตหมดเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชอบมากมายขนาดนั้น เขาชอบมันมากๆจริงชนิดที่ว่าเมื่อสองเดือนก่อนพวกเราทะเลาะกันใหญ่โต ลูอีโกรธไปสามวันเต็มๆ ผมง้อทุกวิถีทางก็ไม่สำเร็จจนสุดท้ายก็ต้องซื้อช็อกโกแล็ตล็อตใหญ่ขนไปให้ถึงหอนั่นแหละลูอีถึงยอมคุยกับผม ลูอีบอกว่ากินแล้วทำให้หายเครียดแต่ ผมมักจะจำกัดปริมาณการกินของเขาในแต่ละวัน เดี๋ยวกินมากๆโรคนั่นโรคนี่ก็ตามมาอีก ลูอียิ่งเป็นพวกป่วยง่ายอยู่
ว่าแต่นี่กะจะเหมาร้านพี่เลียมเลยไหมเนี่ย
“เยอะไปแล้วเตี้ยเยอะไปแล้ว พี่เลียมเอาออกสักสองสามอันดิ๊” ผมท้วงแล้วคว้ามือเล็กๆที่ยังชี้ๆๆๆไม่หยุดมากุมไว้ในอุ้งมือ ลูอีพยายามสะบัดออกแล้วส่งเสียงประท้วงไม่ให้พี่เลียมคีบช็อคโกแล็ตออกจากถุง แต่ผมก็บอกว่าให้คีบออกไปซะไม่งั้นผมไม่จ่ายเงินจริงๆด้วย
ตบตีกันไม่นานเงินส่วนหนึ่งในกระเป๋าของผมก็หายวับไปกับตาแล้วได้ถุงที่บรรจุช็อคโกแล็ตหลายรูปแบบหลายขนาดมาถือแทน นี่ก็เกือบโดนลูอีงอนแล้วดีนะหาวิธีอ้อนทันไม่งั้นได้ง้อกันยาว เรื่องช็อคโกแล็ตนี่ลูอีจริงจังมากนะครับบางทีผมก็เครียด #ถอนหายใจ
พวกเราเดินดูของกันอีกสักพัก บทสรุปคือผมกับลูอีได้เสื้อไหมพรมมาคนละหนึ่งตัว(ผมเลือกให้เขา เขาเลือกให้ผม) แบีนนี่สีเทาอีกหนึ่งใบ(อันนี้ลูอีอยากได้เอง) แล้วก็ของคาวอีกสองสามอย่าง(ลูอีชอบซื้อไปยัดไว้ตู้เย็นที่หอผม วันดีคืนดีพวกเราก็จะทำอาหารกัน) อย่าถามว่าเงินใคร ผมเต็มใจจ่ายให้เขาเองแหละความจริงค่าบีนนี่ลูอีบอกจะจ่ายเองแต่ผมไม่ยอม
ตอนนี้พวกเราทั้งคู่ย้ายถิ่นฐานจากงานประจำมาที่ร้านอาหารแถวๆหลังมหา’ลัยแทน คืนนี้คนน้อยแฮะสงสัยเพราะนักศึกษาส่วนใหญ่อยู่ที่งานกันหมด ทั้งร้านมีแค่โต๊ะผมกับลูกค้าคนอื่นๆสี่ห้าโต๊ะ ตอนเดินเข้ามาผมเห็นพี่แอนดี้จูบกับแฟนสาวของเขาอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์ ตอนแรกว่าจะทักนะแต่คิดอีกทีอย่าไปขัดจังหวะเขาอีกกว่า
“เตี้ยอยากกินไร”
“ไม่หิวอ่ะ” ลูอีเป็นแบบนี้ทุกที เวลาพามากินข้าวชอบบอกไม่หิว ตัวเลยเหลือแค่นี้ไงให้ตาย
ผมเรียกพนักงานมารับออเดอร์โดยไม่สนใจเสียงบ่นของลูอีที่บอกว่าสังมาเยอะแยะก็กินไม่หมดอยู่ดี แล้วไงอ่ะเงินก็เงินผม เดี๋ยวอาหารมาผมก็บังคับเขากินอยู่ดีแหละ
เสียงเพลงเบาๆถูกเปิดดังคลอภายในร้าน ร้านนี้เป็นร้านที่ผมพาลูอีมาบ่อยพอสมควร ผมชอบบรรยากาศของร้านนี้นะ มันไม่สว่างจนเกินไปทำให้พวกเรารู้สึกเป็นส่วนตัวกว่าร้านอื่นๆ ที่ประจำของผมกับเขาก็คือโต๊ะติดกำแพงที่ไม่มีกระจก บนโต๊ะมีเขียนไขสีสวยถูกจุดเอาไว้ส่งกลิ่นหอมลอยเตะจมูก วันนี้ประตูร้านถูกเปิดเอาไว้ทำให้ลมหนาวสามารถเล็ดรอดเข้ามาได้ ขนาดนั่งลึกขนาดนี้ผมยังรู้สึกหนาวเลย
แต่คนที่หนาวกว่าคงจะเป็นคนตัวเล็กที่นั่งกอดอกอยู่บนโซฟาขนาดเล็กฝั่งตรงข้ามน่ะนะ
“เตี้ยมานี่มา”
ผมแยกขาออกให้พอมีที่ว่างสำหรับคนตัวเล็กๆหนึ่งคน ลูอีที่รู้ว่าผมกำลังทำอะไรเมื่อโดนเรียกแบบนั้นก็ไม่รีรอที่จะลุกแล้วเดินอ้อมมาหา ข้อมือเล็กถูกผมดึงเบาๆเพื่อให้ร่างของเขาทรุดลงระหว่างขาของผม
“หนาวมากเลยเหรอ” มือสองข้างกอดรอบเอวก่อนกระชับแน่นเพื่อมอบความอบอุ่นให้แก่ร่างในอ้อมแขน แผ่นหลังแคบสัมผัสแนบชิดกับอกกว้างของผม ลูอีพยักหน้าหงึกหงิกขณะพยายามเบียดร่างเข้าหาผมมากยิ่งขึ้น มือน้อยเย็นเฉียบบีบมือของผมแน่นราวกับกลัวว่าผมจะหายไป
ผมชอบเวลาเขาทำแบบนี้จัง…
บีนนี่ที่เคยอยู่ในถุงพลาสติกบัดนี้ถูกผมหยิบขึ้นมาก่อนสวมลงบนศีรษะของคนตัวเล็กอย่างช้าๆ กลุ่มผมสีอ่อนนุ่มน่าสัมผัสจนอดไม่ได้ที่จะก้มลงกอบโกยกลิ่นหอมที่ชอบมันหนักหนาเข้าเต็มปอด มือยังคงกอดเอวของลูอีเอาไว้ ผมชอบเวลาที่พวกเราใกล้ชิดกันขนาดนี้ …
ใกล้จนได้รับไออุ่นของกันและกัน
“อุ่นขึ้นไหม”
“อื้อ”
ท่ามกลางลมหนาวแบบนี้นะ …
กับบรรยากาศอบอุ่นแบบนี้ …
ถ้าขอสักจูบ …
ก็คงไม่โดนด่าแล้วล่ะ
s t o r y o f m y l o v e l a r r y s t y l i n s o n
Q : ฟังแล้วดูพวกคุณก็รักกันดีนะคะ อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ต้องจบความสัมพันธ์คะบอกได้ไหม
HS : พอเราเรียนจบเขาก็ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศน่ะครับ ช่วงแรกพวกเราก็ยังติดต่อกันอยู่ แต่เขาเรียนหนักขึ้น ผมเองก็เริ่มเข้าวงการ เวลาว่างของตัวเราเองยังแทบไม่มี พวกเราเริ่มห่างกันเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ไม่ได้ติดต่อกันครับ
Q : ไม่ได้ติดต่อเหรอคะ
HS : ครับ… พูดกันตามความเป็นจริงพวกเรายังไม่ได้เลิกกันนะ แค่ต่างฝ่ายต่างไม่มีเวลาให้กันจนระยะห่างระหว่างเราเพิ่มมากขึ้นแล้วก็เงียบหายไปเอง สามปีกว่าแล้วนะที่ผมไม่ได้คุยกับเขา
Q : ถ้าอย่างนั้น…อันนี้ขออนุญาตถามนอกสคริปนะคะ
HS : ถามได้ทุกอย่างเลยครับ *หัวเราะ*
Q : ตอนนี้คุณลืมเขาได้รึยังคะ
HS : ลืมเหรอ อืม… ถึงจะผ่านไปแล้วสามปีกว่าแล้ว แต่ถ้าถามว่าลืมรึยังเหรอ
“เขายังเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับผมนะ”
s t o r y o f m y l o v e l a r r y s t y l i n s o n
บทความ SF อันเก่าโดนแบนถาวรเพราะ #goodbadyourman ค่ะน้ำตาจะไหล
ต้องระเห็จมาเปิดบทความใหม่ เรื่องเก่าๆก็เก็บไว้ทยอยลงเนอะ
สำหรับฟิคเรื่องนี้นะคะ ……………………..
#เผ่นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน 5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
ปล.อาจมีโบนัสถ้ามีคนอยากอ่าน .___________.)///
@puppapxiion
ความคิดเห็น