ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    .♡ - One Direction l Short Story 。¦ - [1D]

    ลำดับตอนที่ #1 : ` 1st. ¦ - `S.O.M.L.(story of my love)。[♡ end]

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 56




    S.O.M.L.

     

    Story Of My Love

     

     

    Harry Styles & Louis Tomlinson

     

     

    สำคัญ : เวิ่นลงทวิตเตอร์ได้ด้วยการติดแท็ก #larrystoryofmyLOVE นะคะ อยากให้เวิ่นมากนะ TOT

    ปล.เหยเตง เวิ่นได้และเม้นได้นะบ่องตง 5555555555555555555555

     

    หมายเหตุ* : ภาษาห่วยแตกมากขอถอนหายใจแรงๆสามสี่ที OTZ / คำผิดยังไม่ได้แก้กรรม T^T



     

     

     

     

    - - - - - - - - - -

     

     

     

     



     

    [!!] Secret Scoop : แฮร์รี่ สไตลส์ เปิดอกเล่ารักฝังใจ ไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน! 
     

     

     

                Q : ช่วยเล่าเรื่องหัวใจของคุณให้เราฟังสักนิดได้ไหมคะ

                HS : เอาจริงๆนะผมไม่ได้รู้สึกพิเศษกับใครมาสามปีกว่าแล้ว ถ้าจะเล่าก็คงต้องเล่าเรื่องคนรักเก่า คุณอยากจะฟังมันเหรอครับ

                Q : แฟนๆอยากฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับคุณค่ะ

                HS : โอเค บอกไว้ก่อนเลยว่าเรื่องนี้ผมไม่เคยเล่าที่ไหน ที่นี่คือที่แรก มันอาจจะดูน้ำเน่า แต่ถ้าคุณอยากฟังผมก็เต็มใจจะเล่านะ

                Q : *ยิ้ม*

                HS : ครับ *หัวเราะ* ผมกับเขาเรียนมหาลัยเดียวกันที่บ้านเกิดของผม พวกเราเริ่มคบกันตอนปีสอง เขาน่ารักนะครับถึงจะขี้งอนไปบ้าง แต่ผมก็รู้สึกว่าพวกเราเข้ากันได้ดีนะ คนในมหาลัยอิจฉากันใหญ่เลย *หัวเราะ*

     

     

     

     

     

    s t o r y o f m y l o v e l a r r y s t y l i n s o n 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ..

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

     

     

    ฉันชอบนายนะ ลองคบกันไหม

     

    หลังจากตบตีกับความคิดตัวเองอยู่นานสองนาน ในที่สุดผมก็สามารถรวบรวมความกล้าที่จะเอ่ยออกไปได้สำเร็จ

     

    ลืมตาดูโลกมายี่สิบปีกับอีกสองสามสี่เดือน สารภาพรักกับคนมาหลายต่อหลายคน ผมสาบานเลยว่าไม่เคยมีครั้งไหนที่รู้สึกตื่นเต้นเท่าครั้งนี้ สิ่งมีชีวิตในอกข้างซ้ายที่เคยเต้นเป็นจังหวะบัดนี้กระเพื่อมรัว เร็ว และแรงจนสัมผัสได้ มือไม้ชาและดูเกะกะไม่รู้จะเอาไปซุกไว้ตรงไหน สุดท้ายก็ได้แต่กำหมัดแน่นแล้วทิ้งลงข้างกายคล้ายคนเก็บกดก็ไม่ปาน ผมรู้สึกว่าริมฝีปากตัวเองแห้งผาก ความมั่นใจที่เคยมีมากมายลดฮวบเหลือแค่ศูนย์

     

    ภายใต้ท้องฟ้าสีครามยามเย็นกับแสงไฟสลัว ผมกลับเห็นดวงหน้าน่ารักของคนตรงหน้าชัดเจน ลูอีจ้องผมเขม่งด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกว่าเขากำลังจะสื่ออะไร อาจจะตกใจ ดีใจ สงสัย หรือไม่ก็รังเกียจ ให้ตายเถอะ ผมรู้สึกหวาดกลัวดวงตาสีสวยนั่นจนต้องทำตัวเป็นไอ้ตุ๊ดก้มหน้ามองพื้นดิน

     

    กลัวโดนปฏิเสธ ผมกลัวโดนเขาปฏิเสธ

     

    เป็นเวลาสักพักใหญ่ๆที่พวกเราทั้งสองคนปล่อยให้ความเงียบเป็นตัวกลาง เขาไม่ตอบผมก็ปอดแหกเกินกว่าจะย้ำคำถาม สิ่งที่ทำคือการหยุดสายตาที่ปลายเท้าตัวเองราวกับมันมีอะไรน่าสนใจนักหนา ทั้งที่ความจริงสิ่งที่ต้องการทำคือการเงยหน้าขึ้นสบกับนัยน์เนตรสีน้ำทะเลคู่นั้น ริมฝีปากผมเม้มกันจนแทบจะเป็นเส้นตรง ว่ากันตามจริงสมองของผมตอนนี้ขาวโพลนไปหมด ไม่รู้ว่าควรอย่างไรหากคำตอบที่ได้คือคำว่าตกลง

     

    และไม่รู้จะทำเช่นไรหากลูอีปฏิเสธกลับมา

     

    ชายหนุ่มที่คนทั้งมหาวิทยาลัยรู้จักในฐานะเพลย์บอยด้านได้อายอดไม่ได้เก่งกล้าสามารถอย่างที่พวกเขาเข้าใจเลยสักนิด

     

    ผมมันก็แค่ผู้ชายขี้ปอดคนหนึ่ง

     

    นานแสนนานในความรู้สึกที่คนตัวเล็กตรงหน้าเอาแต่ยืนนิ่ง ระหว่างเรามีเพียงความเงียบงันจนได้ยินเสียงใบไม้ไหวกอปรกับสายลมแผ่ว ผมคิดเอาไว้ว่าความรักครั้งนี้คงได้แห้วเป็นสิ่งตอบแทนแล้วแน่ๆแค่คิดแบบนั้นขอบตาของผมมันก็ชักจะร้อนจนต้องกระพริบตาปริบๆไล่น้ำงี่เง่าที่ตั้งท่าจะไหล ส่วนไอ้หัวใจที่เต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเมื่อครู่ก็เหมือนจะหมดแรงลงดื้อๆ

     

                ให้ตาย

     

    มันยังเต้นอยู่รึเปล่านะ

     

               

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้

     

     

     

              เสียงหวานที่ได้ยินทำผมผงกศีรษะขึ้นด้วยความตกใจระคนสับสน ปากขยับเพื่อจะถามว่าที่พูดออกมาเขาหมายความว่าอะไรกันแน่ แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรภาพที่เห็นก็ทำให้หัวใจที่เกือบจะหยุดเต้นได้กลับมากระเพื่อมรัวแรงอีกครั้ง

     

                ลูอียืนอยู่ตรงหน้าผม ผมเห็นเขากัดริมฝีปากตัวเอง เห็นดวงตาสีฟ้าที่มองมาอย่างงะๆเงิ่นๆ เห็นพวงแก้มใสขึ้นสี

     

                น่ารักจัง

     

                บอกเร็วกว่านี้ก็กลัวโดนลูตบกลับมา ตอบด้วยเสียงที่ฟังแล้วก็อยากตบปากตัวเองสักทีสองที มันจะสั่นเพื่อใครกันวะ ไหนจะมือที่ยกขึ้นมาเกาท้ายทอยแก้เก้อของผมนี่อีก เห็นสภาพตัวเองแล้วไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเคยไปม่อใครต่อใครเอาไว้หลายสิบคน ผมเหมือนเด็กประถมกำลังข้อความรักจากพี่มัธยมเลย

     

                ไม่ทำแบบนั้นหรอก…”

     

    “…”

     

    “…ก็รอฟังอยู่เหมือนกันนี่นา 

     

     

     

    (T____________________T)

    #)_#(@_())%)#_#($*#%_()_#$(_)$(#_($#)$#$&%_#(@%#_@($+_@T^$*@&_@*#()#*

     

     

     

    บอกทีดิ๊ว่าผมไม่ได้หูฝาดหรือผิดหวังจนประสาทหลอน ลูอีกำลังจะสื่อว่าเขาก็ชอบผมใช่ไหม มันคือคำตอบรับใช่รึเปล่า

     

    ผมรู้สึกได้ว่าริมฝีปากตัวเองแย้มรอยยิ้มที่กว้างที่สุดเท่าที่เคยยิ้มมา สมองก็ยังขาวโพลนเหมือนเดิม แต่เมื่อเรียวปากได้รูปของลูอีบิดโค้งส่งรอยยิ้มน่ารักกลับมาให้.. รู้ตัวอีกทีผมก็ถลาเข้าไปรวบตัวเจ้าของกลุ่มผมสีอ่อนเข้าสู่อ้อมกอดแล้วอุ้มคนตัวเล็กหมุนไปรอบๆเหมือนคนบ้า ได้ยินเสียงลูอีหัวเราะข้างใบหู ก่อนที่พวกเราทั้งคู่จะล้มลงบนพื้นหญ้าสีสดพร้อมๆกัน

     

    มีความสุขยิ่งกว่าเอ็นติดอีก

     

                ปล่อยได้แล้วเดี๋ยวก็มีคนมาเห็นคนตัวเล็กว่าพลางพยายามใช้มือน้อยๆนั่นผลักให้ผมลุกออก แต่ผมไม่ใช่คนว่าง่ายขนาดนั้นสักหน่อย เย็นขนาดนี้ไม่ค่อยมีนักศึกษาอยู่แถวนี้แล้ว ดังนั้นผมก็เลยลอยหน้าลอยตากอดลูอีต่อเหมือนเดิม

     

                อยากกอดแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ขอกอดก่อนนะ

     

                “เว่อร์

     

                “พูดจริงๆ ชอบลูตั้งแต่ต้นปีแล้วอ่ะตอนนั้นคือโคตรไม่อยากเป็นเพื่อน

     

                “…” ลูอีไม่ตอบแฮะ แต่เขากำลังพยายามเบี่ยงหน้าแดงๆของตัวเองหลบจากสายตาผมอยู่ อยากบอกว่าไม่มีประโยชน์หรอก ผมเห็นเต็มสองตาทุกอย่างเลย ท่าทางแบบนั้นแหละที่ทำให้หัวใจของผมพองโตจนเหมือนจะหลุดออกมาจากอกอยู่แล้ว

     

                ตกลง...ชอบฉันใช่ไหมผมถามเสียงแผ่วข้างใบหูที่แดงไม่จากดวงหน้าของเขา แขนก็กระชับมั่นรั้งร่างเล็กให้พวกเราใกล้กันมากยิ่งขึ้น

     

                คำถามนี้แตกต่างจากคำถามแรกอย่างสิ้นเชิงเพราะผมไม่ต้องกลัวจะถูกปฏิเสธอีกแล้ว

     

                อื้อ

     

                “อื้ออะไร

     

                “ก็ชอบ

     

                “ชอบใคร

     

                “ชอบแฮร์รี่

     

                “ใครชอบแฮร์รี่

     

                “ลูอี

     

                “ลูอีทำไมนะ

     

                “ลูอีชอบแฮร์รี่

     

                “แฮร์รี่ก็ชอบลูอีเหมือนกันชอบมากๆเลยว่าแล้วก็ฉวยโอกาสหอมแก้มนุ่มนั่นหนึ่งที ผมอยากทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว.. และตอนนี้ผมก็ได้ทำมันแล้ว ลูอีหน้าแดงแล้วพยายามผลักผมออกอีกครั้ง แต่ผมก็ยึดมือเขาเอาไว้กับอก สัมผัสได้ถึงหัวใจสองดวงที่ดูเหมือนพวกมันจะเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน

     

     

     

                ถ้าถามว่าคนที่มีความสุขที่สุดในโลกคือใคร

                ผมตอบได้เลยว่าคือตัวผมเอง

     

     

     

     

     

    s t o r y o f m y l o v e l a r r y s t y l i n s o n

     

     

     

                Q : คุณกำลังจะบอกว่าคุณเคยเป็นคนเจ้าชู้ แต่พอมาเจอเขาคุณก็เลิกทำแบบนั้นเหรอคะ

                HS : จะว่างั้นก็ได้มั้งครับ ตั้งแต่คบกับเขาผมก็ไม่ได้ไปยุ่งกับใครอีกเลย *หัวเราะ*

    Q : แล้วตอนที่คบกันความสัมพันธ์ของพวกคุณเป็นยังไงบ้างคะ

                HS : พวกเราก็เหมือนคู่รักทั่วไปแหละครับ ผมจะเป็นคนไปรับไปส่งเขา ถ้าว่างๆเราก็จะนั่งติวหนังสือกัน ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเท่าไหร่แต่ผมก็มีความสุขกับความสัมพันธ์แบบนี้นะ

     

     

     

     

     

    s t o r y o f m y l o v e l a r r y s t y l i n s o n

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ..

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

     

     

    มาช้าอ่ะ

     

    ผมยิ้มรับคำบ่นของลูอีที่ตีหน้ายุ่งเดินเข้ามาหา แต่ทั้งที่เป็นแบบนั้นเขาก็ยังอุตส่าห์ยืนนิ่งๆให้ผมสวมหมวกกันน็อคให้อย่างที่ทำเป็นประจำ ผมล็อคหมวกที่ใต้คางของเขาก่อนจะเช็คให้แน่ใจว่ามันจะช่วยรักษาความปลอดภัยให้ลูอีได้ มือก็เอื้อมไปคว้าแขนแล้วออกแรงดึงเพียงเบาๆจนคนตัวเล็กยอมขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์ของผมด้วยหน้ามุ่ยที่ดูยังไงมันก็ยังน่ารัก

     

    ก็อาจารย์ปล่อยเลท เตี้ยอย่างอนดิคนขี้งอนเขาว่าแก่ไวนะ ผมกระเซ้าเสียงกลั้วหัวเราะ แล้วกถูกตีเบาๆที่ลาดไหล่เป็นของขวัญกลับมา ได้ยินเสียงหวานบ่นหงิงว่า รีบขับไปเลย แต่ถึงกระนั้นเรียวแขนเล็กก็ยังไม่ลืมกอดรอบเอวผมแน่นเหมือนที่เขาชอบทำ

     

    ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแต่เลือกที่จะสตาร์ทรถแล้วบิดคันเร่งตามที่ลูอีสั่ง วันนี้ผมกับเขามีนัดติวหนังสือกันนิดหน่อยเพราะอีกสามสี่วันจะมีสอบปากเปล่ากับเจ๊โหด ถึงจะเรียนเอกชีววิทยาก็เถอะ แต่ความรู้ของผมมันมีเท่าหางอึ่ง เอาชีวิตรอดผ่านปีหนึ่งมาได้ก็ถือว่าโคตรเก่งแล้ว ไม่เหมือนลูอีหรอกรายนี้ทำคะแนนดีตลอดเลย

     

    ผมขับรถด้วยความเร็วที่ไม่เร็วและไม่ช้าจนเกินไป ถ้าปกติก็คงไม่ระวังอะไรขนาดนี้หรอกแต่ตั้งแต่มีลูอีเป็นผู้โดยสารประจำตัวแล้วผมรู้สึกว่าตัวเองขับรถเป็นผู้เป็นคนขึ้นเยอะ ใช้เวลาไม่นานพวกเราก็มาถึงหอสมุดกลางของมหาวิทยาลัย สถานที่ที่ผมเข้าออกบ่อยรองจากคณะตัวเอง ผมกับลูอีเดินเข้ามายังด้านในด้วยกัน นักศึกษามากหน้าหลายจากหลายคณะส่วนหนึ่งก็รวมตัวกันอยู่ที่นี่

     

                สายตานับยี่สิบคู่ละจากสิ่งที่ตัวเองกำลังทำจับจ้องมาที่พวกเราแทบจะทันที ผมค่อนข้างชินกับการถูกมองนะเพราะยังไงเขาก็มองผมเป็นผู้ชายเจ้าชู้บ้าบอไรนั่นอยู่แล้ว แต่กับลูอีที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น คนตัวเล็กสาวเท้าเข้าใกล้ผมมากขึ้น หน้าก็ก้มงุดเพื่อหลบหลีกจากสายตาคนรอบข้าง

     

                ผมก็ไม่ชอบให้คนอื่นมองลูอีด้วยสายตาแบบนั้นนะ บางทีก็เหมือนจะมองด้วยความอิจฉาแต่บางคนก็คล้ายมองด้วยความดูแคลน ดังนั้นผมจึงตัดสินใจคว้ามือเล็กนั่นมากุมเอาไว้หลวมๆแล้วพาเดินเลี่ยงไปหาโต๊ะที่ว่างโดยไม่สนว่าใครจะมองว่ามันควรไม่ควรยังไง

     

                บอกกี่รอบแล้วว่าไม่ต้องไปสนใจคนพวกนั้นผมขยี้กลุ่มผมนุ่มสีอ่อระต้นคอด้วยความหมั่นเขี้ยวหลังจากพวกเราหาที่นั่งได้ ขอบคุณพระเจ้าที่มันอยู่มุมห้องและติดเสา ลูอีจะได้ไม่ต้องอึดอัดกับสายตาคนเหล่านั้น

     

                คนตัวเล็กหน้าบูดบึ้ง ตวัดดวงตาสีฟ้าขุ่นเคืองมาเถียง ไม่ชอบถูกมองอ่ะ มันเหมือนฉันไปทำความผิดไรไว้เลย

     

                ผมหัวเราะ

     

                เตี้ยก็ทำความผิดจริงๆนั่นแหละ

     

                “หะ ฉันเนี่ยนะ

     

                “ช่าย…” ลากเสียงยาวเพื่อยั่วให้อีกคนอยากรู้ ผมชอบจริงๆนะเวลาเห็นลูอีขมวดคิ้วมุ่นแบบนั้น คุณอาจจะมองว่าผมโรคจิตก็ได้ แต่ผมว่าผมเหมือนคนหลงแฟนเลย

     

                ไม่ว่าลูอีจะอะไรทำไมมันถึงได้ดูน่ารักไปหมดเลยนะ

     

                ฉันทำอะไรอ่ะ

     

                “ข้อหาร้ายแรง

     

                “แฮร์รี่บอกมาเดี๋ยวนี้เลย

     

                บอกดีไหมนะ

     

                ผมแสร้งทำหน้าครุ่นคิดราวกับมันเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสเต็มประดา เรียกเอานัยน์ตาคู่สวยนั่นจ้องเขม่งเหมือนจะฆ่าแกงกันให้ได้ มีลางสังหรณ์ว่าจะถูกงอนในอีกไม่ช้า แต่ความสุขของผมการได้แกล้งลูอี ผมเลยทำเพียงฉีกยิ้มกว้างส่งกลับไป

     

                แล้วก็เป็นตามที่คิดแหละ ลูอีงอนแล้ว

     

                “เตี้ยงอนอีกล้ะ ผมแกล้งแหย่แล้วเขยิบเก้าอี้เข้าหาจนพวกเราตัวแทบจะติดกัน คนตัวเล็กเมินผมโดยการหยิบเอาหนังสือเล่มหนาขึ้นมาเปิด ขนาดงอนอยู่ลูอียังน่ารักเลยให้ตายดิ หนังสือที่เขาเอาขึ้นมาไม่ใช่หนังสือของเขานะ แต่มันเป็นหนังสือของผมที่มีเนื้อหาที่ต้องใช้สอบในอีกสี่วันข้างหน้า หน้าที่ลูอีเปิดก็คือหน้าที่ผมเน้นเอาไว้ว่าออกสอบทั้งนั้น

     

                ผมต้องง้อแล้วล่ะ ลูอีน่ารักไม่ทน

     

                แก้มป่องๆเป็นบริเวณที่ผมเลือกที่จะจิ้มลงไปเป็นการปูทาง ก็พอรู้ว่าลูอียังไม่หายงอนง่ายๆหรอกแต่ก็ยังจิ้มซ้ำๆแบบนั้นเอาว่าเป็นการกอบโกยผลประโยชน์แก่ตัวเองล้ะกัน

     

                “ไม่อยากรู้แล้วเหรอว่าตัวเองทำผิดข้อหาอะไร

     

                “ไม่อยากรู้แล้ว ขี้ลีลา

     

                “โหยก็อยากหยอกอ่ะ ชอบเวลาเตี้ยทำหน้าบูดๆ

     

                “ก็แล้วฉันทำอะไรผิดมากมายล่ะ

     

     

     

     

     

            “ขโมยหัวใจฉันไปนี่ร้ายแรงพอป่ะ

     

              โดนไปหนึ่งดอก

     

              คนถูกหยอดหันขวับมาจิกกัดทางสายตาใส่ผมคอแทบเคล็ด ตรงข้ามกับใบหน้าน่ารักที่แดงแจ๋เหมือนโดนมือดีมาปาสีใส่ กำปั้นเล็กชกบริเวณหัวไหล่ผมเบาๆก่อนเจ้าของมือน้อยนั่นจะหันกลับไปซ่อนดวงหน้าขึ้นสีโดยการก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ แต่พวกเราน่ะนั่งใกล้กันจะตาย ระยะห่างแค่นี้ปกปิดอะไรผมไม่ได้หรอกนะ ความน่ารักของลูอียังอยู่ในกรอบสายตาของผมไม่หายไปไหน

     

     

     

                ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะนั่งมองเขาแบบนี้ทุกวันเลย

                ตลอดไปได้ยิ่งดี

     

     

     

     

     

    s t o r y o f m y l o v e l a r r y s t y l i n s o n

     

     

     

                Q : แฟนคนนี้ของคุณน่ารักจังนะคะ

                HS : ครับ เขาน่ารักน่ารักมากๆเลย *ยิ้ม*

    Q : คุณชอบอะไรในตัวเขาคะ

    HS : ผมเหรอ ผมชอบความน่ารักของเขานั่นแหละ เขาน่ะหน้าตาน่ารัก นิสัยน่ารัก เสียงกับรอยยิ้มก็น่ารัก แต่ที่ชอบที่สุดคงเป็นตรงที่เขาตัวเล็กกว่าผมเยอะเลยครับ ผมชอบเวลาที่ผมกอดเขาอ่ะ *หัวเราะเสียงดัง*

     

     

     

     

     

    s t o r y o f m y l o v e l a r r y s t y l i n s o n

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ..

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

     

     

    ฤดูหนาวมาถึงแล้ว

     

                เมื่อก่อนผมเกลียดฤดูหนาวมากเลยนะ มันเป็นฤดูที่น่าเบื่อ ออกจากบ้านก็เจอลมหนาว ต้องใส่เสื้อหนาๆหลายๆชั้นอึดอัดจะตายชัก แต่ครอบครัวผมน่ะชอบฤดูหนาวกันทุกคนเลย เจมม่าบอกว่าฤดูหนาวเป็นฤดูที่เต็มไปด้วยเทศกาล เธอชอบเวลาเห็นแสงไฟหลากสีถูกประดับตามท้องถนน แม่ของผมบอกว่าฤดูหนาวเป็นฤดูที่ทำให้ครอบครัวอบอุ่นเพราะพ่อจะกอดแม่เวลาเข้านอน ส่วนพ่อเหรอ..พ่อบอกว่าชอบฤดูหนาวเพราะได้กอดแม่แน่นๆ

     

                ผมคบกับคนมาหลายคน ในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ก็เคยคบ ผมเคยนอนกอดพวกเธอนะ แต่มันไม่ได้ทำให้ผมชอบฤดูหนาวขึ้นมาเลยสักนิด ผมไม่เคยเข้าใจคำของแม่และพ่อเลย

     

                จนกระทั่งตอนนี้

     

                “เตี้ยมือเย็นจังผมพูดแล้วจับมือเย็นเฉียบของลูอีซุกเข้ากระเป๋าเสื้อโค้ชของตัวเองก่อนจะกุมมือเขาเอาไว้อีกทีหนึ่ง

     

                ถนนระหว่างคณะถูกปิด หากสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือร้านค้าหลายร้านตั้งเต็มสองข้างทาง นักศึกษาหลายต่อหลายคนเดิมกันขวักไขว่ มันไม่แปลกอะไรเพราะนี่คืองานประจำปีของมหาลัยพวกเรา อีกไม่กี่วันก็จะปีใหม่แล้ว ดังนั้นทางมหาลัยจึงได้จัดงานนี้ขึ้นเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่ มีนักศึกษาบางกลุ่มออกร้านขายเสื้อผ้าของกระจุกกระจิกรวมถึงของกินไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนจากข้างนอกมาขายมากกว่า ผมคิดว่ามันเป็นงานที่ดีนะ ติดแต่ปีก่อนผมไม่เคยมาเพราะอากาศมันหนาวจนไม่อยากออกจากหอ

     

                แต่ปีนี้ผมยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย โดยมีคนเคียงข้างคือเจ้าของร่างเล็กน่าทะนุถนอมที่ชื่อลูอี ทอมลินสัน

     

                ลูอีอ้อนจะมาให้ได้นี่นา อะไรที่ทำให้เขายิ้มได้ผมก็ยอมหมดแหละ

     

                แฮร์รี่ๆๆๆๆ กลุ่มพี่เลียมออกร้านขายช็อคโกแล็ตอยู่ข้างหน้าอ่ะ ไปซื้อกัน เสียงหวานเจื้อยแจ้วมาพร้อมแขนข้างที่ว่างเอื้อมมาเขย่าแขนผมเหมือนเด็กเล็กๆที่อ้อนพ่อให้ซื้อลูกโป่งสวรรค์ให้ ผมมองตามมือของลูอีเห็นหน้าพี่เลียมที่ยืนอยู่หลังตู้ใสเด่นหรามาเป็นคนแรก ต่อมาคือใบหน้าหนวดเครารกรุงรังของพี่เซน แล้วที่ยืนข้างๆพี่เซนก็คือไอ้ไนออลที่ได้ข่าวว่าอยู่คนละคณะแล้วไปยุ่งกับพวกพี่เลียมได้ไงวะ -_-

     

                ผมพยักรับก่อนจะโดนคนตัวเล็กลากให้เดินตามทางร้านนั้น

     

                ว่าไงคู่รักพี่เซนทักทายอย่างเป็นกันเองพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้หน้าเถื่อนๆนั่นดูเป็นมิตรขึ้นมาอีกสามสิบเปอร์เซ็นโดยมีพี่เลียมยืนยิ้มดูดีเป็นลูกคู่อยู่ใกล้ๆ

     

                หวัดดีครับ พี่เลียมทำไมมันเหลือแค่นี้อ่ะ คนตัวเล็กข้างกายจดๆจ้องๆที่ตู้ใสที่กั้นระหว่างตนเองกับช็อคโกแล็ตหน้าตาน่ากินเอาไว้ ตอนแรกก็มองเฉยๆหรอกแต่ทำไมไปๆมาๆลูอีถึงเกาะตู้ก็ไม่รู้ 555555555555555555555555555555555555555

     

                “เรามาช้าคนอื่นเขาก็ซื้อไปหมดแล้วสิ คนขายหล่อก็งี้ ไม่น่าเชื่อว่าคนแบบพี่เลียมจะกล้าเล่นมุขนี้ =___=

     

                ผมปล่อยให้ลูอีเลือกช็อคโกแล็ตไปส่วนตัวเองก็ยืนรอเงียบๆ แอบอมยิ้มกับตัวเองในใจยามเห็นดวงตาสีฟ้าเป็นประกายสดใสเมื่อเจ้าตัวชี้นิ้วบอกจะเอาชิ้นนั้นชิ้นนี้

     

                ลูอีชอบช็อคโกแล็ตมาก มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยแหละไม่มากไม่ธรรมดา ถ้าคุณไปที่ห้องของเขาแล้วลองเปิดตู้เย็นนะ นอกจากนม น้ำเปล่า ผลไม้ แล้วก็ของกินอีกสองสามอย่าง พื้นที่ที่เหลือลูอีใช้เก็บช็อคโกแล็ตหมดเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชอบมากมายขนาดนั้น เขาชอบมันมากๆจริงชนิดที่ว่าเมื่อสองเดือนก่อนพวกเราทะเลาะกันใหญ่โต ลูอีโกรธไปสามวันเต็มๆ ผมง้อทุกวิถีทางก็ไม่สำเร็จจนสุดท้ายก็ต้องซื้อช็อกโกแล็ตล็อตใหญ่ขนไปให้ถึงหอนั่นแหละลูอีถึงยอมคุยกับผม ลูอีบอกว่ากินแล้วทำให้หายเครียดแต่ ผมมักจะจำกัดปริมาณการกินของเขาในแต่ละวัน เดี๋ยวกินมากๆโรคนั่นโรคนี่ก็ตามมาอีก ลูอียิ่งเป็นพวกป่วยง่ายอยู่

     

                ว่าแต่นี่กะจะเหมาร้านพี่เลียมเลยไหมเนี่ย

     

                เยอะไปแล้วเตี้ยเยอะไปแล้ว พี่เลียมเอาออกสักสองสามอันดิผมท้วงแล้วคว้ามือเล็กๆที่ยังชี้ๆๆๆไม่หยุดมากุมไว้ในอุ้งมือ ลูอีพยายามสะบัดออกแล้วส่งเสียงประท้วงไม่ให้พี่เลียมคีบช็อคโกแล็ตออกจากถุง แต่ผมก็บอกว่าให้คีบออกไปซะไม่งั้นผมไม่จ่ายเงินจริงๆด้วย

     

                ตบตีกันไม่นานเงินส่วนหนึ่งในกระเป๋าของผมก็หายวับไปกับตาแล้วได้ถุงที่บรรจุช็อคโกแล็ตหลายรูปแบบหลายขนาดมาถือแทน นี่ก็เกือบโดนลูอีงอนแล้วดีนะหาวิธีอ้อนทันไม่งั้นได้ง้อกันยาว เรื่องช็อคโกแล็ตนี่ลูอีจริงจังมากนะครับบางทีผมก็เครียด #ถอนหายใจ

     

                พวกเราเดินดูของกันอีกสักพัก บทสรุปคือผมกับลูอีได้เสื้อไหมพรมมาคนละหนึ่งตัว(ผมเลือกให้เขา เขาเลือกให้ผม) แบีนนี่สีเทาอีกหนึ่งใบ(อันนี้ลูอีอยากได้เอง) แล้วก็ของคาวอีกสองสามอย่าง(ลูอีชอบซื้อไปยัดไว้ตู้เย็นที่หอผม วันดีคืนดีพวกเราก็จะทำอาหารกัน) อย่าถามว่าเงินใคร ผมเต็มใจจ่ายให้เขาเองแหละความจริงค่าบีนนี่ลูอีบอกจะจ่ายเองแต่ผมไม่ยอม

     

                ตอนนี้พวกเราทั้งคู่ย้ายถิ่นฐานจากงานประจำมาที่ร้านอาหารแถวๆหลังมหาลัยแทน คืนนี้คนน้อยแฮะสงสัยเพราะนักศึกษาส่วนใหญ่อยู่ที่งานกันหมด ทั้งร้านมีแค่โต๊ะผมกับลูกค้าคนอื่นๆสี่ห้าโต๊ะ ตอนเดินเข้ามาผมเห็นพี่แอนดี้จูบกับแฟนสาวของเขาอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์ ตอนแรกว่าจะทักนะแต่คิดอีกทีอย่าไปขัดจังหวะเขาอีกกว่า

     

                เตี้ยอยากกินไร

               

                ไม่หิวอ่ะ ลูอีเป็นแบบนี้ทุกที เวลาพามากินข้าวชอบบอกไม่หิว ตัวเลยเหลือแค่นี้ไงให้ตาย

     

                ผมเรียกพนักงานมารับออเดอร์โดยไม่สนใจเสียงบ่นของลูอีที่บอกว่าสังมาเยอะแยะก็กินไม่หมดอยู่ดี แล้วไงอ่ะเงินก็เงินผม เดี๋ยวอาหารมาผมก็บังคับเขากินอยู่ดีแหละ

     

                เสียงเพลงเบาๆถูกเปิดดังคลอภายในร้าน ร้านนี้เป็นร้านที่ผมพาลูอีมาบ่อยพอสมควร ผมชอบบรรยากาศของร้านนี้นะ มันไม่สว่างจนเกินไปทำให้พวกเรารู้สึกเป็นส่วนตัวกว่าร้านอื่นๆ ที่ประจำของผมกับเขาก็คือโต๊ะติดกำแพงที่ไม่มีกระจก บนโต๊ะมีเขียนไขสีสวยถูกจุดเอาไว้ส่งกลิ่นหอมลอยเตะจมูก วันนี้ประตูร้านถูกเปิดเอาไว้ทำให้ลมหนาวสามารถเล็ดรอดเข้ามาได้ ขนาดนั่งลึกขนาดนี้ผมยังรู้สึกหนาวเลย

     

                แต่คนที่หนาวกว่าคงจะเป็นคนตัวเล็กที่นั่งกอดอกอยู่บนโซฟาขนาดเล็กฝั่งตรงข้ามน่ะนะ

     

                เตี้ยมานี่มา

     

                ผมแยกขาออกให้พอมีที่ว่างสำหรับคนตัวเล็กๆหนึ่งคน ลูอีที่รู้ว่าผมกำลังทำอะไรเมื่อโดนเรียกแบบนั้นก็ไม่รีรอที่จะลุกแล้วเดินอ้อมมาหา ข้อมือเล็กถูกผมดึงเบาๆเพื่อให้ร่างของเขาทรุดลงระหว่างขาของผม

     

                หนาวมากเลยเหรอมือสองข้างกอดรอบเอวก่อนกระชับแน่นเพื่อมอบความอบอุ่นให้แก่ร่างในอ้อมแขน แผ่นหลังแคบสัมผัสแนบชิดกับอกกว้างของผม ลูอีพยักหน้าหงึกหงิกขณะพยายามเบียดร่างเข้าหาผมมากยิ่งขึ้น มือน้อยเย็นเฉียบบีบมือของผมแน่นราวกับกลัวว่าผมจะหายไป

     

    ผมชอบเวลาเขาทำแบบนี้จัง

     

    บีนนี่ที่เคยอยู่ในถุงพลาสติกบัดนี้ถูกผมหยิบขึ้นมาก่อนสวมลงบนศีรษะของคนตัวเล็กอย่างช้าๆ กลุ่มผมสีอ่อนนุ่มน่าสัมผัสจนอดไม่ได้ที่จะก้มลงกอบโกยกลิ่นหอมที่ชอบมันหนักหนาเข้าเต็มปอด มือยังคงกอดเอวของลูอีเอาไว้ ผมชอบเวลาที่พวกเราใกล้ชิดกันขนาดนี้

     

    ใกล้จนได้รับไออุ่นของกันและกัน

     

    อุ่นขึ้นไหม

     

                “อื้อ

     

     

     

     

     

                ท่ามกลางลมหนาวแบบนี้นะ

    กับบรรยากาศอบอุ่นแบบนี้

                ถ้าขอสักจูบ

    ก็คงไม่โดนด่าแล้วล่ะ

     

     

     

     

     

    s t o r y o f m y l o v e l a r r y s t y l i n s o n

     

     

     

                Q : ฟังแล้วดูพวกคุณก็รักกันดีนะคะ อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ต้องจบความสัมพันธ์คะบอกได้ไหม

                HS : พอเราเรียนจบเขาก็ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศน่ะครับ ช่วงแรกพวกเราก็ยังติดต่อกันอยู่ แต่เขาเรียนหนักขึ้น ผมเองก็เริ่มเข้าวงการ เวลาว่างของตัวเราเองยังแทบไม่มี พวกเราเริ่มห่างกันเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ไม่ได้ติดต่อกันครับ

                Q : ไม่ได้ติดต่อเหรอคะ

                HS : ครับ พูดกันตามความเป็นจริงพวกเรายังไม่ได้เลิกกันนะ แค่ต่างฝ่ายต่างไม่มีเวลาให้กันจนระยะห่างระหว่างเราเพิ่มมากขึ้นแล้วก็เงียบหายไปเอง สามปีกว่าแล้วนะที่ผมไม่ได้คุยกับเขา

                Q : ถ้าอย่างนั้นอันนี้ขออนุญาตถามนอกสคริปนะคะ

                HS : ถามได้ทุกอย่างเลยครับ *หัวเราะ*

                Q : ตอนนี้คุณลืมเขาได้รึยังคะ

                HS : ลืมเหรอ อืมถึงจะผ่านไปแล้วสามปีกว่าแล้ว แต่ถ้าถามว่าลืมรึยังเหรอ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

          เขายังเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับผมนะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    s t o r y o f m y l o v e l a r r y s t y l i n s o n 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    บทความ SF อันเก่าโดนแบนถาวรเพราะ #goodbadyourman ค่ะน้ำตาจะไหล

    ต้องระเห็จมาเปิดบทความใหม่ เรื่องเก่าๆก็เก็บไว้ทยอยลงเนอะ

     

    สำหรับฟิคเรื่องนี้นะคะ ……………………..

    #เผ่นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน 5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

     

     

    ปล.อาจมีโบนัสถ้ามีคนอยากอ่าน .___________.)///

    @puppapxiion

     









    THE FARRY's House

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×