คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ที่ทำงานใหม่
ฉันเดินกลับมายังห้องพักครู สถานที่ ซึ่งฉันพึ่งเข้ามาทำงานได้ไม่กี่วัน โต๊ะของฉันอยู่เกือบริมสุด ข้าวของยังไม่เยอะนัก เพราะยังขนของมาไม่หมด แต่...มีสิ่งแปลกปลอมบางอย่างอยู่บนโต๊ะของฉัน ตุ๊กตา ตุ๊กตามินนี่เมาส์ ใครกัน ที่อุตส่าห์จำวันเกิดของฉันได้ และยังล่วงรู้ถึงวันเกิดของฉันอีก คนๆนั้น ช่างน่าประทับใจจริงๆ
ฉันหยิบตุ๊กตาตัวนั้นขึ้นมากอดฟอดหนึ่ง ก่อนจะสังเกตเห็นการ์ดใบหนึ่ง ที่วางอยู่เคียงคู่กับมัน
“เราชื่อวินนะ เป็นครูห้องทะเบียน และดูแลเรื่องสแกนนิ้วนักเรียนทุกระดับชั้น เธอเป็นครูสอนสังคมศึกษาใช่มั้ยล่ะ เราทำงานอยู่ที่ห้องทะเบียน เป็นครูใหม่เหมือนกัน มาหาเราหน่อยสิ เราอยากเจอ”
วิน คนๆนั้นชื่อวิน คนที่ฉันเองยังไม่ค่อยแน่ใจ ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ฉันควรจะไปหาเขาที่ห้องทะเบียนรึเปล่านะ เอาเถอะ นี่ก็ใกล้เวลาพักกลางวันแล้ว ไปห้องทะเบียนเสร็จ ก็เลยไปทานข้าวเลยก็แล้วกัน
ห้องทะเบียนอยู่อีกตึกหนึ่ง ซึ่งโรงเรียนนี้ก็มีอยู่แค่สองตึก ตอนมาสมัครงานครั้งแรก ฉันเองยังตกใจเลย ว่าทำไมโรงเรียนมันเล็กอย่างนี้ แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ถือว่ามันอบอุ่นดี ห้องฉันอยู่ตึกสอง และห้องของ...วิน อยู่ตึกหนึ่ง
ฉันเดินข้ามถนนมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูตึกหนึ่ง ท่ามกลางแสงตะวันเวลาเที่ยงตรง มีเสียงเรียกฉันจากด้านหลัง ทำให้ฉันต้องหันไปมอง
ภาพย้อนแสงตรงหน้าทำให้ฉันยังฟันธงไม่ได้ ว่าตกลงวินนั่นคือผู้ชายหรือผู้หญิง แต่เมื่อวินเดินเข้ามาใกล้ ฉันก็รู้แล้ว ว่าวินคือผู้หญิง ที่ไม่ค่อยเหมือนกับผู้หญิงซักเท่าไหร่
“เราชื่อวินนะ เธอคิอนิดใช่มั้ย” การเริ่มบทสนทนาอย่างรวดเร็ว ทำให้ฉันตั้งตัวแทบไม่ทัน ฉันอึกอักอยู่นาน แต่ดูเหมือนวินจะไม่ได้ต้องการคำตอบจากฉัน เธอคว้ามือฉันมาจับไว้ แล้วจูงแกมลาก ไปในสถานที่ๆหนึ่ง
ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมฉันต้องยอมเดินไปกับวินด้วย นั่นใช่วินจริงๆรึเปล่าก็ไม่รู้ หรือว่าวินไม่มีจริง และอีกอย่าง ฉันยังไม่เคยมาตึกหนึ่งเสียด้วยซ้ำ มันมีทางหนีทีไล่หรือห้องหับอะไรบ้าง ฉันก็ไม่เคยรู้
วินพาฉันขึ้นบันไดที่สูงชัน ตามแบบฉบับตึกเก่า สมัยโบราณ ไปยังห้องๆหนึ่ง ห้อง ที่เชื่อมระหว่างห้องเรียนทุกห้องในชั้นสอง คล้ายห้องเก็บของ ฉันไม่เคยมาที่นี่ มันทั้งมืด แล้วก็อับ ดูน่ากลัวชอบกล มันทำให้ฉันจับมือวิน แน่นเข้าไปอีก แต่แล้วก้มีเสียงแปลกประหลาดดังขึ้น มันคล้ายกับเสียงไฟที่ลุกขึ้นมา
“Happy birthday to you…” เสียงเพลงวันเกิดดังขึ้น พร้อมกับแสงเทียนที่กำลังลุกอยู่บนเค้ก รูปมิกกี้เมาส์ก้อนโต ของขบวนนักเรียนห้อง ม.2/6 ที่ฉันพึ่งสอนเสร็จ นอกจากนั้นยังมีครู ม.2 อีกหลายคน ฉันไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญอย่างนี้มาก่อน ความตื้นตันสุกซึ้ง เกือบทำให้น้ำตาของฉันไหลออกมา ตั้งแต่เกิดมาสาม...ฉันไม่มีวันเอ่ยอายุของตัวเองเด็ดขาด แต่ไม่เคยมีใครทำให้ฉันขนาดนี้มาก่อน ฉันก้มหน้าลงขอพร
“วันเกิดปีนี้เป็นปีที่ดีที่สุดของฉัน ฉันขอให้ปีนี้เป็นปีที่มีแต่ความสุข สมหวัง และสำเร็จ และฉันขอให้ทุกคนที่มีส่วนร่วมในงานวันนี้ มีแต่ความสุขตลอดไป เพี้ยง” ฉันเป่าเค้ก ท่ามกลางเสียงปรบมือของทุกคน
และเสียงโห่ร้องดังขึ้นมาอีก เมื่อตัวฉันประกาศว่าจะให้คะแนนคุณลักษณะอันพึงประสงค์เต็มทุกคน ในรายวิชาของฉัน ฉันต้องขอบใจคนที่จัดงานครั้งนี้มาก ซึ่งฉันก็รู้ว่า คงไม่ใช่ใครอื่น วิน นั่นเอง
หลังจากนั้น ฉันกับวินก็สนิทกันมากขึ้น เราไปทานข้าวด้วยกันในตอนกลางวัน แต่เราไม่ได้ไปกันแค่สองคนนะ เราไปกับพี่อีกคนนึง ชื่อพี่ลูกปลา และบางครั้ง เราก็จะเรียกเธอว่า ป้าปลา ทั้งนี้และทั้งนั้น พี่ปลาเป็นผู้หญิงตัวเล็ก หน้าตาแบบไทยแท้ และที่สำคัญ คือเธอเป็นคนที่ขี้ลืมสุดๆ อาจใช้คำว่า ความจำสั้น หรืออะไรก็แล้วแต่ ฉันเคยได้ยินพวกนักเรียนเรียกพี่ปลา ว่าครูปลาทอง เพราะบ่อยครั้งที่เธอลืมในสิ่งที่ไม่ควรจะลืมเกี่ยวกับนักเรียน แต่ถึงกระนั้น พี่ปลาก็เป็นครูสอนวิชาคณิตศาสตร์
และบ่อยครั้ง ที่การลืมของเธอ ทำให้ฉันกับวินต้องไปทานข้าวด้วยกันตามลำพัง
ฉันเริ่มสนิทกับวินมากยิ่งขึ้น และได้รู้ว่า วันเกิดของเราทั้งคู่ ห่างกันแค่ 6 วัน นี่แหละนะ ที่เค้าเรียกกันว่า คนราศีเดียวกัน มักจะเข้ากันได้ดี
นี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในชีวิตฉันเหมือนกัน เพราะวิน คือเพื่อนคนแรกของฉัน ที่เป็นทอม
ด้วยความเป็นคนรุ่นเดียวกัน เข้ามาทำงานไล่ๆกัน จังเป็นธรรมดา ที่ฉันกับวินจะสนิทกันเป็นพิเศษ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่วายมีพี่ๆในห้องพักครูแซวฉันกับวิน เมื่อเห็นเธอมารับฉันไปกินข้าวด้วยกันทุกมื้อเที่ยง และเดินไปไหนมาไหนด้วยกันแทบตลอด
และทุกๆครั้งที่แซว ทั้งฉัน และวิน ก็หน้าแดงด้วยกันเสมอ แบบนี้ถือว่าดีแล้วนะ ที่โดนพี่ๆแซว และฉันหน้าแดงกันอยู่ในห้องพักครู เพราะถ้าวันไหนฉันโดนนักเรียนในห้องแซวนะ ใบหน้าของฉันมันจะยิ่งแดงเข้าไปใหญ่ มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันนะ
หนึ่งปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก ฉันกลายเป็นบุคคลากรที่นี่อย่างเต็มตัวแล้ว ปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งการย้ายไปเรียนที่ตึก 1 ของนักเรียน ม.2 และการขึ้นมาเป็นครูประจำชั้นของฉัน พี่ปลาเป็นครูประจำชั้น ม.1 เธอบอกฉันว่างานครูประจำชั้น จำเป็นต้องใช้ความรับผิดชอบเอามากๆ เธอเชื่อ ว่าฉันน่าจะทำได้ดี อย่างน้อยน่าจะดีกว่าเธอ เพราะฉันไม่ได้ขี้ลืมเหมือนเธอ ฉันนึกในใจ
ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นนปีการศึกษาใหม่นี้ มันช่างประจวบเหมาะ ที่จะทำให้ฉัน และวินได้ใกล้ชิดกันจริงๆ เพราะการที่ ม.2 ย้ายมา ในตึกที่เป็นที่ตั้งของห้องทะเบียน ทำให้ฉันติดต่อกับวินได้สะดวก(มาก) และในขณะเดียวกัน ฉันก็ได้พบเจอกับพี่ปลาน้อย(มาก) เช่นเดียวกัน เพราะขนาดที่โต๊ะของฉันกับพี่ปลาอยู่ข้างๆโต๊ะฉัน เธอยังอุตส่าห์ลืมนัดของเราได้ พอมาอยู่คนละตึกกันแล้ว เราจึงคล้ายขาดการติดต่อกันเลย
ฉันกับวินจึงเลือกที่จะนั่งทานข้าวด้วยกันอยู่ที่ห้องข้างหลัง ที่เดียวกับที่จัดงานวันเกิดฉันปีที่แล้วนั่นแหละ ฉันยอมรับว่ามันเป็นที่แคบ โต๊ะทานข้าวของเราเป็นเพียงโต๊ะเรียนหนึ่งโต๊ะ เราดูใกล้ชิดกันมาก เวลาทานข้าว และดูใกล้ๆชิดมาก สำหรับสายตาของเด็กนักเรียนที่บางครั้งก็โผล่มาเข้ามาหยิบของ แบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง
“ห่างกันบ้างก็ได้นะ สองคนนี้” เสียงของครูอาวุโสคนหนึ่งวาบเข้ามาในหัวของฉัน มันเหมือนการแซว แกมตำหนิ ตอนนี้ ฉันเองก็เริ่มไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าตกลงแล้ว เราสองคน เป็นอะไรกัน
จริงสิ มีอยู่คนนึง ที่น่าจะช่วยฉันได้
ความคิดเห็น