ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] Kris Dragon (KrisTao) Ft. EXO

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่1...100%

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 57

















     

                เมื่อผมอายุได้เพียง 7 ขวบก็ต้องพบสถานการณ์อันน่าสลดใจ  เมื่อพ่อแม่ตัดสินใจจะแยกทางกัน   แล้วผมล่ะ  คุณเคยนึกถึงจิตใจผมบ้างไหม  คงไม่สินะ   ถ้านึกถึงจิตใจผมสักนิดพวกคุณก็คงไม่เลิกกัน   ด้วยความที่ผมเป็นลูกชายเพียงคนเดียว  พ่อกับแม่จึงตัดสินใจให้ผมอยู่กับพ่อ  ส่วนแม่ก็ไปสร้างครอบครัวใหม่และตลอดเวลานับ 10 ที่ผ่านมาท่านก็ไม่เคยมาเยี่ยมผมกับพ่อเลย  พ่อก็เริ่มดื่มเหล้าอย่างหนัก   เมื่อมีการสังสรรค์ก็ย่อมมีเพื่อนฝูงที่ทั้งดีและร้าย  แต่ที่น่าเวทนาคือ ในกลุ่มเพื่อนพ่อไม่มีใครห้ามปรามกัน  มีแต่จะพากันไปลงเหว  พากันไปเสี่ยงดวงตามแหล่งพนันต่างๆ  จนสุดท้ายพ่อผมก็มีหนี้สินอยู่ทุกหนแห่ง  แล้วผมล่ะ การศึกษาแค่ชั้นมัธยมต้น จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้นับ 1ล้านหยวน  แถมยังมีดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน        เห้ออออ..... ”    ‘ เมื่อคิดถึงเรื่องราวต่างๆผมก็ต้องถอนหายใจออกมา  เรื่องมันยากเกินกว่าที่ผมจะทำได้  ลำพังเงินที่ได้ในแต่ละเดือน  รวมกับงานพิเศษที่ผมทำยังแทบไม่พอค่ากิน  และค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนของผมกับพ่อ เลยด้วยซ้ำและจะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้  ระยะหลัง 3 - 4 เดือนมานี้พ่อไม่สามารถทำงานได้  เนื่องจากมีอาการป่วยเพราะพิษสุรา  ผมจึงต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนผู้เป็นพ่อ’  คืนนี้ผมเลิกงานมาประมาณ เที่ยงคืนเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยระหว่างทางกลับบ้านที่ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก   ขอโทษนะจ๊ะ   เจ๊ ชื่อจาง   อี้ชิงนะ        หนูหน่วยก้านดีเลย   สนใจงานพิเศษไหม   เงินดีมากๆเลยนะ”    ชายร่างบาง  หน้าตาดีคนนึง กล่าวขึ้น  เขาเดินออกมาจากผับแห่งหนึ่งซึ่งผมใช้เดินผ่านเพื่อเป็นทางกลับบ้านทุกวัน  ไม่ครับ ขอบคุณ”  ผมตอบปฏิเสธไป แล้วพยายามรีบเดินหนี  เดี๋ยวก่อนสิจ๊ะ   เอานามบัตรเจ๊ไปก่อนนะ ไปลองคิดดูก่อนสัก 2- 3 วันแล้วค่อยโทรมาหาเจ๊ก็ได้   แต่งานของเจ๊เงินดีจริงๆนะ”   ผู้ชายคนนั้นวิ่งตามผมมา  แล้วพยายามยัดกระดาษ แข็งแผ่นย่อมเข้ากระเป๋าเสื้อของผม  หวังว่าเราจะได้ทำงานร่วมกันนะจ๊ะ”  เมื่อเขาพูดจบ   ผู้ชายที่เรียกแทนตนเองว่า เจ๊ ก็เดินกลับไปยังบริเวณหน้าผับ




     






     

    เมื่อผมกลับมาถึงบ้าน  ผมก็เดินเข้าไปห้องพ่อเพื่อดูว่าท่านทานยา  ที่ผมเตรียมไว้ให้หรือยัง

    แกร็ก...  ผมค่อยๆเปิดประตูอย่างแผ่วเบา  เพราะเวลาป่านนี้คนในห้องคงหลับไปนานแล้ว   ผมเดินไปยังบริเวณโต๊ะใกล้ๆหัวเตียงเพื่อเปิดไปดวงเล็กๆ ตรวจสอบยาที่อยู่บนโต๊ะว่าหมดแล้วหรือยัง  เพื่อผมจะได้จัดชุดใหม่ของ วันพรุ่งนี้ ใส่ไว้ให้ตามช่วงของกล่องใส่ยาขนาดเล็กที่ระบุ เวลาทานยาของแต่ละมื้ออาหาร  เมื่อเปิดกล่องดูที่ละช่องไล่จาก  เช้า      กลางวัน     เย็น     ก่อนนอน  ผมก็ค่อยๆใส่ยาที่อยู่ในซองลงกล่องเพื่อที่จะได้สะดวกต่อคนป่วยในการทานยา  เมื่อผมใส่ยาเสร็จเรียบร้อยก็ปิดไฟลง  หายป่วยไวๆ นะครับพ่อ”   ผมกล่าวกับคนนอนหลับเช่นนี้จนเป็นเรื่องที่ชินแล้ว   ก่อนจะเดินออกจากห้องไป   อาการของพ่อดีขึ้นเรื่อยๆ        ผมได้แต่หวังว่าถ้าพ่อหายป่วย  ท่านคงไม่กลับไปดื่มสุราอีกต่อไป   เมื่อ จื่อเทา เดินออกจากห้องไปผู้เป็นพ่อจึงค่อยๆลืมตาขึ้น เขารับรู้ทุกสิ่งอย่างที่ผู้เป็นลูกกระทำให้จนเขาระอายแก่ใจที่ทำให้ลูกลำบากได้ถึงเพียงนี้  เขาตั้งใจว่าถ้าหายดี เขาจะรีบหางานทำเพื่อใช้หนี้ที่เขาก่อจากพิษสุราและการพนัน


      ส่วนจื่อเทา    เมื่อดูแลยาของผู้เป็นพ่อเสร็จก็เดินกลับมายังห้องของตน    เพื่อที่จะอาบน้ำแล้วเตรียมตัวเข้านอน เขาต้องตื่น ตั้งแต่ตี  4 เพื่อไปรับหนังสือพิมพ์มาส่งในหมู่บ้านบริเวณใกล้เคียง  ก่อนที่จะไปเข้างานประจำช่วงเวลาประมาณ 8 โมง  เขาทำเช่นนี้อยู่ทุกวัน แม้กระทั่งวันหยุดช่วง   เสา -อาทิตย์  เขาก็ไปรับจ้างส่งขนมที่ร้านเบเกอรี่ใกล้บ้าน เขาทำงานอย่างหนักเพื่อจะได้นำงานเงินมาเป็นค่าเช่าบ้าน ค่ายาและค่าอาหารของตนกับผู้เป็นพ่อ   บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่เขากับครอบครัวเช่ามาตั้งแต่เด็ก  จื่อเทามีความผูกพันกับมันมาก แม้พ่อจะเคยบอก ให้ย้ายไปอยู่ห้องเช่าธรรมดาเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย  แต่ตนก็ไม่ยอมตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อจะได้มีเงินเช่าบ้านนี้ต่อไป   และหวังว่าสักวันเขาจะมีเงินมากพอที่จะซื้อมาบ้านหลังนี้มาเป็นสมบัติของตนและผู้เป็นพ่อ

     

     











     

    กริ๊งงงงงงงงงงงงงง.......

    เสียงนาฬิกาดังขึ้นตามเวลาผู้เป็นเจ้าของได้ตั้งปลุกไว้     3.50 น.     แต่ละวันเขาใช้เวลาพักผ่อนไม่ถึง 4  ชม. ด้วยซ้ำก็ต้องตื่นเพื่อไปทำหน้าที่ดั่งเช่นทุกวัน  จื่อเทา   รีบลุกอาบน้ำ เพื่อจะได้ไปรับหนังสือพิมพ์มาสั่งในหมู่บ้าน วันนี้เขารับงานเพิ่มคือการไปส่งนมคู่กับหนังสือพิมพ์  หนังสือพิมพ์ กับนมมาส่งแล้วครับ”    เด็กหนุ่มตะโกนบอก หญิงชราที่ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ภายในรั้วบ้าน  วันนี้มีนมด้วยรึ   ขอบใจมากนะจ๊ะ”   หญิงชราเปิดประตูมารับของตามความเคยชิน  เธอเอ็นดู จื่อเทา  เป็นอย่างมากที่ขยัน และเป็นเด็กดี เธอมักจะให้ขนมและรอยยิ้มที่อบอุ่นหัวใจกับ จื่อเทา เสมอ  วันนี้ทางสำนักพิมพ์ เขาจากนมแก่ลูกค้าเพื่อเป็นการขอบคุณที่คอยอุดหนุนน่ะครับ ^_^ ”  จื่อเทากล่าวด้วยรอยยิ้มแก่หญิงชรา     วันนี้บ้าน อาม่า  ทำโจ๊ก อาเทาเอาไปทานกับพ่อนะ เดี๋ยวๆ อาม่า ไปหยิบมาให้ ตักใส่ถุงไว้รอ อาเทาแล้ว”   เมื่อหญิงชรานึกถึงของที่มอบให้เด็กหนุ่มได้  เธอจึงเดินต้วมเตี้ยม  ไปยังโต๊ะในสวนที่มีถุงโจ๊ก 2 ถุงวางไว้    ทานให้อร่อยนะจ๊ะ   เธอส่งถุงโจ๊กให้แก่เด็กหนุ่มด้วยใบหน้าที่เอ็นดูเด็กคนนี้ยิ่งนัก  ขอบคุณมากครับ ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ  เดี๋ยวเข้างานสาย  เด็กหนุ่มโค้งขอบคุณก่อนจะรีบเดินกลับบ้านเพื่อนำโจ๊กไปให้ผู้เป็นพ่อก่อนที่ตนจะไปเข้างาน   “  อ้าว จื่อเทา มาพอดีเลย ”    เสียงผู้หญิงวัยกลางคนกล่าวทักเมื่อ จื่อเทา เปิดประตูเข้าบ้านมา  สวัสดีครับ คุณป้า”   เด็กหนุ่มรู้ดีว่า เธอคนนี้มาทำอะไรที่บ้าน     “  ป้ามาคุยกับคุณพ่อของเราแล้วนะ  ตอนนี้เราค้างค่าเช่าบ้าน ป้าอยู่ 2 เดือน  รวมเดือนนี้ก็จะ 3 เดือนแล้ว ป้าก็เห็นใจเราแต่ป้าก็มีเรื่องต้องใช้เงินเหมือนกัน   ถ้าไม่มีเงินจ่ายก็ย้ายออกไปเถอะ  ส่วนเงินที่ค้างไว้ป้าจะหักกับค่ามัดจำที่เคยทำสัญญากันไว้       ป้าจะไม่คิดเพิ่ม แต่เราต้องย้ายภายใน 2 วันนะ  เพราะเดี๋ยวจะมีคนใหม่ย้ายเข้ามา”   หญิงสาววัยกลางคนพูดด้วยความลำบากใจ   เพราะรู้ดีว่า จื่อเทา มีความผูกพันกับบ้านหลังนี้มาก  แต่ตนก็จำเป็นต้องใช้เงินเช่นกันจึงไม่มีทางเลือก   “ ผมไม่ย้ายครับ ไม่เกิน 2 วัน ผมจะหาเงินมาให้คุณป้าเอง ได้โปรดรออีกสักนิดนะครับ”   จื่อเทา ก้มลงคลุกเข่าเพื่อขอร้องหญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่เบื้องหน้า    ตะ...แต่ว่า ถ้าเราไม่มีเรากับพ่อก็ต้องย้ายออกไปนะ”  หญิงวัยกลางคนอ้ำอึ้ง  เมื่อเห็นเด็กชายตรงหน้าก้มคลุกเข่าให้ตน  “ ได้ครับ  ผมจะรีบหาเงินให้เร็วที่สุด  ขอบคุณ  คุณป้ามากครับ”  จื่อเทา  ลุกขึ้นแล้วโค้งขอบคุณ ผู้เป็นเจ้าของบ้านที่ให้โอกาสตน ภาพทั้งหลายอยู่ในสายตาของผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่ตรงนั้น แต่เขาไม่สามารถ ทำอะไรได้เลย ทั้งหมดเป็นความผิดของเขา  ยิ่งเห็นภาพลูกชายนั่งคลุกเข่าขอร้องคนอื่นยิ่งบาดหัวใจผู้เป็นพ่อยิ่งนัก  จื่อเทา  พ่อขอโทษ’  คำขอโทษกล่าวอยู่ในใจ หัวใจผู้เป็นพ่อแทบสลายเมื่อเห็นความตรากตรำของลูก   พ่อสัญญา จากนี้พ่อจะเป็นพ่อที่ดีให้ได้’  ผู้เป็นพ่อได้แต่เฝ้ามองการกระทำของลูกด้วยความเสียใจ    ผมไปส่งคุณป้าที่หน้าบ้านเรียบร้อยแล้วนะครับ  เรามาทานโจ๊กกันเถอะอาม่าใจดี    ท่านให้มาน่ะครับ”  จื่อเทา กล่าวกับพ่อพร้อมทั้งเดินใบหยิบถ้วยกับช้อนมา 2 ชุด    “ จื่อเทา  ถ้าไม่ไหว ก็คืนบ้านเขาไปเถอะ  เรา 2คน ไปอยู่ที่อื่นก็ได้”   ผู้เป็นพ่อกล่าวออกมาเมื่อเห็นนัยดวงตาของลูกเศร้าหมอง  “  ไม่ครับ ผมจะอยู่ที่นี่ ไม่ไปไหน  ผมต้องหาเงินมาให้ได้ พ่อต้องเชื่อผมสิครับ ”  จื่อเทา ตอบอย่างหนักแน่น   “  มาทานโจ๊ก เถอะครับ เดี๋ยวพ่อจะได้ทานยา  พ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ผมหาเงินมาได้แน่นอน เชื่อผมนะ”  จื่อเทา กล่าวกับผู้เป็นพ่อให้หวังคลายความกังวล แล้วตนก็รีบทานโจ๊กอย่างเร่งด่วนเพราะนี่ก็ใกล้เวลาเข้างานของเขาแล้ว   ผมต้องรีบไปทำงานก่อนนะครับ  ถ้าพ่อทานเสร็จอย่าลืมทานยานะครับ”   จื่อเทา พูดขณะที่นั่งลงใส่รองเท้าผ้าใบอย่างรีบเร่ง  ก่อนจะรีบวิ่งตรงไปที่ทำงานของตน

     

     

        




     

     สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เริ่มเข้าสู่ช่วง วิวัฒนาการ

     

     

     

    เมื่อหลายพันล้านปีที่แล้ว       สรรพสิ่งบนโลกเริ่มถือกำเนิดขึ้นจากสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กแล้วเริ่มมีวิวัฒนาการมากขึ้น  จากจุดเริ่มต้นเดียวกัน   แต่ต่างสภาวะ ต่างถิ่นฐาน   การวิวัฒนาการก็ย่อมแตกต่างต่างกันไป  บางสถานที่อาจสร้างสิ่งมีชีวิตที่ทนความร้อนได้อย่างสุดขั้ว   หรือบางสถานที่อาจสร้างสิ่งมีชีวิตที่ทนต่ออุณหภูมิติดลบได้จนแทบไม่น่าเชื่อ  โลกของเรามีสิ่งต่างๆที่เรายังไม่รู้อีกมาก   แล้วบางสิ่งที่คุณอาจคิดว่ามันสูญพันธุ์ไปแล้ว    มันอาจมีวิวัฒนาการจนคุณแยกไม่ออกว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่พวกเดียวกับคุณ   




     





                     ถ้ากล่าวถึงมังกรตามความเชื่อของคนจีน   เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นอันหนึ่งของจักรพรรดิและวัฒนธรรมจีน  มีลักษณะที่มาจากสัตว์หลาย ๆ ชนิดผสมผสานกัน  ลักษณะลำตัวยาวเหมือนงู   มีเขี้ยวขนาดใหญ่หนึ่งคู่อยู่ที่บริเวณขากรรไกรด้านบน  มีหนวดยาวลักษณะเหมือนกับไม้เลื้อย  และมีแผงคอเหมือนกับของสิงโตอยู่บน    คอ , คาง และข้อศอก  ซึ่งผู้ใดได้พบเห็นจะถือว่าเป็นผู้มีบุญมาก   แต่การวิวัฒนาการก็ย่อมทำให้สิ่งที่เหมือนกันแตกต่างกันไปได้   ‘  ผมอาจจะไม่เหมือนดั่งตำนานที่คุณเคยได้ยินมา    และถ้าตอนนี้ผมบอกคุณว่าผมเป็นมังกร   คุณจะเชื่อผมไหม ?   มันคงฟังดูเป็นเรื่องตลกเสียมากกว่า   ผู้คนที่เข้ามารู้จักกับผมล้วนหลงใหล  ในรูปลักษณ์ภายนอก แล้วก็ทรัพย์สมบัติที่ผมมี  พวกเรามีทรัพย์สมบัติจากในอดีตมากมาย ยิ่งเวลาผ่านไปคุณค่าทางการเงินยิ่งเพิ่มมากขึ้น  ผมเลยกลายเป็นเศรษฐี   ตามความเชื่อของคนสมัยนี้ว่ามีเงินทองทรัพย์สินมากมายก็จะต้องเรียกว่าเศรษฐี    ผมเคยคบกับคนมากมายในรอบหลายพันปีมานี้ แล้วสุดท้ายมันก็ต้องจบด้วยความโดดเดี่ยวเช่นเคย   หลายครั้งที่เราเกือบจะสร้างครอบครัวด้วยกัน  แต่สุดท้ายคนเหล่านั้นเมื่อรู้ความจริงที่ว่าผมมีวิวัฒนาการที่แตกต่างจากสายพันธ์ของพวกเขา  คนเหล่านั้นก็ไม่สามารถยอมรับตัวตนของผมอีกด้านหนึ่งได้  สุดท้ายผมก็ต้องคอยลบความทรงจำให้พวกเขาว่าเราเคยรู้จักกันทุกครั้งที่ผมทำ  ผมเจ็บปวดเสมอ บางครั้งความทรงจำดีๆ มันถูกลบไปมันน่าเสียดายมาก   บ่อยครั้งที่เรารับรู้ความสึกดีๆที่เคยมอบให้กัน  แต่อีกฝ่ายกับจำเราไม่ได้ด้วยซ้ำ   แต่ผมก็ไม่มีทางเลือก   มันเป็นกฎ! ของพวกเราถ้าใครรับไม่ได้ก็ต้องลบความทรงจำในช่วงเวลาที่เราได้รู้จักกันทิ้งไปเพื่อความปลอดภัยของสายพันธุ์พวกเรา ’    


     


     

    แล้วตอนนี้ผมก็เดินทางมายังเมือง  เมืองหนึ่งของประเทศจีน ชื่อเมืองชิงเต่า   ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลซานตง (Shandong Sheng)      พื้นที่ของเมืองชิงเต่า 10,654 ตารางกิโลเมตร  จำนวนประชากรประมาณ 2.3 ล้านคนเมือง ประชากรเมืองชิงเต่าได้ชื่อว่ามีความขยันและทำงานหนัก   ซึ่งเป็นจุดสำคัญทำให้เมืองชิงเต่าได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา    เมืองชิงเต่าได้รับการสถาปนาขึ้นในปี 1891 จากรัฐบาลทหารของเมืองชิงเต่ามีความสำคัญเป็นเมืองท่ายุทธศาสตร์  เมืองชิงเต่าถูกยึดครอง โดยประเทศเยอรมันจนถึงปี 1914 และโดยญี่ปุ่น  จีนทำการยึดคืนมาได้ในปี 1922 นอกจากนี้  ยังเคยเป็นฐานทัพเรือของอเมริกามายาวนานถึง 36 ปี  ประวัติเมืองจากที่ผมทำการศึกษาก่อนจะเดินทางมากค่อนข้างน่าสนใจ   แต่การที่เมืองมีประชากรหนาแน่นทำให้ผมไม่ค่อยอยากเดินทางมาสักเท่าไหร่  เมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆในยุโรป  ที่มีคนน้อยค่อนข้างเงียบสงบ   แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงตัดสินใจเดินทางมาที่นี่  มันเหมือนมีพลังบางอย่างดึงดูดผมให้มา ที่เมืองแห่งนี้ ’  

     

     

     

     

     

     




    สวัสดีๆๆๆๆ
     เราดีใจมากที่มีคนมาเม้นให้55555ไม่รู้ว่าที่แต่งไปจะถูกใจกันมั้ย แต่เราจะพยายามให้เต็มที่นะ
    ตัวหนังสือเราลองลดขนาดลงนิดนึงแล้วนะ มันโอเคยังอ่อ เรากลัวว่าถ้าเล็กไปจะอ่านลำบาก 
    ถ้ามันยังดูใหญ่ๆอยู่ก็มาบอกกันนะ  เราอาจจะทำคนอ่านงงไปบ้าง5555เราติดมึนนิดหน่อย  มีไรก็ทักท้วง
    ได้เรายินดีแก้ไข ........ขอบคุณมากๆนะที่สละเวลาเข้ามาอ่านมือใหม่อย่างเรา....... เราจะพยายามทำให้เต็มที่ ^_^

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×