คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : - จุดเริ่มต้นภารกิจเรื้อรัง(2)
จุดเริ่มต้นภารกิจเรื้อรัง(2)
“ทำไมถึงมีแค่ชื่อกับตำแหน่งที่ตั้งล่ะ สาบานว่าสำรวจแล้ว”
อควาถึงกับกลอกตาไปมาเมื่ออ่านข้อความในแผ่นกระดาษที่มีแค่สองบรรทัดจบ กระดาษนั้นก็สลายหายไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่สัญชาตญาณในตัวเธอมันบอกว่าภารกิจนี้ดูท่าจะยาวนานกว่าภารกิจไหนๆเป็นแน่ แจ๊คถอนหายใจอีกรอบพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
“ภารกิจนี้ทางสมาคมเป็นคนส่งมอบให้โดยตรง ไม่ใช่การกำจัดแต่เป็นการสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดโดยไม่ให้เป้าหมายรู้ตัว และรอคำสั่งภารกิจย่อยต่อไป ฉันคิดว่าน่าจะเป็นการแย่งชิงข้อมูลหรืออะไรสักอย่างนะ ทางเบื้องบนไม่ได้บอกอะไรมาก แต่ระบุว่าให้เป็นฉันกับเธอ ที่ต้องทำ”
อควาขมวดคิ้วพร้อมกับประสานมือไว้ข้างหน้าเหมือนกำลังไตร่ตรองอะไรบางอย่าง
“ถ้าหากเป็นอย่างที่นายว่า ทำไมไม่ส่งให้หน่วยสำรวจเป็นคนทำ ถึงแม้ว่าฉันจะเชี่ยวชาญด้านการสังเกตการณ์เหยื่อก็จริง แต่เรื่องการหาข้อมูลเชิงลึกคนของหน่วยสำรวจจะทำได้มีประสิทธิภาพกว่ามากถึงแม้ว่าจะมีนายอยู่ด้วยก็ตามทีเถอะแจ๊ค”
แจ๊คยิ้มน้อยๆพร้อมกับยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบสบายๆในขณะที่พนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟพอดี
“ตอนแรกฉันก็คิดอย่างนั้นน่ะนะ แต่เชื่อสิงานนี้ไม่มีใครเหมาะเท่าเราสองคนอีกแล้วเพราะเราจะแฝงตัวเข้าไปในฐานะนักเรียน สถานศึกษาเบอร์ลิลินเป็นสถาบันกินนอน พูดง่ายๆว่าไม่มีอะไรจะลงตัวไปกว่านี้ คิดดูสิอควา”
“ลูกศิษย์กับอาจารย์สินะ”
เธอถึงกับต้องกลอกตาไปมาอีกรอบและเอามือท้าวคางเลยทีเดียว แน่นอนว่าการเข้าหาเป้าหมายที่มีดีกรีเป็นถึงศาตราจารย์สถาบันอันดับหนึ่งด้วยสถานะศิษย์นักเรียนเป็นอะไรที่แนบเนียนที่สุด แต่นั่นหมายความว่าเธอจะต้องเข้าไปอุดอู้อยู่ในสถานที่แห่งนั้นนานเป็นชาติแน่นอน ไม่มีทางที่การสังเกตการณ์จะทำภายในสามวันเสร็จอยู่แล้ว
“ทำไมสภาไม่ส่งให้อเล็กซ์ทำ ถ้าเป็นหมอนั่นเรื่องสังเกตการณ์และตามติดเป้าหมายระยะยาวแบบนี้คงจะเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบอยู่ที่เดิมนานๆ”
เธอพูดพลางตักอาหารตรงหน้ากินไปด้วย ท่าทางการกินของเธอนั้นถ้าหากพวกคุณหญิงที่เคร่งมารยาทมาพบเจอเข้า คงจะอุทานลั่น จับดัดกริยามารยาทไป7วัน7คืนเลยทีเดียว หน้าตาที่บูดบึ้งบอกได้เลยว่าตอนนี้เธอกำลังอารมณ์ไม่ดีสุดๆ ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงความเป็นเธอ การกวนประสาทหน้านิ่งๆนั่นแล่ะ คือจุดเด่นของผู้หญิงคนนี้เลย
“อเล็กซ์ไม่ว่าง ติดภารกิจที่ทอรอนทัส ไอ้ที่เธอเรียกว่าปอกกล้วยเข้าปากนั่นแล่ะ”
อควาก็ยังตั้งหน้าตั้งตากินต่อไปจนอาหารในจานของเธอค่อนไปกว่าครึ่งแล้ว ท่าทางอากาศร้อนๆแบบนี้คงจะทำให้เธอหิวมากขึ้นเป็นทวีคูณ ยิ่งเป็นอาณาจักรเบอร์ลิลินในช่วงฤดูร้อนแล้วด้วยนั้น คงไม่ต้องพูดถึงอุณหภูมิที่ไม่มีวี่แววว่าจะลดน้อยลงในตอนกลางวันเลย ถึงแม้ว่าเธอจะกำลังกินแต่ด้วยการที่อยู่ด้วยกันมานานนั้นทำให้แจ๊ครู้ว่าเธอกำลังตั้งใจฟัง
“ภารกิจนี้เป็นภารกิจระยะยาว อีก สี่วันจะเริ่มภารกิจ นับแต่นี้ไปเราสองคนคือนักเรียนเตรียมสอบ ฉันหาข้อมูลมาแล้ว การสมัครสอบนั้นฉันทำเรื่องให้เธอแล้ว แต่วันสอบเธอจะต้องไปรายงานตัวด้วยตัวเอง รอบแรกเป็นการตรวจวัดพลังเวท ไม่มีปัญหา รอบที่สองเป็นข้อเขียน ก็คงไม่พ้นเรื่องทฤษฏีที่ผ่านหูผ่านตามาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เวทพื้นฐาน ดาบพื้นฐาน สัตว์เวทระดับต่างๆ อะไรพวกนี้ สอบแค่สองรอบก็ผ่านไปเลือกหอพัก สบายๆ ทำคะแนนให้ได้เกิน 80 คะแนน ก็ผ่านแล้ว แต่ไม่มีสอบปฏิบัตินี่มันก็แปลกๆอยู่นะ สำหรับสถานศึกษาอันดับหนึ่งของยูเร”
อควาที่ตอนนี้กำลังเคี้ยวหมูย่างรมควันแก้มตุ่ยๆ พยักหน้าเหมือนจะเห็นด้วยอย่างช้าๆ ถึงแม้ว่ามันจะฟังดูน่าเบื่อแต่เธอก็ไม่เคยปฏิเสธภารกิจอยู่แล้ว แต่ถึงแม้ว่าอยากจะปฏิเสธใจแทบขาดดิ้นก็คงจะไม่ได้
“และ....พอ.. เข้าไปแล้ว งั่มๆ ต้องเตรียมอะไรบ้างละ หนังสงหนังสือ งั่มๆ “
อควากินไปพูดไปและพอคำสุดท้ายเข้าปากก็ดื่มน้ำตามอึกใหญ่อย่างไม่สนใจคนรอบข้าง ที่มองไม่เห็นความเป็นกุลสตรีของเธอ แต่เหมือนคนตรงหน้าจะเคยชินกับพฤติกรรมแบบนี้ไปซะแล้ว แถมยังต่อด้วยจานที่สองซึ่งเป็นจานของเขา การพูดด้วยน้ำเสียงโทนเดียวตลอดเวลาของเธอนี่ในสายตาเขาแล้ว นอกจากหน้าตาที่สวยหวานของอควา เขาก็แทบจะไม่เห็นส่วนไหนที่เหมือนผู้หญิงทั่วไปของเธอเลย
“ถ้าสอบผ่าน ทางสถาบันจะให้ระเบียบการมา และกำหนดวันเปิดภาคเรียนอีกที”
แจ๊คหยิบแก้วน้ำมาดื่มพลางมองไปรอบด้าน ที่ตอนนี้มีคนเพิ่มมากขึ้นจนแทบจะทะลักออกนอกร้านอาหารแล้ว ที่นั่งที่เขาเลือกเป็นโต๊ะที่ใกล้ทางออกร้านมากที่สุดและอยู่ติดกับกระจก ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อความสะดวกในการหายเข้ากลีบเมฆและสามารถสอดส่องวิสัยทัศน์รอบด้านได้ดีอีกด้วย แจ๊คมองออกไปนอกร้าน พลางเห็นกลุ่มนักเรียนสถาบันเบอร์ลิลินกลุ่มหนึ่งเดินอยู่ด้านนอก เขาเรียกให้อควาหันไปมอง อควาเอียงหน้าเล็กน้อยและเหลือบตาไปมองนักเรียนรุ่นพี่กลุ่มนั้น เพื่อไม่ให้ฝ่ายถูกจ้องรู้ตัว
“แถบสองแถบที่แขนเสื้อ ปีสองสินะ ท่าทางไม่ธรรมดาเลย”
เธอพูดกับแจ๊คพลางหยิบผ้าเช็ดปากขึ้นมาเช็ด เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้ว่าเธอกำลังพูดอยู่ เธอไม่ได้มาที่อาณาจักรเบอร์ลิลินเป็นครั้งแรก แม้เพียงเสี้ยววินาทีที่คนกลุ่มนั้นเดินผ่านไป เธอก็รู้ได้ทันทีว่าคนกลุ่มนั้นไม่ธรรมดาช่วงนี้เป็นช่วงใกล้เปิดเทอมแล้ว ก็ไม่แปลกที่นักเรียนสถาบันจะกลับเข้าหอพักหลังจากที่หยุดยาวไปร่วมเดือน อีกทั้งช่วงนี้ยังเป็นช่วงรับสมัครนักเรียนใหม่ประจำปีการศึกษาด้วยแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจำนวนคนในอีกสองวันข้างหน้าว่าจะเยอะมากกว่านี้แค่ไหน คงมีคนที่อยากจะสอบเข้าสถานศึกษาชื่อดังร่วมพันๆคนในเมืองนี้เป็นแน่ ส่วนฝ่ายแจ๊คนั้นก็เอามือมาประสานตรงหน้าบ้าง
“ไอเวทเข้มข้นมากจนรู้สึกได้ ถ้าไม่ตั้งใจปล่อยออกมา ก็คงจะเก็บไอเวทไม่หมดนั่นแล่ะนะ”
ใช่แล้ว คนปกติแล้วต่อให้มีพลังเวทมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีสิ่งกระตุ้น หรือสื่อนำเวทก็จะดึงพลังออกมาใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เป็นปัญหาที่ผู้ฝึกหัดเวทขั้นต้นนั้นต้องเจอเป็นประจำ การกลบไอเวทไม่เป็นหรือยังไม่คล่องก็ด้วย เพราะการควบคุมไอเวทให้ไหลไปในทิศทางเดียวกันและปล่อยออกมาในจุดๆเดียวโดยที่ไม่มีการรั่วไหลเลยนั้นยากมาก ส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้เวทขั้นสูงเท่านั้นที่จะทำได้ แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เป็นสื่อนำเวทที่ดีและได้รับการบันทึกให้เป็นสื่อนำเวทที่ดีที่สุด ที่ดึงพลังเวทของผู้ใช้ออกมาได้สูงสุดและไม่ปรากฏการรั่วไหลของไอมนตร์เลย นั่นคือ คทา ปัจจุบันก็มีร้านที่ขายสื่อนำเวทมนตร์มากมายโดยเฉพาะที่อาณาจักรนี้ที่มี คทา ขายมากที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นเลยทีเดียว ใช้ได้ตั้งแต่คนหัดใช้เวทครั้งแรก ยันศาตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญเลยทีเดียว
“น่าจะฝึกกลบไอเวทนะ เท่าที่สังเกต ยิ่งไอเวทเข้มข้นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งกลบยากเท่านั้น การที่คนกลุ่มนี้ปล่อยให้ไอเวทรั่วไหลออกมาได้ แสดงว่า ยังกลบไอเวทได้ไม่ดีพอ ถึงแม้ว่าจะแค่นิดหน่อยก็เถอะ แต่นอกจากนายที่ความรู้สึกไวแล้ว คนปกติแถวนี้คงจะไม่รู้สึกหรอก”
“เธอด้วยไง อีกคนหนึ่งที่รู้สึก ฉันรู้นะว่ามีบางคนที่ปล่อยไอเวทหลุดออกมา แต่คงไม่เท่าเธอหรอก ที่แยกออกว่ามันออกมาจากคนไหน เล่นเดินติดกันเป็นก้อนขนาดนั้น”
อควายิ้มพร้อมกับส่ายหน้าน้อยๆและลุกขึ้นตามแจ๊คที่วางเงินไว้บนโต๊ะแล้วเดินนำหน้าออกไปก่อน ตอนที่ทั้งสองคนยืนอยู่หน้าร้าน อควาเอามือคล้องแขนแจ๊คอีกครั้งและพากันเดินออกห่างจากจัตุรัสไปเรื่อยๆ
“ฉันจะกลับไปสมาคมสักหน่อย”
ระหว่างที่เดินอยู่นั้น อยู่ดีๆอควาก็พูดโพล่งขึ้นมา ทำให้แจ๊คต้องหันมามองเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ เหมือนเธอจะรู้ดีว่าเขาถามหาเหตุผลจึงโพล่งไปอีกประโยค
“จะไปเบิกของที่หน่วยงานคลัง มีความเป็นไปได้สูงว่าจะไม่ได้กลับไปอีกนาน”
แจ๊คพยักหน้าเข้าใจและเห็นด้วย เพราะเธอไม่ได้เข้าไปที่สมาคมนานมากแล้ว กลับไปอีกทีคงจะได้อาวุธประจำตัวเซตใหม่แน่นอน
“เบิกโกลด์มาเยอะๆนะอควา ฉันว่าชุดนักเรียนสถาบันนี้คงจะขูดเลือดขูดเนื้อน่าดู”
“นั่นล่ะที่ฉันคิด ไม่ใช่แค่ชุดนะ ทุกอย่างน่ะแล่ะ”
เธอกับแจ๊คใกล้ถึงประตูเมืองแล้ว หากก้าวผ่านประตูไปก็จะพ้นออกนอกเขตเมือง
“ฉันจะอยู่ที่นี่นะ ว่าจะสำรวจอะไรสักหน่อย”
“ได้ ส่งฉันแค่นี้แล่ะ ไปไม่นานหรอก พรุ่งนี้ไม่เกินพระอาทิตย์ตก ฉันจะกลับมา”
แจ๊คส่งเธอที่หน้าประตูเมือง เธอหันมาร่ำลาแจ๊คพอเป็นพิธี เมื่อสายตาของทหารเฝ้าประตูมองมา สักพักก็ปล่อยผ่านไป เพราะเป็นธรรมดาสำหรับเมืองนี้ที่มีการเข้าออกตลอดเวลา ส่วนใหญ่แล้วทหารจะเข้มงวดกับผู้ที่จะผ่านเข้าประตูไปมากกว่า คนที่กำลังจะออกนอกประตูเมืองอย่างเธออยู่แล้ว
เมื่อเธอพ้นประตูเมืองมาสักระยะหนึ่ง เธอก็เปลี่ยนไปกระโดดขึ้นวิ่งบนต้นไม้แทนและส่งไอเวทไปเพิ่มความเร็วที่เท้ามากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับสายตาที่พยายามหาที่โล่งกว้างและแน่นอนว่าต้องเป็นที่สูงด้วย สายลมที่พัดผ่านหน้าทำให้เธอรู้สึกสดชื่นมากขึ้น สักพักเธอก็มาหยุดอยู่ตรงต้นไม้ต้นหนึ่ง ภาพข้างหน้าเป็นแม่น้ำใสที่พัดผ่านเข้าไปในตัวเมือง ที่ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นของแม่น้ำ เธอกระโดดตรงไปที่โขดหินที่ยื่นออกมาริมผาน้ำตกและพยายามขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของน้ำตกนั้น เธอขึ้นมาได้ไม่ยากเย็นนัก ที่ตรงนี้มีแอ่งน้ำใสอยู่ รายล้อมด้วยธรรมชาติ แต่ก็เป็นจุดโล่งกว้างริมหน้าผา ที่เมื่อทอดสายตามองไปแล้วสามารถเห็นตัวเมืองในอาณาจักรเบอร์ลิลินแถบนี้ได้เต็มตา ความสวยงามของสิ่งก่อสร้างภายในตัวเมืองทำให้เธอหยุดสายตาที่ไม่ว่าจะเห็นกี่ครั้งก็ทำให้เธอรู้สึกทึ่งได้ทุกครั้ง เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่ดีจุดหนึ่งเลยทีเดียว
อควาหยิบสร้อยที่ห้อยคอไว้ภายใต้เสื้อคลุมออกมา มันเป็นสร้อยเงินที่ห้อยไว้กับอะไรบางอย่างที่คล้ายขลุ่ยขนาดเล็ก เธอหยิบสิ่งนั้นขึ้นมาและปล่อยให้ไอมนตร์ไหลผ่านไปจนขลุ่ยอันเล็กนั้นมีไอเวทสีทองผสมสีดำวนเวียนอยู่รอบๆ เธอนำมันจรดริมฝีปาก และเริ่มเป่า
ฮู ~ . ….. …. …. . ฮู~ . .. . . .. . .. . . .. . . ฮู......... ..._
เป็นเสียงที่ไม่มีใครได้ยินนอกจากเธอและสิ่งที่เธอกำลังเรียกหาเท่านั้น ไม่นานเกินอึดใจรอ เมื่อลมที่พัดผ่านตัวเธอ โหมกระหน่ำแรงขึ้นเป็นเท่าตัว แต่อควาก็ยังคงเป่าต่อไปจนกระทั่งสิ่งๆหนึ่ง ร่อนลงมาจอดตรงหน้าเธอ สิ่งมีชีวิตสูงขนาดสามเมตร พร้อมด้วยปีกที่เมื่อกางสยายอย่างเต็มที่ ยาวกว่าห้าเมตร ขาอันทรงพลังที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัด และเท้าที่มีเล็บอันแหลมค่อยๆแตะพื้น ลำตัวที่เป็นเกล็ดสีดำเลื่อมทั้งตัวกำลังสะท้อนกับแสงแดด ดวงตาสีเหลืองอำพันกำลังจ้องมองเธอ พร้อมกับอ้าปากโชว์เขี้ยวอย่างช้าๆ บนหัวของมันมีหนวดยื่นออกมาสองเส้น พร้อมกับประกายสายฟ้าที่แล่นผ่านกันไปมา ดังเปรี๊ยะๆ หางที่ยาวของมันค่อยๆเกลี่ยผมที่โดนลมพัดปลิวมาเหน็บข้างหูให้เธออย่างช้าๆ สิ่งมีชีวิตที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ดีพอๆกับมนุษย์ มีอารยะที่ยาวนานกว่าหมื่นๆปี สิ่งมีชีวิตที่ยังไม่สูญพันธ์ทั้งหมดแต่ก็หายากเต็มทีในยูเร ว่ากันว่าหากได้ยลโฉมครั้งหนึ่งจะทำให้อายุของมนุษย์ผู้นั้นยืนยาวเป็นร้อยปี
‘สวัสดี นายหญิงอควา รอข้านานหรือไม่’
“ไม่นานหรอก เจคิส”
มังกร...
ความคิดเห็น