ตอนที่ 5 : 04 : Candy [Fran & Chiong ] .. 100 per ..




.. 100 per ..
04 ♥ Candy
รถค่อยๆจอดลงที่หน้าบ้านของผมช้าๆ สายตามองไปรอบบริเวณที่เงียบผิดปกติ ป่านนี้ชิม่อนจะทำอะไรอยู่นะ ไม่ได้เห็นหน้าน้องตัวเองหลายวันจนลืมไปแล้วว่ามีหน้าตาแบบไหน (เกินไปๆ)
ผมก้าวลงจากรถก่อนที่จะหันไปมองหน้าฟรานที่เงยหน้ามองบ้านของผมก่อนที่จะเหลือบสายตามามองผม ผู้ชายคนนี้ผมยอมเขาจริงๆ อะไรจะดีเลิศขนาดนี้
“บ้านเลสสวยดีนะครับ”
“…”
“แถมเจ้าของบ้านยังน่ารักอีกต่างหาก”
“=////= พูดไปก็ไม่เขินหรอก”
“ไม่เขินแต่หน้าแดงเนี่ยนะ =.,= เลสน่ารักจริงๆเลย”
ผมก้มหน้างุดมองพื้นคอนกรีตแล้วสะบัดหน้าหนีร่างสูงที่หัวเราะร่า ผมก็อายเป็นนะเนี่ย คนเหมือนกันครับ เหอะๆ ถ้าอยู่ๆมีคนมาชมคุณแล้วคุณจะรู้สึก เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ ยิ่งเป็นคนที่เรารู้สึกดีด้วยแล้ว
รู้สึกดี ? .. O////o
ผมไขกุญแจเปิดประตูรั้วเข้าไปข้างไหน ก่อนที่จะไขเปิดประตูบ้านอีกที ภายในบ้านเงียบผิดปกติจนผมเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดแปลกไป ผมเงยหน้ามองนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ฝาผนัง ตอนนี้ก็สี่โมงกว่าแล้วนะ ทำไมชิม่อนยังไม่กลับบ้าน!!
ผมหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาดูก่อนที่จะพบว่าโทรศัพท์ของผมมันชิบหายไปแล้ว - -* ผมอ้าปากค้างแล้วหันหน้าไปมองฟรานที่กำลังสำรวจรอบๆบ้านของผม
“ยืมโทรศัพท์หน่อยสิ”
“จะโทรหากิ๊กหรอครับ!”
“โทรหาน้องฉันต่างหาก !!”
ไอโฟนถูกยื่นมาตรงหน้าผม ผมเบ้ปากให้กับคนรวยตรงหน้า คนแบบผมแค่ BB ก็เกินพอแล้วล่ะครับ แต่ตอนนี้มันจากผมไปแล้ว T^T .. ไปเร็วเกินไปมั้ยเธอ เหอะๆ
ผมกดโทรศัพท์แล้วมองหน้าฟราน ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่นด้วยความกังวล น้องชายคนเดียวของผมหายไปทั้งคน และถ้าน้องผมเป็นพวกที่น่าตาแมนโคตรจะไม่ว่าอะไรเลย แต่หน้าตาน้องผมมันไม่ต่างจากผมเท่าไหร่เลยด้วยซ้ำไป แถมยังเป็นโรคหัวใจอีกต่างหาก ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย
(เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ)
ผมเม้มปากเข้าหากันแน่นก่อนที่จะกดโทรซ้ำอีกรอบ เสียงเดิมๆดังก้องในหูของผม ความกังวลถาโถมเข้าใส่ผมจนรู้สึกเข่าอ่อน ร่างของผมทรุดลงนั่งที่พื้นพร้อมกับปล่อยไอโฟนในมือไว้ที่พื้น มือกำกันแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นมา
“ฉันมันแย่ที่สุด!”
“เลส..”
“ฮึก !! .. ฉันมันแย่ที่สุด”
“…”
“แค่น้องชายยังดูแลไม่ได้เลย แย่มาก !!”
“ผมว่าเลสอย่าคิดมากเลย”
“ไม่ให้คิดมากได้ยังไงกัน !! .. นายจะไปรู้อะไรล่ะ”
“…”
“ถ้าฉันดูแลน้องดีกว่านี้ ถ้าฉันเลือกได้คงไม่อยากให้เป็นแบบนี้!!”
ผมนั่งก้มหน้าซบหัวเข่า แขนทั้งสองข้างกอดเข่าเอาไว้แน่น ผมได้ยินเสียงขยับตัวของร่างสูงก่อนที่ความอบอุ่นจะแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัวผม เมื่อร่างสูงโอบกอดร่างของผมเอาไว้แน่น ขายาวตีกรอบรอบตัวผมเอาไว้ มือหนาลูบปลอบโยนเบาๆ
“ผมมันไม่รู้อะไรหรอก แต่ผมอยากให้เลสมั่นใจในตัวชิม่อนว่าหมอนั่นต้องไม่เป็นอะไร ชิม่อนน่ะแข็งแรงกว่าที่เลสคิดอีกนะฮะ”
“นายรู้จักชื่อน้องฉันได้ไง!”
“ผมบอกเลสแล้วไงครับ ว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อน”
มือหนาเลื่อนมาเชยคางของผม นิ้วโป้งค่อยๆเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มผมเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นที่เห็นทีไรก็ชวนใจเต้นอยู่ทุกที
“เดี๋ยวผมจะบอกให้ลูกน้องในแก็งค์ไปตามสืบเรื่องของชิม่อนให้ ตอนนี้เลสก็ทำใจให้สบายไว้ก่อนนะครับ ผมไม่อยากให้เลสเครียดมาก”
“มัน..”
“ผมรู้ว่ามันยาก แต่ผมก็อยากให้เลสเชื่อใจผม”
ฟรานฉีกยิ้มบางๆให้ผมแล้วเลื่อนมือหนามาขยี้หัวผมเบาๆ เล่นเอาซะผมกลายเป็นเด็กไปเลยสิครับ -_- ! .. ผมทำหน้ามู่ทู่แล้วหันหน้าหนีด้วยความเขินอาย ใครก็ได้เอาฟรานไปเก็บที ก่อนที่ผมจะเขินตายไปก่อน เหอะๆ
ร่างสูงหยัดตัวลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือมาตรงหน้าผม ผมวางมือบนมือหนาเบาๆแล้วหยัดตัวลุกขึ้นตามแรงดึง ร่างผมเซไปซบอกกว้างโดยไม่ทันได้ตั้งตัว หน้าผมเนี่ยแดงไปหมดเลย รู้สึกอายโคตรๆ
“อยากกอดผมก็ไม่บอก”ฟรานโอบรัดรอบเอวผมเอาไว้แน่นจนร่างกายทุกส่วนแนบชิดกัน ลมหายใจอุ่นๆรดที่ข้างแก้มของผม เพราะตอนนี้ใบหน้าหล่อโน้มลงมาต่ำมากๆ
“บะ..บ้าหรอ อย่าเอาหน้าเข้ามาใกล้มากสิ!!”
“ทำไมครับ”
ยิ่งพูดเหมือนยิ่งยุ ใบหน้าหล่อโน้มต่ำลงมาอีกจนปลายจมูกชนกันเบาๆ สายตาเราสองสอดประสานกันโดยไม่ทันตั้งตัว ดวงตาคมตรงหน้าเหมือนมีมนตร์สะกดบางอย่างสั่งให้ผมจ้องกับดวงตานั้นด้วยความหลงใหล ใบหน้าเหมือนมีแรงดึงดูดเข้าหากันก่อนที่ริมฝีปากของผมกับฟรานจะประกบกันช้าๆ
รสหวานละมุนกับสัมผัสที่อ่อนโยนถูกส่งผ่านมาทางริมฝีปากสีซีดตรงหน้า มือหนาเลื่อนมาประคองใบหน้าของผมให้เอียงตามองศาที่เขาต้องการ ผมหลับตาพริ้มรับสัมผัสตรงหน้าพร้อมกับหัวใจที่พองโต
ฟรานถอนริมฝีปากออกช้าๆแล้วฉีกยิ้มบางๆให้ผม มือหนายังคงรั้งรอบเอวของผมเอาไว้แน่น ผมก้มหน้างุดมองพื้นด้านล่างเพื่อซ่อนใบหน้าของตัวเอง เขินอ่ะ !! =/////=
“ผมอยากกินเลสเข้าไปทั้งตัวจัง”เสียงแผ่วเบากระซิบที่ข้างหูของผมแล้วก้มลงจุมพิตที่ซอกคอของผม ลมหายใจอุ่นๆรดที่ไหปลาร้าของผมจนรู้สึกสยิวขึ้นมา
พลั่ก!
ผมทุบลงที่หน้าอกแกร่งตรงหน้าที่พูดจาน่าเกลียด แต่ใบหน้าของผมเนี่ยแดงแปร๊ดไปหมดแล้ว ผมยอมผู้ชายคนนี้จริงๆ .. >o< !!
“เลสครับ คือผมมีเรื่องอยากจะบอก”
“หืม ? อะไรหรอ”
“อีกสองสามสัปดาห์นี้จะมีการรวมหัวหน้าแก็งค์จากทุกมุมโลก มันเป็นงานสำคัญมากๆ ผมอยากให้เลสได้ไปร่วมงานในครั้งนี้ด้วย”
“ก็ได้นะ”
“ครับ ><”
ผมฉีกยิ้มกว้างแล้วมองร่างสูงตรงหน้าที่ฉีกยิ้มกว้าง ผู้ชายคนนี้น่ารักชะมัดเลย
พรึ่บ
“เฮ้ย !! =////= ทำอะไรเนี่ย”
ฟรานก้มลงช้อนตัวอุ้มผมในท่าเจ้าหญิง ผมกลัวตกลงไปจึงเลื่อนมือไปโอบรอบคอของฟรานเอาไว้แน่น หน้าผมแดงก่ำด้วยความเขินอายแบบสุดขีด - -* เอาผู้ชายคนนี้ไปเก็บที
“เรายังไม่ได้ขึ้นเรือนหอเลยนะ”
“=////= อย่ามาตลก ปล่อยฉันนะ”
“ไม่เอาครับ ห้องนอนเลสอยู่ไหนฮะ”
“ไม่บอก”
“ผมหาเองก็ได้”
ฟรานอุ้มร่างผมเอาไว้แล้วเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง เขากวาดสายตามองแล้วเดินไปที่หน้าห้องห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องนอนผมนั่นแหละ เขารู้ได้ไงเนี่ย - -* !! .. ผมขมวดคิ้วเป็นปมทันทีที่เห็นแบบนี้ ฟรานผลักประตูเข้าไปในห้องแล้วเดินตรงเข้ามากลางห้องแล้ววางผมลงบนเตียง
ร่างสูงแทรกผ่านเข้ามาแล้วเกลี่ยผมที่ปรกตาผมออกช้าๆ ดวงตาคมกริบต้องมนตร์สะกดที่น่าหลงใหลจนเกินห้ามใจ ริมฝีปากสีซีดจรดลงมาที่ริมฝีปากของผมช้าๆ ความหวานละมุนลิ้นถูกส่งผ่านมา มือหนาประคองใบหน้าของผมเอาไว้
ริมฝีปากร้อนลากไล้ลงมาที่ปลายคางมนก่อนที่จะเลื่อนต่ำลงมาจุมพิตที่บริเวณซอกคอตรงหน้า ผมอ่อนระทวยและรู้สึกร้อนทุกที่ที่เขาสัมผัส ริมฝีปากร้อนเลื่อนมาขบเม้มที่ไหปลาร้าของผม ผมสั่นระริกไปทั้งตัวด้วยความเสียงซ่าน
“ฟราน..”
“ผมรักเลสนะ แต่ถ้าเลสไม่พร้อม ผมจะไม่ฟื้นใจเลส”ฟรานพูดแล้วฉีกยิ้มบางๆให้ ผมเลื่อนมือไปคล้องคอคนตรงหน้าก่อนที่จะเลื่อนใบหน้าไปกระซิบที่ข้างหูเขาเบาๆ
“ฉันขอโทษ..”
ฟรานรั้งร่างของผมเข้าไปกอดเอาไว้แน่นมาก ใบหน้าหล่อซบลงที่ไหล่ของผม ผมรู้ว่าฟรานเจ็บมากแค่ไหนที่ผมจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้ แต่จะให้ผมทำยังไงล่ะ ผมน่ะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้รู้สึกยังไงกับเขา และเมื่อก่อนรู้จักเขาได้ยังไง ความทรงจำส่วนที่ขาดหายไปของผมจะกลับมาตอนไหน ก็ไม่มีใครรู้ได้อีก
“ผมจะรอนะ จนกว่ามันนั้นจะมาถึง”เสียงแผ่วๆกระซิบที่ข้างหูผม เป็นเสียงที่อ่อนล้าและเจ็บปวด ผมกล้ำกลืนความรู้สึกปวดหนึบเอาไว้แล้วกอดตอบคนตรงหน้า
“ฟราน.. ถ้าเกิดว่าความทรงจำของฉันไม่กลับมา นายจะทำยังไง”
“ผมก็จะรอต่อไป จะทำให้เลสรักผม”
“ถ้าเกิดว่า..”
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะไม่เลิกรักเลสเด็ดขาด ผมสัญญา”
ฟรานทิ้งตัวลงนอนที่ข้างๆผมแล้วรั้งร่างผมเข้าหาตัวเอง ใบหน้าหล่อซุกอยู่ที่ซอกคอของผม ลมหายใจอุ่นๆที่รดที่ซอกคอยิ่งทำให้ผมสยิวขึ้นมา มือหนาที่รั้งรอบเอวบางเอาไว้แน่น มันทำให้ผมรู้สึกเกร็งจนจะบ้าตาย ผมมองเสี้ยวหน้าหล่อตรงหน้าแล้วฉีกยิ้มออกมาบางๆ ใบหน้าโน้มไปใกล้ฟรานก่อนที่จะปิดเปลือกตาลงช้าๆ
ต่อค่ะ
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยเด็กๆ
.. ที่นี่มันที่ไหน ผมมองรอบข้างด้วยความหวาดกลัว มันมืดสนิทจนรู้สึกหนาว
‘ฮึก ก ก ฮือ อ อออ’เสียงร้องไห้ของใครกัน ? ผมเลื่อนมือไปแตะความมืดมิดตรงหน้าก่อนมันจะค่อยๆสว่างขึ้น ผมยกมือขึ้นมาบังแสงที่กำลังสาดส่องเข้ามา และสถานที่ที่ผมมาโผล่คือ โรงพยาบาล ? งั้นหรอ
ผมเดินไปตามทางที่ทอดยาว สุดทางคือห้องฉุกเฉิน พ่อกับแม่ของผมนั่งภาวนาอยู่ที่หน้าห้อง ผมเดินไปแตะที่มือท่านแต่ไม่สามารถที่จะคว้าเอาไว้ได้ มือผมผ่านร่างของพวกท่านทั้งสอง
นี่มันอะไรกัน!
‘ชิอง ชิม่อนลูกแม่ คุณค่ะ ฮือ ออ ลูกของเราจะเป็นอะไรมั้ย’แม่ผมถามเสียงสั่น ใบหน้าซีดเผือดพร้อมกับความเศร้าสร้อยกำลังจ้องมองที่ประตูห้องฉุกเฉิน พ่อกอดร่างแม่แน่นก่อนที่น้ำตาของผู้เป็นพ่อจะค่อยๆไหลรินลงมาช้าๆ
ตึก ตึก ตึก
‘ไอ้กฤษธิ์ น้ำใส หลานๆเป็นไงบ้างวะ’ชายรูปร่างภูมิฐานเดินเข้ามาด้วยใบหน้ากระวนกระวาย ข้างกายมีเด็กชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเดินตามเข้ามาด้วย เด็กผู้ชาย.. ?!!
‘เข้าไปร่วมสองชั่วโมงแล้ว ยังไม่ออกมาจากห้องฉุกเฉินเลยวะ เห็นบอกว่าชิม่อนมีอาการช็อคเลยทำให้โรคหัวใจกำเริบหนักขึ้น ส่วนชิองมีเลือดคั่งในสมองและสมองถูกกระทบกระเทือนอย่างแรง’
ผมเลื่อนมือมาปิดปากตัวเองแล้วทรุดนั่งลงที่พื้น
ไม่จริง !!
‘ฟราน.. เป็นห่วงพี่เขาใช่มั้ยลูก’แม่ผมดึงร่างของเด็กชายคนนั้นเข้าไปกอดแน่น
ฟราน ? O_o
ผมเงยหน้าขึ้นมองภาพตรงหน้าแล้วพยายามไขว่คว้าเอาไว้ แต่มันคว้าได้แค่เพียงอากาศ ภาพตรงหน้าค่อยๆห่างไกลออกไปเรื่อยๆจนลับสายตา
พรึ่บ !!
ผมสะดุ้งโหยงแล้วมองบรรยากาศบนรถครอบครับ นี่มันก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุนิ่ ผมยิ้มมีความสุขกับรอยยิ้มของพวกผม โค้งตรงหน้ามาถึงซึ่งเป็นโค้งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
ไม่นะ !! หยุดรถ พ่อครับ
ผมตะเบ็งเสียงออกไปแต่ภาพตรงหน้าไม่ได้ยินผม ไม่มีใครสนใจผม พวกเขาหัวเราะอย่างมีความสุขก่อนที่ภาพทั้งหมดจะหมุนติ้ว รถครอบครัวพลิกคว่ำที่ข้างทาง ร่างของผมกับชิม่อนโชกเลือดไปหมด พ่อกับแม่หมดสติไปเสียแล้ว
นี่มันโหดร้ายที่สุด..!!
ไม่จริง !! ฮึก ฮือ อ ออ
“เลสฮะ”
“ไม่นะ”
“ได้ยินผมมั้ย”
“ไม่นะ !! ไม่!!”
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อท่วมตัว ใบหน้าแตกตื่นจ้องมองฟรานก่อนที่จะหายใจเข้าออกช้าๆ
“เป็นอะไรไปครับเลส ผมตกใจมากเลยนะที่อยู่ๆเลสก็เป็นแบบนี้”
“ฉันแค่.. ฝันร้ายน่ะ”ผมตอบเสียงแผ่วแล้วเช็ดเหงื่อที่ไหลเต็มใบหน้า ขาค่อยๆชันเข่าขึ้นมาแล้วกอดเอาไว้แน่น ภาพความทรงจำเหล่านั้นกำลังวนเวียนอยู่ในหัวของผมไม่หยุดหย่อน
“เลส.. มีอะไรก็เล่าให้ผมฟังได้นะ”
“ฟรานเชส ฉันกับนายรู้จักกันสินะ”
“ครับ”
“นายช่วยทำให้ความทรงจำของฉันกลับมาเร็วๆได้มั้ย การที่มันไม่รู้อะไรเลยมันทรมานมากเลยนะ”
“ผม..”
“ไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ตาม ฉันอยากที่จะรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นความจริง ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันขาดหายไป”ผมตอบเสียงเข้มแล้วจ้องใบหน้าของฟรานนิ่งๆ เขาไม่ตอบอะไรผมเลยแม้แต่คำเดียว
ผมกระชากร่างสูงให้นอนราบกับเตียงแล้วขึ้นคร่อมร่างนั้นเอาไว้ ฟรานทำหน้าตกใจสุดขีดแล้วจับจ้องมายังร่างของผมแบบไม่กระพริบตา
“ฟราน!!.. ฉันอยากรู้ตอนนี้ ช่วยเล่าเรื่องทุกๆอย่างทั้งเกี่ยวกับตัวนายและเกี่ยวกับตัวฉันในสมัยเป็นเด็กให้ฟังทั้งหมดเลยนะ”
“เลส..”
“เดี๋ยวนี้ด้วย”
“อะ..เอ่อ”
ฟรานทำหน้าตาตื่นสงสัยอึ้งกับการกระทำของผมล่ะมั้ง =w= .. ความอยากรู้ทำให้ผมกลายเป็นนางแมวป่า หึหึหึ ใครก็หยุดผมไม่ได้ !!
“ก่อนอื่นเลสลงไปจากตัวผมก่อนได้มั้ย =.,= พอเลสอยู่ท่านี้แล้วอยากทำอย่างอื่นแทน”
“-*-!! ฟรานเชส”ผมแว๊ดเสียงดังลั่นแล้วค่อยๆคลานลงจากตัวของเขามานั่งบนเตียงข้างเขา ใบหน้าเชิดขึ้นแล้วถอนหายใจออกมา มือเลื่อนมาเสยผมที่ปรกหน้าขึ้นแล้วเหม่อมองไปรอบๆห้อง
ฟรานหยัดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วเอื้อมมือมากุมมือผมเอาไว้แน่น ริมฝีปากสีซีดฉีกยิ้มบางๆให้ผมแล้วเลื่อนมืออีกข้างมายีหัวผมจนยุ่งเหยิงไปหมด
“ผมจะเล่าในสิ่งที่ผมรู้ให้เลสได้ฟัง”
“…”
“ผมไม่รู้หรอกว่าความทรงจำของเลสจะกลับมาตอนไหน ถ้ามันไม่กลับมาเราก็สร้างความทรงจำใหม่ลงไปแทนที่ก็ได้นิ่เลส”
“ฟรานคิดว่าระหว่างการที่เรารู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับตัวเราและคนรอบข้างกับการที่เราไม่รู้อะไรเลย แบบไหนเจ็บปวดมากกว่ากัน ?”
“ผมไม่แน่ใจนะ แต่สำหรับผมมันเจ็บปวดทั้งสองแบบนั่นแหละนะ ^^”
“ยังจะมายิ้มอีกหรอ”ผมยิกแก้มคนตรงหน้าแล้วเลื่อนมือไปหยิบหมอนบนเตียงมากอดเอาไว้แน่น ใบหน้าแนบไปกับหมอนตรงหน้าแล้วทำแก้มป่อง
“เอาล่ะนะ ผมจะเล่าแล้ว..”
“รอจนจะเฉาตายแล้ว”
“งั้นมาทำอย่างอื่นกันเถอะ =.,=”
“หน้าตาหื่นได้ตลอดเวลาเลยจริงๆ ไม่ต้องมาทำเป็นเปลี่ยนเรื่องเลยนะ เล่ามาๆ”
ผมกอดหมอนแน่นแล้วจับจ้องไปยังใบหน้าของฟรานที่พยายามนึกหวนถึงวันเก่าๆ มือหนาค้ำคางตัวเองเอาไว้ก่อนที่คิ้วจะขมวดเป็นปม
“มีอัลบั้มรูปเก่าๆมั้ยครับ ?”
“ก็มีนะ ทำไมหรอ ?”
“ผมจะเอาเป็นสื่อประกอบการรายงาน >0< .. เลสช่วยหยิบมาให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ”
ผมโยกหัวไปมาแล้วลุกจากเตียงไปยืนนิ่งมองหาอัลบั้มรูปที่ชั้นหนังสือ สายตากวาดไล่ตั้งแต่หนังสือเรียนไปยันหนังสือการ์ตูน ก่อนที่สายตาจะสะดุดกับอัลบั้มรูปสามเล่มที่วางชิดติดกัน ผมดึงมันออกมาแล้วปัดฝุ่นที่ขึ้นเกาะเต็มไปหมด ไม่ได้เปิดดูนานมากจนแมงมุมจะมาทำรังอยู่แล้ว =3=
“อ่ะ.. มันฝุ่นเยอะหน่อยนะ พอดีไม่ค่อยได้เปิดดูน่ะ”
ฟรานรับอัลบั้มไปปัดๆเป่าๆแล้วเปิดออกช้าๆเพราะกลัวมันหลุด เว่อร์ได้อีก ! - -* ผมนั่งลงที่ตรงข้ามกับร่างสูงแล้วดึงหมอนมากอดเอาไว้แน่น สายตาจับจ้องรูปถ่ายสมัยเด็กของผม
“ผมกับชิองรู้จักกันตั้งแต่แรกเกิดเลยรู้รึป่าว J เพราะว่าพ่อแม่ของผมรู้จักกับพ่อแม่ของชิอง ทำให้สนิทกันและเล่นด้วยกันมาตลอด”
“…”
“ในตอนนั้นผมมีความสุขมากๆเลยนะ พวกเราสามคนวิ่งเล่นด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน ยิ้มด้วยกันและร้องไห้มาด้วยกัน ช่วงเวลาในตอนนั้นผมอยากให้เลสจำมันได้จัง”รอยยิ้มเศร้าๆปรากฏบนใบหน้าหล่อของฟราน ผมรู้สึกจุกที่อกก่อนที่จะเบนหลบสายตาหนีเขา
ยิ่งเห็นรอยยิ้มแบบนั้นยิ่งรู้สึกผิด ยิ่งเห็นหน้าตาของฟรานเล่าถึงเรื่องในอดีตยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่คนละโลกกับเขา ใบหน้าที่ทั้งสุขทั้งเศร้าปะปนกันไปพร้อมกับเรื่องเล่าที่ถ่ายทอดเข้ามาในหัวของผม ภาพเป็นฉากเป็นตอนกำลังร้อยเรียงเป็นเรื่องราวภายในหัว
ผมที่กำลังตกในภวังค์นิ่งค้างอยู่อย่างนั้น เปลือกตาค่อยๆปิดลงช้าๆ เสียงหัวเราะของเด็กดังก้องในหัวของผม เสียงฝีเท้าที่ดังกึกก้องอยู่ในหัวกำลังเชื่อมต่อความทรงจำบางส่วน
“ฟะ..ฟราน”ผมพึมพำออกมาพร้อมกับเอ่ยเรียกชื่อของเด็กหนุ่มที่ผมเห็น มือผมพยายามไขว่คว้าร่างของคนตรงหน้า แต่ภาพนั้นค่อยๆจางหายไปจนเหลือแต่ความมืด
ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านมายังมือของผม เปลือกตาค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆแล้วมองภาพที่เป็นปัจจุบันตรงหน้า ฟรานนั่งกุมมือผมเอาไว้แน่นแล้วมองด้วยสายตาเป็นห่วง
“เลสเป็นอะไรไปครับ?”
“พอพยายามนึกถึงเรื่องวันเก่าๆ ก็เหมือนกับว่าฉันถูกดูดกลับเข้าไปในเหตุการณ์นั้น แต่พอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งมันเลือนรางจนแทบจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ฉัน..”
“ชู่”
นิ้วเรียวยาวแตะที่ริมฝีปากของผมเบาๆก่อนที่รอยยิ้มบางๆจะปรากฏบนใบหน้าของฟราน เขายีหัวผมเล่นจนฟูฟ่องไปหมด
“อย่าฝืนเลยครับ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป”
“อืม”ผมตอบกลับไปเพียงเท่านั้น ในหัวคิดแค่ว่าถ้าความทรงจำกลับมาเร็วๆมันน่าจะดีกว่านี้อีกนะ
Say : =.,= พอเลสอยู่ท่านี้แล้วอยากทำอย่างอื่นแทน
♥ Fran ♥
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แต่หื่นตลอดเว
เลสจำได้เร็วๆนะ
^^
55555
ฟรานนนนนนนนนนน
ฟรานพยายามต่อไปนะ
ชิม่อนเป็นโรคหัวใจอยุ่ //