ตอนที่ 18 : 17 : Violet Moon [Night x Chimon] .. 100 per ..




In your eyes - Onew (SHINee)
100 per
17 : Violet Moon
หลังจากวันนั้นผมก็ออกจากโรงพยาบาลมาได้สักระยะ พอออกมาปุ๊บก็ต้องไปร่วมงานวันรวมหัวหน้าแก็งค์จากทุกมุมโลก มันเป็นงานที่ใหญ่มากพอสมควร ผู้มีอิทธิพลมากหน้าหลายตามารวมตัวกันที่คฤหาสน์ขนาดใหญ่โตของตระกูลแลมเบิร์ก ซึ่งเป็นตระกูลที่เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องอำนาจสูงสุด
ผมเดินลงมาจากรถคันหรูพร้อมๆกับไนท์ แขนคล้องที่แขนยาวเอาไว้แน่นแล้วมองบรรยากาศรอบตัว การรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนามากเป็นพิเศษ และบอดี้การ์ดท่าทางน่ากลัวยืนคุมอยู่ทุกมุมของงาน
“อย่าปล่อยมือจากแขนของกูเด็ดขาด”
“รู้แล้ว.. ผมจะปล่อยทำไมล่ะ ที่นี่มันน่ากลัวแถมยังมีบรรยากาศแปลกๆที่ผมไม่ใช่”ผมพึมพำออกมาแล้วเกาะแขนไนท์แน่น บอดี้การ์ดประจำตัวของผมเดินตามประกบอย่างแน่นหนา เหมือนเป็นพวกประธานาธิบดีเลย =o=
“คิงครับ.. วันนี้ทางแก็งค์ฟรานซิสซ่าร์จะมาร่วมงานพร้อมกับมายเลดี้ครับ”
“งั้นหรอ กูว่าวันนี้ต้องมีเรื่องสนุกๆเกิดขึ้นแน่ๆวะ”ไนท์พึมพำออกมาแล้วพาผมเดินเข้าไปในคฤหาสน์ขนาดใหญ่
ภายในตกแต่งอย่างหรูหราจนเกินหน้าเกินตา บรรดาแขกเหรื่อที่มาในงานมีทั้งอธิบดีกรมตำรวจและทหารชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งผมไม่เข้าใจว่ามาร่วมงานได้ไง แต่ในสังคมมืดแบบนี้การคอรัปชั่นถือเป็นเรื่องปกติสินะ ? ! ผมเบนสายตาหนีแล้วมองรอบงานด้วยความตื่นตาตื่นใจ
“กำหนดการเป็นไงบ้างวะ”
“คิงครับ อีกประมาณครึ่งชั่วโมงจะมีการกล่าวรายงานและแนะนำแก็งค์ต่างๆที่มาเข้าร่วม มีการแสดงโชว์และมีการประมูล หลังจากงานนี้จะมีการสังสรรค์ทั่วไปครับ แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือการประกาศตัวของคู่ครองของแต่ละแก็งค์ครับ”ผมหูกระดิกแล้วมองหน้าการ์ดที่เดินมารายงานไนท์
ว่าไงนะ?!! .. ประกาศตัว ?
“ไนท์!”
“มีประกาศตัวด้วยหรอวะ ตัดรายชื่อของควีนออก ร่างกายของควีนยังไม่อำนวย”
“ครับ”
การ์ดเดินจากไปพร้อมกับกำหนดการ ผมเม้มปากเข้าหากันแน่นแล้วกระตุกเสื้อไนท์เบาๆ
“ไนท์.. ผมอยากไปห้องน้ำ พาผมไปได้มั้ย”
ไนท์เลิกคิ้วสูงแล้วพาผมเดินแหวกฝูงคนออกมาที่ฝั่งด้านขวาของงาน ร่างสูงพาเดินไปตาทางเดินที่ทอดยาวจนกระทั่งเห็นประตูห้องหนึ่งที่แง้มอยู่หน่อยๆ เสียงพูดคุยในห้องเรียกความสนใจจากผมและไนท์เป็นอย่างมาก
“การประมูลในวันนี้มันจะไม่ธรรมดา กูจะเอาคู่ครองของแต่ละแก็งค์มาประมูล”เสียงของชายร่างท้วมผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์เอ่ยเสียงดังลั่นกับลูกน้องของตน ผมรู้สึกตัวชาวาบไปหมด ไนท์รีบหลบที่ข้างประตูแล้วเงี่ยหูฟังบทสนทนาต่อจากนั้น มือหนา
เลื่อนมาตะครุบปากของผมเอาไว้ก่อนที่ผมจะพูดอะไรออกไป
“แล้วท่านจะทำยังไงให้พวกนั้นหลงเชื่อครับ”
“กูมีแผนก็แล้วกันวะ ก่อนอื่นเลย ไล่การ์ดของพวกแม่.งออกไปให้หมดจนเหลือแต่หัวหน้า อาวุธห้ามพกเข้ามาเป็นกฎเหล็กของงานอยู่แล้ว พอถึงเวลาแนะนำตัวคู่ครอง ตอนนั้นแหละ ล้อมคอกแม่.งเลย”
ใจผมกระตุกวูบแล้วองเสี้ยวหน้าของไนท์ที่ตอนนี้สงบนิ่งแล้วราวกำลังใช้ความคิด ดวงตาคมก้มลงมามองผมก่อนที่จะมองสัญญาณประมาณว่ารีบเดินหนีก่อนที่มันจะเห็น
แต่พอพวกผมจะก้าวเดินต่อไปก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินประโยคนี้..
“กูได้ข่าวว่าสองแก็งค์ใหญ่ได้คู่ครองที่เป็นพี่น้องกัน ถ้าจำไม่ผิดแก็งค์ฟรานซิสซ่าร์กับแก็งค์แมกนัสรึป่าววะ”
“ไนท์..”
“เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง ตามกูมาก่อน”ไนท์ลากผมออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ผมซึ่งอยู่ในภาวะตื้อไปหมดจนทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงกัน ?
พอเห็นว่างสะดวกแล้วตอนนี้ผมกับเขาก็อยู่ที่ห้องน้ำเป็นที่เรียบร้อย ไนท์ดังร่างผมจนชนกับขอบอ่างล้างหน้า มือหนารั้นร่างผมจนขึ้นมานั่งที่ขอบอ่าง เขาแทรกกายเข้ามายืนตรงกลางหว่างขาของผมอย่างรวดเร็ว มือหนากั้นทางหนีแล้วจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของผม
“พี่ของมึงคือชิองใช่มั้ย”
“O_o”
“ผู้ชายคนนั้นตอนนี้เป็นมายเลดี้หรือคู่ครองของหัวหน้าแก็งค์ฟรานซิสซ่าร์ที่เป็นอริกับแก็งค์กู กูไม่รู้หรอกว่าหัวหน้าแก็งค์นั้นคิดยังไง แต่กูได้ข่าวมาว่า วันที่กูไปรับมึงมาอยู่กับกูเป็นวันเดียวกันกับที่ฝั่งนั้นทำแบบนั้นเหมือนกัน”
“…”
“กูไม่อยากให้มึงขวัญเสีย ทางแก็งค์นั้นไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย แต่กูกับหัวหน้าแก็งค์ไม่ชอบหน้ากันเท่าไหร่ มันเลยทำให้เป็นเรื่องเป็นราวอยู่เสมอ”มือหนาประคองใบหน้าผมแล้วสบตา ริมฝีปากสีซีดกดจูบลงมาช้าๆแล้วบดเบียดริมฝีปากลงไปอย่างรั้นๆเหมือนเด็กๆ ผมพยายามเบี่ยงหน้าหนีเพราะหัวใจที่เต้นรัวเร็วเกินไปจะทำให้คนตรงหน้าได้ยินเสียงของมัน
“ไนท์พอเถอะ..”ผมดันอกแกร่งออกห่างแล้วหายใจหอบ หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยความเขินอาย
“…”
“ผมกังวล”ผมก้มหน้าลงมองพื้นห้องน้ำนิ่งแล้วถอนหายใจออกมา มือหนาเลื่อนมาประคองใบหน้าของผมให้เงยขึ้นสบตา เขาโน้มหน้าลงมาเอาหน้าผากชนกันเบาๆ ริมฝีปากสีซีดกดจูบที่ปลายจมูกเบาๆก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นกัดแทน ผมกุมจมูกตัวเองแล้วบู้หน้าใส่
“กังวลอะไรวะ เดี๋ยวกูไปขอถึงที่”
“ไม่ใช่นะ .. พี่ชิองเป็นประเภทห่วงน้องมาก พี่เขารักผมมากและไม่อยากให้ผมมาประสบหรือตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขา และอีกอย่างนะตอนนี้ผมไม่อยากห่างจากพี่ชิองเท่าไหร่ ผมไม่รู้ว่าความทรงจำของพี่แกจะกลับรึยัง”
“เด็กโง่ =o=.. เรื่องแบบนี้ใครให้กังวลกันวะ เดี๋ยวกูจัดการเอง แค่มึงอยู่ข้างกูพอ”
ผมเลื่อนแขนไปโอบรอบคอของไนท์เอาไว้แล้วเอนหัวซบไหล่กว้าง หัวใจที่กำลังเต้นอยู่บ่งบอกเลยว่าผมกำลังหายใจและมีความสุขมากๆ ไนท์กอดร่างของผมแน่นแล้วกระซิบเบาๆที่ข้างหู
“กูรักมึง”
“ไนท์…”
“กูทำตามสัญญาที่มึงขอ และกูทำตามใจกูเอง”
ไนท์จูงมือผมออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินตรงไปยังห้องจัดเลี้ยง ก่อนเข้าห้องจัดเลี้ยงมีการ์ดคอยขนเอาอาวุธอยู่จริงๆ ผมไม่โดนตรวจเพราะไนท์ห้ามเอาไว้ เขาโดนตรวจอย่างถี่ถ้วนแต่ไม่พบอะไรเลย จากที่แขกในงานที่เยอะ แต่นี้เหลือแต่พวกบิ๊กๆกันทั้งนั้น
ผมกวาดสายตามองไปรอบๆงานด้วยความตื่นเต้น เพราะผมรู้ล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ พิธีกรในงานเดินขึ้นไปบนเวทีกลาง สปอร์ตไลท์มากมายสาดส่องไปยังร่างของชายภูมิฐานที่ยืนสง่าบนเวที ไนท์เลื่อนมือมากุมมือผมแน่นแล้วมองรอบๆตัวด้วยความระมัดระวัง
เป็นจริงอย่างที่พวกมันพูดกันไว้ การ์ดมากมายของแต่ละคน คนคุ้มกันถูกกันออกไปนอกงานหมดแล้ว ตอนนี้ในงานเลี้ยงมีเพียงแค่พวกบิ๊กๆกันทั้งนั้น
“มึงแค่อยู่ข้างๆกูก็พอ”ไนท์โน้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหูผมแล้วเหลือบสายตาไปมองหลังเวทีที่มีการประชุมกันอย่างลับๆ
ผมมองไนท์ที่อยู่ๆก็สัมผัสที่หูตัวเองเหมือนกับว่าเขาซ่อนบลูทูธเอาไว้ ปากของไนท์ขยับแผ่วๆเหมือนกำลังส่งสัญญาณไปให้ลูกน้องที่อยู่ด้านนอก
“ไนท์.. ตอนนี้กี่โมงแล้ว ?”
“จะสามทุ่มแล้ว ทำไมวะ ?”
“งั้นหรอ.. ผมแค่รู้สึกไม่ดีก็เท่านั้นเอง อยากให้งานนี้มันจบลงเร็วๆ เพราะผมรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ”ผมพูดแล้วฉีกยิ้มแห้งๆให้ไนท์ ความกังวลกำลังเกาะกินใจผมช้าๆ
“อย่าคิดมาก ถ้ากูอยู่ข้างๆมึง มึงไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น”มือหนาวางแหมะบนหัวผมเบาๆ
ตึกตึก..
เสียงฝีเท้าที่ดังก้องในหัวของผมเรียกความสนใจของผมให้หันกลับไปที่ด้านหลัง ชายชุดดำทำท่าทางลับๆล่อๆกำลังจะเข้าไปคุยกับหัวหน้าแก็งค์แต่ละแก็งค์ และใช่ คู่ควงถูกเชิญให้ไปยืนอยู่อีกที่หนึ่ง ผมบีบมือไนท์แน่นแล้วขยับเข้าไปใกล้ไนท์มากยิ่งขึ้น
“เอาล่ะครับ ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมงานรวมหัวหน้าแก็งค์ผู้มีอิทธิพลในวันนี้ มาเฟียจากทั่วทุกมุมโลกมารวมกันได้ ณ จุดๆหนึ่งนั้นเป็นเรื่องยาก การรวมตัวครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อกระชับมิตรและสร้างพันธไมตรีที่ดีต่อกัน…”
เสียงประกาศร่ายยาวของพิธีกรดังไปเรื่อยๆ ผมหันซ้ายหันขวาอยู่ตลอดเวลาด้วยความหวาดระแวง พิธีกรกล่าวแนะนำแก็งค์ที่มาร่วมงานด้วยความเรียบง่าย แต่สายตาที่จับจ้องมายังแก็งค์ที่มีอิทธิพลนั้นมีแต่สายตาที่ค่อนข้างเสียดแทง ผมหลบสายตาของใครหลายๆคนที่หันมามอง
“ไนท์ .. เมื่อไหร่เราจะได้กลับบ้าน”
“อดทนหน่อยก็แล้วกัน”
“เอาล่ะครับคราวนี้เรามาดูโชว์ที่ทางเราได้จัดเตรียมเอาไว้นะครับ เป็นการแสดงมายากลของนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากในขณะนี้”
เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมกับชายในชุดดำสวมหน้ากากขนนกโบยบินลงมาจากด้านบน เขาทิ้งตัวลงบนพื้นโดยมีนกนางแอ่นมีล้อมรอบก่อนที่จะบินหายไป เขาโค้งให้อย่างสุภาพแล้วฉีกยิ้มให้กับผู้ชม ภายใต้หน้ากากขนนกนั้นต้องมีอะไรแน่ๆ
“อย่าปล่อยมือกูเด็ดขาด”ไนท์สั่งเสียงเฉียบแล้วเลื่อนมืออีกข้างมาโอบรอบเอวผมเอาไว้แน่น ผมไม่ได้ขัดขืนเขาเพราะอีกใจหนึ่งก็กลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
การแสดงโชว์กำลังจะเริ่มต้นขึ้น เขาเดินลงมาจากเวทีแล้วเชิญคู่ควงของหัวหน้าแก็งค์แต่ละคนขึ้นยืนบนเวทีจนเต็มไปหมด มีเพียงแค่ผมกับผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้นที่ไม่ได้ขึ้นไป ผมมองผู้ชายร่างบางคนนั้นที่แสนคุ้นเคย แค่ด้านหลังก็ทำให้หวนนึกถึงพี่ชิองขึ้นมาทันที
พรึ่บ!
O_o !!
“พี่ชิอง”ผมพึมพำออกมาแล้วเลื่อนมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง พี่ชิองกำลังยืนทำหน้างงใส่ผู้ชายร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างกาย ใบหน้าสวยฉีกยิ้มหน่อยๆเมื่อร่างสูงกระซิบอะไรบางอย่าง
“เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ?”
“พี่ชิอง ผมเจอพี่ผม”
“หมอนั่นจริงๆด้วยสินะ ครั้งก่อนที่ไปแข่งรถเจอหมอนั่นพอดี”
“O_O ทำไมไนท์ไม่บอกผมมั้ง”
“กูจะรู้หรอวะว่าเป็นพี่มึงน่ะ ควีนกูโชว์โง่อีกแล้ว”
“ผมไม่ได้ฉลาดเหมือนไนท์นิ่ เหอะ!”
ผมเลื่อนสายตาไปมองบนเวทีที่ตอนนี้กำลังจะโชว์การแสดง แล้วจู่ๆไฟทั้งฮอลล์ก็ดับลงทันที ผมขยับกายเข้าไปใกล้กับไนท์แล้วบีบมือหนาแน่น เสียงจอกแจกพร้อมกับเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นเป็นระลอกๆ
พรึ่บ !
ไฟติดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ภาพตรงหน้าคือความว่างเปล่า คู่ครองจำนวนไม่น้อยหายวับไปกับตา นักมายากลคนนั้นกำลังลอยขึ้นสูงไปบนอากาศก่อนที่จะหายกลายเป็นควันสีขาว เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นอีกครั้ง เพราะคู่ครองของหัวหน้าแก็งค์เป็นคนสำคัญมากพอๆกับชีวิตของตนเองเลยก็ว่าได้
ต่อค่ะ
“เอาล่ะครับๆใจเย็นๆกันก่อน เมื่อกี้เกิดเหตุขัดข้องขึ้นมาเท่านั้น เรามาเริ่มงานประมูลกันต่อเลยดีกว่า”พิธีกรเบี่ยงเบนความสนใจแล้วไปเริ่มประมูลสินค้า ผมมองหน้าไนท์ที่กระตุกยิ้มมุมปาก ผมไม่ชอบที่เวลาผู้ชายคนนี้ยิ้มแบบนี้เลย มันดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างที่ผมไม่สามารถรับรู้ได้ -___- !!
“ของประมูลชิ้นแรก.. นำออกมาเลยครับ”
เสียงดนตรีให้ลุ้นระทึกพร้อมกับร่างของคู่ครองของหัวหน้าแก็งค์หนึ่งเดินออกมาในสภาพถูกจับมัดมือมัดเท้า ปากถูกปิดด้วยผ้าจนได้ยินเพียงเสียงอู้อี้ๆเท่านั้น เสียงโวยวายดังขึ้นจากหัวหน้าแก็งค์ดังกล่าว
“มึงทำอะไรกับเมียกู!! เอาเมียกูไปประมูลทำเหี้ยไร เอาของกูคืนมา”
“หึหึหึ.. คงจะคืนให้ง่ายๆไม่ได้หรอกนะครับ ถ้าอยากได้คืนต้องประมูลเอา”เสียงพิธีกรจอมเจ้าเล่ห์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสนุกสนานต่างกับคนอื่นๆ
ผมมองหัวหน้าแก็งค์คนอื่นที่เริ่มแตกตื่นและทำอะไรไม่ถูก อาวุธที่จะอาละวาดก็ไม่มี ลูกน้องก็อยู่ด้านนอก ทำอะไรก็ไม่ได้ ขยับเป็นตายเพราะการ์ดของทางนั้นยืนล้อมรอบฮอลล์แถมพกอาวุธกันทุกคน
การประมูลเริ่มขึ้นด้วยความอึดอัด หัวหน้าแก็งค์ที่หมายปองคู่ครองผู้นี้ต่างพากันเทหน้าตักเพื่อแย่งชิงกัน ผมมองความโหดร้ายตรงหน้าก่อนที่จะบีบมือไนท์แน่น
“ไนท์.. ผมกลัว”
“อย่าพึ่งขยับมาก กูก็ไม่อยากจะทำอะไรวู่วามหรอกนะ แต่คราวนี้กูจะยอมร่วมมือกับมันก็แล้วกัน”ไนท์พึมพำออกมาแล้วโอบรอบเอวผมพาเดินฝ่าไปอีกฟากหนึ่ง ไปตรงที่ที่พี่ชิองยืนอยู่
ชายร่างสูงหันมาทำหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ก่อนที่คิ้วจะขมวดเป็นปม พี่ชิองโดนดันไปด้านหลังและพี่แกยังไม่เห็นผมครับ
“ไอ้ฟราน กูก็ไม่ได้อยากจะมามีส่วนร่วมอะไรกับมึงหรอกนะ แต่คราวนี้มันฉุกเฉินวะ กูเป็นห่วงควีนของกู”
“อะไรของมึง”
“ดูจากสถานการณ์แล้วก็น่าจะรู้นิ่หว่า ไอ้พวกเหี้ยเนี่ยจะเอาคู่ครองของมึงมาประมูลขายต่อไงสัส”
ฟรานนิ่งเงียบแล้วมองหน้าพี่ชิองและจังหวะนั้นเอง สายตาของผมกับพี่ชิองประสานกันทันที เวลาเหมือนหยุดหมุนไปชั่วขณะ พี่ชิองยื่นมือมาตรงหน้าผมแล้วโผเข้ากอด
“ชิม่อน!”
“พี่ชิอง”
ไนท์กับฟรานดึงตัวผมกับพี่ชิองกลับไปข้างกายแล้วถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ งานนี้ถ้าพวกเขาไม่ร่วมมือกันคงไม่มีทางรอดแน่ๆ การประมูลยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ การ์ดห้าหกคนเดินตรงเข้ามาหาพวกผมทันที
“คิงกับมาสเตอร์ ผมขอตัวของคู่ครองของพวกคุณด้วยครับ ถ้าหากไม่ส่งตัวมาดีๆพวกผมจะไม่รับประกันความปลอดภัยใดๆทั้งสิ้น”
ไนท์กับฟรานหัวเราะในลำคอพร้อมกับก่อนที่แววตาน่ากลัวจะปรากฏออกมา รอยยิ้มเย็นๆถูกฉาบไว้บนใบหน้าของพวกเขาทั้งสอง ไนท์รั้งตัวผมเข้าไปอีกจนยืนชิดติดกัน
“กูไม่ให้ คิดว่ากูโง่ให้คู่ครองตัวเองไปเป็นของประมูลงั้นหรอ กูฉลาดกว่าที่พวกมึงคิด สวะ!”
“ผมขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย ส่งควีนกับมายเลดี้มาซะ”การ์ดชักปืนออกมาจ่อที่ไนท์กับฟราน ผมโดนดันให้ไปหลบด้านหลังทันที
“กูก็ขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย อย่ามาแตะต้องของๆกู”ไนท์ตวัดเท้าเตะปืนของการ์ดจนกระเด็นไปไกล ฟรานอาศัยจังหวะนี้เตะปืนของอีกคนกระเด็นกระดอนไปคนละทิศคนละทาง มือหนาของฟรานรั้งเอวของพี่ชิองเอาไว้ใกล้ตัวแล้วหมุนตัวเตะซ้ายขวาเหมือนเต้นแทงโก้
ไนท์ก็ทำเช่นกันแต่ท่าทางของเขามันราวกับว่ากำลังสนุกสนานกับการอาละวาด ผู้คนต่างหันมาให้ความสนใจกับเหตุการณ์ตรงหน้ากันอย่างมาก การ์ดต่างกรูเข้าใส่สองร่างนั้นอย่างไม่หยุดหย่อน
หมับ!
มือหนาของใครบางคนจับที่แขนของผมแน่นแล้วพยายามกระชากตัวผมไป แต่ผมที่เรียนศิลปะป้องกันตัวมาแล้วเลยใส่เข่าแล้วตวัดสันมืออีกข้างใส่ร่างนั้นจนสลบ ไนท์หัวเราะในลำคอแล้วหันไปสนใจศัตรูของตนเอง ผมกระโดดเตะชายอีกคนที่กำลังเข้ามากระชากพี่ชิอง
“อย่ากากแถวนี้ไอ้ฟราน”
“มาแข่งกันมั้ยล่ะ ใครจัดการได้เยอะสุด”
“ผลก็เห็นๆกันอยู่แล้วว่าต้องเป็นกู”
“อย่าแน่ใจให้มากไปหน่อยเลย”
พวกเขาเถียงกันไปมาเหมือนกำลังสนุกสนานกับการแข่งกันจัดการศัตรู ไนท์ตะโกนเสียงดังลั่นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ลูกน้องและการ์ดคู่ใจผมกรูเข้ามาในฮอลล์ ผมตวัดขาเตะข้างลำตัวศัตรูแล้วขยับตัวเข้าไปชิดแผ่นหลังของไนท์
ผมหายใจหอบแล้วยืนอยู่นิ่งๆ ถ้าเกิดว่าขยับมากกว่านี้จะเป็นอันตรายได้ ผมตัดสินใจยืนอยู่นิ่งแล้วคอยหลบและไปตามการเคลื่อนไหวของไนท์แทน
“อย่ามาช็อคแถวนี้นะมึง กูช่วยมึงไม่ทัน”ไนท์พูดแล้วต่อยไปที่ใบหน้าของชายชุดดำ ผมมองบรรยากาศชุลมุนตรงหน้าแล้วขยับกายไปตามไนท์แต่จังหวะของผมเริ่มช้าลงเรื่อยๆ
หมับ!
“จับได้แล้ว!! หึหึหึ”เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นที่ข้างหูผม แขนแกร่งล็อกคอผมเอาไว้ก่อนที่จะใช้ปืนยิงขึ้นบนฟ้า เหตุการณ์ตรงหน้าหยุดลงพร้อมกับสายตาที่หันมามองผม ปืนกระบอกนั้นเลื่อนมาจ่อที่ขมับ กลิ่นดินปืนลอยเข้ามาปะทะจมูกของผม
“ไนท์..”ผมเอ่ยเสียงแผ่วแล้วเลื่อนมือมากุมหัวใจตัวเอง
ไนท์ทำท่าจะพุ่งเข้ามาแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นปืนจ่อที่ขมับของผม ใบหน้านิ่งเฉยจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความเย็นชา ริมฝีปากหยักได้รูปแสยะยิ้มเย็นๆแล้วเสยผมที่ปรกตาขึ้น
“ต้องการอะไร”
“ควีนของมึงไง”
“ไม่มีปัญญาหาเอง ?”
“มึง!”
“ชอบคาบของๆคนอื่น ?”
“ไอ้ไนท์”
“อย่ามาเรียกชื่อกูพล่อยๆไอ้แลมเบิร์ก กูไม่ใช่เพื่อนเล่นมึง”ไนท์พูดเสียงดัง แลมเบิร์กคือผู้ชายที่คุยกันเรื่องประมูลกันก่อนหน้านี้ เขาคือต้นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น !!
“ชิม่อน!”พี่ชิองแทบจะถลาเข้ามาหาผมแต่ฟรานรั้งเอาไว้เสียก่อน ใบหน้าเป็นห่วงกำลังมองผม น้ำตาที่คลอหน่วยของพี่แกจับจ้องผมแทบขาดใจ
“อย่าเข้ามานะเว้ย!”
“มึงจะทำไมไอ้แลมเบิร์ก อย่ามาทำตัวถ่อยๆแถวนี้ กูรำคาญ”
“ตอนนี้กูถือไพ่เหนือกว่ามึงนะเว้ย”
“ใครสน!”ไนท์พูดแล้วอาศัยจังหวะนั้นพุ่งเข้ามากระชากร่างของผมแล้วเหวี่ยงไปหาฟราน หมัดหนักๆตันเข้าที่ใบหน้าของไอ้แลมเบิร์กอย่างแรงจนร่างนั้นกระเด็นไปนอนหมอบที่พื้น เลือดค่อยๆไหลออกมาจากมือของไนท์ช้าๆ เขาเดินย่างกรายเข้าไปใกล้แล้ววาดขาเตะเข้ากลางลำตัวหมอนั่นไปหลายที
“เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับกู !! คนของกูสะเออะมาแตะทำเชี่ยอะไร ไม่สำเหนียกตัวเองเลยรึไง”
“อั่ก!”
“ตายซะเถอะมึง”ไนท์เตรียมจะกระถืบร่างหมอนั่นแต่ฟรานเดินเข้าไปดึงออกมาเสียก่อน
“มึงจะทำอะไรไอ้ไนท์”
“ฆ่าแม่.งไง! .. อย่ามาขวางส้นตีนกูไอ้สัส”
“กูจะไม่ห้ามมึงเลยถ้าควีนของมึงไม่ตัวสั่นขนาดนั้น”
ไนท์หันมามองผมที่ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า ใบหน้าซีดเผือดลงเรื่อยๆจนผมรู้สึกได้ มือเริ่มเย็นเฉียบก่อนที่ผมจะทรุดนั่งลงกับพื้น เหงื่อแตกพลั่กออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ จังหวะการเต้นของหัวใจที่ช้าลงจนผมเริ่มใจคอไม่ดี
ไนท์ถลาเข้ามาหาผมแล้วโอบกอดร่างผมเอาไว้ มือควานหาโทรศัพท์แล้วกดโทรออกด้วยความเร่งรีบ มือหนาบีบมือผมเบาๆเหมือนพยายามเตือนสติ
“อย่าเป็นอะไรนะมึง”
ผมฉีกยิ้มจางๆให้เขาแล้วเลื่อนสายตาไปมองพี่ชิองที่นั่งร้องไห้อยู่ข้างๆผมโดยมีฟรานนั่งอยู่ด้วย
“ชิม่อนอย่าเป็นอะไรนะ!! .. ทำไมพอพี่เจอนาย แล้วนายต้องมาเป็นแบบนี้ด้วย”
“พี่ครับ.. อย่าโทษตัวเองเลย ผมหวังว่าความทรงจำของพี่จะกลับมาแล้วและผมอยากให้พี่ใช้ชีวิตส่วนที่เหลือแทนผมด้วยนะ”ผมพูดยิ้มๆแล้วพยายามหายใจเข้าออกช้าๆ
“อย่ามาพูดบ้าๆนะ!! นายต้องไม่เป็นอะไรเชื่อพี่สิ พี่หมอต้องช่วยม่อนได้แน่ๆ แข็งใจไว้นะ”พี่ชิองพยายามปลอบผมด้วยน้ำตา ไนท์ดึงร่างของผมไปกอดแน่นจนผมเริ่มกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
“ถ้ามึงเป็นอะไรไปกูจะไม่ให้อภัยมึงแน่”
“งะ.. ทำไมล่ะ”
“มึงทิ้งกู”
“ผม..”
“มึงห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด เพราะกูรักมึง! ได้ยินมั้ย”
“ฮะฮ่า.. ได้ยินแล้วครับ ผมก็รักไนท์นะ”
ผมตอบยิ้มๆก่อนที่ไนท์จะโน้มหน้าลงมาจรดริมฝีปากช้าๆ เขาผละออกแล้วช้อนตัวอุ้มร่างของผมขึ้นมา สายตาหลายคู่จับจ้องด้วยความสนใจ การ์ดที่บุกเข้ามาเคลียร์ทางให้เรียบร้อยแล้ว
เมื่อกี้ที่ไนท์โทรศัพท์คือให้การ์ดเคลียร์พื้นที่และเตรียมรถให้นิ่เอง ฟรานลากพี่ชิองให้ไปขึ้นรถของเขาแล้วค่อยขับตามมาทีหลัง ไนท์วางผมลงเบาๆที่เบาะข้างคนขับ เขารีบอ้อมไปอีกทางแล้วออกรถอย่างรวดเร็ว
“อย่าพึ่งเป็นอะไรนะ กูขอร้องมึงเลย”
“ผมควรจะดีใจมั้ยนะ”
“กูยอมทำทุกอย่าง เพียงแค่อย่าทิ้งกูไป”
ผมอมยิ้มกับคำพูดของไนท์ เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อยๆปิดลงช้าๆ ความมืดมิดเข้าปกคลุมไปทั่วบริเวณก่อนที่สติที่ผมพยายามประคับประคองมาจะดับวูบไป
Say : กูรักมึง
♥ Night ♥
:) Shalunla
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พยายามเข้า สู้ๆ
ไนท์แอบหวงโหดนะเนี่ยนี้ถ้าฟรานไม่ห้ามสงสัยกระทืบตาย *3*
อยากรู้แล้วค่ะว่าต่อไปจะเป็นยังไง
อัพเร็วๆนะได้โปรดดด *0*