ฤาสิ้นใยเสน่หา - นิยาย ฤาสิ้นใยเสน่หา : Dek-D.com - Writer
×

    ฤาสิ้นใยเสน่หา

    ความรักของขวัญข้าวคือรักที่ไม่มีเงื่อนไข แต่สำหรับจามินทรรักคือเงื่อนไขและพันธนาการ

    ผู้เข้าชมรวม

    496

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    496

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  12 ก.พ. 54 / 21:08 น.
    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ตอนที่ 1  ความหลัง

                   สี่ปี...ผ่านมาสี่ปีแล้วที่ ขวัญข้าว หญิงสาววัย 24 ปี ต้องใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังกับลูกสาวตัวน้อยวัย
    สามขวบครึ่ง...สี่ปีที่ทำให้หล่อนแข็งแกร่งขึ้น เมื่อได้ตระหนักถึงความเป็นจริงและหมดสิ้นซึ่งความหวังในการ
    รอคอยให้ใครบางคนกลับมา หลังจากต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวโดยไร้ จามินทร ภูอัศวรักษ์
    หลังจากที่เขาคนนั้นเป็นผู้เดินจากไปอย่างไร้เยื่อใย เหตุผลที่หล่อนได้รับรู้เป็นครั้งสุดท้ายจากผู้ชายที่หล่อนรักก่อนที่เขาจะจากไป ด้วยเหตุผลที่ว่าหล่อนเป็นผู้หญิงรักสนุก บูชาเงินมากกว่าความรัก และที่สำคัญ เขาคิดว่าหล่อนมีชู้...หล่อนถูกผู้ชายที่ตนมอบหัวใจรักให้เขาไปหมด..ทิ้ง  โดยที่เขาไม่รู้ว่าหล่อนกำลังตั้งท้องลูกของเขาอยู่
                หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ฉบับหนึ่งลงข่าวหน้าสังคมว่านักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอม จามินทร ภูอัศวรักษ์ ได้เข้าพิธีหมั้นหมายกับโสภิตสุดา วงศ์วิรัตน์ สาวสวยไฮโซที่ฐานะเท่าเทียมกัน ข่าวการหมั้นหมายของ จามินทร กับผู้หญิงอื่น ถึงแม้ว่าจะพยายามทำใจให้เข้มแข็งปานใดแต่ความรักที่ยังคงอยู่ทำให้หัวใจของขวัญข้าวเหมือนถูกบีบให้แตกสลายอีกครั้ง ทั้งที่เคยคิดว่าทำใจได้แล้ว ขวัญข้าวมองลูกสาวตัวน้อยที่นอนเล่นอยู่บนเตียงอย่างรักใคร่ มองหน้าลูกทีไรก็หายเหนื่อยและมีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป หล่อนผ่านความยากลำบากมามากตั้งแต่ถูกจามินทรทิ้ง ตอนที่ต้องอยู่คนเดียวในช่วงแรก ๆ นั้นแทบจะพูดได้ว่านั่งกินน้ำตาต่างข้าว แต่ก็สู้ทนเพราะเลือดในอก น้องแจน หรือ เด็กหญิงจณิสตา  ในวัยสามขวบครึ่ง หน้าตาหน้าเอ็นดู ปากนิด จมูกหน่อย ผมเป็นลอนเหมือนตุ๊กตา เด็กหญิงถอดแบบพ่อมาทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหน้าตาและนิสัย แม้ถึงทุกวันนี้ทุกลมหายใจหล่อนก็ยังรักเขาอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าชาตินี้คงจะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วก็ตาม และยังนึกขอบคุณโชคชะตาที่ได้มอบลูกน้อยไว้เป็นตัวแทนของเขาผู้เป็นความรักของหล่อน
    หญิงสาวอ่านข่าวนั้นพร้อมกับน้ำตานองหน้า กอดลูกแนบอก อดสงสารตัวเองและลูกไม่ได้...ลูกจ๋าแม่ขอโทษที่ทำได้ดีที่สุดแค่นี้ ถึงใครเขาจะไม่รักเรา แต่เราก็อยู่กันสองคนได้นะลูกน่ะ
                แม่ข้าวจ๋า...ร้องไห้ทำมาย..โอ๊ะโอ๋ คนดีไม่ร้องน่ะ เดี๋ยวน้องแจนเช็ดน้ำตาให้นะคะ เด็กหญิงตัวน้อยปลอบมารดา แล้วเอานิ้วมือป้อม ๆ เช็ดน้ำตาให้มารดาอย่างทะนุถนอม
               โอ๋ลูก...แม่ไม่เป็นไรจ้ะ แค่มีเศษผงเข้าตาเดี๋ยวล้างหน้าแล้วก็คงหายแล้วลูก ..น้องแจนจ๋าเดี๋ยวเราไปบ้านป้าขวัญกันน่ะ หนูจะได้ไปเล่นกับพี่ปาก่อนไปโรงเรียนไงลูก ชอบมั๊ย?
               เล่นกับพี่ปาเหรอ น้องแจนชอบพี่ปาเล่นเป็นเจ้าหญิงสนุกมากค่ะ ลูกสาวตัวน้อยพูด
               จ้ะ งั้นเราไปหาพี่ปากัน หญิงสาวพาลูกสาวตัวน้อยไปส่งให้พี่สาวที่มีรั้วบ้านติดกัน ช่วยดูแลก่อนรถรับส่งโรงเรียนจะมารับซึ่งตอนนี้หนูน้อยเริ่มเรียนชั้นอนุบาลแล้ว และหญิงสาวจะต้องไปทำงานก่อนเวลาที่รถโรงเรียนจะมารับลูกสาวเพราะปัญหาการจราจรในตอนเช้า
              พี่ขวัญจ๋าข้าวฝากลูกด้วยนะค่ะ
              จ้ะไปทำงานเถอะข้าว ไม่ต้องห่วงลูกหรอกพี่สาวบอก
                 ...............................................................
              ว่าไงนะค่ะ
              จริงๆ น่ะค่ะน้องข้าว ข่าวพี่เชื่อถือได้ คุณเลขาเพิ่งบอกว่า คุณชลธร เรียกประชุมผู้บริหารเมื่อวานนี้
    เรื่องที่พีอาร์ จะเข้ามาเทคโอเวอร์ภายในสิ้นเดือนนี้แล้วค่ะ เพ็ญนภาหัวหน้างานเลขาและหัวหน้าฝ่ายของหล่อนโดยตรงแจ้งข่าวให้ทราบ
             ภายในสิ้นเดือนนี้เลยเหรอค่ะ แล้วอย่างนี้พนักงานจะต้องออกจากงานรึเปล่าค่ะ ขวัญข้าวถามอย่างกังวล
             อ๋อ! ข้าวเป็นห่วงเรื่องงานใช่ไหม? ไม่ต้องห่วงหรอก ทุกคนก็ทำงานไปในตำแหน่งเดิมเพราะคุณชลธรเขามีเงื่อนไขว่าต้องไม่มีการไล่พนักงานออก ทันทีที่มีการรวมบริษัท บางคนก็อาจต้องไปบ้าง แต่จะได้โบนัสพิเศษระหว่างหางาน กรณีที่จำเป็นจริงๆ แต่พี่ว่าข้าวไม่ต้องกังวลหรอก เพราะข้าวทำงานเก่ง เป็นบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ ขยันและซื่อสัตย์ เพ็ญนภาพูด
             ขอบคุณค่ะพี่ที่ชมข้าวหญิงสาวคลายความกังวลลง 
             ขอบคุณทำไมกันก็มันเรื่องจริง..คงไม่มีใครใจร้ายปล่อยให้ข้าวตกงานหรอกจ้า..เออ..ข้าว พี่ซื้อตุ๊กตามาฝากน้องแจนด้วยน่ะ
             ข้าวขอบคุณพี่เพ็ญมากเลยค่ะที่เมตตาน้องแจน
             โธ่ ไม่เป็นไรหรอกข้าว  ก็เห็นกันตั้งแต่อยู่ในท้องโตมาแล้วยังเป็นเด็กน่ารักขนาดนั้น ใครๆก็รักทั้งนั้นแหละเพ็ญนภาพูด
             เออว่าแต่ช่วงนี้พี่ไม่เห็นข้าวพาลูกมาที่บริษัทบ้างเลยล่ะ?
             คือแกเริ่มเข้าชั้นอนุบาลแล้วค่ะ  
            เออเนอะ ...แป๊บเดียวก็เข้าโรงเรียนซะแล้ว..งั้นเราไปทานข้าวกันเถอะพักเที่ยงแล้ว


    ตอนที่ 2 โลกกลม

             วันนี้หญิงสาวมาทำงานสาย เนื่องจากเมื่อคืนน้องแจนมีอาการเป็นหวัดเพราะอากาศเปลี่ยน ทำให้หญิงสาวต้องดูแลลูกจนเกือบไม่ได้หลับไม่ได้นอนทั้งคืน พอตื่นขึ้นอีกครั้งก็สายแล้ว กว่าจะจัดการธุระเรียบร้อยก็ปาเข้าไป 7 โมงเช้า 
             หญิงสาวเร่งเดินเลี้ยวเข้ามุมตึก แต่ทันใดนั้นก็ชนโครมกับร่างใหญ่ร่างหนึ่ง จนทำให้เกือบล้มลง ถ้าไม่มีมือแข็งแรงคู่หนึ่งมารองรับไว้ และเสียงถามอย่างตกใจก็ดังขึ้น
             คุณได้รับบาดเจ็บหรือเปล่าครับ คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับเสียงนุ่มทุ่มดังขึ้น เมื่อมองตามที่มาของเสียง เพื่อดูว่าใครเป็นคนชนเธอ  และแล้วอาการตกใจก็เข้าครอบคลุมหญิงสาว ขวัญข้าวรู้สึกเหมือนถูกสูบเอาอากาศไปจากปอดของเธอจนหมดสิ้น...ใบหน้าคมคายหล่อเหลานั้น ช่างชัดเจนเกินกว่าที่จะลืมได้กับใบหน้าที่คุ้นเคยซึ่งกำลังมองเธออยู่อย่างใกล้ชิด  มือของจามินทร ภูอัศวรักษ์ กระตุกออกจากไหล่ของเธอราวกับว่าเขาได้แตะต้องกับคนเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงก็ไม่ปาน สีหน้าแสดงความประหลาดใจ แต่เขาก็ควบคุมตัวเองได้อย่างน่าชมเชย ใบหน้าของเขาเย็นชาไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ราวกับสวมหน้ากาก มันส่งความรู้สึกหนาวสะท้านพล่านไปตามความกระดูกสันหลังของหญิงสาว 
              คุณมาทำบ้าอะไรอยู่ที่นี่
             ความทรงจำครั้งอดีตหลั่งไหลมาท่วมท้นเธอครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความเจ็บปวด ขณะที่ได้แต่นั่งจ้องเขาอย่างงงๆ มือทั้งสองของหญิงสาวเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ กระเป๋ากระเด็นไปอยู่ข้างๆ ตัว  จากการเหลือบมองเขาด้วยหางตา เธอก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก นอกจากแววตาคู่นั้นที่มีแต่ความแข็งกร้าวห่างเหินและเมื่อมองสบตาเธอ ทำให้เขาเป็นคนเกรี้ยวกราดและดูเป็นคนแปลกหน้า
            ขะ..ข่ะ..ข้าว เอ่อ..ฉันทำงานอยู่ที่นี่ค่ะ เธอได้ยินเสียงตัวเองอธิบายอย่างตะกุกตะกัก แทบไม่ได้ยินเสียง
            เจมส์เกิดอะไรขึ้นค่ะทึ่รัก เสียงหวานใสของสตรีนางหนึ่งดังขึ้น 
            ขวัญข้าวมองข้ามไหล่ตัวเองไปยังทิศทางของเจ้าของเสียงหวานซึ่งเป็นสตรีรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวหน้าตาคมคาย ใบหน้าถูกแต่งแต้มอย่างสวยงาม ที่เพิ่งจะก้าวลงมาจากบันไดตึกและเดินไปคล้องแขนกับ
    จามินทรอย่างสนิทสนม สีหน้าแสดงความสงสัย
             ไม่มีอะไรครับ ทุกอย่างปกติดี จามินทรตอบ
             ทุกอย่างปกติดี โอ...เธอสั่นสะท้านจนนึกสงสัยตัวเองว่าจะสามารถเดินขึ้นบันไดตึกห้องทำงานของเธอได้หรือไม่ มีความรู้สึกเหมือนคนใกล้จะทำนบน้ำตาพังในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง แม้จะจากกันตั้งสามปี แต่เมื่อมีเหตุให้ต้องเจอกัน ก็มิวายที่จะแสดงความอ่อนแอออกมา
             งั้นเราก็ไปได้แล้วนะค่ะที่รัก สุดานัดคุณพงษ์เทพไว้ 8.30น.นี้ก็ใกล้ถึงเวลาแล้วนะค่ะ
            สีหน้าลังเลใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจามินทรชั่วครู่ เขาเหลือบมองชุดฟอร์มบริษัทของเธอ แล้วเดินจากไปพร้อมกับหญิงสาวที่ชื่อสุดา..  อ๋อผู้หญิงคนนี้เองที่เป็นคู่หมั้นของเขา เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเองก็รู้ว่าตัวเองต่ำต้อยติดดิน ผู้หญิงคนนั้นสวยมากขนาดนี้จนถึงกับทำให้เขาไม่มีแม้แต่ความทรงจำ หญงสาวรวบรวมกำลังกายและใจเดินต่อไปยังห้องทำงาน โดยไม่กล้าเหลือบแลไปทางข้างหลังอีกเลย
             หล่อนหมกตัวอยู่ที่นี่เอง อุตส่าห์ ตามหามาตั้งสามปีแต่กลับอยู่ใต้จมูกนี่เอง ดีเหมือนกันที่มาเจอเอาตอนนี้ จะได้พิสูจน์ไปเลยว่าเราสามารถตัดเขาไปได้แล้ว ไม่รักหล่อนอีกแล้ว หล่อนเป็นผู้หญิงฉ้อฉลอยู่กับเขาก็ทำเป็นเหมือนว่ารักหนักหนาแต่พอเผลอก็แอบควงผู้ชายอื่น...ผู้หญิงรักสนุกเลี้ยงไม่เชื่อง แต่เอ...สามปีมันทำให้หญิงสาวเปลี่ยนไปจากที่เป็นคนร่าเริง ดูเคร่งขรึมขึ้น ท่าทางตกใจจนช็อกเมื่อเจอเรา ดีแล้วล่ะ ต่อไปนี้หล่อนจะได้รู้ว่านรกนั้นมีจริง
           คุณเพ็ญนภา ช่วยบอกให้ลูกน้องคุณเข้ามาหาผมหน่อย ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์
           ค่ะคุณจามินทร
           ข้าวคุณจามินทรให้เข้าไปหาแนะ 
           หญิงสาวเพิ่งทราบว่า เขาเข้ามาเทคโอเวอร์จากคุณชลธร และเข้ามาบริหารงานเอง หล่อนจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำงานโดยตรงกับเขา แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็จะไม่พยายามเสนอหน้าไปให้เขาเห็น ความหวังที่จะมีชีวิตที่ปกติสุข ต้องหมดไปตั้งแต่รู้ว่ากลายมาเป็นพนักงานของเขาแต่ยังไงก็ต้องทนเพื่อลูก ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่อยากจะลาออกตอนนี้เพราะงานหายากเหลือเกิน
          ค่ะพี่เพ็ญ ขวัญข้าวตอบรับพร้อมทั้งเดินไปที่ประตูห้องกรรมการบริหาร
          ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก
          เข้ามาซิ เสียงนุ่มทุ้มกล่าวเชิญมาจากภายในห้องหรู  
           สวัสดีค่ะท่าน...มีงานอะไรด่วนให้ดิฉันทำหรือค่ะ? หญิงสายทักทายและถามเรื่องงาน พร้อมทั้งรอรับคำสั่งด้วยใบหน้าปกติ
           ไม่มีอะไรก็แค่อยากจะดู ไม่นึกว่าจะเจอเธอที่นี้ แปลกนะคนอย่างเธอก็รู้จักทำมาหากินเหมือนกัน นึกว่าดีแต่หลอกผู้ชายหน้าโง่เล่นไปวันๆ  หรือว่าเอางานบังหน้าเพื่อจะได้หาเหยื่อได้สะดวก ถามจริงๆ เถอะผมจะต้องจ่ายเท่าไหร่สำหรับค่าตัวคุณตอนนี้? เอ..แต่ที่ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนนี้ผมจ่ายไปเยอะพอสมควรนะ สามปีมาแล้วน่าจะลดราคาบ้าง เพราะว่ามันเก่าแล้ว
             คุณ!ขวัญข้าวอุทาน ใบหน้าซีดเผือด ไม่นึกว่าจะเจอถ้อยคำเหล่านี้ และถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว
             อ๋อ หรือยังไม่ได้กำหนดราคาไว้แน่นอน หรือต้องการเงินก้อน? จามินทร ยังตั้งคำถามต่อโดยไม่สนใจความรู้สึกของหญิงสาวแต่อย่างใด
             คุณอย่ามาดูถูกฉันนะ!หล่อนรู้สึกทั้งโกรธทั้งอาย สมน้ำหน้าตัวเองที่เคยอุทิศทั้งกายใจให้กับผู้ชายคนนี้โบราณสอนเอาไว้ว่าลูกผู้หญิงไม่ควรปล่อยตัว ผู้ชายเขาจะดูถูกว่าง่าย เขาคงเอาความคิดที่เคยพูดใส่หน้าว่าหล่อนมีชู้ รักสนุก มาเป็นตัววัดพฤติกรรม 
              คุณชลธรเขาก็คงจะเคยหลงเสน่ห์คุณจนโงหัวไม่ขึ้นเหมือนผมซินะ...เขาให้คุณเท่าไหร่ล่ะ อันที่จริง เรามันก็คนวัวเคยค้าม้าเคยขี่กัน 
              คุณต้องบ้าไปแล้วขวัญข้าวสะอื้นออกมา
              ใช่ผมบ้า บ้าตั้งแต่ตอนที่รู้จักคุณเมื่อสามปีก่อนโน้น แต่ตอนนี้หายบ้าแล้ว ตาสว่างแล้ว สิ่งไหนที่คุณทำไว้กับผม ผมจะเอาคืนให้ถึงที่สุด
              คุณพูดอะไรของคุณ
              ก็สิ่งไหนที่คุณทำไว้เมื่อสามปีก่อน หลอกให้ผู้ชายโง่ๆ คนหนึ่งหลงรักจนโงหัวไม่ขึ้นให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ หลงคิดว่าสิ่งที่คุณแสดงออกนั้นเป็นความรักจริงๆ  แต่ที่ไหนได้ สิ่งที่แสดงออกมานั้นเป็นเพียงภาพมายา ของผู้หญิงที่กระหายเงินคนหนึ่ง ไอ้สิ่งที่ผมให้มันไม่พอใช่ไหม คุณถึงต้องร่วมมือกับนายภพยักยอกเงินของบริษัทฯแถมยังเล่นชู้กับมันด้วยอีผู้หญิงสำส่อน! นัยน์ตาของจามินทรลุกวาว
             ฉันไปยักยอกอะไรของคุณ หญิงสาวถามด้วยความมึนงงกับข้อกล่าวหา
             จุ๊...จุ๊. แนบเนียนมากทำหน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์ เลิกเล่นละครซะทีเถอะขวัญข้าว กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง ผมไม่เชื่อคุณอีกแล้ว
             นี่มันอะไรกันค่ะ? ตั้งแต่สามปีที่แล้ว คุณก็กล่าวหาว่าข้าวหลอกลวงพูดไม่จริง เด็กใจแตก แถมสำส่อนมีชู้ แล้วยังไม่เคยอธิบายอะไร ข้าวแยกทางออกมาเงียบๆ เพราะคุณไม่ได้รักข้าวแล้ว และคงเบื่อข้าวแล้วแต่จนทุกวันนี้ข้าวก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงกล่าวหาข้าวได้ถึงเพียงนี้ หญิงสาวถามขึ้นด้วยความอัดอั้นตันใจ 
             เลิกเสแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจได้แล้วขวัญข้าว ก็คุณนั้นแหละร่วมมือกับได้เอกภพยักยอกเงินของบริษัทไปร่วม10 ล้านบาท พอจับได้ไอ้เอกภพมันยอมรับว่าร่วมมือกับคุณยักยอกเงินของบริษัท  แถมยังเอารูปถ่ายตอนไปเล่นชู้กับคุณมาให้ดูด้วย อย่าบอกน่ะว่าไม่จริง คุณยังโชคดีน่ะที่ผมไม่เอาเข้าคุกตามไอ้เอกภพมันไป ชายหนุ่มตอบด้วยแรงอารมณ์
              ขวัญข้าวแทบช็อกเมื่อสิ้นเสียงพูดจากเขา เป็นชู้กับเอกภพ ร่วมกันยักยอกเงินบริษัท ไม่จริงมันเป็นไปไม่ได้ เขาเอาข้อมูลที่ไหนมากล่าวอ้างอย่างนี้ รู้ทั้งรู้ว่าหล่อนกับเอกภพ เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอดระยะเวลาที่ร่วมงานกัน ก่อนที่หล่อนจะตัดสินใจลาออกมาอยู่ดูแลเขา หรืออาจเป็นเพราะเขาเบื่อหล่อนแล้วจึงสร้างเรื่องเพื่อจะให้หล่อนไปให้พ้นทาง
              เป็นไง ถึงกับอึ้งเลยเหรอ ยักยอกเงินบริษัทยังไงก็ต้องเข้าคุกอยู่ดี หญิงสาวยกมือขึ้นทาบอกเขาอ่อนจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่    
               แล้วคุณก็เชื่อเขา เชื่อข้อกล่าวหานั้นเหรอค่ะ?หล่อนกล่าวเกือบเป็นเสียงกระซิบ เกือบหมดสิ้นเรี่ยวแรงที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ ผู้ชายที่หล่อนรักไม่เคยไว้ใจกันเลย
               แล้วเธอมีเหตุผลอะไรล่ะที่จะไม่ให้ฉันเชื่อ หลักฐาน รูปถ่ายมันชัดเจนซะขนาดนั้น แถมคำรับสารภาพจากนายเอกภพทั้งหมด?
                คุณต้องเข้าใจผิดแน่ๆค่ะ ข้าวขอยืนยันว่าถึงแม้ข้าวจะเป็นคนยากจนลำบากแค่ไหน แต่ข้าวไม่เคยคิดยักยอกเงินบริษัท โดยเฉพาะบริษัทนั้นเป็นของคุณ จะพาข้าวไปสาบานที่ไหนก็ได้ และที่ข้าวจากมาก็เพราะ คุณไม่เคยติดต่อข้าวเลย หลังจากที่คุณกล่าวหาข้าวต่างๆนาๆ โทรไปก็ไม่รับสาย ไปหาคุณก็ไม่ให้พบ จนข้าวรู้ว่าคุณเบื่อข้าวแล้วและต้องการจะให้ข้าวไปจากชีวิตคุณซะ ข้าวถึงได้จากมา ข้าวไม่ได้มาเพราะต้องการจะหนี
                จำเลยที่ยอมรับสารภาพศาลยังผ่อนหนักให้เป็นเบา แต่จำเลยที่ไม่ยอมรับสารภาพ ทั้งๆที่หลักฐานแน่ชัดนี่ซิ สมควรจะได้รับโทษขั้นรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเธอ จำไว้นะ อย่าหวังว่าชีวิตต่อไปนี้ของเธอจะสงบสุข ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้หญิงอย่างเธอได้รู้ซะบ้างว่าการถูกทรยศมันเป็นอย่างไร และนับจากวันนี้เป็นต้นไปเธอจะต้องมารับใช้ฉัน และทำทุกอย่างที่ฉันสั่ง ถึงแม้ฉันจะให้เธอไปตายก็ต้องไปท่าทางของชายหนุ่มดูอำมะหิตโหดร้าย ดวงตาเกรี้ยวกราด เหมือนจะเผาหญิงสาวให้ไหม้เป็นจุล

    ตอนที่ 3  ฤาเพราะใยเสน่หา

                 นับจากวันที่เขาเรียกหล่อนเข้าไประบายอารมณ์ หญิงสาวจำเป็นต้องย้ายเข้าไปทำงานในห้องทำงานของเขา รอฟังคำสั่งกลั่นแกล้งต่างๆนาๆจากเขา แต่หล่อนก็ยังทน เพราะอะไรล่ะถ้าไม่ใช่เพราะยังรักเขาอยู่นั่นเอง เขาไม่เหลือความรักความอาลัยหรือแม้แต่ความเห็นใจในตัวหล่อนอีกแล้ว เพราะเขาปักใจว่าหล่อนเป็นคนทรยศ หลอกลวง และต้องการจะแก้แค้นเท่านั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น
                สุดาเหรอจ๊ะ..มาถึงแล้วเหรอ งั้นคุณเข้ามาหาผมเลยนะครับ
                เดี๋ยวสุดาเขาจะมารับผมไปทานข้าวข้างนอก  งานที่ผมสั่งไว้ต้องให้เสร็จภายในวันนี้ เข้าใจไหม?
                เข้าใจค่ะหล่อนตอบออกไปสายตาเลื่อนลอย ทำไมถึงต้องรู้สึกเสียใจและน้อยใจด้วยนะ
               ที่รักขา สุดามาแล้วค่ะโสภิตสุดา เปิดประตูห้องทำงานเข้ามาส่งเสียงหวานใส และเดินอย่างมั่นใจ เข้าไปกอดชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน พร้อมทั้งก้มลงจูบชายหนุ่มอย่างคุ้นเคย ถึงแม้ไม่หันไปมองก็พอจะรู้ว่า หญิงชายคู่นั้นเขาทำอะไรอยู่ มันคือภาพที่เคยเป็นของหล่อนมาก่อน ทำให้ย้อนนึกไปในอดีต ที่หล่อนกับเขารักกันทุกอย่างเป็นสีชมพู แต่มาตอนนี้เขาไม่มีความรักให้หล่อนอีกแล้ว มิหนำซ้ำหล่อนจะต้องมาทนดูภาพบาดตาบาดใจของเขากับคู่หมั้นอยู่ทุกวันอย่างนี้ มันทรมานใจเหลือเกิน ทุกข์ระทมแสนสาหัส บางครั้งแอบเช็ดน้ำตาที่เอ่อล้นอกมาโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวจึงต้องทำงานบังหน้า ทำงานเหมือนหุ่นยนต์ เวลาจะพักกลางวันก็แทบจะไม่ได้พัก เพราะเขาให้หล่อนทำงานมากมาย และกำหนดส่งภายในวันนั้น ทุกวันหล่อนแทบจะไม่ได้คุยกับใครเลยในที่ทำงาน เมื่อเลิกงานกลับบ้านไปก็ต้องคอยดูแลลูกน้อย จนทำให้ร่างกายทรุดโทรมขึ้นทุกวัน
                 คุณแม่ขาน้องแจนอยากได้ตุ๊กตาหมีตัวนั้นจังเลยค่ะน้องแจนชี้ให้มารดาดู
                 ตัวไหนจ้ะลูก
                 ตัวสีชมพูนะค่ะคุณแม่น้องแจนอธิบาย
                 อ๋อ ตัวสีชมพูตัวนั้นเหรอลูก โอเคค่ะเดี๋ยวคุณแม่ซื้อให้
                 แต่คุณแม่ขาน้องแจนก็อยากได้ตัวสีเขียวกบเคโระ ด้วยนะค่ะน้องแจนอยากได้ 2 ตัวเลยค่ะ..นะค่ะคุณแม่ขา
                อืมย์..หนูจะเล่นที่เดียว 2 ตัวเลยเหรอลูก คุณแม่ว่าวันนี้เราซื้อไปตัวนึงก่อนดีกว่า แล้ววันหลังเราค่อยมาซื้ออีกตัวหญิงสายตะล่อมคุย
                ก็ได้ค่ะ งั้นวันนี้น้องแจนจา เอาตัวสีชมพูก่อนก็ได้ค่ะ แต่คุณแม่ต้องสัญญาว่า วันหลังจะมาซื้อตัวสีเขียวให้น้องแจนนะค่ะ
                 ก็ได้จ้ะลูก 
                คุณแม่ใจดีที่สุดในโลกเลยค่ะ
               ก็เรามีกันสองคนนี้ค่ะ แล้วแม่ก็รักน้องแจนที่สุดในโลกเลย
               น้องแจนก็รักคุณแม่ที่สุดในโลกเลยค่ะ   
               งั้นเราไปจ่ายเงินกันดีกว่า แล้วจะได้กลับบ้านกัน 
               ค่ะคุณแม่ 
                หญิงสาวจูงมือบุตรสาว พร้อมทั้งเข็นรถบรรจุของไปที่เคาท์เตอร์แคชเชียร์เพื่อชำระเงิน  ขณะที่เดินผ่านร้านคอฟฟี่ช้อฟ บังเอิญสายตาของหล่อนก็สบกับสายตาคมเข้มคู่นั้น หญิงสาวละสายตาอย่างรวดเร็วแต่ก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองอีกครั้ง เขานั่งหันหน้ามาทางหล่อน ใกล้ๆกันมีหญิงสาวหน้าตาสวย หุ่นเซ็กซี่ นั่งอยู่ด้วย ด้วยสัญชาตญาณ หญิงสาวจับมือลูกไว้แน่นพร้อมทั้งรีบเร่งเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
               คุณแม่ขา จะรีบไปไหนค่ะ น้องแจนเดินไม่ทันแล้วนะค่ะ หนูน้อยร้องบอก 
                เปล่าจ้ะ    คุณแม่ขอโทษนะจ้ะน้องแจนหญิงสาวเริ่มผ่อนฝีเท้าลง พร้อมทั้งปล่อยลูกสาว เดินออกมาเรียกแท็กซี่
                ชายหนุ่มให้เกิดความสงสัยประหลาดใจกับภาพที่บังเอิญได้พบเจอหญิงสาวที่ห้างสรรพสินค้า หล่อนเดินมากับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ท่าทางน่ารักถึงแม่ว่าเขาจะยังเห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ชัด เด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร หรืออาจจะเป็นลูกของหล่อนที่เกิดจากความรักสนุกของหล่อนเอง  เชอะ..ผู้หญิงอย่างหล่อนก็คงหนีไม่พ้นท้องลูกไม่มีพ่อ

               หญิงสาวมาเริ่มงานวันแรกของสัปดาห์ และเตรียมพร้อมรับมือกับอารมณ์และโทสะของชายหนุ่มที่พร้อมจะระเบิดตลอดเวลาถ้ามีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเธอ
               งานที่ให้ไว้เมื่อวันศุกร์เสร็จรึยังเขาถามเสียงเครียด
               เอ่อ  เสร็จแล้วค่ะหญิงสาวตอบ
               ดี งั้นวันนี้จัดการพิมพ์งานแฟ้มนี้ให้หมด และหลังเลิกงานก็ให้รอพบฉัน มีเรื่องจะคุยด้วย แล้วก็อย่าบังอาจขัดคำสั่งฉันด้วยพูดจบเขาก็เดินออกไป ทิ้งให้หล่อนกังวลไปต่างๆนาๆ เขามีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับหล่อนกัน เท่าที่รู้ก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ แต่ช่างเถอะทุกวันนี้หล่อนก็เจอมาหมดแล้วทุกรูปแบบ ที่สำคัญตอนนี้หล่อนจะต้องทำงานทั้งหมดนี้ให้เสร็จ  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหล่อนก็จะต้องรับมันให้ได้
     ได้เวลาเลิกงานแล้วแต่หล่อนยังนั่งทำงานอยู่ อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้วเดี๋ยวหล่อนก็จะได้กลับบ้านเสียที หล่อนทำงานจนลืมไปแล้วว่าชายหนุ่มสั่งให้รอพบเขาก่อน  หล่อนเร่งทำจนเสร็จรีบเก็บกระเป๋าเพื่อจะกลับบ้าน
              เดี๋ยวคุณต้องออกไปกับผมชายหนุ่มพูดขึ้น
              นี่ก็เวลาเลิกงานแล้วนะค่ะ งานที่คุณสั่งไว้ฉันก็ทำเสร็จแล้ว ตอนนี้ฉันอยากกลับบ้านแล้วค่ะ
              ผมบอกว่าไปก็ต้องไป คุณไม่มีสิทธิคัดค้านเขาขู่  
              ในที่สุดหล่อนก็จำต้องนั่งรถไปกับเขาจนได้  และยังไม่รู้ว่าเขาจะพาหล่อนไปที่ไหน หล่อนนั่งตัวตรง
    รู้สึกกลัวอย่างไรบอกไม่ถูก ป้ายบอกทางทำให้หล่อนรู้ว่าเขากำลังมุ่งตรงไปพัทยา ระหว่างทางหล่อนกับเขาไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย จนในที่สุดรถก็มาจอดที่โรงแรมระดับห้าดาวแห่งหนึ่งบนหาดจอมเทียน
              ลงมาเขาสั่ง หญิงสาวลงมาจากรถตามคำสั่งและเดินตามเขาไปยังบริเวณเคาท์เตอร์พนักงานต้อนรับของโรงแรม หญิงสาวหน้าซีดเผือดละล่ำละลักถามเสียงสั่น
               คุณจะทำอะไรค่ะ... กลับบ้านเถอะค่ะ เขาไม่สนใจรับกุญแจจากพนักงาน แล้วจับแขนหญิงสาวให้เดินไปยังห้องพัก
                ฉันบอกแล้วไง ระหว่างเรายังมีเรื่องที่ต้องคุยกันอีกเยอะ และผู้หญิงอย่างเธอเท่าที่ฉันจำได้ มันต้องคุยกันบนเตียงเท่านั้นถึงจะได้ผล มานี่เขาดึงตัวหญิงสาวเข้ามากอดแน่น
               คุณ!หญิงสาวอุทาน ใบหน้าซีดเผือด  ช็อกกับคำพูดของเขา
               คุณมีอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ..แต่กรุณาปล่อยตัวฉันเดี๋ยวนี้
              ปล่อยทำไมเธอเองก็ชอบนี้ จะปฏิเสธทำไม...ต่างคนต่างได้ความสุขก็แล้วกัน วัวเคยค้าม้าเคยขี่จะเป็นอะไรไปล่ะ อยู่กับฉันไม่ฟรีหรอกน่ะ  ถ้าเธอทำให้ฉันพอใจ เธอก็รู้ว่าฉันเลี้ยงดูดี และดีไม่ดีฉันอาจจะไม่เอาความเรื่องที่เธอฉ้อโกงฉันก็ได้ เธอจะได้ไม่ติดคุกไงเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ข่มขู่ มองหล่อนด้วยสายตาสมเพช
              ฉันไม่เคยฉ้อโกงคุณเลย ทำไมไม่ฟังกันบ้างค่ะ อย่างน้อยคุณน่าจะลองฟังฉันก่อน  ปล่อยฉันไปเถอะหญิงสาววิงวอนขอร้อง
             ไม่มีทาง ฉันบอกแล้วไง สิ่งไหนที่เคยเป็นของฉัน ถึงแม้มันจะไม่มีค่าอะไรแล้วก็ตาม ฉันก็จะไม่ยอมปล่อย เธอเองก็เหมือนกันยิ่งทำฉันเจ็บแค้นมากเท่าไหร่  เวลาที่ฉันเอาคืนมันก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้นเขาพูดพลางผลักร่างหล่อนลงบนเตียงนอนแล้วตามติดลงไป หญิงสาวเผยอปากออกคำสั่งให้เขาออกไป หากทว่าอึดใจต่อมาชายหนุ่มแตะริมฝีปากกระด้างของเขาบดจูบหนักหน่วงรุนแรงลงบนกลีบปากของหล่อน ความหนักหน่วงบดกระทบริมฝีปากซีดเผือดของหล่อน ลิ้นอบอุ่นของเขาฉกวูบแทรกเข้ามา ทั้งอับอายขายหน้าที่เขาใช้กำลังบังคับ หญิงสาวเริ่มดิ้น ผลักไส แต่ทว่าเรี่ยวแรงของหล่อนเปรียบไม่ได้เลยกับผู้ชายตัวโตอย่างเขา มือของเขาตะโบมลูบคลำขยำอย่างรุนแรงกับทรวงอกอวบอิ่มทั้งสองข้าง หญิงสาวรู้สึกเจ็บใจกับปลายถันที่หดตัวชูชัน ต้อนรับฝ่ามือของเขาที่บีบเคล้นอย่างลำพองใจ...ร่างของขวัญข้าวเริ่มอ่อนเปลี้ย โดยไม่รู้ว่าเขาถอดเสื้อผ้าออกไปตอนไหน  
                  การต่อต้านขัดขืนเขาเป็นสิ่งที่ทำได้ยากขึ้นทุกขณะ และเขาก็ดันร่างของหล่อนให้นอนหงาย สองแขนถูกตรึงแนบลำตัว เขายังตะบี้จูบริมฝีปากที่ช้ำเห่อ และไล้เรื่อยลงมาที่ลำคอและปทุมถันคู่งามเขาใช้ปลายลิ้นตวัดวนรอบยอดอกสีสดของหล่อนพร้อมทั้งใช้ฟันกดย้ำเบาๆ หญิงสาวสะดุ้งเงือก ขณะเดียวกันเขาก็ปล่อยมือหล่อนให้เป็นอิสระ แล้วเขาก็เริ่มลูบโลมเนื้อตัวของหล่อนลูบมาถึงเอวคอด หน้าท้องแบนราบ ต่ำลง...หญิงสาวครวญครางตามกระแสธารอารมณ์  เมื่ออารมณ์แค้นเริ่มแปรเปลี่ยนกลายเป็นอารมณ์ปรารถนาพลุ่งพล่านสุดที่จะควบคุมได้ เขาจัดการกับเสื้อผ้าของตน ปลดปล่อยตัวเอง ลงในหล่อนอย่างรวดเร็ว! สองมือหญิงสาวขณะนี้ตวัดโอบรอบต้นคอเขาแน่น แม้ยามพร่ำบอก
                   ยะ..อย่าค่ะ..กรุณาเถอะค่ะ ทว่าตอนนี้อารมณ์โหมแรง เขาเคลื่อนไหวลึกล้ำ เพียงไม่นานทั้งคู่ก็บรรลุถึงสายรุ้งสว่างพราว จามินทรยังรู้สึกเหมือนจะคั่ง เขานอนตะแคงชันศอกยกลำตัวก้มมองนัยน์ตาฉ่ำน้ำตาของหญิงสาว
                   สามปีมาแล้วแต่ลีลายังดีเหมือนเดิมเลยน่ะ  แต่จะว่าดีเหมือนเดิมก็ไม่ได้ซิเพราะยิ่งนานยิ่งพัฒนาเขากล่าวด้วยสีหน้ายิ้มเยาะ
                  หัวใจของขวัญข้าวเต้นระทึกความโกรธเริ่มแผ่กระจาย หล่อนพยายามดึงตัวเองลงจากเตียง แต่อาการเคล็ดขัดยอกตามเนื้อตัวที่เกิดจากความรุนแรงของเขา ทำให้หญิงสาวกัดริมฝีปากไว้อดกลั้นไม่ให้ส่งเสียงออกมา
                  คุณมันเลว..ฉันอยากจะฆ่าคุณนักหล่อนกรีดร้อง เบี่ยงตัวลงจากเตียง แต่กลับถูกเขากระชากไหล่กลับมา อีกทั้งผลักให้ลงไปนอนอีกครั้ง
                 จะไปไหน  ฉันยังไม่พอใจเลย และเธอต้องสนองตอบจนกว่าฉันจะอิ่ม เข้าใจไหมหญิงสาวหลับตาไม่ประท้วง ยอมตามเขาทุกอย่างเพราะรู้ถึงยังไงเขาก็ไม่ยอมปล่อย ยิ่งขัดขืนหล่อนก็จะยิ่งเจ็บช้ำไปกว่านี้ ถึงแม้ว่ามันจะแฝงไปด้วยความสุขที่หล่อนห่างหายมานานก็ตาม ได้แต่น้ำตาซึม ปล่อยให้เขาระบายอารมณ์ และหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย
                   สามทุ่มแล้ว ป่านนี้น้องแจนคงร้องไห้ถามถึงแม่เพราะผิดเวลากลับบ้านของหล่อน หญิงสาวพยุงตัวเองเข้าห้องน้ำ จัดการชำระร่างกายอย่างรวดเร็ว และเมื่อก้าวออกมาจากห้องน้ำ ปรากฏว่าจามินทรตื่นแล้ว และกำลังนั่งมองหล่อนอยู่ หญิงสาวเลี่ยงเดินไปสวมเสื้อผ้า ขณะที่เขาก็เดินไปเข้าห้องน้ำ เมื่อเขากลับมาอีกครั้ง ก็เห็นหญิงสาวยืนเหม่อลอยตรงระเบียง
                 นึกว่าหนีกลับไปซะแล้ว...แต่เออใช่ซินะ รอค่าตัวอยู่ใช่ไหม?ไม่ต้องห่วงหรอกฉันจ่ายแน่นอนเขาพูดจาถากถางหล่อน  หญิงสาวก้มหน้าเงียบ แววตาเหม่อลอยไร้จุดหมาย ไม่โต้เถียงอะไร
                  เป็นอะไรไป หรือว่าต้องการค่าตัวมากๆ  ขอโทษเถอะนะ ของมือสองมือสามอย่างเธอ จะไปเทียบกับมือหนึ่งไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นให้สังวรณ์เอาไว้ซะ  แต่ปกติฉันก็ไม่ชอบใช้หรอกน่ะของมือสองมือสามแต่ก็คงจะยกเว้นเธอไว้ เพราะเรามันก็คนเคยค้าม้าเคยขี่กันมาก่อน  จริงไหม?
                  หญิงสาวตะหวัดสายตามองเขาด้วยสีหน้าตัดพ้อ น้อยใจน้ำตาคลอเบ้า แต่ก็ยังไม่พูดอะไรออกมาจากปากบางซีดนั้น  บรรยากาศขณะนั่งรถกลับเข้ากรุงเทพฯเต็มไปด้วยความเย็นชา ของคนทั้งคู่ จนกระทั่ง
                จะให้ไปส่งที่ไหนจามินทรถามเสียงเข้ม
                ให้ฉันลงตรงไหนก็ได้หญิงสาวกล่าวเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน
                อย่ามาสำออยให้ฉันรำคาญ บอกมาว่าบ้านอยู่ที่ไหน?
                เอ่อ...บางกะปิค่ะหญิงสาวตอบเสียงแผ่วเบาไม่ปรารถนาที่จะพูดอะไรมากกว่านั้นอีกแล้ว ความน้อยเนื้อต่ำใจ ความไม่เข้าใจ และยังช็อกกับพฤติกรรมที่เขาทำกับหล่อนมันทำให้หญิงสาวเซื่องซึม ไม่มีแรงตอบโต้ เมื่อถึงจุดหมาย หญิงสาวเตรียมลงจากรถ แต่มือแข็งแรงคู่นั้นกลับกระชากหล่อนเอาไว้
                จำไว้น่ะ ฉันเกลียดและขยะแขยงผู้หญิงอย่างเธอเป็นที่สุดแต่ ฉันจะใช้เธอ เมื่อฉันต้องการทุกครั้ง เธอไม่มีสิทธิ์ขัดใจ ต่อต้านขัดขืน เข้าใจไหม ไม่งั้นเจอคุกแน่ ฉันไม่ปล่อยเธอไว้หรอก...และนี่เงินค่าตัวตามสัญญา ห้าพันพอไหม?
                 หญิงสาวอุทานคำหนึ่งออกมา จากภาวะบีบคั้นทางจิตใจ และคิดไม่ถึงว่าเขาจะใจร้ายได้ขนาดนี้ ตีค่าเธอไม่ผิดกับโสเภณีข้างถนน หล่อนสะบัดมือเขาแล้วรีบลงจากรถอย่างรวดเร็ว ก้าวหายไปกับฝูงชนที่เดินผ่านไปมา
                ชายหนุ่มมองตามหล่อนไปจนหล่อนหายไปกับฝูงชน ..ปล่อยหล่อนไปก่อนเถอะ ยังไงหล่อนก็จะต้อง
    ชดใช้เขาอย่างสาสม แค่นี้มันยังน้อยไปสำหรับความรัก ความไว้ใจจากเขาที่เคยมีให้ ..หน้าตาสวยใส  รูปร่างเย้ายวนนั้นแหละตัวดี มารยาสาไถเป็นที่สุด เขาเจ็บแล้วต้องจำ อย่าไปสงสารหล่อนเป็นอันขาด

    ตอนที่ 4  ฤารักคือ..ทรมาน

                 เมื่อหญิงสาวกลับถึงบ้านปรากฏว่า ลูกน้อยหลับไปแล้ว พี่สาวต่อว่าหล่อนที่หล่อนกลับบ้านช้า ทำโอทีก็ไม่โทรมาบอก โทรเข้ามือถือก็ไม่รับสาย หญิงสาวกล่าวขอบคุณที่ดูแลลูกให้และแก้ตัวว่าบังเอิญมีงานด่วนไม่มีเวลาเลย ต่อไปนี้จะไม่ทำแบบนี้อีก  หญิงสาวนอนไม่หลับ จิตใจบอบช้ำสับสน จากการกระทำของจามินทรที่มีต่อเธอ ความรักความหลังเมื่อครั้งอดีตไม่มีหลงเหลือในแววตาของเขาเลย มีแต่ความมุ่งมั่นแก้แค้นเธอด้วยน้ำมือของเขา ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้ แล้วที่เขาบอกว่าเธอสำส่อน คบชู้ ฉ้อโกงมันเป็นการประณามเธอ ทั้งที่เธออธิบายเขาไปแล้ว แต่เขาก็ไม่เชื่อไม่มีความไว้วางใจเธออีกแล้ว หญิงสาวรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาจับใจ กอดลูกสาวตัวน้อยไว้แน่นหวังขอความอบอุ่นจากลูกน้อยช่วยบรรเทาความหนาวและความบอบช้ำจากการกระทำของเขา
                ลูกจ๋า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แม่จะไม่ยอมให้ลูกของแม่ต้องเจอกับความร้ายกาจของผู้ชายคนนั้น แม้ว่าเขาจะเป็นพ่อของลูกก็ตาม พ่อเขาไม่รักแม่อีกแล้ว แม่กลัวว่าถ้าเขารู้ว่ามีลูก เขาจะเผื่อแผ่ความเกลียดนั้นมาถึงลูกด้วย แม่ทนไม่ได้หญิงสาวรำพึงพร้อมกับสะอื้นออกมาเบาๆ ยังหาทางออกให้กับชีวิตไม่เจอ
     หลังจากเมื่อคืนหญิงสาวร้องไห้อย่างหนัก จนตาแดงก่ำ พอตอนเช้าก็รู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง ประกอบกับว่าร่างกายบอบช้ำไม่มีเรี่ยวแรง แต่หญิงสาวก็กัดฟันอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน หลังจากส่งลูกไปโรงเรียนแล้ว หล่อนไม่อยากให้เขากล่าวหาว่าแค่นี้ก็สำออย แต่ก็หนีไม่พ้นความทุกข์ระทมเมื่อไปถึงที่ทำงาน
                นึกว่าลาออกไปแล้ว เธอนี้หน้าด้านจริงๆ เป็นฉันจะก็ไม่อยู่แล้ว ถามจริงๆเถอะทำไมไม่ลาออกไปซะ?น้ำเสียงเหยียบหยาม
                ไม่มีคำตอบจากหญิงสาว นั้นยิ่งทำให้เขาหัวเสียมากยิ่งขึ้น กระชากหล่อนเข้าไปกอดรัดจนเจ็บและปลุกปล้ำข่มเขงตามอำเภอใจอีกครั้งในห้องทำงาน อาการไม่สบายของขวัญข้าวประกอบกับต้องมาเจอพายุอารมณ์ของเขา ทำให้หญิงสาวล้มพับไปกับโซฟาในห้องทำงานนั้นเอง จนทำให้ชายหนุ่มรู้สึกได้ จัดการแต่งตัวให้หญิงสาวและตัวเอง และเรียกเลขาหน้าห้องเอายาดมมาปฐมพยาบาลด้วยตัวเอง
     ขวัญข้าวรู้สึกตัวแต่อาการปวดหัวยังคงอยู่ ลืมตาขึ้นพร้อมกับทบทวนเหตุการณ์ว่าตนอยู่ที่ไหน แล้วก็ตกใจพยายามลุกขึ้นนั่ง และสำรวจตนเอง
              น้องข้าวฟื้นแล้วเหรอค่ะ...อย่าเพิ่งลุกขึ้นค่ะ...นอนพักผ่อนอีกสักครู่เถอะค่ะเพ็ญนภาเลขาผู้ใจดีของหล่อน
              พี่เพ็ญ ข้าว..ข้าวเป็นอะไรไปค่ะหญิงสาวถาม ท่าทางมึนงง
              น้องข้าวเป็นลมไปค่ะ คุณจามินทรให้พี่ช่วยดูแล ดูคุณจามินทรเป็นห่วงน้องข้าวมากเลยนะค่ะ กลัวว่าน้องข้าวจะเป็นอะไรไป แต่ต้องรีบเข้าประชุมด่วนนะค่ะ ก็เลยวานให้พี่มาดูแลน้องข้าวให้ 
              ขอบคุณ มากนะค่ะพี่เพ็ญ 
              ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ผักผ่อนเถอะนะ
              หญิงสาวกัดฟันพิมพ์จดหมายที่ยังค้างอยู่จนเสร็จ ก็ถึงเวลาเลิกงานพอดี ฝืนทรงกายเดินไปรอรถเมล์หน้าบริษัท รถเบนซ์สีดำวิ่งเข้ามาจอดหน้าหล่อน ประตูด้านหลังถูกผลักออกมาพร้อมกับร่างสูงที่คุ้นตา เขาตรงมาจับข้อมือหล่อนขึ้นไปบนรถคันนั้น
              ปล่อยนะ...ปล่อยฉัน หญิงสาวขัดขืนฝืนกายเอาไว้ แต่ก็ต้านทานแรงเขาไม่ได้ ชายหนุ่มปล่อยให้หล่อนเป็นอิสระอีกครั้งเมื่อรถคันสวยเคลื่อนที่ออกจากป้ายรถเมล์ ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองมาอย่างสนใจ
              ทำเป็นเก่ง จะตายอยู่แล้วยังจะทำเป็นยโส ฉันบอกให้รอทำไมไม่รอเขากระชากเสียงใส่
              ฉันกลับเองได้หล่อนตอบโต้ ทั้งที่อาการปวดหัวกำลังรุมเร้า
              เธอลืมไปแล้วหรือว่าฉันเป็นเจ้าชีวิตของเธอ คำสั่งคือกฎหมาย ถ้าฉันไม่ปล่อยเธอก็ไม่มีทางหนีไปไหนได้ เข้าใจไหม?
              กรุณาเถอะค่ะ ปล่อยให้ฉันกลับบ้านเถอะ ฉันทำงานให้คุณทั้งวัน ฉันเพลียอยากพักผ่อนหญิงสาววอนขอร้อง
             อ๋อ...งานแคนี้เพลียแล้วเหรอ  ไม่น่าเชื่อ แต่เอาเถอะวันนี้ฉันมีนัดฉันจะปล่อยเธอไปก่อนหญิงสาวรีบก้าวลงจากรถ แล้วเรียกแท็กซี่กลับบ้าน
              คุณเพ็ญ ขวัญข้าวไปไหน ผมไม่เห็นที่โต๊ะ?
               เอ่อ...วันนี้พี่สาวน้องข้าวโทรมาลาป่วยให้ค่ะ 
               อ๋อ..เออ..งั้นไม่มีอะไรแล้ว คุณกลับไปทำงานเถอะชายหนุ่มกล่าว

              ที่บ้านขวัญข้าว หนูน้อยนั่งเฝ้ามองคุณแม่ด้วยความเป็นห่วง ไม่เข้าใจว่าจู่ๆคุณแม่ทำไมถึงไมสบาย
               คุณแม่ขา ..ทำไมคุณแม่ถึงไม่สบายค่ะ  น้องแจนสงสารคุณแม่จัง ตัวคุณแม่ก็ร้อนยังกะไฟแนะลูกสาวเอามือน้อยๆแตะหน้าผากผู้เป็นแม่เบาๆ
              โธ่ลูก...เดี๋ยวพอคุณแม่ทานยา แล้วน้องแจนปล่อยให้คุณแม่นอนพักผ่อนสักพัก ตื่นขึ้นมาอีกทีคุณแม่หนูก็หายแล้วจ้ะพาขวัญผู้เป็นป้ากล่าวกับหลานสาว
              ค่ะ คุณป้า งั้นน้องแจนไปเล่นกะพี่ปานะค่ะ
              จ้ะลูก
              สองวันต่อมาหญิงสาวก็กลับไปทำงาน ไม่อยากลางานหลายวันแม้ว่าตอนนี้หล่อนจะยังไม่หายดี กลัวผู้ชายใจร้ายคนนั้นจะหาว่าสำออย เมื่อเปิดประตูห้องทำงานเข้าไป ก็ต้องแปลกใจว่าทำไมวันนี้เขามาทำงานเร็วกว่าปกติ หญิงสาวกล่าวสวัสดีเบาๆแล้วเดินเลี่ยงไปยังที่ทำงานของตน วันนี้เขาแปลกไปปกติจะใช้ถ้อยคำเสียดสี ให้เธอต้องเจ็บช้ำน้ำใจไม่เว้นแต่ละวัน เขาจะรู้ไหมน่ะว่าหล่อนป่วย หรือไม่สนใจที่จะรู้ ช่างเถอะจะไปหวังอะไรจากเขา น้ำใจจากเขาอาจจะมีล้นเหลือสำหรับคนอื่น แต่สำหรับหล่อนคงไม่มีอีกแล้ว หญิงสาวคิดอย่างปวดใจ นั่งทำงานที่คั่งค้างจากการลางานถึงสองวัน โดยไม่พยายามสนใจเขาอีก เขาเองก็ไม่มีงานอะไรมาเพิ่มให้ ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบเมื่อนาฬิกาบอกเวลา11.00น. ประตูห้องทำงานก็เปิดออก พร้อมกับร่างขอโสภิตสุดา คู่หมั้นของเขาที่ก้าวเข้ามาพร้อมกลิ่นน้ำหอมยวนใจ หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบผู้หญิงคนนั้นกับตัวหล่อนเอง ไม่มีอะไรที่จะเทียบผู้หญิงคนนี้ได้เลย ไม่ว่าจะการศึกษา ฐานะ  รูปร่างหน้าตา
               ที่รักขา  สุดามาแล้วค่ะเสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับโถมกายเข้าไปกอดจามินทร
               อ้อ  สุดา คิดถึงจังเลยครับชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเสียงเว้าวอน
              ถึงแม้จะไม่หันไปมองคนทั้งคู่ก็พอจะรู้ว่าทำอะไรกัน สำนึกและความน้อยใจของหญิงสาวกลั่นกรองออกมาเป็นหยดน้ำตาที่กำลังปริ่มขอบตา ถ้าหากเขาเห็นก็คงจะต้องขายหน้าเป็นแน่ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคู่หมั้นของเขา กำลังจะแต่งงานกันและจะกลายเป็นภรรยาในอนาคตของเขา พวกเขามีสิทธิเต็มที่ที่จะแสดงความรักต่อกัน แต่ทำไมเขาถึงไม่ให้เกียรติหล่อนบ้าง ไม่สงสารหล่อนบ้างถึงแม้เขาจะไม่ได้รักหล่อนก็เถอะ เขาไม่ควรจะทำอย่างนี้ต่อหน้าหล่อน ทำร้ายจิตใจหล่อนอย่างนี้...เข้มแข็งไว้ขวัญข้าว เราจะต้องมีความทะนงในศักดิ์ศรีของเราเอง อย่าหวั่นไหวกับภาพเหล่านั้น และต้องอดทนไว้เพื่อลูก รออีกสามเดือนก็จะได้โบนัสแล้ว ถึงตอนนั้นหล่อนจะลาออกไปหางานใหม่ พาตัวเองและลูกออกไปจากแวดวงของผู้ชายคนนี้ ผู้ชายใจดำยิ่งกว่าอีกา ถึงแม้ว่าหล่อนจะยังรักเขาอยู่เต็มหัวใจก็ตาม
               ขวัญข้าวทำงานเหมือนเครื่องจักร ร่างกายซูบผอมเป็นผลจากการอ่อนหล้า และตรอมใจ เช้าวันหนึ่งหล่อนตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อยากจะอาเจียน และเป็นอีกในวันต่อมา เกือบสองเดือนแล้ว นับจากวันที่หล่อนไปพัทยากับเขา และเกิดความมั่นใจว่าหล่อนได้ตั้งท้องอีกครั้ง...น้ำตาแห่งความอัดอั้นตันใจ สะเทือนใจ กับความคิดที่ว่าหล่อนต้องเผชิญกับการทั้งท้องตามลำพังอีกครั้ง โดยที่พ่อของลูกไม่เคยรู้เลยว่ามีลูก แต่จะไปแคร์อะไรล่ะ ถึงรู้เขาก็คงไม่คิดว่าเป็นลูกของเขาหรอก เขาคิดว่าหล่อนเป็นคนรักสนุก เป็นโสเภณี คงจะหาพ่อของลูกได้ยาก หล่อนไม่อยากได้ยินคำนั้นหลุดออกมาจากปากของเขาอีก หล่อนรับไม่ได้แน่นอน ที่สำคัญหล่อนสงสารลูก ถ้าจะถูกบิดาแท้ๆประณามว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ
               ภาพบาดตาบาดใจของเขากับผู้หญิงคนอื่นก็มีให้เห็นบ่อยครั้ง ผู้ชายคนนี้มีหน้าตาหล่อเหลาปานเทพบุตร มีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม ก็เป็นธรรมดาที่จะมีผู้หญิงมาหน้าหลายตามาติดพัน นอกจากคู่หมั้น เขาไม่ทำร้ายหล่อนด้วยวาจาหรือข่มเหงรังแกหล่อน อีก แต่เขาทำสงครามทางใจกับหล่อน เพราะเขารู้ว่าหล่อนยังรักเขาอยู่ หญิงสาวสำนึกด้วยความทรมานใจ ตอนนี้หล่อนคงมีบาดแผลยับเยิน แต่ยังไงหล่อนก็จะทนให้ได้
     เช้านี้เขายังไม่เข้ามาแต่ก็ไม่ได้แจ้งว่าไปไหน เขาพูดกับหล่อนแค่เรื่องงานเท่านั้น และก็พยายามพูดให้น้อยที่สุด ไม่เคยมองหน้าหล่อนเวลาสั่งงาน...เขารังเกียจหล่อนมากมายเพียงนี้เลยหรือ ยิ่งคิดความเหนื่อยหล้าทางใจประกอบกับภาวะการตั้งครรภ์ ทำให้หญิงหน้ามืดวิงเวียนและอาเจียนออกมา ขณะเดินออกมาจากห้องน้ำ พยายามเดิมออกมาแต่พื้นห้องน้ำหมุนโคลง ร่างกายค่อยๆทรุดลงกับพื้นห้องแต่โชคดีที่มีมือคู่หนึ่งเข้ามาประคองไว้ทัน ก่อนที่หัวจะฟาดพื้น
                 ข้าว..ข้าว ..เป็นอะไรหญิงสาวได้ยินเสียงแว่วๆก่อนจะเป็นลมหมดสติไป

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น