คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Professor (chanbaek) 2/?
หลังจากหมดตารางเรียนของวันแรก แบคฮยอนก็เดินตรงไปยังห้องพักอาจารย์ทันที มหาลัยนี้มีห้องพักอาจารย์ที่เป็นแบบห้องเดี่ยวทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการให้นักศึกษาเข้าไปสอบถามปัญหาหรือเวลาอาจารย์เรียกพบเพื่อสอบถามเรื่องต่างๆ
ร่างเล็กหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องพักที่มีป้ายติดว่า ‘ปาร์ค ชานยอล’ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ‘เอาวะ!!!!’ จากนั้นค่อยๆบิดลูกบิดประตูอย่างช้าๆ…..
ร่างสูงขณะนี้ที่กำลังจัดเตรียมเอกสารการเรียนการสอนต่างๆที่โต๊ะประจำของตนเอง เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงผู้มาเยือน ทันทีที่เห็นร่างเล็กคุ้นหน้าเดินเข้ามาหาตนเองด้วยท่าทีประหม่าทำให้อดไม่ได้ที่จะแค่นหัวเราะเล็กน้อย
แบคฮยอนเดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะกลางห้องก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “เอ่อ อาจารย์เรียกผมมาหา มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“นั่งก่อนสิ” ชานยอลผายมือให้อีกฝ่ายนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของเขา
ร่างเล็กเห็นดังนั้นจึงเลื่อนเก้าอี้ออกมาอย่างเบามือแล้วค่อยๆนั่งลงอย่างสงบเสงี่ยม
ไม่มีบทสนทนาระหว่างทั้งสองคนตั้งแต่ที่เขานั่งลง คนตัวเล็กรู้สึกประหม่าจึงกระแอมขึ้นมาเบาๆ ก่อนจะนำมือมาประสานกันบนหน้าตักของตนเอง
ความเงียบเริ่มก่อตัวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ร่างสูงจะเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้น “ผมเห็นคุณกำลังอ่านหนังสือในขณะที่ผมสอนอยู่ บอกได้ไหมว่าอะไร?” เขาวางเอกสารลงก่อนจะเลิกคิ้วถามคนตรงหน้า
“เอ่อ... นิยายสยองขวัญครับ” แบคฮยอนทำหน้าเลิกลักซ้ำยังพูดจาตะกุกตะกัก
“ชอบอ่านเหรอ?” ชานยอลขมวดคิ้วเป็นปม นึกแปลกใจเพราะมันช่างขัดกับบุคลิกของคนตัวเล็กเสียจริง
“ครับ” เขาตอบกลับซ้ำยังก้มหน้าไม่ยอมสบตากับร่างสูง
ชานยอลช้อนใบหน้าขึ้นมองร่างเล็กที่ตอนนี้ก้มหลบหน้าซะจนคางชิดหน้าอกตนเอง “ไม่มีใครเคยสอนหรือไงว่าเวลาพูดกับคนอื่นต้องมองหน้าคนนั้น”
ทันทีที่โดนดุ แบคฮยอนจึงรีบเด้งหน้าขึ้นมาทันทีทำให้ร่างสูงหลุดขำออกมาเล็กน้อย
ชานยอลลุกขึ้นยืนแล้วเดินผ่านร่างเล็กไปยังเครื่องทำกาแฟที่ตั้งอยู่ใกล้ประตู “ดื่มอะไรหน่อยไหม?”
แบคฮยอนหันไปมองร่างสูงที่กำลังยืนชงกาแฟหันหลังให้เขา พลางคิดในใจ ‘ถ้าหากเขาเล่าเหตุการณ์ครั้งนั้นไปคนตรงหน้าจะจำได้ไหม? แล้วถ้าจำไม่ได้ล่ะ หน้าแตกแน่ๆ แต่ถ้าเค้าจำได้แล้วมันจะทำไมล่ะ? ก็แค่คนดีคนนึงที่เดินผ่านแล้วสงสารเด็กตัวเล็กๆก็แค่นั้น’
ชานยอลหันกลับมาเห็นร่างเล็กนั่งนิ่งมองตรงมายังเขาไม่พูดจาอะไร แถมคำถามที่ถามไปเมื่อครู่ก็ยังไม่ได้คำตอบกลับมา เขาโบกมือสองสามทีก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วเดินไปเคาะหัวคนตัวเล็กเบาๆหนึ่งที
“เหม่ออะไรอยู่?” ร่างสูงจ้องเข้าไปใกล้ที่ใบหน้าของแบคฮยอน เว้นระยะห่างไว้ไม่ถึงคืบ ร่างเล็กทั้งตกใจปนเขินกับการกระทำของคนตรงหน้า โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้แก้มของเขาแดงไปถึงไหนต่อไหน
ชานยอลเห็นดังนั้นจึงหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะกลับไปยังที่นั่งของตนเอง
“เอ่อ… แล้วสรุปที่อาจารย์เรียกผมมาหามีอะไรหรือเปล่าครับ?” หลังจากได้สติกลับมาแบคฮยอนก็ยังคงเค้นเอาคำตอบจากร่างสูงให้ได้
ชานยอลหัวเราะหึๆออกมาในลำคอ ก่อนจะตอบคำถามที่คนตรงหน้าถามเขา ซึ่งก็ทำให้ร่างเล็กถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว “ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่อยากรู้ว่าเด็กน้อยของพี่จะยังจำกันได้อยู่หรือเปล่า”
.
.
.
.
‘ชิท! เค้าจำได้!!!’
แต่บยอนแบคฮยอนยังคงเก็บอาการดีใจสุดขีดไว้ภายใต้ใบหน้าหวานนั่น ก่อนจะถามกลับด้วยน้ำเสียงงุนงง “เอ่อ… อาจารย์หมายถึงเรื่องอะไรครับ ผมไม่เข้าใจ แหะๆ”
ร่างสูงส่ายหัวให้กับความปากแข็งของคนตรงหน้า เขาเดินเข้ามาใกล้ร่างเล็กก่อนจะให้นิ้วมือปาดบริเวณริมฝีปากเบาๆ เช่นเดียวกับที่เขาเคยทำเมื่อ 9 ปีก่อน หากแต่ครั้งนี้ไม่มีเศษไอศกรีมหรือผ้าเช็ดหน้าผืนใด มีเพียงความอ่อนโยนที่ร่างสูงส่งต่อให้อีกคนเท่านั้น
แบคฮยอนพูดไม่ออก ตอนนี้เขารู้สึกเขินจนตัวจะแตก ทำไมอ่อนโยนขนาดนี้วะครับ นี่ถ้าเขาเป็นผู้หญิงเขาคงจะถอดเสื้อผ้าแล้วพลีกายให้อีกคนทันที
ชานยอลเห็นร่างเล็กไม่ตอบโต้ใดๆซ้ำยังยืนนิ่งไม่ไหวติง จึงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ก่อนจะยืนหน้าหล่อๆไปถามคนตรงหน้าใกล้ๆ “ว่าไงครับ? จำพี่ได้หรือยัง”
แบคฮยอนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบถอยห่างร่างสูงทันทีที่รู้ตัวว่าระยะห่างนี้มันใกล้เกินไปแล้ว
“เอ่อ… พี่ เอ้ยอาจารย์จำผมได้ด้วยเหรอครับ” ร่างเล็กคิดว่าถึงแม้คนตรงหน้าจะเรียกตัวเองว่าพี่ไปแล้วก็ตาม แต่ถึงยังไงตอนนี้สถานะของเขาสองคนยังคงเป็นอาจารย์กับลูกศิษย์ เพราะฉะนั้นเขาควรจะเลือกใช้คำให้เหมาะสม
“พี่จะลืมเด็กน้อยของพี่ได้ยังไง” ชานยอลลูบหัวร่างเล็กเบาๆก่อนจะพูดต่อ “เอางี้ ถ้าอยู่ในที่ๆมีคนเยอะๆเช่นในคลาสเรียนให้เรียกพี่ว่าอาจารย์ แต่ถ้าคุยกันสองคนให้เรียกพี่ชานยอล โอเคไหม?”
แบคฮยอนพยักหน้ารับคำ ก่อนจะถามคนตนหน้าด้วยความสงสัย “เอ่อ… ตอนนี้พี่ชานยอลอายุเท่าไหร่แล้วครับ?”
“พี่เหรอครับ? เพิ่งจะ30ไม่นานนี้เอง” ร่างสูงยิ้มกว้างออกมาราวกับภูมิใจในอายุขึ้นเลข 3 ของตัวเอง
’30 เหรอ… นี่ห่างกัน 11 ปีเลยนะ ถ้าอย่างนั้นเมื่อ 9 ปีที่แล้ว พี่ชานยอลก็ต้องอายุ 21 โห… ตอนนั้นเขาป.4 ส่วนพี่ชานยอลกำลังเรียนมหาลัยเหรอเนี่ย T_T’
ป๊อก!
ชานยอลเขกหัวร่างเล็กเบาๆก่อนจะเอ็ดออกมาเล็กน้อย “เหม่ออะไรอีกแล้วครับตัวเล็ก อยู่ในห้องก็ไม่ตั้งใจเรียน เอาแต่อ่านนิยาย ถ้าได้ F ขึ้นมาอย่าหาว่าพี่ใจร้ายนะครับ”
“ถ้างั้นพี่ก็ติวส่วนตัวให้ผมสิครับ”
.
.
.
.
‘โอ้ยยยย พูดอะไรก็ไปวะเนี่ย แรดมาก นี่แรดเลย TOT’
ร่างสูงเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ได้สิครับ”
คำตอบของชานยอลทำให้ร่างเล็กกระโดดโลดเต้นอยู่ในใจและเผลอยิ้มกว้างออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่นานนักก็ต้องหุบยิ้มลง
“แต่เราต้องสัญญากับพี่นะครับว่าตอนพี่สอนต้องตั้งใจเรียน ไม่เหม่อแล้วก็ไม่อ่านหนังสือนิยายด้วย โอเคไหมครับ?” ร่างสูงเปลี่ยนน้ำเสียงจากอ่อนโยนมาเป็นสุขุมและจริงจังกับข้อแม้ที่ขอจากคนตรงหน้า
“โอเคครับ…”
ชานยอลเอื้อมมือมายีหัวร่างเล็กเบาๆก่อนจะอมยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก
“เย็นแล้วนะครับ กลับบ้านได้ละเรา เดี๋ยวที่บ้านเป็นห่วง”
“อ๋อ ผมอยู่หอครับ แหะๆ งั้นผมกลับเลยดีกว่าครับ ดูท่าฝนจะตก” แบคฮยอนเกาหัวแกร๊กๆ ก่อนจะกล่าวลาคนตรงหน้าแล้วหันหลังเดินออกไปยังประตู
“เดี๋ยวสิครับ” ชานยอลคว้าข้อมือของร่างเล็กไว้ได้ทันก่อนจะเอ่ยคำถาม “เอามือถือมาสิ พี่ยังไม่มีเบอร์เราเลยนะ ไว้นัดติวกันไง”
แบคฮยอนก้มมองมือของตนเองที่ตอนนี้ถูกร่างสูงกุมอยู่กลายๆ เขาอมยิ้มก่อนมาเล็กน้อย แต่หารู้ไม่ว่าตอนนี้หน้าของตนเองมีสีแดงฝาด ซ้ำยังลามไปถึงใบหูเล็ก
ร่างสูงเห็นคนตรงหน้าไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ จึงคิดจะเรียกสติร่างเล็กให้กลับคืนโดยการบีบที่ปลายจมูกรั้นนั่นเบาๆ
“โอ้ย! พี่ชานยอล แกล้งผมทำไม”
ชานยอลอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ เขารู้สึกอยากแกล้งคนตัวเล็กนี่ทุกครั้ง เพียงเพราะชอบเวลาเห็นแบคฮยอนแสดงสีหน้าหงุดหงิดออกมา
“โทษเราเองนั่นแหล่ะ เหม่ออีกแล้วนะครับ แอบคิดถึงใครอยู่ล่ะสิ” ร่างสูงแซวคนตรงหน้าเล็กน้อยที่ชอบเหม่อลอย ไม่สนใจคำพูดของเขา
ร่างเล็กได้ยินดังนั้นจึงรีบปฏิเสธออกมาทันควัน “เปล่าซะหน่อย แล้วเมื่อกี้พี่ชานยอลพูดว่าอะไรนะครับ?”
“พี่บอกว่าขอมือถือของเราหน่อย จะได้มีเบอร์ไว้ เผื่อคุยเรื่องติวหนังสือกันไงครับ” เขาพูดประโยคเดิมซ้ำอีกรอบหนึ่ง
“อ๋อครับๆ” แบคฮยอนได้ยินดังนั้นจึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาแล้วยื่นให้คนตรงหน้าทันที
ชานยอลรับมาก่อนจะกดเบอร์โทรศัพท์ของตนเองแล้วโทรออก จากนั้นก็จัดการเซฟเบอร์ของเขาลงในเครื่องของแบคฮยอน
ร่างเล็กรับโทรศัพท์มือถือของตนเองคืน ก่อนจะกดดูเบอร์ที่โทรออกล่าสุด
‘พี่ชานยอลคนเท่ห์ไงครับ <3’
“………….”
แบคฮยอนมองชื่อที่ถูกเมมเบอร์ไว้โดยที่ไม่พูดอะไรอยู่สักครู่หนึ่ง
ชานยอลเห็นคนตัวเล็กนิ่งเงียบไป จึงคิดพูดดักทางไว้ก่อน “ห้ามแก้นะ”
“โอเคครับๆ” ร่างเล็กตอบกลับก่อนจะหัวเราะออกมาเล็กน้อยให้กับความคิดเด็กๆของร่างสูง ที่ถึงแม้อายุจะปาเข้าเลข 3 ซ้ำยังเป็นถึงอาจารย์มหาวิทยาลัย แต่ก็ยังทำตัวเด็กอยู่วันยังค่ำ
“ไป กลับบ้านเร็ว” หมดธุระเสร็จสรรพ ร่างสูงก็เร่งให้แบคฮยอนรีบกลับบ้านเพราะเกรงว่าฝนกำลังจะตกแล้วจะทำให้กลับหอพักลำบาก
ร่างเล็กโค้งตัวก่อนจะกล่าวลาคนตรงหน้าเป็นครั้งที่ 2 “งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะครับพี่ชานยอล สวัสดีครับ”
“เจอกัน บายครับตัวเล็ก” ชานยอลโบกมือลาแบคฮยอนจนลับหลังไป ก่อนจะอมยิ้มอย่างมีความสุขระหว่างเก็บของเตรียมจะกลับบ้าน
.
.
.
‘สงสัยการสอนในมหาวิทยาลัยคงจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไปแล้วล่ะสิ :)’
TBC…
:) Shalunla
ความคิดเห็น