ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    S o u l : M a g e . [โซลเมจ]

    ลำดับตอนที่ #4 : [3] : The Zodiac 12 สัตว์เทพ

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 57


    [4] : 12 สัตว์เทพ

     

    “กฏข้อที่ 1” วินเทอร์พูดเปรย “ในครั้งแรกหากเจ้าเกิดอยู่ในอันตราย... ข้าจะช่วยเจ้าก็ต่อเมื่อเจ้ากระดูกหัก"
     

    เพรดีทัสกลืนน้ำลายดังเฮือก "ถึงเราจะจำอดีตและเรื่องความตายไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเรานึกไม่ออกว่ากระหูกหักมันรู้สึกอย่างไรนะ!”

     

    วินเทอร์เมินคำบ่นของเพรดีทัสแล้วกล่าวต่อ "หากเจ้าเกิดอยู่ในอันตรายเป็นครั้งที่สอง ข้าจะช่วยเจ้าก็ต่อเมื่อหัวใจของเจ้าหยุดเต้น... และครั้งที่สามหากเจ้าเกิดอยู่ในอันตราย ข้าจะช่วยเจ้าก็ต้องเมื่อวิญญาณของเจ้าออกจากร่าง"

     

    “...มีกฏข้ออื่นอีกมั้ย?” เพรดีทัสถามด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์

     

    “มีอีกเยอะ แต่เจ้าฟังกฏข้อเดียวไปก่อน" วินเทอร์ตอบ "อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่ากฏที่ข้าตั้งนั้นเพื่อให้เจ้าเรียนรู้เวทมนตร์และใช้พลังจิตให้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ข้าบอกเจ้าได้เลยว่าหากพ้นเขตข่ายเวทมนตร์ของข้าไปเมื่อไหร่ เจ้าจะรู้ว่ามีความรู้และฝีมือในการใช้เวทและพลังจิตนั้นสำคัญเป็นอันดับสอง"

     

    “แล้วอันดับแรกคือ?”

     

    “ความอดทน" วินเทอร์ตอบสั้นๆ "เจ้าจำคำของข้าไว้ หากเวลาใดเจ้ามีสุขก็มีสุขให้เต็มที่ แต่เมื่อไหร่ความทุกข์ใจมาเยือน ก็ต้องเต็มที่กับมันเหมือนกัน..."

     

    เมื่อตะวันส่งสัญญาณของวันใหม่ ทั้งคู่ก็เริ่มออกเดินทางกันในเวลาไม่ช้าหลังจากรับประทานมื้อเช้า ในช่วงมื้อเช้าวินเทอร์ได้พูดคร่าวๆ เกี่ยวกับกฏของเขาที่ตั้งขึ้นเพื่อให้เพรดีทัสเรียนรู้เรื่องเวทมตร์ได้เร็วขึ้น ส่วนพลังจิตนั้นก็ต้องรีบใช้ให้ได้และให้คล่องแคล่วให้เร็วที่สุด เหตุผลนั้นก็เป็นเพราะการเดินทางของพวกเขาจะอันตรายมากยิ่งๆ ขึ้น จนกระทั่งอาจมีการต่อสู้ ซึ่งหมายความว่าชีวิตของเพรดีทัสนั้นจะตกอยู่ในอันตราย เพรดีทัสถามกลับไปว่าทำไมถึงพูดแต่ชื่อของเขา วินเทอร์ตอบกลับสั้นๆ ว่า

     

    'ถ้าข้าจะไป ข้าจะไปเอง'

     

    เพรดีทัสได้ยินแล้วไม่ค่อยเข้าใจว่าวินเทอร์นั้นหมายถึงอะไร

     

    เพรดีทัสนั้นบอกวินเทอร์ว่าเขาไม่ได้นอนพักเลยเพราะมัวแต่อ่านหนังสือของวินเทอร์ทั้งคืน วินเทอร์รับรู้เช่นนั้นจึงบ่นเป็นนัยๆ

     

    'หากตอนกลางคืนเจ้าไม่หลับ เกิดอะไรขึ้นข้าช่วยอะไรเจ้าไม่ได้นะ เพราะสุนัขอย่างข้าถ้าเดินทางเหนื่อยๆ แบบนี้ ถึงเวลาพักผ่อนแล้วต่อให้โลกสลายข้าก็ไม่ตื่นหรอก'

     

    ตอนนี้เวลาก็เกือบจะสิบโมงเช้า ผ่านมาแล้วห้าช่วงโมงนับตั้งแต่ออกเดินทางกันตอนตีห้า วินเทอร์นั้นเดินด้วยความว่องไวในขณะที่เพรดีทัสหันไปมองทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเขาด้วยความเพลิดเพลิน วินเทอร์สังเกตเห็นเพรดีทัสเช่นนั้นแล้วก็เลยเดินให้ช้าลง เพราะใจจริงก็ไม่ได้จะรีบไปไหนเพียงแต่เขาติดเดินเร็วก็เท่านั้น

     

    “นี่วินเทอร์ เราสังเกตมาสักพักแล้ว ทำไมเป้ที่เราสะพายอยู่นั้นเบาจนรู้สึกเหมือนไม่ได้สะพายอะไรเลย? หนังสือเล่มหน้าขนาดนั้นน่าจะทำให้เราปวดไหล่อยู่นะ แต่นี่น่ะไม่เลย” เพรดีทัสถามขึ้นพลางเอาเป้ที่เขาสะพายอยู่มาถือไว้โดยใช้แขนเดียว

     

    “แล้วเจ้าไม่ชอบงั้นหรอ?"

     

    “สบายขนาดนี้ไม่ชอบก็เพี้ยนแล้ว" ไพรดีทัสตอบ

     

    “มันทำมาจากขนสัตว์เทพ" วินเทอร์กล่าว "เธอเป็นสัตว์เทพที่งดงามมาก"

     

    “สัตว์เทพ?” ไพรดีทัสถามแบบงงๆ "วินเทอร์ใช้คำที่เรานึกไม่ออกอีกแล้ว..."

     

    นอกจากพรีคันทราชนั้นเป็นอาณาจักรแห่งเวทมนตร์ อาณาจักรแห่งนี้ยังเปรียบดังศูนย์รวมของความหลากหลายนานาชนิด 'สัตวเทพ' เป็นหนึ่งในนั้น สัตว์เทพเป็นสัตว์ที่มีประวัติอันยาวนาน พวกเขามีชีวิตนับตั้งแต่ยุคที่ '1' ซึ่งเป็นยุคที่จักรวาลแห่งนี้เพิ่งขยายตัวเสร็จใหม่ๆ

     

    สัตว์เทพนั้นมีหลายพรรคหลายกลุ่มและหลายลักษณะหลายหน้าตา แต่ละกลุ่มนั้นจะประจำการคอยรักษาดาราจักรที่ตนได้รับมอบหมายเอาไว้ นอกจากนี้ในกลุ่มนั้นจะแบ่งย่อยลงไปอีกเพื่อดูแลแต่ละระบบสุริยะที่มีอยู่ทั้งหมดในดาราจักร 'ทางช้างเผือก' แห่งนี้

     

    ในระบบสุริยะที่มีมหาอาณาจักรพรีคันทาชตั้งอยู่นั้นมีสัตว์เทพคอยปกปักษ์รักษาอยู่ทั้งหมด 12 ตน เรียกว่า 'จักรราศี'

     

    “แล้วจักรราศีตนไหนที่ท่านแอบชอบล่ะ?” เพรดีทัสถามเสียงสูง

     

    วินเทอร์หยุดชะงักทันที "ข้า... ข้าไม่ได้ชอบ!”

     

    “ถ้าวินเทอร์เป็นคนคงน่าแดงไปแล้ว" เพรดีทัสแซวต่อ

     

    “ตกลงเจ้าอยากรู้ไหมว่าตนไหนเป็นตนที่นำของทำเป้ใบนั้นให้ข้า??”


    “อยากซิ เราเดามั่วไปหมดแล้ว"

     

    “ชื่อในจักรราศีของเธอคือ... ระกา"

     

    “เอ... ระกา ระกา... ไก่!”

     

    พลันนั้นปากของเพรดีทัสก็ค่อยๆ หายไป

     

    “อยากได้พูดต่อ!” วินเทอร์ตะคอกทำสีหน้าที่มนุษย์อย่างเพรดีทัสเดาไม่ออก "ระกาไม่ชอบชื่อนั้น หากระกาได้ยินจะมาจิกข้า!”

     

    ปากของเพรดีทัสค่อยๆ งอกกลับออกมา "แล้วนี่จะตกใจไปทำไม? เราเป็นคนพูดนะไม่ใช่วินเทอร์"

     

    “จริงอยู่ที่เจ้าพูด! แต่เมื่อเจ้าพูดไกล้ๆ ข้า มันทำให้คลื่นเสียงจากปากของเจ้าเข้ามากระทบพลังงานของข้าซึ่งจะส่งไปถึงระกาด้วย!”

     

    เพรดีทัสยิ้มเล็กน้อย "เราจำสำนวนที่ว่าหมาหยอกไก่ได้... อยากเห็นจริงๆ ว่าไก่หยอกหมาจะเป็นอย่างไร? ฮ่าๆๆ"

     

    ระหว่างการเดินทางนั้นเพรดีทัสคอยแซวและหยอกวินเทอร์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็นแล้ว... และแล้วเรื่องราวก็เกิดขึ้นเมื่อเพรดีทัส

     

    “ฮ๊าวววว" เพรดีทัสหาวพลางเช็ดน้ำตาที่เล็ดออกมา

     

    “หึ..." วินเทอร์ทำเสียงเล็กน้อย "หึหึ... หึหึหึหึ!"

     

    “วินเทอร์เป็นอะไรรึเปล่า?”

    “คืนนี้เจ้าเสร็จแน่" วินเทอร์ตอบ "ระวังปากของเจ้าไว้ให้ดี”

     

    เพรดีทัสเริ่มขนลุกแปลกๆ "ทำไมเราต้องระวังปากอันแสนน่ารักของเราด้วย?” เพรดีทัสพูดทีเล่นทีจริง

     

    “ในบริเวณเขตป่าแห่งนี้มีตำนานเล่าขานกันมาช้านาน" วินเทอร์เกริ่น "ใครที่ย่างกรายเข้ามานั้นจะโดนปีศาจโรคจิตไล่จุมพิต..."

     

    “ฮ่าๆๆๆ!” เพรดีทัสขำจนทรุดลงไปกับพื้น "มุขของวินเทอร์นั้นเยี่ยมยอดจริงๆ เราขอคารวะ"

     

    “ไม่เชื่อข้าสินะ... อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน ฤิทธิ์คำสาปของนางทำเอาหนุ่มอย่างเจ้าไม่สามารถไปรักเพศหญิงคนไหนได้อีกเลยมาหลายสิบคนแล้ว!"

     

    ฟังจากน้ำเสียงแล้ววินเทอร์คงไม่ได้พูดเล่นแน่ๆ เพรดีทัสคิด

    เหมือนเขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองซวยแน่ๆ เพราะระดับความง่วงตอนนี้ต้องเผลอหลับก่อนพระอาทิตย์ตกดินอย่างแน่นอน ซึ่งหมายความว่ามีโอกาศสูงมากๆ ที่เขาจะเผลอตื่นมาตอนกลางคืน

    "ถ้าวินเทอร์บอกเราตั้งแต่ก่อนนอนว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ เราคงนอนไปแล้ว!" เพรดีทัสเริ่มบ่น

    "ก็ข้านึกไม่ออก"

    เพรดีทัสเริ่มทำสีหน้าไม่สู้ดี "ซวยแน่"  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×