คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [2] : Forecast คำพยากรณ์
[2] : คำพยากรณ์
วินเทอร์นอนหมอบอยู่ข้างๆ ร่างของเพรดีทัส เขาทำอะไรไม่ได้มากนอกจากหวังให้เพรดีทัสเอาตัวรอดมาออกจากภวังค์นั้นให้ได้ วินเทอร์เป็นสุนัขที่ไม่ชอบคิดมากกับอะไรนานๆ แต่ถ้าเขาได้คิดมากกับเรื่องใดขึ้นมาแปลว่าเรื่องนั้นต้องสำคัญเป็นอย่างมาก
ในขณะที่เขานอนมองร่างของเพรดีทัสซึ่งในสายตาเข้าเปรียบเสมือนเด็กแรกเกิด เขากลับอดคิดฟุ้งซ่านไม่ได้เลยว่าถ้าสมมุติเพรดีทัสเสียสติขึ้นมา เขาจะทำอย่างไรดี? คนเสียสติคงอ่านหนังสือที่เขาอุส่าห์ใช้เวลาเขียนมาช้านานคงไม่รู้เรื่อง
แต่ถ้าเพรดีทัสได้กลายเป็น ‘อัจฉริยะ’ ขึ้นมาแล้วละก็... จะมีศัตรูและผู้ไม่หวังดีมากมายก่ายกองจ้องจะเอาชีวิตพวกเขาสองคนโดยเฉพาะตัวเพรดีทัส วินเทอร์มั่นใจในความสามารถทางด้านเวทมนตร์ของเขามาก แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีวันเจอคนที่มีความสามารถมากกว่าตัวเขา ทว่าตัวเขาลำพังเอาตัวรอดได้สบาย แต่เพรดีทัส... ถึงจะฉลาดแต่ฝีมือในการใช้เวทมนตร์คงปลอกกล้วยยังจะง่ายกว่า ...แต่ถ้าเขาสามารถปลุกพลังจิตที่แฝงอยู่ในตัวออกมาใช้ได้ก็คงจะดี
‘เพราะหลวงตานั่นแท้ๆ’ วินเทอร์บ่นในใจ
เมื่อ 150 ปีที่แล้ว วินเทอร์ได้มีโอกาศพบปะกับหลวงตาที่เดินแสวงบุญมาจากบอร์เรียส หลวงตาท่านนั้นได้มาปักกฏอยู่ในป่าทางทิศตะวันตกของเมืองฮาราพอดี...
ในขณะที่วินเทอร์กำลังจิบน้ำชานั่งอ่านหนังสืออยู่นั้นได้มีกลิ่นประหลาดที่เขาไม่เคยสำผัสมาก่อนลอยมาแตะจมูก เขาสำผัสได้ถึงพลังอันอบอุ่นที่ไม่สามารถหาอะไรมาเทียบได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงวางถ้วยน้ำชากับหนังสือลงและตัดสินใจดมตามกลิ่นนั้นไป
วินเทอร์รู้ดีว่าบ้านของเขานั้นตั้งอยู่ในมุมที่ลึกที่สุดของป่า ตั้งแต่เขาสร้างบ้านนี้มาหลายร้อยปีที่แล้วไม่เคยมีมนุษย์คนไหนสามารถเดินมาถึง ส่วนหนึ่งนั้นก็เป็นเพราะเขาได้ลงเวทในอณาเขตไว้
จะมีก็เพียงแต่สัตว์เทพที่ชอบแปลงกายมาเป็นมนุษย์แล้วนั่งคุยกับเขาเป็นครั้งเป็นครากับผู้ที่เขาไว้วางใจเท่านั้น...
วินเทอร์เดินออกจากบ้านทำจมูกฟึดฟัดตามพื้นเดินไปในทิศที่พัดกลิ่นมา เขาเดินลัดเลาะไปตามพงหญ้าและต้นไม้นานาชนิด ต้นไม้ในป่านี้ทุกต้นนั้นสูงไม่ต่ำกว่าร้อยเมตร วินเทอร์เดินตามกลิ่นจนกระทั่งมาถึงจุดหมาย เมื่อนั้นเขาก็ได้เห็นบุรุษห่มผ้าเหลืองที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ต้นไม้ห่างไปประมาณห้าเมตร
“โฮ่ง!” วินเทอร์เห่า
“...อาตมาขอโทษที่มารบกวนสถานที่ของโยม... อาตมานั้นไม่ได้มีเจตนาร้ายที่จะบุกรึกพื้นที่แห่งนี้” บุรุษผู้นั้นกล่าวและค่อยๆ ลืมตาขึ้น “อาตมามีนามว่าสุชาตะ”
วินเทอร์เดินเข้ามาใกล้สุชาตะมากขึ้นก่อนจะยกสองขาหลังลงนั่ง
“มนุษย์ผู้แสวงบุญ ข้าต่างหากที่ต้องขอโทษท่านที่ทำให้ท่านเข้าใจผิดคิดว่าที่นี่เป็นสถานที่ของของข้า” วินเทอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงนอบน้อม “สถานที่นี้เป็นบริเวณที่อยู่ลึกที่สุดของป่าผืนนี้ นอกเสียจากนั้นป่าแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยสัตว์จวบจนภูติ ผี ปีศาจและดวงวิญญาณคอยกลั่นแกล้ง บางตนนั้นถึงกับพรากชีวิตมนุษย์... ถ้าไม่มีพลังเวทหรือพลังจิตแกร่งกล้านั้นมนุษย์ทั่วๆ ไปไม่มีทางมาถึงจุดนี้ได้ อีกอย่างข้าได้ลงเวทชั้นสูงปกปิดบริเวณบ้านข้าเอาไว้... แต่ท่านกลับมานั่งอยู่ตรงนี้ได้ช่างเป็นเรื่องอัศจรรย์สำหรับข้ายิ่งนัก”
สุชาตะฟังเช่นนั้นแล้วหัวเราะร่า “โอ้ย! ถึงว่าทำไมตอนอาตมาเดินถึงได้มาขอส่วนบุญกันมากมาย”
“ท่านสุชาตะ ท่านไม่พบภัยร้ายแต่อย่างใดเลยเหรอ?”
สุชาตะส่ายหน้า “ภัยที่ร้ายแรงที่สุดของอาตมาคงเป็นโดนก้อนหินเล็กๆ บาดเท้าอาตมา”
วินเทอร์เงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยถามอะไรบางอย่าง “ข้าขอถามอะไรท่านได้หรือไม่?”
“โยมจะถามทำไมในเมื่อโยมรู้ว่ายังไงอาตมาก็ตอบ?”
วินเทอร์เงียบไปชั่วครู่แล้วตอบว่า “ข้ายอมแพ้ ปัญญาของท่านเหนือกว่าของข้าหลายพันล้านเท่า ข้าประมวลผลของสถานณการณ์ทั้งหมดแล้วพบว่าข้าไม่สามารถเถียงท่านได้เลย”
“อาตมายังไม่ได้คิดอะไรเลย ทำไมเจ้าถึงคิดมากเสียแล้วล่ะ?”
“ท่านกำลังจะบอกว่าข้าคิดว่าท่านกำลังประลองปัญญากับข้าไปคนเดียวอย่างนั้นหรอ?”
“คงเป็นแบบนั้นกระมัง”
วินเทอร์ถอนหายใจเล็กน้อย “ความรู้สึกของข้าบอกว่าการพบปะกันครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา”
“อีกร้อยห้าสิบปีข้างหน้า” สุชาตะกล่าว “จะมีสงครามครั้งใหญ่ที่สุด... และครั้งสุดท้ายของยุคนี้ หากสงครามไม่สามารถถูกยับยั้ง จักรวาลที่กำลังจะเกิดในหนหน้าจะมีชะตากรรมต้องทนทุกข์ทรมานมากกว่าจักรวาลครั้งอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นมา”
วินเทอร์ถอนหายใจอีกครั้ง “เป็นภาระของข้าสินะ?”
อาตมาพยักหน้า “จะมีเด็กชายผู้ลืมอดีตปรากฏตัวขึ้นในเมืองหลวงของโยม เด็กชายผู้นั้นจะทำให้เจ้าบรรลุสภาวะจิตขั้นสุดท้าย และยังเป็นกุญแจสำคัญในการยับยั้งไม่ให้สงครามเกิดขึ้น”
“และเหตุใดข้าต้องทำตามที่ท่านพูด?”
“อาตมาเพียงแต่บอกเล่าให้โยมฟัง โยมจะทำอะไรก็แล้วแต่... ก่อนอาตมาจะเดินทางต่อ ถ้าเกิดโยมตัดสินใจเพื่อจะไปพบเด็กคนนั้น อย่าลืมมาหาอาตมาล่ะ อาตมาจะรออยู่ทางทิศใต้” สุชาตะกล่าวแล้วค่อยๆ ยืนขึ้น “อายุ-วรรโณ-สุขัง-พลัง”
แล้วสุชาตะก็เดินลับหายไปในดงป่าปล่อยให้วินเทอร์นั่งพิจารณาเรื่องราวที่เขาเพิ่งได้ยินด้วยความเครียด...
วินเทอร์... วินเทอร์... วินเทอร์!
เพรดีทัสเขย่าวินเทอร์ที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ข้างๆ “เราเข้าใจแล้ว” เพรดีทัสกล่าว “เสียงของสิ่งนั้น”
พิจารณาจากประโยคของเพรดีทัสแล้ว วินเทอร์ค่อนข้างมั่นใจว่าเขาไม่ได้เสียสตื... หรืออย่างน้อยก็อาจจะยังไม่ใช่ตอนนี้
“ข้าเองก็เพิ่งฝันถึงเรื่องราวในอดีต” วินเทอร์พูด “ถ้าเจ้าหิวก็ไปหาอาหารอในครัว แล้วก็รีบๆ เข้านอนซะ พรุ่งนี้เจ้าและข้าต้องออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่”
“เรารอให้วินเทอร์พูดเรื่องอาหารมาตั้งนานแล้ว ท้องเราตอนนี้หิวเสียจนจะกินตัวเองอยู่แล้ว ฮ่าๆ” เพรดีทัสพูดทีเล่นที่จริงก่อนจะหายวับเข้าไปในครัว
ดูร่าเริงก็ดีแล้ว... แต่ถ้าเมื่อไหร่เจ้ารู้สึกตัวเรื่องความสำคัญของอดีต... ถึงเวลานั้นถ้ายังมาไม่ครบ เจ้าจะหิวกระหายเยี่ยงสิงโตที่ไม่ได้ล่าอาหารมาหลายอาทิตย์ วินเทอร์นึกขึ้นในใจและเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อรวบรวมของสำคัญในการเดินทางสำหรับวันต่อไป
ความคิดเห็น