คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [1] : Pradeitus Memoria เพรดีทัส เมมอร์เรีย
[1] : เพรดีทัส เมมอร์เรีย
‘บอร์เรียส’ ดินแดนทิศเหนือ ‘อูโรร่า’ ดินแดนทิศตะวันออก ‘เมรีเดียส’ ดินแดนทิศใต้ และ ‘วิสเปอร์’ ดินแดนทิศตะวันตก ทั้งสีดินแดนนี้รวมเป็นหนึ่ง ‘มหาอาณาจักรพรีคันทราช’ คำว่าเป็นพินคันทราชเป็นคำเพี้ยนมาจากภาษาตั้งแต่ยุคสมัยเมื่อหลายหมื่นปีที่แล้ว ภาษาที่ว่านี้เรียกว่าภาษาลาติน คำว่า ‘เพรีคันทาชีโอ้’ แปลได้หลายอย่างเช่น มายากล คาถา หรือเวทมนตร์
พรีคันทราชเป็นยุคที่ 665 ซึ่งเป็นยุคสุดท้ายก่อนที่อายุขัยของจักรวาลไกล้จะสิ้น เป็นยุคก่อนที่ทุกสิ่งที่อย่างกำลังจะรวมกลับไปเป็นหนึ่งกับ... ‘ความว่างเปล่า’ สิ่งมีชีวิตทุกตนรวมไปถึงเทพเจ้าเองนั้นจะถูกกำจัดทั้งสิ้น...
“นี่มนุษย์” สุนัขขนสีขาวเอ่ยพร้อมเอาอุ้งเท้าแตะไหล่ของเด็กหนุ่ม “ลืมตาได้แล้ว”
เด็กหนุ่มลืมตาขึ้นตามคำบอก เขารีบหันซ้ายและขวาเพื่อสำรวจห้อง
“บ้านไม้หลังเล็กๆ ของข้าไม่ค่อยใหญ่มาก วันดีคืนดีนอนๆ อยู่ข้าคงจะตายเพราะบ้านมันพังโดยที่ข้าคงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ฮ่าๆ” สุนัขเอ่ยเหมือนรู้ใจและเดินไปตรงโต๊ะไม้เก่าๆ ด้านหน้าที่มีหนังสือและกระดาษวางกระจัดกระจายอยู่ เขาทำท่าอ่านอะไรบางอย่างบนโต๊ะก่อนจะหันกลับไปมองเด็กหนุ่มแล้วพูดว่า “ในที่สุดข้าก็เจอเจ้าแล้ว”
เด็กหนุ่มชี้มาที่ตัวเอง “เราเนี่ยนะ?”
“ข้ารู้ว่าเจ้าจำอดีตของตัวเองไม่...”
เด็กหนุ่มรีบกระโจนเข้าไปหาสุนัขและเอามือของเขาบีบอุ้งเท้าด้วยความตื่นเต้น “ใช่! ข้าจำอะไรไม่ได้เลย! ให้ตายสิ... ท่านเคยอยากจะพูดอะไรแล้วลืมแต่มันติดอยู่ตรงลิ้นมั้ย?”
“เอ่อ… กะ-ก็บางครั้ง”
“เรารู้สึกแบบนั้นเลย! เพียงแต่มันมากกว่าหลายล้านๆ เท่า!” เด็กหนุ่มระบายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “จริงๆ แล้วท่านไม่น่าช่วยเราเลย น่าจะปล่อยให้เจ้านั่นแทงหัว...”
ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะจบประโยค ปากของสุนัขตรงหน้าก็งับ(เบาๆ)เข้าเต็มหน้าของเขา
“อุบอาก” สุนัขทำเสียงก่อนจะปล่อยหน้าของเด็กหนุ่ม “ถ้าเจ้าไม่ใช่เด็กหนุ่มตามที่หลวงตาท่านนั่นว่า ข้าคงเสกให้เจ้าเป็นแพะไปแล้ว” เขาบ่น
“อะ-แฮ่ม!” สุนัขทำเสียง “เข้าเรื่องเลยนะ”
เด็กหนุ่มพยักหน้าด้วยสีหน้างงๆ
“ข้ามีชื่อว่าวินเทอร์... วินเทอร์ รี ทรีวัส ก่อนอื่นขอบอกไว้เลยว่าข้าไม่ใช่มนุษย์! ข้าเป็นสุนัข”
“เรารู้ว่าท่านไม่ธรรมดา!”
วินเทอร์ยิ้มเล็กน้อย “ข้าเป็นนักเวท”
“ขอโทษทีนะท่านวินเทอร์ คือ… บางคำเราเข้าใจ แต่บางคำเรานึกไม่ออกว่ามันหมายความว่าอะไรเช่นคำที่ท่านเพิ่งกล่าวมา”
“นักเวทงั้นหรอ?” วินเทอร์ถาม
“คำนั้นแหละ” เด็กหนุ่มตอบ “เราไม่รู้ความหมายของมัน”
วินเทอร์ถอนหายใจเล็กน้อย “เจ้ารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับ ‘เวทมนตร์’ หรือ 'พลังจิต'?”
“ถ้าให้เดา คงเป็นอะไรบางอย่างที่ท่านใช้ทำให้เราสองคนโผล่มาในบ้านหลังนี้โดยไม่ต้องวิ่งหรือเดิน ถูกมั้ย?”
“หัวไวดีนิ ใช้ได้เลย” วินเทอร์ว่าแล้วจึงใช้หางหยิบหนังสือเล่มหนาสีดำขึ้นมา ตรงหน้าปกมีเพียงสัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีขาว “หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ข้าเขียนเตรียมเอาไว้ให้เจ้า”
เด็กหนุ่มรับหนังสือเล่มนั้นมาแนบไว้ข้างเอว “เราไม่รู้จะขอบคุณท่านอย่างไรดี ดูจากความหนาและกระดาษที่เกลื่อนกลาดอยู่บนโต๊ะของท่าน เราขอเดาว่าท่านคงใช้เวลาไปกับมันไม่ใช่น้อย”
“มันเป็นเหมือนหน้าที่ของข้าไปแล้ว” วินเทอร์กล่าว
“ท่าน…”
“เรียกแค่วินเทอร์ก็พอไอ้เบื๊อก หึหึ”
“เรารู้สึกคันหูเวลาวินเทอร์เรียกเราแบบนั้น”
“เพรดีทัส เมมอร์เรีย ดีมั้ย? แปลคร่าวๆ ว่าผู้ที่ลืมอดีตตัวเองน่ะ”
เด็กหนุ่มยิ้ม “เราชอบชื่อนี้” เพรดีทัสพยักหน้าขอบคุณ
“ถ้าจะให้ข้าเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนนี้ทั้งหมดก็คงไม่ได้นอนกันไปหลายวัน ข้าจะค่อยๆ เปรยให้ฟังสลับกับเจ้าไปหาอ่านในหนังสือเอาเองก็แล้วกัน เอาเป็นว่าภายในวันพรุ่งนี้เจ้าและข้าต้องออกเดินทางไปสู่วิสเปอร์... ดูเจ้ากำลังงงนะ”
เพรดีทัสพยักหน้า “เราไม่แน่ใจว่าวิสเปอร์คืออะไร”
“อ่อ! ข้าลืมบอกไปเลยว่าผืนแผ่นดินที่เจ้ากำลังยืนอยู่ตรงนี้เป็นดินแดนที่มีนามว่า ‘อูโรร่า’ หรือดินแดนทิศตะวันออก เมืองที่เจ้ายืนอยู่เมื่อสักครู่เป็นเมืองฮารา เมืองหลวงแห่งอูโรร่านั่นเอง... ด้วยเหตุผลที่ข้าไม่ค่อยชอบสุงสิงกับมนุษย์ ข้าจึงอาศัยอยู่ในป่าทางทิศตะวันตกของเมือง”
วินเทอร์กล่าวเสร็จและเดินจากโต๊ะของเขาไปที่ห้องครัวที่อยู่หลังห้อง เพรดีทัสได้ยินเสียงเปิดปิดตู้สักพักก่อนที่วินเทอร์จะเดินกลับออกมาพร้อมขวดแก้วสองขวดที่ถูกหางของเขาพันไว้อยู่ คราวนี้แทนที่วินเทอร์จะเดินสองขาเหมือนมนุษย์ เขากลับเดินสี่ขามาที่เพรดีทัสแทน “ข้าขี้เกียจเดินสองขาแล้วตอนนี้ จะกลับไปเดินแบบหมาๆ บ้าง” เขาตอบเหมือนรู้ใจเพรดีทัสอีกครั้ง
ขวดแก้วที่ถูกหางของวินเทอร์พันไว้มีด้วยกันสองสี ขวดหนึ่งเป็นสีเขียวมรกตและอีกขวดเป็นสีฟ้าคราม ทั้งสองขวดมีละอองแสงส่องประกายวิบวับดูแล้วท่าทางคงไม่ใช่น้ำธรรมดาทั่วๆ ไป
“ถ้าเจ้าเลือกขวดยาสีฟ้า เจ้าจะจำอดีตทั้งหมดได้ภายในพริบตาเดียว แต่ถ้าเจ้าเลือกสีเขียว... การเดินทางวันพรุ่งนี้ของข้ากับเจ้าจะทำให้ทั้งโลกต้องจารึก” วินเทอร์กล่าว
เพรดีทัสหยิบขวดยาสีเขียวโดยไม่ลังเล
“เจ้าแน่ใจนะ? ถ้าเจ้าดื่มแล้วยาสีฟ้าจะหายไปทันที ยานี้จะเป็นยาแรกและยาเดียวที่จะทำให้เจ้าจำอดีตทั้งหมดได้โดยไม่เสียแรงอะไรเลย”
“แน่นอนว่าเราอยากจำอดีตทั้งหมดได้... แต่ถ้าอดีตของเราที่ผ่านมาทั้งหมดเราสร้างมาเพื่อให้มีวันนี้ล่ะ? เพื่อให้เราต้องลืมอดีตและมาเริ่มต้นอนาคตใหม่?”
“พูดได้ดี เจ้าคงได้คำตอบแล้วสินะ?”
เพรดีทัสเปิดจุกขวดออกและกระดกยาทั้งหมดเข้าปากในคราวเดียวกัน
เพร่ง!!
ขวดแก้วที่อยู่ในมือของเพรดีทัสหล่นแตกกระจายเต็มพื้นก่อนที่ตัวเขาจะล้มไปได้หลัง วินเทอร์เดินไปหาร่างของเพรดีทัสที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นและกระซิบข้างหู
“หายใจเข้าลึกๆ และตั้งใจฟังข้าให้ดีๆ” วินเทอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งแตกต่างจากที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง “น้ำยาที่เจ้าเพิ่งดื่มไปมีสารที่เรียกว่าไดเมทธิลทริปตามีนหรือดีเอ็มที เป็นยาประสาทหลอนชนิดที่ร้ายแรงมากที่สุด... อีกสี่สิบนาทีเมื่อเจ้าตื่นขึ้น มันจะทำให้เจ้าได้กลายเป็น ‘อัจฉริยะ’ หรือไม่ก็ ‘คนเสียสติ’... ข้าขออวยพรให้เจ้าได้เป็นอย่างแรกที่ข้ากล่าวก็แล้วกัน ข้าคงไม่ค่อยสะดวกเดินทางกับคนเสียสติเท่าไหร่เพราะข้าคิดว่าข้าเองก็เสียสติแล้ว หึหึ”
ประโยคคำกล่าวของวินเทอร์เป็นเสียงสุดท้ายที่เพรดีทัสได้ยินก่อนที่จิตใจของเข้าจะหลุดเข้าสู่ภวังค์ ‘เอ็กซ์ตาเซีย’ หรือแทรนซ์ (The Trance State)
ความคิดเห็น