ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดีทราฟ มหัศจรรย์ วิทยาลัยจอมเวท

    ลำดับตอนที่ #3 : บททดสอบความสามารถ

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 52


    บทที่ 2
    บททดสอบความสามารถ
    สวัสดียามสายคับน้องๆ รุ่นพี่เวทรัตติกาลคนหนึ่งเดินออกมาจากหอคอเวทรัตติกาลที่อยู่ด้านหลังหอนาฬิกาไปประมาณ 10 กว่าเมตร กล่าวขึ้นเมื่อเดินมาถึงหน้าหอนาฬิกา
    ก่อนอื่น....พี่ขอให้น้องๆที่มีสายรัดข้อมือหนังสีดำที่ข้อมือข้างซ้ายออกมายืนเรียงแถวหน้ากระดานตรงหน้าพี่เดี๋ยวนี้เลยครับ รุ่นพี่กล่าวด้วยเสียงที่เรียบเฉยแต่เต็มไปด้วยความเฉียบขาด
    เอ.....ปีนี้มีน้อยจังเลยนะ.... รุ่นพี่กล่าวลอยๆเมื่อเห็นจำนวนน้องๆที่มายืนเรียงแถวหน้ากระดาน ที่มีแค่ 30 คนเท่านั้น แถมมีผู้หญิงอยู่แค่ 4 คน
    เอาละครับ เมื่อน้องๆมาครบกันแล้ว พี่ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับน้องๆที่ได้สายรัดข้อมือ เพราะนั้นหมายความว่าน้องได้รับรายงานตัวแล้ว แต่น้องก็ไม่ควรดีใจมากนั้น เพราะมันไม่ได้แปลว่าน้องที่มีสายรัดข้อมือจะได้เป็นเด็กเวทรัตติกาลทุกคน ส่วนน้องที่ไม่ได้รับสายรัดข้อมือ พี่ก็ขอแสดงความเสียใจด้วย แต่น้องๆยังสามารถทำการเทียบโอนรายชื่อไปเรียนสายเวทอื่นได้ โดยน้องที่ต้องการเทียบโอนให้ไปหาพี่ที่ยืนอยู่ทางซ้ายมือพี่ เขาจะทำการเทียบโอนรายชื่อของน้องๆให้ ส่วนน้องที่อยากเข้าเรียนเวทรัตติกาลน้องก็ต้องมาลงทะเบียนเรียนและทดการสอบเลือกสายเวทในปีการศึกษาหน้านะคับ รุ่นพี่คนนั้นหยุดพูดเพื่อให้พี่ที่ยืนอยู่ทางซ้ายมือเขาเรียกน้องๆที่ต้องการเทียบโอนไปรวมตัวกัน และให้น้องที่ต้องเรียนในปีหน้าทยอยกันกลับออกไปก่อนที่จะเริ่มพูดกับน้องๆที่เหลือต่อ
    ส่วนน้องๆ ก็เดินตามพี่มาครับ รุ่นพี่กล่าวก่อนเดินนำไปที่หอรัตติกาลแต่หยุดอยู่ตรงที่รั้วที่กั้นระหว่างอาณาเขตของหอนาฬิกากับหอคอยรัตติกาล ทำให้น้องๆที่ได้เห็นหอคอยเวทรัตติกาลเป็นครั้งแรกนั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะหอคอยรัตติกาลนั้นตัวหอคอยทำด้วยอัญมณีที่หายากมากชนิดหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันใกล้สาบสูญเต็มที่แล้ว และยังเขาวงกตที่ทำจากต้นไม้ที่สูงมาก จนเกือบบังตัวหอคอยจนมิด
    น้องๆครับ! ต่อจากนี้ไปจะเป็นการทดสอบเพื่อคัดเลือกเด็กที่จะมาเรียนเวทรัตติกาลอย่างแท้จริงแล้วนะครับ ซึ่งก่อนอื่นน้องๆต้องแบ่งเป็นกลุ่มๆกลุ่มละ 5 คนก่อนนะครับรุ่นพี่หยุดพูดเพื่อให้น้องได้จัดกลุ่มกัน และเมื่อเห็นว่าน้องๆจัดกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว รุ่นพี่จึงเริ่มพูดต่อ
    น้องคงเห็นเขาวงกตที่อยู่ต้องหน้าพวกเราแล้วใช่ไหมครับ บททดสอบของเราคือ น้องแต่ละกลุ่มจะเข้าไปในเขาวงกตกันทีละกลุ่ม โดยพี่จะให้นาฬิกาทรายไปกลุ่มละอัน น้องต้องไปถึงหน้าหอรัตติกาลก่อนทรายเม็ดสุดท้ายจะร่วงลงมา ซึ่งกลุ่มแรกจะเข้าไปก่อน 5 นาที แล้วกลุ่มต่อไปจึงตามเข้าไป  มีน้องคนไหนไม่เข้าใจบ้างไหมครับ รุ่นพี่หยุดพูดเพื่อดูปฏิกิริยาของน้องๆ และเมื่อมั่นใจแล้วว่าน้องๆทุกคนเข้าใจที่เขาพูด เขาจึงเริ่มเลือกน้องเข้าไปทีละกลุ่ม โดยกลุ่มของเซออนเป็นกลุ่มสุดท้ายที่เข้าไป
    เซออน............นายว่าบรรยากาศมันแปลกๆไหมอะคาเรนพูดอย่างกล้าๆกลัวๆขณะที่เดินเกาะแขนเซออนมาตลอดตั้งแต่เริ่มดินเข้ามาในเขาวงกตที่มีต้นไม้สูงเสียดฟ้าจนทำให้มองเห็นอะไรไม่ชัดนัก
    คาเรน! ถ้านายกลัวมาเกาะแขนฉันแทนเซออนก็ได้นะไฟร์เออร์พูดขึ้นมาในความมืด
    ไม่มีทางหรอก! ฉันยอมโดยขังอยู่ในนี้คนเดียวเป็นปียังดีกว่าเกาะแขนนาย  3 วินาทีเลย
    ให้มันจริงเถอะครับ.......
    เมื่อไหร่พวกนายจะเลิกเถียงกันสักที ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวใสราวกลับว่าจะโปร่งแสง จนสามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ว่าจะอยู่ในที่มีแสงน้อย ดวงตาสีเทาอ่อน และเส้นผมสีบรอนซ์ที่ยิ่งทำให้เขาดูเหมือนโปร่งแสงมากขึ้น พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยและดูเลื่อนลอยขณะที่ถือดอกโมนาน (ดอกไม้ชนิดหนึ่ง ที่สามารถให้แสงสว่างได้ในเวลากลางคืนหรือในที่มืดๆ ตัวดอกมีลักษณะคล้ายๆกับโคมไฟ ตอนกลางวันจะเห็นดอกโมนานมีสีขาวเรียงกันลงมาตามก้านดอก แต่ตอนกลางคืนจะเห็นเป็นเพียงแสงไฟกลมๆเท่านั้น) มาให้ทุกคน คนละช่อเพื่อให้เกิดแสงสว่าง และง่ายต่อการหาทางออกจากเขาวงกต
     
    ดอกโมนาน
    โทษทีนะ .... ดราฟ ไฟร์เออร์พูดด้วยน้ำเสียงที่สำนึกผิด
    ไม่เป็นไรดราฟกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยเช่นเดิม
    แล้วเราจะเอาไงดีอะเซออน จะเดินไปเรือยๆโดยที่ไม่รู้จุดหมายอย่างนี้ หรอคาเรนถามเซออนเมื่อพวกเขาเดินลึกเข้ามาในเขาวงกตมากขึ้นเรื่อยๆ
    แล้วนายคิดว่าไงทาม.....   เซออนหันไปพูดกับชายหนุ่มที่ตัวสูงที่สุดในกลุ่ม ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเขา
    ทำไมถึงต้องถามทามด้วยละเซออนคาเรนยังคงถามต่อไป
    ก็เพราะทามน่ะมันเป็นคนชนเผ่าแวมไงไฟร์เออร์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เริ่มงุดงิดเล็กน้อยกับการเจ้าปัญหาของคาเรน
    แล้วนายรู้ได้ไงไฟร์
    ก็ดูจากสีผมกับสีตาไงละ
    จริงด้วยเนอะ ก็ตาและผมของทามเป็นสีดำนิหนา แต่แล้ว................คาเรนยังไม่ทันจะได้พูดจบไฟร์เออร์ก็ชิงพูดขัดขึ้นมาก่อน
    นายจะเลิกถามได้รึยังคาเรน ทามจะได้บอกว่าพวกเราจะต้องทำอะไรต่อไปเสียที
    ชิ
    ฉันคิดว่า.....ตอนนี้เราน่าจะเดินตรงไปเรื่อยๆอย่างนี้ก่อนเพราะว่าเราไม่รู้ว่าทางที่เราเดินอยู่นี้จะไปสิ้นสุดตรงไหนกันแน่ทามพูดขณะที่มองตรงไปยังทางข้างหน้าที่ทอดยาวออกไปไม่มีที่สิ้นสุด
    อืม..งั้นตกลงตามนี้ละกันเซออนพูดขึ้นก่อนเริ่มต้นเดินอีกครั้ง
            เมื่อพวกเซออนเดินต่อไปได้ซักพักหนึ่งพวกเขาก็พบทางแยก 2ทาง
    แล้วทีนี้จะเอาไงดี....ซ้าย....หรือขวาคาเรนถามขณะที่มองไปยังทางทั้งสองอย่างชังใจ
    พวกนายได้ยินเสียงอะไรไหมไฟร์เออร์พูดขณะพยายามฟังเสียงอะไรบางอย่างที่กำลังตรงมาทางที่พวกเขาอยู่
    อืม.......เสียงมันเหมือน........อะไรสักอย่างที่ตัวใหญ่ๆยาวๆและกำลังเลื้อยตรงมาทางพวกเราอย่างช้าๆ ทามพูดขณะที่ก้มลงแนบหูกับพื้นดินเพื่อฟังเสียงของอะไรบางอย่างที่กำลังตรงมา
    ใหญ่ๆยาวๆเหรอ.....มันก็น่าจะเป็น.......ดราฟยังไม่ทันได้พูดจบทามก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า
    ทุกคนระวังตัว! มันใกล้เข้ามาแล้ว!” 
               เมื่อสิ้นเสียงของทามทุกคนก็ตั้งท่าพร้อมที่จะป้องกันตัว แล้วจ้องมองไปยังสุดแสงสว่างที่ดอกโมนานสร้างขึ้นเพื่อดูว่าอะไรจะออกมากันแน่
    เฮ้อ! ไม่จริงอะ! นั้นมันกระต่ายนี้หวา.... ไฟร์เออร์พูดเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ออกมาเป็นเพียงกระต่ายขนปุยสีขาวตัวเล็กๆตัวหนึ่งเท่านั้น   ซึ่งดูยังไงก็ไม่น่าจะเป็นอันตรายกับใครได้เลยสักนิดเดียว
    มานี้มา...เจ้ากระต่ายน้อย..มาหาฉันดีกว่านะ อยู่ตรงนั้นมันอันตรายนะ ไฟร์เออร์พูดพร้อมกับย่อตัวลงและผายมือออกเพื่อให้เจ้ากระต่ายคิดว่าเขาเป็นมิตรและไม่เป็นอันตรายใดๆ จนเจ้ากระต่ายไว้ใจและค่อยๆกระโดดเข้ามาใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ
    ใช่ ..... อย่างนั้นละ.... ไฟร์เออร์พูดเมื่อเจ้ากระต่ายกระโดดมาใกล้เขามากขึ้น ใกล้จนแค่กระโดดอีกครั้งเดียวก็จะถึงตัวเขาแล้ว และเมื่อเจ้ากระต่ายกระโดดอีกครั้งมันหน้าของเจ้ากระต่ายก็กลายเป็นหัวของงูซึ่งมีขนาดใหญ่มาก และกำลังอ้าปากกว้างเพื่อจะงับหัวของไฟร์เออร์ แต่ยังไม่ทันที่มันจะกลายร่างเต็มที่ตัวของมันก็ลุกกลายเป็นไฟเสียก่อน ทำให้เกิดเสียงดังโหยโหนไปทั่ว ก่อนที่มันจะกลายเป็นแค่เศษเท่าถ่านเท่านั้น
    เฮอ......นึกว่าจะไม่รอดซะแล้วสิเราไฟร์เออร์พูดก่อนล้มลงนั่งกับพื้นอย่างเหนื่อยอ่อน
    นั้นสินึกว่าจะตายซะแล้วทามพูดพร้อมกับส่ายหัวไปมา
    ฉันว่า...เราน่าจะไปทางซ้ายนะ เพราะเจ้าปีศาจนั้นมันเคลียร์ทางให้พวกเราไว้แล้ว ดราฟหันมาพูดกับเพื่อนๆเมื่อเขาเดินไปดูทางที่เจ้าปีศาจตัวนั้นพึงออกมา
    งั้น! พวกเราเรียบไปกันเถอะเวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว..เซออนพูดหลังจากเก็บนาฬิกาทรายที่ตอนนี้ทรายร่วงลงมาได้เกือบครึ่งหนึ่งแล้วลงไปในกระเป๋าเสื้อ
    ....................................................
    พวกเราดูนั้นสิ! ฉันว่าฉันเห็นแสงสว่างนะคาเรนพูดอย่างตื้นเต้นหลังจากที่เดินมาได้ซักพักใหญ่ๆแล้ว
    นั้นซิ! แสงสว่างจริงๆด้วย ไฟร์เออร์พูดเมื่อมองตรงไปทางที่คาเรนพูดถึง
    นั้นมัน.....ต้นไม้แห่งปัญญานี่นาดราฟพูดเมื่อพวกเขาเดินเข้าใกล้แสงสว่างมากขึ้น แล้วจึงเห็นว่าตรงปลายทางออกนั้นมีต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่งขึ้นอยู่กลางทางออก
    อืม...ใช่จริงด้วยเซออนพูดขึ้นเมื่อเขาเดินมาถึงที่เพื่อนๆของเขายืนอยู่ก่อนแล้ว
    “         พฤกษาเอยพฤกษาฉลาดล้ำ                 ซึ่งมีคำกล่าวขานธารปํญญา
           ข้าต้องการข้ามผ่านทางนั้นนา                    ท่านโปรดเอ่ยวาจากับข้านี้ 
                  ว่าท่านมีปริศนาอันใด                          ข้านั้นใคร่อยากรู้เต็มที
           ตัวข้านี้เพลาหามากมี                                  เหลือไม่กี่เม็ดทรายแล้วท่านนา      เซออนกล่าวอย่างนอบน้อมกับต้นไม้เห็นปัญญา   และในไม่ช้าก็มีใบไม้ร่วงลงมาตรงหน้าเซออนเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อนำมาเรียงต่อกันแล้วจะได้ความว่า
                    น้ำเอ๋ยน้ำใดยามรินหลั่งไหล                หลั่งรินไม่ขาดดังสายธารา
             สวยสดงดงามเสมือนน้ำฟ้า                            หยาดรินจากนภาที่แสนกว้างไกล
                       บริสุทธิ์นักยากหาใดเปรียบ                   จะมาเทียบเคียงเทียบเท่ามิได้
            เป็นทั้งยาทิพย์รักษาฤทัย                                   ช่วยเยียวยาดวงใจให้หายทุกข์ทน
     
    แล้วมันน้ำอะไรละนี่คาเรนพูดอย่างหัวเสีย
    ฉันว่า....ฉันรู้คำตอบแล้วละเซออนพูดกับเพื่อนๆด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
    ถ้านายแน่ใจแล้วก็ตอบเถอะ.... แต่อย่าลืมนะว่าเราตอบได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นดราฟพูด
    อืม.....ฉันเข้าใจ
                    ท่านผู้เลิศล้ำไปด้วยปัญญา                           ข้าตอบปริศนาแห่งท่านนา
                  ว่าสิ่งที่ท่านได้เอ่ยถามมา                                 นี้นั้นหนาคำตอบคือ...น้ำตา.... ”      
             เมื่อเซออนพูดจบต้นไม้นั้นก็หายไป แล้วแทนที่ด้วยประตูหอคอยเวทรัตติกาล
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×