พื้นที่สี่เหลี่ยม
ก็แค่พื้นที่ที่ฉันจะอยู่ได้...ไม่นึกเลยว่า"ใคร"จะมาทำให้ฉันออกไปได้...
ผู้เข้าชมรวม
138
ผู้เข้าชมเดือนนี้
9
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
ในเมืองที่มีผู้คนมากมายอาศัยอยู่ ชีวิตต่างคนต่างวุ่นวายกันจนเป็นกิจวัตร ไม่มีใครสนใจกันและกัน มีบ้านหลังหนึ่งที่ปิดเงียบสนิทราวกับไม่มีคนอยู่ หากแต่หน้าบ้านสะอาดสะอ้าน ไร้ซึ่งใบปลิวเก่าๆที่ควรจะมีติดอยู่เต็มประตูในทุกๆบ้านร้าง และในบางครั้งบางคราวก็จะมีไปรษณีย์มาส่งของ นั่นเป็นสัญญาณเดียวที่ทำให้เพื่อนบ้านรู้ว่าบ้านหลังนี้มีคนอยู่และไม่ใช่ “บ้านร้าง”
‘ฉันมีเงินมากมายเป็นพันๆล้าน...
ฉันมีคอมพิวเตอร์มากกว่า 3 เครื่อง มากกว่า 2 ยี่ห้อ…
ฉันมีโทรทัศน์มากกว่า 2 เครื่อง...
ฉันคิดว่าฉันมีทุกสิ่งที่ฉันต้องการแล้ว...
ถึงแม้ฉันจะอยู่คนเดียวมันก็ไม่หนักหนาอะไร...หากให้เทียบกับการได้ออกไปเจอกับเหล่าผู้คนที่หันหน้ายิ้มให้กันแต่ในใจถือมีดให้กันแล้ว...ฉันขออยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะตายเลยดีกว่า...’
ความคิดแบบนั้นของฉันเกิดขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว...หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าจดจำขึ้น จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังคงคิดแบบนั้นและใช้ชีวิตปิดเงียบออกจากโลกภายนอกที่เคยสัมผัส เปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นคนที่ทำแค่เพียงเฝ้ามองโลกนี้เท่านั้น ผ่านจอสี่เหลี่ยมๆของคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์ และนั่งๆนอนๆกินเงินเก่าที่ได้มาจากงานที่เคยทำ แต่ตอนนี้ออกมาจากงานแล้ว เพราะมันไม่จำเป็นต่อฉันอีกต่อไป เงินที่ฉันมี มันมากพอที่จะให้ฉันอยู่ต่อไปโดยไม่ต้องทำอะไรเลย และแน่นอนว่า หากฉันอยากได้อะไรก็เพียงแค่โทรศัพท์สักกริ๊ง หรือจะพิมพ์สั่งในคอมพิวเตอร์ก็ได้มาครองแล้ว เรื่องโอนเงินหรือเรื่องอื่นๆที่ทำไม่ได้ก็มี “คนๆหนึ่ง” คอยทำให้ฉันมาตลอดอยู่แล้ว...และเป็นคนเดียวบนโลกนี้ ที่ฉันคิดว่า ฉันเชื่อใจเขาที่สุด...
“กิลล์...ไง...กินข้าวรึยัง สนใจมากินพร้อมฉันรึเปล่า?” ฉันกดโทรหาเขาอีกครั้งในรอบวัน
[ครับท่านประธาน อีกครึ่งชั่วโมงผมจะซื้อของโปรดท่านไปให้ทานครับ] เสียงปลายสายตอบกลับมาอย่างสุภาพเช่นเคย ฉันได้แต่ยิ้มบางๆอย่างอิดโรย ก่อนจะตอบกลับไปอย่างทีเล่นทีจริง
“ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าฉันไม่ใช่ท่านประธานของกิลล์อีกต่อไปแล้ว เคยจำบ้างมั้ยเนี่ย อยากโดนตัดเงินเดือนหรอ!”
[ถึงแม้คุณจะพูดแบบนั้นก็ยังอยากจะตัดเงินเดือนผมเสมอนะครับ] เสียงหัวเราะเบาๆลอดเข้ามาในโทรศัพท์อย่างสบายๆ หวังจะผ่อนคลายความเครียดของฉันลงบ้าง
“แล้วจะรอกิลล์ อย่าปล่อยให้ฉันหิวตายก่อนล่ะ” ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ดูจะสบายใจขึ้น หวังว่าเขาจะเลิกทำตัวเป็นคุณพ่อขายาวและคอยเป็นห่วงฉันนะ
[ครับ ระหว่างนั้นลองเปิดตู้เย็นดูนะครับ หาอะไรรองท้องไปก่อน ขอให้คุณเลิกคิดเรื่องนั้นไวๆครับ...แอน]
ฉันนั่งฟังเสียงโทรศัพท์ถูกตัดสายอยู่อย่างนั้นนาน 15 นาที เพราะอยากจะซึมซับความอบอุ่นจากคำพูดของคนที่วางสายไปให้หมด และลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นหาของว่างกินเพื่อระงับท้องที่ร้องดังระงม แต่แล้วก็ต้องสะดุดยิ้มกับของที่อยู่ภายใน
‘สุขสันต์วันเกิดครับท่านประธาน ขอให้คุณมีความสุขไวๆ’
เค้กก้อนเล็กๆสีขาวที่ฉันไม่ได้สั่งซื้อถูกวางไว้ในตู้เย็นพร้อมกับโพสอิทเล็กๆที่ติดไว้อยู่ขอบจาน ทำให้ฉันนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของฉัน และกิลล์ก็ซื้อเค้กมาฉลองวันเกิดให้ เขาใจดีกับฉันอีกแล้ว...
“ฉันบอกแล้วไงกิลล์...อย่าเรียกฉันว่าท่านประธานอีก...ฉัน...ฉัน...ไม่ใช่ประธานของเธออีกแล้ว...ฮึก..ฮึก...ฉันคือแอนผู้ไม่เหลืออะไรในใจอีกแล้ว...ฮือ...”
ฉันพูดเบาๆกับตัวเองแต่ก็อดกลั้นน้ำตาที่ไม่ได้ไหลมาแล้วสองปีไม่ได้ ความอบอุ่นในจิตใจที่
กิลล์มอบให้มันมากมายฉันดีใจจนน้ำตาไหล มันจะไม่ใช่ครั้งแรก เขาให้เสมอมา ทุกปี ไม่เคยลืม...และไม่เคยทิ้งให้ฉันเหงา...
“ก๊อก ก๊อก”
เสียงประตูหน้าบ้านถูกเคาะเบาๆ อาจเป็นเพราะบ้านฉันไม่มีออดติดไว้ เลยทำให้ต้องเคาะเพียงอย่างเดียว ฉันปาดน้ำตาออกเพื่อกลบเกลื่อนก่อนจะเดินออกไปที่ประตูและเปิดออกเบาๆ
“ยินดีต้อนรับเช่นเคย...กิลล์”
ผลงานอื่นๆ ของ punkungstrom ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ punkungstrom
ความคิดเห็น