ตอนที่ 27 : บทที่ 9 : ไปรับลูกที่โรงเรียน (75%)
ระหว่างทางเขาก็สอบถามถึงครอบครัวของเธอ หญิงสาวตอบไปตามจริงว่าเธอโตมากับบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า มีผู้ใหญ่ใจดีอุปการะเธอเป็นการส่วนตัวจนกระทั่งจบมัธยมปีที่หก จากนั้นหญิงสาวก็ทำงานส่งตัวเองเรียนต่อ ประกอบกับได้ทุนการศึกษาเรียนดี จึงพอจะส่งเสียตัวเองจนเรียนจบได้สำเร็จ
ติณภัทรนึกทึ่งไม่น้อยกับข้อมูลส่วนตัวของหญิงสาวที่เพิ่งได้รู้ การที่เธอโตมาโดยไม่มีครอบครัวที่อบอุ่น แต่กลับเลี้ยงลูกและสอนลูกได้เป็นอย่างดีทำให้ความคิดของเขาที่เคยปรามาสว่าเธอเป็นผู้หญิงเพี้ยนๆ นั้นเปลี่ยนไป
“ใกล้จะถึงแล้วค่ะ เดี๋ยวท่านประธานขับรถเลยหน้าโรงเรียนไปหน่อยนะคะ จะมีตลาดแต่เป็นเช้าค่ะเวลานี้ปิดแล้ว ขับเข้าไปจอดรถชั่วคราวได้ค่ะ”
เขาขับไปตามทางที่เธอบอก แล้วจอดลงใกล้กับร้านค้าในตลาด คราวนี้เขาให้เธอเป็นฝ่ายเดินนำหน้าไปบ้างเพราะว่ามีทางลัดจากตลาดเดินไปยังหน้าโรงเรียนได้เลยโดยไม่ต้องเดินย้อนกลับทางเดิมซึ่งไกลกว่า
แพรริศาประดักประเดิดอย่างไรไม่รู้เมื่อต้องเดินเข้าไปในโรงเรียนพร้อมกับติณภัทร ใครๆ ก็คงคิดว่าพวกเขาเป็นพ่อและแม่ที่มารับลูกด้วยกันแน่ๆ
หญิงสาวเดินนำเขาไปยังห้องเรียนอนุบาลหนึ่ง มาถึงหน้าประตูก็ชะเง้อมองหาลูกชาย เห็นแกกำลังเล่นอยู่กับเพื่อนๆ อีกสองคนด้วยท่าทางสนุกสนาน เธอร้องเรียกเด็กชาย
“พอร์ชครับ!”
น้องพอร์ชหันมาหาเธอทันที และเมื่อเห็นว่ามีใครมาด้วย เด็กชายก็ยิ้มกว้างและรีบลุกขึ้นด้วยความดีใจ
“หม่ามี้! ลุงภัทร!”
ร่างเล็กวิ่งมาหาคนทั้งคู่ หญิงสาวย่อตัวลงอ้าแขนกว้างรับเด็กชายที่วิ่งเข้ามา เมื่อจับตัวแกได้แล้วเธอก็หอมแก้มกลมๆ น่าฟัดนั่น
“เป็นไงบ้างลูก วันนี้สนุกมั้ย”
“สนุกค้าบ”
แล้วมือเล็กก็ยื่นไปหาชายหนุ่ม เอ่ยด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว “ลุงภัทรมาหาพอร์ชจริงๆ ด้วย”
“ลุงสัญญาแล้วว่าจะมาก็ต้องมาสิ” เขาโยกศีรษะเล็กด้วยความเอ็นดู
คุณครูสาวที่นั่งอยู่กับเด็กๆ ประมาณสี่ห้าคนที่กำลังรอผู้ปกครองมารับ เมื่อเห็นทั้งคู่ก็เดินเข้ามาหา
“สวัสดีค่ะคุณแพร วันนี้พาคุณพ่อของน้องพอร์ชมาด้วยเหรอคะ”
แพรริศาหันขวับไปหน้าคนข้างๆ ที่ถูกทักว่าเป็นพ่อของเด็กทันที เขาเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเช่นกัน
“มะ...ไม่ใช่ค่ะคุณครู นี่เจ้านายของแพรเองค่ะ พอดีว่าเขาออกมาทำธุระข้างนอกก็เลยแวะมาส่งแพรรับลูกน่ะค่ะ”
เธอโกหกซึ่งๆ หน้าแบบที่ค้านสายตาของคุณครูสาวอย่างจัง
“อ้าว! เหรอคะ ครูคิดว่าเป็นคุณพ่อของน้องพอร์ชเสียอีก เห็นว่าหน้าตาคล้ายกันมาก ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทักผิด”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”
คนถูกทักผิดพยักหน้าพร้อมกับยิ้มบางๆ ให้อีกฝ่ายสบายใจ ทว่าการถูกทักผิดครั้งนี้ทำให้รู้สึกตงิดใจขึ้นมาแปลกๆ ไม่ว่าใครๆ ก็คิดเหมือนกันว่าเขากับน้องพอร์ชหน้าตาคล้ายกันเหลือเกิน แถมเขายังรู้สึกถูกชะตากับเด็กชายตั้งแต่แรกเห็น มันช่างเป็นความบังเอิญที่เหลือเชื่อจริงๆ เขาเกิดความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่ง ทำให้เขารู้สึกชาวาบขึ้นในใจ แต่เขาก็รีบเตือนสติตัวเองว่ามันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้หรอก หญิงสาวก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่ามันเป็นเช่นนั้น
แต่เดี๋ยวก่อน...
ครั้งแรกที่เธอเจอหน้าเขา เธอถึงกับเป็นลมล้มพับไปเลยไม่ใช่หรือ ไหนจะท่าทางแปลกๆ เหมือนกลัวอะไรบางอย่าง แต่ถ้าหากมันเป็นอย่างที่เขาคิด เธอจะเก็บความลับเอาไว้ทำไม หรือว่ามันอาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่าจริงๆ เขาคิดเป็นตุเป็นตะไปเอง
ติณภัทรคิดกลับไปกลับมาอยู่อย่างนั้น พลางมองดูสองแม่ลูกที่เดินจูงมือไปด้วยกัน ลอบสังเกตท่าทีของหญิงสาวว่าส่อแววพิรุธอะไรหรือไม่ แต่ก็ไม่พบ
“ท่านประธานคะ ฉันขอแวะซื้อลูกชิ้นให้น้องพอร์ชแป๊บนึงนะคะ”
เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเดินมาถึงหน้าโรงเรียนแล้ว ใกล้ๆ กันนั้นเต็มไปด้วยรถเข็นขายอาหาร หญิงสาวจูงมือเด็กน้อยเดินไปยังรถเข็นขายลูกชิ้นหมูเสียบไม้
“ลุงภัทรกินลูกชิ้นมั้ยค้าบ” เด็กชายจับมือของแล้วดึงลให้ตามไปด้วย
“ลุงไม่กินหรอกครับ พอร์ชกินเถอะ”
แพรริศาได้ยินเขาปฏิเสธ แต่กระนั้นก็ยังอุตส่าห์หยิบมาอีกสี่ไม้เผื่อสำหรับเขาด้วย ครู่หนึ่งมือบางก็ถือถุงใส่ลูกชิ้นสองถุงซึ่งแยกราดน้ำจิ้มหวานและน้ำจิ้มเผ็ด เดินกลับไปยังรถยนต์ของชายหนุ่ม
“ท่านประธานคะ ฉันซื้อมาเผื่อค่ะ”
เธอยื่นถุงลูกชิ้นไปตรงหน้าเขา เขามองถุง คิ้วเข้มเหนือดวงตาคมขมวดนิดๆ แล้วเคลื่อนสายตามองเธอ
“ผมบอกไปแล้วไงว่าผมไม่ได้อยากกิน”
“แต่เจ้านี้อร่อยนะคะ ลองชิมดูสักไม้รับรองจะติดใจ”
เธอคะยั้นคะยอให้เขารับถุงไป ส่วนน้องพอร์ชเพิ่งกัดลูกชิ้นคำแรกและเคี้ยวตุ้ยๆ
“อะหย่อยค้าบ”
พอเห็นเด็กชายกินด้วยความเอร็ดอร่อย เขาก็ยอมรับถุงจากมือของเธอด้วยท่าทีราวกับโดนบังคับก็ไม่ปาน
“ไปนั่งกินตรงนั้นเถอะค่ะ”
เธอจูงมือเล็กไปนั่งตรงเก้าอี้ไม้ตัวยาวหน้าแผงขายของที่ตอนนี้ว่างเปล่า
✿◕ ‿ ◕✿
ดูเหมือนว่าท่านประธานจะเริ่มสงสัยแล้วนะคะ มาลุ้นให้ลุงเขารู้ความจริงเร็วๆ เถอะค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ลุ้นหนักมากกก รีบมาต่อนะค่ะไรท์ สู้ๆค่ะ
มาเร็วๆๆๆๆๆๆนะคะ
ตบหน้าผาก พ่อ เจ้าพอร์ช สักป้าบบบ เถอะ
อีบุ๊คหรือยังคะ