ตอนที่ 20 : บทที่ 7 : พ่อกับลูก (65%)
“พอร์ช”
แพรริศารีบตามมาคว้ามือลูกพร้อมกับส่ายหน้าให้เด็กชาย
“ไม่เอาลูก ออกไปกับหม่ามี้ได้แล้วจ้ะ หม่ามี้จะทำงานแล้ว” พูดพลางทำทีส่งสายตาดุๆ ให้เด็กชาย
“อยากอยู่ห้องนี้เหรอ” ติณภัทรถามคนตัวเล็ก ขณะที่หญิงสาวส่ายศีรษะห้ามปรามเด็กชาย
“ค้าบ แต่หม่ามี้บอกว่าไม่ได้” เด็กน้อยพูดจบก้มหน้าลงอย่างผิดหวัง
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”
ทั้งน้องพอร์ชและแพรริศาเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจ แพรริศาทำสีหน้าไม่อยากเชื่อ ขณะที่เด็กน้อยกระโดดเหยงๆ ชูมือด้วยความดีใจ
“ลุงภัทรใจดีจังเล้ย!”
ว่าแล้วเด็กชายก็เข้าไปกอดขาของชายหนุ่ม เล่นเอาแพรริศาตกใจ แทบจะไปดึงลูกกลับมา แต่ชายหนุ่มกลับโน้มตัวมาโอบไหล่แกเบาๆ ด้วยเสียนี่
“ลุงใจดีกว่าแม่ของพอร์ชหรือเปล่า”
เด็กชายหันไปมองมารดา แล้วหันกลับมาหาชายหนุ่ม
“ลุงภัทรกับหม่ามี้ใจดีเท่ากันเลยค้าบ”
ความช่างฉลาดตอบของเด็กชายไม่ได้ทำให้แพรริศาดีใจเลยสักนิด สิ่งที่เธอไม่ต้องการให้เกิดขึ้นมากที่สุดในตอนนี้ก็คือปล่อยให้สองพ่อลูกอยู่ด้วยกัน เกรงว่าจะเกิดความผูกพันกันขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“แต่หม่ามี้ว่าลูกไปอยู่กับหม่ามี้ดีกว่านะจ๊ะ”
“อะไรกันคุณ ในเมื่อลูกอยากอยู่ที่นี่ ก็ปล่อยให้เขาอยู่ไปเถอะ ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
แพรริศารู้สึกตงิดกับคำพูดแปลกๆ ของชายหนุ่ม ราวกับรู้ว่าเด็กชายเป็นลูกของตนเองอย่างไรอย่างนั้น แต่ตราบใดที่เขายังจำเธอไม่ได้ เขาก็ไม่มีทางรู้หรอก
“นะค้าบๆ หม่ามี้ให้พอร์ชอยู่กับลุงภัทรน้า”
เด็กชายจับมือมารดาเขย่าเบาๆ ส่งสายตากะพริบปริบๆ ออดอ้อนเหมือนเช่นเคย
ในเมื่อเป็นความต้องการของลูกชายสุดที่รัก และเจ้านายของเธอก็เอ่ยปากอนุญาตแล้ว หญิงสาวก็ไม่มีเหตุผลจะห้าม
“ก็ได้จ้ะ แต่อย่าอยู่นานนะลูก แป๊บเดียวก็ออกมาได้แล้วนะ ดิฉันเกรงใจท่านประธานน่ะค่ะ” ประโยคหลังเธอพูดกับชายหนุ่ม
“ไม่ต้องเกรงใจผมหรอก คุณออกไปทำงานได้แล้ว”
เอาลูกของเธอไว้ แล้วก็ไล่กันเสียอย่างนั้น นี่ขนาดยังไม่รู้ว่าน้องพอร์ชเป็นลูกของตัวเอง เขายังอยากให้เด็กชายมาอยู่ใกล้ๆ กัน แล้วถ้าหากวันใดที่รู้ความจริงขึ้นมา เขาคงต้องอยากได้ลูกไว้เองแน่นอน เพราะเหตุนี้หญิงสาวจึงคิดว่าเธอจะไม่มีทางให้เขารู้ความลับของเธอเด็ดขาด
หญิงสาวจำต้องปล่อยให้เด็กชายอยู่กับเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่อย่างน้อยนั่นก็มีข้อดีตรงที่เธอจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องมีคนตัวเล็กมาคอยกวน
ทำงานได้สักพักโทรศัพท์บนโต๊ะของเธอก็ร้องดัง มือบางเอื้อมออกไปรับสาย แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยถามว่าใคร น้ำเสียงคุ้นหูที่ฟังดูเหมือนคนชอบบงการคนอื่นอยู่เป็นประจำก็เอ่ยขัดเสียก่อน
“คุณเอากระติกน้ำของน้องพอร์ชเข้ามาในห้องผมหน่อย”
พูดจบก็วางสาย โดยที่ริมฝีปากของหญิงสาวได้แต่อ้าค้างอยู่อย่างนั้น ยังไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ ตกลงว่าน้องพอร์ชเป็นลูกของเธอหรือเป็นลูกเขากันแน่
เธอหยิบกระติกน้ำสีเหลืองที่ตั้งใจให้ลูกชายติดตัวไปโรงเรียนด้วย เข้าไปในห้องทำงานของชายหนุ่ม ทันทีที่เปิดประตูก็ได้ยินเสียงเล็กๆ ของเด็กชายกำลังคุยจ้ออยู่กับเจ้านายเธอ
“พอร์ชอยากให้ลุงภัทรไปดูโรงเรียนของพอร์ชจังเลย”
ตอนนี้ลูกชายตัวดีของเธอยืนเกาะขอบโต๊ะทำงานอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ แพรริศารีบเดินไปหาลูกชาย
“อย่าไปกวนท่านประธานสิจ๊ะลูก”
ถึงแม้ว่าเขาจะเอ็นดูเด็กชาย แต่ถ้าหากแกไปกวนอารมณ์ของเขามากเกินไป เขาอาจจะรำคาญเอาก็ได้
“ลูกไปนั่งที่โซฟาตรงนั้นดีมั้ย แล้วก็ดื่มน้ำเยอะๆ ด้วย นี่จ้ะ” เธอยื่นกระบอกน้ำใส่มือเล็ก
“พอร์ชกำลังชวนลุงภัทรไปที่โรงเรียนด้วยค้าบ”
เธอเหล่มองคนที่ถูกชวน สีหน้าของเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่ารำคาญเด็กชายแต่อย่างใด มีรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากเสียด้วยซ้ำ
“ท่านประธานจะไปที่โรงเรียนของพอร์ชทำไมล่ะครับ ท่านไม่ได้เป็นอะไรกับเราสักหน่อยนี่”
“ทำไมล่ะค้าบ เพื่อนๆ ยังพาหม่ามี้กับปะป๊าไปด้วยเลย แต่ว่าพอร์ชไม่มีปะป๊า พอร์ชก็เลยชวนลุงภัทรไปแทนไงค้าบ” เด็กน้อยพูดไปตามประสาวัยที่ยังไร้เดียงสา
แพรริศาส่ายหน้ารัว ถึงแม้ว่าติณภัทรจะเป็นปะป๊าตัวจริงเสียงจริงของลูกชาย แต่เธอไม่ยอม
“ไม่เอาครับ ไหนพอร์ชสัญญากับหม่ามี้แล้วไงครับว่าจะไม่ดื้อ ถ้ายังดื้ออยู่ หม่ามี้จะพาไปส่งคุณครูที่โรงเรียน แล้วค่อยไปรับตอนเย็น”
เธอแค่แกล้งขู่ลูกชายเพื่อหวังให้แกหยุดตื๊อชายหนุ่มเสียที ทว่าใบหน้าของเด็กน้อยที่ถูกดุเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ก่อนริมฝีปากเล็กจะเบะคว่ำและสั่นระริก วินาทีต่อมาก็ปล่อยโฮ
“ฮือๆ...พอร์ชแค่อยากมีปะป๊าเหมือนเพื่อนๆ บ้าง”
พอเห็นลูกชายร้องไห้ หัวใจของหญิงสาวก็ตกวูบ รู้ทันทีว่าเมื่อกี้ตนเองคงจะพูดขู่ลูกแรงเกินไป มือบางเอื้อมไปหาร่างเล็กจะดึงแกเข้ามากอดปลอบ แต่ก็ช้ากว่าคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เขาอุ้มเด็กน้อยที่ร้องไห้โฮขึ้นไปนั่งซบบนตัก
“ไม่เอาไม่ร้องนะ เดี๋ยวลุงไปดูโรงเรียนของพอร์ชก็ได้”
“มะ...ไม่ได้นะคะ”
✿◕ ‿ ◕✿
น่าสงสารน้องพอร์ชจังเลยเนอะ แต่อีกไม่นานน้องพอร์ชก็คงจะได้รู้แล้วล่ะว่าปะป๊าที่แกอยากเจอมานานเป็นใคร แต่จะได้รู้ความจริงกันเมื่อไหร่นั้น... ไม่บอกกกก อิอิ ต้องมาลุ้นไปพร้อมๆ กันนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สงสารน้อง
ชอบมากๆๆๆ มาเร็วๆๆนะคะ
ที่เห็นอยู่คือการละคร
รอลุ้นค่ะ
อยากให้รู้แล้วววว