ตอนที่ 18 : บทที่ 6 : จุดเริ่มต้นของน้องพอร์ช (ุ100%)
เช้าวันต่อมา แพรริศาตื่นขึ้นพร้อมกับความประหลาดใจเมื่อพบว่าตนเองอยู่ในสถานที่ที่จำไม่ได้ว่าเป็นที่ไหน และตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าร่างกายของตนเองนั้นไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลยสักชิ้นเดียว เต็มไปด้วยร่องรอยสีแดงเป็นจ้ำๆ ตามร่างกายโดยเฉพาะหน้าอก ซ้ำร้าย...ข้างกายเธอยังมีชายหนุ่มนอนเปลือยกาย มีผ้าห่มปิดบังไว้แค่ส่วนสงวนถึงปลายเท้าเท่านั้น
กรี๊ดดด!!!
หญิงสาวอยากจะกรีดร้อง แต่ก็ทำได้แค่ร้องกรี๊ดอยู่ในใจ ตายๆๆ นี่เธอทำอะไรลงไปเนี่ย!
เธอรีดเค้นความทรงจำเมื่อคืนกลับมา จำได้เพียงว่าเจอชายหนุ่มที่ร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่ง แล้วเขาก็ชวนเธอดื่ม หลังจากนั้นไม่นานเธอก็พบว่าตนเองแทบจำอะไรไม่ได้อีกเลย มีเพียงแค่ภาพบางส่วนที่แวบขึ้นมาในสมอง อย่างเช่นตอนที่เธออาเจียนในห้องน้ำ ถอดเสื้อของตัวเอง และวินาทีที่กรีดร้องด้วยความสุขสม
กายบางขนลุกซู่ไปทั่วร่าง เธอถึงกับดึงทึ้งผมของตัวเองเบาๆ ด้วยความเจ็บใจ เธอไม่เคยปล่อยตัวเองให้เมามายจนขาดสติเช่นนั้นเลย และบทเรียนจากความเมาครั้งแรกในชีวิตก็พาเธอให้มาจบลงอยู่บนเตียงกับคนแปลกหน้าเช่นนี้ คิดแล้วอยากจะกลั้นใจตายเสียเหลือเกิน
แต่เธอยังตายไม่ได้ ตอนนี้เธอต้องรีบออกไปจากที่นี่ โชคดีที่ชายหนุ่มยังคงหลับสนิท เธอรีบคว้ากางเกงที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาสวม ก่อนจะมองหาเสื้อตัวโปรด แล้วพบมันกองอยู่ในห้องน้ำในสภาพที่เปรอะด้วยคราบสีขุ่นและเหม็นหึ่งจนสวมใส่ไม่ได้ เธอจึงต้องทิ้งมันไว้และหยิบเอาเสื้อยืดของชายหนุ่มที่ดูเหมือนเขาจะเตรียมเอาไว้ให้เธอเมื่อคืนมาสวมใส่แทน
แล้วกระเป๋าสัมภาระของเธอล่ะ!
แพรริศาหันรีหันขวาง ก่อนระบายลมหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นกระเป๋าเดินทางขนาดยี่สิบนิ้วที่ตนเองลากติดมือมาตลอดตั้งแต่ออกจากโรงแรมแห่งนั้นวางอยู่ใกล้ๆ กับประตูห้องนั่นเอง
เธอหันไปมองชายหนุ่มแปลกหน้าที่เธอยังไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม ผู้เป็นสามีเพียงแค่คืนเดียวของตนเองเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเห็นว่าเขาหล่อเหลาดูดีมากแค่ไหนก็นึกประหลาดใจที่เขาดันหน้ามืดตามัว มามีอะไรกับผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างเธอได้ แต่คิดอีกที เมื่อคืนเธอกับเขาก็ต่างเมามากทั้งคู่ สติที่ขาดหายทำให้ความยั้งใจขาดสะบั้นไปด้วย
แล้วจู่ๆ ความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัว จึงหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมา ก่อนจะถ่ายรูปชายหนุ่มที่นอนหลับไม่ได้สติ เก็บเอาไว้ในโทรศัพท์ อย่างน้อยเธอก็อยากจะจำได้ว่าผู้ชายคนแรกของตัวเองนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร เธอคิดว่าตัวเองคงไม่มีวันลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้เลย
“ลาก่อนนะคุณ”
เธอเดินไปคว้าสัมภาระของตัวเอง ก่อนหายใจทิ้งเฮือกหนึ่งแล้วตัดสินใจออกไปจากห้องพักในโรงแรมหรูแห่งนี้ แล้วตรงไปยังสนามบินเพราะไม่มีสิ่งใดให้เธอทำที่นี่อีกแล้ว พรหมจรรย์ของเธอปลิวหายไปพร้อมกับงานที่ทำอยู่ ให้มันได้อย่างนี้สิชีวิต!
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นคือนั้นยังไม่ใช่เคราะห์กรรมทั้งหมดที่เธอต้องเผชิญ อาถรรพ์ในช่วงอายุย่างเบญจเพสของแพรริศา สำแดงความร้ายกาจอีกครั้งหลังจากที่ผ่านพ้นเรื่องนั้นไปประมาณหนึ่งเดือน
แพรริศาแปลกใจมากเมื่อประจำเดือนของเธอที่เคยมาสม่ำเสมอนั้นขาดหายไป หัวใจของเธอเต้นเป็นจังหวะตุ้มๆ ต่อมๆ ด้วยความกังวล เพราะหลังจากที่มีอะไรกับชายแปลกหน้า ด้วยความเร่งรีบกลับบ้านและว้าวุ่นใจเรื่องหางานใหม่ ทำให้เธอลืมป้องกันตัวเองด้วยยาคุมฉุกเฉินไปเลย
เธอรออยู่หลายวันเพราะไม่อยากจะเผชิญหน้ากับความจริงว่าตนเองอาจตั้งท้อง จนในที่สุดก็ทนไม่ไหว ตัดสินใจซื้ออุปกรณ์มาทดสอบเอง แล้วต้องตกใจจนแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าตัวเองตั้งครรภ์จริงๆ
เธอจำได้ว่าตอนนั้นตนเองนั่งซึมไปทั้งวัน เครียดกับปัญหาเรื่องงานใหม่ที่ยังหาไม่ได้ ไหนจะต้องรับมือกับการตั้งท้องที่ไม่พร้อม และไม่มีครอบครัวให้ปรึกษา เพราะเธอเติบโตมากับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อแม่ของตัวเองเป็นใคร
แต่กระนั้น การเอาเด็กออกก็ไม่อยู่ในความคิดของเธอเลย เธอสงสารชีวิตน้อยๆ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่กับความผิดพลาดของคนเป็นแม่ เธอคิดเพียงว่าจะหาทางเลี้ยงดูลูกได้อย่างไร จะหาเงินด้วยวิธีไหน แล้วเหมือนสวรรค์มาโปรด เธอนึกขึ้นได้ว่าตนเองมีของบางอย่างที่อาจจะเปลี่ยนมันให้เป็นเงินสำหรับประทังชีวิตทั้งสองแม่ลูกได้
แหวนเพชรเม็ดใหญ่วงนั้น...
หลังจากวันนั้นที่เธอกลับมาถึงบ้าน เธอก็พบว่าแหวนที่ชายหนุ่มให้ไว้ตอนอยู่ที่ร้านอาหาร ยังคงติดแน่นอยู่บนนิ้วนางข้างขวา เธอแช่มือในน้ำอุ่นและใช้สบู่ถูจนกระทั่งมันหลุดออกจนได้ เมื่อไม่รู้ว่าจะคืนเจ้าของได้อย่างไร เธอจึงเก็บเอาไว้เป็นอย่างดี และในที่สุดเธอก็มีเหตุผลที่จะต้องใช้ประโยชน์จากมันแล้ว ไม่ใช่เพื่อใคร หากเป็นเพื่อลูกน้อยที่เจ้าของแหวนวงนั้นไม่มีวันจะได้รู้ว่ามีอยู่นั่นเอง
หญิงสาวเอามันไปขาย และต้องตกใจอีกรอบเมื่อพบว่ามันมีราคาสูงกว่าที่เธอคาดไว้หลายเท่านัก ทีแรกเธอหวังเพียงแค่ขอให้แลกมันมากับเงินก้อนหนึ่งที่จะช่วยประทังชีวิตได้ชั่วคราวจนกว่าเธอจะคลอดหรือหางานใหม่ แต่ที่ไหนได้ เธอกลับได้เงินมาก้อนใหญ่ ชนิดที่ทำให้เธอสามารถเลี้ยงลูกอยู่บ้านจนกระทั่งน้องพอร์ชอายุสามขวบได้อย่างไม่ขัดสนเลยทีเดียว
และจวบจนกระทั่ง...เธอได้เจอกับเจ้าของแหวนอีกครั้งนั่นแหละ
✿◕ ‿ ◕✿
ตอนหน้ากลับมาติดตามเรื่องราวในปัจจุบันกันต่อนะคะ มาลุ้นกันเถอะว่าเมื่อไหร่ท่านประธานจะรู้ความจริงสักทีน้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เมาจนจำความไม่ได้เลยคุณพ่อ แต่ถ้าผู้ช่วยคุณพ่อมาเจอคุณแม่น่าจะจำได้นะ
รออย่างใจจดใจจ่อค่ะไรต์