ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic yoosu tvxq i love you my dear [รักวุ่นๆฉับบ Kim Junsu]

    ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่13

    • อัปเดตล่าสุด 15 ส.ค. 54


     สวัสดีเพื่อนๆที่น่ารักทุกคนคิดถึงจังเลยคร้าๆ
    สบายดีกันทุกคนนะค่ะวันนี้มาต่อแล้วนา555
    ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นนะค่ะดีใจที่ยังมีคน
    อ่านอยู่ค่ะ
    ไว้เจอกันตอนหน้าเนอะบายคร้า^-^


     


                                                                                        ตอนที่ 13


      “ยูชอน! พอแล้ว!” จุนซูพยามยามเบียงตัวหลบแต่ก็ทำไม่ได้เพราะยูชอนกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีกจนตัวของร่างบางขยับไปไหนไม่ได้เลย

     

         “ชอบนะ”เสียงกระซิบเบาๆที่ข้างหุทำให้จุนซูหยุดนิ่งเงยหน้าขึ้นมามอง ทำให้ร่างบางสบตาเข้ากับสายตาอันอ่อนโยนของยูชอน ร่างโปร่งยิ้มให้จุนซูและ ก้มลงกดจูบลงไปเบาๆที่กลีบปากบางเป็นจูบที่ไม่ได้เร้งเร้าหรือว่าร้อนแรงอะไรแต่เป็นจูบที่นุ่มนวลและอ่อนโยน ที่ทำให้หัวใจของคนทั้งสองดวงเต็มอิ่มไปด้วยความสุข…แต่ความสุขมักจะมาพร้อมกับความทุกข์เสมอ…

     

         ย้อนกับมาทางคู่ชางมินฮยอนจุง     “ปล่อย!สักที!” ฮยอนจุงพูดขึ้นอย่างเสียงดังพยามเกาะมือของชางมินให้หลุดออก แต่เหมื่อนความพยามจะไม่เป็นผลเลยสักนิด  ชางมินพาฮยอนจุงออกมาห่างจากกองถ่ายพอสมควร ชางมินหยุดเดินแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากแขนของฮยอนจุง แต่หันกับมาเผชิญหน้ากับร่างบาง จนฮยอนจุงตกใจที่จู่ก็หยุดเดินกะทันหัน

     

         “เห้ย!” ฮยอนจุงสถบอกมากเพราะว่าตัวเองเกือบจะกระแทกเข้ากับร่างโปร่ง ชางมินตะหวัดวงแขนกอดเข้าที่เอวของร่างบาง

     

         “นี้!..นายจะทำอะไร ปล่อย! ฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้โย่งบ้า ปล่อย!...” ฮยอนจุงฝืนตัวจนสุดกำลัง

     

         “ไม่ปล่อยมีอะไรมั้ย”ชางมินพูดขึ้นอย่างกวนๆ โดยที่ไม่สนว่าร่างบางจะโวยวายว่ายังไง

     

         “ไอ้!! โรคจิต…”

     

          !อุ๊บ!”

     

    อยู่ๆริมฝีปากที่กำลังโวยวายก็ถูกริมฝีหนาประกบเข้าอย่างเร็วจนร่างบางตั้งตัวไม่ทัน ฮยอนจุงตกใจดวงตาเบิกกว้างขึ้นทำอะไรไม่ถูกตัวแข็งทือทั้งตกใจทั้งงงกับการกระทำของชางมิน จนร่างโปร่งสังเกตเห็นมีหยาดน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย ชางมินหยุดการกระทำทุกอย่างค่อยๆถอนจูบออกมาอย่างช้าๆยกมือขึ้นมาเกลี่ยหยาดน้ำตาที่ข้างแก้มเบาๆ

     

         “ ร้องไห้ทำมั้ย.” ช่างมินพูดขึ้น ในขณะที่ฮยอนจุนยังคงยืนนิ่งเสตาไปที่อื่นโดยไม่ยอมมองหน้าชางมิน

     

         “นายทำแบบนี้ทำมั้ย?” ฮยอนจุงถามขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา  ชางมินหยุดเช็ดหยาดน้ำตาใช้มือจับคางมลให้หันกับมามองหน้าตัวเอง

     

       “ผมชอบคุณ ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้แต่ยิ่งนานวันผมก็รู้สึกคิดถึงคุณมากขึ้นทุกวัน”ชางมีนพูดขึ้นโดยที่สายตายังคงจับจ้องไปที่ร่างบาง ฮยอนจุงได้ยินที่ร่างโปร่งพูด ก็ขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

     

         “ เมื่อกี้..นายว่าอะไรนะ!” ฮยอนจุงถามขึ้นอย่างเสียงดัง   ชางมินยิ้มที่มุมปาก แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

     

         “เห้…ผมบอกว่าชอบคุณได้ยินหรือยัง!”

     

         “เดี๋ยวๆๆนายบอกว่าชอบฉัน ห๊ะ!!!มันจะบ้ากันไปใหญ่แล้วนายประสาทกับหรือเปล่า นายชอบฉันเนี่ยนะ โอ้ย!!ไม่อยากจะเชื่อ ก็นายมันชอบจุนซูไม่ใช่เหรอแล้วทำ..ไมมาเป็นฉันล่ะ?!”  ฮยอนจุงถามขึ้นอย่างเสียงดังแล้วพยามดันให้ชางมินออกไปแต่ดูเหมื่อนจะไม่เป็นผลเลย เพราะร่างโปร่งยิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ

     

         “แต่ก่อนใช่! แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วก็มีใครก็ไม่รู้มาวนเวียนอยู่ใกล้ๆจนหลับตาก็ยังเห็นถ้าวันไหนไม่เห็นหรือไม่ต่อปากต่อคำด้วยก็จะหงุดหงิดเหมื่อนมันขาดอะไรไปสักอย่าง”ชางมินพูดขึ้นเสียงดังจนฮยอนจุงหยุดดิ้น

     

         “แล้วจะมาบอกฉันทำไมไม่ทราบห๊ะ!”ฮอยนจุงพูดขึ้นด้วยเสียงสะบัด

     

         “ก็ตนที่ฉันชอบมันยืนอยู่ตรงนี้ไงเล่า!ทำไมมันถึงเข้าใจอะไรอยากนักนะ!” ชางมินพูดขึ้นเสียงดังด้วยท่าทางหงุดหงิด

     

         “เออ!รู้แล้วโว๊ย!สงสัยไม่ได้หรือไงห๊ะ!โวยวายอยู่ได้ชิส์” ฮอยนจุงพูดขึ้นอย่างเสียงดัง  ชางมินแอบอมยิ้มที่มุมปาก

     

         “งั้นเข้าใจก็ดีแล้วตกลงเรามาเป็นแฟนกัน โอเคนะ”ชางมินพูดเร็วจนร่างบางงงอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก

     

         “เห้ย!!!!อะไร…”

     

         อุ๊บ!!”

     

         และกลีบบางก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากหนาอย่างไม่ทันตั้งตัวจากดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจก็ค่อยๆปิดลงด้วยรสจูบอันอ่อนหวานและนุ่มนวล…

     

         เมื่อถึงเวลาของงานปาร์ตี้ จุนซูลงมาก่อนเพราะฮิชอลมารับถึงที่ห้องยูชอนเลยต้องยอมให้จุนซูลงไปก่อนเพราะตัวเองยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะมั่วแต่นั่งกับคุยกับจุนซูจนเผลอหลับไป

     

         “จุนซูมานั่งนี้” เป็นเสียงของฮยอนจุงที่ตะโกนเรียก จุนซูหันไปมองเห็นเป็นฮอยนจุงก็เดินไปหาพร้อมกับฮิชอล  ฮิชอลแอบยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก็จะไม่ขำได้ไงก็ไอ้ที่เลาะกันทุกครั้งที่เจอกับนั่งตัวติดกันแทบจะเกยกันฮิชอลส่ายศรีษะไปมาอย่างขำๆ

     

         “ว่าไงเราดีกันแล้วเหรอ?ๆไงถึงได้นั่งแทบจะเกยกันเลยห๊ะ!”ฮิชอลแกล้งทำเสียงดุ จนฮยอนจุงจะลุกออกห่างจากชางมินแต่ก็ทำไม่ได้เพราะมือแกร่งคว้าไว้จนฮยอนจุงต้องก้มหน้าหลบสายตาของฮิชอล  ชางมินเห็นก็กระชับมือให้แน่นขึ้นแล้วหันไปพูดกับฮิชอล

     

         “ใช่!ตอนนี้เรายิ่งกว่าดีกันอีกจริงมั้ย?”ชางมินหันกับไปถามร่างที่ตอนนี้ก้มหน้านิ่งด้วยความเขิน  โธ่!ไอ้บ้ามาถามอะไรตอนนี้ว่ะมันน่าอัดนัก!ฮยอนจุงสถบอยู่ในใจ จุนซูหันไปมองคนโน่นที่คนนี้ขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

     

         “คือว่า..อาฮยอนจุงกับพี่ชางมิน…เอ่ยคือเป็น…”จุนซูถามขึ้นอย่างสงสัย

     

        “เป็นแฟนกัน!ไปเถอะจุนซูอย่าอยู่ตรงนี้เดี๋ยวเลียนตายกันพอดี ฮ่า ฮ่า”เป็นเสียงของฮิชอลที่พูดขึ้นโดยที่ไม่สนใจว่าคนที่นั่งอยู่จะรู้สึกยังไงเพราะตัวเองรุ้สึกสะใจที่ทำให้ทั้งสองคนได้อายฮิชอลหัวเราะขึ้นอย่างสบายอารมณ์จนจุนซูทำหน้างง

     

        “หมายความว่าอาฮยอนจุงกับพี่ชางมินเขาชอบกันใช่มั้ย?ฮะน้าฮิชอล”จุนซูถามขึ้นอย่างสงสัย  ฮิชอลยิ้มให้จุนซูแต่ไม่ตอบกับพาจุนซูมานั่งที่โต๊ะที่มีเออิตะและพนักงานอีกสองสามคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่ฮิชอลจะนั่งลงก็ดึงตัวจุนซูเข้ามาใกล้ๆแล้วก้มลงกระซิบเบาๆที่ข้าหู

     

         “ก็เหมื่อนจุนซูกับยูชอนไง”จุนซูเงยหน้าขึ้นไปมองฮิชอลอย่างตกใจ ฮิชอลยิ้มเอามือลูบแก้มของจุนซูที่ตอนนี้เป็นสีแดงระเรื่อดูน่ารักในสายตาของฮิชอน

     

         “ฮ่า ฮ่า สัญญาน้าจะไม่บอกปาป๊าเราโอเคมั้ย?เอาล่ะนั่งลงได้แล้วจะได้หาอะไรกินกันได้แล้ว หึ หึ”  ฮิชอลดึงให้จุนซูนั่งลงข้างๆตัวเอง

     

         “เอานา…ไม่ต้องอายหรอกนา ฮ่า ฮ่า  กินได้แล้วมั่วแต่อายอยู่นั้นแหละ” ฮิชอลตักอาหารมาใส่ในจานของจุนซู  จุนซูอมยิ้มแล้วก็ตักอาหารเข้าปากอย่างเขินๆ

     

         “จุนซูลองดื่มนี้หน่อยสิอร่อยดีลองดูสิ” เออิตะเทไวน์ลงในของแก้วให้จุนซู ร่างบางยิ้มยกแก้วขึ้นมาดม

     

         “หอมจังเลยฮะมันคืออะไรฮะเนี่ย?”จุนซูยกแก้วขึ้นมาถาม

     

         “ไวน์องุ่น จุนซูดื่มได้หรือเปล่า?” จุนซูยิ้มแล้วยกแก้วขึ้นมาดื่ม

     

         “ว้าว! อร่อยจังฮะหอมและหวานมากๆจุนซูชอบจัง”  ฮิชอลยิ้มลูบหัวจุนซูเบาๆ

     

         “แต่ห้ามดื่มเยอะเดี๋ยวเมาเข้าใจมั้ยเจ้าเด็กน้อย”ฮิชอลพูดขึ้น

     

         “จุนซูไม่ใช่เด็กแล้วนะฮะน้าฮิชอลแค่นี้สบายมาก”จุนซูหันมายิ้มจนตาหยี 

     

         “โอเค โอเค ไม่เด็กก็ไม่เด็กแต่ยังไงก็ห้ามดื่มเยอะอยู่ดีล่ะเข้าใจมั้ย?

     

         “รับทราบคร๊าบบบผม!”จุนซูตอบเสียงใสจนคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะอดหัวเราะไม่ได้ในความน่ารักของจุนซู

     

         เกือบรวมชั่วโมงกว่ายูชอนจะมาลงมาพอเข้ามาก็เจอกับทีมงานที่เรียกเขาไว้ให้นั่งรวมโต๊ะ เหลียวไปมองก็เห็นจุนซูกำลังคุยอยู่ อย่างสนุกสนาน ยูชอนเลยจำใจต้องนั่งลงที่โต๊ะอย่างเสียไม่ได้ พอนั่งกินอะไรที่โต๊ะได้สักพักยูชอนก็ของตัวออกมา หันไปมองทางโต๊ะทีจุนซูนั่งก็ไม่เจอร่างบางแล้วเหลียวไปมองรอบๆก็ไม่เห็น

     

         “ไปไหนของเขานะเจ้าตัวเล็ก”ยูชอนสถบออกมาเบาๆแล้วเดินออกมาจากภายในห้องจัดเลี้ยงเดินเรื่อยออกมาจนถึงสวนของโรงแรมที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ พอมองเลยไปก็เจอเข้ากับร่างบางที่แสนจะคุ้นตายืนกำลังยืนเล่นหิมะอยู่ ยูชอนยิ้มค่อยๆเดิมอย่างช้าๆเพื่อจะไม่ให้คนที่ยืนอยู่ก่อนรู้ตัว

     

         “อ๊ะ…!!!!” จุนซูร้องขึ้นอย่างตกใจ 

     

         แขนแกร่งโอบรอบตัวจุนซูไว้ก้มลงและกระซิบข้างๆหู

     

         “มาเล่นซนอะไรอยู่ตรงนี่หึ…เจ้าตัวเล็ก” จุนซูได้ยินเสียงก็รู้ว่าเป็นใคร

     

          “ตกใจหมดนึกว่าใคร ยูชอนนี่เอง” ยูชอนกระชับออมกอดให้แน่นจมูกโด่งได้รูปคลอเคลียกับส้นผมหอม

     

         “แล้วทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ล่ะ?เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”จุนซูยิ้มยกมือขึ้นมาจับบมือของอยู่ชอนแล้วแกะมันออกจากเอวของตัวเอง แล้วเปลี่ยนมาจับมือทั้งสองของยูชอนไว้แทน แล้วหันกับมามองหน้าร่างโปร่งโดยที่มือยังคงจับอยู่

     

        “เราไปเดินเล่นกันเถอะ.จุนซูอยากไปเดินเล่นนะ นะ ยูชอน”จุนซูพูดขึ้นแบบอ้อนๆ ยูชอนมองดูท่าทางอ้อนๆของจุนซูแล้วอมยิ้มแบบเจ้าเลห์

     

         “งั้นจุนซูต้อง…” ยูชอนชี้ไปที่ริมฝีปากของตัวเองอย่างเจ้าเลห์ จุนซูขวมดคิ้วขึ้นอย่างง แต่ก็เหมื่อนนึกอะไรขึ้นได้ร่างบางถึงกับหน้าแดงขึ้นมา แล้วปล่อยมือที่จับอยู่ชอนออกอย่างเขินๆ

     

          “ยูชอนเอาเปรียบอ่ะ”

     

         “เอาเปรียบตรงไหนกันก็นี้เป็นค่าแรงนะไม่ได้เอาเปรียบสักหน่อย ฮ่า ฮ่า” ยูชอนยืนหน้าเข้าไปใกล้ๆจุนซู เอียงคอเล็กน้อยเอ่ยถามขึ้น

     

         “ว่าไง…รออยู่นะ”

     

         จุ๊บ!!

     

        อยู่ ๆริมฝีปากหนาก็ถูกอะไรอุ่นๆกระทบเขาร่างโปร่งอดยิ้มในความน่ารักของจุนซูไม่ได้ ที่ตอนนี้ยืนหน้าแดงระเรื่อทำอะไรไม่ถูก จนยูชอนต้องรวบตัวให้มาอยู่ในอ้อมกอด และกดจูบลงไปแรงๆที่แก้มใส

     

         !ฟอด !

     

        ยูชอนดันตัวจุนซูออกจากอ้อมกอดแล้วจ้องเข้าไปในดวงตาเรียวยกฝ่ามือเรียวประคองดวงหน้าหวานก้มลงกดจูบลงไปช้าๆที่กลีบปากบาง จุนซูค่อยๆปิดตาลง รอรับความอบอุ่นที่ยูชอนกำลังมอบให้  ริมฝีปากเรียวยังคงพรมจูบอ้อยอิ้งอยู่ที่ริมฝีปากบางไม่ยอมห่างไปไหน จนจุนซูต้องดันตัวยูชอนออกเล็กน้อย

     

         “ ฮือ..พอ..แล้ว…ยูชอน” ร่างโปร่งต้องจำใจล่ะจากริมฝีปากบางอย่างเสียดาย ยูชอนยิ้มมองหน้าที่แดงระเรื่อด้วยความอายของร่างบาง

     

        “โอเค..เราไปกันเถอะ”  ยูชอนจับมือของจุนซูไว้แล้วกระชับให้แน่นขึ้นจุนซูมองที่มือของตัวกับยูชอนแล้วยิ้มออกมา เดินเข้ามาใกล้ยูชอนเงยหน้าขึ้นมาสบตากับยูชอนจุนซูยิ้มแล้วพูดขึ้น

     

         “จุนซูก็ชอบยูชอนเหมื่อนกันนะ”

     

     

      “ยูชอน! พอแล้ว!” จุนซูพยามยามเบียงตัวหลบแต่ก็ทำไม่ได้เพราะยูชอนกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีกจนตัวของร่างบางขยับไปไหนไม่ได้เลย

                                                                           TBC 13

     

         “ชอบนะ”เสียงกระซิบเบาๆที่ข้างหุทำให้จุนซูหยุดนิ่งเงยหน้าขึ้นมามอง ทำให้ร่างบางสบตาเข้ากับสายตาอันอ่อนโยนของยูชอน ร่างโปร่งยิ้มให้จุนซูและ ก้มลงกดจูบลงไปเบาๆที่กลีบปากบางเป็นจูบที่ไม่ได้เร้งเร้าหรือว่าร้อนแรงอะไรแต่เป็นจูบที่นุ่มนวลและอ่อนโยน ที่ทำให้หัวใจของคนทั้งสองดวงเต็มอิ่มไปด้วยความสุข…แต่ความสุขมักจะมาพร้อมกับความทุกข์เสมอ…

     

         ย้อนกับมาทางคู่ชางมินฮยอนจุง     “ปล่อย!สักที!” ฮยอนจุงพูดขึ้นอย่างเสียงดังพยามเกาะมือของชางมินให้หลุดออก แต่เหมื่อนความพยามจะไม่เป็นผลเลยสักนิด  ชางมินพาฮยอนจุงออกมาห่างจากกองถ่ายพอสมควร ชางมินหยุดเดินแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากแขนของฮยอนจุง แต่หันกับมาเผชิญหน้ากับร่างบาง จนฮยอนจุงตกใจที่จู่ก็หยุดเดินกะทันหัน

     

         “เห้ย!” ฮยอนจุงสถบอกมากเพราะว่าตัวเองเกือบจะกระแทกเข้ากับร่างโปร่ง ชางมินตะหวัดวงแขนกอดเข้าที่เอวของร่างบาง

     

         “นี้!..นายจะทำอะไร ปล่อย! ฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้โย่งบ้า ปล่อย!...” ฮยอนจุงฝืนตัวจนสุดกำลัง

     

         “ไม่ปล่อยมีอะไรมั้ย”ชางมินพูดขึ้นอย่างกวนๆ โดยที่ไม่สนว่าร่างบางจะโวยวายว่ายังไง

     

         “ไอ้!! โรคจิต…”

     

          !อุ๊บ!”

     

    อยู่ๆริมฝีปากที่กำลังโวยวายก็ถูกริมฝีหนาประกบเข้าอย่างเร็วจนร่างบางตั้งตัวไม่ทัน ฮยอนจุงตกใจดวงตาเบิกกว้างขึ้นทำอะไรไม่ถูกตัวแข็งทือทั้งตกใจทั้งงงกับการกระทำของชางมิน จนร่างโปร่งสังเกตเห็นมีหยาดน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย ชางมินหยุดการกระทำทุกอย่างค่อยๆถอนจูบออกมาอย่างช้าๆยกมือขึ้นมาเกลี่ยหยาดน้ำตาที่ข้างแก้มเบาๆ

     

         “ ร้องไห้ทำมั้ย.” ช่างมินพูดขึ้น ในขณะที่ฮยอนจุนยังคงยืนนิ่งเสตาไปที่อื่นโดยไม่ยอมมองหน้าชางมิน

     

         “นายทำแบบนี้ทำมั้ย?” ฮยอนจุงถามขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา  ชางมินหยุดเช็ดหยาดน้ำตาใช้มือจับคางมลให้หันกับมามองหน้าตัวเอง

     

       “ผมชอบคุณ ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้แต่ยิ่งนานวันผมก็รู้สึกคิดถึงคุณมากขึ้นทุกวัน”ชางมีนพูดขึ้นโดยที่สายตายังคงจับจ้องไปที่ร่างบาง ฮยอนจุงได้ยินที่ร่างโปร่งพูด ก็ขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

     

         “ เมื่อกี้..นายว่าอะไรนะ!” ฮยอนจุงถามขึ้นอย่างเสียงดัง   ชางมินยิ้มที่มุมปาก แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

     

         “เห้…ผมบอกว่าชอบคุณได้ยินหรือยัง!”

     

         “เดี๋ยวๆๆนายบอกว่าชอบฉัน ห๊ะ!!!มันจะบ้ากันไปใหญ่แล้วนายประสาทกับหรือเปล่า นายชอบฉันเนี่ยนะ โอ้ย!!ไม่อยากจะเชื่อ ก็นายมันชอบจุนซูไม่ใช่เหรอแล้วทำ..ไมมาเป็นฉันล่ะ?!”  ฮยอนจุงถามขึ้นอย่างเสียงดังแล้วพยามดันให้ชางมินออกไปแต่ดูเหมื่อนจะไม่เป็นผลเลย เพราะร่างโปร่งยิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ

     

         “แต่ก่อนใช่! แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วก็มีใครก็ไม่รู้มาวนเวียนอยู่ใกล้ๆจนหลับตาก็ยังเห็นถ้าวันไหนไม่เห็นหรือไม่ต่อปากต่อคำด้วยก็จะหงุดหงิดเหมื่อนมันขาดอะไรไปสักอย่าง”ชางมินพูดขึ้นเสียงดังจนฮยอนจุงหยุดดิ้น

     

         “แล้วจะมาบอกฉันทำไมไม่ทราบห๊ะ!”ฮอยนจุงพูดขึ้นด้วยเสียงสะบัด

     

         “ก็ตนที่ฉันชอบมันยืนอยู่ตรงนี้ไงเล่า!ทำไมมันถึงเข้าใจอะไรอยากนักนะ!” ชางมินพูดขึ้นเสียงดังด้วยท่าทางหงุดหงิด

     

         “เออ!รู้แล้วโว๊ย!สงสัยไม่ได้หรือไงห๊ะ!โวยวายอยู่ได้ชิส์” ฮอยนจุงพูดขึ้นอย่างเสียงดัง  ชางมินแอบอมยิ้มที่มุมปาก

     

         “งั้นเข้าใจก็ดีแล้วตกลงเรามาเป็นแฟนกัน โอเคนะ”ชางมินพูดเร็วจนร่างบางงงอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก

     

         “เห้ย!!!!อะไร…”

     

         อุ๊บ!!”

     

         และกลีบบางก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากหนาอย่างไม่ทันตั้งตัวจากดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจก็ค่อยๆปิดลงด้วยรสจูบอันอ่อนหวานและนุ่มนวล…

     

         เมื่อถึงเวลาของงานปาร์ตี้ จุนซูลงมาก่อนเพราะฮิชอลมารับถึงที่ห้องยูชอนเลยต้องยอมให้จุนซูลงไปก่อนเพราะตัวเองยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะมั่วแต่นั่งกับคุยกับจุนซูจนเผลอหลับไป

     

         “จุนซูมานั่งนี้” เป็นเสียงของฮยอนจุงที่ตะโกนเรียก จุนซูหันไปมองเห็นเป็นฮอยนจุงก็เดินไปหาพร้อมกับฮิชอล  ฮิชอลแอบยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก็จะไม่ขำได้ไงก็ไอ้ที่เลาะกันทุกครั้งที่เจอกับนั่งตัวติดกันแทบจะเกยกันฮิชอลส่ายศรีษะไปมาอย่างขำๆ

     

         “ว่าไงเราดีกันแล้วเหรอ?ๆไงถึงได้นั่งแทบจะเกยกันเลยห๊ะ!”ฮิชอลแกล้งทำเสียงดุ จนฮยอนจุงจะลุกออกห่างจากชางมินแต่ก็ทำไม่ได้เพราะมือแกร่งคว้าไว้จนฮยอนจุงต้องก้มหน้าหลบสายตาของฮิชอล  ชางมินเห็นก็กระชับมือให้แน่นขึ้นแล้วหันไปพูดกับฮิชอล

     

         “ใช่!ตอนนี้เรายิ่งกว่าดีกันอีกจริงมั้ย?”ชางมินหันกับไปถามร่างที่ตอนนี้ก้มหน้านิ่งด้วยความเขิน  โธ่!ไอ้บ้ามาถามอะไรตอนนี้ว่ะมันน่าอัดนัก!ฮยอนจุงสถบอยู่ในใจ จุนซูหันไปมองคนโน่นที่คนนี้ขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

     

         “คือว่า..อาฮยอนจุงกับพี่ชางมิน…เอ่ยคือเป็น…”จุนซูถามขึ้นอย่างสงสัย

     

        “เป็นแฟนกัน!ไปเถอะจุนซูอย่าอยู่ตรงนี้เดี๋ยวเลียนตายกันพอดี ฮ่า ฮ่า”เป็นเสียงของฮิชอลที่พูดขึ้นโดยที่ไม่สนใจว่าคนที่นั่งอยู่จะรู้สึกยังไงเพราะตัวเองรุ้สึกสะใจที่ทำให้ทั้งสองคนได้อายฮิชอลหัวเราะขึ้นอย่างสบายอารมณ์จนจุนซูทำหน้างง

     

        “หมายความว่าอาฮยอนจุงกับพี่ชางมินเขาชอบกันใช่มั้ย?ฮะน้าฮิชอล”จุนซูถามขึ้นอย่างสงสัย  ฮิชอลยิ้มให้จุนซูแต่ไม่ตอบกับพาจุนซูมานั่งที่โต๊ะที่มีเออิตะและพนักงานอีกสองสามคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่ฮิชอลจะนั่งลงก็ดึงตัวจุนซูเข้ามาใกล้ๆแล้วก้มลงกระซิบเบาๆที่ข้าหู

     

         “ก็เหมื่อนจุนซูกับยูชอนไง”จุนซูเงยหน้าขึ้นไปมองฮิชอลอย่างตกใจ ฮิชอลยิ้มเอามือลูบแก้มของจุนซูที่ตอนนี้เป็นสีแดงระเรื่อดูน่ารักในสายตาของฮิชอน

     

         “ฮ่า ฮ่า สัญญาน้าจะไม่บอกปาป๊าเราโอเคมั้ย?เอาล่ะนั่งลงได้แล้วจะได้หาอะไรกินกันได้แล้ว หึ หึ”  ฮิชอลดึงให้จุนซูนั่งลงข้างๆตัวเอง

     

         “เอานา…ไม่ต้องอายหรอกนา ฮ่า ฮ่า  กินได้แล้วมั่วแต่อายอยู่นั้นแหละ” ฮิชอลตักอาหารมาใส่ในจานของจุนซู  จุนซูอมยิ้มแล้วก็ตักอาหารเข้าปากอย่างเขินๆ

     

         “จุนซูลองดื่มนี้หน่อยสิอร่อยดีลองดูสิ” เออิตะเทไวน์ลงในของแก้วให้จุนซู ร่างบางยิ้มยกแก้วขึ้นมาดม

     

         “หอมจังเลยฮะมันคืออะไรฮะเนี่ย?”จุนซูยกแก้วขึ้นมาถาม

     

         “ไวน์องุ่น จุนซูดื่มได้หรือเปล่า?” จุนซูยิ้มแล้วยกแก้วขึ้นมาดื่ม

     

         “ว้าว! อร่อยจังฮะหอมและหวานมากๆจุนซูชอบจัง”  ฮิชอลยิ้มลูบหัวจุนซูเบาๆ

     

         “แต่ห้ามดื่มเยอะเดี๋ยวเมาเข้าใจมั้ยเจ้าเด็กน้อย”ฮิชอลพูดขึ้น

     

         “จุนซูไม่ใช่เด็กแล้วนะฮะน้าฮิชอลแค่นี้สบายมาก”จุนซูหันมายิ้มจนตาหยี 

     

         “โอเค โอเค ไม่เด็กก็ไม่เด็กแต่ยังไงก็ห้ามดื่มเยอะอยู่ดีล่ะเข้าใจมั้ย?

     

         “รับทราบคร๊าบบบผม!”จุนซูตอบเสียงใสจนคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะอดหัวเราะไม่ได้ในความน่ารักของจุนซู

     

         เกือบรวมชั่วโมงกว่ายูชอนจะมาลงมาพอเข้ามาก็เจอกับทีมงานที่เรียกเขาไว้ให้นั่งรวมโต๊ะ เหลียวไปมองก็เห็นจุนซูกำลังคุยอยู่ อย่างสนุกสนาน ยูชอนเลยจำใจต้องนั่งลงที่โต๊ะอย่างเสียไม่ได้ พอนั่งกินอะไรที่โต๊ะได้สักพักยูชอนก็ของตัวออกมา หันไปมองทางโต๊ะทีจุนซูนั่งก็ไม่เจอร่างบางแล้วเหลียวไปมองรอบๆก็ไม่เห็น

     

         “ไปไหนของเขานะเจ้าตัวเล็ก”ยูชอนสถบออกมาเบาๆแล้วเดินออกมาจากภายในห้องจัดเลี้ยงเดินเรื่อยออกมาจนถึงสวนของโรงแรมที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ พอมองเลยไปก็เจอเข้ากับร่างบางที่แสนจะคุ้นตายืนกำลังยืนเล่นหิมะอยู่ ยูชอนยิ้มค่อยๆเดิมอย่างช้าๆเพื่อจะไม่ให้คนที่ยืนอยู่ก่อนรู้ตัว

     

         “อ๊ะ…!!!!” จุนซูร้องขึ้นอย่างตกใจ 

     

         แขนแกร่งโอบรอบตัวจุนซูไว้ก้มลงและกระซิบข้างๆหู

     

         “มาเล่นซนอะไรอยู่ตรงนี่หึ…เจ้าตัวเล็ก” จุนซูได้ยินเสียงก็รู้ว่าเป็นใคร

     

          “ตกใจหมดนึกว่าใคร ยูชอนนี่เอง” ยูชอนกระชับออมกอดให้แน่นจมูกโด่งได้รูปคลอเคลียกับส้นผมหอม

     

         “แล้วทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ล่ะ?เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”จุนซูยิ้มยกมือขึ้นมาจับบมือของอยู่ชอนแล้วแกะมันออกจากเอวของตัวเอง แล้วเปลี่ยนมาจับมือทั้งสองของยูชอนไว้แทน แล้วหันกับมามองหน้าร่างโปร่งโดยที่มือยังคงจับอยู่

     

        “เราไปเดินเล่นกันเถอะ.จุนซูอยากไปเดินเล่นนะ นะ ยูชอน”จุนซูพูดขึ้นแบบอ้อนๆ ยูชอนมองดูท่าทางอ้อนๆของจุนซูแล้วอมยิ้มแบบเจ้าเลห์

     

         “งั้นจุนซูต้อง…” ยูชอนชี้ไปที่ริมฝีปากของตัวเองอย่างเจ้าเลห์ จุนซูขวมดคิ้วขึ้นอย่างง แต่ก็เหมื่อนนึกอะไรขึ้นได้ร่างบางถึงกับหน้าแดงขึ้นมา แล้วปล่อยมือที่จับอยู่ชอนออกอย่างเขินๆ

     

          “ยูชอนเอาเปรียบอ่ะ”

     

         “เอาเปรียบตรงไหนกันก็นี้เป็นค่าแรงนะไม่ได้เอาเปรียบสักหน่อย ฮ่า ฮ่า” ยูชอนยืนหน้าเข้าไปใกล้ๆจุนซู เอียงคอเล็กน้อยเอ่ยถามขึ้น

     

         “ว่าไง…รออยู่นะ”

     

         จุ๊บ!!

     

        อยู่ ๆริมฝีปากหนาก็ถูกอะไรอุ่นๆกระทบเขาร่างโปร่งอดยิ้มในความน่ารักของจุนซูไม่ได้ ที่ตอนนี้ยืนหน้าแดงระเรื่อทำอะไรไม่ถูก จนยูชอนต้องรวบตัวให้มาอยู่ในอ้อมกอด และกดจูบลงไปแรงๆที่แก้มใส

     

         !ฟอด !

     

        ยูชอนดันตัวจุนซูออกจากอ้อมกอดแล้วจ้องเข้าไปในดวงตาเรียวยกฝ่ามือเรียวประคองดวงหน้าหวานก้มลงกดจูบลงไปช้าๆที่กลีบปากบาง จุนซูค่อยๆปิดตาลง รอรับความอบอุ่นที่ยูชอนกำลังมอบให้  ริมฝีปากเรียวยังคงพรมจูบอ้อยอิ้งอยู่ที่ริมฝีปากบางไม่ยอมห่างไปไหน จนจุนซูต้องดันตัวยูชอนออกเล็กน้อย

     

         “ ฮือ..พอ..แล้ว…ยูชอน” ร่างโปร่งต้องจำใจล่ะจากริมฝีปากบางอย่างเสียดาย ยูชอนยิ้มมองหน้าที่แดงระเรื่อด้วยความอายของร่างบาง

     

        “โอเค..เราไปกันเถอะ”  ยูชอนจับมือของจุนซูไว้แล้วกระชับให้แน่นขึ้นจุนซูมองที่มือของตัวกับยูชอนแล้วยิ้มออกมา เดินเข้ามาใกล้ยูชอนเงยหน้าขึ้นมาสบตากับยูชอนจุนซูยิ้มแล้วพูดขึ้น

     

         “จุนซูก็ชอบยูชอนเหมื่อนกันนะ”

     

     

                                                                             TBC 14
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×