คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 12
สวัสดีจ้าเพือนที่น่ารักทุกคนคิดถึงจัง
สบายดีกันทุกคนนะค่ะ
วันนี้มาต่อแล้วนะค่ะตอนนี้จะเป็นตอนค่อยๆ
คลายปมออกมาที่ละนิดแล้วนะค่ะ
ถ้าไม่สนุกอย่าว่ากันนะ555
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นนะค่ะ
ถ้ามีคำผิดก็ต้องขออภัยด้วยนะค่ะจะพยามจะไม่
ให้ผิดมาก ไปล่ะบายคร้าแล้วเจอกันตอนหน้านะค่ะ^^
รักคนอ่านทุกคน^-^จ้า
ปล.สำหรับบางคนที่เข้ามาอาจจะงงนิดว่า
จุนซูกับยูชอนเป็นแฟนกันตอนไหน55
ขอบอกว่ายังจ้าแค่เริ่มจะมีความรู้สึกดีให้กัน
แต่พ่อปาร์กของเราแบบว่าปากว่ามือถึงอ่ะค่ะ
รอตอนหน้านะค่ะรับลองมีอะไรให้พลิกผันแน่55
FIC i love you my dear [รักวุ่นๆฉับบ Kim Junsu]ตอนที่12 [YOOSU ]
By:punjunjae
เมื่อรถคันหรูแล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าร้านของแจจุง
“ถึงแล้วค๊าบ ผม” ยุนโฮหหันมาพูดกับแจจุง ร่างบางหันมาค้อนให้แล้วสะบัดหน้าเปิดประตูรถออกอย่างแรงและหันกับมาพูดกับร่างโปร่งด้วยท่าทางหงุดหงิด
“ฉันไม่ขอบใจนายหลอกนะเพราะนายบังคับฉันมาและอีกอย่างฉันไม่เต็มใจจะมากับนายสักหน่อย ชิส์!” พูดจบแจจุงลุกออกมาจากรถทันที ยุนโฮอมยิ้มท่าทางของร่างบาง แต่ก็ไม่วายที่จะพูดจากวนประสาทแจจุงอีก ร่างโปร่งกดสวิชกระจกรถลงก้มหน้าลงมารียกแจจุงไว้
“ แจจุเดี๋ยวสิครับ! ตอนเย็นผมมารับนะครับที่รัก!” ยุนโฮตะโกนบอก ร่างบางได้ยินหยุดเดินทันที หันกับมาส่งสายตาเคืองๆให้ร่างโปร่งที่ตอนนี้ทำหน้ากรุ่มกริ่มใส่ จนแจจุงต้องสะบัดหน้าหนี เดินจ่ำอ้าว เข้าไปในร้าน ทันที
“ไอ้บ้าเอ๋ย! เรียกมาได้ ที่รัก สงสัยสมองคงจะมีปัญหาแน่เลย เฮ้ย ฉันจะทำยังไงกับนายดีนะ ชอง ยุนโฮ...”แจจุง หันกับไปมองรถของยุนโฮที่ค่อยๆแล่นออกไปจากหน้าร้าน แล้วถอยหายใจออกมาเบาๆ
“ คุณแจจุงค่ะ” เป็นพนักงานในร้านของแจจุงที่เรียก
“ออ! ว่าไงคุณยูริ มีอะไรเหรอ? ครับ”
“คือตอนนี้ คุณ จินกิ รอพบคุณแจจุงอยู่ที่ห้องทำงานค่ะ”
“อืม..เหรอครับ งั้นคุณ ยูริช่วยไปบอกคนที่เข้าประชุมว่าอีก 10 นาที ผมจะเข้าไปประชุม”
“ค่ะ” แจจุงพูดจบก็เดินไปที่ห้องทำงานของตัวเอง เปิดประตูเข้าก็เอ๋ยทักคนที่นั่งรออยู่ที่โซฟาหรู
“ว่าไงนายมารอนานแล้วเหรอ?” คนถูกทักหันมายิ้มให้กับแจจุง
“เป็นชาติแล้วล่ะแก” จุงยิ้มในคำตอบของจินกิ
“มันไม่ใช่ความผิดของฉันนะ ก็นายไม่โทรมาบอกฉันว่าจะเข้ามา ” แจจุงพูดจบก็เดินมานั่งที่โซฟาตรงข้ามกับจินกิ
“เออ ฉันผิดเองที่ไม่ได้โทรบอกแก อ่ะ!นี้ที่แกต้องการฉันหามาให้แกแล้วขอมูลประวัติของ ปาร์ค ยูชอน” จินกิส่งซองสีน้ำตาลให้แจจุง
“ขอบใจเร็วทันใจจัง”แจจุงรับซองเอกสารจากจินกิ
“แกจะเอาประวัติของ ปาร์ค ยูชอนไปทำอะไรว่ะ “
“ฉันสงสัยอะไรบางอย่าง”
“สงสัยอะไรว่ะ ก็แค่นักร้อง นักแสดง ธรรมดาคนหนึ่ง”
“ถ้าเป็นอย่างที่นายว่าก็ดี แต่ถ้าไม่ใช่ ล่ะ?”
“นายคิดมากไปหรือเปล่า”
“นายจะไม่ให้ฉันคิดได้ยังไง อยู่ๆก็เจาะจงให้จุนซูมาถ่ายแบบทั้งๆที่ไม่เคยเจอหรือรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำและอีกอย่างฉันรู้สึกคุ้นๆหน้ายังไงไม่รู้สิ”
“เรื่องของเรื่องเป็นโรคหวงลูกฮ่า ฮ่า ฮ่า นายเนี่ยอะนะนิสัยไม่เคยเปลี่ยน เลย..ให้ตายสิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“เออ!!หัวเราะอยู่ได้ ก็ลูกฉันทั้งคนจะไม่ให้หวงได้ไงล่ะว่ะ” แจจุงพูดขึ้นด้วยเสียงอันดัง
“ฮ่า ฮ่า ไม่หัวเราะก็ได้ว่ะ หึ หึ เอองั้นฉันกลับล่ะพอดีมีงานที่จะต้องไปทำ และอีกอย่างฉันรู้ว่าแกมีประชุมไปล่ะถ้ามีอะไรจะให้ช่วยก็บอกนะ” พูดจบจินกิก็ลุกขึ้นยืน แจจุงลุกขึ้นยืนตามแล้วเดินมาส่งจินกิที่หน้าประตูห้อง
“ขอบใจมากนะ ไว้ฉันจะเลี้ยงเหล้านาย”
“อืม/..ไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้เอง ไว้ฉันจะรอนายเลี้ยงเหล้าก็แล้วกัน งั้นฉันไปนะ”
“โอเคได้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว โชดดีนะไว้เจอกัน” แจจุงเปิดประตูให้จินกิเดินออกไป แล้วปิดประตูลงเดินมาหยิบซองเอกสารขึ้นมาเปิดดู ภายในซองเอกสารหยิบรูปขี้นมาดู
“เอ๊ะ ! นี้มันเพื่อนจุนซูนี้นา “แจจุงรู้สึกแปลกใจเพราะรูปที่ตัวเองเห็นมันเป็นรูปครอบครัวแต่ที่หน้าแปลกใจคือหนึ่งคนที่อยู่ในรูปถ้าจำไม่ผิดเป็นคนๆเดียวที่จู่ๆมาหาเขาถึงที่ทำงานเพื่อจะมาบอกว่าตัวเองชอบจุนซู และยิ่งทำให้แจจุงแปลกใจไปใหญ่ที่เห็นปาร์ก ยูชอนที่ยืนกอดคอกันอยู่ข้างๆ แจจุงขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัยและก็หยิบกระดาษที่อยู่ในซองเอกสารขึ้นมาอ่าน
“ปาร์ก ยูจิน มีภรรยาชื่อ ซึงอา มีลูกชาย2คน คนโตชื่อ ปาร์ก ยูชอน คนเล็กชื่อ ปาร์ก ยูฮวาน ปาร์ก ยูฮวาน เด็กคนนั้นเอง..” แจจุงนึกไปถึงเมื่อวันที่ ยูฮวานเข้ามาหาเขา เด็กคนนั้นมีสีหน้าที่จริงจังจนทำให้แจจุงกลัว
“คุณเป็น ป่าป๊าของจุนซูใช่มั้ยครับ”
“ใช่แล้วเธอล่ะเป็นใครกัน”
“ผม ปาร์ก ยูฮวาน เป็นเพื่อนกับจุนซูครับ”
“เพื่อนจุนซูเหรอ? แล้วมาหาฉันมีอะไรหรือเปล่าแล้วนี้จุนซูรู้มั้ยว่าเธอมาหาฉัน”
“เออ..จุนซูไม่ทราบหรอกครับผมตั้งใจมาหาเองครับ”
“แล้วเธอมีเรื่องอะไรกับฉันล่ะ” แจจุงเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็เห็นเด็กหนุ่มยืนก้มหน้านิ่ง
“คือว่า ผม คือ ผมชอบจุนซูครับ ผมแค่อยากบอกให้คุณทราบครับ” ยูฮวานพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ชอบแบบไหนเหรอ?” แจจุงมองหน้ายูฮวานด้วยสีหน้านิ่ง จนคนถูกถามเริ่มรู้สึกกลัว
“ชอบ เออ แบบคนรัก...” ยูฮวานตอบเสียงเบา
“เธอ อายุเท่าไรแจจุงถามด้วยน้ำเสียงเรียบแต่สายตายังคงจับจ้องมองอยู่ที่ใบหน้าของยูฮวาน
“ 15 ครับ” ยูฮวานตอบเสียงเบา แจจุงยิ้มที่มุมปาก
“หึ! อายุแค่15 รู้แล้วเหรอว่าความรักคืออะไร หึ..เธออายุยังน้อยตอนนี้เธอแค่สับสนระหว่างความเป็นเพื่อน ถ้าเธอจะมาบอกให้ฉันรับรู้ก็เท่านั้นเพราะยังไงฉันก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดของเธอ หวังว่าเธอคงจะเข้าใจและฉันขอให้เธอเลิกคิดกับจุนซูแบบนั้นด้วยถ้าเกิดจุนซูรู้ว่าเธอคิดแบบนี้ เธอลองคิดดูว่าจุนซูรู้จะรับได้มั้ย? หึ หึ ฉันว่าจุนซูรู้คงจะรับไม่ได้ที่จู่ๆเพื่อนที่ตัวเองสนิทมาบอกว่าชอบตัวเอง ถ้าเป็นอย่างงั้นแม้แต่ความเป็นเพื่อนเธอก็จะไม่ได้รับมันจากจุนซูเลย เธอลองไปคิดดูเอาเองก็แล้วกัน”
ยูฮวานยืนก้มหน้านิ่งรู้สึกหน้าชาเหมื่อนตัวเองจะไม่มีแรงที่จะยืน ถ้าเป็นอย่างที่ป่าป๊าจุนซูพูด จุนซูจะเลิกคบกับเราเหรอ? จุนซูจะรับเราไม่ได้เหรอ? ถ้าเป็นอย่างงั้นจริงๆเราจะทำอย่างไงดีล่ะ? ยูฮวานคิดกังวลในสิ่งที่แจจุงพูด
และ นั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่แจจุงเห็นยูฮวานกี่ปีแล้วนะจากวันนั้นก็หกเจ็ดปีแล้วมั้ง เด็กนั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตวันนี้เรากำลังจะย้ายมาอยู่ที่โซล แล้วปาร์ก แต่ว่ายูชอนเข้ามาหาจุนซูเพราะอะไรหรือว่าจะมาแก้แค้นเรา แต่เอ้..ถ้ามันไม่ใช่แล้วเพราะอะไรยูชอนถึงได้ เจาะจงเป็นจุนซูทั้งๆที่ยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย มันน่าแปลกเพราะอะไรนะ? แจจุงขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย แต่ก็ต้องเก็บความสงสัยไว้ เพราะเหลือบไปมองเวลามันเลยเวลาเข้าประชุมไปนานมากแล้ว แจจุงรีบเดินออกห้องทำงานของตัวไปที่ห้องประชุมทันที
ย้อนกลับมาที่กองถ่าย
“นี่!พี่ว่ามั้ยว่า จุนซูกับยูชอนชักจะยังไงก็ไม่รู้พี่ดูดิ” ฮยองจุงพูดขึ้น ฮีชอลมองตามที่ฮยองจุงบอก ก็ได้เห็นอย่างที่ฮยองจุงพูด สิ่งที่ฮีชอลเห็น ยูชอนยกมือขึ้นมาจับปรอยผมของจุนซูที่ตกลงมาให้ไปทัดที่ข้างหูของจุนซูส่วนจุนซูก็หน้าแดงระเรื่อแลดูเหมื่อนคู่รักกัน
“ว่าไงเพี่! เห็นยัง” ฮีชอลพยักหน้าช้าๆ ฮอยงจุงเห็นฮีชอลพยักหน้า ทำให้ฮยองจุงตัดสินใจจะเดินไปลากตัวจุนซูให้ออกจากยูชอน ขณะที่ฮยองจุงกำลังจะก้าวเท้าเดินไป แต่ก็ต้องหยุดเพราะว่ามีมือหนาคว้าเข้าไว้
“เอ้! อะไรอ่ะพี่ผมจะไปเอาตัวจุนซูมา” ฮยองจุงพูดทั้งที่ยังไม่หันกลับมามองว่าเป็นใครที่จับตัวเองไว้
“อิจฉา หรือว่า หึงล่ะคุณหน้าหวาน” ฮยองจุงได้ยินเสียงนี้ก็รู้ทันที่ว่าใครรีบหันกับมาอย่างเร็ว
“เห้!!มาได้ยังไงเนี่ย!”
“ ฮ่า ฮ่า แล้วทำไมผมจะมาไม่ได้ล่ะ คุณหน้าหวาน” ฮยองจุงพยามแกะมือของชางมินออกแต่ก็ไม่เป็นผล
“ปล่อย! และก็เลิกเรียกฉันแบบนี้สักที่ฉันไม่ชอบ!”ฮยองจุงตะโกนเสียงดัง ชางมินยักไหล่ขึ้นเล็กน้อย
“แต่ผมชอบมีอะไรมั้ยคุณหน้าหวาน”ชางมินตอบกวนๆ ฮยองจุงไม่รู้จะทำยังไงหันไปหาฮีชอลหวังจะให้ช่วยแต่ก็ไม่เจอ
“พี่อะหายไปไหนอีกล่ะ!”ฮยองจุงสถบออกมาเบาๆ พยามส่งส่ายสายตาหา ฮีชอล จนชางมินหัวเราะออกมาในทางกล้ากลัวของฮยองจุง
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!.” ฮยองจุงหันกลับมามองชางมินด้วยสายตาเคืองๆ
“หัวเราะอะไรห๊า!ไอ้โย่ง!” ฮยองจุงตะโกนเสียงดังจนทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านหันมามอง ชางมินยิ้ม ก้มลงมาเกือบจะชิดกับใบหน้าของร่างบาง จนฮยองจุงต้อเบียงหน้าหลบ
“หัวเราะคนหน้าหวานไง”ชางมินตอบกวนๆ
“ปล่อย!ฉันจะไปทำงาน!” ฮยองจุงพยามจะแกะมือของชางมินให้หลุดออกแตไม่เป็นผล ชางมินกระชับมือให้แน่นขึ้นแล้วดึงให้ฮอยงจุงเดินตามไปด้วยโดยที่ไม่สนใจว่าร่างบางจะตะโกนโวยวายอะไร
“ปล่อยนะจะพาฉันไปไหน! ปล่อยดิไอ้โย่ง!” ชางมินลากฮยองจุงผ่านหน้าฮีชอลที่ตอนนี้ยืนมองงงกลับการกระทำของชางมิน
“นี้เจ๊ ของยืม คนหน้าหวานหน่อยนะ เดี๋ยวจะเอามาส่ง”พูดจบชางมินก็ลากฮยองจุงไปโดยที่ฮีชอลยังไม่ทันได้พูดสักคำ
“พี่! ช่วยผมด้วยสิ !น้องชายพี่มันเป็นบ้าไปแล้ว! พี่ พี่ !”
“จะช่วยยังไงล่ะแก เวลาไอ้ชางมินบทมันจะบ้าใครจะห้ามมันได้ล่ะ สงสัยฉันจะมีน้องสะไภ้ก็วันนี้ล่ะมั้ง หึ หึ” ฮีชอลหัวเราะขึ้นเบาๆ
“ว่าไงเออิตะ งานมีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ”ฮีชอลถามขึ้นในขณะที่ตัวเองนั่งลงข้างๆเออิตะ ร่างโปร่งหันมายิ้มให้ฮีชอล
“ก็ โอเคนะไม่มีปัญหาอะไร” เออิตะตอบเสียงเรียบ โดยที่ตัวเองยังคงง่วงอยู่กับกล้อง ฮีชอลนั่งมองเลยไปที่ยูชอนกับจุนซูนั่งอยู่ ฝั่งตรงข้าม
“เออิตะนายบอก แจจุงหรือยังว่า นายเป็นลูกพี่ลูกน้องกับยูชอน.” เออิตะได้ยินที่ฮีชอลถามก็หยุดนิ่ง วางกล้องลงที่โต๊ะแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆและเป่าปากออกมา
“ฟู่ ยังครับ”เออิตะตอบเสียงเบา
“อืม..นายไม่กลัวไอ้แจมันจะโกรธเหรอถ้ามันมารู้ที่หลัง.ว่านายปิดมัน” เออิตะนิ่งสายตามองมายังจุนซูกับยูชอนที่คุยกันอย่างสนุกสนานไม่สนว่าคนรอบข้างว่าจะทำอะไรกัน
“กลัว” เป็นคำตอบสั่นๆที่เออิตะพูดออกมา ฮีชอลถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ฉันไม่อยากถามเหตุผลที่นายไม่ยอมบอกแจจุงหรอกนะแต่ถ้านายทำให้แจจุงกับจุนซูต้องเจ็บปวดล่ะก็ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่” ฮีชอลพูดเสียงเรียบแต่ดูจริงจัง
“ผมทราบครับ ผมรู้ผมถึงต้องทำแบบนี้และผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำมันดีที่สุดแล้วครับ และตอนนี้ผมก็มั่นใจว่ายูชอนไม่กล้าทำร้ายจิตใจของจุนซูแน่” เออิตะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ฮีชอลได้ยินที่เออิตะพูด ก็ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยเหมื่อนกับพอใจในสิ่งที่เออิตะพูด
“งั้นก็ดีแล้ว จำคำที่นายพูดไว้ก็แล้วกัน” ฮีชอลลุกขึ้นยืนแล้วตะโกนบอกทีมงานให้เก็บของกลับเพราะพวกขาลงมาปักหลักกันตั้งแต่เช้าเพราะมาถ่ายทำนอกสถานที่ใกล้ๆกับโรงแรม
“เอาล่ะทุกคนกลับกันได้แล้ว แล้วช่วงค่ำเราจะมีงานปาร์ตี้เล็กๆกันแล้วพรุ่งก็หยุดหนึ่งวัน”ฮีชอลตะโกนบอกทีมงานทุกคน ฮีชอลพูดจบแล้วเดินมาหาจุนซูที่นั่งอยู่ข้างๆยูชอน
“ว่าไงเราวันนี้เหนื่อยมั้ย” ฮีชอลถามจุนซู
“ไม่เลยฮะสบายมากครับ” จุนซูยิ้มให้ฮีชอล
“พรุ่งนี้หยุดเราอยากจะไปเที่ยวที่ไหนหรือเปล่าเดี๋ยวน้าจะพาไป”
“เออ คือว่าผม ” จุนซูพูดอ่ำอึ่ง แล้วหันไปมองหน้ายูชอนเหมื่อนจะขอคำตอบ ฮีชอลเห็นก็ยิ้มที่มุมปากแต่ก็ยังคงยืนเฉยจะรอดูว่าจุนซูจะตอบว่ายังไง
“คือพรุ่งนี้ผมจะพาจุนซูจะไปเที่ยวครับ” เป็นยูชอนที่พูดขึ้นก่อน ฮีชอลยิ้ม
“ออ..งั้นเหรอ อืมก็ดี จุนซูยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย งั้นฝากด้วยนะคุณ ยูชอน เอาล่ะไปพักผ่อนได้แล้วเดี๋ยวค่ำๆลงมางานเลี้ยงด้วยนะ ” ฮีชอลพูดจบก็เดินกับไปดูทีมงานที่กำลังเก็บของอยู่
“ไปกันหรือยังจุนซู” ยูชอนหันมาถามจุนซู ร่างบางหันมายิ้มให้ยูชอน
“ไปสิฮะ ที่นี้หนาวจะตาย ฟู่ ฟู่”จุนซูยกมือขึ้นมาถูแล้วเป่าลงไปที่มือ ยูชอนเห็นก็เลยเอื่อมมือมาจับมือจุนซูไว้
“หนาวเหรอ” จุนซูยิ้มแล้วพยักหน้า ยูชอนจับมือของร่างบางไว้ แล้วฉุดให้ลุกขึ้นร่างโปร่งจับมือจุนซูให้เดินตามไปโดยทีมืออีกข้างหนึ่งของร่างบางอยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ทของยูชอนโดยที่ยูชอนจับมันไว้แน่น
“อุ่นขึ้นบางมั้ยจุนซู” ยูชอนถามด้วยเสียงอันอ่อนโยน
“ฮะ”จุนซูตอบเสียงเบา ตอนนี้อุณหภูมิภายในร่างกายของจุนซูมันร้อนผ่าวไปทั้งตัว และไหนจะหัวใจอีกที่มันเต้น ตึกตัก ตึกตัก จนแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ยูชอนเห็นท่าทางของจุนซูก็อดยิ้มไปได้ ไหนจะแก้มที่แดงระเรื่อ ไหนจะริมฝีปากบางสีชมพูที่น่ากดจูบลงไปสะจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในที่สาถารณะล่ะก็ เขาคงจับจุนซูจูบไปแล้วโทษฐานที่ทำตัวน่ารักเกินห้ามใจ ยูชอนได้แต่คิดอยู่ในใจ ร่างโปร่งพาจุนซูเดินเข้าไปในลิฟท์
ฟอด! อยู่ๆจุนซูก็ถูกดึงเข้าไปกอดพร้อมแก้มที่ถูกหอมจนเสียงดัง
“ยูชอนอ้า!ฉวยโอกาสอีกแล้วนะ”จุนซูยกมือขึ้นมาจับแก้มของตัวเอง ยูชอนหัวเราะ
“ฮ่า ฮ่า ก็จุนซูอยากน่ารักทำไมล่ะ” พูดไม่พูดเปล่ายูชอนยังก้มลงหอมไปที่แก้มของจุนซูอีก
ฟอด!
TBC 13
ความคิดเห็น