คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Lost for love ♥ Chapter 6
Chapter 6 : กอด
“ใบบอน! ใบบอนลูก” ผู้เป็นป้าตะโกนเรียกเด็กหนุ่ม
“มาแล้วฮะ มาแล้ว” หนุ่มน้อยเดินขยี้ตาเข้ามาด้วยสีหน้าง่วงงุน
“พี่บัวโทรมาแน่ะลูก”
ได้ยินดังนั้น เจ้าหนุ่มน้อยที่ดูเหมือนว่าถูกความง่วงสะกดไว้ก่อนหน้านี้ รีบวิ่งพรวดเข้ามาคว้าโทรศัพท์จากมือผู้เป็นป้าแทบจะในทันที
“พี่บัว! พี่บัว..” ดูเหมือนมีสิ่งต่างๆมากมายพรั่งพรูเข้ามาในความคิด เขาไม่รู้จะพูดอะไรก่อนดี
“ว่าไง ตัวแสบ”
“พี่บัวโทรมาทำไม!”
“อ้าว พูดงี้หมายความว่าไงเนี่ย บอน”
“พี่บัวหายไปตั้งหลายอาทิตย์ พี่ทิ้งบอนไปแล้วก็ไม่ติดต่อมา เพิ่งคิดได้เหรอว่ามีน้องชายอยู่อะ” แล้วเจ้าตัวแสบก็เริ่มงอแงและหาเรื่อง
“พี่ขอโทษ มีปัญหานิดหน่อย ขอโทษจริงๆนะ”
“รู้มั้ยว่าบอนกับคุณป้าเป็นห่วงพี่ขนาดไหน” ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มเบะ ขอบตาร้อนผ่าว ความคิดถึง ความดีใจที่ได้ยินเสียงพี่สาวที่รัก มันทำให้ใบบอนไม่สามารถกลั้นความรู้สึกไว้ได้
“พี่ขอโทษ พี่มีปัญหาจริงๆนะบอน อย่าโกรธนะจ้ะ”
“งือ แล้ว..แล้วพี่บัวเป็นยังไงบ้าง”
“ตอนนี้ก็สบายดี แล้วเราล่ะ”
“ก็ดีอ่ะ เดี๋ยวนี้บอนกลับบ้านเร็วแล้วนะ”
“ดีแล้ว ดูแลคุณป้าให้ดีๆล่ะรู้มั้ย” ใบบัวเอง ตอนนี้ก็เริ่มเสียงสั่นเหมือนกัน ด้วยความคิดถึงบ้าน คิดถึงคุณป้าและใบบอน ยิ่งได้ยินเสียงสั่นๆของน้องชายตัวแสบ มันยิ่งทำให้ใบบัวรู้สึกผิดและเจ็บปวด
“อยู่แล้วน่า ไม่ต้องห่วงหรอก ระดับนี้แล้ว.. เฮ้อ พี่บัว บอนอยากกินข้าวต้มฝีมือพี่บัวจัง พี่บัวกลับมาหาบอนเร็วๆนะ”
ใบบัวอึ้งไป เธอรับรู้ได้ว่าเจ้าน้องชายของเธอเหงาแค่ไหนเวลาเธอไม่อยู่ รับรู้ได้ถึงความคิดถึงอย่างมากมาย แล้วน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้มันก็ไหลออก ทำให้ยูชอนที่นั่งอยู่ข้างๆตกกะใจแว๊ก ทำอะไรไม่ถูก ที่อยู่ๆยัยนี่ก็ร้องไห้
“พี่บัว เงียบทำไมอะ พี่บัว”
“อะ.. จ้ะ แล้วพี่จะรีบกลับนะ” ใบบัวรับคำอย่างคิดหนัก เธอจะกลับตอนนี้ก็คงไม่ได้ ตั้งแต่เกิดเรื่องในวันนั้น ทำให้เธอพลาดชั้นเรียนที่สมัครไว้ จนต้องทำเรื่องใหม่ กว่าจะเข้าเรียนได้อีกทีก็อีกหลายเดือน
“พี่ต้องวางแล้วนะบอน ไว้คุยกันใหม่นะ” เสียงใสพยายามทำให้มันสั่นน้อยที่สุด เพื่อไม่ให้คนปลายสายรับรู้ได้ว่าเธอกำลังร้องไห้
“จะวางแล้วเหรอ ไม่เอาอะ”
“เถอะน่า โตเป็นหนุ่มแล้วก็อย่าดื้อสิ”
“อื้อ แต่พี่บัวต้องโทรมาบ่อยๆนะ”
“จ้า ฝากบอกคุณป้าด้วยว่าไม่ต้องห่วง พี่รักบอนนะ บ๊ายบายจ้ะ”
“บายฮะ” ใบบัวกดวางโทรศัพท์ มองมันนิ่งนิดนึงแล้วจึงส่งคืนให้ยูชอน
“ขอบคุณนะ”
หลังจากนั้น ใบบัวก็นั่งร้องไห้ น้ำตาที่คิดว่ามันจะหยุดไหล กลับไม่หยุด ..คิดถึงบ้านจัง ฮือ.. ยูชอนที่ตอนนี้หน้าเหวอไปแล้ว รีบลนลานหาทิชชู่มาให้
“เป็นอะไร อย่าร้องสิ”
“ฉัน..” พูดอะไรไม่ออก นอกจากสะอื้นฮักๆ
“ฉันไม่ชอบน้ำตาผู้หญิงเลย” เขาบอกพร้อมส่งทิชชู่ให้
“ขอโทษ แต่.. แต่มันห้ามไม่ได้นี่” ใบบัวซับน้ำตา
“ใจเย็นๆนะ คิดถึงบ้านใช่มั้ย” เสียงทุ้มแสนอ่อนโยนถามใบบัว
หญิงสาวพยักหน้าแรงๆแทนคำตอบ
“ฉันเข้าใจ ครอบครัวของฉันก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ว่าฉันมาอยู่ที่เกาหลีก็เพื่อทำในสิ่งที่ฉันรัก ฉันรู้ว่าพวกเขาคิดถึงฉัน เหมือนที่ฉันก็คิดถึงพวกเขา แล้วฉันก็เชื่อว่าถ้าครอบครัวของเธอรู้ว่าเธอร้องไห้อย่างนี้ พวกเขาต้องเป็นห่วงเธอมากแน่ๆ ฉะนั้นเธออย่าร้องไห้เลยนะ เข้าใจมั้ย สาวน้อย” น้ำเสียงอ่อนโยนของยูชอน ยิ่งทำให้ใบบัวอยากร้องไห้มากขึ้นไปอีก แต่ยังไง ใบบัวก็พยักหน้ารับคำยูชอนหงึกๆอยู่ดี
“ว่าแต่เมื่อกี๊เธอคุยกับใครเหรอ”
“น้องชาย”
“อ่า ฉันก็มีน้องชาย”
“พวกเราเป็นพี่คนโตเหมือนกันแหะ” ใบบัวหันมองมายิ้มๆ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของใบบัว ทำให้ยูชอนอยากจะเข้าไปกอดผู้หญิงคนนี้เพื่อปลอบใจเหลือเกิน ทำไมเธอถึงบอบบางขนาดนี้นะ
“เล่าเรื่องของเธอตอนอยู่เมืองไทยให้ฟังหน่อยสิ” เขาลุกขึ้นพร้อมกับยื่นมือมาให้ใบบัว
ใบบัวมองมือใหญ่ของยูชอนที่ส่งมาให้ เธอยิ้มรับแล้วยื่นมือส่งไป ยูชอนจูงใบบัวออกไปยืนที่ระเบียงหน้าบ้าน เพื่อให้ใบบัวสบายใจ ยูชอนชวนใบบัวคุยสารพัด ท่าทางตลกๆที่แสดงออกมา ทำใบบัวหัวเราะได้ ซึ่งสิ่งที่เขาทำ มันทำให้เธอซาบซึ้ง
..ทำไมนายถึงใจดีและอบอุ่นอย่างนี้ล่ะ ยูชอน..
ภาพของคนทั้งคู่ ที่ยืนหัวเราะร่วนด้วยกันก็ไม่พ้นสายตาของชายหนุ่มอีกสี่คนที่ยืนหลบหลืบแอบมองซุบซิบงึมงัมไปได้
“ฉันว่ายูชอนติดยอนฮวาเหมือนกันแหะ” แจจุงบอกพลางจับจ้อง
“ฉันไม่ยอมหรอก ฉันจะขัดขวาง” จุนซูฮึดฮัด
“พี่จุนซูพูดอย่างนี้ไม่ดีนะครับ เกรงใจคนแถวนี้หน่อย” ชางมินหัวเราะหึ แล้วก็เหลือบมองยุนโฮหน่อยนึง
“เกรงใจใคร! ใคร? ใคร? ใคร?” เรื่องอะไรล่ะ เขาไม่ยอมหรอกนะ
“ผมก็พูดไปงั้นแหละ”
“ฉันจะไปขัดขวาง” แล้วจุนซูก็ถลาเข้าไปทันที แจจุงจะคว้าตัวไว้ก็ไม่ทัน พอจะหันไปเรียกยุนโฮ แต่เขาหายไปซะแล้ว
“ยอนฮวา ไปเล่นเกมส์กัน” จุนซูเดินเข้าไปแทรกตรงกลางระหว่างใบบัวกับยูชอน แถมใช้ก้นเบียดยูชอนอีกตะหาก
“เฮ้! นายไม่มีมารยาทรึไง ไม่เห็นเหรอว่าเราคุยกันอยู่” ยูชอนหันไปว๊ากใส่จุนซู
“แล้วไง ยอนฮวาไม่ใช่ของนายนะ ..ไปกันเถอะ” แล้วจุนซูก็มาลากใบบัวออกไป แต่ยูชอนไม่ยอม มาดึงมือใบบัวอีกข้าง
“ไม่ได้!” เอ่อ รู้สึกเหมือนจะมีกระแสไฟฟ้าลั่นเปรี๊ยะๆผ่านสายตาของคนทั้งสอง ใบบัวมองสองคนนี่ไปมาอย่างนึกขำ
“ฉันว่าพวกนายน่ะเลิกกวนยอนฮวาจะดีกว่านะ” แจจุงเดินเข้ามาห้ามทัพ
“นั่นสิฮะ” ชางมินตามมาช่วยอีกแรง เพราะปวดหัวแทน
“ยุ่งน่า! ก็ฉัน..”
“ไปเล่นเกมส์กัน” ใบบัวรีบชวนจุนซู ก่อนที่เขาจะจุดชนวน เพราะยูชอนน่ะตั้งท่ารอรับทุกกระบวนท่าของเขาอยู่แล้ว และเสียงร้องดีใจกับสายตาเยาะเย้ยที่ส่งไปให้ยูชอนนั้น นับว่าเธอเปลี่ยนประเด็นได้ตรงจุดพอดี
แล้วจุนซูกับใบบัวก็เริงร่าไปเล่นเกมส์กันสองคน โดยมียูชอนกับแจจุงมองตาม จุนซูเป็นคนที่สดใส ยิ่งพอมาอยู่กับใบบัว ยิ่งทำให้บ้านที่บางทีมันก็เงียบเหงา กลับมาสดใสมากขึ้นอย่างน่าประหลาด ซึ่งชายหนุ่มทั้งห้านั้นไม่มีใครรู้ตัวเลยว่าผู้หญิงต่างชาติคนนี้ ค่อยๆเข้าไปอยู่ในหัวใจของพวกเขาซะแล้ว
ใบบัวที่นั่งเล่นเกมส์กับจุนซูมาพักใหญ่ หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นยุนโฮ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไร จนแจจุงเรียกให้ทุกคนมากินข้าว
“ข้าวเสร็จแล้วนะ มากินกันได้แล้ว”
“อ่า ไปกินกัน” จุนซูที่สดใสได้ทุกสถานการณ์ร้องขึ้น แล้วฉวยมือใบบัวลุกขึ้นทันที
“แล้วยุนโฮล่ะ” แจจุงถามหากับชางมิน
“อยู่บนห้องมั้งฮะ เดี๋ยวผมไปตามให้”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปตามเอง”
ใบบัวหันไปบอกชางมิน แล้ววิ่งดุ๊กๆขึ้นบ้านไป แต่พอเปิดประตูห้องของแจจุงก็ไม่เจอ พอเขายกห้องนอนให้เธอ เขาก็ย้ายไปอยู่กับแจจุงแทน แต่ก็ไม่ได้ย้ายของไปไหน เพราะตั้งแต่วันที่เห็นเค้าเปลือยท่อนบนวันนั้น มันทำให้ใบบัวกลัวการตื่นจริงๆเลย ความจริงมันไม่ได้เลวร้ายหรอกนะ แต่มันร้อนแรงเกินไปต่างหาก! ..ก็แหม ใครจะคิดล่ะ เห็นในทีวีผอมๆอย่างนั้น ไม่คิดว่าจะล่ำขนาดนี้ ไม่ไหวๆ ของเขาแรงจริงๆ.. แค่คิด ใบบัวก็จะเลือดพุ่งแล้ว
ใบบัวเคาะประตูห้องของยุนโฮที่ยกให้เธอนอนเบาๆ เพราะคิดว่าเขาคงอยู่ที่นี่แน่ หลังจากที่หาที่ห้องของยูชอน ชางมินและจุนซูก็ไม่เจอ แล้วค่อยๆแง้มประตูออก ภายในห้องมืดสลัว มีเพียงโคมไฟหัวเตียงดวงเดียวที่เปิดอยู่เท่านั้น
“อะ เอ่อ..” ใบบัวส่งเสียงนิดนึง เธอค่อยๆปิดประตูอย่างเบามือ ไม่รู้ว่ายุนโฮหลับอยู่รึเปล่า คนตัวสูงนอนหันหลังให้เธออยู่บนเตียง เสียงโวยวายข้างล่างเล็ดลอดเข้ามาให้ได้ยินเพียงเบาๆ
“ยุนโฮ ข้าวเย็นเสร็จแล้วนะ”
“...” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
..สงสัยคงหลับละมั้ง.. แล้วใบบัวก็ตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ เธอเดินอ้อมมาทางที่เขาหันหน้า แล้วนั่งลงกับพื้น มองหน้าคนตัวสูงที่นอนหลับตาพริ้มอยู่
“นายนี่ก็หล่อเหมือนกันแหะ” ใบบัวพึมพำเบาๆ
“แต่เวลานายหน้าบึ้งน่ะ น่าเกลียดมากเลย ทำไมถึงชอบดุฉันด้วยนะ ชิ แบร่!” ใบบัวแลบลิ้นใส่ แล้วก็นึกขำตัวเองที่ทำอะไรบ้าบอแบบนี้ แต่ก็นะ ถ้าเขาตื่นอยู่ เธอคงไม่มีโอกาส
“นี่ ถ้านายหาเรื่องฉันน้อยลงกว่านี้ นายจะเป็นคนที่น่ารักมากเลยรู้รึเปล่า” ใบบัวก็ยังคงพูดเจื้อยแจ้วไปเรื่อย
“ไม่สบายรึเปล่าเนี่ย” ใบบัวยื่นมือไปแตะหน้าผากของยุนโฮเบาๆ
“ตัวก็ไม่ร้อนแหะ”
“นายเหนื่อยใช่มั้ย นายน่ะทำงานหนักมากเลย แล้วยังจะชอบทำอะไรซีเรียสอยู่เรื่อย จริงจังเข้าไปเถอะ เฮ้อ! หัดผ่อนคลายซะบ้างนะ ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงซะจริง ดูสิ ขนาดนอน คิ้วยังขมวดจนผูกเป็นเงื่อนตายได้แล้วเนี่ย” ใบบัวยิ้มขำ แล้วยุนโฮก็ลืมตาขึ้นมาทันที ทำให้ใบบัวชะงักกึก ตกใจถอยกรูดไปชนกำแพง ..อูย เจ็บ..
“นาย.. นายไม่ได้หลับหรอกเหรอ”
“เปล่า” ..โอย ตายละวา ฉันต้องตายแน่ๆ เขาได้ยินหมดแล้วใช่มั้ยเนี่ย กรี๊ด!
“คือ ฉันมาตามไปกินข้าวน่ะ ไปก่อนนะ” แล้วใบบัวก็รีบหนีไปทันที
“เดี๋ยว!” กึก! สองขาของใบบัวหยุดทันทีโดยอัตโนมัติ ตาเหลือกมองยุนโฮที่เดินเข้ามา ภายในห้องมันมืดจนไม่สามารถอ่านสีหน้าของเขาได้
“เมื่อกี๊..” คนตัวสูงเดินใกล้เข้ามาทุกที หัวใจของใบบัวเต้นตึกตัก ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนบ้างที่บังอาจสามหาวไปพูดกับคุณหัวหน้าวงอย่างนั้น
“ฉัน.. คือฉัน...” ดูเหมือนสมองจะไม่สั่งการอะไรเลย แม้กระทั่งคำพูดว่าจะต้องพูดอะไร
“!!!!” แล้วใบบัวก็ต้องตกใจกว่าเดิม เมื่อคนตัวสูงเข้ามาสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง หัวใจที่เต้นแรงอยู่แล้ว ตอนนี้มันทวีความแรงหนักขึ้นไปอีก
“เมื่อกี๊เธอพูดจริงเหรอ” ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ใกล้มาก ลมหายใจบางๆพร้อมคำพูดแผ่วเบาที่เป่ารดลงข้างหู ทำให้หญิงสาวแทบไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแล้ว หัวสมองว่างเปล่าไปหมด รับรู้ได้เพียงอ้อมกอดของคนตัวสูงกับเสียงหัวใจของเขา
“บอกฉันสิ” อ๊าก! ทำไมต้องทำเสียงเซ็กซี่ด้วยเนี่ย
“คือ..” ใบบัวคิดอะไรไม่ออกแล้วจริงๆ แม้แต่เสียงของเธอ มันก็เหมือนจะถูกดูดกลืนหายไป
“ที่ว่าเป็นห่วงน่ะ จริงเหรอ?” ยุนโฮกอดใบบัวแน่นขึ้น น้ำเสียงแผ่วเบาของเขาฟังดูเหมือนคาดคั้นคำตอบจากอีกฝ่ายอยู่หน่อยๆ
“นาย.. นายอย่าทำแบบนี้สิ” ใบบัวหันหน้าไปหายุนโฮทั้งที่ยังถูกเขากอดอยู่แต่ก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนตัวสูง เธอพยายามรวบรวมแรงทั้งหมดที่มี ดันตรงหน้าอกของเขาให้ออกห่าง แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ไกลจากเดิมเลย
“ฉัน..” เขาทำท่าเหมือนกับจะพูดอะไรบางอย่าง
“อ่า ปล่อยน๊า!” ใบบัวตัดสินใจดันสุดแรงจนหลุดจากอ้อมกอด แต่ดูเหมือนคนตัวสูงจะยอมปล่อยเองมากกว่า แล้ววิ่งออกจากห้องไปทันที
“โธ่เว้ย!” ยุนโฮทิ้งตัวลงนั่ง กำหมัดขึ้นมาทุบลงบนเตียง ..ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย..
ที่เขามาอยู่ในห้องนี้ เพราะเขาเพียงแค่อยากมาอยู่เงียบๆ เขาไม่รู้หรอกนะว่าทำไม ที่เขาเห็นยูชอนกับใบบัวอยู่ด้วยกัน หัวเราะกันแบบนั้น มันถึงรู้สึกหงุดหงิดจนแทบประสาทเสียขนาดนี้
..ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ ยัยตัวยุ่ง ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน พอได้ยินที่เธอพูด ความหงุดหงิดของฉันมันก็หายไป ฉันดีใจนะที่เธอคิดกับฉันแบบนั้น ว่าแต่ฉันใจร้ายกับเธอเกินไปใช่มั้ย? มันช่วยไม่ได้นี่ เธอชอบทำอะไรให้ฉันหงุดหงิดอยู่เรื่อย..
เมื่อออกมาจากห้อง ใบบัวแทบจะไม่มีแรงเดินต่อ เธอหยุดยืนพิงกำแพง มือเรียวทาบลงบนหน้าอก ฝ่ามือรู้สึกได้ถึงแรงสะเทือนของหัวใจ ใบบัวหายใจหอบถี่ราวกับวิ่งสี่คูณร้อยมา
..อะไรน่ะ เมื่อกี๊มันอะไรกัน..
..........................
ความคิดเห็น