คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Lost for love ♥ Chapter 5
Chapter 5 : ความรู้สึกดีๆ
เช้าวันใหม่ วันนี้อากาศก็ยังหนาวเหมือนเดิม ใบบัวงัวเงียตื่นขึ้นมา ซึ่งตอนนี้น่าจะสายพอสมควรแล้ว คงเป็นเพราะเมื่อคืนเธอนอนไม่ค่อยหลับเลย ก็อีตาคนใจร้ายนั่นน่ะสิ มากวนโมโหก่อนนอน หญิงสาวงัวเงียลุกขึ้นมา บิดขี้เกียจนิดนึง แต่พอลืมตาขึ้นก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น..
“กรี๊ดดดดดดด!!”
“เฮ้ย!” ยุนโฮตกใจกับเสียงร้อง
“นี่เธอ หยุดกรี๊ดซะทีสิ” แต่ใบบัวยังคงกรี๊ดต่อไป มือเรียวยกขึ้นมาปิดหน้าปิดตาตัวเอง
“นี่!” ยุนโฮเดินเข้ามาจับไหล่ใบบัวไว้ แล้วเขย่าเพื่อเรียกสติ
ใบบัวพอตั้งสติได้ ก็ค่อยๆเปิดนิ้วทีละนิ้วขึ้นมาดู ภาพคนตัวสูงทำหน้าตาเซ็งๆมองมายังเธอ แต่..เขาไม่ใส่เสื้อ! เขายังไม่ใส่เสื้อ! ก็เพราะอย่างงี้น่ะสิ จะไม่ให้กรี๊ดได้ยังไงกัน ตื่นมาก็เจอผู้ชายเปลือยท่อนบนแต่เช้า
“นาย...”
“เธอจะกรี๊ดทำไมกัน?”
“กรี๊ดดดดดดด!!”
“เฮ้ย!” เขาตาเหลือกเมื่อโดนกรีดร้องใส่หน้าอีกครั้ง
“ไปเลยนะ คนลามก คนทุเรศ” แล้วพายุหมอนก็พัดใส่ยุนโฮทันที
“เธอเป็นบ้าอะไรเนี่ย!” ยุนโฮไม่ยอมง่ายๆ เขาเดินฝ่าพายุหมอน หมอนข้าง ผ้าห่ม และตุ๊กตาเข้ามาหาใบบัว
“นี่! เงียบนะ” เขาเข้ามาประชิดใบบัวที่หลับหูหลับตาเขวี้ยงของบนเตียง
“ไม่ ออกไปนะ คนบ้า น่าเกลียดที่สุด!”
“หยุดนะ ฉันเตือนเธอแล้วใช่มั้ย”
“ไม่! ออกไปเลย อย่ามายุ่งกับฉัน” ยัยใบบัวยังคงโวยวาย
“ถ้าไม่หยุดฉันปล้ำเธอแน่”
แล้วมันก็ได้ผล ใบบัวชะงักทันที ตาเหลือกหันมามองคนตัวสูงที่ยังคงไม่ใส่เสื้อ รูปร่างสมส่วน มีมัดกล้าม บ่งบอกถึงความแข็งแรงของคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี มือน้อยของใบบัวที่ถูกรวบเข้ามา ปลายนิ้วสัมผัสได้ถึงผิวตรงหน้าอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อหนาแน่น ภาพตรงหน้ามันช่างร้อนแรงนัก อีกทั้งสัมผัสเล็กๆที่มือน้อยรู้สึกได้ ทำให้หัวใจของใบบัวเต้นแรงจนแทบจะทะลุจากอก ใบหน้าของคนตัวสูงอยู่ใกล้เหลือเกิน ใกล้จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจ
“ไงแม่คนเก่ง ทีนี้เงียบได้แล้วใช่มั้ย” คนตัวสูงยิ้มกวนๆ
“ฉัน..” ไม่ทันจะจบประโยค ใบบัวก็สลบเหมือดไปซะแล้ว
“อ้าว! เฮ้ย! ยอนฮวา.. ยอนฮวา.. โธ่เว้ย” ยุนโฮพ่นลมหายใจ
“แกล้งแค่นี้ ถึงกับเป็นลมเลยเหรอเนี่ย” คนตัวสูงประคองร่างบางที่สลบไสลอยู่ในอ้อมกอดขึ้นมาวางไว้บนเตียงอย่างเบามือ นึกขำผู้หญิงตรงหน้าเสียจริง ก็เขาน่ะ ไม่คิดว่าเธอจะตื่นมาตอนเค้าเปลี่ยนเสื้อพอดีนี่นา ..ทำไมนะ ผู้หญิงคนนี้ทำไมอ่อนแอจัง แค่ถูกสัมผัสแค่นี้ก็เป็นลมซะแล้ว เธอช่าง.. อ่า! ฉันคงต้องคอยดูแลเธอใช่มั้ย ยัยตัวยุ่ง
“พี่ฮะ เกิดอะ..” ชางมินเปิดประตูผลั๊วะเข้ามาด้วยความตกใจที่ได้ยินเสียงใบบัวร้องลั่น แต่ก็ต้องชะงักกึกเมื่อเห็นยุนโฮไม่ใส่เสื้อนั่งมองใบบัวที่สลบอยู่บนเตียง ซึ่งยุนโฮเองก็ตกใจ รีบถอยกรูดไปจนเสียหลักลงไปกองกับพื้น
“พี่เป็นอะไรรึป่าวฮะ”
“ไม่เป็นไรๆ” ยุนโฮลุกขึ้นมาโบกไม้โบกมือบอกว่า ไม่ได้เป็นอะไร
“เอ่อ..” ชางมินพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะลำดับคำพูดยังไงที่จู่ๆก็โผล่เข้ามาได้จังหวะ นี่เขามาขัดจังหวะอะไรรึเปล่า? เขาหรี่ตามองยุนโฮอย่างมีเลศนัย
“มองอะไรของนาย” ยุนโฮทำเสียงเข้ม
“เปล่าฮะ ว่าแต่..ยอนฮวาเป็นอะไรเหรอ เมื่อกี๊ผมได้ยินเสียงร้องดังลั่นเลย”
“เหอะ! ก็ดันตื่นมาตอนฉันเปลี่ยนเสื้อพอดีน่ะสิ เลยตกใจจนเป็นลม”
“เหรอฮะ” ชางมินทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ เรื่องแค่นี้ทำให้ยอนฮวาเป็นลมเลยเหรอ จะเป็นไปได้ยังไงกัน
“เอ้า ไม่เชื่อก็ตามใจนาย” ยุนโฮพยายามทำขึงขัง หยิบเสื้อในตู้ แล้วเดินออกไปทันที ชางมินมองตามยุนโฮ แล้วหันกลับมามองใบบัวอีกที รอยยิ้มที่แฝงเลศนัยบางอย่างก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของคนแสนฉลาด
..โอ๊ย ปวดหัวจัง มาเกาหลีไม่กี่วันทำเอาฉันสลบไปกี่รอบแล้วเนี่ย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเป็นลมเลย เฮ้อ! มาเป็นกระหน่ำอะไรที่นี่เนี่ย.. ใบบัวเดินเขกหัวตัวเองโป๊กๆ เข้ามาในห้องครัวที่ชางมินกับยุนโฮนั่งอยู่
ยุนโฮเงยหน้าขึ้นมามอง ใบบัวหันไปเจอะเข้าพอดี ดวงหน้าหวานเลยแดงแปร๊ดขึ้นมาทันใด ส่วนยุนโฮก็ได้แต่อมยิ้ม ขำท่าทางเขินอายของใบบัว ส่วนชางมินน่ะเหรอ มองสองคนนี้สลับไปสลับมาโดยไม่พูดอะไร แล้วรอยยิ้มแฝงเลศนัยก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง
“นี่ ยอนฮวา” ชางมินเรียก
“หือ?” ใบบัวละสายตาจากชามข้าว เงยหน้าขึ้นมอง
“วันนี้เธอจะออกไปซื้อของรึเปล่า?”
“ก็ว่าจะไปนะ”
“แต่ตอนเย็นฉันไม่ว่างน่ะสิ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ เดี๋ยวฉันไปคนเดียวก็ได้”
“เธอจะไปคนเดียวได้ยังไงกัน” ชางมินทำเป็นขึ้นเสียงเหมือนกับมันเป็นเรื่องหนักหนา
“แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ”
“นั่นสิ เอ.. เอายังไงดีน๊า” เด็กหนุ่มตัวสูงลูบปลายคางไปมา ทำเป็นคิดหนัก
“หรือจะรอพี่ยูชอนล่ะ เดี๋ยวบ่ายๆเขาก็กลับมาแล้วล่ะมั้ง” พูดแล้วก็เหลือบมองยุนโฮหน่อยนึง
“อ่า ก็ได้มั้ง เมื่อวานเขาก็ชวนฉันไปน่ะ”
“ไม่ได้!” ยุนโฮโพล่งออกมาทันที
“อ้าว ทำไมละ” ใบบัวทำแก้มพอง
“เอ่อ ไม่ใช่ ฉันหมายถึง.. ยูชอนอาจจะกลับช้าก็ได้”
“อ่อ” หญิงสาวพยักหน้าหงึกๆ
“งั้น.. เดี๋ยวฉันพาไปเองก็แล้วกัน”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันไปเอง ไม่อยากรบกวนน่ะ”
“ทำไม! ทียูชอน เธอยังจะไปด้วยเลย” ยุนโฮโวยวายขึ้นมาซะอย่างนั้น
“ก็ฉัน..” ฉันเกรงใจนายจริงๆนี่นา แถมชอบทำหน้าหงิกแบบนี้ใครจะอยากออกไปด้วย ใบบัวคิด
“ไม่ต้องพูดแล้ว เอาเป็นว่า เธอต้องไปกับฉัน” แล้วยุนโฮก็ลุกออกไปจากห้องครัว
“อะไรของเขา” ใบบัวบ่นหน้างอ ชิ!คนเผด็จการ
ส่วนชางมินน่ะเหรอ นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปแล้วน่ะสิ หุหุ
ประตูสีขาวบานใหญ่ถูกเปิดออก พร้อมกับผู้ชายหน้าตาดีสามคนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าแสดงถึงความเหนื่อยและง่วง.. ชางมินหันไปมองยูชอนที่เดินกระย่องกระแย่งพาซากของตัวเองเข้ามาแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างแรง ตามมาด้วยซากของแจจุงและซากของจุนซู
“โอ๊ย! ฉันเกลียดการตื่นเช้า” ยูชอนโวยวายเป็นครั้งที่สี่ร้อยได้แล้วมั้งกับเรื่องการตื่นเช้า
“ขอชาให้พี่หน่อยสิ” แจจุงที่หมดเรี่ยวแรง นั่งแขนห้อยอยู่บนโซฟาเดี่ยวร้องขอชางมิน
“ฉันขอด้วย” จุนซูบอก
ไม่นานนัก ชางมินกลับมาพร้อมกับขวดชาเย็นเฉียบสองขวด เขาส่งมันให้ซากมนุษย์สองคน ที่แม้แต่แรงยืน ก็ยังแทบจะไม่มี
“แล้วยอนฮวาไปไหนล่ะ” ยูชอนถามขึ้น
“ไปกับพี่ยุนโฮน่ะ”
“ห้ะ!!”
“ไปไหนกัน พวกเขาไปไหนกัน” จุนซูที่เมื่อกี๊ยังเป็นซากอยู่เลย กลับกระเด้งตัวขึ้นมาโวยวายอย่างรวดเร็ว
“พี่ยุนโฮพายอนฮวาไปทำเรื่องพาสปอร์ต แล้วคงเลยไปซื้อของด้วยกันละมั้ง”
“ไม่นะ! ม่ายยย..” จุนซูโวยวาย ส่วนแจจุงที่ตอนนี้ไม่ได้สนใจอะไรแล้ว เพราะเหนื่อยเหลือเกิน มีเพียงความรู้สึกแปลกใจเล็กๆเท่านั้น
“แล้วทำไมไม่รอพวกฉันเนี่ย พวกฉันอุตส่าห์รีบกลับ” ยูชอนบ่นๆ ชางมินได้แต่ยิ้มรับ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
แล้วตอนนี้ยอนฮวากับพี่ยุนโฮจะเป็นยังไงบ้างนะ ชิมชางมินมองออกไปนอกหน้าต่าง นึกถึงคนสองคนที่อยู่ข้างนอกนั่น
โชคดีที่ตอนนี้อยู่ในช่วงหน้าหนาว การพรางตัวของยุนโฮ ดูจะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เพราะการใส่เสื้อผ้าหลายชั้น ปิดหน้าปิดตาบ้าง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
แม้ว่าอากาศหนาว แต่ผู้คนก็ยังคงเดินกันขวักไขว่ ยุนโฮเดินฝ่าผู้คนไปตามทางที่มีร้านรวงอยู่เต็มไปหมดทั้งสองข้างทาง โดยมีใบบัวเดินตามไปติดๆ แต่ด้วยความที่ไม่ชินกับอากาศหนาว ทำให้ขาของเธอเริ่มแข็ง การจะก้าวแต่ละที มันช่างยากเย็นเหลือเกิน คนตัวสูงค่อยๆเดินไกลออกไป ใบบัวอยากจะตามให้ทันแต่สภาพร่างกายไม่อำนวยจริงๆ ทั้งคนเยอะแบบนี้ก็มีสิทธิ์หลงกันง่ายๆ
ไม่ทันไรก็เป็นอย่างที่คิด ใบบัวหันซ้ายหันขวา ชะเง้อมองผ่านผู้คนก็ไม่เห็นร่างคนตัวสูงแล้ว ..จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย ฉันกลับบ้านไม่ถูกนะ.. หญิงสาวยืนเขว้งเหมือนคนหลงทาง เพียงแค่คลาดสายตาไปเพียงนิดก็ผลัดหลงกับเขาเสียแล้ว ตอนนี้ร่างเล็กเริ่มสั่นเทาด้วยความหนาว แต่สายตาก็ยังพยายามมองหาคนตัวสูงแต่ก็ไม่พบ
“นี่!” เสียงใหญ่ดังขึ้นจากด้านหลัง พร้อมคว้าแขนของเธอไว้
“เธอจะหยุดทำไมไม่บอก” ยุนโฮทำเสียงดุใส่ ..เธอไม่รู้รึไงว่าตอนที่หันไปไม่เห็นเธอ ฉันตกใจแค่ไหน
“เปล่านะ ฉันไม่ได้จะหยุด แต่ขาฉันมันก้าวไม่ออกนี่นา” หญิงสาวตอบเสียงอ่อย หลบสายตาคนตัวสูงที่มองมาอย่างเอ็ดๆ
“หนาวเหรอ?” คนตัวสูงถามกลับด้วยเสียงอ่อนลง เขารู้สึกถึงความสั่นดั่งลูกนกโดนน้ำฝนของคนตัวเล็กตรงหน้า
“อือ ก็ฉันยังไม่ชินกับอากาศบ้านนายนี่นา” ใบบัวบ่นๆ พลางเอามือที่กอดอกอยู่ลูบแขนตัวเองไปมา
“แล้วทำไมไม่บอก”
“ก็นายรีบเดินขนาดนั้น ฉันจะบอกอะไรได้เล่า” คนตัวสูงมองแก้มป่องๆของหญิงสาวที่มักจะชอบทำเวลางอนหรือบ่น
“อ่า ฉัน..” สงสัยเขาคงจะเดินเร็วไปจริงๆ เพราะเขามักจะชินกับการเดินเร็วๆในที่คนหมู่มาก โดยเฉพาะที่สนามบินที่รายล้อมไปด้วยแฟนๆของทงบังชินกิ
“ช่างเถอะ แล้วเราจะกลับกันได้รึยัง” หญิงสาวอยากจะกลับเต็มที เพราะหนาวจะแย่อยู่แล้ว
“ก็ซื้อของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นก็กลับได้แล้ว”
“นี่ก็ซื้อมาเยอะแล้วนะ เยอะอย่างนี้ ฉันจะหาเงินที่ไหนมาคืนนายกันเล่า”
“ฉันบอกรอบที่ร้อยแล้วนะ ว่าไม่ต้องมาคิดมากเรื่องนี้” ยุนโฮทำหน้าเซ็ง ยัยนี่พูดมากจริง บ่นเรื่องเงินอยู่ได้
“ก็ฉันไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณนายนี่”
“เธอไม่อยากเป็นหนี้ฉันใช่มั้ย? ก็ได้ ฉันจะให้เธอชดใช้ แต่ฉันไม่อยากได้เงินนะ”
“แล้วนายจะเอาอะไรล่ะ”
“คิดไม่ออก คิดออกแล้วฉันจะบอกเธอละกัน”
“โอเคๆ แล้วนี่จะไปได้รึยังเนี่ย ฉันหนาวจะแย่แล้วนะ”
“อ่า ไปๆ ขี้บ่นจริง” ใบบัวค้อนขวับใส่ยุนโฮ แล้วเดินออกไป
“นี่! เดี๋ยวสิ”
“อะไรของนายอีกอ่ะ” ใบบัวที่เดินนำไปก่อนแล้ว หยุดฝีเท้าแล้วหันมามองยุนโฮ
“เอาไป” ยุนโฮถอดเสื้อแจ็คเก็ตสีดำส่งให้ใบบัว หญิงสาวมองตามด้วยความประหลาดใจ
“เอามาให้ฉันทำไม”
“เธอหนาวไม่ใช่รึไง”
“แล้วนายไม่หนาวเหรอ”
“ฉันเป็นผู้ชายนะ พูดมากอยู่ได้ ใส่ซะ” เขายัดเสื้อใส่มือใบบัว แล้วเดินนำออกไป ใบบัวมองคนตัวสูงด้วยความรู้สึกเหมือนไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ปลื้มนิดๆ ..ทำไมต้องดุขนาดนั้นด้วย แล้วนายเป็นคนยังไงกันแน่ ผีเข้าผีออกกลับไปกลับมาจนฉันตามอารมณ์ไม่ทันแล้วนะ เฮ้อ! แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ นายยุนโฮ..
“นี่! จะเดินมามั้ยเนี่ย” ยุนโฮหันกลับมาเรียกใบบัว ใบหน้าของคนตัวสูงมีสีแดงเรื่อๆ แต่หญิงสาวคงไม่เห็นเป็นแน่ แล้วใบบัวก็รีบเดินตามคนตัวสูงไป
“ส่งมือมาสิ”
“หือ?”
“ฉันบอกให้ส่งมือมาไงเล่า” ใบบัวงงๆ แต่ก็ยื่นมือไปให้ยุนโฮ มือใหญ่จับมือเรียวเล็กนั้นไว้ทันที
“นี่! ปล่อยนะ มาจับมือฉันทำไมเนี่ย” ใบบัวสะบัดมือไปมา
“เงียบเถอะน่า หนาวไม่ใช่รึไง อีกอย่าง ฉันกลัวเธอหลง ยิ่งเอ๋อๆอยู่ด้วย”
“ใครเอ๋อไม่ทราบ”
“อย่าโวยวายได้มั้ย ฉันรำคาญ”
“นี่นาย..” แต่ก่อนที่ใบบัวจะได้พูดอะไรต่อ ยุนโฮก็หันมาทำหน้าดุใส่ ทำให้ใบบัวได้แต่โวยวายอยู่ในใจ
แล้วคนทั้งคู่เดินไปตามถนนเส้นยาวที่เต็มไปด้วยผู้คน แต่คราวนี้ใบบัวไม่กลัวหลงอีก เพราะมีมือใหญ่จับเธอไว้แน่น ความร้อนที่ส่งผ่านมาทางมือ ทำให้อากาศที่หนาวเย็นโดยรอบ อบอุ่นลงทันที หัวใจดวงเล็กๆของใบบัวเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอไม่เข้าใจเลยว่าเขาคิดอะไรของเขาอยู่ ทำไมกันนะ ทำไมผู้ชายคนนี้ ถึงชอบทำอะไรแบบนี้กับเธออยู่เรื่อย
และก็คงไม่ต่างอะไรกับคนตัวสูงที่หัวใจของเขาก็มีจังหวะในการเต้นที่ผิดไปจากเดิม จากที่เคยสงบนิ่ง กลับสั่นไหวอย่างไม่มีสาเหตุ เพียงเพราะมือน้อยๆที่เขาได้สัมผัส เพียงแค่นั้น..
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ดวงไฟตามร้านรวงสว่างไสว ใบบัวหันไปมองยุนโฮ คนตัวสูงหันกลับมา สบตากับคนตัวเล็กอย่างช่วยไม่ได้ ใบบัวส่งยิ้มให้เขาอย่างขอบคุณ รอยยิ้มที่แสนจริงใจ มันทำให้หัวใจของคนตัวสูงวูบไหวขึ้นมาเล็กๆ
“ขอบคุณนายมากเลยนะ”
“หืม ว่าไงนะ”
“เวลานายใจดี ก็น่ารักเหมือนกันนะ” ใบบัวพูดกับยุนโฮเป็นภาษาไทย
“พูดอะไรน่ะ” คนตัวสูงมองยัยตัวยุ่งด้วยสีหน้างงๆ
“ช่างมันเถอะ กลับบ้านกัน”
ภาพของตัวสูงจูงมือคนตัวเล็ก มืออีกข้างของทั้งคู่ต่างช่วยกันหิ้วถุงพะรุงพะรัง ดูน่ารักดี ผู้คนมากมายยังคงเดินผ่านพวกเขาไปมา นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ยุนโฮไม่มีโอกาสออกมาเดินแบบนี้ เดินท่ามกลางผู้คนมากมายโดยไม่ต้องเร่งรีบ ไม่มีบอดี้การ์ด ไม่มีแสงแฟลช ไม่มีนักข่าว ไม่มีคนที่พยายามเบียดเสียดกันเพื่อให้เข้าใกล้เขามากที่สุด ไม่มีแม้แต่คนที่จะสังเกตและจำเขาได้ด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะหญิงสาวข้างๆเขา เขาคงไม่รู้สึกมีความสุขและเหมือนได้รับอิสระขนาดนี้
..ขอบใจนะ ยัยตัวยุ่ง..
..........................
ความคิดเห็น