คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Lost for love ♥ Chapter 3
Chapter 3 : ความช่วยเหลือ
..โอย ปวดหัวจัง.. ใบบัวรู้สึกตัวตื่นขึ้น หญิงสาวขยับกายบิดขี้เกียจ ทั้งที่ยังหลับตาอยู่ แต่เริ่มนึกเอะใจได้ว่า นี่ไม่ใช่บ้านเธอนี่นา ใบบัวลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ สภาพห้องที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้ใบบัวกระเด้งตัวขึ้นนั่งโดยอัตโนมัติ หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นใครภายในห้องนั้น เธอสำรวจตนเองว่ามีอะไรผิดปกติไปรึเปล่าแต่ก็ไม่มี เธอยังอยู่ในสภาพเดิมทุกอย่าง ยกเว้นก็แต่เสื้อสเว็ตเตอร์สีชมพูที่ตอนนี้ถูกแขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้า
แกร๊ก! เสียงก๊อกแก๊กหน้าประตู ทำให้ใบบัวรีบหันไปมอง
ยูชอนเดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหาร หันมาเห็นใบบัวนั่งอยู่บนเตียงทำตาโตมองมาที่เขา คนเจ้าเสน่ห์เลยรีบส่งยิ้มกว้างให้ผู้ที่เพิ่งฟื้น
“ตื่นแล้วเหรอ” ใบบัวพยักหน้ารับ ..โอ้! ไม่ใช่ฝันนี่นา ทงบังชินกิ!?
“หิวรึยัง?” ยูชอนถาม น้ำเสียงใจดีบวกกับรอยยิ้มพิฆาต ทำให้ใบบัววางใจระคนใจสั่น
“ทำไมไม่ตอบล่ะ ไม่ต้องอายหรอก หิวแล้วล่ะสิ” เขายิ้มแป้น
“กินซะ แจจุงอุตส่าห์ทำให้เชียวนะ” ว่าแล้วก็ยกถาดยื่นไปให้คนตรงหน้า แต่ก็เปลี่ยนใจดึงกลับมาแล้วมองซ้ายมองขวา
“ไม่มีที่วางแหะ เดี๋ยวเธอกินไม่ถนัด ฉันป้อนให้ดีกว่า”
“มะ ไม่เป็นไร ฉันกินเองได้ ขอบคุณค่ะ” ใบบัวรีบแย่งชามอาหารจากมือยูชอนทันที ..แค่นี้ฉันก็จะแย่แล้ว อย่ามาป้อนเลย เดี๋ยวได้หัวใจวายตายก่อนแก่พอดี..
ใบบัวตักสิ่งที่หน้าตาเหมือนข้าวต้มในชามขึ้นมามองก่อนนิดนึงจึงค่อยทาน และด้วยความหิวใบบัวเลยหลับหูหลับตากินแบบลืมคนข้างๆที่นั่งยิ้มกริ่มมองเธอตาแป๋ว จนใบบัวรู้สึกตัวได้ หันไปมองพ่อคนเจ้าเสน่ห์
“หิวล่ะสิ กินใหญ่เลย อิอิ” แน่ะ! ยังจะมาหัวเราะอีก ใบบัวหน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาทันทีด้วยความเขิน
“นี่ เธอชื่ออะไรเหรอ”
“ใบบัว”
ใบบัวตอบทั้งที่อาหารยังเต็มปาก ทำให้ยูชอนหัวเราะก๊ากกับแก้มตุ่ยๆนั่น ..น่ารักดีแหะ..
“มีอะไรตลกเหรอ” ใบบัวมองยูชอนพลางเอามือลูบหน้าตัวเอง
“เปล่า” ถึงปากจะปฏิเสธแต่พ่อคนเจ้าเสน่ห์ก็ยังคงขำท่าทางตลกๆของใบบัวอยู่ดี แล้วก็ปล่อยให้เธอกินข้าวต่อไป โดยที่เขาก็ยังคงนั่งมองเธอกินข้าว ไม่ได้ลุกไปไหน
“ตกลงเธอชื่ออะไรนะ” ยูชอนถามขึ้นอีกที หลังจากเห็นว่าเธอกินข้าวหมดชามแล้ว
“ใบบัว”
“บาย บูว เหรอ?” ยูชอนพยามยามออกเสียงตาม ทำปากจู๋ๆดูน่ารักดี
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ ใบ-บัว” ใบบัวพยายามเน้นเสียง
“ใบ-บูว” ..เอาเถอะ ใบบูว ก็ใบบูว
“ออกเสียงยากจัง” ยูชอนบ่นเบาๆ
“อิ่มแล้วใช่มั้ย?”
“ค่ะ” แล้วยูชอนก็คว้าชามจากมือใบบัวไป
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเก็บเอง” ใบบัวดึงชามกลับมา แต่ยูชอนไม่ยอม ดึงกลับไปอีก ทั้งคู่ยื้อยุดกันไปมา
“แล้วเธอรู้เหรอว่าเก็บที่ไหน”
“คุณก็บอกฉันสิ”
“แต่เธอไม่สบายอยู่นะ”
“แต่ฉันเกรงใจนี่คะ” ใบบัวบอกเสียงอ่อย ทำให้ยูชอนยิ้มบางๆออกมา
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฉันทำให้เอง ไม่ต้องเกรงใจนะ พักผ่อนเถอะ” ยูชอนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ..เอ่อ ใกล้เกินไปแล้วนะ..
“นี่! ยู..” ยุนโฮเปิดประตูเข้ามาพอดีแล้วก็อึ้งไป ใบบัวรีบปล่อยมือจากชามข้าว แล้วถอยห่างออกไปทันที
“หืม” ยูชอนหันไปมองยุนโฮ
“เอ่อ แจจุงบอกว่านายยกข้าวมาให้..”
“ใบบูว”
“ห้ะ?”
“เธอชื่อ ใบบูว” ใบบัวที่ยืนฟังอยู่ก็แบบ.. ตกลงชื่อฉันกลายเป็นใบบูวแล้วใช่มั้ยเนี่ย ฟังดูคล้ายๆเรดบูล กระทิงแดงแรงข้ามทวีปจริงๆ
“นี่ยา กินซะ” แล้วยุนโฮเดินถือยากับแก้วน้ำมา ยัดใส่มือใบบัว
“ขอบคุณค่ะ” แต่ยุนโฮไม่ตอบ เขามองใบบัวนิดนึง แล้วเดินออกไป ..อะไรกันน่ะ สายตาแบบนั้น..
“อย่าไปถือเค้าเลย สงสัยคงอารมณ์ไม่ดี” ยูชอนบอกยิ้มๆ แล้วขยิบตาให้ใบบัวหนึ่งที ก่อนจะเดินตามยุนโฮออกไป
ใบบัวมองประตูที่ถูกปิดลง เธอยืนงงๆอยู่พักใหญ่ ทำตัวไม่ถูก ท่าทางของยุนโฮเมื่อกี๊นี้มันชวนให้อึดอัดใจ เขาไม่พอใจอะไรเธอรึป่าวนะเธอไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อไป แล้วเธอจะไปไหนต่อ เอายังไงกับชีวิตดี ตอนนี้เธอก็ปลอดภัยแล้ว เธอก็ควรจะขอบคุณพวกเขาแล้วก็ไปซะที แต่เธอไม่มีเงินติดตัวเลย เบอร์โทรศัพท์ของรินที่จดใส่กระดาษใบเล็กๆก็หายไป คิดแล้วก็อยากจะร้องไห้ ใบบัวหย่อนตัวนั่งลงบนเตียง ก้มหน้าลงช้าๆอย่างอึดอัด ..นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันต้องเจอกับเรื่องพวกนี้ด้วย.. แค่คิด น้ำตามันก็พาลจะไหลเอาดื้อๆ
“ฟื้นแล้วเหรอ ใบบูว!” เสียงแหบหวานสดใสของจุนซูทักขึ้น ใบบัวรีบปาดน้ำตาแล้วหันไปมองทันที
ภาพที่เห็นคือคนหน้าตาดีห้าคน เดินออกันเข้ามาในห้อง ..ตกลงฉันชื่อใบบูวไปแล้วจริงใช่มั้ยเนี่ย..
“อะ เธอร้องไห้เหรอ?” แจจุงตาไว สังเกตเห็นก่อน
“เปล่าค่ะ”
“ร้องไห้จริงๆด้วย” ชางมินเดินเข้าไปใกล้
“เป็นอะไร เล่าให้พวกเราฟังก็ได้นะ” ยูชอนเอ่ยอย่างอ่อนโยน ก่อนจะลงไปนั่งกับพื้นตรงหน้าใบบัว แล้วคนที่เหลือก็มานั่งล้อมเธอ ยกเว้นยุนโฮ ที่ยืนพิงกำแพงอยู่ห่างๆ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คือ..ฉัน..” ใบบัวนิ่งคิดไปสักพัก
“ฉันต้องขอบคุณพวกคุณมากนะคะ ที่ช่วยชีวิตฉันไว้ ฉันจะไม่ลืมบุญคุณนี้เลย” ใบบัวคุกเข่ากับพื้น ก้มหัวขอบคุณชายหนุ่มทั้งห้าที่ช่วยเธอเอาไว้ ทำเอาเหวอกันไปหมด
“แต่ฉันจะไม่รบกวนพวกคุณอีกต่อไปค่ะ ขอบคุณมากจริงๆที่ช่วยฉันเอาไว้ ฉันอยากจะตอบแทนน้ำใจที่มีให้ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ฉันไม่อยากเป็นภาระให้พวกคุณอีก”
“เอ่อ ใจเย็นๆนะ” แจจุงยิ้มแห้ง รู้สึกตั้งรับเธอไม่ค่อยทัน
“ถ้าเธอไปจากที่นี่แล้ว เธอจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ” ชางมินถาม ใบบัวส่ายหน้า เพราะเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปอยู่ที่ไหน คนทั้งสี่ที่นั่งอยู่มองหน้ากันไปมา ไม่รู้ว่าจะเอายังไงดี
“แต่ฉัน..จะไม่อยู่เป็นภาระพวกคุณแน่นอนค่ะ”
“เธอคิดว่า เธอจะไปจากที่นี่ง่ายๆงั้นหรอ” ยุนโฮที่ยืนเงียบฟังอยู่นานเอ่ยแทรกขึ้น
“คะ?” ใบบัวตกใจ ..ไปจากที่นี่ง่ายๆ.. หมายความว่ายังไง
“อย่าคิดอะไรเอาเองสิ พวกเราบอกเธอซักคำรึยังว่าเธอเป็นภาระ” ยุนโฮพูดเสียงดุ ขนาดคนทั้งสี่ที่นั่งอยู่ยังแอบสยอง
“เอ่อ ฉัน..”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันจะให้เธออยู่ที่นี่”
“แต่ว่า..”
“เธอไม่มีที่ไปไม่ใช่หรอ พาสปอร์ตก็ไม่มี เสื้อผ้าก็ไม่มี แม้แต่เงินก็ไม่มี ถ้าเธอไปตอนนี้ เธอจะทำยังไง?” ยุนโฮบอกเหตุผลที่ทำให้ใบบัวเถียงไม่ออก
“พวกคุณเป็นถึงนักร้องดัง ถ้าใครรู้เข้า พวกคุณก็ต้องเดือดร้อน”
“ไม่หรอก ที่นี่เป็นที่ส่วนตัว มีการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี คนที่ไม่ได้รับอนุญาตจะเข้าออกที่นี่ไม่ได้แน่” ชางมินเสริม
“ถือว่าตอบแทนเราเหมือนอย่างที่เธอพูด เธออยู่ที่นี่ ก็ช่วยดูแลบ้านให้เราด้วย ทั้งงานบ้านหรืออะไรก็ตามแต่ คิดซะว่าไม่ได้มาเป็นภาระ แต่มาแบ่งเบาภาระของพวกเราแทน เอาเป็นว่าพวกฉันจะช่วยเหลือเธอจนกว่าจะได้พาสปอร์ตใหม่ก็แล้วกัน” คุณหัวหน้าวงกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“พวกคุณไว้ใจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ท่าทางโก๊ะๆอย่างเธอ ฉันไม่กลัวหรอก ไม่ไว้ใจอยู่อย่างเดียวคือ กลัวทำข้าวของพัง” หนอย! อีตายุนโฮ เมื่อกี๊ยังพูดดีอยู่แท้ๆเลย
“ตกลงเธอว่ายังไง?” ยูชอนถามต่อ
“จะอยู่กับพวกเรามั้ย พวกเราอยากช่วยจริงๆนะ” จุนซูถามด้วยน้ำเสียงลุ้นๆ
“พวกเราไว้ใจเธอ แต่เธอจะไว้ใจพวกเรามั้ยล่ะ” แจจุงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเชื่อมั่น จนคนแปลกหน้าอย่างเธอก็อดแปลกใจไม่ได้ ว่าทำไมพวกเขาถึงได้เชื่อใจและดีกับเธอถึงขนาดนี้ ส่วนชางมินก็นั่งมองเธอยิ้มๆ รอคอยคำตอบ
“ค่ะ ขอบคุณสำหรับความกรุณา” ใบบัวยิ้ม แล้วโค้งคำนับอย่างงดงามเป็นการขอบคุณ
“เย้!” จุนซูดีใจออกนอกหน้า จนยูชอนยังอดหมั่นไส้ไม่ได้
“ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นกับเธอ” ชางมินถามขึ้น ทำให้ใบหน้าเปื้อนยิ้มของใบบัวนั้นเปลี่ยนไป จากนั้นเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อคืนให้ทุกคนฟัง เล่าไปน้ำตาก็จะไหลไป ใบบัวพยายามกลั้นน้ำตาอย่างที่สุด ความหวาดหวั่นยังคงอยู่อย่างแจ่มชัดเพราะเหตุการณ์เลวร้ายนั่นเพิ่งผ่านมาแค่คืนเดียว สีหน้าของคนทั้งห้าสลดลง รับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่ยังอกสั่นขวัญแขวนและสะเทือนใจของใบบัว พวกเขายังคิดเลยว่า ถ้าพวกเขาไม่มาเจอเธอ เธอจะมีสภาพเป็นยังไง
“เอาเถอะ เธอไปอาบน้ำก่อนก็แล้วกัน จะได้สบายขึ้น” ยุนโฮพูดขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศหดหู่นั่น แล้วเขาก็ไปเอาเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นของแจจุงมาให้ พร้อมกับแปรงสีฟัน ยาสีฟัน
“ส่วนพวกนาย ออกไปได้แล้ว” คนทั้งสี่พากันเดินต้อยๆออกไป พร้อมกับเสียงคุยกันวุ่นวายเกี่ยวกับใบบัว เมื่อออกไปกันหมด ยุนโฮถึงเดินตามออกไป ประตูกำลังจะปิดสนิท แต่แล้วเขาก็ผลักมัน แล้วยื่นหน้าเข้ามา
“ห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือนี่นะ” ใบบัวพยักหน้ารับ ยุนโฮจึงหันหลังกลับออกไป
“เอ่อ เดี๋ยวค่ะ”
“หือ?”
“ขอบคุณมากนะคะ” ใบบัวขอบคุณจากใจจริง พร้อมกับส่งยิ้มที่บ่งบอกถึงความรู้สึกนั้นออกมาอย่างจริงใจ ทำให้คนที่ถูกขอบคุณ หน้าแดงขึ้นมาบ้าง
ยุนโฮก้มหัวให้เป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร เขายิ้มให้เธอเป็นครั้งแรก รอยยิ้มอายๆนั่น มันทำให้หัวใจของใบบัวสั่นไหว ..เวลายิ้มก็น่ารักเหมือนกันแหะ ขอบคุณนะคะคุณยุนโฮ ขอบคุณจริงๆ..
เสียงเกมส์ที่จุนซูและชางมินเล่นอยู่ ดังสนั่นไปทั่วห้องปนกับเสียงตะโกนโวยวายของทั้งคู่ สร้างความรำคาญให้กับคนที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเสียเหลือเกิน
“พวกนายเบาๆหน่อยไม่ได้รึไง” แจจุงบ่นเข้าให้
“อะ เอ่อ..” ใบบัวในชุดของแจจุงที่ยุนโฮเอามาให้ ถึงแม้ว่ามันจะมาจากคนที่ตัวบางที่สุด แต่พอมาอยู่บนตัวของเธอ มันกลับดูหลวมโพรก จนใบบัวถึงกับต้องม้วนขอบกางเกงกันหลุด
“ใบบูว! เฮ้ย! ไม่นะ” จุนซูหันมาตะโกนเรียกใบบัวอย่างร่าเริง จึงทำให้เขาแพ้ชางมิน เขาเลยพาล ฟาดชางมินไปหลายที
“ไง สาวน้อย ทำตัวตามสบายนะ” ยูชอนที่ใส่หูฟัง ท่าทางอารมณ์ดี เดินมาจากทางด้านหลังใบบัว แล้วเลยไปนั่งข้างแจจุง
“มานั่งนี่มา” ยูชอนพูดพร้อมตบเบาะตรงที่นั่งว่างข้างๆตัวเขา ซึ่งใบบัวก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย แต่ก็รู้สึกแปลกๆที่ต้องมาอยู่บ้านร่วมบ้านกับผู้ชายห้าคน
“เป็นอะไร นั่งตัวเกร็งเชียว” แจจุงย่นคิ้ว
“เปล่าค่ะ”
“ชื่อเธอเรียกยากจัง มันแปลว่าอะไรเหรอ?” ยูชอนถาม ซึ่งตอนนั้นยุนโฮเดินเข้ามาพอดี เขาเข้ามานั่งเงียบๆอยู่ตรงโซฟาเดี่ยวอีกตัว ใบบัวหันไปยิ้มให้เขานิดนึง แต่เขากลับเมินไปซะนี่ ก็เลยได้แต่งงกันไป
“แปลว่า เอ่อ ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงอะค่ะ ฉันไม่รู้ว่าที่เกาหลีเค้าเรียกว่าอะไร มันเป็นใบ ใบของดอกไม้อะ ดอกที่อยู่ในน้ำ” ใบบัวทำมือเป็นรูปดอกบัว พยายามอธิบายเป็นภาษาเกาหลี แต่ดูเหมือนมันจะไม่สำเร็จ
“ภาษาอังกฤษก็ได้”
“โลตัสลีฟ”
“อ่า ใบบัว!”
“แปลว่าใบบัวเหรอ งั้นเราจะเรียกเธอว่าอะไรดี จะได้เรียกง่ายๆ” จุนซูเสียงใสมองคนทั้งห้าไปมา
“จินซู จินซูดีมั้ย จะได้คล้องกับจุนซูไง”
“หน่ะ! เงียบไปเลยจุนซู” แจจุงหันไปเม้งจุนซูที่ดี๊ด๊าเกินเหตุ ดูเหมือนเจ้าคนน่ารักนี่จะชอบหญิงสาวผู้มาใหม่เหลือเกิน
“อะไรดีล่ะ? เอาที่คล้องจองกับชื่อในภาษาไทยของใบบัวด้วยสิ” ยูชอนออกความเห็น ตอนนี้เค้าเริ่มออกเสียงชื่อเธอได้ชัดแล้ว
“ยอนฮวา ฉันจะเรียกเธอว่า ยอนฮวา” ยุนโฮบอก พร้อมทั้งหันมาจ้องที่ใบบัว ..สายตาแบบนั้น อะไรกัน? ทำไมใจฉันต้องสั่นด้วยเนี่ย
“อ่า แปลว่า ดอกบัวนี่นา” ชางมินพยักเพยิด
“ดีๆ เข้ากะชื่อของใบบัวด้วย”
“ตกลงตามนี้นะ ต่อไปเราจะเรียกเธอว่า..”
“ยอนฮวา!!” ชายหนุ่มทั้งสี่พูดพร้อมกัน เว้นก็แต่ยุนโฮเท่านั้น แต่นั่นก็ใบบัวหัวเราะได้อยู่ดี
..คนพวกนี้นี่ก็ตลกดีแหะ..
..........................
ความคิดเห็น