คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Lost for love ♥ Intro..
Lost For Love
บทนำ
ภายในห้องที่สาดส่องไปด้วยแสงสลัวสีส้ม หญิงสาวผมยาวสลวยนั่งชันเข่าอยู่บนโซฟาไม้สีเข้มที่บุด้วยนวมสีเขียวแก่ ในมือถือรีโมทกดปุ่มเปลี่ยนช่องไปมา ใบหน้าบูดบึ้งบ่งบอกถึงความเบื่อหน่าย
“ที่จบไปเมื่อกี๊นี้ ก็คือเพลง SHINE ของ TOHOSHI..”
“นายไสว คนงานไร่อ้อยพบปลาประหลาดขนาด..”
“สำหรับเพลงที่ได้อันดับหนึ่งประจำสัปดาห์นี้ตกเป็นของทงบัง.. ”
ใบบัวกดปิดทีวี โยนรีโมทลงข้างกาย สีหน้าบ่งบอกถึงความเซ็งสุดขีด ร่างบางในชุดเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงวอร์มสีดำดูสบายๆ ลุกไปจากที่ตรงนั้น เธอเดินวนไปมาสองสามรอบ พลางเหลือบมองนาฬิกาเรือนเก่าที่แขวนอยู่บนข้างฝา มันบอกเวลาอีกสิบนาทีก็จะตีหนึ่งแล้ว
“อะไรกัน ดึกป่านนี้แล้วยังไม่กลับอีก” หญิงสาวพ่นลม บ่นพึมพำถึงเจ้าน้องชายตัวแสบ
เสียงก๊อกแก๊กที่หน้าประตู ทำให้ร่างบางที่เดินหงุดหงิดไปมา หยุดหันไปมอง ในใจคาดโทษเจ้าคนเหลวไหลที่เพิ่งกลับบ้านมาเอาป่านนี้
“อ้าว! พี่บัว ยังไม่นอนอีกหรอเนี่ย” หนุ่มน้อยหน้าใส ถามคนเป็นพี่ที่ยืนกอดอกหน้าย่นอยู่ตรงหน้า
“ก็ยังอะสิ ทำไมกลับเอาป่านนี้ มันกี่โมงกี่ยามแล้วรู้มั้ยฮ๊า!”
“ขี้บ่นจริง” เจ้าคนน้องส่ายหัวน้อยๆ ขำท่าทางพี่สาวของตน แล้วเดินผ่านเจ้าหล่อนไปเฉยโดยไม่ได้สนใจ
“นี่! จะไปไหนน่ะ พี่อุตส่าห์คอยนะ”
“แล้วใครใช้ให้คอยกันเล่า” เจ้าคนเป็นน้องย้อนพี่สาว ..หึ! ยังจะกวนอีก เจ้าเด็กบ้า..
“ใบบอน!” ใบบัวกัดฟันกรอด แต่เจ้าเด็กเหลวไหลก็ไม่ได้สนใจอะไร เขาเดินตรงไปยังห้องครัวทันที เสียงค้นของในตู้เย็นโคร้งเคร้ง ทำให้ใบบัวเหลือบตาขึ้นหน่อยนึง เบะปากพ่นลมออกมาอย่างที่ชอบทำ
“ไม่ได้กินข้าวมาอีกแล้วละสิ” คนเป็นพี่ถาม แต่ยังคงวางฟอร์มทำเสียงเข้ม
“ยังอ่ะ” เจ้าตัวแสบตอบเสียงอ่อย สีหน้าท่าทางของหนุ่มน้อยนั้น เหมือนจะรู้ได้ในทันทีว่า พี่สาวของเขาน่ะ ถึงแม้จะทำเป็นดุขนาดไหน แต่ก็ต้องใจอ่อนกับเขาอยู่ดี
“อืม พี่ทำข้าวต้มไว้พอดี ไปตักสิ” ใบบัวบอกเหมือนกับว่า เจ้าหล่อนน่ะ บังเอิญทำข้าวต้มไว้เฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจเตรียมให้ตัวแสบนี่ซักหน่อย แต่ใบบอนก็รับรู้ได้ว่า พี่สาวของเขาน่ะ ตั้งใจทำให้ตนเหมือนอย่างที่เคยทำอยู่ทุกวัน
“ตักให้หน่อยจิ” เจ้าน้องชายทำหน้าอ้อน ใบหน้าน่ารักกับสายตาบ้องแบ๊วส่งไปยังพี่สาวคนดีของตน
“อะไรกัน ไปตักแค่นี้ ทำเองไม่เป็นรึไง” ใบบัวเสียงแหวขึ้นมาทันที ทั้งที่ปากยังบ่นพึมพำ แต่ตัวเจ้าหล่อนก็หายไปในครัว ไปตักข้าวต้มร้อนๆมาให้เจ้าน้องชาย พร้อมโรยผักชี กระเทียมเจียวเสร็จสรรพ
ใบบัวนั่งมองใบบอนเคี้ยวตุ้ยๆ ดูมีความสุขกับอาหารตรงหน้าเสียเหลือเกิน ภาพนั้นทำให้เธอนึกถึงสมัยตอนที่ทั้งคู่ยังเป็นเด็ก
เธอยังคงจำวันนั้นได้ดี วันที่เป็นดั่งจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอกับน้องชาย..
“ใบบัว หนูกับใบบอนต้องมาอยู่กับป้าแล้วนะลูก” หญิงวัยกลางคนท่าทางใจดีที่พูดกับเธอคือพี่สาวของแม่ แววตาคู่นั้นดูเศร้าสร้อย หดหู่เหลือเกิน
“ทำไมล่ะคะคุณป้า แล้วพ่อกับแม่ล่ะคะ” เด็กสาวตัวน้อยถาม คุณป้าอรชะงักเล็กน้อยกับคำถาม หล่อนไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี ทั้งท่าทางอึกอักนั่น ยิ่งทำให้เด็กหญิงตัวน้อยรู้สึกงุนงง สงสัย
“คือ..” ดวงตากลมโตจ้องมองผู้เป็นป้านิ่งอย่างรอคอยคำตอบ
“พ่อกับแม่ของหนู เค้าไม่อยู่แล้วนะลูก” ผู้เป็นป้าตอบเด็กน้อย แววตาที่ดูอ่อนโยนนั้นเริ่มมีน้ำตาคลอ
แต่เด็กน้อยยังคงสงสัย เธอมองหน้าผู้เป็นป้าอย่างงงๆว่า นี่ ป้าพูดอะไรกันน่ะ ..ไม่อยู่? หมายความว่ายังไง พ่อกับแม่ไปต่างจังหวัดเฉยๆ เดี๋ยวก็กลับแล้วนี่นา..
แล้วผู้เป็นป้าก็เริ่มร้องไห้ หล่อนวัยสงสารเด็กน้อยจับใจ ที่ต้องมาสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก เธอสวมกอดเด็กน้อยเอาไว้แล้วร่ำไห้ ทั้งให้กับผู้เป็นน้องสาวและสามีของหล่อน ทั้งให้กับโชคชะตาของเด็กน้อยไร้เดียงสาทั้งสอง..
“พ่อกับแม่ของหนู...” ผู้เป็นป้าอึดอัดกับคำตอบที่ต้องตอบเหลือเกิน แต่ว่าถ้าหล่อนไม่บอกตอนนี้ ซักวันหนึ่งเด็กน้อยทั้งสองก็ต้องรู้ ถ้าเธอไม่บอกเหตุผล หนูน้อยก็คงไม่ยอมไปอยู่กับเธอแน่
“คะ?” เด็กน้อยมองหน้าป้าของเธอ ดวงตาโตใสนั่นมันยิ่งทำให้สิ่งที่จะพูดออกมานั้น ดูยากยิ่งกว่าเดิมหลายเท่านัก
“พ่อกับแม่ของหนู.. เค้าอยู่กับหนูไม่ได้แล้วล่ะลูก เค้าจากหนูไปแล้ว”
“พี่บัว!”
“ห้ะ!? อะ อะไรนะ อะไรเหรอบอน” เสียงของเด็กหนุ่มดึงใบบัวให้หลุดจากความทรงจำในวัยเด็ก เมื่อครั้งที่ทั้งคู่ต้องสูญเสียพ่อกับแม่ไป มีเพียงคุณป้าอรเท่านั้นที่เลี้ยงดูทั้งสองมาจนโต
“เป็นอะไรอ่ะ บอนเรียกตั้งหลายทีแล้วนะ”
“เปล่า แค่คิดอะไรเพลินๆน่ะ” ใบบัวบอกปัด ถ้าเป็นไปได้เธอจะไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้เลยเพราะเธอไม่อยากให้ใบบอนนึกถึงช่วงเวลาอันน่าเจ็บปวดนั่น นับตั้งแต่วันนั้น เธอกับใบบอนก็มีกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง นอกจากคุณป้าที่เลี้ยงดูพวกเธอมาก็ไม่มีใครอีก ญาติคนอื่นๆก็ดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจอะไรพวกเธอเลยด้วยซ้ำ นี่ก็คงเป็นเหตุผลนึงละมั้งที่ทำให้เธอหงุดหงิดทุกครั้งที่น้องชายตัวดีกลับบ้านดึกหรือไปไหนมาไหนโดยไม่บอกกล่าว เธอไม่อยากเสียคนที่เธอรักไปอีก
“นี่! บอน” ใบบัวเรียกเจ้าน้องชายตัวดีที่เพิ่งเดินออกมาจากครัว หลังจากที่เอาชามข้าวต้มไปไว้ในอ่างล้างจาน
“พี่มีอะไรจะบอกแหละ”
“อะไรอะ”
“จำเพื่อนพี่ที่ชื่อริน ได้ปะ?”
“อือ จำไม่ได้หรอก” อ้าว! แล้วมันจะอือทำไมเนี่ย
“คือ..ตอนนี้มันไปเรียนภาษาอยู่ที่เกาหลีแหละ”
“อืม แล้วยังไงอะ”
“มันชวนไปพี่เรียนด้วยกันอะสิ” ใบบัวยิ้มแหย
ความจริงแล้วเธอก็ไม่ได้ชอบอะไรมากหรอกนะ ภาษาเกาหลีอะไรเนี่ย จำได้แค่ว่า เธอโดนเพื่อนๆสาวกเคป๊อบกับพวกหาทางรวยเร่งด่วน พูดกรอกใส่หูอยู่ทุกวันว่าตอนนี้เกาหลีกำลังบูม เนี่ยเรียนเอกภาษาเกาหลีสิ จบมามีงานทำชัวร์ๆ ไปเป็นล่ามไง งานแปลก็ได้ รวยแน่ๆ พูดจนไม่รู้อีท่าไหน พอมารู้อีกที เธอก็หลวมตัวมาเรียนด้านนี้เสียแล้ว
“แล้วพี่บัวจะไปเปล่าละ”
“ไป”
“อืม” ใบบอนพยักหน้าเนิบ ก่อนจะเด้งผึง! “ห้ะ!! อะไรนะ จะไปจริงอ่ะ!?”
“ทำไมต้องตะโกนด้วยเล่า” ใบบัวทำหน้าเหยเก ..อะไรกัน ทำเป็นตกใจไปได้
“ก็.. ก็พี่บัวจะไปเกาหลีอะ” ทีนี้เจ้าตัวแสบกลับโวยวายซะเอง ไอ้อาการเฉยเมยหรือชอบทำท่ารำคาญใส่พี่สาวของตนนั้นแปรเปลี่ยนไปทันที
“แล้วไงอะ ปกติไม่เห็นบอนจะสนใจอะไรพี่อยู่แล้ว พี่ก็แค่บอกให้บอนรับรู้เท่านั้นเอง” ใบบัวพูดหน้าตาเฉย ผิดกับปกติที่มักจะงอนตุ๊บป่องอยู่เสมอ เวลาที่เจ้าน้องชายไม่สนใจ
“ไม่รู้แหละ พี่บัวจะทิ้งบอนอะ” แล้วเจ้าหนุ่มน้อยก็เดินหนีไปเสียเฉยๆ ปล่อยให้ใบบัวนั่งเหวอกับอาการประหลาดนั่น
“เดี๋ยวสิบอน จะไปไหนน่ะ ยังพูดกันไม่รู้เรื่องเลยนะ” ใบบัวตะโกนไล่หลังน้องชายตัวดีซึ่งตอนนี้วิ่งตึงตังขึ้นบ้านไปซะแล้ว
อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าโปร่งเปิด แสงแดดจ้าสาดส่องเข้ามายังห้องนั่งเล่นที่มีโซฟาไม้บุนวมสีเขียวแก่ตัวเดิม แต่ในเช้านี้มันดูสดใสขึ้น อาจเป็นเพราะแดดยามเช้าที่ส่องเข้ามาที่มันก็เป็นได้
ใบบัวยืนอารมณ์ดีอยู่ในครัว ในมือกำลังหั่นแซนวิชด์ที่เตรียมไว้ให้เจ้าตัวแสบที่ตอนนี้ยังคงนอนอุตุไม่ตื่นซะที คงเป็นเพราะความเหนื่อยแถมเมื่อคืนคงจะนอนดึก เพราะตอนที่เธอเข้านอนนั้น เธอยังได้ยินเสียงตึงตังในห้องของใบบอนอยู่เลย
“บัวทำอะไรอยู่ล่ะลูก” หญิงมากวัยผู้ซึ่งเป็นป้าเอ่ยถามเสียงเนิบ
“ทำแซนวิชด์เตรียมไว้ให้บอนน่ะค่ะ คุณป้ามีอะไรรึเปล่าคะ?”
“ป้าจะชวนหนูไปซื้อน้ำเต้าหู้น่ะ แต่เห็นหนูยังไม่ว่าง ป้าว่าป้าไปคนเดียวดีกว่า” ว่าแล้วก็หันหลังเดินออกจากครัวไป
“อ่า คุณป้ารอหนูด้วยสิคะ เสร็จแล้วค่ะ เสร็จแล้ว” ใบบัวรีบนำแซนวิชด์ใส่จาน ปัดมือไปมา แล้วถอดผ้ากันเปื้อนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งพรวดพราดตามคุณป้าอรไป
“อู๊ย อะไรกัน แม่คนนี้นิ ไม่เห็นจะต้องรีบขนาดนั้นเลย ป้ายังเดินไม่ถึงหน้าประตูเลยด้วยซ้ำ” ผู้เป็นป้าหันมาตีหลานสาวที่ต้นแขนเบาๆ เพราะท่าทางกระโดกกระเดกเหมือนเด็กนั่น ใบบัวหัวเราะคิกคัก เธอรักคุณป้าของเธอเหลือเกิน ชีวิตของเธอนั้น แม้จะสูญเสียพ่อกับแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก แต่คุณป้าของเธอก็เปรียบเสมือนทั้งพ่อและแม่ ท่านดูแลเธอกับใบบอนเป็นอย่างดี ได้รับความรักความอบอุ่น อบรมสั่งสอน เลี้ยงดูจนโตมาได้ถึงทุกวันนี้
“อ๊า! คุณป้าตัวหอมจัง” ใบบัวทั้งกอดทั้งหอมผู้เป็นป้า เล่นเอางงกันไปที่วันนี้เจ้าหลานสาวมันมาแปลก
“อะไรกันลูก นึกยังไงมากอดรัดฟัดเหวี่ยงป้าอย่างนี้เนี่ย”
“อ่า ก็หนูรักคุณป้านี่คะ” ว่าแล้วใบบัวก็กอดคุณป้าแน่นขึ้นอีก คุณป้าอรมองหลานสาว มือที่เริ่มมีความเหี่ยวย่นจับใบหน้าของหลานสาวไว้ สิบกว่าปีแล้วสินะ นับจากวันนั้นจนวันนี้ เด็กสาวตัวน้อยได้โตเป็นสาวแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังชอบทำตัวเป็นเด็กๆอยู่เสมอเวลาที่อยู่กับตนอยู่ดี
“แล้วหนูจะไปเกาหลีเมื่อไหร่ล่ะลูก”
“เดือนหน้าค่ะ” ใบบัวตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แล้วโน้มตัวลงเอาหน้าไปซบกับไหล่ของผู้เป็นป้า แต่หญิงมากวัยกลับมีสีหน้ากังวล ถึงแม้ว่าอีกเดือนนึงมันจะนาน แต่สำหรับเธอ การที่หลานสาวต้องจากไปไกลถึงต่างแดน มันก็ชวนให้ใจหายอย่างบอกไม่ถูก
หนึ่งเดือนต่อมา..
ใบบัวในชุดกางเกงยีนส์กับเสื้อยืดสีขาวและรองเท้าผ้าใบ ในมือถือสเว็ตเตอร์สีชมพูหวาน มีกระเป๋าสีครีมใบโตสะพายอยู่ เธอยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าที่จะผ่านไปยังด้านในบริเวณสำหรับผู้โดยสารขาออก โดยมีคุณป้ากับใบบอนมาส่งเธอด้วย
“ดูแลตัวเองดีๆนะลูก” คุณป้าอรจับมือของใบบัวไว้ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างลูบศีรษะของหลานสาวอย่างรักใคร่
“ค่ะ คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูจะติดต่อมาบ่อยๆ” ใบบัวยิ้ม เธอรู้ดีว่าผู้เป็นป้าห่วงเธอขนาดไหน
“พี่บัว..” เจ้าตัวแสบเสียงอ่อย ดวงตาใสแบ๊วที่มักจะมีแววเจ้าเล่ห์อยู่เสมอนั้น เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
“นี่ เวลาที่พี่ไม่อยู่ก็อย่ากลับบ้านดึกนะ แล้วก็อย่าดื้อกับคุณป้าด้วยรู้มั้ย ฝากดูแลคุณป้าแทนพี่ด้วย เข้าใจป่ะ แล้วเวลาที่ต้องกลับดึกจริงๆเนี่ย อย่าลืมกินข้าวนะ พี่ไม่อยู่ ไม่มีคนทำให้กินตอนดึกแล้วนะ”
ตอนนี้เจ้าตัวแสบของใบบัวเงียบไปแล้ว เขายืนก้มหน้านิ่ง น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่.. หนุ่มน้อยสะอึกสะอื้นเป็นเด็กๆ เขาไม่เคยอยู่ห่างใบบัวเลย แต่นี่พี่สาวของเขากำลังจะไปอยู่ที่เกาหลีตั้งหลายเดือน แล้วใบบอนก็กอดใบบัวเสียแน่น เขาไม่อยากให้พี่สาวไปเลย
“โอ๋! อย่าร้องสิ พี่ไปไม่นานหรอก เดี๋ยวก็กลับมา พี่รักเรานะ ระหว่างที่พี่ไม่อยู่ก็ดูแลตัวเองดีๆนะรู้มั้ย” ใบบัวพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มือก็ลูบหัวลูบหลังเจ้าน้องชายตัวแสบที่กอดเธอแน่น ถึงแม้ว่าใบบอนจะโตเป็นหนุ่มจนมีสาวๆมารุมล้อมมากมาย แต่เขาก็ยังคงเป็นเด็กชายตัวเล็กๆของใบบัวเสมอ
“หนูไปนะคะคุณป้า” ใบบัวเข้าไปกอดผู้เป็นป้าอีกครั้ง แล้วยกมือไหว้ลา
“เดินทางปลอดภัยนะลูก”
“ไปนะบอน ดูแลตัวเองดีๆละ” ใบบัวขยี้ผมน้องชาย ใบหน้าหล่อใส มองใบบัวอย่างอาลัยอาวรณ์ เด็กหนุ่มสูดน้ำมูกแล้วเอามือปาดคราบน้ำตา
“อื้อ!” ใบบอนตอบ เจ้าตัวแสบก็ยังคงเป็นตัวแสบที่ชอบทำเก่งอยู่วันยันค่ำ
ใบบัวหันหลังเดินเข้าประตูไป ก่อนจะหันมายิ้มและโบกมือครั้งสุดท้าย ภาพตรงหน้ามันทำให้ผู้เป็นป้ารู้สึกใจหาย นี่อยู่ด้วยกันมาสิบกว่าปี ไม่เคยแยกจากกันเลย ถึงเวลาแล้วสินะ ที่หลานสาวของป้า ต้องออกไปเจอกับโลกกว้างและประสบการณ์ชีวิตที่แม้แต่ผู้เป็นป้าเองก็คงมอบให้ไม่ได้
ผิดกับเจ้าตัวแสบ ที่ตอนนี้ น้ำตาเจ้ากรรมมันไหลออกมาอีกแล้ว ภาพพี่สาวสุดที่รัก ที่เดินห่างออกไป มันทำให้หนุ่มน้อยเกิดความรู้สึกมากมายอย่างบอกไม่ถูก ทั้งสับสน ว้าเหว่ เศร้า ใจหาย ปนเปกันไปหมด ดวงตาใสจ้องมองพี่สาวของตนจนลับตา
..พี่บัว ขอให้พี่เดินทางปลอดภัย แล้วกลับมาหาบอนเร็วๆนะ..
ความคิดเห็น