ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ fic naruto ] love of comrades..มิตรภาพที่ผันแปรตามกาลเวลา

    ลำดับตอนที่ #16 : เรื่องราวที่ 14 : แตกแยก

    • อัปเดตล่าสุด 29 มิ.ย. 57





    เรื่องราวที่ 14 : แตกแยก
     
    เช้าวันใหม่เริ่มขึ้นมา ร่างทั้งสองยังคงนอนอุดอู้อยู่ใต่ผ้าห่มที่แสนยับยู่ยี่ แสงอาทิตย์ส่องทะลุผ่านผ้าม่านข้างฝาเตียง เป็นเหตุให้คนขี้เซาอย่างมาดาระตื่นขึ้นมาอย่างจำใจ เขามองไปรอบๆห้องที่มีสภาพเหมือนผ่านสงครามมาเมื่อคืน สายตาของเขาดูว่างเปล่า ไม่มีแววตา สักพักจึงค่อยๆหันมามองคนข้างๆอย่างรู้สึกผิด เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน เขาไม่น่าทำให้คนข้างๆเขาต้องร้องไห้ แม้แต่ตัวเขาเองยังต้องเสียน้ำตาให้กับเรื่องอย่างนั้น
     
    แม้ว่าเขาอยากจะเดินไปจากตรงนี้ให้พ้น แต่ร่างกายที่เพิ่งผ่านสภาพการใช้งานอย่างหนักเมื่อคืนนี้ก็ยังคงจะต้องการพักผ่อนอย่างหนัก เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไร เขาจึงนั่งอยู่บนเตียงนั้นเช่นเดิม เขาไม่กล้าสบตาคนข้างๆเลย แค่มองเข้าไปอย่างเดียวก็รู้สึกไม่ดี
     
    สักพักคนข้างๆเริ่มมีการหวั่นตัวอยู่สักพัก แสดงให้เห็นว่าเขาตื่นแล้ว มาดาระตกใจจนเขาไม่กล้าหันไปมอง แต่คนที่นอนบนเตียงแค่ลืมตาให้เห็นเพียงหรี่ๆเท่านั้น เผยให้เห็นเเค่นัยน์ตาสีดำอมน้ำตาล เมื่อเห็นว่าร่างบางตื่นขึ้นมาแล้ว เขาเลยค่อยๆลุกขึ้นมา ร่างบางหันไปมองอย่างเฉยเมยก่อนจะล้มตัวลงไปนอนต่อ เป็นเหตุให้ร่างสูงรู้สึกแปลกใจเลยล้มตัวลงไปนอนข้างๆ
     
    "นายเป็นอะไร"ร่างสูงถาม
     
    "เปล่า..ฉันแค่คิดว่าอยากจะนอนต่อ"
     
    "งั้นหรือ งั้นฉันจะไปหาอะไรให้กินก่อนล่ะกัน"ว่าเปล่า ร่างสูงสวมเสื้อให้มิดชิดก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องของตน ทิ้งให้ร่างบางนอนนิ่งอยู่เพียงคนเดียวในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ
     
    …………………………………………………………………
     
    ข้างนอกห้องเล็กๆ
     
    เสียงกระซิบเล็กๆคุยกันอย่างเครียดครันก่อนจะเริ่มมีน้ำเสียงโต้ตอบกัน
     
    "พี่ชาย นี่พี่กำลังทำอะไรอยู่ พี่ทำอะไรลงไป"
     
    "ฉันก็แค่ทำเรื่องอย่างว่าแค่นั้นแหละ ขอตัวล่ะโทบิรามะ"
     
    "เดี๋ยวสิพี่ชาย ฟังผมพูดบ้างสิ"ยังไม่ทันไรผู้เป็นพี่เดินตีจากไปจากน้องชายของเขา โดยไม่มีท่าทีว่าจะกลับเป็นปรกติ
     
    ……………….…………………………………………………
     
    ภายในห้องเล็กๆห้องเดิม
     
    มาดาระที่แอบนอนอุดอู้อยู่ภายในผ้าห่มไม่ยอมพูดอะไรออกมาจนฮาชิรามะเดินออกไปจึงค่อยๆโผล่หัวออกมา
    เพียงแต่เขาแค่ได้ยินเสียงประตูห้องที่ถูกเปิดออกโดยน้องชายของเจ้าของบ้าน เขาเลยต้องจำใจยอมลุกขึ้นมา
     
    "นายมีธุระอะไรแต่เช้าเนี่ย โทบิรามะ!"มาดาระร้องก่อนที่จะสำรวจสภาพร่างกายของตน
     
    "ถึงฉันจะบอกไปนายก็คงไม่รู้อะไรหรอกน่า"
     
    "บอกเรื่องอะไรอีกล่ะทีนี้"
     
    "ไม่มีอะไร ว่าแต่นายเถอะโดนอะไรไปบ้างล่ะนั่น "โทบิรามะมองดูตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อผ้าที่ถูกจัดแจงอย่างไม่เป็นระเบียบ ผมเพร้าที่ยุ่งและฟูพอๆกันไปฟัดกับใครมา นั่นทำให้คนตรงหน้ารู้สึกเอื่อมระอากับคู่รักคู่นี้มาก
     
    "จะว่าไปเดี๋ยวนี้พี่ชายดูเหมือนจะเย็นชาขึ้นนะ นายคิดว่าไง"
     
    "……"ไม่มีเสียงตอบรับมาจากคนตรงหน้า เขาเพียงแต่ยืนนิ่ง ไม่มีความรู้สึกอะไรเท่านั้น เพราะความรู้สึกนั้นได้ถูกส่งมอบไปกับเรื่องเมื่อคืนเป็นที่เรียบร้อย เพียงแต่เขาจะสามารถยอมรับมันได้รึเปล่า
     
    "นายเองก็ด้วยหรอ ที่สูญเสียความเป็นตัวเองไปขนาดนี้"………
     
    "เปลี่ยนไปมากกับตอนที่สงครามเกิดขึ้นมาเลยนะ มาดาระ"โทบิรามะกล่าวก่อนจะปล่อยให้สติเขากลับมาอีกเช่นเคย
     
    "อืม…ฉันแค่รู้สึกไม่ดีกับร่างกายตัวเอง และ หัวใจของตัวเองเสียแล้วสิ"มาดาระเริ่มเปิดประเด็น เสียงของเขายังคงความเยือกเย็นเอาไว้จนวินาทีสุดท้าย แม้ว่ามันจะกลั้นไม่ไหวแล้ว
     
    "ถ้าร่างกายนายหน่ะ.ใช่มันไม่ปรกติ แต่หัวใจของนายคงต้องไขเอาเองเพราะฉันก็ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับหัวใจนายเลยสักนิด" โทบิรามะไม่สนใจคนตรงหน้าที่เอาเเต่เหม่อไปเรื่อย เพียงแต่หยิบเอากุญแจดอกสีทองรูปหัวใจยื่นให้แค่นั้น
     
    "เก็บเอาไว้สิ สิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้นายเชื่อมั่นว่าจะต้องทำได้"เขาทำท่าหันหลังกลับก่อนที่จะถูกถามด้วยคำถามที่เป็นปรกติว่า 'เอาไว้ทำอะไร'
     
    "นายไม่ต้องรู้มากหรอกน่า"โทบิรามะว่าเปล่า ก่อนที่จะปิดประตูและปล่อยให้มาดาระอารมณ์เสียกับคำตอบของเขานั่งสงบสติก่อนจะอาละวาด
     
    ……………………………………………………………………
     
    กลับเข้ามาตามเดิม
     
    'กุญแจสีทองงั้นหรือ นายให้ฉันทำไมกันล่ะเจ้าบ้า'เสียงมาดาระบ่นพึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะไปจัดแจงทุกอย่างให้เข้าที่ แม้ว่ามันจะใช้เวลามากก็ตาม
     
    'ปึก!!'เสียงวัตถุเล็กๆได้ตกลงมากระแทกกับพื้น กล่องบางๆที่เหมือนจะเก่าคร้ำครึนั้นได้ทำให้สายตาของเขาไปหยุดอยู่ที่วัตถุนั้น 
     
    'กล่องเพลงธรรมดาเนี่ยนะ ใครเป็นคนให้มา'มาดาระคิดไปมาหลายรอบก่อนที่จะเปิดกล่องดนตรีสีเงินที่เย็นเฉียบนั้น เสียงเพลงที่แสนวังเวงและเศร้าสร้อยนั้นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรไปกับมันมากเสียเท่าไหร่ หลังจากนั้นเขาจึงปิดกล่องเพลงลงอีกครั้ง แต่อักขระที่สลักไว้บนกล่องดนตรีเป็นสิ่งที่ยืนยันเจ้าของที่ให้มาได้อย่างดี
     
    'U M <3 S H' รหัสตัวอักษรที่ง่ายเกินคำบรรยายนั้นไม่ได้ทำให้อารมณ์เขาเดือดขึ้นสักท่าไหร่ สักพักมาดาระจึงเริ่มออกไปข้างนอกห้อง เพื่อไปสำรวจหาอะไรทานเป็นมื้อเช้า
     
    ห้องครัว..
     
    '......'ไร้ร่องรอยอาหารในบ้านอย่างผิดปรกติ เเม้เเต่ในตู้เก็บของยังไร้ซึ่งสิ่งของทุกอย่างเลย บนโต๊ะอาหารก็ไร้ซึ่งของ. มีเพียงแต่ดอกไม้สีขาว1ช่อ วางอยู่บนโต๊ะอย่างเป็นปรกติ 
     
    'นี่เขาคิดจะให้เราทานดอกไม้เป็นอาหารรึไง'มาดาระคิด พลันเหลือบไปเห็นสิ่งของที่อาจจะพอทำกินได้อยู่จำนวน2ชิ้น คือ ไก่(สดๆที่กำลังเดินอยู่) และ ลูกหมูซึ่งคงเป็นสัตว์อัญเชิญ เพราะเห็นแต่งตัวดีซะขนาดนั้น
    จะจับมาทำกินดีไหมนะ อ้วนกำลังดี แถมยังดูว่าเนื้อน่าจะอร่อยเสียอีก. มาดาระซึ่งกำลังถือมีดอยู่นั้น ไม่ได้รู้สึกกังวลใจเลยแม้แต่น้อยเกี่ยวกับหมูตัวนั้น เพราะตอนนี้ความหิวมันทำให้เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างสิ้นเชิง
     
    'ปึง!!'
     
    'ไอ้นิสัยแบบนี้ฉันอยากจะแก้ให้หายเสียที พวกที่ชอบถีบประตูบ้านเข้ามาเนี่ย'เขาแอบคิดอยู่ในใจลึกๆ ถ้าประตูมันพังขึ้นมาคงไม่พ้นเขาหรอกที่จะต้องมาคอยซ่อมให้. มือของเขาสะบัดคมมีดไปมาอย่างรวดเร็วกับเจ้าไก่ตนนั้น(ซึ่งสภาพก็กลายเป็นชิ้นเนื้ออย่างดี ราดซอสมะเขือเทศเยิ้มๆ) ต่อมาคมมีดก็ได้ถูกหันไปยังเจ้าหมูที่มีท่าทางหวั่นๆผสมกับกล้าอยู่บ้าง ความเมตตาสำหรับเขาคงเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นไปอีกแล้ว
     
    "มาดาระ!!อย่าหั่นหมูตัวนั้นนะ!!"ฮาชิรามะตะโกนเสียงดังจนทำให้คนตรงหน้าเผลอปล่อยมีดลงอย่างไม่รู้ตัว
     
    "ฮาชิ..รามะ.."มาดาระกำลังอึ้งที่เห็นสภาพของฮาชิรามะในตอนนี้ เสื้อผ้าที่ยับไม่เป็นท่า ไหนจะเรื่องของที่ถือมาอย่างกับย้ายบ้านแบบนั้นหน่ะ
     
    "เกือบไปแล้วสินะ ตันตัน" ฮาชิรามะร้องเสียงหลงก่อนจะปล่อยของที่ซื้อมาลงและรีบวิ่งไปยังเจ้าหมูตันตัน โดยที่วิ่งผ่านร่างบางไปอย่างกับว่าเขาไม่มีตัวตนเสียอย่างนั้น นี่เขาคิดว่าผมไม่มีตัวตนงั้นหรอ
     
    "มาดาระ นายเกือบจะทำให้หมูตนนี้ได้รับบาดเจ็บแล้ว!!"ฮาชิรามะพูดกับมาดาระด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร แถมตะคอกใส่เขาอีกต่างหาก แต่สักพักหน้าเขาดูจะเจื่อนลงไปเพราะนึกได้ว่าอีกฝ่ายนั้นก็เป็นเพื่อนของตนอีกเช่นกัน
     
    มาดาระค่อยๆก้มลมไปหยิบมีดที่ตกลงไป โดยที่ไม่สบตาร่างสูงแม้แต่น้อย เลือดสีแดงของเจ้าไก่ผู้รับเคราะห์นั้นยังคงอาบเป็นทางตามยาว ไปจนถึงคมมีด เขาสะบัดเลือดสีสดไปข้างกำแพง นั่นทำให้ฮาชิรามะผงะเล็กน้อย
     
    "นี่นายเห็นฉันเป็นอะไร ฮาชิรามะ.."
     
    "นายเห็นฉันเป็นอะไร!!"มาดาระตะโกนถามอย่างโกรธคลั่ง เขาไม่เคยรู้สึกเหมือนอยากจะบ้าเสียขนาดนี้กับใครมากหรอก ถ้าไม่ใช่เพื่อนของเขาก็คงไม่มีใครที่จะได้เห็นว่าเขาโกรธขนาดนี้หรอก
     
    "ขนาดฉัน..นายยังเห็นค่าฉันน้อยกว่าสุกรตัวนั้นอีกหรือ" 
     
    "..."ฮาชิรามะไม่ตอบอะไร เพียงแค่มองไปหาคนตรงหน้าอย่างไร้ความรู้สึก
     
    "งั้นฉันก็ขอบใจละกัน..."
     
    "ขอบใจที่เป็นเพื่อนกันจนถึงวันนี้.."

    "ลาก่อนและขอบใจสำหรับเรื่องเมื่อคืน และขอโทษด้วยที่ทำให้ร้องไห้ นายคงจะไม่ให้อภัยแล้วสินะ.."

    หลังประโยคสุดท้าย มาดาระเดินหนีไปทางหน้าต่างก่อนจะหายไปกับสายลม ปล่อยให้คนตรงหน้ายืนนิ่งอยู่กับการกระทำของตน
     
    ………………………………………………………………
     
    "พี่ชายทำอะไรลงไปกัน..ก็น่าจะรู้หนิว่าเมื่อคืนเขาก็รู้สึกแย่มากแค่ไหน"
     
    "ฉันรู้น่า นายอย่ามาสอนฉันอีกโทบิรามะ"
     
    "แล้วเป็นไงล่ะกับเรื่องที่พี่รู้อยู่ตอนนี้"
     
    "นั่นสิ ฉันเองก็ยังไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับหมอนั่นมากเท่าไหร่นี่หนา"
     
    "แล้วพี่จะเอาอย่างไรต่อไปล่ะ โดนเกลียดเข้าแล้วจังๆ"
     
    "ก็คงจะต้องปล่อยไปก่อน แล้วค่อยเป็นฝ่ายง้อล่ะกระมัง"
     
    "หึ..ขอให้มันจริงและยังไม่สายเกินไปเถอะ.."โทบิรามะทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปเก็บซากเจ้าไก่ราดซอสของผู้มาเยือนอันแสนวุ่นวาย"
     
    "……………………;………………….;…;……………
     
    บ้านกลางป่าแห่งเดิม
     
    "ชิ.."เสียงของบุคคลตรงหน้าแอบสบดเล็กน้อยกับสังขานของตนในเวลานี้
     
    'ทำไมต้องมาเป็นเอาตอนนี้ด้วยเสียล่ะ'มาดาระถามกับตัวเองหลังจากที่รู้สึกว่าร่างกายของตนกลับมาผิดปรกติอีกครั้งหนึ่ง
     
    'ฮาชิรามะ นายจะรู้บ้างไหมนะ ว่าฉันกำลังทรมานกับเรื่องราวอันมากมายในตอนนี้อยู่'
     
    'แล้วนายจะสามารถรับได้ไหมกับสิ่งที่น้องชายของนายทำกับฉันล่ะเนี่ย'
     
    'แล้วฉันจะมีหน้าไปพบกับพวกนั้นอีกไหมล่ะเนี่ย ถ้าพวกนั้นรู้ขึ้นมาล่ะว่าฉันท้อง'
     
    'อ้า!!..แล้วทำไมร่างกายมันถึงได้ปวดร้าวไปจนถึงขนาดนี้ อีแค่เรื่องเมื่อคืนนี้กลับไปตอบสนองกับอาการในร่างกายเราได้เสียอีก ซวยเสียจริง..'
     
    'แล้วฉันจะยังคง..ทนกับเรื่องราวแบบนี้ได้อีกนานเท่าไหร่กัน..'
     
    ………………………………………………………………………END14
     
    WRITER TALK
     
    ขอโทษอย่างสูงนะที่เรามาอัพช้า แล้วก็น้อยด้วย T^T
     
    บังเอิญว่าติดงานที่โรงเรียนและก็การบ้านด้วย
     
    ตอนหน้าอาจจะช้าน้า เพราะว่าเราต้องติวอ่านสอบบ้างแล้ว
     
    จะพยามมาอัพให้เร็วที่สุดนะ ช่วยรอกันด้วย
     
    ส่วนช่วงนี้อารมณ์ดราม่าจัดกับเรื่องงานเศร้าๆที่โรงเรียน ฟิคอาจจะออกมาแนวเศร้าๆนะ
     
    ตอนนี้เราต้องไปแล้ว ติดตามกันต่อได้ในตอนหน้านะ
     
    (ดีไม่ดีอาจจะเป็นตอนพิเศษให้กับเทศกาลทานาบาตะนะ เป็นวันเกิดน้องเราเองเดี๋ยวจะมาลงให้ล่ะกัน)
     
    ไปก่อนละนะ ไม่อยากนอนดึก - -zzzz
     
    ………………………………………………………………….
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×