ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ fic naruto ] love of comrades..มิตรภาพที่ผันแปรตามกาลเวลา

    ลำดับตอนที่ #15 : เรื่องราวที่ 13 : ยามค่ำคืน

    • อัปเดตล่าสุด 11 มิ.ย. 57




    เรื่องราวที่ 13 :  ยามค่ำคืน
     
     
    ในยามเช้ามืดคืนต่อมา เสียงของร่างบางล๊อคประตูบ้านดังสะท้อนแทรกเสียงของยามราตรี ความกังวลของเขามิเสื่อมคลาย เรื่องนั้นยังคงค้างคาอยู่ในสมองของเขาจนบัดนี้มันก็ยังคงไม่เลอะเลือนไปแม้แต่นิด เสียงเดินของร่างบางดังก้องไปทั่วป่า ความเงียบ เป็นสิ่งเดียวที่เขาคิดว่ามันน่าจะดีที่สุดในช่วงเวลานี้ โทบิรามะคือจุดมุ่งหมายที่เขาจะต้องไปให้ถึงโดยเร็ว เพียงเเต่จะมีใครเขาตื่นขึ้นมาคุยกันตอน ตี2 บ้างไหมล่ะ..
     
    "โฮ้ ฉันลืมไปซะสนิทว่าบ้านของเซ็นจูมันย้ายไปอยู่อีกที่หนึ่งนี่หน่า"ร่างบางคุยกับตัวเองก่อนที่จะเดินเข้าไปในหมู่บ้านของตนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเวลานี้มันดูเงียบเสียจนคิดว่าเป็นเมืองร้างไปเสียแล้ว ไม่รู้ว่าอะไรดนใจให้เขาเดินไปทางเสาไฟที่มีบุคคลปริศนากำลังยืนมองดูดาวอย่างเหนื่อยหน่ายในชุดนอนที่ดูไม่เป็นทางการ ร่างบางจึงถือวิสาสะเข้าไปแอบฟังสักเล็กน้อย ในฐานะคนดีมีศิลธรรม(ใช่ไหม!?) -v-b
     
    "เฮ้อ...ความรักมันเป็นเรื่องที่เข้าใจยากชะมัด..ทำไมล่ะ ทำไมถึงได้เข้าใจยากเช่นนี้นะ"นั้นเป็นสิ่งเดียวกับที่ร่างบางเคยคิดเมื่อก่อน แต่ตอนนี้เขาคิดว่ามันก็ยากเช่นกันนั้นเเหละ ผุ้พูดคงเป็นพวกที่อกหักอยู่ละมั้ง ร่างบางแอบสะใจเล็กๆก่อนจะแอบฟังต่อไป แต่สิ่งที่บุคคลตรงหน้าเขาพูดทำให้ร่างบางอึ้งและพอจะเดาได้ว่าคนตรงหน้าเป็นใคร
     
    "อิสึนะ..ฉันไม่ขอให้นายยกโทษให้ฉันหรอกนะ" บุคคลที่ดูเหมือนจะเย็นชาตลอดเวลาตรงหน้าของร่างบาง. เริ่มแสดงท่าทีหวั่นไหวในที่ๆลับตาคนซึ่งมีแต่แสงไฟของเสาไฟข้างถนนส่องแสงริบหรี่ตลอดเวลา เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องขอให้น้องชายของเขายกโทษให้ด้วย ในเมื่อโทบิรามะไม่เคยทำอะไรให้น้องชายเขาเลย
     
    "มาดาระ นายคิดเหมือนฉันไหม ว่าความรักมันเป็นสิ่งที่ต้องแลกกับความเจ็บปวดจนถึงที่สุดเพื่อให้ได้มันมาครอบครองเป็นของตน.."อีกฝ่ายเริ่มรู้ตัวว่ามีคนแอบมองดูอยู่ข้างกำแพง จึงเปลี่ยนอารมณ์ก่อนที่จะชวนคุยไปตามภาษา
     
    "นายคิดอะไรพิลึกกับน้องชายฉันอยู่รึไง"ร่างบางเริ่มอยากรู้อยากเห็นตามนิสัยพวกสอดรู้สอดเห็น
     
    "ฉันแค่ถามว่านายรู้สึกอย่างนั้นกับพี่ชายของฉันบ้างรึเปล่า แล้วมันทรมานมากไหม.."ประโยคแรกนั้นทำให้ร่างบางจุกอกอย่างบอกไม่ถูก ก็จริงนั้นแหละที่เขารู้สึกอย่างนั้นกับฮาชิรามะ แต่ว่าในเมื่อฮาชิรามะเลือกที่จะปฏิเสธมัน เขาก็คงไม่สามารถตอบไปได้หรอกว่าเขายังจะคงความรู้สึกอย่างนั้นไว้ได้ตลอดเวลารึเปล่า
     
    ส่วนประโยคหลัง เขารู้สึกทรมานมากจริงๆนั้นแหละ เพราะเขารักถึงได้เจ็บ เพราะถูกปฏิเสธเขาถึงรู้สึกทรมาน เพราะว่าเขาเลือกที่จะเลือกมัน เขาเลยต้องคอยแบกรับความรู้สึกอย่างนั้นเอาไว้ตลอด ในเมื่อเลือกไปแล้วถึงได้เป็นอย่างนั้นไงล่ะ
     
    "นายคิดยังไงฉันก็เป็นแบบนั้นนั่นแหละน่า แต่ถึงยังไงในเมื่อฉันเลือกไปแล้วก็ไม่ได้เครียดอะไรเป็นพิเศษหรอก" 
     
     
    {ภายในจิตใจของร่างบาง}
     
     
    'เฮอะ!..โกหกอีกแล้วสิเรา
     
    น่าเบื่อชะมัดยากเลย ความรู้สึกแบบนั้นหน่ะ
     
    เลิกได้เเล้ว.. พอได้แล้ว ..หยุดเถอะ รักไปก็เหนื่อยเปล่าๆ
     
    หัวใจ..ของผม ทำไมมันไม่เคยฟังคำสั่งจากสมองบ้างเลยล่ะ
     
    รึว่าผมจะรักเขาจนตัวเองไม่สามารถเปลี่ยนใจได้เเล้วล่ะ
     
    พอเถอะ ฮาชิรามะเขาไม่อยากจะสนใจเราอีกแล้ว 
     
    ผม..แค่อยากจะ..รักนาย..ให้ได้..ไม่อยากจะจากนายไป..อีกครั้งแล้ว
     
    พูดออกมาเหมือนผู้หญิงเลยเนาะ ไร้สาระชะมัดเลย...
     
    หัวใจของผม ช่างไร้สาระสิ้นดี....
     
    ----------------------————-———
     
     
    "อึม..เเล้วนายมาหาฉันเรื่องอะไรอีกล่ะ"โทบิรามะถามก่อนจะเดินมาหาร่างบาง ตอนนี้ไร้วิญญาณในร่างพอๆกับคนตายไม่มีผิด เขาแค่ลูบแก้มเล็กๆของร่างบางไปเรื่อยๆจนกว่าร่างบางจะได้สติแล้วตอบคำถามเขา
     
    "ก็อยากจะถามเรื่องที่นายคุยค้างเอาไว้ตอนอยู่ที่บ้านฉัน ฉันแค่อยากจะรู้ว่ามันมีผลอะไรบ้างกับร่างกาย"ร่างบางที่เริ่มได้สติเริ่มตอบคำถามที่คุยค้างเอาไว้
     
    "ก็บอกไปแล้วว่าเป็นอยากนั้นแหละ นายแค่ยอมรับมันไปเรื่อยๆเเหละ"
     
    "จะบ้ารึไง!! นายจะให้ฉันท้องเนี่ยนะ คิดอะไรอยู่ หายามาแก้เดี๋ยวนี้นะ"
     
    "นายคิดรึไง ว่าการที่ตั้งครรภ์แล้วจะสามารถเอาเด็กออกไปได้หนะ - - "โทบิรามะพูดจี้ใจดำกับมาดาระ จนเขาสะอึกออกมา ทำไงล่ะ แปลว่าไม่มีวิธีแก้รึไง
     
    "นายอย่าบอกนะว่าไม่มีวิธีแก้อ่ะ" ร่างบางเริ่มรู้สึกแย่ เพราะว่าถ้าตนท้องจริงๆ ฮาชิรามะก็ต้องเป็นพ่อเด็ก ซึ่งเขาก็ไม่สามารถทำให้คนที่ไม่รักเขากลับมารักได้อีกครั้งหรอก
     
    "นายคิดว่าฉันโกหกเก่งขนาดนั้นเลยหรอไง"
     
    "......"พูดอะไรไม่ออกเลย ตอนนี้เขาแทบจะคิดอะไรไม่ออกแล้ว 
     
    "นายจะกลับบ้านเลยก็ได้ แต่ว่าถ้านายเห็นว่าดึกแล้วก็มาค้างที่บ้านฉันก็ได้"โทบิรามะให้ทางเลือกมา2ทาง แน่นอนว่าคนที่ฉลาดเขามักจะไม่กลับบ้านตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ติดปัญหาแค่เจ้าของบ้านแค่นั้นที่เขาไม่อยากไปพบ
     
    "ไม่ต้องห่วง พี่ชายหลับไปนานแล้ว"โทบิรามะเมื่อเห็นท่าทีอ้ำอึ้งของอีกฝ่าย เลยเสนอทางเลือกออกมาให้อีก
     
    "ก็ได้ ถ้านายคิดว่าปลอดภัยฉันก็จะไป"ร่างบางเดินตามไปอย่างแหยะๆก่อนจะหายไปในความมืดของท้องฟ้ายามราตรี. ท่วงทำนองแห่งรันติกาลเริ่มบรรเลงความเงียบขึ้นมาอีกครั้ง ไปพร้อมกับเสียงแมลงและสัตว์กลางคืนตามพื้นที่บริเวณนั้น...

     
    ------------------------------------
     
     
    ณ บ้านตระกูลเซ็นจู
     
    "นายค่อยๆย่องเบาๆมาทางนี้ล่ะกัน"โทบิรามะเริ่มเกริ่นก่อนที่เพื่อนของพี่ชายจะทำข้าวของในบ้านหลังโปรดของเขาพังเสียก่อน
     
    "อืม.."มาดาระย่องไปเรื่อยๆจนมาถึงหน้าประตูบานหนึ่ง มันทั้งเก่าและขาด แปลกๆเเฮะ บานประตูของโทบิรามะเจ้าแห่งระเบียบจะมาขาดได้อย่างไร
     
    "นายไม่ต้องไปสนใจประตูนั้นมากก็ได้เพราะว่าอย่างไรมันก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากนักหรอก"โทบิรามะกล่าว ก่อนที่จะสังเกตว่ามาดาระเริ่มมองไปทางข้างหลังเขาและจ้องราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากให้เป็นมากที่สุด แต่ว่าเขาก็เดาไม่เคยผิดหรอกที่บ้านของเขามักจะมีผู้ชอบเดินมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนเป็นเรื่องปรกติ
     
    "ฮาชิรามะ.."มาดาระกล่าวเสียงเย็นไปหาคนข้างหน้า โดยพยามหลุบสายตาอย่างมาก แต่ว่าตอนนี้มันมืดมากเกินที่จะมองเห็นว่าเขาทำสีหน้าอะไรอยู่
     
    "มาดาระ นายมาทำอะไรที่บ้านฉัน"ฮาชิรามะถามก่อนที่จะหันไปมองทางโทบิรามะที่เป็นตัวต้นเหตุพามา
     
    "เฮ้อ..นายมาก็ดีเหมือนกัน มานี่หน่อยเถอะ"ฮาชิรามะจับข้อมือฝั่งที่มาดาระพันผ้าเอาไว้ทำให้ความเจ็บเริ่มแสดงเข้ามาให้สีหน้า แต่ว่าคนอย่างเขาถ้าจะให้เห็นกันง่ายๆก็คงไม่ใช่เขาแล้วล่ะมั้ง ร่างสูงกระชากข้อมือของร่างบางก่อนที่จะเหวี่ยงเขาห้องและล็อคประตูซึ่งทำจากไม้ป้องกันจักระอย่างดี เพื่อป้องกันการหนี ก่อนที่จะเปิดไฟ สป็อตไลท์สีส้ม ชวนให้หลงคารมตามแสงสีในห้อง
     
    "นายทำอะไรของนายฮะ ฮาชิรามะ"ร่างบางพูดด้วยความไม่พอใจ ในเมื่อเขาไม่ใช่สิ่งของที่จะมาเขวี้ยงเมื่อไม่เอา หรือ ไม่พอใจกันง่ายๆนะ
     
    "นายมาที่นี่ทำไม"ร่างสูงทำเสียงเครียดก่อนที่จะมองตั้งแต่หัวจรดเท้าของร่างบาง ทำให้เขารู้สึกไม่ดีเลยไม่น้อย ในเมื่อชุดของเขามันก็ไม่ได้มิดชิดขนาดที่จะทำให้แหวกชุดไม่ได้หรอกนะ
     
    "โทบิรามะชวนให้มา เพราะว่ามันมืดแล้วไง รึเป็นนายๆอยากจะเดินกลับบ้านคนเดียวเวลามืดๆเเบบนี้รึไง"
     
    "เปล่า ฉันแค่ ห่วงนายเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้หรอก"แต่ว่าสายตาของฮาชิรามะไปสะดุดกับผ้าพันแผลผืนนั้น ทำให้เขาเริ่มระเเวงว่าเขาจะทำอะไรกับตนเองอีกรึเปล่า
     
    "หึ ก็แค่แผล นายจะมาสนใจอะไรมากมายล่ะ"ร่างบางทำหน้านิ่งก่อนจะเบือนหน้าหนีร่างสูง ไม่เข้าใจเลยว่าเขาจะมาสนใจเราทำไม ในเมื่อเขาก็ไม่เคยเเคร์ความรู้สึกของตนอยู่แล้ว
     
    "ฉันก็แค่กลัวว่านายจะเป็นบาทยักกินตายก็แค่นั้น"ร่างสูงพูดไป หยิบของไปซึ่งทำให้ร่างบางรู้สึกว่าเขานั้นไม่ได้มีความสำคัญอะไรให้กับร่างสูงเลย แต่กลับกันร่างสูงกลับรู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญแต่ก็ไม่เคยคิดคำว่าเกินเลยไปมากกว่าเพื่อน ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้ร่างบางรู้สึกดีอีกเช่นเดิม...
     
    "ยื่นมือมานี่"ฮาชิรามะสั่งเสียงแข็ง ก่อนจะมองหน้ามาดาระด้วยสีหน้าวิตกกังวล เขาไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมตนต้องมาทำแบบนี้ให้กับเพื่อนผู้ดื้อรั้นของตน ทางมาดาระเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าถ้าไม่พอใจแล้วจะมาทำให้เขาทำไม แต่ตนก็ยอมยื่นมือไปให้เเต่โดยดี
     
    "อืม..เสร็จแล้ว"ฮาชิรามะยิ้มจางๆให้กับผลงานของตน ผ้าพันแผลถูกพันอย่างเรียบร้อยต่างกับคนที่ไม่มีฝีมืออย่างมาดาระ เขาเพียงได้แต่คิดว่ามันเป็นเพียงแค่การที่เพื่อนกับเพื่อนได้ทำกัน 
     
    แต่ร่างบางยังไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร ก็ถูกร่างสูงคร่อมตัวเอาไว้อย่างรวดเร็ว ข้อมือทั้งสองของร่างบางถูกพันธนาการไว้ด้วยมือของอีกฝ่าย ร่างสูงในตอนนี้ดูไร้ความรู้สึก เพียงแต่ใบหน้ากลับดูทรมานอย่างไม่สามารถอธิบายได้ เขาไม่เคยเห็นร่างสูงทำหน้าตาอย่างนี้มาก่อน แม้แต่การกระทำแบบนี้ 
     
    จู่ๆร่างสูงค่อยๆเริ่มคลายมือของร่างบางอย่างช้าๆ ก่อนจะได้สติ ทำหน้าตาหวือหวาและไร้สาระอย่างเดิม อาการที่เขาทำแบบนี้ไม่เคยทำให้ร่างบางรู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย เขาเพียงแต่รู้สึกแค่ว่าอยากจะให้ร่างสูงรู้สึกดีขึ้นเท่านั้น
     
    "นายอยากจะทำอย่างนี้อีกรึไง"ร่างบางพูดแทงใจคนตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก ก็จริงที่ร่างสูงจะกระทำกับเขาแบบนี้ แต่ว่าอะไรทำให้ร่างบางคิดแบบนั้นล่ะ 
     
    "ป..เปล่า!!"ฮาชิรามะตอบเสียงตะกุกตะกักยิ่งทำให้เป็นผู้ต้องสงสัยรายใหญ่เข้าไปอีก
     
    "แสดงว่าอยากสินะ"ร่างบางพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนที่จะปลดเสื้อของตน และสายรัดชุดนอนช่วงเอวของร่างสูง 
    เรือนผมสีดำเงางาม สะท้อนแสงของหลอดไฟยามอาทิตย์อัสดงได้ตัดกันอย่างเข้าที่ ถุงมือทั้ง2ข้างถูกปลดออกจากมือเล็กเรียวของร่างบาง ไม่เข้าใจเลยว่าอะไรทำให้เขาใจกล้าขนาดนี้แต่ก็นะ ถ้าเขาอยากจะทำอะไรมันก็ต้องได้ ร่างสูงมองอย่างไม่อยากจะเชื่อก่อนที่จะพูดอะไรก็ถูกร่างบางชิงตัดบทพูดเสียก่อน
     
    "งั้นนายก็ควรรู้เอาไว้สักอย่างนะ...
     
    ..ว่าคืนนี้นายจะเป็นของฉันเพียงคนเดียว"
     
    ..….…….................................................................………………EHD13..........
     
    Writer จอมขี้เกียจ talk

    ว้า~หายไปนานเลยนะเนี่ย - -""
     
    ต้องขออภัยด้วยเพราะว่าเราติดการบ้านเยอะมากนะ ^_^
     
    ส่วนตอนนี้จะไม่ขอระบุ NC ละกัน กลัวโดนบล๊อกนิยายอ่ะ
     
    แต่ถ้าถามว่าแต่งอะยังก็จะบอกว่าแต่งเสร็จแล้วนะ. -///-
     
    ตอนหน้าอาจจะมาช้าหน่อยนะก็ขอให้อดทนรอกันหน่อยล่ะกันนะ
     
    แต่อย่าลืมกันนะว่า"ช่วยคอมเม้นกันด้วยล่ะ" ไม่งั้นเราจะอู้งานต่อ
     
    ตอนต่อไปก็นะ ^_^ ช่วยติดตามกันด้วยนะ
     
    สำหรับตอนนี้เราไปก่อนล่ะกัน เจอกันใหม่ในตอนต่อไปนะ
     
    –----------------————————————————
     
     
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×