ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ fic naruto ] love of comrades..มิตรภาพที่ผันแปรตามกาลเวลา

    ลำดับตอนที่ #10 : เรื่องราวที่ 8 : เริ่มการแข่งขัน

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 57





    เรื่องราวที่ 8 : เริ่มการแข่งขัน

     

    หน้าเวทีการประกวด

     

    “คิดว่าไงกับการประกวดในงานครั้งนี้  ทุกคน“ หญิงสาวรูปร่างผอมเพรียว ผลัดกับผมสีเนื้อมัดแกละล่าง สวมเสื้อคลุม ที่มีตัวอักษร“พนัน”ติดประกาศเอาไว้กลางหลัง บัดนี้กำลังซุ่มจับตาดูอยู่ในความมืดราวกับว่ากำลังเตรียมตัวออกงานอยู่

    “ไม่รู้สิ ฉันคิดว่ามันเกิดเรื่องชุลมุนเมื่อตะกี้แล้วจู่ดีๆก็หายเงียบไปอย่างไรร่องรอย”ชายวัยชรา แต่ความสามารถไม่ธรรมดา กำลังจับตามองดูซุ่มนั้นอย่างใจจดใจจ่อ แต่ยังคงแอบซ่อนตัวอยู่ในความมืดเช่นเดียวกัน

    “แหม รู้สึกว่าลูกชายผมจะเป็นคนหาเรื่องด้วยหน่ะสิครับ” ชายหนุ่มผมสีทองยาวสลวย ใบหน้าคมสันได้รูป นัยตาสีฟ้าครามสดทอแสงประกายเงางามแม้จะอยู่ในที่มืด ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ที่หน้าตาดูเหมือนเด็กผู้หญิง แต่ความสามารถไม่ธรรมดา สมกับที่ได้รับสมยานามว่า “ประกายแสงสีทองแห่งโคโนฮะ”  ตอนนี้เขากำลังกังวลกับบางสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นอย่างรุนแรงเพราะกลัวว่าอาจจะเกิดสงครามในงานนี้ก็เป็นได้ ในเมื่อลูกชายเขาเป็นพวกชอบหาเรื่องเข้าตัว อยู่ดีไม่ว่าดี

    “งั้นก็แย่สิมินาโตะ แล้วคนที่ไปหาเรื่องด้วยนั่นหน่ะเป็นใคร พอรู้ไหม” โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ถามอย่างขัดข้องใจ

    “แฮะๆๆก็ไม่รู้สิครับ ตอนนั้นผมมองดูแค่โซนจัดงานต่างๆแค่นั้น ไม่ได้ดูไปถึงข้างในนั้นหรอกครับ “

    “แต่ว่าฉันมองอยู่นะ “หญิงสาวนามซึนาเดะพูดอย่างมั่นใจ ก่อนที่จะมองลงไปข้างล่างอีกครั้ง
     

    “แล้วเธอเห็นอะไรบ้างล่ะ ซึนาเดะ”

    “ก็คนที่นารูโตะไปหาเรื่องดันเป็นคนที่มีอำนาจมากหน่ะสิ แล้วดันไปท้าแข่งเขาอีกต่างหาก”

    “ใครหรอครับ คนที่คุณว่า” มินาโตะถามเสียงไม่ค่อยมั่นใจมากเท่าไร

    “นายอยากรู้จริงหรอ มินาโตะ” ซึนาเดะถามด้วยความแปลกใจปนกังวลใจ

    “ครับ ผมจะได้เคลียเรื่องให้มันจบไปง่ายๆ”

    “คนที่นารูโตะ ไปหาเรื่องคือเพื่อนของปู่ฉันเอง”

    “ปู่ของคุณหรอ ก็คือโฮคาเงะรุ่นแรก ส่วนคนที่เป็นเพื่อนของรุ่นแรกได้ก็”มินาโตะพูดไม่ออกได้แต่พะงาบๆปากว่าจะเอาดี ในเมื่อคนที่ลูกชายสุดรักดันไปหาเรื่อง ก็เป็นคนที่ทำเอาพวกเขาเกือบได้ตายอีกครั้ง แถมเป็นพวกถ้าใครท้าแล้วจะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆซะอีก งานนี้มีแต่คำว่า “ซวยสุดยอด” อยู่ในหัวของมินาโตะ เจ้าลูกชายจอมหาเรื่อง แล้วพ่อจะทำไงดีล่ะเนี่ย

    “คิดออกแล้วสินะ”

    “อืม คงเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก….

    “อุจิวะ มาดาระ”

    ……………………………………………………………………………………………

    หลังเวที

     “ฮัดเช้ย!!..”ร่างบางจามออกมาเสียงเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ยังไงก็ยังไม่สามารถพ้นหูของร่างสูงไปได้ไกลหรอก

    “นายนินทาฉันหรอ ฮาชิรามะ”ร่างบางพยามดัดเสียงให้กลายเป็นผู้ชายแต่ว่าไม่ว่าจะทำอย่างไรเสียงเขาก็เปลี่ยนไปเสียแล้ว

    “ฉันจะนินทาอะไรนายล่ะ ก็นายออกจะสวยซะขนาดนี้ “ ร่างสูงพูดไปยิ้มไป ก่อนที่จะแอบขโมยหอมแก้มร่างบางโดยที่ยังไม่ได้ตั้งตัวทำเอาร่างบางหน้าแดงไปตามๆกัน ไม่รู้ว่าหน้าแดงเพราะเขินหรือว่าเพราะโกรธกันแน่เนี่ย

    “บ้าหน่ะ ฮาชิรามะ”มาดาระพยามหลบสายตาก่อนที่จะถามร่างสูง

    “นายคิดว่าเราจะชนะหรือเปล่า ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย “ มาดาระพูดด้วยท่าทางที่คาดเดายาก ไหนจำกังวลใจ เสียใจ งงงวย ลางสังหรณ์อีกต่างหาก

    “ไม่ชนะก็ไม่เป็นไรนี่เป็นแค่เกมน่า นายอย่าไปซีเรียส “ ฮาชิรามะพูดด้วยท่าทางสบายใจ ผิดกับคนข้างๆกายที่หน้าตาดูหม่นหมองลงมาก เขากลัวว่าถ้าแพ้เขาอาจจะถูกเยาะเย้ยว่าเป็นพวกขี้แพ้ มันน่ากลัวนะ สำหรับเขาที่อยู่คนเดียว

    “นายไม่เข้าใจหรอก”

    “ไม่เอาน่า จะแข่งแล้วนายทำตัวให้รื่นเริงหน่อยสิ เห็นไหมว่าผู้คนหน่ะชอบรอยยิ้มและความจริงใจแก่พวกเขา เพราะงี้ฉันถึงได้มาเป็นโฮคาเงะไงล่ะ นายเองก็หัดยิ้มบ้างสิ ขอให้ฉันแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นนะ ไม่ได้หรอ” ร่างสูงทำตาหวานใส่ร่างบาง เป็นเหตุให้ร่างบางยอมจำนนอย่างไม่ค่อยเต็มใจ

    “งั้นฉันจะยอมก็ได้ แต่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าฉันยิ้มได้ล่ะนะ “ร่างบางพูดเสียงอ่อยๆก่อนที่จะมองออกไปข้างนอกงาน

    “นายไม่ต้องกังวลอะไรหรอกน่า เพราะว่าฉันชอบนายแบบเพื่อนมานานแล้วล่ะ ดังนั้นเราจะไม่มีอะไรก้ำเกินกันนะ”

    “จิ๊”เสียงร่างบางทำเสียงจิปากอย่างไม่พอใจ

    “แหม..คุยกันสนุกจังเลยนะ พวกคุณเนี่ย” เสียงเล็กๆอีกเสียงหนึ่งบ่งบอกว่ามีคนกำลังแอบฟังพวกเขาคุยกันอยู่ แต่จะเป็นใครไปได้นอกซะจากนารูโตะกับซาสึเกะ

    “แฮะๆนายได้ยินด้วยรึ”ฮาชิรามะยิ้มๆและเกาหัวแก้เก้อ

    “ครับ แต่ผมมองไม่เห็นเลยว่าพวกคุณใส่ชุดอะไรกันอยู่หน่ะครับ เพราะในนี้มันมืดเกินไปที่เราจะมองเห็นนะครับ”นารูโตะชี้แจงเหตุผลก่อนที่จะหันมามองซาสึเกะ แล้วอมยิ้มอย่างเบาๆ เสียงของเขาตอนนี้คงถูกดัดแปลงเล็กน้อยเพราะว่าเสียงของเขาดูเล็กและเข้มผิดปรกติ

    “ตอนนี้มันได้เวลาที่จะแยกไปกันคนละทางรึเปล่า เพราะเราจะต้องไปกันแล้ว” ซาสึเกะเสริม ก่อนที่พวกเขาจะไปกันสาย ฮาชิรามะรับคำก่อนที่จะเดินออกไปพร้อมกับซาสึเกะ

    “อย่างลืมล่ะทั้งคู่ ใส่หน้ากากให้ดีๆก่อนที่จะออกไปข้างนอกนะ” ฮาชิรามะเสริมก่อนที่จะถูกซาสึเกะลากออกไปจากห้องหน้าเวที

    “หน้ากาก!!นายก็ใส่ด้วยหรอ”

    “ไม่มีเหตุจำเป็นต้องตอบคำถาม”มาดาระพูดเสียงแข็งก่อนจะใส่หน้ากากให้เรียบร้อย และเช็คดูเสื้อผ้าของตน

    “นี่มาดาระ ขอนอกเรื่องหน่อยได้ไหม”

    “มีอะไรอีกล่ะ ถ้าเรื่องราเม็งฉันจะไม่คุยด้วยนะ”

    “นายคิดว่าฉันเหมาะกับซาสึเกะรึเปล่า” คำถามนี้เกือบทำให้มาดาระยิ้มออกมา แต่เขาก็ยังคงทำหน้านิ่งตามเดิม

    “เอาไงดีล่ะ นิสัยพวกนายมันแต่งต่างกันสุดขั้วโลกเลย แต่พวกนายกลับดูเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก”

    “หรอ  ฉันพยามจะทำตัวให้เขามองดูว่าผมไม่ใช่เด็ก ไม่ต้องให้เขามากักบริเวณเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ว่ายังไงซะเขาก็ยังคงทำตัวเหมือนกับว่าผมเป็นเด็กอยู่” นารูโตะเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะถามเอากับคำถามที่ทำให้มาดาระทบช๊อก

    “นี่มาดาระ นายเคยรักใครสักคนสุดหัวใจไหม แต่ว่าเขาก็ยังไม่เคยมองผมว่าเป็นผู้ใหญ่สักที”นารูโตะถามก่อนที่จะก้มหน้านิ่งไปสักพักใหญ่ๆ

    “ฉันก็เคยรักคนๆหนึ่งสุดหัวใจ แต่ว่ายังไงเขาก็ยังคิดกับฉันว่าแค่เพื่อนอยู่ดีนั่นแหละ”

    “นายคงไม่ได้บอกหรอกว่าแอบหลงรักฮาชิรามะ” ประโยคนี้ทำเอามาดาระแข็งเป็นหิน ในเมื่อเขาบอกว่าจะตัดใจจากฮาชิรามะแล้วแท้ๆแต่ว่า เขาก็ทำไม่ได้

    …..(เงียบ)”

    “แสดงว่าชอบสินะ”

    “อ่า..คงงั้นมั้ง “

    “ว่าแล้วเชียว ว่าแต่นายทำยังไงให้เขาเอาอกเอาใจขนาดนี้”

    “ไม่ได้ทำอะไรแต่มันเป็นนิสัยของหมอนั่นอยู่แล้วที่ชอบแคร์คนอื่นไปทั่ว”

    “อืมเอาเถอะ รอพิธีงานเปิดให้เสร็จฉันอยากจะให้นายชนะจัง”

    “ทำไม??

    “ก็เพราะว่า……………(ซุ๊บซิ๊บๆ)”

    “อึมเอางั้นก็ได้ฉันจะทำตัวเป็นคนดีสักวันก็คงได้”

    “งั้นเต้งหลายเด้อ!! ไปฟังป้าซึนาเดะอภิปายกัน”

    ………………………………………………………………………………….

     

    ภายนอกงาน

    …………………….เพราะฉะนั้นขอเริ่มต้นการเปิดงานได้ค่ะ และวันนี้พวกเรามีพิธีกร 2 สาวสวย คือมิโตะ สาวสวยผมแดงแรงฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์แกร่งกล้า ทะลุฟ้าทะลวงจันทร์  นิรันแห่งความสวย หมวยอึ่มอย่างมีสไตล์ สุดท้ายตายเพราะขี่ควายชนตู้ค่ะ นามนั้นคือ “อุสึมากิ มิโตะ “

    ”บ่ะ ยัยซึนาเดะ เธอพากย์ฉันซะเสียหมด”<<<มิโตะ

    “อีกคนหนึ่งคือสาวสวยสุดแสบ ชะแว้บได้ทุกเมื่อ เบื่อยามสามี  เหมือนผีเฝ้าประตู อยู่ๆก็ไป จะมาไม่บอก ทิ้งบ้านให้รก เอาลูกให้สามีเลี้ยง เขวี้ยงข้าวของยามต้องการ ฝานข้าวติดเปลือกหม้อ คอยาวปากใหญ่ ใครเห็นก็ร้องทัก ชื่อนั้นคือ “อุสึมากิ คุชินะ”

    “เชื่อไหมว่าเธอใช้สามีเนี่ยเหมือนแม่บ้านเลยคุชินะ”

    “แหม ก็เขาเป็นพวกชอบไปเถลไถลเวลาไม่มีงาน แถมยังชอบไม่มีเวลาให้ครอบครัว ดังนั้นฉันก็เลยใช้เขาซะเลย ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้หรอกน่า ก้แค่สามีเป็นได้ประมาณเครื่องดูดฝุ่น ถ้าจะใช้เมื่อไหร่ก็เปิด ต้องไปจูงตามเมื่อเวลาปล่อยไว้ แถมเวลาปล่อยเอาไว้นานมันก็จะดิ้นดุ๊กๆดิ๊กๆออกจากมือเรา และอย่างสุดท้ายคือ ถ้ามันไม่มีปลั๊กไฟมันก็ต้องไม่ติดอยู่แล้ว ดังนั้นครอบครัวเราถึงเหมือนเครื่องดูดฝุ่น มีภรรยาและลูกเป็นปลั๊ก ส่วนเขาก็เครื่องดูดฝุ่นนั่นแหละ”

    “อืม..ฉันว่าฉันเห็นศพคนนอนอืดอยู่ข้างล่างนะ”

    “ปล่อยไปเถอะมินาโตะควรจะได้โดนพูดแทงใจดำบ้างล่ะ”

    “อืมๆนอกเรื่องกันนานแล้ว เรากลับมาดูที่เวทีการประกวดกันก่อนนะคะ ตอนนี้ได้เวลาพร้อมสำหรับ show time แล้วล่ะคะ น่าสนใจจังว่าผู้เข้าประกวดนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างนะ ไปชมกันเลยค่ะ”

    ผู้เข้าร่วมประกวดต่างเดินออกมาโชว์ลีลาชุดที่แสนจะสะดุดตากันของแต่ละคน เสียงปรบมือดังขึ้นมากมายจากทั่วสารทิศ ส่วนมากจะเป็นชุดยูกาตะชายหญิงธรรมดากัน แต่ว่าที่พวกผู้เข้าประกวดเน้นคือ ใบหน้า และ สีของชุดที่ร้อนแรงไม่แพ้ใคร มันทำให้งานดูมีสีสันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ว่าความสวยงามที่เกินจริงก็มักจะโดนคนอื่นๆที่สวยกว่าแซงอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดาของการแข่งขัน  ไฟฉายสปอตไลต์ต่างหมุนไปมาด้วยความสดใส แม้ว่าทุกอย่างจะดูเหมือนนำของสากลมาใช้ แต่ก็ยังไม่สามารถเป็นแปลงกฎได้ว่าจะต้องใส่ชุดของญี่ปุ่นเท่านั้น

    “น่ารักจังแต่ละคน  ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถแต่งออกมาได้สุดยอดขนาดนี้  ว่าแต่งานนี้กรรมการจะเลือกเบอร์ไหนกันบ้างนะ แต่ว่าเรื่องนั้นเอาไว้ก่อนนะค่ะ เพราะว่าเรายังมีการแข่งขันของเด็กชายจอมอารมณ์ที่ไปท้าแข่งขันคนอื่นเข้าหน่ะสิคะ”มิโตะเงียบไว้รอสำหรับให้คุชินะพูดต่อ

    “แหมๆ ก็ลูกดิฉันดันเป็นพวกที่ชอบไปหาเรื่องคนอื่นโดยไม่คิดหน่ะสิคะ เลยทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ แต่ว่าที่น่าแปลกใจคือกฎการแข่งขันครั้งนี้ดันเป็นการสั่งให้แต่งชุดเป็นผู้หญิงสิคะ แต่ว่าผู้ชายจะแต่งขึ้นได้อย่างไรสินะคะ”

    “นั้นสินะ เอาเถอะค่ะ ช่วงหน้าเตรียมพร้อมที่จะพบกับเหล่าหนุ่มๆทั้ง2ที่จะมาประชันกันในเรื่องของความเป็นหญิงในตัวเองหน่ะสิคะ แม้ว่าจะเป็นการแข่งขันที่ดูไม่จริงจัง แต่อย่าคิดว่าพวกเขาจะไม่เอาจริงนะคะติดตามได้ในช่วงหน้าของการแข่งขันได้นะคะ โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^-^

                                                                                                     

    ……………………………………………………………end8

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×