คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : เรื่องราวที่ 8 : เริ่มการแข่งขัน
เรื่องราวที่ 8 : เริ่มการแข่งขัน
หน้าเวทีการประกวด
“คิดว่าไงกับการประกวดในงานครั้งนี้ ทุกคน“ หญิงสาวรูปร่างผอมเพรียว ผลัดกับผมสีเนื้อมัดแกละล่าง สวมเสื้อคลุม ที่มีตัวอักษร“พนัน”ติดประกาศเอาไว้กลางหลัง บัดนี้กำลังซุ่มจับตาดูอยู่ในความมืดราวกับว่ากำลังเตรียมตัวออกงานอยู่
“ไม่รู้สิ ฉันคิดว่ามันเกิดเรื่องชุลมุนเมื่อตะกี้แล้วจู่ดีๆก็หายเงียบไปอย่างไรร่องรอย”ชายวัยชรา แต่ความสามารถไม่ธรรมดา กำลังจับตามองดูซุ่มนั้นอย่างใจจดใจจ่อ แต่ยังคงแอบซ่อนตัวอยู่ในความมืดเช่นเดียวกัน
“แหม รู้สึกว่าลูกชายผมจะเป็นคนหาเรื่องด้วยหน่ะสิครับ” ชายหนุ่มผมสีทองยาวสลวย ใบหน้าคมสันได้รูป นัยตาสีฟ้าครามสดทอแสงประกายเงางามแม้จะอยู่ในที่มืด ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ที่หน้าตาดูเหมือนเด็กผู้หญิง แต่ความสามารถไม่ธรรมดา สมกับที่ได้รับสมยานามว่า “ประกายแสงสีทองแห่งโคโนฮะ” ตอนนี้เขากำลังกังวลกับบางสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นอย่างรุนแรงเพราะกลัวว่าอาจจะเกิดสงครามในงานนี้ก็เป็นได้ ในเมื่อลูกชายเขาเป็นพวกชอบหาเรื่องเข้าตัว อยู่ดีไม่ว่าดี
“งั้นก็แย่สิมินาโตะ แล้วคนที่ไปหาเรื่องด้วยนั่นหน่ะเป็นใคร พอรู้ไหม” โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ถามอย่างขัดข้องใจ
“แฮะๆๆก็…ไม่รู้สิครับ ตอนนั้นผมมองดูแค่โซนจัดงานต่างๆแค่นั้น ไม่ได้ดูไปถึงข้างในนั้นหรอกครับ “
“แต่ว่าฉันมองอยู่นะ “หญิงสาวนามซึนาเดะพูดอย่างมั่นใจ ก่อนที่จะมองลงไปข้างล่างอีกครั้ง
“แล้วเธอเห็นอะไรบ้างล่ะ ซึนาเดะ”
“ก็คนที่นารูโตะไปหาเรื่องดันเป็นคนที่มีอำนาจมากหน่ะสิ แล้วดันไปท้าแข่งเขาอีกต่างหาก”
“ใครหรอครับ คนที่คุณว่า” มินาโตะถามเสียงไม่ค่อยมั่นใจมากเท่าไร
“นายอยากรู้จริงหรอ มินาโตะ” ซึนาเดะถามด้วยความแปลกใจปนกังวลใจ
“ครับ ผมจะได้เคลียเรื่องให้มันจบไปง่ายๆ”
“คนที่นารูโตะ ไปหาเรื่องคือเพื่อนของปู่ฉันเอง”
“ปู่ของคุณหรอ ก็คือโฮคาเงะรุ่นแรก ส่วนคนที่เป็นเพื่อนของรุ่นแรกได้ก็…”มินาโตะพูดไม่ออกได้แต่พะงาบๆปากว่าจะเอาดี ในเมื่อคนที่ลูกชายสุดรักดันไปหาเรื่อง ก็เป็นคนที่ทำเอาพวกเขาเกือบได้ตายอีกครั้ง แถมเป็นพวกถ้าใครท้าแล้วจะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆซะอีก งานนี้มีแต่คำว่า “ซวยสุดยอด” อยู่ในหัวของมินาโตะ เจ้าลูกชายจอมหาเรื่อง แล้วพ่อจะทำไงดีล่ะเนี่ย
“คิดออกแล้วสินะ”
“อืม คงเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก….”
“อุจิวะ มาดาระ”
……………………………………………………………………………………………
หลังเวที
“ฮัดเช้ย!!..”ร่างบางจามออกมาเสียงเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ยังไงก็ยังไม่สามารถพ้นหูของร่างสูงไปได้ไกลหรอก
“นายนินทาฉันหรอ ฮาชิรามะ”ร่างบางพยามดัดเสียงให้กลายเป็นผู้ชายแต่ว่าไม่ว่าจะทำอย่างไรเสียงเขาก็เปลี่ยนไปเสียแล้ว
“ฉันจะนินทาอะไรนายล่ะ ก็นายออกจะสวยซะขนาดนี้ “ ร่างสูงพูดไปยิ้มไป ก่อนที่จะแอบขโมยหอมแก้มร่างบางโดยที่ยังไม่ได้ตั้งตัวทำเอาร่างบางหน้าแดงไปตามๆกัน ไม่รู้ว่าหน้าแดงเพราะเขินหรือว่าเพราะโกรธกันแน่เนี่ย
“บ้าหน่ะ ฮาชิรามะ”มาดาระพยามหลบสายตาก่อนที่จะถามร่างสูง
“นายคิดว่าเราจะชนะหรือเปล่า ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย “ มาดาระพูดด้วยท่าทางที่คาดเดายาก ไหนจำกังวลใจ เสียใจ งงงวย ลางสังหรณ์อีกต่างหาก
“ไม่ชนะก็ไม่เป็นไรนี่เป็นแค่เกมน่า นายอย่าไปซีเรียส “ ฮาชิรามะพูดด้วยท่าทางสบายใจ ผิดกับคนข้างๆกายที่หน้าตาดูหม่นหมองลงมาก เขากลัวว่าถ้าแพ้เขาอาจจะถูกเยาะเย้ยว่าเป็นพวกขี้แพ้ มันน่ากลัวนะ สำหรับเขาที่อยู่คนเดียว
“นายไม่เข้าใจหรอก”
“ไม่เอาน่า จะแข่งแล้วนายทำตัวให้รื่นเริงหน่อยสิ เห็นไหมว่าผู้คนหน่ะชอบรอยยิ้มและความจริงใจแก่พวกเขา เพราะงี้ฉันถึงได้มาเป็นโฮคาเงะไงล่ะ นายเองก็หัดยิ้มบ้างสิ ขอให้ฉันแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นนะ ไม่ได้หรอ” ร่างสูงทำตาหวานใส่ร่างบาง เป็นเหตุให้ร่างบางยอมจำนนอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
“งั้นฉันจะยอมก็ได้ แต่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าฉันยิ้มได้ล่ะนะ “ร่างบางพูดเสียงอ่อยๆก่อนที่จะมองออกไปข้างนอกงาน
“นายไม่ต้องกังวลอะไรหรอกน่า เพราะว่าฉันชอบนายแบบเพื่อนมานานแล้วล่ะ ดังนั้นเราจะไม่มีอะไรก้ำเกินกันนะ”
“จิ๊…”เสียงร่างบางทำเสียงจิปากอย่างไม่พอใจ
“แหม..คุยกันสนุกจังเลยนะ พวกคุณเนี่ย” เสียงเล็กๆอีกเสียงหนึ่งบ่งบอกว่ามีคนกำลังแอบฟังพวกเขาคุยกันอยู่ แต่จะเป็นใครไปได้นอกซะจากนารูโตะกับซาสึเกะ
“แฮะๆนายได้ยินด้วยรึ”ฮาชิรามะยิ้มๆและเกาหัวแก้เก้อ
“ครับ แต่ผมมองไม่เห็นเลยว่าพวกคุณใส่ชุดอะไรกันอยู่หน่ะครับ เพราะในนี้มันมืดเกินไปที่เราจะมองเห็นนะครับ”นารูโตะชี้แจงเหตุผลก่อนที่จะหันมามองซาสึเกะ แล้วอมยิ้มอย่างเบาๆ เสียงของเขาตอนนี้คงถูกดัดแปลงเล็กน้อยเพราะว่าเสียงของเขาดูเล็กและเข้มผิดปรกติ
“ตอนนี้มันได้เวลาที่จะแยกไปกันคนละทางรึเปล่า เพราะเราจะต้องไปกันแล้ว” ซาสึเกะเสริม ก่อนที่พวกเขาจะไปกันสาย ฮาชิรามะรับคำก่อนที่จะเดินออกไปพร้อมกับซาสึเกะ
“อย่างลืมล่ะทั้งคู่ ใส่หน้ากากให้ดีๆก่อนที่จะออกไปข้างนอกนะ” ฮาชิรามะเสริมก่อนที่จะถูกซาสึเกะลากออกไปจากห้องหน้าเวที
“หน้ากาก!!นายก็ใส่ด้วยหรอ”
“ไม่มีเหตุจำเป็นต้องตอบคำถาม”มาดาระพูดเสียงแข็งก่อนจะใส่หน้ากากให้เรียบร้อย และเช็คดูเสื้อผ้าของตน
“นี่มาดาระ ขอนอกเรื่องหน่อยได้ไหม”
“มีอะไรอีกล่ะ ถ้าเรื่องราเม็งฉันจะไม่คุยด้วยนะ”
“นายคิดว่าฉันเหมาะกับซาสึเกะรึเปล่า” คำถามนี้เกือบทำให้มาดาระยิ้มออกมา แต่เขาก็ยังคงทำหน้านิ่งตามเดิม
“เอาไงดีล่ะ นิสัยพวกนายมันแต่งต่างกันสุดขั้วโลกเลย แต่พวกนายกลับดูเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก”
“หรอ ฉันพยามจะทำตัวให้เขามองดูว่าผมไม่ใช่เด็ก ไม่ต้องให้เขามากักบริเวณเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ว่ายังไงซะเขาก็ยังคงทำตัวเหมือนกับว่าผมเป็นเด็กอยู่…” นารูโตะเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะถามเอากับคำถามที่ทำให้มาดาระทบช๊อก
“นี่มาดาระ นายเคยรักใครสักคนสุดหัวใจไหม แต่ว่าเขาก็ยังไม่เคยมองผมว่าเป็นผู้ใหญ่สักที”นารูโตะถามก่อนที่จะก้มหน้านิ่งไปสักพักใหญ่ๆ
“ฉันก็เคยรักคนๆหนึ่งสุดหัวใจ แต่ว่ายังไงเขาก็ยังคิดกับฉันว่าแค่เพื่อนอยู่ดีนั่นแหละ”
“นายคงไม่ได้บอกหรอกว่าแอบหลงรักฮาชิรามะ” ประโยคนี้ทำเอามาดาระแข็งเป็นหิน ในเมื่อเขาบอกว่าจะตัดใจจากฮาชิรามะแล้วแท้ๆแต่ว่า เขาก็ทำไม่ได้
“…..(เงียบ)”
“แสดงว่าชอบสินะ”
“อ่า..คงงั้นมั้ง “
“ว่าแล้วเชียว ว่าแต่นายทำยังไงให้เขาเอาอกเอาใจขนาดนี้”
“ไม่ได้ทำอะไรแต่มันเป็นนิสัยของหมอนั่นอยู่แล้วที่ชอบแคร์คนอื่นไปทั่ว”
“อืม…เอาเถอะ รอพิธีงานเปิดให้เสร็จฉันอยากจะให้นายชนะจัง”
“ทำไม??”
“ก็เพราะว่า……………(ซุ๊บซิ๊บๆ)”
“อึม…เอางั้นก็ได้ฉันจะทำตัวเป็นคนดีสักวันก็คงได้”
“งั้นเต้งหลายเด้อ!! ไปฟังป้าซึนาเดะอภิปายกัน”
………………………………………………………………………………….
ภายนอกงาน
“…………………….เพราะฉะนั้นขอเริ่มต้นการเปิดงานได้ค่ะ และวันนี้พวกเรามีพิธีกร 2 สาวสวย คือมิโตะ สาวสวยผมแดงแรงฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์แกร่งกล้า ทะลุฟ้าทะลวงจันทร์ นิรันแห่งความสวย หมวยอึ่มอย่างมีสไตล์ สุดท้ายตายเพราะขี่ควายชนตู้ค่ะ นามนั้นคือ “อุสึมากิ มิโตะ “
”บ่ะ ยัยซึนาเดะ เธอพากย์ฉันซะเสียหมด”<<<มิโตะ
“อีกคนหนึ่งคือสาวสวยสุดแสบ ชะแว้บได้ทุกเมื่อ เบื่อยามสามี เหมือนผีเฝ้าประตู อยู่ๆก็ไป จะมาไม่บอก ทิ้งบ้านให้รก เอาลูกให้สามีเลี้ยง เขวี้ยงข้าวของยามต้องการ ฝานข้าวติดเปลือกหม้อ คอยาวปากใหญ่ ใครเห็นก็ร้องทัก ชื่อนั้นคือ “อุสึมากิ คุชินะ”
“เชื่อไหมว่าเธอใช้สามีเนี่ยเหมือนแม่บ้านเลยคุชินะ”
“แหม ก็เขาเป็นพวกชอบไปเถลไถลเวลาไม่มีงาน แถมยังชอบไม่มีเวลาให้ครอบครัว ดังนั้นฉันก็เลยใช้เขาซะเลย ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้หรอกน่า ก้แค่สามีเป็นได้ประมาณเครื่องดูดฝุ่น ถ้าจะใช้เมื่อไหร่ก็เปิด ต้องไปจูงตามเมื่อเวลาปล่อยไว้ แถมเวลาปล่อยเอาไว้นานมันก็จะดิ้นดุ๊กๆดิ๊กๆออกจากมือเรา และอย่างสุดท้ายคือ ถ้ามันไม่มีปลั๊กไฟมันก็ต้องไม่ติดอยู่แล้ว ดังนั้นครอบครัวเราถึงเหมือนเครื่องดูดฝุ่น มีภรรยาและลูกเป็นปลั๊ก ส่วนเขาก็เครื่องดูดฝุ่นนั่นแหละ”
“อืม..ฉันว่าฉันเห็นศพคนนอนอืดอยู่ข้างล่างนะ”
“ปล่อยไปเถอะมินาโตะควรจะได้โดนพูดแทงใจดำบ้างล่ะ”
“อืมๆนอกเรื่องกันนานแล้ว เรากลับมาดูที่เวทีการประกวดกันก่อนนะคะ ตอนนี้ได้เวลาพร้อมสำหรับ show time แล้วล่ะคะ น่าสนใจจังว่าผู้เข้าประกวดนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างนะ ไปชมกันเลยค่ะ”
ผู้เข้าร่วมประกวดต่างเดินออกมาโชว์ลีลาชุดที่แสนจะสะดุดตากันของแต่ละคน เสียงปรบมือดังขึ้นมากมายจากทั่วสารทิศ ส่วนมากจะเป็นชุดยูกาตะชายหญิงธรรมดากัน แต่ว่าที่พวกผู้เข้าประกวดเน้นคือ ใบหน้า และ สีของชุดที่ร้อนแรงไม่แพ้ใคร มันทำให้งานดูมีสีสันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ว่าความสวยงามที่เกินจริงก็มักจะโดนคนอื่นๆที่สวยกว่าแซงอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดาของการแข่งขัน ไฟฉายสปอตไลต์ต่างหมุนไปมาด้วยความสดใส แม้ว่าทุกอย่างจะดูเหมือนนำของสากลมาใช้ แต่ก็ยังไม่สามารถเป็นแปลงกฎได้ว่าจะต้องใส่ชุดของญี่ปุ่นเท่านั้น
“น่ารักจังแต่ละคน ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถแต่งออกมาได้สุดยอดขนาดนี้ ว่าแต่งานนี้กรรมการจะเลือกเบอร์ไหนกันบ้างนะ แต่ว่าเรื่องนั้นเอาไว้ก่อนนะค่ะ เพราะว่าเรายังมีการแข่งขันของเด็กชายจอมอารมณ์ที่ไปท้าแข่งขันคนอื่นเข้าหน่ะสิคะ”มิโตะเงียบไว้รอสำหรับให้คุชินะพูดต่อ
“แหมๆ ก็ลูกดิฉันดันเป็นพวกที่ชอบไปหาเรื่องคนอื่นโดยไม่คิดหน่ะสิคะ เลยทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ แต่ว่าที่น่าแปลกใจคือกฎการแข่งขันครั้งนี้ดันเป็นการสั่งให้แต่งชุดเป็นผู้หญิงสิคะ แต่ว่าผู้ชายจะแต่งขึ้นได้อย่างไรสินะคะ”
“นั้นสินะ เอาเถอะค่ะ ช่วงหน้าเตรียมพร้อมที่จะพบกับเหล่าหนุ่มๆทั้ง2ที่จะมาประชันกันในเรื่องของความเป็นหญิงในตัวเองหน่ะสิคะ แม้ว่าจะเป็นการแข่งขันที่ดูไม่จริงจัง แต่อย่าคิดว่าพวกเขาจะไม่เอาจริงนะคะติดตามได้ในช่วงหน้าของการแข่งขันได้นะคะ โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^-^”
……………………………………………………………end8
ความคิดเห็น