ตอนที่ 7 : นางมาร บทที่ 6
บทที่ 6
หลี่ ซูหนี่ว์ ใช้วิชาตัวเบาระดับในระดับเก้า มาถึงตรงเสียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระโดดขึ้นไปยืนหลบอยู่ตรงพุ่มไม้ และเก็บพลังปราณพรางตัวซื่อซื่อที่ตามมาถึงติดๆ จึงทำตามคุณหนูด้วยความสงสัย เพราะนางได้ยินแต่เสียงร้องของสัตว์อสูร ไม่เห็นได้ยินเสียงของความช่วยเหลือสักนิด
“พี่ซื่อซื่อ พวกนั้นกำลังทำร้ายสัตว์อสูร”
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งสามคนกับสตรีอีกสองนางกำลังยืนล้อมและซัดพลังใส่หมาจิ้งจอกตัวสีขาวที่กำลังปกป้องลูกน้อยอย่างสุดฤทธิ์ ภาพที่เห็นทำให้ ซูหนี่ว์ถึงกับโกรธจัด เสียงที่นางได้ยินคือเสียงของหมาจิ้งจอกนั่น พวกมนุษย์เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์เสียอีก มาดักทำร้ายตอนมันคลอดลูก
“ข้าจะไปช่วยพวกมัน พี่รอข้าอยู่ตรงนี้นะเจ้าคะ”
“อย่า..”
ไม่เพียงไม่ฟังคำห้ามเด็กสาวตัวน้อยยังใช้พลังปราณควบคุมกิ่งไม้มาพันตัวซื่อซื่อไว้อย่างแน่นหนา จนนางได้แต่ตกใจ ไหนว่าคุณหนูมีธาตุลม เหตุใดจึงควบคุมต้นไม้ได้เหมือนธาตุดิน ไม่รอให้สาวใช้ส่วนตัวสงสัยนาน ซูหนี่ว์ จึงคว้าผ้ามาพันหน้า พร้อมทั้งกระโดดลงไปตรงกลางวงล้อมยืนบังหมาจิ้งจอกทันที
“หนูน้อย หลบออกมามันอันตราย” บุรุษหนุ่มร่างกายกำยำคนแรกเอ่ย ทันทีที่เห็นเด็กสาวตัวเล็กไม่รู้ที่มากระโดดลงมากลางวงล้อม เขาเกือบเผลอปล่อยพลังใส่เด็กสาวคนนี้เสียแล้ว
“ข้าขอเสียมารยาท พวกท่านผู้มีจิตใจดีโปรดไว้ไมตรีมันด้วยเถอะเจ้าค่ะ” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสหวังให้เจรจากันจบด้วยดีอย่าให้ต้องใช้กำลังกันเลยเถอะ
“เหอะ ทำมาพูดไป เจ้าอยากครอบครองมันไว้เองนะสิ” หญิงสาวอีกคนเอ่ยด้วยน้ำเสียงบาดหู เสียงแหลมยิ่งกว่าพี่รองข้าเสียอีก หูข้าจะดับหรือไม่
“พี่สาวคนงาม ข้ามิได้อยากครอบครองมันเพียงแค่สงสารมันเท่านั้น ดูสิลูกมันเพิ่งคลอดยังไม่ทันได้ลืมตาเลย”
“พี่หญิงอย่าไปฟังมันเจ้าค่ะ..เจ้าเด็กปากมากหุบปากเจ้าเสีย กว่าข้าจะมีโอกาสได้ครอบครองมันไม่ใช่เรื่องง่าย” หญิงอีกนางเอ่ยด้วยเสียงที่บาดหูอีกเช่นกัน สมกับที่เป็นพี่น้องกันเสียจริง
“เด็กน้อยเจ้าหลบออกมาเถอะ น้องสาวข้าอยากมีสัตว์อสูรไว้ในครอบครอง และนี้ก็เป็นโอกาสที่ดี เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ ลูกมันมีสี่ตัวข้าจะแบ่งให้เจ้าหนึ่งตัว เพราะพี่ใหญ่ข้ามีสัตว์อสูรอยู่แล้ว” ชายหนุ่มหน้าหวานอีกคนเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่แววตาให้แสดงออกมาช่างเจ้าเล่ห์เหลือเกิน ซูหนี่ว์รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของบุรุษตรงหน้าได้อย่างง่ายดายเมื่อสบตาอันแสนเจ้าเล่ห์
“ขอยืนยันคำเดิมเจ้าค่ะปล่อยพวกมันไป” ซูหนี่ว์นี้จึงเริ่มเอ่ยเสียงแข็งขึ้นมาบาง แววตามุ่งมั่นของนางทำให้ชายหนุ่มถึงกับคิ้วกระตุก
“พี่หญิง พี่ใหญ่ พี่รอง เดี๋ยวน้องจัดการนังเด็กนี้เองพวกท่านรีบจัดการจิ้งจอกเถอะเดี๋ยวมันจะฟื้นพลังได้เสียก่อน” หญิงสาวคนน้องเอ่ยพร้อมกับทำหน้าไม่พอใจใส่ซูหนี่ว์ ที่มาขัดจังหวะ
“เหมยเอ๋อร์อย่ารุนแรงนักละนางก็เป็นแค่เด็ก” บุรุษหนุ่มหน้าหวานเอ่ยด้วยเสียงนุ่มนวลเช่นเดิมราวกับว่าเอ็นดูเด็กหยอกล้อกัน
“เด็กอวดดีนะสิพี่รอง...ข้าจะให้โอกาสเจ้าถอยออกไปหาไม่คงต้องรังแกเด็กแล้ววันนี้” นางเอ่ยพร้อมทั้งเรียกลูกบอลน้ำในมือขึ้นมาเพื่อข่มขู่เด็กสาวตรงหน้า ลูกบอลน้ำเล็กแค่นั้นยังกล้าเอามาข่มขู่อีกนะ
“เชิญพี่สาวคนงามแล้วอย่าหาว่าข้ารังแกคนแก่” ซูหนี่ว์เอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งพลางคิดอยู่ในหัวว่านางควรแสดงพลังธาตุอะไรดีระหว่างลมหรือดิน
ในระหว่างที่คิดไม่ตกนางก็ลอบส่งพลังไปป้องกันหมาจิ้งจอกและลูกของมันด้วยนางดึงพลังจากอากาศสร้างเป็นเกาะป้องกันใส ป้องกันการโจมตีทุกรูปแบบผู้ที่มีพลังปราณระดับสิบเท่านั้นถึงจากทำร้ายเกราะป้องกันนี้ได้
“กรี๊ดดด นังเด็กปากเสีย เจอนี้หน่อยเป็นไง!”
ตูม!!
“เหมยเอ๋อร์!!”
ทั้งสามคนต่างร้องเรียกน้องสาวของตนเป็นเสียงเดียวกันเพราะคนที่โดนพลังกลับไม่ใช่เด็กตรงหน้าแต่กลายเป็นน้องสาวของพวกเขาเอง ซูหนี่ว์เพียงแค่ใช้พลังปราณป้องกันตัวเองเฉยๆ ไม่คิดว่ามันจะสะท้อนกลับได้ด้วย
อืมม..ข้าเผลอสร้างเกราะสะท้อนสินะ ไม่สินางอ่อนหัดเองต่างหาก มีพลังปราณแค่ขั้นสามทำอวดเก่งหากเป็นผู้อื่นคงหลบกันได้หมด
“เจ้า!! กล้าทำน้องสาวข้ารึ!! ตายเสียเถอะ!!” หญิงสาวอีกนางหนึ่งเอ่ยด้วยความโกรธจึงไม่ทันได้ไตร่ตรองว่าน้องสาวโดนพลังตัวเอง
หญิงสาวดึงพลังธาตุน้ำออกมาเต็มสิบส่วนด้วยพลังปราณระดับห้า หวังจะจัดการเด็กสาวตรงหน้าในกระบวนท่าเดียวซูหนี่ว์ เห็นดังนั้นก็แสยะยิ้มภายใต้ผ้าปิดหน้าผืนสีดำ นางดึงเอาพลังธาตุลมออกมาแต่แท้จริงแล้วนางไม่ได้ใช้ธาตุลมแต่อย่างใด นางกำลังใช้พลังตัวเองควบคุมพลังธาตุน้ำของหญิงสาวตรงหน้าที่ปล่อยออกมาต่างหาก หญิงสาวปล่อยพลังปราณใส่เด็กสาวตรงหน้าได้แต่ตกใจ เหตุใดพลังจึงไม่พุ่งออกไป!!
ตูม!!
“กรี๊ดดด”
นางถูกพลังตัวเองอัดใส่เต็มหน้าทั้งสิบส่วนที่คิดจะปล่อยออกมา ส่งผลให้ร่างบาง กระเด็นไปไกลหลายลี้ ท่ามกลางสายตาตกใจของพี่ชายทั้งสอง หลี่ ซูหนี่ว์ไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปง่ายๆ นางเรียกพายุหมุนลูกใหญ่สองลูก พัดเอาเศษใบไม้และดินพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มอีกสองคนที่ไม่ทันตั้งตัว ฝุ่นตลบทำให้ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ซูหนี่ว์จึงอาศัยจังหวะนี้ดึงเอาสัตว์อสูรทั้งห้าตัวเข้าไปในมิติก่อนจะใช้วิชาตัวเบาขั้นสูงสุดหนีออกจากที่เกิดเหตุกลับไปหาซื่อซื่อสาวใช้ที่โดนมัดอยู่
หลี่ ซูหนี่ว์นางคลายไม้เลื้อยที่พันตัวซื่อซื่อทั้งหมดออก ไม่ทันได้ตั้งคำถามกับคุณหนู ซูหนี่ว์ก็รีบลากนางออกจากบริเวณนั้นโดยทันที ‘คุณหนูช่างแข็งแกร่งกว่าที่เห็นนัก ขนาดธาตุไฟขั้นแปด ข้ายังทำอันใดไม้พวกนั้นไม่ได้สักนิด คุณหนูมีพลังอะไรกันแน่นะ’ ซื่อซื่อคิดโดยไม่ทันได้สังเกตเลยว่าตนใช้วิชาตัวเบาขั้นสูงสุดตามคุณหนูของตนอยู่
__________________________
อ่านจบแล้วอย่าลืมนะคะ
เม้นให้ไรท์ด้วยน้าาาาาาาาาาา
เอาล่ะ เอาคอมเม้นมาเติมทรูให้น้อยเสียดีๆ
#ไรท์ผู้งามเลิศในสามโลก
#ผู้เรื่องนี้เยอะมากบอกเลยจ้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

555 เจอพลังย้อนกลับ ซะเลยก็อยากใจร้ายกันดีนัก อิอิ
น้องน่ารัก
อยากให้ยาวกว่านี้มากๆ
สนุกกกก
ซูผนี่ว์ช่วยหมาป่ากับลูก ๆ ได้สำเร็จจะเลี้ยงไว้ดูเล่นไหม หรือว่าปล่อยเข้าป่าไปอีก รออ่านต่อขอบคุณค่ะ
ทำไมเอาสัตว์อสูรเข้ามิติแค่สี่ตัว แม่จิ้งจอกไม่ได้เข้าไปด้วยหรอ ถ้าเอาเข้าไปทั้งหมดควรเป็นห้าตัวหรือเปล่า
รออ่านตอนใหม่นะไรท์กำลังสนุกจ้ามาลงเร็วๆนะ
คิดถึงเลยย้อนกลับไปอ่านตอนอยู่ม.2 อิบอ๋าย ติดเหรียญแล้วว โคตรเศร้าเลยยยย