ตอนที่ 53 : นางมาร บทที่ 52
บทที่ 52
คิดได้ดังนั้นซูหนี่ว์ก็เข้าควบคุมหนึ่งในนักฆ่าระดับแปดและสั่งให้เขาฆ่าผู้ชายตรงหน้าให้ได้ ดวงตาของนักฆ่าคนนั้นก็กลายเป็นเหม่อลอยไร้แวว กระบวนท่าที่กำลังต่อสู้ก็เริ่มรุนแรงขึ้นเป็นเท่าตัว องค์ชายสาม หยาง จินเกอ ที่ไม่ทันได้ระวังตัวก็โดนคมกระบี่ฟันเข้าที่กลางหลังไปเต็มๆ
ฉวัะ!!
แผลรอยฟันเป็นทางยาวเลือดไหลซึมออกมากเต็มแผ่นหลัง บุรุษร่างสูงล้มลงคุกเข่าข้างหนึ่งมือยันพื้นไว้ นักฆ่าอีกคนจึงชะงักมือหันมองเพื่อนตัวเองอย่างไม่เข้าใจ
สายตาคมขององค์ชายสามจ้องมองที่นักฆ่าผู้ที่ลงมือทำร้ายพระองค์ด้วยแววตาอาฆาต แท่งน้ำแข็งแหลมคมนับร้อยปรากฏขึ้นก่อนจะมุ่งตรงไปที่นักฆ่าคนนั้นอย่างรวดเร็ว และเพราะเขาไม่มีสติอยู่แล้วก็ไม่คิดหลบ ในหัวว่างเปล่าคิดได้เพียงว่าต้องสังหารคนตรงหน้าเท่านั้น
ฉึก!! ฉึก!! ฉึก!! ฉึก!!
จึงทำให้แท่งน้ำแข็งนับร้อยพุ่งตรงเข้าปักจุดตายของนักฆ่าผู้นั้นล้มลงสิ้นใจในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนหน้านักฆ่าอีกคนก็ล้มลงสิ้นใจไปอย่างไม่รู้ตัวพร้อมๆ กัน เป็นเพราะซูหนี่ว์คุมแท่งน้ำแข็งขององค์ชายสามไว้สามแท่ง แล้วจึงใช้โอกาสแอบเล่นงานอีกคนที่ด้านหลัง แท่งน้ำแข็งเสียบทะลุหัวใจชายผู้นั้น จนสิ้นใจไปพร้อมๆ กันอย่างไม่รู้ตัว ซูหนี่ว์ที่มองอยู่ก็ยกยิ้มอย่างพึงพอใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า
จากนั้นไม่นานองค์ชายสามก็สลบไปเพราะพิษบาดแผลและเลือดที่ไหลออกเป็นจำนวนมาก ซูหนี่ว์จึงหันไปให้ความสนใจที่อื่นแทน การต่อสู้กินเวลาไปกว่าหนึ่งชั่วยาม เหตุการณ์ก็กลับมาปกติ นักฆ่าถูกฆ่าตายทั้งหมด ไม่มีเหลือไว้สอบสวนใดๆ ไป๋หูกับเด็กๆ จึงพากันกลับเข้ามาภายในมิตินางอีกครั้งโดยไม่มีผู้ใดสนใจ เพราะองค์รัชทายาท แม่ทัพฉิง และศิษย์พี่อีกคนต่างก็ได้รับบาดเจ็บหนัก ส่วนองค์ชายสามก็สลบอยู่ห่างๆ
ซูหนี่ว์เองก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม มองดูชินอ๋องโยนยาล้ำค่าไปให้ทั้งสี่คนได้ทาน จากนั้นพระองค์จึงยิงพลุส่งสัญญาณขึ้นฟ้า แสงสีแดงสว่างวาบ แล้วชินอ๋องจึงเร้นกายหายไป มาปรากฏตัวนั่งอยู่ข้างๆ ซูหนี่ว์บนต้นไม้
“เหนื่อยไหมเจ้าคะ” ซูหนี่ว์เอ่ยถามพลางยื่นน้ำแร่มรกตที่เตรียมไว้ให้คนข้างกายดื่ม
“ยืดเส้นคลายเมื่อยได้หน่อย” ชินอ๋องเอ่ยพร้อมกับยกน้ำขึ้นดื่มไปหลายอึก
ประมาณหนึ่งเค่อ บุคคลคุ้นหน้าคุ้นตาก็มาปรากฏตัวขึ้น เหล่าอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และหมอประจำสำนัก ราวๆ สิบคน รีบช่วยคนเจ็บที่เป็นศิษย์ของตน บุคคลเบื้องล่างวุ่นวายอีกราวๆ สองเค่อทุกอย่างจึงเงียบสงบลง
“หนี่ว์เอ๋อร์ พี่อาจจะหายไปสักพัก เจ้าดูแลตัวเองให้ดี อย่าไปซนที่ไหนละ” ชินอ๋องเอ่ยพูดกับคนข้างกาย มือหนาก็ลูบหัวคนตัวเล็กเอาไว้อย่างเพลิดเพลิน
“พี่เทียนหลงจะไปไหนหรือเจ้าคะ” ซูหนี่ว์เอ่ยถามพลางหันหน้าไปมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย ภายในอกก็รู้สึกวูบโหวงแปลกๆ ที่จะไม่ได้เจอเขา เพราะช่วงตลอดเวลาที่ผ่านมาที่อยู่สำนักศึกษานางเจอเขาเกือบจะทุกวัน
“พี่ต้องกลับเมืองหลวงเพราะฮ่องเต้ทรงเรียกตัว” ซูหนี่ว์ขมวดคิ้วเล็กๆ อย่างไม่พอใจเมื่อรู้สาเหตุที่ทำให้ชินอ๋องต้องห่างจากนาง
“ถ้ำมิติเจ้าก็จงขยันไปฝึกฝนจะได้เลื่อนระดับได้เร็วๆ เข้าใจหรือไม่”
“เจ้าค่ะ”
รับคำจบต่างก็แยกย้ายกันไปโดยชินอ๋องต้องเร่งเดินทางไปเมืองหลวงในคืนนี้เลย ส่วนซูหนี่ว์เองก็กลับที่พักไปพักผ่อน
พอเช้าวันต่อมาทั้งหมดก็ได้รับสัญญาณจากทางสำนักศึกษาให้เร่งกลับสำนักโดยด่วนโดยการแข่งขันเป็นอันต้องยุติลงกะทันหันเพราะเกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อคืนนี้
เหล่าศิษย์ในสำนักก็ได้แต่สงสัยแต่ก็ไม่มีใครทราบอะไรนอกจากนี้ ยกเว้นก็แต่ซูหนี่ว์ ที่อยู่ในเหตุการณ์ เทศกาลล่าสัตว์อสูรประจำปีของสำนักก็เป็นโมฆะ ไม่มีผู้ชนะและได้รับของรางวัลไปในปีนี้ แต่กลุ่มซูหนี่ว์ยังนับว่ามากับโชคเพราะทุกคนในกลุ่มนั้นได้มีสัตว์ในพันธะทุกคน
เมื่อกลับมาถึงสำนักนอกจากการแข่งจะเป็นโมฆะแล้ว ทางสำนักยังประกาศหยุดเรียนหนึ่งหนึ่งสัปดาห์เต็ม ทำให้ซูหนี่ว์นั่นมีเวลาว่างไปแอบฝึกพลังอยู่ที่ถ้ำมิติได้อย่างสบายใจ ส่วนสหายทั้งสามนั้นก็กลับไปพักผ่อนกันที่จวน คราวแรกอันฉีก็ชวนซูหนี่ว์ให้ไปพักที่จวนนางด้วยกันแต่นางก็ปฏิเสธไปแล้วเอ่ยปลอบสหายว่าอีกสองสามวันจะแวะไปหาเองที่จวน จึงทำให้อันฉีเลิกตามตื๊อ
สามวันผ่านไปอย่างเงียบเหงา เมื่อศิษย์ในสำนักต่างแยกย้ายกันกลับจวน ซูหนี่ว์ก็มาเก็บตัวฝึกฝนอยู่ในถ้ำถึงสามวันสามคืน เมื่อนางลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าพลังตนเองนั้นเริ่มที่จะมั่นคงมากขึ้น หากนางมีเวลาอยู่ในถ้ำตลอดทั้งปีอาจจะทำให้เลื่อนเข้าสู่ระดับเจ้าจอมยุทธ์ได้ง่ายขึ้น
สามวันที่ผ่านมาซูหนี่ว์เองก็เอาไข่วิหคฟ้าออกมาวางไว้ข้างกายด้วยหวังให้มันซึมซับพลังปราณอันบริสุทธิ์ภายในถ้ำเพื่อจะได้ฟักตัวเร็วๆ และสิ่งที่คิดนั้นก็เป็นจริงเมื่อวิหคฟ้านั้นกำลังจะฟักตัว ซูหนี่ว์จึงนั่งจดจ้องมันอย่างใจจดใจจ่อรวมถึง ไป๋หู ไป๋ซิง และเด็กๆ อีกด้วยที่ออกมายึดครองพื้นที่ภายในถ้ำแห่งนี้ เหล่าเด็กๆ ดูจะตื่นเต้นยิ่งกว่านางเสียอีก หางที่กระติกไปมาไม่หยุด ตัวตากลมโตของแต่ละตัวก็จับจ้องไปที่ไข่อย่างไม่กะพริบตา
เพล้ง!!
เสียงราวกับแก้วแตกดังขึ้น จากนั้นก็มีแสงสว่างจ้าออกมาจะไข่จนซูหนี่ว์ต้องยกมือบดบังแสงนั้นไว้ ดวงตากลมโตหรี่เล็กลงจนเกือบจะปิดเพราะแสงที่สว่างจนเกินไป ผ่านไปราวๆ สองจิบชา แสงสว่างก็หายไปพร้อมกับการปรากฏตัวของวิหคฟ้า ที่บินวนอยู่รอบๆ ตัวของซูหนี่ว์ ลำตัวมันมีสีขาวแซมสีฟ้า ซึ่งหาได้ยากยิ่งหากเทียบกับวิหคทั่วๆ ไป ขนาดตัวใหญ่และนางก็สัมผัสได้ว่ามันเป็นสัตว์อสูรระดับสูง ธาตุน้ำแข็งและธาตุลม บีกที่กำลังกระพือบิน พัดกระแสลมมาโดนตัวซูหนี่ว์ให้รู้สึกเย็นสบาย เมื่อมันบินวนจนพอใจแล้ว มันจึงบินโฉบลงมาแล้วยืนต่อหน้าซูหนี่ว์ ตัวมันใหญ่กว่าซูหนี่ว์มากนัก ขนาดตัวเท่าๆ กับไป๋ซิงเลยก็ว่าได้ทั้งๆ ที่ออกจากไข่ใบเท่าฝ่ามือเท่านั้น ตามจริงนางคิดว่ามันจะตัวเล็กก่อนแล้วค่อยๆ โต ที่ไหนได้ออกมาก็ตัวใหญ่เลย
'คารวะนายหญิง'
'อืม เจ้าดูงดงามยิ่ง'
'ขอบคุณเจ้าค่ะ'
'ไป๋หลิน นั่นคือนามของเจ้า' ซูหนี่ว์ตั้งชื่อให้อีกฝ่าย วิหคฟ้าจึงพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจกับนามใหม่ของตัวเอง
'เจ้าค่ะนายหญิง'
'ส่วนนั่น ไป๋หูคู่พันพันธะอีกตัวของข้า แล้วนั่นก็ลูกเมียของเขา ทำความรู้จักกันไว้นะ' ซูหนี่ว์เอ่ยจบไป๋หลินก็หันไปทักทายอีกฝ่าย
มันดูเกรงใจน้อยๆ เพราะไป๋หูเองก็เป็นถึงจอมอสูร เมื่อทักทายกันเสร็จมันจึงหันมาหาซูหนี่ว์อีกครั้ง ราวกับมีคำถามซูหนี่ว์เองก็รับรู้ได้จึงเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่าสงสัยอะไรหรือ
'เอ่ออ ไข่อีกใบที่คนรักนายหญิงทำพันธะด้วยเขาอยู่ไหนหรือเจ้าคะ' ไป๋หลินเอ่ยถาม
เมื่อได้ยินคำถามซูหนี่ว์ก็นิ่งงัน คนรักหรือ? ใบหน้านวลก็แต้มสีแดงน้อยๆ พลางหันไปมองวิหค มันเอ่ยถามคู่ของมันหรือกำลังเอ่ยแซวนางกันแน่นะ
'เขาไปทำธุระ ข้าก็ไม่แน่ใจว่าจะเจอเขาเมื่อใด' ซูหนี่ว์เอ่ยตอบหน้าตาเฉย อืม..สถานะนางกับชินอ๋องก็คนนับว่าเป็นคนรักกันได้แล้วกระมัง จูบกันก็หลายคราแล้ว ซูหนี่ว์คิดเองใบหน้าก็แดงซ่านขึ้นมาเองอย่างควบคุมไม่ได้
'ตามจริงเมื่อเราออกจากไข่ ข้ากับคู่จำต้องนำหัวชนกันเพื่อทำพันธะคู่รักวิหคฟ้า แล้วเราจะสื่อถึงกันได้ตลอดเวลาเจ้าค่ะ' มันเอ่ยบอกซูหนี่ว์จึงพยักหน้าเข้าใจ แต่ตอนนี้นางไม่สามารถไปหาชินอ๋องได้ แล้วเขาก็คงไม่สามารถมาหานางได้เช่นกัน
'เช่นนั้นเจ้าคงต้องรอก่อน ข้าเองก็ไม่รู้แน่ชัดว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่'
'ทราบแล้วเจ้าค่ะนายหญิง'
เมื่อจบบทสนทนาคนกับวิหค นางก็ให้ทั้งหมดเข้าไปในมิติของนาง ส่วนตัวเองก็กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดสีขาวสะอาด แล้วจึงทะยานตัวเข้าไปในตัวเมืองหนานเปียน แล้วจึงเดินเข้าไปในหอบุปผา ใบหน้างามถูกปิดไว้ด้วยผ้าสีขาวสะอาด นางยื่นหยกประจำตัวให้คนคุมดูเล็กน้อยจากนั้นเขาจึงทำความเคารพแล้วให้นางเข้าไปอย่างง่ายดายเป็นที่รู้กันว่านายหญิงใหญ่ของหอกลับมาแล้ว
ทุกคนในหอต่างรู้ดีว่าซูหนี่ว์เป็นใคร เพราะช่วงเวลาที่นางไปช่วยเหล่าพี่ๆ ฝึกนางก็ไม่ได้ปิดบังใบหน้าไว้ตลอดเวลา แต่การที่นางจะเดินอุกอาจเข้าหอบุปผาเช่นนี้จึงจำต้องปิดบังตัวไว้ไม่ให้คนภายนอกได้ล่วงรู้ว่านางเป็นผู้ใด
ซูหนี่ว์เดินขึ้นไปชั้นบนสุด พลางเดินเข้าไปในห้องทำงาน ที่คาดว่าทุกคนอาจจะกำลังอยู่ในนั้นและก็เป็นดังที่คาดคิด ทุกคนดูเหมือนกำลังนั่งประชุมกันอยู่ด้วยใบหน้าดูเคร่งเครียด เมื่อซูหนี่ว์ก้าวเข้ามาทุกคนจึงหยุดคุยกันแล้วหันหน้ามาทักทายนางอย่างดีอกดีใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือซื่อซื่อ
“หนี่ว์เอ๋อร์ คิดถึงเจ้ายิ่งนัก ได้ข่าวว่าสำนักประกาศหยุด พวกพี่รอเจ้าตั้งหลายวันไม่เห็นจะมาเสียที” ซื่อซื่อพูดไปหน้างอไป ด้วยความรู้สึกน้อยอกน้อยใจ
“พี่ซื่อซื่ออย่าน้อยใจไปเลย ยังมีเวลาอีกหลายคืนข้าจะอยู่กับพี่ทุกวันเลยดีหรือไม่” ซูหนี่ว์เอ่ยพลางยกยิ้มน้อยๆ
จากนั้นซื่อซื่อจึงพานางไปนั่งฟังด้วย นอกจากพี่ใหญ่กับพี่ห้า ยังมีพี่รองที่นั่งอยู่ด้วย ซูหนี่ว์จึงเอ่ยทักทายทุกคนถามสารทุกข์สุกดิบ
“คิดถึงพี่สาม กับพี่สี่ยิ่งนักเจ้าค่ะ”
“ทั้งสองสบายดี หนี่ว์เอ๋อร์ไม่ต้องกังวลไปนัก” เฟิงเอ้อหรือพี่รองเอ่ยตอบพลางส่งยิ้มละมุนไปให้ นานแล้วเหมือนกันที่เขาไม่ได้เจอน้องเล็ก มาได้พอเวลาเหมาะสมเสียจริง
“ว่าแต่พวกพี่กำลังประชุมอะไรกันอยู่หรือเจ้าคะ ช่วงนี้ที่สำนักศึกษามีงานหลายอย่างข้าจึงไม่มีเวลามาหาบ้างเลย” ซูหนี่ว์เอ่ย
“กำลังวางแผนเรื่องหอบุปผาที่เมืองหลวง ตอนนี้พี่ซื้อที่ดินที่เหมาะสมไว้แล้ว ทั้งยังสร้างใกล้เสร็จแล้ว ออกแบบคล้ายที่นี่เลยจะได้เป็นเอกลักษณ์ ประจำของหอบุปผา” พี่รองเอ่ยบอก
_______________________________________
น่ารักมากๆเลยงื้อออ
มาช้าแต่ยังมานะ ขอบคุณทุกคอมเม้นนะคะ เจอคำผิดก็บอกได้เลยน้า มีเวลาจะรีบมาแก้ให้นะคะ
และวันนี้ตอนสี่โมงเย็นไรท์ต้องขึ้นเขียงผ่าวันคุดอีกข้าง แงงง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไหนบอกว่ามิติของทั้งสองเชื่อมหากันได้น่ะ ก็ไปหาทางมิติสู่มิติได้ใช่มั๊ยคะเนี่ย
ถึงหนึ่งสัปดาห์ ไม่ใช่ หนึ่งหนึ่งสัปดาห์....จากไข่ ไม่ใช่ จะไข่....ปีก ไม่ใช่ บีก
ไรต์หายยยยยรีดรอกันอยู่นะค่ะ
มาต่อเร็วๆนะค่าาา
ต่อนะคะ
งื้ออออ...งอแงๆ อยากอ่านต่อ
ขอบคุณค่ะไรท์เนื้อเรื่องยังสร้างความสนุกและตื่นเต้นได้ทักนอนเลยค่ะ สมกับท่ีรอคอย ไป๋หลินออกจากไข่แล้วมองหาคู่พันธะเชียวนะ น้องซูเราอายหน้าแดงด้วย ขอให้ไรท์หายเจ็บปวดในเร็ววันนะคะ เป็นห่วงนะคะ
ชินอ๋องรีบกลับมานะคะ เสี่ยวหนี่เหงา