ตอนที่ 5 : นางมาร บทที่ 4
ตอนที่ 4
“หนี่ว์เอ๋อร์! ในที่สุดเจ้าก็ฟื้น”
อี้หมิง ที่รู้ข่าวว่าลูกสาวตัวน้อยของตนฟื้นแล้วก็ไม่รอช้า รีบทิ้งงานในมือและใช้วิชาตัวเบามาหาลูกสาวด้วยน้ำตานองหน้า
ตลอดเวลากว่าเจ็ดปีเขาเก็บอาการรักและหลงบุตรีตัวน้อยต่อหน้าฮูหยินและคนในจวนได้ดีตลอด จวบจนกระทั่งเขาเกือบเสียนางไปจึงทำให้เขาแทบจะเสียสติตลอดเวลาที่นางยังไม่ฟื้น พอรู้ข่าวจึงทำให้เขาดีใจจนออกอาการแบบนี้ แต่เขาก็หาได้ใส่ใจไม่ ใครจะเห็นอะไรก็ช่างเถอะ
“ท่านพ่อ ข้าไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะ” ซูหนี่ว์เอ่ยพร้อมกอดท่านพ่อให้ชาตินี้ด้วยน้ำตานองหน้า ต่อให้ได้ความทรงจำในชาติก่อนกลับมา นางก็ยังรู้สึกรักและโหยหาบิดาผู้นี้มากเหมือนก่อนอยู่ดี ชาติก่อนข้าดูแลใครไม่ได้ ชาตินี้ข้าจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม
“ทำไมเจ้าถึงตกน้ำได้ มีใครแกล้งเจ้าหรือไม่ หรือเจ้าพลัดตกลงไปเอง”
“เป็นข้าที่ซนเองเจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านพ่อยกโทษให้พี่ซื่อซื่อด้วยนะเจ้าคะ อย่าตีพี่ซื่อซื่อเลย” นางบอกปัดไปเพราะไม่อยากให้ท่านพ่อคนนี้ต้องคิดมาก ส่วนใครที่ทำนางจะจัดการด้วยตัวเองถึงจะส่าแก่ใจ
“ไม่ได้!! บ่าวไพร่บกพร่องต่อหน้าที่ยังไงข้าก็ต้องสั่งลงโทษ” หลี อี้หมิง กล่าวออกมาเสียงดังพร้อมหันไปคาดโทษซื่อซื่อ
จนสาวใช้ได้แต่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรม เกือบเจ็ดร้อยหวาย ข้าคงหมดบุญที่จะได้ดูแลคุณหนูแล้วละ
ทางฝ่ายซูหนี่ว์เมื่อเห็นว่าบิดาตนจะลงโทษซื่อซื่อจึงรีบบีบน้ำตาช่วยสาวใช้ส่วนตัวทันที
“อึก..ท่านพ่อ...ถ้าท่านลงโทษพี่ซื่อซื่อแล้วข้าจะอยู่กับใครเจ้าคะ..ฮือออ” หยาดน้ำตาเม็ดใสค่อยๆ ล่วงลงมาจากดวงตากลมโตของเด็กน้อย จนผู้เป็นบิดาถึงกับสะอึก
“เอาละๆ แค่ครั้งนี้เท่านั้นนะ หนี่ว์เอ๋อร์เจ้าอย่าร้องไห้เลย เพิ่งจะฟื้นขึ้นมาแท้ๆ เดี๋ยวจะป่วยอีกหนา” ผู้เป็นบิดาได้แต่ถอนหายใจลูบหัวปลอบบุตรีของตน แต่ในใจยังคงคาดโทษซื่อซื่อไว้หลายคดีนัก
“ข้ารักท่านที่สุด”
หยดน้ำตาหายเกลี้ยงทันทีที่ผู้เป็นบิดาจะไม่เอาโทษสาวใช้ส่วนตัว คุณหนูสามของจวน เสนาบดีกรมกลาโหม จากเด็กขี้แย ขี้น้อยใจพอจำอดีตชาติได้จึงกลับกลายมาเป็นเด็กเจ้าเล่ห์ที่สุดในแผ่นดินก็ว่าได้ครั้งยังเป็นไป๋ซูหนี่ว์นางก็เป็นตัวแสบของสำนัก
“ข้าก็รักเจ้าหนี่ว์เอ๋อร์เด็กดี” หลี อี้หมิงมองบุตรีด้วยแววตารักใคร่จนร่างเล็กถึงกับสงสัย ปกติท่านพ่อไม่เคยมองนางแบบนี้เวลาอยู่ในจวน
“ท่านพ่อ ปกติท่านพ่อมักจะมองข้าด้วยแววตาเย็นชาโดยเฉพาะเวลาอยู่ในจวนเหตุใดวันนี้ท่านจึง...”
“หนี่ว์เอ๋อร์เด็กดีที่พ่อต้องทำเย็นชาเพราะไม่อยากให้เจ้าโดนเพ่งเล็งจากฮูหยิน หากพ่อแสดงออกว่ารักเจ้ามากเจ้าอาจโดนรังแกมากกว่านี้ ตัวพ่อเองก็ไม่มีเวลาไม่สามารถอยู่ดูแลเจ้าปกป้องเจ้าได้ตลอดเวลาพ่อจึงต้องทำเช่นนี้ ลูกเข้าใจพ่อใช่ไหม”
“ลูกเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ เพราะฉะนั้นลูกจะต้องแข็งแกร่งขึ้น ลูกจะปกป้องตัวเองให้ได้ ถึงเวลานั้นท่านพ่อจะได้แสดงความรักต่อลูกได้ไม่ต้องเก็บซ่อน ไม่ต้องกลัวว่าใครจะรังแกลูก ดีไหมเจ้าคะ”
“ดียิ่ง! ลูกรัก เจ้าพักผ่อนเถอะ ไว้พ่อจะมาเยี่ยมเจ้าใหม่”
“เจ้าค่ะ” เอ่ยจบคำร่างเล็กจึงล้มตัวลงนอนและหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
ผู้เป็นบิดาเห็นว่าบุตรีตัวน้อยเข้าสู่ห้วงนิทราแล้วจึงวางใจแล้วก้าวเท้าออกจากเรือน ทว่าก่อนเดินผ่านสาวใช้ ท่านเจ้ากรมกลาโหมมองนางด้วยสายตาคาดโทษก่อนจะเอ่ย ผ่านลมปราณให้ซื่อซื่อได้ยินเพียงผู้เดียว
‘ครั้งนี้เจ้ารอดตัวหากมีครั้งหน้าข้าไม่อยู่เฉยแน่’
‘เจ้าค่ะ นายท่าน’ ซื่อซื่อ เอ่ยตอบกลับผ่านลมปราณไปพร้อมสีหน้าสำนึกผิด
ข้าให้สัญญา ข้าจะดูแลคุณหนูเยี่ยงชีวิตมิปล่อยให้ คุณหนูต้องเจอเรื่องร้ายแบบนี้อีก ซื่อซื่อ เอ่ยคำสัญญากับตัวเองจบจึงหัวโขกหัวลงบนพื้นสามครั้งจนหน้าผากมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย
ยามอู่ (11.00-13.00)
เช้าวันถัดมาร่างเล็กของ หลี ซูหนี่ว์ ตื่นขึ้นมาด้วยความอ่อนเพลีย ซื่อซื่อจึงรีบเข้ามาปรนนิบัติดูแล และยกยามาให้คุณหนูตัวน้อยทาน
“ขอบคุณเจ้าค่ะพี่ซื่อซื่อ แล้วนั่นหน้าผากท่านไปโดนอะไรมา”
“พี่แค่ซุ่มซ่ามน่ะ เม่ยเม่ยคนดี ทานยาแล้วนอนพักอีกสักหน่อยเถิดหากหายดีแล้วพี่สาวจะพาไปเที่ยวอีกดีไหม”
“เจ้าค่ะข้าอยากไปเที่ยวกับพี่ซื่อซื่ออีก” กล่าวจบร่างเล็กก็รีบล้มตัวลงนอนและแสร้งว่าหลับทันทีไม่นานพอได้ยินเสียงปิดประตู
ซูหนี่ว์ ก็ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และคิดในใจขอโทษนะพี่สาวแต่ข้ายังไม่ง่วงข้านอนมาเต็มอิ่มแล้ว ไหนลองเข้าไปดูในมิติสิว่า ข้าในร่างนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง หลี ซูหนี่ว์ หรือ ไป๋ ซูหนี่ว์ ลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิแล้วตั้งสมาธิก่อนเข้าไปในมิติ
ภายในมิติ กว้างขวางอุดมไปด้วยพืชไม้ ดอกไม้นานาพันธุ์ ทั้งยังมีสมุนไพรหายากมากมาย มีน้ำตกขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเรือนไม้หลังเล็กน่าอยู่
หลี ซูหนี่ว์ เดินไปใกล้ๆ ลำธารน้ำตก น้ำตกสีใสเขียวมรกตแค่มองด้วยตาเปล่าก็ทราบได้ว่าน้ำตกแห่งนี้คือน้ำมรกต น้ำมรกตนี้มีค่ารองจากน้ำแร่ทิพย์ไม่รอช้าร่างบาง รีบตักน้ำมรกตขึ้นดื่มเต็มอึกใหญ่ หลี ซูหนี่ว์ รับรู้ได้ถึงความสบายตัวความคล่องตัวเมื่อดื่มน้ำมรกตและฟื้นฟูร่างกายที่อ่อนเพลีย ให้กลับมามีแรงเต็มสิบส่วน
น้ำแร่มรกตความวิเศษมันอยู่ที่ช่วยให้ฟื้นฟูร่างกายและพลังปราณ กำลังภายใน ได้เต็มสิบส่วน น้ำแร่มรกตเป็นของหายากระดับหก
ส่วนน้ำแร่ทิพย์ เป็นของหายากระดับสิบ ความพิเศษต่างกันตรงที่น้ำแร่ทิพย์สามารถ ใช้รักษาพิษร้ายระดับสิบได้ในหนึ่งหยด ทั้งยังรักษาบาดแผลให้สมานกันได้อย่างรวดเร็ว
ร่างบางของหลี ซูหนี่ว์ เดินสำรวจมิติไปเรื่อยๆ จนเจอเข้ากับบ่อน้ำแร่ทิพย์สีใส ขนาดใหญ่ตามที่ผู้ก่อตั้งสำนักบุปผาหมื่นพิษ ได้กล่าวไว้ว่าภายในมิตินี้มีบ่อน้ำแร่ทิพย์และน้ำแร่มรกต หลี ซูหนี่ว์ ตาตื่นใจยิ่งกับน้ำแร่ทิพย์บ่อนี้ เกิดมาสองชาติข้าไม่เสียชาติเกิดแล้ว นางคิดในใจ
หลี ซูหนี่ว์ ใช้เวลากว่าสองชั่วยาม ในการสำรวจมิตินี้จนทั่วนางพบว่าแค่มีมิตินี้ชาตินี้คงไม่อดตายทั้งสมุนไพรหายากหาง่ายขึ้นอยู่เรียงรายเต็มไปหมด
เก็บเท่าไหร่ก็คงจะไม่มีวันหมด คราวนี้แหละ ข้าจะได้ปรุงยาพิษ โดยไม่ต้องเสียเวลาออกตามหาสมุนไพรหายากหรือเสียเงินหลายร้อยเหรียญเพื่อซื้อสมุนไพรมาปรุงยา
หลี ซูหนี่ว์ เก็บสมุนไพรระดับต่ำมาสามสี่ต้นแล้วรีบสาวเท้าเดินเข้าไปในเรือนไม้หลังเล็กเพื่อทดลองปรุงยาบำรุงกำลังระดับหนึ่ง ภายในเรือนไม้ขนาดเล็กแต่ภายในตกแต่งไว้อย่างสวยงามแยกสัดส่วนเป็นห้องนอน ห้องหนังสือ ห้องน้ำ ห้องครัวและห้องปรุงยา
ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งเค่อ ร่างบางก็ปรุงยาบำรุงกำลังระดับหนึ่งความบริสุทธิ์เต็ม 10 ส่วนได้สำเร็จ หากเป็นผู้อื่นการปรุงยาครั้งแรกไม่ใช่เรื่องง่ายบางคนใช้เวลาเป็นเดือนในการฝึกฝนแต่นางผู้มีความทรงจำในชาติก่อนเป็นถึงว่าที่เจ้าสำนักบุปผาหมื่นพิษ ยาระดับหนึ่งในหนึ่งเค่อถือว่านานไปด้วยซ้ำ
“ร่างกายนี่อ่อนแอเสียจริงปรุงได้แค่นี้ถึงกับหอบ..จริงสิแล้วข้าปรุงยาได้อย่างไรว่าในเมื่อข้าไม่มีพลังปราณ!!”
หลี ซูหนี่ว์ รีบเก็บยาที่ปรุงได้ใส่ขวดแก้วแล้วนำไปเก็บบนชั้น ก่อนจะวิ่งไปห้องหนังสือเพื่อหาตำราเกี่ยวกับพลังปราณไร้ลักษณ์ ไม่นานก็เจอหนังสือเล่มหนา หน้าปกหนังสีน้ำตาลเก่า ที่มีตัวหนังสือเขียนเรียงรายไว้สวยงามว่า ไร้ลักษณ์ ซูหนี่ว์ รีบเปิดอ่านด้วยความอยากรู้นางเปิดดูทุกหน้าแต่ทุกหน้าดันเป็นกระดาษเปล่า
“กระดาษเปล่าทั้งเล่มเป็นไปได้รึ หรือว่าจะมีกลไกอันใดแอบแฝงอยู่” ร่างเล็กแต่พลาง ขมวดคิ้วเรียวเล็กด้วยความข้องใจ
“ตำราเก่าพวกนี้หรือว่าจะต้องใช้เลือด” เอ่ยกับตนเองจบ
ซูหนี่ว์ จึงคว้าปิ่นปักผมปลายแหลมกรีดลงบนฝ่ามือเรียวเล็ก พร้อมทั้งหยดเลือดลงบนหน้าปกหนังทันใดนั้น หนังสือเล่มหนาถึงเปล่งแสงออกมาก่อนแสงทั้งหมดจากพุ่งเข้าไปกลางหน้าของซูหนี่ว์ ร่างบางล้มลงไปทันทีที่แสงพุ่งเข้าไปใส่ตัวนาง ความรู้ต่างๆ ของในหนังสือเล่มนี้ทยอยซึมซับเข้าไปในร่างของนางทำให้ซูหนี่ว์ ได้รับรู้ถึงพลังที่นางมี และเคล็ดวิชาต่างๆ ที่นางจำต้องฝึกฝนเพื่อที่จะใช้พลังปราณไร้ลักษณ์นี้
พลังนี้แข็งแกร่งกว่าพลังทั่วไปนัก ขั้นหนึ่งถึงขั้นสองจะไม่สามารถใช้เพื่อต่อสู้ได้แต่สามารถใช้เพื่อปรุงยาได้และรักษาอาการบาดเจ็บคล้ายธาตุแสง และยาถูกปรุงจะได้ประสิทธิภาพมากกว่าพลังธาตุไฟมากถึงสิบเท่า
หากฝึกได้ถึงขั้นสาม ก็จะสามารถควบคุมและเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ตามใจ ขั้นสี่จะเริ่มควบคุมสิ่งของได้ดังใจนึก ว่องไวและเฉียบคมกว่า ขั้นที่ห้าและหก จะสามารถควบคุมใบไม้ให้กลายเป็นอาวุธควบคุมน้ำให้กลายเป็นหอก สิ่งรอบตัวและธรรมชาติสามารถควบคุมได้ทั้งหมด ขั้นที่เจ็ดจะสามารถสื่อสารและควบคุมสัตว์อสูรระดับกลางได้ ขั้นที่แปดจะสามารถควบคุมร่างกายและจิตใจมนุษย์ได้ในระยะเวลาหนึ่งชั่วยาม ขั้นที่เก้า สามารถสื่อสารและควบคุมสัตว์อสูรระดับสูงได้ ส่วนขั้นที่สิบ จะสามารถควบคุม มนุษย์และสัตว์อสูรได้นานขึ้น ส่วนขั้นเจ้าจอมยุทธ จะอยู่ในระดับสูงที่สุดเหนือกว่าจอมอสูรและพลังเหนือกว่ามนุษย์ ขั้นเจ้าจอมยุทธทั้งหลาย
หากข้าอยู่ในระดับเจ้าจอมยุทธข้าก็จะสามารถล้างแค้นและกอบกู้สำนักได้ ข้าจะต้องอยู่เหนือทุกสิ่งที่ชาตินี้ จะต้องไม่มีใครทำร้ายข้าได้อีก คนทรยศเตรียมตัวรับมือกับนางมารอย่างข้าอะไรให้ดีเถอะ สิ่งที่พวกเจ้าทำค่าจากคืนสนองเป็นร้อยเท่าพันทวี
__________________________
อ่านจบแล้วอย่าลืมนะคะ
เม้นให้ไรท์ด้วยน้าาาาาาาาาาา
#ไรท์ผู้งามเลิศในสามโลก
#ผู้เรื่องนี้เยอะมากบอกเลยจ้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

โอ๊ย..สนุกมากค่ะไรต์ไม่ได้ค่อยเม้นท์เพราะเพลินไปหน่อย555
สนุกค่ะ
คือดีอ่ะ นางเอกจะไม่อ่อนแอแล้ว จัดการสองพี่น้องตัวแสบ กับฮูหยินใหญ่ ให้ทรมานืช้าๆไปเลย ให้อักเลือดไปเลย
อ่านเรื่องอื่นที่แบบไม่แยแสลูก แต่จริงๆแล้วรัก แต่กลับปล่อยให้ลูกโดนรังแกจนปังตายอ่ะ เจอแบบนี้จนเอียนแล้วจริงๆ แล้วบางเรื่องคือ ลูกที่รักตายแล้ว แต่มีวิญญาณอื่นมาเข้าสิงอ่ะ แล้วพ่อเริ่มคิดได้ คือแบบ พ่อคิดได้มันก็สายไปแล้วมั้ย ลูกจริงๆของคุณตายไปแล้ว รู้สึกว่านิยายแนวแบบนี้มันไม่ค่อยให้ความเป็นธรรมกับเจ้าของร่างเลย
เราไม่ได้หมายถึงของไรท์น้าา เรื่องนี้สนุกมากๆ
แก้ไขด้วยจะดีมากค่ะ
ท่านพ่อยอมบอกลูกแล้วถึงสาเหตุท่ีต้องแกล้งทำห่างเหินกัน น้องมีความสามารถพิเศษแอบแฝงอยู่ในตัวดูเบาไม่ได้ซะแล้ว ขอบคุณค่ะ
สนุกค่ะ รอตอนต่อไปค่ะ