ตอนที่ 29 : นางมาร บทที่ 28
บทที่ 28
จบการประมูลไปผู้คนก็ต่างจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเรื่องของหอบุปผา ทำให้ผู้คนต่างให้ความสนใจหอบุปผามากขึ้นจึงพากับเข้าไปเดินดูสมุนไพรและยา ยอดขายในวันแรกก็พุ่งขึ้นสูงอย่างฉุดไม่อยู่
เหล่ายาระดับหนึ่งถึงห้าก็มีราคาถูกกว่าที่อื่นอยู่มากนักทั้งคุณภาพก็ดีกว่ามาก ไหนจะมีบริการตรวจสุขภาพราคาถูกแสนถูกอีก เป็นที่ถูกใจของชาวบ้านหาชาวกินค่ำมาก และยาระดับหกถึงเก้านั้นก็คุณภาพความบริสุทธิ์เต็มสิบส่วนเป็นที่ถูกใจเหล่าคหบดี ขุนนางชนชั้นสูงยิ่ง ทำให้ขายแทบจะหมดชั้นวาง เดือดร้อนเหล่านักปรุงโอสถที่ต้องเร่งมือปรุงยาเพิ่มเพื่อให้มีของวางขายในวันต่อๆ ไป
“ยาขายดีถึงเพียงนี้” ซูหนี่ว์นั่งเท้าคางมองดูพี่ใหญ่ พี่ห้า และพี่ซื่อซื่อนั่งนับเงินทำบัญชีด้วยแววตาสนุกสนาน
“มัวแต่นั่งมองไม่คิดจะมาช่วยทำบัญชีหน่อยหรือ” พี่ห้าเอ่ยถาม มือก็นั่งคิดคำนวณยอดเงินที่ขายยาและสมุนไพรระดับต่ำระดับกลางไม่หยุด
“ข้าไม่ถนัดตัวเลขเสียเท่าไหร่เจ้าค่ะ เชิญพี่ๆ คิดกันตามสบาย ฮ่าๆๆๆ” ซูหนี่ว์เอ่ยพร้อมทั้งหยิบขนมเข้าปากกินอย่างอร่อย
“ระวังเถอะ พวกข้าจะโกงเจ้าเสียให้หมดตัว” พี่ห้าเอ่ยต่อพร้อมกับหยิบแย่งขนมในจานของซูหนี่ว์หน้าตาเฉย
“โกงก็อย่าให้ข้าจับได้ละมิเช่นนั้น” พูดจบมีดปอกผลไม้เล่มเล็กที่วางอยู่ไม่ไกลก็ลอยขึ้นมาพร้อมทำท่าปาดคอตรงหน้าซูหนี่ว์ นางส่งยิ้มเหี้ยมไปให้พี่ห้าที่ทำหน้าเจื่อน
“พี่แหย่เล่นนิดเดียวเอง พี่ใหญ่ พี่ซื่อซื่อ ดูหน้าเล็กข่มขู่ข้าสิ” เขาหันไปเอ่ยกับทั้งคู่ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ พร้อมทำท่าแบะปากราวกับอิสตรีผู้บอบบางที่โดนกลั่นแกล้ง
“สมน้ำหน้า / สมน้ำหน้า” ทั้งซื่อซื่อและเฟิงอี้เอ่ยออกมาพร้อมกัน ทั้งยังยกยิ้มขบขันชายหนุ่มที่ทำท่าราวกับจะร้องไห้
“ข้าก็แค่แหย่พี่ห้าเล่นเหมือนกันเจ้าค่ะ ฮ่าๆๆๆ” ซูหนี่ว์เอ่ยพร้อมทั้งหัวเราะดังลั่นที่ตนแกล้งพี่ห้าได้สำเร็จ
“เจ้าห้า เจ้าเองก็ควรจะมีชื่อเหมือนกัน เป็นถึงผู้จัดการร้านให้เด็กๆ เรียกขานแต่พี่ห้าคงจะไม่เหมาะ” พี่ใหญ่เงยหน้าจากสมุดบัญชีตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ข้าคิดไว้ให้ทุกคนแล้วเจ้าค่ะพี่ใหญ่ ไป๋ เฟิงอู่ ดีหรือไม่” ซูหนี่ว์เอ่ยอย่างกระตือรือร้น นางเตรียมชื่อไว้ให้พี่ๆ ทั้งห้าเรียบร้อยแล้ว
“ดียิ่ง อู่ที่หมายถึงเลขห้าใช่ไหมน้องเล็ก” ไป๋ เฟิงอู่ผู้ที่ได้นามใหม่เอ่ยถามอย่างตื่นเต้น
“ใช่เจ้าค่ะ พี่ห้าไหวพริบดียิ่ง ของพี่ใหญ่จริงๆ แล้วมาจากคำว่า อี หมายถึงหนึ่งแต่มันไม่ค่อยไพเราะ จึงใช้เป็น อี้ ของพี่รอง เฟิงเอ้อ พี่สาม เฟิงซาน พี่สี่ เฟิงสือ ข้าไม่ใช้ซื่อ เดี๋ยวซ้ำกับพี่ซื่อซื่อ ส่วนพี่ห้าเฟิงอู่ ดีไหมเจ้าคะ” ซูหนี่ว์อธิบายชื่อที่นางตั้งให้ทุกๆ คนฟัง
“อะไรที่น้องเล็กคิดพี่ก็เห็นชอบหมดนั่นแหละ” พี่ใหญ่เอ่ยตอบพร้อมกับส่งยิ้มบางๆ ให้น้องเล็กของตน แต่หญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านข้างที่เหลือบไปให้ทำให้ใบหน้าขึ้นสีเล็กน้อย
นี่ข้าเป็นอะไรไป!! พี่ใหญ่ก็หล่อเหลาแบบนี้มาตั้งนานแล้วทำไมข้าถึงเพิ่งมาหวั่นไหวเอาปานนี้เล่า! ซื่อซื่อได้แต่คิดคร่ำครวญอยู่ในใจ พลางส่ายหัวไปมาไล่ความคิดแปลกประหลาดให้ออกไปจากหัว
“พี่ซื่อซื่อเป็นอะไรหรือเจ้าคะ พักก่อนดีไหมตัวเลขพวกนั้นข้าเห็นแล้วยังตาลายยิ่ง” ซูหนี่ว์เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงที่เห็นซื่อซื่อส่ายหน้าไปมา ทั้งใบหน้ายังขึ้นริ้วสีแดงเล็กๆ
“ไม่สบายหรือ” ชายหนุ่มข้างกายเอ่ยถาม พลางเอื้อมมือไปแตะหน้าผากกลมมนอย่างรวดเร็ว ซื่อซื่อตกใจเล็กน้อยดวงตาเบิกกว้าง ใบหน้าซับสีแดงระเรื่อลามไปถึงใบหูอย่างรวดเร็ว
“ขะ..ข้าไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบ พลางเบี่ยงหน้าหนีหันหลังให้ชายหนุ่มร่างสูงแต่กลับหันหน้ามาเจอซูหนี่ว์กับเฟิงอู่ที่กำลังยกยิ้มน้อยๆ ราวกับล้อเลียน
ซื่อซื่อที่เห็นรอบยิ้มของทั้งคู่ก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วพลางเอ่ยทิ้งท้าย “ข้าขอไปพักสักครู่” แล้วจึงรีบออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่ตามไปดูฮูหยินหน่อยหรือนายท่านไป๋” เฟิงอู่เอ่ยอย่างล้อเลียน ก่อนจะกระโดดหลบจอกชาที่ลอยมาอย่างรวดเร็ว
เพล้ง!!
เสียงจอกชากระทบพื้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ซูหนี่ว์ที่กำลังจะเอ่ยปากแซวพี่ใหญ่ก็รีบหุบปากอย่างฉับพลัน
“พูดมากเสียจริง” เอ่ยจบก็ลุกออกจากห้องไปอีกคน
ซูหนี่ว์กับพี่ห้าจึงหันมาสบตากันอย่างรู้ใจ ว่าอีกไม่นานฮูหยินกำมะลอจะได้เป็นฮูหยินจริงๆ อย่างแน่นอน นางแอบลุ้นคู่นี้มานานมากแล้ว นางรู้ว่าพี่ใหญ่มีใจให้พี่ซื่อซื่อ แต่ก็ไม่เห็นจะลงมือทำอันใดเสียทีคงเพราะเกรงใจนาง
ส่วนพี่ซื่อซื่อนั้นก็เอาแต่ดูแลนางไม่สนใจบุรุษหน้าไหน ตอนนี้ตัวนางนั้นนับว่าโตแล้ว ยิ่งจิตวิญญาณไม่ต้องเอ่ยถึง คงจะถึงเวลาอันสมควรที่คู่ยวนยางจะได้ลงเอ่ยกันจริงๆ เสียที
“พี่ห้า ข้าไปอยู่สำนักศึกษาก็อย่างลืมส่งข่าวมาบ้างละ ฮ่าๆๆๆ” ซูหนี่ว์เอ่ยบอกเฟิงอู่ เขาพยักหน้ารับพร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์เป็นที่รู้กันว่าให้ส่งข่าวอะไร
“นี่ เสี่ยวอู่ ข้ายกให้ท่านไว้ค่อยส่งข่าวให้ข้า” ซูหนี่ว์นำนกอินทรีที่อยู่ในมิติออกมาหนึ่งตัว มันเกาะที่มือซูหนี่ว์อย่างระวังกรงเล็บของตัวเอง ทั้งยังย่อขนาดให้เท่ากับนกอินทรีธรรมดา เพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตา
“งามมาก” เฟิงอู่เอ่ยพร้อมทั้งยกมือจะไปลูบขนมันแต่เสี่ยวอู่ขยับหนีเขาไปเกาะที่ไหล่บางทั้งยังมองเขาอย่างไม่พอใจ
เฟิงอู่จึงรีบชักมือกลับมา พลางยิ้มแห้งๆ อย่างลืมตัวว่ามันเป็นสัตว์อสูรระดับสูง ไม่ใช่นกธรรมดาที่จะยอมให้ใครมาลูบเล่นก็ได้ เว้นแต่หญิงสาวตรงหน้า เสี่ยวอู่ขยับหนีชายหนุ่มแต่กลับเอาหัวของมันมาถูไถข้างแก้มของซูหนี่ว์อย่างออดอ้อน เฟิงอู่จึงได้แต่มองอย่างอิจฉา
“เสี่ยวอู่ ต่อไปเจ้าต้องอยู่กับพี่ห้า ห้ามทำร้ายเขา เขาเป็นพี่ชายข้าเข้าใจหรือไม่” ซูหนี่ว์หันไปพูดกับนกที่เกาะอยู่ที่ไล่ของตน มันจึงพยักหน้ารับอย่างขอไปที
“พี่ห้าของข้ายังไม่มีสัตว์ในพันธะ ข้าจะยินดีอย่างยิ่งหากเจ้าทำพันธะกับเขาไว้ แต่ข้าจะไม่บังคับเจ้าหรอกนะ” ซูหนี่ว์เอ่ยเปรยๆ
ให้พี่ห้าที่เขามองนางอย่างมีความหวัง พี่รอง พี่สาม พี่สี่ ต่างก็มีสัตว์ในพันธะแล้ว พี่รองเป็นสิงโต พี่สามเป็นม้ามังกรที่บินได้ ส่วนพี่สี่เป็นเสือเขี้ยวดาบ พี่ใหญ่เพียงแค่รองให้ไป๋ปิงโตอีกหน่อยเขาก็จะได้ไป๋ปิงไปเป็นสัตว์ในพันธะ ยังเลือกก็แต่ตัวเขานี้แหละ ที่เอาแต่ปรุงยา ไม่มีเวลาออกไปหาสัตว์อสูรเสียทีทั้งที่ค่ายก็ตั้งอยู่ในดงสัตว์อสูรระดับสูง
'ข้าไม่ชอบบุรุษตัวเหม็น' นกอินทรีเอ่ยตอบพลางส่ายหน้าไปมา เป็นบทสนทนาที่เฟิงอู่ไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เสี่ยวอู่บอกได้ แต่สังเกตจากท่าทางมันคงไม่ค่อยชอบเขาเสียเท่าไหร่
'พี่ชายข้ากลิ่นตัวออกจะหอม ที่สำคัญเขายังเป็นผู้ปรุงโอสถด้วยนะ มีสมุนไพรที่ข้ามอบให้ไว้ปรุงยาเยอะมาก' ซูหนี่ว์เอ่ยชักชวนไปอีกครั้งเพราะสัตว์อสูรพวกนี้ชอบกินสมุนไพรเป็นอาหาร ส่วนเฟิงอู่ที่ได้ยินถึงกับคิ้วกระตุก เจ้านกตัวนี้ว่าเขาตัวเหม็นหรือ
'ข้า...' มันทำท่าลังเลเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายมีสมุนไพรเยอะ ซูหนี่ว์กระตุกยิ้มที่จะมีนกติดกับนางไม่บังคับ แต่นางล่อลวงต่างหากหึหึหึ
'น่าเสียดายนะ พี่ชายข้าอยู่ระดับเจ้าจอมยุทธแล้วด้วย' ซูหนี่ว์พูดต่อยิ่งเห็นมันทำท่าลังเล ก็ยิ่งได้ใจ
“จริงสิพี่ห้า น้ำแร่ทิพย์ที่ข้ามอบไว้ให้ใช้ปรุงยาสิบถังหมดหรือยังเจ้าคะ ถ้าหมดแล้วก็รีบบอกข้านะ จะได้เอามาเพิ่มให้” ซูหนี่ว์หันไปชวนพี่ห้าของตนคุยด้วยดวงตาเจ้าเล่ห์ เฟิงอู่ที่ได้ยินก็รู้ทันทีว่าซูหนี่ว์กำลังจะล่อลวงนกตะกละ นี่ให้ยอมเป็นสัตว์อสูรของเขาแน่จึงยอมเล่นไปตามน้ำ
“ยังหมดไม่ถึงครึ่งถังเลยน้องเล็ก พี่เก็บไว้ในแหวนมิติอย่างดี” เอ่ยตอบด้วยดวงตาเจ้าเล่ห์ไม่ต่างกัน แต่สิ่งที่เอ่ยนั้นก็คือความจริงที่มันยังหมดไม่ถึงครึ่งถัง
'ตกลงข้าตกลง!!' นกตะกละที่ได้ยินว่าอีกฝ่ายก็มีน้ำแร่ทิพย์มันจึงรีบตอบตกลงทั้งยังบินไปคลอเคลียอีกฝ่ายอย่างออดอ้อนทันที
เจ้านกตะกละ ซูหนี่ว์คิดในใจ ส่วนเฟิงอู่ก็ยิ้มกริ่มที่เห็นปฏิกิริยาของนกตัวนี้
“มันจะทำพันธะกับพี่ห้าเจ้าค่ะ แต่ว่าพี่ต้องขยันหาสมุนไพรมาให้มันหน่อยนะ เจ้านี้ตะกละตะกลามไม่น้อย”
“ข้าก็ว่าอย่างนั้นแหละ” เฟิงอู่เอ่ยพลางส่ายหัวเล็กน้อยไม่รู้ว่าใครติดกับใครกันแน่นะ
'ข้าไม่ได้ตะกละเสียหน่อย อืมแต่ว่าเจ้ามนุษย์นี้ก็ไม่ตัวเหม็นเท่าไหร่นะ' มันเอ่ยเถียงซูหนี่ว์พลางเอาหัวถูไถ่อีกฝ่ายต่อ จากนั้นทั้งคู่จึงทำพันธะกัน แล้วซูหนี่ว์จึงเดินกลับเข้าหอไปพักผ่อน
เช้าวันต่อมา หอบุปผาก็ยังมีคนแน่นขนัดเช่นเคย ข่าวปากต่อปากว่าหอนี้มีแต่ของดี ทำให้หอบุปผามีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว ซูหนี่ว์อยู่จัดการอะไรหลายอย่างให้เข้าที่เข้าทางเพราะวันพรุ่งนี้ก็ต้องไปสมัครเข้าเรียนแล้ว
นางมอบนกอีกตัวไว้ให้พี่ใหญ่ไว้ใช้มันส่งข่าวกับไปหาทางพี่รองได้ ส่วนอีกตัวนางเก็บไว้ใช้งานเอง เมื่อนางเข้าสำนักได้กว่าจะได้ออกมาก็อีกสามเดือนที่จะมีการจัดอันดับ
หอบุปผานอกจากจะขายโอสถและขายสมุนไพรแล้วซูหนี่ว์ ยังคิดจะขายข่าวอีกด้วยเรื่องนี้นางฝากฝังให้ซื่อซื่อเป็นผู้ดูแลโดยตรง แต่นางไม่คิดจะรับงานมากนักเดือนหนึ่งจะให้รับไม่เกินสิบงานพอ และต้องเป็นงานที่ไม่มีความเสี่ยง เพราะจะได้ฝึกหน่วยข่าวไปในตัวด้วย
เมื่อรากฐานของหอบุปผาแห่งนี้แข็งแรงเมื่อไร นางจะจัดตั้งสำนักบุปผาหมื่นพิษอย่างเป็นทางการ โดยจะมีหอบุปผาแห่งนี้เป็นผู้สนับสนุน ใครที่คิดจะเป็นศัตรูกับสำนักบุปผาหมื่นพิษก็ต้องเป็นศัตรูกับหอบุปผาแห่งนี้ด้วย
Talk 1
ตอนหน้าน้องจะไปป่วนสำนักศึกษาแล้วน้าาา
แต่ว่าพรุ่งนี้ขอลาหนึ่งวันนะคะ
Talk 2
นักอ่านเรื่องนี้ชอบให้ข่มขู่เอาคอมเม้นแน่เลย ตอนที่แล้วถูกใจไรท์มาก
คอมเม้นตอนนี้ก็อย่าให้น้อยหน้านะคะ เดี๋ยวอายตอนที่แล้วไม่รู้ด้วยนะ
นักอ่านเงารายงานตัวหนึ่งคนแล้ว
คนอื่นๆอยู่ไหนหมด เดี๋ยวให้พี่ไป๋หูไล่งับหูเสียหรอก
นิยายสนุกขนาดนี้ ไม่เม้นได้อย่างไรเจ้าค่ะ
พิมพ์ให้หนึ่งประโยคเอง ไรท์ยังพิมพ์ให้อ่านตั้งหนึ่งตอนเชียวน้าาาาาาา
เบิกตากว้างทำตาปริบๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้องหลอกล่อเจ้าให้หลงกลได้ดี จากตัวเหม็นกลายเป็นไม่เหม็นไปแล้วละเนี่ย อิอิ
คำถูก....หาเช้ากินค่ำ....น้องเล็ก...ยวนหยาง...
ติดกับอีกตัว
รู้สึกอสูรนี้หลอกง่ายเนาะ
ถ้าน้ำแร่ทิพย์ สมุนไพรมีมากพอ
ขอบคุณมากๆค่ะ
พี่ห้ามีสัตว์อสูรเป็นของตัวเองแล้ว ไม่รู้ใครจะเป็นทาสใคร เพราะเจ้านกนี่ฉลาดและตะกละซะด้วย อิ อิ น้องจะไปสมัครเรียนแล้วเดี๋ยวจะได้เจออาจารย์สุดหล่อแน่ สาว ๆ คงกรี๊ดกันน่าดู ขอบคุณค่ะไรท์ผู้น่ารัก