ตอนที่ 25 : นางมาร บทที่ 24
บทที่ 24
รถม้าของซูหนี่ว์เคลื่อนขบวนไปข้างหน้าต่อจนการปะทะเบื้องหน้าปรากฏแก่สายตา ร่างบางกระโดดขึ้นไปนั่งไขว่ห้างบนหลังคารถม้าเพื่อคำนวณดูสถานการณ์ตรงหน้า นักฆ่าชุดดำประมาณสิบคน กำลังเข้าโจมตีคนกลุ่มหนึ่งมีเพียงห้าคน สามคนดูเหมือนเป็นผู้คุ้มกันมีพลังปราณอยู่ขั้นแปด ส่วนที่สองแต่งกายด้วยอาภรณ์เนื้อดีผู้ชายมีพลังปราณขั้นห้า ส่วนผู้หญิงก็อยู่ในขั้นห้าเหมือนกัน ทั้งคู่มีใบหน้าที่คล้ายกันมาก คาดว่าน่าจะเป็นเป้าหมายของเหล่านักฆ่า กับศพอีกห้าหกศพที่เป็นผู้คุ้มกันนอนเรียงรายอยู่ที่พื้น
ซูหนี่ว์เริ่มส่งปราณเข้าไปพิจารณาเหล่านักฆ่าทั้งสิบคน สี่คนมีพลังปราณขั้นเจ็ด อีกสี่คนขั้นแปด และอีกสองคนคนหนึ่งคนเก้า คนหนึ่งขั้นสิบที่น่าจะเป็นหัวหน้าของเหล่านักฆ่า หัวหน้านักฆ่ากับคนที่มีพลังขั้นเก้ายืนกอดอกนิ่งไม่ได้เข้ามาร่วมด้วย
“หัวละห้าเหรียญทอง ห้ามใครบาดเจ็บ หักแผลละหนึ่งเหรียญทองแผลเล็กหรือใหญ่ข้านับหมด” ซูหนี่ว์เอ่ยกับคนของตนด้วยแววตาสนุกสนาน คนของนางมีพลังปราณระดับแปดกันทุกคนคาดว่าน่าจะสู้ได้อย่างไม่มีปัญหา
“ขอรับคุณหนู” ผู้คุมกันทั้งห้าคนเอ่ยรับคำ ก่อนจะกระโดดเข้าไปช่วยคนเหล่านั้น
เหล่านักฆ่าที่เห็นว่ามีคนมาเพิ่ม จึงหันมาทางรถม้าที่มีซูหนี่ว์นั่งไขว่ห้างอยู่บนหลังคา พี่ใหญ่และซื่อซื่อนั่งอยู่บนม้าประกบคนละข้างของคุณหนูของตน คนของซูหนี่ว์ทุกคนมีผ้าปิดบังใบหน้าซีกล่างไว้กันหมด คุณชายและคุณหนูที่เห็นว่ามีคนเข้ามาช่วยจึงถือโอกาสหนีออกมาและวิ่งมาทางรถม้าของซูหนี่ว์ เปิดช่องให้คนของซูหนี่ว์เข้าปะทะกับแบบหนึ่งต่อหนึ่งกับเหล่านักฆ่าทั้งแปดคน
“น้องสาวขอบคุณที่เข้าช่วยเหลือ” คุณชายที่จับจูงน้องสาวของตนวิ่งมาหยุดตรงหน้าของซูหนี่ว์รีบเอ่ยขอบคุณหญิงสาวตรงหน้าของตน
“คนของข้าเพียงอยากยืดเส้นยืดสายพอดี” ซูหนี่ว์เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุนพลางจ้องมองไปที่คนเบื้องหน้า
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าเกลี้ยงเกลา ติดจะหวานละมุนคล้ายกับหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ เนื้อตัวเต็มไปด้วยคราบเลือด ส่วนคนผู้หญิงก็มีใบหน้าหวานละมุนออกจะมอมแมมนิดหน่อย แต่ใบหน้ากลับซีดเซียว ตรงช่วงแขนมีเลือดสีแดงไหลย้อมอาภรณ์ที่ฟ้าจนกลายเป็นสีแดงเข้มออกมา
“ฉีเอ๋อร์! ฉีเอ๋อร์!” ชั่วอึดใจหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านข้างก็หมดสติลงให้อ้อมแขนของชายหนุ่มทันที ทำให้เขาร้องเรียกน้องสาวของตนด้วยความห่วงใยใบหน้าหวานละมุนเริ่มปรากฏร่องรอยเคร่งเครียด
ซูหนี่ว์ที่มัวแต่พิจารณาชายหนุ่มตรงหน้าเมื่อเห็นว่าน้องสาวของเขาล้มไปแล้วจึงดึงสติกลับมาได้
“พี่ซื่อซื่อพานางไปรักษาในรถม้าก่อนเถอะ ทางนี้ข้างกับพี่ใหญ่จะจัดการเอง” ซูหนี่ว์พูดพร้อมกับส่งขวดยาห้ามเลือด และยาสมานแผลระดับห้าไปให้กับซื่อซื่อ
“เจ้าค่ะ” ซื่อซื่อรับยาไปพร้อมกับกระโดดลงจากหลังม้า
“รบกวนคุณชายอุ้มแม่นางน้อยขึ้นรถม้าเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะช่วยดูแผลให้”
“ได้ๆ โปรดช่วยน้องสาวข้าด้วย” เขารีบอุ้มน้องสาวของตนขึ้นรถม้าตามหลังหญิงสาวชุดดำที่เอ่ยบอกเขาทันที พลางวางนางลงกับเบาะรถม้าอย่างอ่อนโยน ซื่อซื่อจึงกระโดดเข้ามาในรถม้า
“ท่านไปรอข้างนอกก่อนเถอะ ข้าจำเป็นต้องถอดชุดน้องสาวท่านออกเพื่อดูบาดแผล” ซื่อซื่อเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉยพลางลงมือถอดชุดหญิงสาวตรงหน้าทันที
“ขะ..ข้าฝากน้องสาวข้าด้วย” เขาเอ่ยด้วยความเป็นห่วงน้องก่อนจะลงจากรถม้ามายืนข้างๆ กับม้าของพี่ใหญ่ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อนักฆ่าที่มีพลังปราณระดับเก้ากำลังพุ่งตรงมาทางนี้
เขาจึงรีบมายืนขวางไว้เพื่อปกป้อง หญิงสาวที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเขาสัมผัสได้ว่านางไม่มีพลังปราณ
“พี่ชายนั่งพักเสียหน่อยเถอะ ท่านอย่าได้กังวลนัก” ซูหนี่ว์เอ่ยบอกชายตรงหน้าที่มายืนขวางนักฆ่าไว้
เขาทำท่าลังเลเล็กน้อยซูหนี่ว์จึงหันไปพยักหน้าให้พี่ใหญ่ของตนจัดการกับนักฆ่าตรงหน้า ร่างของพี่ใหญ่หายวับไปจากรถม้า ไปปรากฏเบื้องหน้าของนักฆ่าคนนั้น มือหนากอบกุมไปที่ลำคออย่างรวดเร็ว
นักฆ่าคนนั้นได้แต่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะเขวี้ยงร่างนั้นไปชนเข้ากับต้นไม้อย่างแรงจนนักฆ่าระดับเก้ากระอักเลือดออกมาคำโต หัวหน้านักฆ่าเห็นดังนั้นจึงรีบเข้ามาช่วยเหลือ ยืนขวางคนของตนไว้พร้อมเรียกพลังปราณซัดเข้าใส่พี่ใหญ่
“แบบนี้ค่อยสนุกหน่อย” พี่ใหญ่กระโดดหลบลูกไฟอย่างง่ายดายพลางเอ่ยออกมาด้วยความสนุก พร้อมทั้งซัดพลังกลับไปหาคนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว
มันกระโดดหลบพร้อมกับเอ่ยสั่งลูกน้องเสียงเข้ม “เจ้าไปจัดการพวกมัน!”
นักฆ่าผู้มีพลังขั้นเก้าพยักหน้ารับคำพลางถ่มเลือดลงพื้นอย่างหัวเสีย ก่อนจะหันไปทางซูหนี่ว์ที่ยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวนิ่ง
“น้องสาวเจ้าไปหลบในรถม้าก่อน ข้าจะจัดการมันเอง” ชายหนุ่มที่ยืนดูสถานการณ์อยู่ เมื่อเห็นว่านักฆ่าระดับเก้ากำลังพุ่มตรงมาทางนี้ก็รีบเอ่ยบอกผู้มีพระคุณของตนอย่างเป็นห่วง
“พี่ชาย ท่านชื่ออะไรหรือ” ซูหนี่ว์เอ่ยถามอย่างไม่ยี่หระกับนักฆ่าคนนั้นที่กำลังพุ่งตรงเข้ามา
“ห๊ะ!...น้องสาวหาใช่เวลามาถามชื่อแซ่กันไม่ เจ้าหลบไปก่อน” เขาเอ่ยตอบอย่าง งงงวยกับท่าทางของหญิงสาวที่ดูไม่เกรงกลัวอะไรซ้ำยังถามชื่อเขาอย่างหน้าตาเฉย
ชายหนุ่มเรียกลูกไฟสองลูกบนฝ่ามือก่อนจะซัดไปทางนักฆ่าที่กำลังพุ่งตรงเข้ามา และแน่นอนแม้นักฆ่าคนนั้นจะบาดเจ็บแต่ลูกไฟนั้นไม่สามารถทำอะไรมันได้ มันหมุนตัวหลบลูกไฟอย่างง่ายดายและรวดเร็ว เพราะระดับชั้นของพลังต่างกันเกินไป ชายหนุ่มเริ่มวิตกกังวล
“พี่ชายข้าบอกให้ไปพักท่านก็ดื้อดึงเสียจริง” ซูหนี่ว์ยังคงเอ่ยออกอย่างไม่แสดงท่าทีว่าเกรงกลัว เมื่อร่างของชายนักฆ่ามาปรากฏเบื้องหน้า ยิ่งมันสัมผัสพลังปราณของหญิงสาวที่นั่งอยู่บนหลังคารถม้าไม่ได้มันก็ยิ่งได้ใจ
“มอบตัวมันสองคนมาแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” มันเอ่ยออกมาอย่างฮึกเหิม
“น้องสาวเจ้ารีบหนีไป ข้าจะถ่วงเวลาไว้ให้” ชายหนุ่มเห็นท่าไม่ดีจึงจะออกมาขวางทางนักฆ่าแต่ก้าวขาได้เพียงสองก้าวตัวเขาก็แข็งทื่ออยู่กับที่ก้าวขาไม่ออกอีก จึงได้แต่ตกใจ
“พี่ชาย ท่านขึ้นมานั่งดูตรงนี้สบายยิ่ง!” เอ่ยจบซูหนี่ว์ก็ตวัดมือไปกลางอากาศหนึ่งครั้งร่างของชายหนุ่มก็ลอยวูบมานั่งอยู่ข้างๆ ซูหนี่ว์บนหลังคาทันที
เขาตกใจจนพูดไม่ออกแล้ว ว่าตัวเขาลอยขึ้นมาได้อย่างไร หรือจะเป็นฝีมือของหญิงสาวตรงหน้า
“ไม่ต้องตกใจ ข้าเองก็มีพลังปราณ ธาตุลมและธาตุไม้ แม้ท่านจะสัมผัสไม่ได้แต่ข้าเก่งกาจยิ่ง หึหึ” ซูหนี่ว์เอ่ยชมตัวเองก่อนจะหัวเราะในลำคอ
นักฆ่าเห็นดังนั้นก็รีบเรียกลูกไฟสองลูกใหญ่ขึ้นมาในมือทั้งสองข้าง แววตาแข็งกร้าวด้วยความโมโหที่ตัวมันมีพลังปราณถึงขั้นเก้าแต่หญิงสาวตรงหน้ากลับไม่มีท่าทีหวั่นเกรงมันแม้แต่น้อย
“ตายเสียเถอะ!!” มันเอ่ยพร้อมกับซัดลูกไฟสองลูกในมือมาทางซูหนี่ว์ ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้างก็เกร็งพลังหลับตาแน่นคิดว่าคงหลบไม่พ้นเป็นแน่ ลูกไฟระดับพลังขั้นเก้าทั้งเร็วและแรง
ชั่วอึดใจลูกไฟสองลูกปะทะเข้ากับเกราะกำบังใสอย่างแรงไม่สามารถทะลุเกราะเข้ามาได้ ทั้งลูกไฟสองลูกยังตีสะท้อนกลับไปหาผู้ปล่อยพลังอีก นักฆ่าคนนั้นได้แต่ยืนงงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ไม่ทันได้หลบหลีกลูกไฟของตนเองก็เข้ามาปะทะร่างจนกระเด็นไปไกล
ร่างกายสะบักสะบอม และนอนแน่นิ่งไปในที่สุด ซูหนี่ว์สะบัดมือดึงรากไม้ใกล้ๆ ตวัดรัดร่างชายหนุ่มที่หมดสติขึ้นมาอีกครั้งรากไม้นั้นค่อยๆ รัดร่างนั้นแน่นขึ้นๆ เหมือนงูยักษ์ที่กำลังรัดร่างคน ก่อนที่ร่างนั้นจะขาขใจตายในที่สุดแล้วจึงสะบัดร่างนั้นทิ้งอย่างไม่ไยดีท่ามกลางสายตาของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้างที่ตะลึงจนพูดไม่ออกอีกครั้ง
“ตกลงว่าพี่ชายชื่ออะไร” ซูหนี่ว์หันไปหาชายหนุ่มด้านข้างที่มองนางจนตาแทบจะทะลุออกมาก่อนจะเอ่ยถามด้วยประโยคเดิม
“ขะ..ข้าชื่อจ้าวเฉินคุน ส่วนน้องสาวข้าชื่อ จ้าวอันฉี” เขาตอบอย่างตะกุกตะกักเพราะยังไม่หายตกใจกับพลังของหญิงสาวตรงหน้า
“พวกท่านหน้าคล้ายกันยิ่ง แล้วน้องสาวท่านอายุเท่าไหร่หรือ” ซูหนี่ว์ถามต่อ สายตาก็จดจ้องไปทางคนของตนที่กำลังจะเสียท่า
นางจึงสะบัดมือไปในอากาศอีกครั้งดึงเอารากไม้เสียทะลุหัวใจ ของผู้ที่กำลังจะลงมือกับคนของตน
“สิบห้าหนาว เราสองคนเป็นฝาแฝดกัน” เขาเอ่ยตอบอีกครั้ง ถึงว่าละใบหน้าจึงคล้ายคลึงกันยิ่ง
“ข้าก็สิบห้าหนาว งั้นข้าเรียกท่านว่าเฉินคุนดีไหม ท่านก็เรียกข้าว่าซูหนี่ว์แล้วกัน”
“อืมได้ ซูหนี่ว์ ข้าต้องขอบคุณเจ้าอีกครั้ง หากไม่ได้เจ้าข้ากับน้องสาวคนสิ้นชื่อไปแล้วเป็นแน่”
“แล้วเจ้ากับน้องสาวกำลังจะเดินทางไปไหนหรือ เหตุใดถึงมีนักฆ่าระดับนี้หมายปองดักทำร้ายได้” ซูหนี่ว์เอ่ยถามอย่างสนใจ นักฆ่าระดับเจ็ดขึ้นไปค่าจ้างแพงมากนัก ผู้จ้างวานคงหมายใจให้ตายอย่างแน่นอน
“ข้ากับน้องสาวกำลังเดินทางไปสำนักศึกษาหย่งฟู เรื่องส่วนนักฆ่าข้าก็พอจะเดาได้อยู่บ้างว่าเป็นฝีมือผู้ใด” เฉินคุนเอ่ยออกมาด้วยความโกรธเมื่อนึกไปถึงผู้ว่าจ้างหมายให้ตนกับน้องตาย ซูหนี่ว์เห็นดังนั้นก็พอเจ้าเดาได้อยู่บ้างว่าจะเป็นคนในครอบครัว นางจึงไม่ถามเรื่องนั้นต่ออีก
“ข้าก็กำลังจะไปสำนักศึกษาหย่งฟูเช่นกัน”
“จริงหรือ! เช่นนั้นข้านับเจ้าเป็นสหายได้หรือไม่” เขาเอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น เปลี่ยนอารมณ์ได้ไวเสียจริงซูหนี่ว์ไม่ได้เอ่ยตอบ แต่พยักรับพร้อมทั้งหันไปดูการต่อสู้เบื้องหน้าต่อ
“ซูหนี่ว์ต่อจากนี้เจ้าเป็นทั้งสหายข้า เป็นทั้งผู้มีพระคุณของข้าขอเพียงเอ่ยปากเจ้าอยากได้อะไรข้าจะหามาให้หมด” เขาเอ่ยอย่างหมายมั่นว่าจะปกป้องและดูแลหญิงสาวข้างกายอย่างสุดกำลังแม้ว่าตอนนี้เขาจะให้นางเป็นผู้ปกป้องก็ตาม
แต่สิ่งที่เฉินคุนเอ่ยพูดนั้นไม่ได้ทะลุเข้าหูของซูหนี่ว์แม้แต่น้อย สายตาของนางจับจ้องไปทางพี่ใหญ่และการต่อสู้เบื้องหน้าที่ยื้อเวลามานานพอสมควรแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆเสียที ดูเหมือนว่าพี่ใหญ่จะอยากยืดเส้นจริงๆ
TALK...
ตอนหน้าเจอกับการต่อสู้ของพี่ใหญ่นะคะอิ้อิ้
ตัดฉับๆๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ในเมื่อไปที่เดียวกัน ก็ร่วมเดินทางไปด้วยกัน รับรองปลอดภัยค่ะ
คำถูก....ข้ากับพี่ใหญ่...ขาดใจ
น้องงงงงงจะนั่งชิวไปแล้ววว
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 7 พฤษภาคม 2563 / 19:04
ได้เพื่อนร่วมเดืนทางไปสำนักศึกษาแล้ว หวังว่าจะช่วยถูกคนไม่ใช่ลูกของศัตรูนะ คนสั่งฆ่ามีเงินจ้างนักฆ่าระดับสูง แมดงว่าฐานะของคู่แฝดคงไม่ธรรมดาแน่ พระเอกเดินทางไปล่วงหน้าแล้วคิดว่าน่าจะไปเป็นอาจารย์สอนที่สำนักหย่งฟู่แน่ แต่ไม่ได้บอกน้อง ขอบคุณค่ะไรท์
น้องเติมทรูเยอะมากก
รอจ้าาา