ก้าวของมนุษยชาติพึ่งจะเริ่มต้นขึ้น และจะไม่มีวันถึงจุดจบ
ตัวละคร/แฟกชั่น ต่างๆ
MAHANAKORN
มหานคร
ในปี ค.ศ 2193 ประเทศไทยทั้งหมดได้มีการเริ่มการทำงานด้วยตนเอง เพื่อเพิ่มฐานการวิจัยและการผลิตเทคโนโลยีด้วยตนเอง ส่งผลให้เกิดนามติดปากโดยประชาชนว่า ' มหานคร ' ซึ่งเป็นชื่อเรียกโดยปกติสลับกับไทยโดยทั้งโลกในเวลาต่อมา
มหานครที่อยู่ท่ามกลางการบุกเบิกอาณานิคม ได้สร้างยานลำยักษ์ขึ้นมาเมื่อปี 2220. เธอได้รับการขนานนามว่า 'ศรินธิราช' หมายถึงยานที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเคยสร้างมา มันอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐวิสาหกิจพลังงาน AERIC Interco. ของประเทศไทยและรัฐบาลไทย
นับเป็นก้าวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ตั้งแต่พวกเขาเริ่มการลงทุนบริษัทอวกาศในการวิจัย มันสร้างรายได้ให้กับพวกเขาอย่างมหาศาล รวมไปถึงการวิจัยที่ยืนหยัดด้วยตัวเอง ท่ามกลางดาวโลกในศตวรรษที่ 23 ที่โอกาสเกิดสงครามโลกครั้งที่สามนั้นเข้าใกล้ทุกที ด้วยสภาพการแข่งขันที่ตึงเครียดอย่างสุดขีด ยกเว้นพวกเขาเอง
การที่คุณอยู่กับที่ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เตรียมพร้อม
ประเทศไทยได้ประกาศถึงความเป็นกลางต่อทุกฝ่ายในดาวโลก นั่นทำให้พวกเขาไม่ได้รับผลกระทบใดเลยจากความขัดแย้งที่กำลังใกล้แตกหัก (สงครามโลกครั้งที่สาม) นอกเสียจากการต้องพยายามวิจัยเทคโนโลยีทุกสิ่งอย่าง เพิ่งให้สามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้ นั่นรวมไปถึงการพยายามสร้างโคโลนีนอกอวกาศหากเกิดความจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน และ THPSC Srintherach ก็เป็นหนึ่งในความพยายามของพวกเขาเหลือเกินที่จะใช้มันเป็นฐานวิจัยแห่งอนาคต
นับตั้งแต่นั้นมาเป็นเวลาสิบเจ็ดกว่าปี มหานครก็ได้ผลประโยชน์จากการวิจัยดาวเคราะห์และปรากฏการณ์ทางอวกาศต่างๆ อย่างมหาศาล รวมไปถึงการขุดเจาะดวงดาวข้ามระบบสุริยะอีกด้วย
นอกจากนี้ มันยังส่งผลให้พวกเขากลายเป็นหนึ่งในแฟกชั่นหลักของโลกและมหาอำนาจของเอเชียรองจากจีนและญี่ปุ่นอีกด้วย เป็นผลอันเนื่องมาจากการลงทุนรากฐานลงไปในเทคโนโลยีดิจิตอลอย่างมหาศาล
ถ้าหากจะให้พูดแล้ว มหานครคงเป็นเสมือนหนึ่งใน Shelter ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกก็เป็นได้ จากความเป็นกลางที่พวกเขามี แต่ถึงอย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ค่อยจะชอบรัฐบาลโลกเอาเสียเลยจากมุมมองและความคิดที่ไม่ตรงกันเท่าไหร่
HEXAGON Ministry of Defence กระทรวงกลาโหมมหานคร
กระทรวงกลาโหมของไทยในศตวรรษที่ 22 ทำหน้าที่ควบคุมเกี่ยวกับการประจำการทหารทั้งมหานคร ค้นคว้าเทคโนโลยี และเสริมสร้างการป้องกันทุกรูปแบบ โดยผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาคือการก่อสร้างโดมพลังงานครอบคลุมพื้นที่เกือบร้อยกิโลเมตรที่ครอบคลุมทั้งทหานคร กองหุ่นรบที่วิจัยเอง ผลิตเองนับหมื่น ทหารหน่วย reserve พร้อมรบเป็นล้าน พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่เกิดจากการพึ่งพาตนเอง และการผสานระบบปัญญาประดิษฐ์เข้ากับการสงคราม ให้เสมือนพวกเขาจะอยู่รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารแห่งมหานครหากจำเป็น
อันที่จริงพวกเขาไม่ค่อยถูกกับรัฐบาลโลกเสียเท่าไหร่ และทั้งนี้ จำนวนหน่วยในรัฐบาลโลกที่ส่งไปในฐานะสมาชิกก็ออกจะเป็นเป็นแนวหลังหรือทหารพยาบาลเสียมากกว่า
signature ของพวกเขาคือเครื่องแบบสีขาวในชุดสุภาพ สีทองอร่ามที่แสดงถึงความเป็นมหานคร และสีฟ้าที่แสดงถึงความก้าวหน้าอย่างไร้ขีดจำกีด ทว่าในบางครั้งเขาก็ใส่ชุดเกราะสีเทาหรือดำเช่นกัน
Logo ปลายศตวรรษที่ 22
ต้นศตวรรษที่ 23
ศตวรรษที่ 23
AERIC Interco [Arinthararohm Energy Reserving International Corporation]
เรียกกันโดย จนท. บริษัทว่า 'Arika' บริษัทพลังงานขนาดใหญ่ของเอเชีย AERIC Interco. คือหนึ่งในบริษัทพลังงานไม่กี่แห่งของดาวโลกในยุคบุกเบิกอวกาศที่กำลังสวาปามทรัพยากร เสมือนประหนึ่งหลุมดำในสุริยะ โดยผลงานส่งออกของพวกเขาคือเพชรจำนวนมากจากการขุดเจาะแกนดาว แก๊สเติมเชื้อเพลิงยานจากสถานีดาวเสาร์/พฤหัสบดี
เอริก อินเทอร์คอร์ คือบริษัทเอกชนที่ประสานงานรับเดินยานไปที่ต่างๆ โดยส่วนมากจะทำงานให้กับกระทรวงและประเทศไทย แต่ในบางครั้งก็รับการจากบริษัทอื่นๆ ที่ไม่ใช่ของรัฐด้วยเช่นกัน
ในการแสวงหาทรัพยากรในโลกที่ใกล้ดับแล้ว ไม่มีข้อจำกัด แม้กระทั่งการทุบดาวทั้งดวงเพื่อนำมันมาใช้งาน
หน้าที่ที่เอริกได้รับมอบหมายส่วนมากคือการขุดเจาะทรัพยากร และการวิจัยทรัพยากรเพื่อนำมาสังเคราะห์และส่งแบบแปลนให้กับบริษัทว่าจ้าง ถึงอย่างไรก็ตาม บริษัทเอริกมีหนึ่งในยานวิจัยขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทยไว้ในการดูแล และโดยทางนัยถือเป็นยานธงของไทยอีกด้วย ชื่อของเธอคือ THPSC 'Srintherach' ยานวิจัยระดับธงขนาดกิโลเมตรครึ่งพร้อมด้วยลูกเรือบนยานประจำการกว่าห้าพันกว่าคน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า บริษัทแบบนี้จะมีกองกำลังเป็นของตนเองเพื่อป้องกันทรัพย์สินของตนจากสลัดอวกาศและภัยก่อการร้ายอื่นๆ โดยเฉพาะในยุคที่ทรัพยากรขาดแคลนอย่างหนัก
ทั้งนี้ AERIC InterCo. คือหนึ่งในบริษัทเกิดใหม่ไม่กี่บริษัทที่มีอัตราการขยายตัวขององกรณ์เร็วที่สุดในโลกอีกด้วยอันเนื่องมาจากการที่มีพื้นเพเป็นบริษัทพลังงาน ซึ่งตอบสนองความต้องการพลังงานอย่างไม่สิ้นสุดของโลกในศตวรรษที่ 23 เช่นเดียวกับบริษัทเทคโนโลยี UZENTOL Tech ของเยอรมัน Avendatron Corporate แห่งสหรัฐอเมริกา และ Minasawaa IRA ของญี่ปุ่น
UniEarth / Earth Government 'รัฐบาลโลก'
จัดตั้งขึ้นโดยประเทศสมาชิกมากกว่าครึ่งค่อนของโลก UniEarth คือองค์กรณ์ระดับเกือบเหนือชาติที่ถูกจัดตั้งขึ้นในปี ค.ศ 2095 โดยมีเป้าหมายคือการขยายอาณานิคม ควบคุมและจัดสรรประชากร และ ค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกจากมนุษย์โลก การวิจัยต่างๆในระดับท็อปมักถูกส่งต่อให้รัฐบาลโลกวิจัยต่อ ด้วยงบประมาณที่มาจากหลายสิบประเทศร่วมกัน
โดยในปี ค.ศ 2200 รัฐบาลโลกได้ควบคุมอาณานิคมของมนุษย์ทั้งระบบสุริยะ และยังได้ขยายไปต้นระบบซีรีอุส และเซติด้วย ประเทศสมาชิกของรัฐบาลโลกคือทุกประเทศบนดาวเคราะห์โลก ทำให้รัฐบาลโลกกลายเป็นองค์กรณ์ที่ใหญ่ที่สุดบนดาวเคราะห์โลกและระบบสุริยะอย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากนี้ พวกเขายังเป็นผู้ควบคุมกองยานที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะอีกด้วย
รัฐบาลโลกยังคงมีการปะทะอยู่บ้าง ทั้งในและนอกโลก (โคโลนีต่างๆ) นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ส่วนมากของรัฐบาลโลกนั้นถูกมองว่าไม่ค่อยเป็นมิตรอยู่พอสมควรจากการใช้กฎที่เข้มงวด
GENEX Corps
บริษัทวิจัยเวชภัณฑ์ระดับโลก ก่อตั้งมาได้นานพอสมควรด้วยระยะเวลาเกือบเจ็ดสิบปี โดยมีฐานการส่งออกอยู่ในไทยและเอเชีย รวมไปถึงฝรั่งเศส แต่ในศตวรรษที่ 23 เจเน็กซ์ได้ทำการสร้าง hostile takeover ในด้านการส่งออกเวชภัณฑ์กับรัฐบาลโลกแต่เพียงผู้เดียว ทำให้ในปัจจุบันเจเน็กซ์เป็นบริษัทยาที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างไม่มีข้อกังขา ด้วย back-up เป็นรัฐบาลโลกที่มีเงินสนับสนุนจำนวนนับไม่ถ้วน แลกกับการที่พวกเขาต้องส่งทรัพยากรให้กับ UniEarth ทุกๆปีเพื่อใช้ในการเตรียมตัวสำหรับสงครามโลกครั้งที่ 3
THPSC Srintherach 'EVANCA' Flagship
วันที่ 10 สิงหาคม เมื่อปี ค.ศ 2220 ยานอุตสาหกรรมและการวิจัยข้ามระบบสุริยะ 'THPSC-ศรินธิราช ' ได้ออกจากท่าเทียบของมหานคร ภายใต้ธงของประเทศไทยและการกำกับดูแลของ AERIC Corps. บริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและอันดับต้นของโลก มันคือยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยในศตวรรษที่ยี่สิบสาม ด้วยระยะกว่าเกือบสองกิโลเมตร และระบบการบินที่ทันสมัยที่สุด มันคือผลงานระดับ states-of-arts ชิ้นแรกของมหานครและของประเทศไทย
เธอได้ถูกต่อภายใต้การควบคุมของรัฐบาลไทยด้วยงบประมาณอันหาที่เปรียบมิได้ - มากเสียกว่างบประมาณในการซื้อกองทัพและงานวิจัยใหม่ทั้งหมด การก่อสร้างเริ่มเมื่อปี 2210 และเริ่มเปิดตัวต่อสาธารณะชนในปี 2220
สิบปีให้หลัง ยานลำนี้ได้สร้างความฮือฮาอย่างมากแก่สาธารณะชนในด้านของการวิจัยและเทคโนโลยีการต่อยานอวกาศขนาดใหญ่และถูกเพ่งเล็งโดยรัฐบาลโลกถึงศักยภาพในการวิจัยของมหานครที่ก้าวกระโดดทุกค่ำคืนอย่างน่าประหลาด (ในสายตาพวกเขา)
ยานทั้งลำประกอบด้วยชั้นห้าชั้น และสะพานเรือสองแห่ง - ด้านหน้าสุดของยาน ด้วยกระจกที่เปิดให้เห็นอวกาศอันกว้างไกลด้านหน้า และสะพานเรือด้านหลังที่เสมือนปีก และให้มุมสังเกตุการณ์โดยรอบ เครื่องกรองอากาศจากภายนอก สวนพฤกศาสตร์ภายในยานสำหรับวิจัย เพาะเลี้ยงเสบียง โรงเพาะเนื้อเยื่อ ศูนย์วิจัย เคบินพักสำหรับกะเวียน ออฟฟิศของทีมรักษาความปลอดภัย และล็อบบี้ส่วนกลาง. นอกจากนี้ ศรินธิราชยังใช้เครื่องยนต์และเตาปฎิกรณ์ชนิดใหม่ และจะมีไว้สำหรับเธอเท่านั้น : Teijo TRISHOCK Drive หนึ่งในระบบเครื่องยนต์ยานไม่กี่อันของโลกในขณะนั้นที่สามารถเร่งเข้าสู่ห้วงวาร์ปได้ด้วยความเร็วสูงเท่ายานรบรัฐบาลโลก
ศรินธิราช คือยานธงและความภาคภูมิใจของมหานครมาตั้งแต่การเปิดตัวของเธอเมื่อยุค 20 ตัวยานนั้นได้รับการยอมรับจากสหประชาชาติและทั่วโลกให้เป็นยานระดับ International ซึ่งหมายถึงว่ายานลำนี้จะเป็นยานที่มีลูกเรือมากมายหลากสัญชาติขึ้นมาประจำการได้
ตามสถิติปี ค.ศ 2237 ได้กล่าวว่า capacity ของลูกเรือที่ประจำการอยู่บนยานนั้นตันที่ 5,450 กว่าคนโดยประมาณ โดยลูกเรือกว่าครึ่งคือสัญชาติไทย และรองลงมาคือญี่ปุ่น ตามมาด้วยอเมริกัน รัสเซีย จีน และแคนาเดียน
เธอยังคงยึดมั่นภารกิจหลักเสมอมา นั่นคือการตามหาโลกใบที่สอง ที่ที่ซึ่งมนุษยชาติสามารถลงหลักปักฐานได้ ที่ซึ่งสามารถสร้างอารยธรรมและป่าไม้ให้กลับมาเป็นเหมือนโลกเดิมที่พวกเขาเคยเห็นในภาพบันทึก ไม่ใช่เมืองที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องสูงระฟ้าและไอเสีย ตั้งแต่ปี ค.ศ 2220 ศรินธิราช ได้ตรวจสอบดวงดาวไปแล้วเกือบสี่สิบกว่าดวง และยังคงทำการค้นหาต่อไป
อุปกรณ์ เทคโนโลยี และการรักษาความปลอดภัยบนยานนั้นถือเป็นหนึ่งเสมอ - ยานศรินธิราชมีระบบรักษาความปลอดภัยในระดับสูงกว่าปกติ อันเนื่องมาจากสถานะยานธงของประเทศไทย เจ้าพนักงานและหน่วยรักษาความปลอดภัยกว่าเจ็ดร้อยห้าสิบนาย และหน่วยต่อต้านจราจลร้อยนาย ได้ประจำการอยู่บนยานและพร้อมที่จะปฎิบัติหน้าที่หากจำเป็น นอกจากนี้ ยานศรินธิราชยังบรรจุคลังอาวุธมากพอที่จะทำให้มากกว่าครึ่งของลูกเรือสามารถมีอาวุธไว้เพื่อป้องกันตนเองได้หากจำเป็น การออกแบบอย่างละเอียดอ่อนของทีมงานวิศวะกรนับพัน ทำให้ยานระดับอุตสาหกรรม กลายเป็นเสมือนยานขนส่งระดับสูงได้ทั้งภายในและภายนอก หากคุณไม่ทันสังเกตุ
นอกจากนี้ พวกเขาก็ยังใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ระดับ hi-end จากทั่วโลกที่นำมาไว้บนยานสำหรับการวิจัย planetary-scale อีกด้วย
ในขณะเดียวกัน ภารกิจรองของเธอ คือรับคำสั่งจากบริษัท AERIC ซึ่งรับคำสั่งจากบริษัทเอกชนอื่น หรือรัฐบาลอีกที เพื่อทำการขุดเจาะหาทรัพยากรมาตอบสนองความต้องการอันไม่สิ้นสุดของมนุษยชาติ เช่นเดียวกับการทำ planetary mining ที่ทุกประเทศทั่วโลกเริ่มขยาย branches ออกมา หลังจากที่โลกทั้งใบได้ประกาศการไร้ซึ่งการคงอยู่ของทรัพยากรที่พวกเขาเคยมี - ทองคำ เพชร เหล็ก มันไม่มีอีกแล้ว ในตอนนี้ สิ่งที่เยียวยาโลกได้ ก็มีเพียงแร่ธาตุบนดินที่ให้ผืนป่าเติบโตและฟื้นฟูอีกครั้ง ในยุคที่อุตสาหกรรม การแสวงหาทรัพยากรต่างดาวมาทดแทน และการสร้างอาณานิคมต่างดาวกำลังรุ่งโรจน์
Page FB : Infinite Frontier
NOTE :: //
UniEarth CommLink 21-556
//ดร. วอร์เรน วอลเลซ
ให้ตายเถอะ ทำไมเซคชั่นนี้มันถึงได้รกขนาดนี้เนี่ย คริงก์ขนานหนักเสียด้วย
ติดต่อรัฐบาลโลกด้วย เราต้องจัดเนื้อหานี้ใหม่ มันเก่าเกินไปแล้ว
//UniEarth 22-3
เรากำลังทำอยู่ ทราบแล้วเปลี่ยน
ความคิดเห็น