ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมริสา..รักนี้เพื่อเธอ

    ลำดับตอนที่ #9 : ลำดับตอนที่ 9

    • อัปเดตล่าสุด 24 ส.ค. 50


    9เรียนหนังสือ
                    นี่พี่วรา เพื่อนพี่เอง
    เมริสามองหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับแมททิว เธอแต่งตัวเรียบร้อยจนดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัย ผมที่รวบเกล้าไว้อย่างเรียบร้อย  เมริสายกมือไหว้อย่างนอบน้อม วรายกมือไหว้ตอบ 
                    สวัสดีค่ะ พี่วรา
              “ วรา นี่เมริสา เรียกเมย์ก็ได้
              “ เป็นไงมาไงถึงได้เอามาฝากฉันน่ะ ที่นี่ไม่ได้ออกใบประกาศให้นะแมท ฉันให้ได้แต่ความรู้
    เพื่อนสาวมองชายหนุ่มที่ยืนมองชั้นหนังสือภายในบ้าน แล้วหันมองหญิงสาวที่ยืนอย่างสำรวมอยู่ข้างๆ
                    แค่นั้นแหละที่ผมต้องการตอนนี้ เมย์จำเป็นต้องมีความรู้ติดตัวไว้บ้างจะได้ใช้ชีวิตประจำวันได้ไม่ลำบากนัก
              “ทำไม มีอะไรที่จะบอกฉันหรือเปล่าแมท 
    แมททิวมองเพื่อนสาวก่อนจะถอนหายใจ อีกครั้ง เขามองเมริสา
                    เรื่องมันยาวน่ะ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่เธอยอมสอน แค่นั้น ..นะ ..อย่าถามอะไรฉันตอนนี้เลย..”
    วราพยักหน้าโดยที่ไม่ได้ถามอะไรเขาอีก เท่าที่จำได้ วราคือผู้หญิงคนแรกที่เขาคบหาแล้วสบายใจที่สุด แต่ด้วยความดีของวราทำให้เขาไม่อยากเสียมิตรภาพนั้นไปด้วยความกะล่อนของเขาเอง ผู้หญิงมากมายเข้ามาหาเขาเพียงเพื่อความสนุก เท่านั้น แล้วเขาเองที่เป็นฝ่ายยอมรับให้ผู้หญิงพวกนั้นเข้ามาอย่างเต็มใจเสียด้วย วราเดินเข้ามาใกล้เมริสา จูงมือเธอเดินเข้าไปยังห้องสมุดด้านใน วราเรียนวารสาร รับงานแปลและเขียนหนังสืออีกหลายอย่าง เธออยู่กับหนังสือเสียเป็นส่วนใหญ่ จนเพื่อนๆต่างตั้งฉายาว่าหนอนเฒ่าที่กินหนังสือเป็นอาหาร 
                    นั่งซิ เดี๋ยวเราจะมาดูว่าเธอมีความรู้พื้นฐานแค่ไหน อ้อ แมทถ้านายมีธุระก็ไปก่อนก็ได้นะแล้วค่อยแวะมารับเมย์แล้วกัน
                    ไม่หละวันนี้ไม่มีนัด เดี๋ยวดูวราสอนเด็กดื้อดีกว่า จะได้รู้ว่าเมย์น่ะหัวทื่อขนาดไหน
              “ พี่แมท ว่าเมย์ต่อหน้าคนอื่นได้ไง เมย์ออกจะฉลาดนะ คอยดูซิ เดี๋ยวเมย์จะเรียนให้จบภายในสามเดื่อนให้ดู คอยดูนะ พี่วราช่วยเมย์ลบคำสบประมาทของพี่แมทให้ได้นะคะ
    วราหันมามองสองคนที่กำลังแหย่กันไปมา แมททิวบีบจมูกโด่งเล็กของเมริสาขณะที่เธอก้มหลบ แล้วปัดมือเขาออก วรามองภาพนั้น ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แมททิวต้องมีความรู้สึกที่พิเศษกับเด็กคนนี้มากกว่าความเป็นพี่เป็นน้องแน่ๆ แล้ววราลุกขึ้นไปหยิบหนังสือในชั้นขณะที่เมริสานั่งคอยด้วยท่านั่งพับเพียบเรียบร้อย ขณะที่แมททิวขึ้นไปเอนนั่งบนโซฟาแล้วเปิดทีวีดูอยู่ใกล้ๆนั่นเอง วราเดินมานั่งเปิดหนังสือ
                    นี่เมย์ลองทำแบบทดสอบนี่นะ
    เมริสามอง แต่น่าแปลกที่ตัวอักษรที่วราให้ดู แบบทดสอบที่วางให้เธอทำนั้นเธออ่านไม่ออกเลยไม่รู้จักแม้ตัวอักษรคุ้นๆ แต่ไม่แน่ใจว่าเธออ่านออกหรือเปล่า วราเหลือบมองก่อนหันไปสนใจหนังสือในมือนั่น หนังสือที่เป็นคนละภาษากับหนังสือที่ให้เธอทำ
                    มนต์รักฤดูหนาวแห่งกรุงโซล หนังสือนวนิยายเหรอคะ
    วราหันมองเมริสา แล้วก้มมองหนังสือในมือที่อ่านเธอได้หนังสือแปลเล่มใหม่มาเป็นภาษาเกาหลีทั้งเล่ม เธอต้องพยายามมากกว่าภาษาอังกฤษ เพราะเป็นภาษาที่ไม่ค่อยเป็นสากลนัก แต่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันนี้ การแปลภาษาเกาหลีไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แล้วทำไมเมริสาอ่านมันโดยไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ วราหันไปมองแมททิวอีกครั้งก่อนจะหันมามองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังทำหน้าเครียดจัดกับแบบทดสอบที่ให้
                    เอ่อ พี่วราคะ คือ ..คือ เมย์จะบอกว่าตัวหนังสือพวกนี้เมย์มีความรู้สึกคุ้นๆ แต่เมย์อ่านมันไม่ออกซักกะตัว.. ค่ะ
              “ แล้วเล่มนี้ล่ะ อ่านออกไหม เมื่อกี้พี่ได้ยินเราอ่านหน้าปกหนังสือเล่มนี้
    เมริสามองหนังสือเล่มที่วรายื่นให้ แล้วพยักหน้า ยอมรับว่าเธออ่านได้ เหมือนมันติดอยู่ในหัว เธอก็ไม่รู้เหมือนกันความรู้สึกเธอไม่รู้สึกว่าเธออ่านได้แต่มันอ่านได้โดยไม่ต้องสั่ง เหมือนอาหารที่ร่างกายเธอปรารถนา จะกิน และอะไรอีกหลายอย่างในตัวเองที่มันขัดแย้งในตัวเอง
                    งั้นเธอลองอ่านข้อความในหน้านี้ดูซิ นี่เป็นหน้าคำนำของผู้เขียน
    เมริสามองคนตรงหน้าก่อนที่จะรับหนังสือเล่มนั้นมาอ่าน วรามองขณะที่เมริสาอ่านมันอย่างคล่องแคล่ว แมททิวหันมามองอย่างแปลกใจไม่แพ้วรา เลย เขามองหน้าวราก่อนที่จะหันมองหน้าเมริสาอีกครั้งพร้อมๆกัน
                    เมย์ ! เธออ่านได้ยังไง น่ะ เคยเรียนมาเหรอ หรือว่าไงแมท
    แมททิวหันมองวราแล้วส่ายหน้าอย่างงงๆ ก่อนที่เมริสาจะหันมามองทั้งคู่ อย่างไม่แน่ใจนัก
                    ไม่รู้ค่ะ รู้แต่มันมีอยู่ในหัวนี้ค่ะ ไม่ต้องคิดอะไรพอดูก็อ่านได้เลย
              “ แล้วนี่ล่ะ
    วราชี้ไปยังภาษาไทยที่เธอให้ทำแบบทดสอบ หากเมริสาส่ายหน้า
                    คุ้นๆ เหมือนกันค่ะแต่อ่านไม่ออก เหมือนตอนที่จะพูดใหม่ๆ มีความรู้สึกว่ารู้ว่าใครถามอะไรอยากตอบแต่พูดไม่ได้ลิ้นแข็งมากเหมือนไม่เคยพูดมาก่อน แต่แปลกที่ฟังออกว่าใครพูดอะไร เมย์เองก็ไม่เข้าใจ
    แมททิวลุกขึ้นนั่งฟังอย่างตั้งใจ สิ่งที่เขาไม่เคยรู้เผยขึ้นมาอีกเรื่องแล้ว เธอเป็นใครกันแน่นะ เมริสา
                    งั้นเอาอย่างนี้นะ เราจะไม่พูดถึงเรื่องในอดีตเอาเป็นว่าตอนนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าเราจะเริ่มตรงไหนดี จากที่ดูๆ เมย์ก็พอจะคุ้นๆกับตัวอักษรเหล่านี้อยู่แต่อ่านไม่ออก บางทีเมย์อาจจะยังนึกไม่ออกก็ได้นะ เหมือนโทรศัพท์ที่เพิ่งเปลี่ยนซิมใหม่หน่วยความจำที่อยู่ในเครื่องยังทำงานได้ดีอยู่แต่ความจำใหม่เราต้องบันทึกรายการเข้าไปใหม่   เดี๋ยวพี่จะเริ่มนับหนึ่งใหม่สำหรับเมย์ก็แล้วกันนะ เผื่อจะกู้หน่วยความจำของเมย์กลับมาได้บ้าง
              แมททิวมองหญิงสาวที่กำลังขะมักเขม้นกับการเรียนหนังสืออยู่ข้างใน ขณะที่เขาเดินออกมานั่งไต้ต้นมะม่วงหลังบ้าน เพียงครู่ใหญ่ๆ วราก็เดินตามออกมา นั่งข้างๆเขา
                    ทำไมไม่บอกวราล่ะว่าเธอความจำเสื่อม 
              “ ก็ไม่ได้คิดว่าจะปิดบังแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง
    แมททิวมองวราก่อนที่จะถอนหายใจยืดยาว วราครุ่นคิดเธอมองคนที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ ข้างในนั่น ที่แน่ๆวรารู้ว่าเธอไม่ใช่คนไทยแน่นอนดูจากหน้าตาและท่าทางการอ่านหนังสือนั่น แต่ทำไมเธอถึงบอกว่าเธอรู้ทุกอย่างว่าใครพูดอะไรถ้าเธอเป็นเกาหลีที่ลิ้นแข็งขนาดพูดไทยไม่ได้ก็ไม่น่าจะฟังคนอื่นพูดรู้เรื่องทุกอย่าง ถึงเธอจะอ่านหนังสือมามากต่อมากจนจับสังเกตว่าเธอไม่มีพื้นฐานความจำก็จริงแต่ในกรณีของเมริสาดูมันซับซ้อนนัก
                    แมททิวคุณคิดเหมือนวราไหมว่าเธอไม่น่าจะใช่คนไทย
              “ ผมคิด แต่ก็สรุปไม่ได้ ผมเคยให้ตำรวจหาข้อมูลของตัวเธอ ไม่มีการแจ้งคดีคนหาย
    วรามองหน้าเพื่อนชายก่อนจะตัดสินใจถามบางอย่าง
                    นายคิดยังไงกับเด็กคนนั้น 
    แมททิวมองหน้าวราก่อนหันไปมองเมริสา 
                    ตอนนี้เขาคือน้องสาวคนเดียวของฉัน ..เท่านั้น
              “ แล้วต่อไปล่ะ
              “ ฉันไม่รู้อนาคตหรอก และฉันก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่จะต้องทำ เมริสายังเด็กนักและถ้าวันหนึ่งที่เธอจำเรื่องราวในอดีตได้ วันนั้นเธอจะต้องกลับไปในที่ที่เธอจากมา ฉันคงไม่รั้งเธอไว้ และอีกอย่าง..เธอก็รู้นี่นาว่าคนอย่างฉัน เป็นยังไง ไม่ใช่เหรอวรา
    วราหันมายิ้มก่อนหันมาตบไหล่ของเขาเบา ๆ ก่อนลุกเข้าไปข้างในแล้วออกมาอีกครั้งพร้อมกาแฟสองแก้วในมือเธอยื่นให้เขาหนึ่งแก้วก่อนที่จะนั่งลงที่เดิม
                    นี่เธอมาอยู่กับนายนานแค่ไหนแล้ว 
              “ เดือนที่สี่แล้วหละ
    วรามองเขาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง อย่างแมททิวยอมให้ใครก็ไม่รู้เข้าไปอยู่ในบ้านได้ตั้งสี่เดือนถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากเพราะตั้งแต่รู้จักเขามา คอนโดคือสถานที่ส่วนตัวที่เขาไม่เคยให้ใครเข้าไปนัก ลูกครึ่งอเมริกันที่รักความเป็นส่วนตัวยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด แต่กลับอยู่กับเด็กสาวคนนั้นได้ตั้งสี่เดือน
                    ตั้งสี่เดือน แล้วนี่ เจ้าเสกรู้หรือเปล่า อย่าบอกนะ ว่าเขาไม่รู้
              “ ฉันไม่ได้บอกใครหรอก ไม่อยากให้เมย์เขาวุ่นวาย เค้าจำอะไรได้เขาคงจะไปของเขาเองเงียบๆ
    วรามองโดยไม่ได้พูดอะไรอีก ขณะยกแก้วกาแฟขึ้นจิบเธอก็นึกอะไรบางอย่างออก
                    นี่ ถ้านายไม่อยากลำบากใจก็ให้เธอมาอยู่กับวราก็ได้นี่นา ไหนๆวราก็อยู่คนเดียวอยู่แล้วเพราะพ่อกับแม่นานๆถึงจะกลับมาซักที หรือนายว่าไง 
    แมททิวหันเข้าไปมองเมริสาเธอมองออกมาพอดีแล้วชูสองนิ้วให้เขาก่อนยิ้มให้เหมือนเด็ก ๆ อยู่กันมาขนาดนี้แล้ว เขารู้สึกผูกพันกับเธอเกินที่จะไปโยนให้ใครได้
                    ผมไม่ได้ลำบากอะไรหรอก คงไม่รบกวนวราดีกว่า แค่ให้สอนหนังสือให้ใหม่หมดนี่ก็ รบกวนจะแย่
              “ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย เสาร์ อาทิตย์ วราก็ว่างอยู่แล้วมีเพื่อนมาคุยด้วยก็ดี แล้วอีกอย่างมีคนช่วยแปลหนังสือแล้ว
    วราหันมายิ้มก่อนจะเก็บแก้วกาแฟเดินกลับเข้าไปข้างใน
     
                    เป็นไงล่ะ เราน่ะ ต้องเริ่มใหม่หมด เหนื่อยไหม
    แมททิวยื่นมือไปลูบหัวเมริสาเบาๆ ก่อนออกรถไป เมริสาส่ายหน้ายิ้มให้เขาก่อนจะหันมองออกนอกรถแล้วภาพที่ปรากฏอยู่สองข้างทางนี่ทำไมมันคุ้นนักล่ะเมริสามองไปทั่วๆ เธอรู้สึกขนลุกซู่เลยทีเดียว ทำไมนะ เธอมีความรู้สึกว่าเธอรู้จักแถวนี้ดี ข้างหน้านั่นต้องเป็นบ้านนันทเสนแน่ๆ ว่าแล้วเมื่อถึงอาคารพานิชย์สามชั้นบ้านที่ติดอยู่หน้าสำนักงานนั่นทำให้เมริสาน้ำตาคลอเบ้าเธอรู้สึกคิดถึงเหลือเกิน แมททิวหันมองหญิงสาวที่มองบ้านหลังนั้นให้หลัง
                    มีอะไรเหรอ เมย์
              “ เมย์รู้จักบ้านหลังนั้น เมย์รู้สึกว่าเมย์รู้จักที่นี่ ทุกอย่างดูคุ้นตามาก
    เมริสาคิดขณะที่สายตายังจับจ้องอยู่นอกรถนั่น
              “ ให้พี่จอดไหม 
              “ ไม่ต้องหรอกค่ะ วันหลังเมย์มาเรียนอีก   แล้วเมย์ค่อยแวะมาเดินดูนะคะ
    เมริสาส่ายหน้าก่อนเอนตัวกับเบาะ แล้วหลับไป แมททิวมอง เขาสังเกตว่าช่วงนี้เมริสาไม่ค่อยแข็งแรงนัก เธอหลับบ่อยและการหลับแต่ละครั้งเธอเหมือน.... บางครั้งเขาก็อดใจหายไม่ได้หากเธอไม่ฟื้นขึ้นมาจริงๆ เขาจะทำไง   แมททิวส่ายหน้าเขาไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเท่าไหร่นัก ที่แค่คิดว่าเธอจำความได้เมื่อไหร่เธอก็ต้องไปตามทางของเธอ แค่นั้นก็ทำเขาใจหายอย่างบอกไม่ถูกเสียแล้ว
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×