ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ลำดับตอนที่ 9
9
เรียนหนังสือ
“ นี่พี่วรา เพื่อนพี่เอง “
เมริสามองหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับแมททิว เธอแต่งตัวเรียบร้อยจนดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัย ผมที่รวบเกล้าไว้อย่างเรียบร้อย เมริสายกมือไหว้อย่างนอบน้อม วรายกมือไหว้ตอบ
“ สวัสดีค่ะ พี่วรา “
“ วรา นี่เมริสา เรียกเมย์ก็ได้ “
“ เป็นไงมาไงถึงได้เอามาฝากฉันน่ะ ที่นี่ไม่ได้ออกใบประกาศให้นะแมท ฉันให้ได้แต่ความรู้ “
เพื่อนสาวมองชายหนุ่มที่ยืนมองชั้นหนังสือภายในบ้าน แล้วหันมองหญิงสาวที่ยืนอย่างสำรวมอยู่ข้างๆ
“ แค่นั้นแหละที่ผมต้องการตอนนี้ เมย์จำเป็นต้องมีความรู้ติดตัวไว้บ้างจะได้ใช้ชีวิตประจำวันได้ไม่ลำบากนัก “
“ทำไม มีอะไรที่จะบอกฉันหรือเปล่าแมท “
แมททิวมองเพื่อนสาวก่อนจะถอนหายใจ อีกครั้ง เขามองเมริสา
“ เรื่องมันยาวน่ะ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่เธอยอมสอน แค่นั้น ..นะ ..อย่าถามอะไรฉันตอนนี้เลย..”
วราพยักหน้าโดยที่ไม่ได้ถามอะไรเขาอีก เท่าที่จำได้ วราคือผู้หญิงคนแรกที่เขาคบหาแล้วสบายใจที่สุด แต่ด้วยความดีของวราทำให้เขาไม่อยากเสียมิตรภาพนั้นไปด้วยความกะล่อนของเขาเอง ผู้หญิงมากมายเข้ามาหาเขาเพียงเพื่อความสนุก เท่านั้น แล้วเขาเองที่เป็นฝ่ายยอมรับให้ผู้หญิงพวกนั้นเข้ามาอย่างเต็มใจเสียด้วย วราเดินเข้ามาใกล้เมริสา จูงมือเธอเดินเข้าไปยังห้องสมุดด้านใน วราเรียนวารสาร รับงานแปลและเขียนหนังสืออีกหลายอย่าง เธออยู่กับหนังสือเสียเป็นส่วนใหญ่ จนเพื่อนๆต่างตั้งฉายาว่าหนอนเฒ่าที่กินหนังสือเป็นอาหาร
“ นั่งซิ เดี๋ยวเราจะมาดูว่าเธอมีความรู้พื้นฐานแค่ไหน อ้อ แมทถ้านายมีธุระก็ไปก่อนก็ได้นะแล้วค่อยแวะมารับเมย์แล้วกัน “
“ ไม่หละวันนี้ไม่มีนัด เดี๋ยวดูวราสอนเด็กดื้อดีกว่า จะได้รู้ว่าเมย์น่ะหัวทื่อขนาดไหน “
“ พี่แมท ว่าเมย์ต่อหน้าคนอื่นได้ไง เมย์ออกจะฉลาดนะ คอยดูซิ เดี๋ยวเมย์จะเรียนให้จบภายในสามเดื่อนให้ดู คอยดูนะ พี่วราช่วยเมย์ลบคำสบประมาทของพี่แมทให้ได้นะคะ “
วราหันมามองสองคนที่กำลังแหย่กันไปมา แมททิวบีบจมูกโด่งเล็กของเมริสาขณะที่เธอก้มหลบ แล้วปัดมือเขาออก วรามองภาพนั้น ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แมททิวต้องมีความรู้สึกที่พิเศษกับเด็กคนนี้มากกว่าความเป็นพี่เป็นน้องแน่ๆ แล้ววราลุกขึ้นไปหยิบหนังสือในชั้นขณะที่เมริสานั่งคอยด้วยท่านั่งพับเพียบเรียบร้อย ขณะที่แมททิวขึ้นไปเอนนั่งบนโซฟาแล้วเปิดทีวีดูอยู่ใกล้ๆนั่นเอง วราเดินมานั่งเปิดหนังสือ
“ นี่เมย์ลองทำแบบทดสอบนี่นะ “
เมริสามอง แต่น่าแปลกที่ตัวอักษรที่วราให้ดู แบบทดสอบที่วางให้เธอทำนั้นเธออ่านไม่ออกเลยไม่รู้จักแม้ตัวอักษรคุ้นๆ แต่ไม่แน่ใจว่าเธออ่านออกหรือเปล่า วราเหลือบมองก่อนหันไปสนใจหนังสือในมือนั่น หนังสือที่เป็นคนละภาษากับหนังสือที่ให้เธอทำ
“ มนต์รักฤดูหนาวแห่งกรุงโซล หนังสือนวนิยายเหรอคะ “
วราหันมองเมริสา แล้วก้มมองหนังสือในมือที่อ่านเธอได้หนังสือแปลเล่มใหม่มาเป็นภาษาเกาหลีทั้งเล่ม เธอต้องพยายามมากกว่าภาษาอังกฤษ เพราะเป็นภาษาที่ไม่ค่อยเป็นสากลนัก แต่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันนี้ การแปลภาษาเกาหลีไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แล้วทำไมเมริสาอ่านมันโดยไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ วราหันไปมองแมททิวอีกครั้งก่อนจะหันมามองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังทำหน้าเครียดจัดกับแบบทดสอบที่ให้
“ เอ่อ พี่วราคะ คือ ..คือ เมย์จะบอกว่าตัวหนังสือพวกนี้เมย์มีความรู้สึกคุ้นๆ แต่เมย์อ่านมันไม่ออกซักกะตัว.. ค่ะ”
“ แล้วเล่มนี้ล่ะ อ่านออกไหม เมื่อกี้พี่ได้ยินเราอ่านหน้าปกหนังสือเล่มนี้ “
เมริสามองหนังสือเล่มที่วรายื่นให้ แล้วพยักหน้า ยอมรับว่าเธออ่านได้ เหมือนมันติดอยู่ในหัว เธอก็ไม่รู้เหมือนกันความรู้สึกเธอไม่รู้สึกว่าเธออ่านได้แต่มันอ่านได้โดยไม่ต้องสั่ง เหมือนอาหารที่ร่างกายเธอปรารถนา จะกิน และอะไรอีกหลายอย่างในตัวเองที่มันขัดแย้งในตัวเอง
“ งั้นเธอลองอ่านข้อความในหน้านี้ดูซิ นี่เป็นหน้าคำนำของผู้เขียน “
เมริสามองคนตรงหน้าก่อนที่จะรับหนังสือเล่มนั้นมาอ่าน วรามองขณะที่เมริสาอ่านมันอย่างคล่องแคล่ว แมททิวหันมามองอย่างแปลกใจไม่แพ้วรา เลย เขามองหน้าวราก่อนที่จะหันมองหน้าเมริสาอีกครั้งพร้อมๆกัน
“ เมย์ ! เธออ่านได้ยังไง น่ะ เคยเรียนมาเหรอ หรือว่าไงแมท “
แมททิวหันมองวราแล้วส่ายหน้าอย่างงงๆ ก่อนที่เมริสาจะหันมามองทั้งคู่ อย่างไม่แน่ใจนัก
“ ไม่รู้ค่ะ รู้แต่มันมีอยู่ในหัวนี้ค่ะ ไม่ต้องคิดอะไรพอดูก็อ่านได้เลย “
“ แล้วนี่ล่ะ “
วราชี้ไปยังภาษาไทยที่เธอให้ทำแบบทดสอบ หากเมริสาส่ายหน้า
“ คุ้นๆ เหมือนกันค่ะแต่อ่านไม่ออก เหมือนตอนที่จะพูดใหม่ๆ มีความรู้สึกว่ารู้ว่าใครถามอะไรอยากตอบแต่พูดไม่ได้ลิ้นแข็งมากเหมือนไม่เคยพูดมาก่อน แต่แปลกที่ฟังออกว่าใครพูดอะไร เมย์เองก็ไม่เข้าใจ “
แมททิวลุกขึ้นนั่งฟังอย่างตั้งใจ สิ่งที่เขาไม่เคยรู้เผยขึ้นมาอีกเรื่องแล้ว เธอเป็นใครกันแน่นะ เมริสา
“ งั้นเอาอย่างนี้นะ เราจะไม่พูดถึงเรื่องในอดีตเอาเป็นว่าตอนนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าเราจะเริ่มตรงไหนดี จากที่ดูๆ เมย์ก็พอจะคุ้นๆกับตัวอักษรเหล่านี้อยู่แต่อ่านไม่ออก บางทีเมย์อาจจะยังนึกไม่ออกก็ได้นะ เหมือนโทรศัพท์ที่เพิ่งเปลี่ยนซิมใหม่หน่วยความจำที่อยู่ในเครื่องยังทำงานได้ดีอยู่แต่ความจำใหม่เราต้องบันทึกรายการเข้าไปใหม่ เดี๋ยวพี่จะเริ่มนับหนึ่งใหม่สำหรับเมย์ก็แล้วกันนะ เผื่อจะกู้หน่วยความจำของเมย์กลับมาได้บ้าง “
แมททิวมองหญิงสาวที่กำลังขะมักเขม้นกับการเรียนหนังสืออยู่ข้างใน ขณะที่เขาเดินออกมานั่งไต้ต้นมะม่วงหลังบ้าน เพียงครู่ใหญ่ๆ วราก็เดินตามออกมา นั่งข้างๆเขา
“ ทำไมไม่บอกวราล่ะว่าเธอความจำเสื่อม “
“ ก็ไม่ได้คิดว่าจะปิดบังแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง “
แมททิวมองวราก่อนที่จะถอนหายใจยืดยาว วราครุ่นคิดเธอมองคนที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ ข้างในนั่น ที่แน่ๆวรารู้ว่าเธอไม่ใช่คนไทยแน่นอนดูจากหน้าตาและท่าทางการอ่านหนังสือนั่น แต่ทำไมเธอถึงบอกว่าเธอรู้ทุกอย่างว่าใครพูดอะไรถ้าเธอเป็นเกาหลีที่ลิ้นแข็งขนาดพูดไทยไม่ได้ก็ไม่น่าจะฟังคนอื่นพูดรู้เรื่องทุกอย่าง ถึงเธอจะอ่านหนังสือมามากต่อมากจนจับสังเกตว่าเธอไม่มีพื้นฐานความจำก็จริงแต่ในกรณีของเมริสาดูมันซับซ้อนนัก
“ แมททิวคุณคิดเหมือนวราไหมว่าเธอไม่น่าจะใช่คนไทย “
“ ผมคิด แต่ก็สรุปไม่ได้ ผมเคยให้ตำรวจหาข้อมูลของตัวเธอ ไม่มีการแจ้งคดีคนหาย “
วรามองหน้าเพื่อนชายก่อนจะตัดสินใจถามบางอย่าง
“ นายคิดยังไงกับเด็กคนนั้น “
แมททิวมองหน้าวราก่อนหันไปมองเมริสา
“ ตอนนี้เขาคือน้องสาวคนเดียวของฉัน ..เท่านั้น “
“ แล้วต่อไปล่ะ “
“ ฉันไม่รู้อนาคตหรอก และฉันก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่จะต้องทำ เมริสายังเด็กนักและถ้าวันหนึ่งที่เธอจำเรื่องราวในอดีตได้ วันนั้นเธอจะต้องกลับไปในที่ที่เธอจากมา ฉันคงไม่รั้งเธอไว้ และอีกอย่าง..เธอก็รู้นี่นาว่าคนอย่างฉัน เป็นยังไง ไม่ใช่เหรอวรา “
วราหันมายิ้มก่อนหันมาตบไหล่ของเขาเบา ๆ ก่อนลุกเข้าไปข้างในแล้วออกมาอีกครั้งพร้อมกาแฟสองแก้วในมือเธอยื่นให้เขาหนึ่งแก้วก่อนที่จะนั่งลงที่เดิม
“ นี่เธอมาอยู่กับนายนานแค่ไหนแล้ว “
“ เดือนที่สี่แล้วหละ “
วรามองเขาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง อย่างแมททิวยอมให้ใครก็ไม่รู้เข้าไปอยู่ในบ้านได้ตั้งสี่เดือนถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากเพราะตั้งแต่รู้จักเขามา คอนโดคือสถานที่ส่วนตัวที่เขาไม่เคยให้ใครเข้าไปนัก ลูกครึ่งอเมริกันที่รักความเป็นส่วนตัวยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด แต่กลับอยู่กับเด็กสาวคนนั้นได้ตั้งสี่เดือน
“ ตั้งสี่เดือน แล้วนี่ เจ้าเสกรู้หรือเปล่า อย่าบอกนะ ว่าเขาไม่รู้ “
“ ฉันไม่ได้บอกใครหรอก ไม่อยากให้เมย์เขาวุ่นวาย เค้าจำอะไรได้เขาคงจะไปของเขาเองเงียบๆ “
วรามองโดยไม่ได้พูดอะไรอีก ขณะยกแก้วกาแฟขึ้นจิบเธอก็นึกอะไรบางอย่างออก
“ นี่ ถ้านายไม่อยากลำบากใจก็ให้เธอมาอยู่กับวราก็ได้นี่นา ไหนๆวราก็อยู่คนเดียวอยู่แล้วเพราะพ่อกับแม่นานๆถึงจะกลับมาซักที หรือนายว่าไง “
แมททิวหันเข้าไปมองเมริสาเธอมองออกมาพอดีแล้วชูสองนิ้วให้เขาก่อนยิ้มให้เหมือนเด็ก ๆ อยู่กันมาขนาดนี้แล้ว เขารู้สึกผูกพันกับเธอเกินที่จะไปโยนให้ใครได้
“ ผมไม่ได้ลำบากอะไรหรอก คงไม่รบกวนวราดีกว่า แค่ให้สอนหนังสือให้ใหม่หมดนี่ก็ รบกวนจะแย่”
“ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย เสาร์ อาทิตย์ วราก็ว่างอยู่แล้วมีเพื่อนมาคุยด้วยก็ดี แล้วอีกอย่างมีคนช่วยแปลหนังสือแล้ว “
วราหันมายิ้มก่อนจะเก็บแก้วกาแฟเดินกลับเข้าไปข้างใน
“ เป็นไงล่ะ เราน่ะ ต้องเริ่มใหม่หมด เหนื่อยไหม “
แมททิวยื่นมือไปลูบหัวเมริสาเบาๆ ก่อนออกรถไป เมริสาส่ายหน้ายิ้มให้เขาก่อนจะหันมองออกนอกรถแล้วภาพที่ปรากฏอยู่สองข้างทางนี่ทำไมมันคุ้นนักล่ะเมริสามองไปทั่วๆ เธอรู้สึกขนลุกซู่เลยทีเดียว ทำไมนะ เธอมีความรู้สึกว่าเธอรู้จักแถวนี้ดี ข้างหน้านั่นต้องเป็นบ้านนันทเสนแน่ๆ ว่าแล้วเมื่อถึงอาคารพานิชย์สามชั้นบ้านที่ติดอยู่หน้าสำนักงานนั่นทำให้เมริสาน้ำตาคลอเบ้าเธอรู้สึกคิดถึงเหลือเกิน แมททิวหันมองหญิงสาวที่มองบ้านหลังนั้นให้หลัง
“ มีอะไรเหรอ เมย์ “
“ เมย์รู้จักบ้านหลังนั้น เมย์รู้สึกว่าเมย์รู้จักที่นี่ ทุกอย่างดูคุ้นตามาก “
เมริสาคิดขณะที่สายตายังจับจ้องอยู่นอกรถนั่น
“ ให้พี่จอดไหม “
“ ไม่ต้องหรอกค่ะ วันหลังเมย์มาเรียนอีก แล้วเมย์ค่อยแวะมาเดินดูนะคะ”
เมริสาส่ายหน้าก่อนเอนตัวกับเบาะ แล้วหลับไป แมททิวมอง เขาสังเกตว่าช่วงนี้เมริสาไม่ค่อยแข็งแรงนัก เธอหลับบ่อยและการหลับแต่ละครั้งเธอเหมือน.... บางครั้งเขาก็อดใจหายไม่ได้หากเธอไม่ฟื้นขึ้นมาจริงๆ เขาจะทำไง แมททิวส่ายหน้าเขาไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเท่าไหร่นัก ที่แค่คิดว่าเธอจำความได้เมื่อไหร่เธอก็ต้องไปตามทางของเธอ แค่นั้นก็ทำเขาใจหายอย่างบอกไม่ถูกเสียแล้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น