ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 7..เทสหน้ากล้อง
7...เทสหน้ากล้อง
“ พี่แมท พี่แมท ตื่นค่ะ ตื่น สายแล้วนะ “
“ อือ ..เมื่อคืนนอนดึก ขอนอนต่ออีกหน่อยนะจ๊ะ ...”
แล้วแมททิวก็คว่ำหน้าลงไปนอนอีกรอบ เมริสามองคนที่ขี้เกียจตื่นเช้านี่ เหมือนจะคิดอะไรออก เมริสาคว้าผ้าห่มปิดไปถึงหัวเตียงแมททิวนอนซุกหัวกับหมอนอยู่นี่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น เมริสาได้ทีกระโดดขึ้นไปบนเตียงโถมทับลงไปบนตัวชายหนุ่มแล้วกลิ้งไปมาทันที
“ โอ้ย ! แม่หมูทับหลัง โอ้ย! เมย์พี่หายใจไม่ออกแล้ว เมย์ แฮ่กๆๆ .”
เสียงไอแค่กๆ ทำให้เมริสารีบลุกทันทีหากคนที่นอนคว่ำอยู่หงายตัวแล้วดึงผ้าห่มออก คว้าเธอมากอดไว้ เอาคางสากๆด้วยหนวดที่ยังไม่ได้โกนนั่นคลอยังแก้มเนียนนวลของเด็กสาว เมริสาดิ้น อยู่ในอ้อมแขนนั่นด้วยความจั๊กจี้
“ พี่แมทไม่เล่น พี่แมท เมย์จั๊กจี้นะ ปล่อยนะ.. พี่แมท..อ่อย! วันนี้พี่ไม่ไปทำงานเหรอนี่มันเจ็ดโมงกว่าแล้วนะคะ เดี๋ยวพี่จะไปสายอีกนะเมย์ไม่อยากให้พี่โดนดุ “
แมททิวมองคนที่อยู่ในอ้อมแขน เมริสาไม่ได้ตัวเล็กอย่างที่เขาคิด เธอเป็นสาวเต็มตัวแล้วแมททิวยอมคลายอ้อมแขนก่อนดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เมริสาลุกตาม
“ เมย์ !พี่ขอกาแฟด้วยนะ วันนี้อยากกินไข่ดาว เอาแบบสุกๆนะจ๊ะ”
“ เมย์ทำไว้เรียบร้อยแล้วหละค่ะก่อนเข้าไปปลุกพี่เสียอีกนะ เดี๋ยวเมย์ไปชงกาแฟมาให้กันนะ ”
เธอยกอาหารเช้ามาให้พี่ชาย ก่อนนั่งลงข้าง ๆ มองเขาเหมือนอยากถามอะไรบางอย่าง แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเมื่อเห็นเขากำลังตั้งใจอ่านหนังสือพิมพ์ในมือ
“ พี่แมทฝึกงานเสร็จวันไหนคะ แล้วพี่ยังต้องไปเรียนอีกไหม “
แมททิวหันมองคนถามก่อนที่จะก้มลงอ่านหนังสือพิมพ์ในมือต่อ
“ เรียนซิ พี่ยังมีสอบอีกนะ คงเดือนหน้านี่แหละ แล้วก็คิดว่าคงจบแล้วหละ ทำไมเหรอ ? “
เมริสาไม่พูดแต่แค่คิดว่าเธอจะต้องทำอะไรซักอย่างแต่ก็ยังไม่กล้าบอกเขาอยู่ดี แล้วเมริสาก็ลุกเดินไป และกลันมาพร้อมแก้วน้ำในมือ เธอวางแก้วไว้ใกล้ๆมือแมททิวก่อนนั่งลงที่เดิม แมททิวมองเด็กสาวตรงหน้าเหมือนเธอมีบางอย่างอยากพูด
“ มีอะไรก็พูดมาเถอะ อย่าเก็บไว้คนเดียว พี่ช่วยอะไรได้ไหม “
เมริสามองเขาอีกครั้งก่อนถอนหายใจ แล้วลดสายตาลงเหมือนลังเล
“ เมย์เป็นภาระพี่แมทมากไหมคะ เมย์อยากหางานค่ะ จะได้ช่วยพี่ได้บ้าง “
แมททิวมองเมริสาอย่างเอ็นดูเธอทำให้เขาทุกอย่างโดยไม่นิ่งดูดาย แค่นั้นเขาก็รู้สึกดีไม่น้อย เขาไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลย แต่ถ้าบอกอย่างนั้นเธอก็คงไม่เชื่ออยู่ดี มีเรอะเป็นแค่นักศึกษาจะมีเงินใช้มากมายได้อย่างไร
“ เมย์..เมย์ฟังพี่นะ เมย์ยังไม่รู้หนังสือ เขียนก็ยังไม่ได้จะไปทำงานอะไร เอางี้ เดี๋ยววันอาทิตย์นี้พี่จะพาเมย์ไปเรียนกับเพื่อนพี่นะ พีติดต่อเพื่อนไว้แล้ว รู้หนังสือแบบอ่านออกเขียนได้แล้ว ถ้าเมย์เบื่ออยากทำงานพี่ก็ไม่ห้าม “
พูดแล้วแมททิวก็ก้มลงไปจัดการกับอาหารเช้านั่น โดยไม่ได้หันมองเมริสาที่กำลังมองเขาอย่างชื่นชม เธอยิ้มอย่างมีหวัง เธอจะได้รู้หนังสือแล้ว
“ พี่พูดจริงนะ “
แมททิวพยักหน้าก่อนมองหน้าหญิงสาวที่นั่งยิ้มอย่างมีหวังตรงหน้า แล้วก้มลงจัดการกับอาหารต่อ
แมททิวออกไปได้ซักพัก เมริสาเดินมานั่งหน้าทีวี ก่อนหยิบนามบัตรขึ้นมาดูอีกครั้ง เธอจะโทรไปดีหรือไม่ เธอควรถามแมททิวก่อน หรือว่าจะโทรไปก่อนดีเพราะเธอจำเป็นต้องมีญาติสักคนเพื่อยืนยันสถานะของตัวเองเผื่อจะทำอะไรได้บ้าง แล้วเมริสาก็ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร
“ ฮัลโหล ขอสายพี่อลิศค่ะ “
“ ฉันอสิศพูด ไม่ทราบว่าใครพูดอยู่ย่ะ ...นี่พูดเสียทีสิย่ะไม่พูดจะวางสายแล้วนะ “
อลิศโวยใส่โทรศัพท์เมื่อปลายสายเงียบไป
“ ค่ะๆ พูดค่ะ พี่อลิศจำเมย์ได้ไหมคะ”
“เมย์เหรอ...อือ เดี๋ยวใครนะเมย์ ..”
อลิศครุ่นคิดเมย์ชื่อไม่คุ้นเลย
“ ที่เราเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าไงคะแล้วพี่ก็ให้หนูโทรมาหากอยากทำงานน่ะค่ะ ..พี่จำได้ไหม ..”
“ ต๊าย ! จำได้ซิจำได้ เหม..ปล่อยให้รอตั้งนาน พี่คอยหนูเมย์อยู่นะ เอางี้นะเมย์อยู่ไหนบอกมา เดี๋ยวเจ้ไปรับถึงที่เลย “
อลิศยิ้มอย่างพอใจ แล้วเพชรเม็ดงามก็เข้ามาอยู่ในมือ รับรองเธอจะทำให้เด็กสาวคนนั้นได้รับความนิยมภายในเวลาไม่ถึงปี อลิศหมายหมั่นปั้นมือก่อนคว้ากระเป๋าหิ้วคู่ใจเดินตัวปลิวออกจากอ๊อฟฟิต
“ ไปไหนเจ้ บ่ายนี้เจ้มีนัดกับคุณนัดดานะคะ อย่าลืมล่ะเธอยิ่งเล่นตัวจะโก่งค่าตัวอยู่เรื่อย”
พนักงานที่อยู่หน้าห้องหันมองเมื่อเจ้านายเดินตัวปลิวออกจากห้อง อย่างอารมณ์ดีกว่าทุกวัน
“ นั่นซิ แม่นี่ไม่รู้จักบุญคุณข้าวสุกเลย ทีเมื่อก่อนนี้เข้ามาจะยอมทำนั่นนี่ โธ่พอดังเข้าหน่อยโก่งค่าตัวกันเองซะแล้ว .แต่ต่อไปฉันคงไม่ง้อแม่นัดดาแล้ว และ...
เลขาหน้าห้องหันมามองเจ้านายก่อนจะเดาความคิดนั้น
เลขาหน้าห้องหันมามองเจ้านายก่อนจะเดาความคิดนั้น
“ อยากสั่งสอนเหรอคะ คุณอลิศ “
“ บางครั้งคนเราต้องรู้จักบุญคุณกันบ้างไม่ใช่ทวงหรอกนะแต่แม่นี่ทำเกินไป มีเหรอยังไม่ใช่ซุปเปอร์สตาร์แต่เรียกค่าตัวเป็นล้าน ตลกหรือเปล่า ถ้าหล่อนโทรมาบอกว่าฉันไม่ว่าง ถ้าเจ้าหล่อนถามเรื่องค่าตัวบอกว่าฉันให้ได้แค่ที่ตกลงกันตอนแรกเท่านั้นแหละ ลืมแล้วเหรอคนอย่างเจ้ดันน่ะไม่จำเป็นต้องวิ่งไปหาใครแต่มีคนที่เขาพร้อมจะวิ่งมาหาตัดไปแค่คนสองคนเรื่องเล็ก แล้วอีกอย่างตอนนี้เจ้เพิ่งเจอเพชรเม็ดงามที่เกือบจะไม่ต้องเจียรนัยด้วยซ้ำ เจ้จะไม่ยอมให้หลุดมือไป หรอก เสียดายแย่ “
เลขามองนายที่ไม่ค่อยเห็นเธอตื่นเต้นกับนางแบบคนไหนนัก แสดงว่าคนนี้คงมีดีแน่ไม่นั้นเจ้านายเธอคงไม่ลงทุนออกไปหาเองหรอก คิดแล้วเธอก็เดินไปยกหูโทรศัพท์ ขณะที่เธอกำลังจะกดโทรสาวประเภทเดียวกับเจ้านายของเธอก็เข้ามา
“ นี่พี่อิ๋ว เจ้ลิศไปไหนน่ะ ว้า!มีเรื่องอยากคุยด้วยหน่อยไม่ทันทุกทีเลย เจ้นี่ตามตัวก็ยาก มาถึงที่แล้วยังไม่เจออีก “
อิ๋วมองช่างแต่งหน้าที่ยืนทำท่าเสียดายที่สวนทางกับอลิศ
“ แล้วทำไมไม่โทรมาก่อนล่ะ “
“ ก็เจ้แกปิดเครื่องน่ะสิ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกวันหลังก็ได้ “
อิ๋วคิดว่าคนที่เจ้ไปหาคงเป็นเพชรเม็ดงามน่าดูขนาดที่เจ้แกไม่อยากให้ใครรบกวน
“ เจ้แกไปหาเพชรเม็ดใหม่น่ะ ลงทุนไปหาด้วยตัวเองเลยนะ ฉันล่ะอยากเห็นจริงๆ ลองเจ้เราไปเองฉันว่าคงไม่ธรรมดานะ แกว่าไหมบิว “
บิวครุ่นคิดก่อนพยักหน้า
“ นั่นซินะ ธรรมดาพอเจอใครที่เจ้แกจะดันเจ้แกต้องลากมาให้พวกเราดูก่อนประจำ ว่าเข้าตาหรือเปล่าหรือต้องปรับเปลี่ยนตรงไหนบ้าง “
ทั้งสองมองหน้ากันแล้วพยักหน้า
เมริสานั่งคอยเจ้อลิศอยู่ที่ร้านของเฮียหมู พนักงานเสริฟยกแก้วน้ำส้มเข้ามาเสริฟ เขามองหญิงสาว เมริสาหลบหน้าเธอจำวันที่เธอขโมยขนมปังที่ร้านนี้ได้ไม่ลืมและนั่นทำให้เธอได้เจอพี่แมทผู้แสนดี
“ นี่ ก้มหน้าก้มตาเชียว พ่อพนักงานนั่นมองเธอตานี่เหยิ้มเชียวนะ จ๊ะ “
“ เจ้ “
เมริสาแหงนหน้าขึ้นมองคนที่เดินเข้ามา เธอยิ้มให้เมริสาที่ยกมือไหว้ อย่างเอ็นดู แล้วอลิศก็นั่งลงข้างๆ
“ นี่พี่ขอน้ำขิงแล้วกันนะ มีใช่ไหม “
พนักงานเดินเข้ามารับรายการอาหารจากเขาก่อนที่จะเดินกลับออกไปขณะที่หันมายิ้มให้เมริสาอีกครั้งเมริสามองก่อนยิ้มรับอย่างงงๆ เพราะเธอยังหวาด กลัวว่าเขาจะจำเธอได้
“ พี่คิดว่าเราจะไม่โทรมาเสียแล้ว แล้วนี่บอกพ่อแม่แล้วใช่ไหม “
เมริสาก้มหน้า เธอดื่มน้ำส้มก่อนที่จะถอนหายใจก่อนพูด
“ พ่อกับแม่ไม่ว่าไงหรอกค่ะ เพราะ...เพราะเอ่อท่านไม่อยู่ค่ะ “
“ เธอแน่ใจนะว่าจะไม่มีปัญหา ถ้าหากท่านรู้ทีหลัง “
เมริสาพยักหน้า
“ งานนี้ไม่มีอะไรเสียหายไม่ใช่เหรอคะ และอีกอย่างก็ไม่ต้องใช้ความรู้อะไรมากมาย ...ใช่ไหม...คะ “
อลิศมองหน้าเด็กสาวที่ยังลังเลกับงานที่เธอบอก
“ งานนี้น่ะแค่เธอทำหน้าสวยๆ ตั้งท่าดีๆ แล้วรักษาสุขภาพตัวเองอยู่เสมอ แค่นั้นแหละ คนไม่รู้หนังสือซักตัวยังทำได้เลยนะ อย่ากังวลมันไม่ใช่งานที่เสียหาย ฉันรับรอง “
“ งั้นก็ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ เมย์แค่อยากทำอะไรที่จะช่วยแบ่งเบาภาระพี่ชายได้บ้างค่ะ “
อลิศมองเด็กสาวอย่างชื่นชม ที่เธอรู้จักคิดที่จะช่วยแบ่งเบาภาระพี่ชาย เดี๋ยวนี้คนแบบนี้หายากนัก มีแต่คนที่ได้แล้วไม่คิดถึงว่าผู้อื่นจะเป็นอย่างไร
คุยกันไปเกือบค่อนวัน เมริสาจึงขอตัวกลับ
“ เจ้คะ นี่ก็บ่ายแล้วเมย์ขอตัวกลับก่อนนะคะ เมย์ทำงานค้างอยู่ “
“ เดี่ยวเจ้ไปส่งนะ “
เพียงครู่เดียวอลิศก็ขับรถมาถึงคอนโด เขามองคอนโดที่เมริสาอยู่ เท่าที่รู้ที่นี่มีแต่คนมีอันจะกินเท่านั้นถึงจะมีเงินมาซื้อ คิดไว้ไม่ผิดว่าอย่างเมริสาไม่น่าจะเป็นแค่ลูกตาสีตาสาแน่นอนดูจากผิวพรรณนั่นก็การันตีได้เลย
“ แล้วอย่าลืมที่นัดไว้ล่ะ เดี๋ยวเจ้เข้ามารับเองเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลานั่งเท็กซี่ เจ้ไปนะเมย์ ”
รถเก๋งสีแดงจัดเคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เมริสาจะเดินเข้าไปยังคอนโด ซึ่งตอนนี้ประชาสัมพันธ์ต่างก็รู้จักเธอในนามของน้องสาวแมททิว
“ ฮันแน่วันนี้ออกไปเที่ยวที่ไหนมาคะ เห็นเมื่อกี้พี่แมทกลับมาแล้วล่ะค่ะ “
เมริสายิ้มทักพร้อมกับแปลกใจที่ประชาสัมพันธ์บอกว่าพี่แมทกลับมาแล้ว ก็นี่มันเพิ่งจะบ่ายสองเองนี่นา อย่าบอกนะว่าเขาโดดงานมาอีกแล้ว เมริสายิ้มให้ทั้งสองคนนั่นแล้วรีบขึ้นลิฟฟไปทันทีเธอยืนลังเลก่อนจะเข้าห้องเพราะเรื่องที่เธอไปเจออลิศนั้นยังเป็นความลับอยู่
“ อ้าวไปไหนมาน่ะ พี่ว่าจะโทรแต่ลืมไปว่าเรายังไม่มีโทรศัพท์ “
เมริสาเปิดประตูเข้ามาขณะที่แมททิวอาบน้ำเสร็จพอดีเขาใส่ชุดยีนส์สีเข้ม แมททิวมองเด็กสาวที่มองเขาอย่างมีคำถาม แมททิวก้มลงมองตัวเอง ก่อนยิ้มแล้วเดินมาที่ริสายืนอยู่เขาจูงมือเธอมานั้งบนโซฟาใกล้ๆ
“ ก็วันนี้พี่ฝึกงานวันสุดท้ายแล้วนี่นา แค่เข้าไปรับใบผ่านงานแล้วก็กลับ พรุ่งนี้พี่ก็เข้าไปมหาลัยแล้วไงล่ะ ไม่เห็นต้องสงสัยเลย นี่คงคิดว่าพี่โดดมาน่ะซิ ใช่ไหมล่ะ พี่ไม่เหลวไหลขนาดนั้นหรอกน่า “
เมริสามองขณะที่แมททิวหยิบกล่องอะไรบางอย่างขึ้นมา
“ อะไรเหรอคะ ?“
“ ไม่บอกหรอก ดูเอง “
แมททิวยื่นกล่องนั่นให้เมริสา เธอหยิบมาดู แล้วหันไปมองแมททิวอีกครั้งก่อนที่จะเปิดกล่องนั้น วัตถุสีเงิน
“ โทรศัพท์มือถือ ...พี่ให้เมย์เหรอคะ”
“ ใช่ พี่จะได้ติดต่อเมย์ได้ไง สะดวกดีนะ มีอะไรเมย์จะได้ติดต่อพี่ได้ไง “
แมททิวยิ้มก่อนจะตบไหล่เมริสาเบาๆ ก่อนหยิบรีโมททีวีมากดเปิด
” แต่มันแพงนี่คะ ..เมย์ไม่อยากให้พี่สิ้นเปลืองเรื่องของเมย์ เมย์ไม่ต้องใช้ก็ได้ “
เมริสาพูดอย่างถ่อมตนเธอไม่อยากรบกวนเขามากไปกว่านี้ แมททิวมองแล้วยิ้มเขาโอบน้องสาวคนนี้เข้ามากอดไว้ เธอไม่เคยร้องขออะไรเลยตั้งแต่มาอยู่กับเขา แต่เขากลับรู้สึกอยากทำให้เธอมากกว่า ไม่รู้ซิแค่อยากคุยเวลาที่ว่างๆ มันแค่รู้สึกคิดถึงเธอขึ้นมาเฉยๆเท่านั้น แมททิวถอนหายใจก่อนที่จะเอาศรีษะโขกเข้ากับศรีษะของเธอเบาๆ
“ ไม่รับพี่น้อยใจจริงๆด้วย เดี๋ยวเอาไปทิ้งก็ได้“
“ รับไว้ก็ได้ .. นี่แน่ะ มาโขกหัวเมย์ “
“ โอ๊ย ! เจ็บนะเมย์ “
แมททิวเอามือลูบคางเบาๆเมื่อเมริสาหันมาเอาหน้าผากโหนกนั่นชนกับคางของเขาอย่างจัง เขารีบคว้าไว้เมื่อเธอทำท่าลุกหนี
“ มานี่เลย ชนแล้วจะหนีเหรอ มาให้ตีซะดีๆ “
เมริสาล้มคว่ำลงมาตามแรงดึงของเขา แมททิวคว้าเธอไว้ก่อนที่เธอจะตกถึงพื้น ทำให้เมริสาล้มมาพาดอยู่บนตักเขา เธอรีบดันขึ้นอย่างรวดเร็วแต่แมททิวกดเธอไว้อย่างนั้น
“ พี่แมท ..เมย์จุกนะ ปล่อยเลย พี่แมท..ปล่อยนะ “
“ ไม่ปล่อย..ก็ใครบอกให้ชนพี่ล่ะ “
“ขี้โกงอย่างนี้ได้ไงเล่าก็พี่ชนเมย์ก่อนนะ ..พี่แมท ปล่อยเมย์นะคะ นะๆ พี่แมทสุดหล่อ “
“ ยังไงก็ไม่ปล่อย นี่ๆ ไม่ปล่อย ๆ นี่”
ว่าแล้วแมททิวก็จั๊กจี้ที่เอว เมริสาดิ้นๆพรวดๆ ก่อนคว้ามือเขาไว้แล้วพลิกตัวหงายขึ้น สบตาเขาตรงๆ ก่อนจะกัดเข้าตรงเนื้อที่หน้าท้องนั้น แมททิวสะดุ้งเฮือก
“ โอ๊ย! เมย์ๆ พี่เจ็บเมย์ปล่อยพี่ยอมแล้ว เมย์ ๆพี่ยอมแล้วปล่อยนะจ๊ะ เมย์คนดี๊ คนดี”
เมริสายอมปล่อยเขาแล้วดึงตัวเองขึ้น แมททิวลูบหน้าท้องนั่น คงเจ็บน่าดูเธอมองเขาก่อนที่จะเอื้อมมือมาถลกเสื้อขึ้นดู รอยฟันของเธอที่ฝากรอยไว้ชัดเจนมันแดงฮ้อเลือดเลยทีเดียว เมริสามองหน้าเขาอย่างรู้สึกผิด เธอทำเขาแรงไปหน่อย
“ พี่แมท เจ็บใช่ไหมเมย์ขอโทษ ขอโทษนะคะ อย่าโกรธเมย์นะ เดี๋ยวเมย์ทายาให้ “
แมททิวมองคนที่มองรอยจารึกของตัวเองอย่างรู้สึกผิด เขาลูบหัวเธอเบาๆก่อนที่จะดึงเสื้อลง
“ ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่นี้เองจะได้เป็นรอยจารึกไงว่าอย่าแกล้งเมย์อีก แล้วไหนล่ะยังไม่ขอบคุณพี่เลย “
เมริสามองอย่างงงๆ ขอบคุณ เรื่องอะไร
“ อะไร ลืมแล้วเหรอ ก็โทรศัพท์ไง “
“ ..อือ ..ขอบคุณค่ะ “
เธอเอ่ยขอบคุณเมื่อนึกขึ้นได้ แมททิวส่ายหน้าก่อนยื่นแก้มให้ เมริสาหยิกแขนให้ทีนึงก่อนจะหยิบกล่องเดินเข้าห้องไป แมททิวลูบแขนนั่นเบาๆมองตามเมริสาแล้วยิ้ม เมริสาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเหมือนเธอเคยใช้ความรู้สึกคุ้นมือ แต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน
‘ตื้ดๆๆ ๆๆ ๆๆ “
เมริสาสะดุ้ง มองโทรศัพท์ แล้วกดรับโดยอัตโนมัติ
“ นี่โทรศัพท์น่ะพี่จัดการทุกอย่างแล้วโทรได้เลย แล้วนี่เบอร์พี่นะ เมมไว้ด้วยล่ะ เดี๋ยวพี่จะออกไปข้างนอกนะ กลับดึกหน่อยไม่ต้องรอนะ “
แล้วแมททิวก็กดวางสาย เขาออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เมริสาเดินออกมานอกห้องแมททิวหายไปแล้วเธอหันมองนาฬิกาตรงผนัง สี่โมงเย็น แล้ว แมททิวไม่ได้ออกไปเที่ยวเลยเมื่อตอนที่ฝึกงาน นี่เขาก็ฝึกงานเสร็จแล้วเธอคงเจอเขาน้อยลงอีก หวืบ___หวืบ______!!
“ โอ๊ย ! “
เธอไม่ทันตั้งตัวอาการนั่นมาโดยที่เธอยังไม่หลับด้วยซ้ำ มันมีพลังดูดอย่างรุนแรงกว่าทุกครั้งที่เธอเป็น เมริสาวูบเหมือนถูกไฟดูดอย่างแรง แล้วเธอก็ล้มฟุบไปตรงหน้าประตูนั้นเอง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น