ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 5..พี่น้อง
5...พี่น้อง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อเมริสาเข้ามาอยู่กับแมททิวครบเดือนเต็มๆแล้ว เมริสามักจะไปไหนๆกับแจนนี่ตลอดเวลาทำให้เธอพูดได้เกือบคล่องแล้ว และเมื่อกลับถึงห้องเมริสามักจะขลุกตัวอยู่ในห้องเสมอเพราะเธอไม่อยากทำลายความเป็นส่วนตัวของแมททิว จะเจอกันบ้างก็ตอนเช้าที่เธอจะลุกขึ้นมาเตรียมอาหารเช้าให้เขาตามที่แจนนี่และน้าสาวของเธอสอนไว้
แมททิวเริ่มเข้าไปฝึกงานที่บริษัทได้สามอาทิตย์แล้วนั่นทำให้เขาเองก็ไม่มีเวลาเจอเด็กสาวที่อยู่บ้านเดียวกันนี่นัก เขาสังเกตผมบ๊อบแค่คอตอนที่เขาเจอตอนนี้มันเริ่มยาวนิดหน่อยแล้วสีหน้าที่ไม่หม่นหมองเหมือนเดิมนั่นก็ทำให้เขาพอใจในฝีมือของหลานแม่บ้านไม่น้อยจากที่จะให้เธอออกไปอยู่ข้างนอกด้วยเขาเองก็ไม่เคยว่างและยังหาที่ปลอดภัยให้เธอไม่ได้เธอจึงยังอยู่กับเขาที่นี่และมันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพราะถึงเธออยู่ก็เหมือนไม่อยู่เพราะเด็กสาวไม่ค่อยมาวุ่นวายกับเขาอย่างที่กังวลตอนแรก เขายังนึกขอบคุณส้มแม่บ้านที่สอนเด็กคนนี้อย่างดีรวมถึงอะไรที่เขาชอบและไม่ชอบด้วยแต่เรื่องที่แจนนี่พาเมริสาเที่ยวนั่นเขาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก
“ เมย์ มานั่งข้างๆพี่มา ..”
เมริสาเดินเข้ามานั่งที่โซฟาอีกตัวใกล้ๆ แมททิวมองชุดนอนที่เมริสาใส่ มันเหมาะสำหรับสาวๆมากกว่า
“ เมย์ พี่เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าใส่ชุดแบบนี้อีก พี่ไม่ชอบ มันไม่เหมาะกับเมย์เลย“
เมริสาก้มลงมองชุดผ้าบางๆมีซับอยู่ข้างในแต่มันก็บางอยู่ดี แล้วเธอก็ก้มหน้าอย่างรู้สึกไม่ดี เธอไม่อยากทำอะไรที่เขาไม่ชอบเลย
“ เมย์จะเอาไปเก็บก็ได้จะได้ไม่เผลอเอามันมาใส่อีก “
แมททิวมองหญิงสาวที่ตอนนี้เธอพูดได้ยาวขึ้นถึงจะไม่ชัดทุกถ้อยคำก็เถอะ
“ ดีแล้ว เดี๋ยวพี่จะซื้อให้ใหม่ เมย์ใส่ชุดอย่างนี้ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่เลย รู้ไหม “
ว่าแล้วเมริสาก็เดินหายเข้าไปในห้องและออกมาอีกทีเมื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ วันนี้แมททิวอยู่บ้าน เมริสาแปลกใจที่เห็นเขาอยู่บ้านเพราะเดือนนึงที่ผ่านมาเกือบจะไม่ได้อยู่บ้านเลยซักวัน แมททิวนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะรับแขก เมริสาเดินเข้าไปในครัวแล้วกลับออกมาพร้อมแก้วกาแฟในมือ เธอจำได้ว่าแมททิวชอบกาแฟแบบไหน เธอพยายามจำทุกอย่างที่เขาชอบและอะไรที่เขาไม่ชอบ
“ ขอบใจ..นั่งก่อนซี”
เมริสาเลื่อนเก้าอี้มานั่ง สายตาที่ยังกังวลว่าเธอจะทำอะไรผิดอีกหรือเปล่า แมททิวจิบกาแฟก่อนที่จะหันมองเด็กสาวที่ใส่เสื้อยืดสีชมพูพอดีตัวไม่คับไปไม่หลวมไป กางเกงสีชมพูเข้าชุดอย่างพอใจ เออหนอเจ้าแจนนี่นี่ก็ช่างเลือกชุดดีนี่แล้วแมททิวก็ยิ้มออกมาเมื่อมองเด็กสาวที่ยังนั่งเกร็งอยู่
“ นี่ เมย์อยู่กับพี่มาก็เดือนนึงเต็มๆแล้วทำไมยังต้องเกรงใจอยู่อีก พี่อยากให้เมย์ทำตัวตามสบายมากกว่านะอย่าเกรงใจพี่มากนัก พี่ก็ดุไปอย่างนั้นแหละน่าไม่มีอะไรหรอก “
เมริสามองหน้าเขาอีกครั้งก่อนยิ้มออกมาเต็มสีหน้า แล้วเธอก็ลุกขึ้น
“ เดี๋ยวเมย์ทำอาหารเช้าให้พี่แมทนะคะ “
เมริสาพูดช้าๆ แต่ชัดถ้อยชัดคำขึ้น แมททิวมองตาม อย่างไม่เชื่อหูตัวเองนัก เธอปรับตัวได้เร็วกว่าที่คิด เขายิ้มให้ก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ
“ เฮ้ยนี่เราทำอาหารเช้าเป็นด้วยเหรอ ไม่ยักรู้นะเนี่ย “
“ น้าส้มสอนค่ะ หลายอย่างด้วย แล้วเมย์จะทำให้ทานบ่อยๆ “
เด็กสาวแสดงความตั้งใจก่อนที่แมททิวจะทำหน้าลังเล
“ แน่ใจนะว่าพี่จะไม่ท้องเสียน่ะ “
“ แน่ใจค่ะ รับรองฝีมือเมย์อร่อย “
ว่าแล้วแม่ครัวใหญ่ก็เดินหายเข้าไปในครัว เพียงไม่นานนักกลิ่นหอมก็ฟุ้งไปทั่วห้อง
“ มาแล้วค่ะ เบคอนอบชีคพร้อมสลัดทูน่า น้าส้มบอกว่าพี่แมทชอบ เมย์เลยฝึกทำเป็นพิเศษเลยนะ”
“ หอมจัง น่าอร่อย งั้นพี่ไม่เกรงใจละนะ “
ว่าแล้วแมททิวก็ตักเบคอนเข้าปาก แล้วก็ทำหน้าเบ้ ขณะที่เมริสาลุ้น เธอเริ่มใจไม่ดีเมื่อเห็นสีหน้าของแมททิว
“ ไม่อร่อยเหรอค่ะ “
“ อือ ...ล้อเล่นน่ะ อร่อยมาก วันหลังทำให้กินอีกนะแต่ไม่ต้องทุกวันก็ได้เดี๋ยวพี่อ้วนแย่ “
เมริสานั่งมองขณะที่เธอมีขนมปังพร้อมกับนมร้อนอีกแก้วในมือ เธอรู้สึกมีความสุขนักที่เขาพอใจ
“ เมย์ วันก่อนพี่เห็นเมย์ที่ศูนย์การค้ากับแจนนี่ พวกนั่นเป็นเพื่อนเมย์หรือเปล่า พี่ว่าเจ้าพวกนั้นดูเกเรยังไงไม่รู้ ถ้าเป็นเพื่อนเมย์พี่จะไม่ห้ามถ้าเมย์จะเจอพวกเขา แต่ถ้านั่นเป็นเพื่อนแจนนี่พี่ไม่อยากให้เมย์ไปกับพวกนั้นนะ พี่เป็นห่วง เข้าใจไหม “
เมริสานึกถึงพวกเด็กวัยรุ่นเพื่อนๆจอมซ่าที่ย้อมผมหลากสีของแจนนี่ ในห้างวันก่อน เธอและเจนนี่เจอพวกเขาโดยบังเอิญ เมริสาฟังอย่างตื้นตันเขาเป็นห่วงเธอ แล้วเมริสาก็พยักหน้า ก่อนยิ้มให้เขา แมททิวมอง เออหนอ แค่นี้ทำไมต้องยิ้มซะขนาดนั้นน้อ เด็กหนอเด็กยิ้มง่ายหัวเราะง่ายแถมยังขี้น้อยใจอีก เปลี่ยนแปลงอารมณ์ได้ง่ายจริง
“วันนี้พี่ ไม่ไปทำงานเหรอ คะ “
“ หยุดบ้างซิ พี่พัดใช้งานหนักจะตาย เดี๋ยวนั่นเดี๋ยวนี่ โอย นี่ฉันเป็นลูกเจ้าของบริษัทนะเนี่ย รู้ไหมพอพี่พูดอย่างนั้นพี่พัดพูดว่าไง ..”
เมริสาตั้งใจฟังด้วยสีหน้าอยากรู้เธอรู้สึกดีใจที่จะได้รู้เรื่องของแมททิวบ้าง เพราะที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยได้คุยกับเธอนัก วันๆแทบจะไม่ได้เจอกันด้วยซ้ำไป
“พี่แกก็ว่า ยิ่งเป็นลูกเจ้าของน่ะ ยิ่งต้องทำทุกอย่างตั้งแต่ทำความสะอาด ถ่ายเอกสาร และล้างห้องน้ำ แสบไหมล่ะ แล้ววันนี้วันอาทิตย์พี่อยากอยู่บ้านซักวัน จะได้พักเต็มที่หน่อย “
ตอนสายแมททิวก็มานอนเอกเขนกอยู่บนพรหมที่ห้องหนังสือมุมเล็กๆที่อยู่ถัดไปจากห้องรับแขก มีโตะตัวเล็กๆวางอยู่หนึ่งตัว เขาพับมันเก็บไว้ไต้ชั้นหนังสีอ ก่อนที่จะเอนนอนไปกับหมอนทรงสามเหลี่ยมนั่น
ตื้ดๆ ๆๆ ๆๆ
แมททิวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนวางมันไว้เหมือนเดิม เพียงครู่เดียวเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เมริสาหันมอง เขาลุกขึ้นนั่งก่อนกดรับ
“ เออ ว่าไงวะ “
“ โอ้โห ไอ้แมท เดี๋ยวนี้มีนอนกลางวันด้วยเหรอวะ เมื่อคืนไปทำอะไรมาถึงไม่หลับไม่นอน”
“ เฮ้ย !ว่าไป ตั้งสามอาทิตย์ข้าเพิ่งได้หยุดวันนี้ ก็พี่พัดน่ะซิ คงกะให้ฉันทำงานได้ทั้งหมดภายในสามเดือนนนี่มั้ง ฉันจะตายอยู่แล้ว วันนี้ขอนอนให้เต็มตื่นซักวันเถอะวะ ถ้าไง คืนนี้เดี๋ยวโทรหาแล้วกันนะ “
ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะตอบ แมททิวก็วางสายและกดปิดโทรศัพท์ พร้อมแอนตัวลงนอนอีกครั้ง แล้วก็สะดุ้งเมื่อเมริสาเข้ามาจับตัวเขา แมททิวมองเด็กสาวที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ
“ เมย์นวดให้ไหม พี่จะได้สบาย นะเมย์อยากทำอะไรให้พี่บ้าง “
แมททิวมองด้วยความไม่แน่ใจแต่เขาก็พยักหน้า เมริสานวดหลังให้เขาอย่างเบามือ แมททิวรู้สึกสบายตัวขึ้น แล้วเขาก็เคลิ้มหลับไปอีกครั้ง เมริสามองคนตรงหน้า เธอจะทำให้เขาทุกอย่างเท่าที่เธอทำให้เขาได้ เพราะเขาคือทุกอย่างของเธอ คือคนๆเดียวที่เธอมีตอนนี้ หวืบ__! หวืบ ___! อาการนี่อีกแล้ว อะไรนะ เมริสารู้สึกเหมือนหน้ามืดบ่อยช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เหมือนแรงดึงดูดตอนที่เธอเจอกับสองพ่อลูกนั่น แต่แปลกที่เวลาหลับเธอไม่เคยฝัน บางครั้งตอนที่เธอตื่นขึ้นมาเธอรู้สึกเหนื่อยเหมือนวิ่งมาตลอดทั้งคืน อะไรนะ แล้วเมริสาก็กอดตัวเองแน่นๆ เมื่อรู้สึกเหมือนรอบๆด้านนี้มืดลง เหมือนเธอหน้ามืด วิ้ง !! แล้วเด็กสาวก็ฟุบไปกับแผ่นหลังของแมททิวนั่นเอง
โรงพยาบาล.........
“ พ่อครับ พ่อ มาดูนี่สิ พ่อ ฟ้าใส ฟ้าใสลืมตาแล้วพ่อ น้องตื่นแล้ว พ่อ “
สายฝนเรียกผู้เป็นพ่อที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่เก้าอี้ด้านข้างนั่น นันทเสนเข้ามาเกาะขอบเตียงมองมายังลูกสาวคนเดียวที่เขารักดังดวงใจคนนี้ เธอเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น และตอนนี้หมอก็ให้เธอมาอยู่ถาวรเพราะฟ้าใสหลับมาตลอดตั้งแต่สองเดือนที่ผ่านมา แล้วไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น จนมาวันนี้ ฟ้าใสลืมตาขึ้นเธอยิ้มด้วยท่าทางที่เหนื่อย เหลือเกิน นันทเสนคว้ามือน้อยๆของลูกสาวเขามากุมไว้น้ำตานั่นเริ่มไหล สายฝนเดินเข้ามาใกล้ผู้เป็นพ่อ
แตะไหล่นั่นเบาๆ แล้วฟ้าใสก็หลับไปก่อนเสียงสะอื้นของพ่อจะดังขึ้นอีกครั้ง
“ ไม่นะ ฉันยังไม่อยากไป ไม่ อย่า ฉันไม่อยากไป พ่อ พ่อ “
เสียงที่อยู่ภายในร่างบอบบางของฟ้าใส ต่อต้านกับกระแสที่ดึงดูดจิตวิญญาณของเธออยู่ตลอดเวลา ไม่ เธออยากอยู่กับพ่อ กับพี่ชาย ไม่เธอจะไม่ยอมไปอีก ไม่....
ที่คอนโด............
ร่างของเมริสากระตุกแรงจนทำให้คนที่เธอหนุนนอนอยู่สะดุ้งตื่น แมททิวมองคนที่นอนหนุนแผ่นหลังเขาอยู่นี่ เธอสะดุ้งเฮือกอีกครั้งก่อนที่จะหล่นลงไปที่พื้นเมื่อแมททิวขยับตัวลุก แล้วเขาก็นั่งมองคนที่หลับสนิทอยู่ที่พื้นนี่ คงขี้เซาน่าดู หล่นตุ๊บลงไปขนาดนี้ยังไม่ตื่น แมททิวส่ายหน้าก่อนจะเอาหมอนที่เขาหนุนนอนเมื่อครู่รองหัวให้เมริสา แมททิวหันไปมองอีกครั้งเมื่อเมริสากระตุกเหมือนสะดุ้ง เขาแปลกใจเล็กน้อยที่เด็กสาวกระตุกแรงขนาดนั้นเหมือนถูกผลักอย่างแรง
“ เมย์ เมย์ เป็นอะไรหรือเปล่า!“
ร่างที่กำลังต่อสู้กับพลังบางอย่างด้วยร่างกายที่อ่อนแอ ฟ้าใสดิ้นสุดแรงเพื่อไม่ให้เธอหายไปอีก เธอยังต้องการอยู่ อย่าพาเธอไป อย่า! เสียงเรียกของนันทเสนทำให้ฟ้าใสยิ่งต้องต่อสู้กับมัน น้ำตาที่ไหลคลอเบ้าด้วยความเจ็บปวด
“ ฟ้าใส! ฟ้าใส.. ฟ้าใสเป็นอะไร .. ฟ้า.. ฟ้าใสลูกพ่อ ฟ้าใส อย่าฝืนเลยลูก พ่อสงสารหนู สงสารเหลือเกิน ถ้าพ่อเป็นแทนหนูได้ พ่อจะทำ ฟ้า ..ถ้าทรมานนัก ก็หลับเถอะนะ หลับนะฟ้าใส พ่อทนเห็นหนูทรมานต่อไปไม่ได้อีกแล้ว”
“ พ่อจ๋า พ่อ พ...”
ฟ้าใสตะโกนสุดเสียงแต่ทว่ามันเล็ดลอดออกมาเพียงบางเบาเท่านั้น นันทเสนร้องให้ เขาไม่อยากเห็นลูกสาวทรมาน ฟ้าใสดิ้นพรวดๆก่อนที่จะสงบลงไปอีกครั้งเหมือนเธอกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่าง แล้วเธอก็แพ้มัน
ขณะที่แมททิวเรียก เมริสาสะดุ้งอีกครั้งก่อนที่เธอจะลืมตาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเหมือนเธอไปต่อสู้กับอะไรซักอย่าง แมททิวมองเด็กสาวที่ลุกขึ้นมานั่งหอบ ด้วยความแปลกใจ ด้วยความที่ผุดลุกขึ้นนั่งเร็วเกินไปทำให้เมริสาหน้ามืดแต่ก่อนที่เธอจะฟุบหน้าลงไป แมททิวคว้าตัวเธอไว้ทัน เมริสาหลับตาอยู่ในอ้อมแขนของแมททิว
“ เมย์ เป็นไงบ้าง เป็นอะไรพี่ว่าเราดูแปลก ๆ ฝันร้ายเหรอ”
เมริสาค่อยๆลืมตามองเขาอีกครั้งก่อนพยุงตัวออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่ม อย่างมึนงง เธอก็ไม่แน่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ แต่รู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน เหมือนจะขาดใจ
“เป็นไง นอนผิดท่าหรือเปล่าถึงได้มึน โอยนี่แทนที่พี่จะหายเมื่อย เรามานอนทับพี่เลยเมื่อยไม่หายเลย “
แมททิวล้อเมื่อเห็นเด็กสาวยังงัวเงียอยู่ เมริสามองเขาอย่างรู้สึกผิด
“ เมย์ขอโทษ ..”
“พี่ล้อเล่น .. เมย์นวดให้ พี่สบายขึ้นเยอะเลยหละ และอีกอย่างตัวเมย์เท่าลูกหมาพี่ไม่รู้สึกอะไรหรอกไปล้างหน้าไปจะได้สดชื่น เดี๋ยวออกไปเดินเล่นกัน ดีไหม หรือเมย์อยากไปเที่ยวที่ไหน บอกได้นะ พี่นอนเต็มอิ่มแล้วรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย ท่องคืนนี้ทั้งคืนได้สบาย “
“พี่..เมย์ขอนอนหนุนตักพี่ได้ไหม ..เป๊บเดียว.. ได้ไหม “
เมริสาหันมองอย่างออดอ้อน แมททิวหรือจะใจแข็งพอกับสายตาออดอ้อนแบบใสสื่อ ขนาดนั้น แมททิวพยักหน้า เด็กสาวเอนตัวลงนอนอย่างอ่อนแรง เธอยังรู้สึกเหนื่อย
“คิดยังไงวันนี้ถึงมาอ้อนพี่ขนาดนี้ ..”
แมททิวเอามือเท้าไปข้างหลังก่อนมองหน้าเด็กสาว ที่นอนหนุนตักอยู่นี่ ความรู้สึกแปลกดี นี่เขาก็มีน้องสาวมาเดือนนึงแล้วไม่มีประกาศคนหายจากทางตำรวจ เธอจึงยังต้องอยู่กับเขาต่อไปก่อน แล้วแมททิวก็เอามือลูบเรือนผมเงางามนั่นเบามือ ผมเธอยาวแล้วคงสวยน่าดูแมททิวมองเด็กสาวอย่างเอ็นดู เด็กหลงทางคนนี้เป็นใครกันแน่นะทำไมถึงยังไม่มีใครตามหาเธอ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น