ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 4..เมริสา
4
เมริสา
คอนโด.....
“ วันนี้พี่เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวเรานอนตรงโซฟานั่นก่อนก็แล้วกันนะ พรุ่งนี้เดี๋ยวค่อยให้แม่บ้านมาทำความสะอาดห้องเล็กนั่นให้ “
แมททิวหาวอีกรอบก่อนที่จะเดินเข้าห้องไป เด็กสาวมองโซฟาที่มีหมอนวางอยู่ แค่เธอไม่ต้องนอนที่ถนนหรือโรงพยาบาลก็ดีถมไปแล้วหละ แล้วเด็กสาวก็นอนทั้งชุดนั้น ด้วยความง่วงเช่นกัน
ตื้ดๆๆ ๆๆ
เมททิวคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนที่จะกดรับ
“ เออ! ว่าไงวะ! โทรมาแต่เช้า “
“ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว วันนี้ไม่มีเรียนรึไง ตอนนี้ฉันอยู่ที่คณะ “
แมททิวลุกขึ้นนั่งก่อนที่จะเดินไปเปิดม่านแสงที่ส่องผ่านกระจกเข้ามาทำให้เขาต้องเอามือปิดตาแล้วเดินกลับมานั่งตรงขอบเตียง
“ นี่มันวันอะไรวะ “
“ เฮ้ย! นี่อะไรจะขนาดนั้น ถึงกะลืมวันที่ไปเลยเหรอ วันนี้วันศุกร์โว้ย “
“ วันนี้ไม่เข้ามหาลัยหรอก แต่มีนัดกับพี่พัดรวีตอนช่วงบ่ายน่ะเรื่องฝึกงานจบน่ะ “
“ แล้วเรื่องที่แกคุยเมื่อวานน่ะมีอะไรจะถามฉันอีกป่ะ วันนี้ฉันว่าง “
“ แต่ตอนนี้ อยากนอนต่อว่ะ “
“ เออ ๆ งั้นแค่นี้แล้วกัน แล้วค่อยเจอกัน “
แล้วแมททิวก็กดวางสายก่อนจะล้มตัวลงไปนอนต่อ เขามองนาฬิกา เก้าโมงเช้า แล้วเขาก็ต้องดีดตัวขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่คนเดียวในบ้านหลังนี้ ยังมีเด็กหลงทางอยู่อีกคน แล้วเขาก็ลุกเดินออกไปยังห้องรับแขก เด็กสาวที่ยังนอนคุดคู้ ชุดแซกสั้นนั้นถลกขึ้นไปถึงขาอ่อน เรียวขาขาวนั่นเธอดูไม่ใช่เด็กอย่างที่เขาคิดเสียเลยเมื่อใส่ชุดนี้ แล้วแมททิวก็เข้าไปในห้องเล็กเอาผ้าห่มผืนเล็กมาคลุมตัวเด็กสาวไว้ เด็กสาวสะดุ้งตื่น แล้วลุกขึ้นนั่ง ก่อนเอามือขยี้ตามองคนที่ยืนมองอยู่ตรงหน้า แมททิวมองเด็กสาว นี่ถ้าเธอเป็นน้องสาวเขาจริงจะเป็นยังไงน้า คงสนุกพิลึก ว่าแล้วแมททิวก็นั่งลงใกล้ๆ
“ ทีนี้บอกได้หรือยังว่าเธอมาจากไหน “
เด็กสาวฟังออกทุกอย่างที่ทุกคนพูดแต่แปลกที่เธอพูดตอบไม่ได้เท่านั้น ออกเสียงไม่ได้อย่างที่เธอคิด เหมือนเด็กที่พึ่งหัดพูด หรือเวลาที่พูดภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาของตัวเองครั้งแรก
“ ฉ.ฉะ ฉาน ..จะ ..จะ..”
แค่จะพูดว่าเธอจำไม่ได้ยังทำไม่ได้ แมททิวมองคนที่พยายามพูด เขาแน่ใจว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ใช่คนไทยแน่ๆ แต่ทำไมฟังเขาพูดออก ล่ะ
“ อ้าวไม่ถามก็ได้ ไหนๆก็ไหนๆ ถ้าพ่อแม่เธอมารับก็ค่อยกลับก็แล้วกันนะ เอางี้นะ ฉันชื่อ แมททิวนะ แมททิว เรียกซิ .. พี่.. แมท ทิว “
หญิงสาวมองปากเขา แล้วลองพูดตาม
“ แมะ..แม..ท พิ..พี แมทท..”
แมททิวลุ้นให้เธอเรียกชื่อเขาอีกครั้ง เมื่อเขาแน่ใจว่าเธอไม่ได้ใบ้และสามารถออกเสียงได้แค่พูดไม่เป็นเท่านั้น
“ อีกทีซิ”
“พีแมทท..”
“ เก่งมาก แล้วเธอล่ะ ชื่ออะไร “
แมททิวถามเด็กสาวส่ายหน้า ก่อนทำหน้าคิด แล้วส่ายหน้าอีกครั้ง
“ งั้นเอาอย่างงี้ เดี๋ยวพี่ตั้งชื่อให้เอาไหม ไหนๆก็ไหนๆ แล้วมีน้องสาวซักคนคงไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ตั้งชื่อให้เรานะ “
หญิงสาวฟังด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ เธอไม่หลงทางแล้วเพราะตอนนี้เธอมีญาติขึ้นมาคนนึงแล้ว แมททิวมองหน้าเด็กสาวที่ยิ้มแก้มตุ่ยอยู่ข้างๆ แล้วครุ่นคิด
“ พี่ชื่อแมททิว น้องต้องชื่อ เม รี เฮ้ย ไม่ได้ๆ ไม่เพราะ เมย์ อ้อ เมริสาไง ใช่ๆ เมริสา เอาชื่อนี้แล้วกัน ชอบไหม ชื่อเล่นก็เมย์ ไง มีพี่ชื่อแมททิว เป็นไง ? “
เด็กสาวพยักหน้าก่อนจะลองออกเสียงอีกครั้ง
“ แมทท..เม รี ส่า ..”
“ ฝึกไปนะพี่ไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวเราไปทานข้าวกัน “
แมททิวลูบหัวเด็กสาวก่อนที่เขาจะลุกเดินไปเข้าห้อง เมริสามองตามก่อนเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกห้อง ที่อยู่ติดกับห้องครัว เธอยิ้มด้วยความดีใจเธอมีญาติและที่สำคัญตอนนี้เธอมีชื่อแล้ว เมริสา เมย์
“ เมย์..ริ ส่า เม เมริสา เมริสา เมริสา “
แมททิวมองกระจกขณะคิดถึงเสกสรร เพื่อนคงด่าเขาจนฟังไม่ทันหากรู้ว่าเขารับเด็กหลงทางคนนี้มาเลี้ยง เขาสั่งอาหารเข้ามากินที่ห้องแทนที่จะพาเธอออกไปทานข้างนอกเพราะคงไม่เหมาะแน่ หากมีใครมาเห็นเข้า
“ ฉันจะทำอย่างไรกับเธอดีนะ ระหว่างที่รอให้ผู้ปกครองเธอมารับและจะให้เธอไปอยู่ที่ไหนดี จะอยู่ที่นี่คงไม่เหมาะแน่ แต่ที่แน่ๆ ต้องมีคนช่วยจัดการเรื่องนี้ “
“ก๊อกๆ ๆ ๆ “
แมททิวมองนาฬิกาเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาเดินไปเปิดประตู หญิงสาวผมหยิกสีทองโผล่พรวดเข้ามาทันที
“ฮ่าโล่..พี่แมท อ้าว อยู่นี่ โทษทีพี่ แจนนี่สายไปแค่ สิบห้านาที รถมอไซด์เสียเลยให้คนข้างบ้านมาส่งน่ะ “
แมททิวยืนอยู่หลังประตูเขามองแจนนี่ที่ใส่เสื้อยืดฟิตเปรียะ กางเกงยีนส์ยืด สีน้ำเงินเข้มเอวต่ำ เธอแต่งตัวเสียเกินวัยเขาไม่ค่อยชอบการแต่งตัวของหลานสาวแม่บ้านคนนี้นัก แต่แมททิวก็ไม่รู้ว่าจะขอช่วยใครเพราะเขาไม่อยากให้ใครรู้เรื่องไปมากกว่านี้ ถ้าไม่มีใครรู้เลยยิ่งดี
ห้างสรรพสินค้า ......
“ นี่เดินเร็วๆหน่อยซิ แจนนี่ไม่ชอบคนที่ทำอะไรชักช้านะ นี่เห็นแก่พี่แมทหรอกนะถึงยอมเสียเวลามาเป็นพี่เลี้ยงให้เธอน่ะ เมริสา มาเร็ว”
แจนนี่จูงเมริสาที่ทำท่าเหงอะหงะเดินขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใจกลางกรุงแจนนี่เลือกชุดนั่นนี่เกือบครบตามที่ต้องการจึงยอมนั่งพักใกล้ๆร้านอาหารแห่งหนึ่งนั่นเอง
“ โอ้โหอาหารเกาหลี ร้านนี้เพิ่งมาเปิดแน่ๆเลย มาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วยังไม่เห็นมีเลย นี่เมย์ ไปเถอะ ลองอาหารเกาหลีกันตอนนี้กำลังอินเทรนเลยนะเนี่ย ไปไหม มีตังเหลืออีกเยอะ “
แจนนี่ตบกระเป๋าบอกเป็นนัยว่าเงินที่แมททิวให้มายังเหลืออีกเยอะพอให้เธอและเมริสา ทานอาหารหรูๆได้แจนนี่สั่งอาหารไปสองสามอย่าง ครู่เดียวพนักงานแต่งชุดฟอร์มสีเขียวแถบแดงก็นำอาหารมาเสริฟ
“ ทันใจดีจัง “
แจนนี่พูดก่อนก้มลงมองอาหารในจาน กลิ่นอาหารแสนคุ้นจมูกนักเมริสากลืนน้ำลายอย่างหิวเหมือนเธอไม่ได้กินมานานนักหนา แจนนี่มองเมริสาก่อนมองอาหารตรงหน้าอย่างหิวเพราะความเหนื่อย กลิ่นอาหารหอมกรุ่น แจนนี่ตักอาหารเข้าปากทันที แต่คนทานอาหารรสจัดอย่างแจนนี่เจออาหารรสชาติอย่างอาหารเกหลีแค่คำเดียวเธอก็วางช้อน
“ ว้า! นึกว่าอร่อยเสียอีก หน้าตาออกจะน่ารับประทาน ทำไมถึงเลี่ยนอย่างนี้ นี่เมริสา เธอกินเข้าไปได้ยังไงน่ะ อร่อยเหรอ ฉันว่าส้มตำบ้านฉันอร่อยกว่าเยอะเลย นี่ทานของฉันด้วยไหม “
เมริสาพยักหน้า ก่อนคว้าจานของแจนนี่ไปทานด้วยอีกจาน ทำไม่ถึงได้อร่อยอย่างนี้นะ มันรู้สึกคุ้นเคยมากกว่าผัดกระเพราหรืออาหารเช้าที่แมททิวสั่งขึ้นไปทานที่อพาทเม้นท์เมื่อเช้าเสียอีก แจนนี่มองขณะที่เมริสาทานอาหารนั่นอย่างอร่อยนักหนาเมริสาเหงนหน้าขึ้นมองแล้วยิ้มอย่างเขินอาย
“ นี่เธออร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ “
แจนนี่ถามเมริสาเมื่อเดินออกจากร้าน เมริสาหันมองคนที่เดินอยู่ข้างๆแล้วพยักหน้าก่อนถอนหายใจออกมาอีกครั้งไม่รู้สิว่าทำไมแต่เธอรู้สึกชอบอาหารพวกนั้น หวืบ__! หวืบ___!เอาอีกแล้วอาการหนาววูบๆถึงกระดูกสันหลังเลยทีเดียว เมริสาหันมองไปรอบๆ แต่แล้วเธอก็เจอ ผู้ชายคนนั้นที่เธอเจอตอนอยู่ที่โรงพยาบาล เมริสามองตามคนที่กำลังเดินผ่านไป
“ เฮ้ยพี่ฝนมีคนมองพี่แน่ะ “
ชายหนุ่มที่เดินมาด้วยกันกล่าวทักเมื่อเขาหันไปหญิงสาวนั่นกำลังมองมายังสายฝนไม่วางตา สายฝนหันไปมอง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย เธอคงคุ้นหน้าเขากระมัง เหมือนเขาเคยเจอเธอที่ไหน แต่เขานึกไม่ออก
“ รู้จักเขาเหรอเมย์”
เมริสาส่ายหน้าก่อนหันกลับมาที่แจนนี่ เธอแปลกใจที่เธอรู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูดนี่ก็สองครั้งแล้วกระมังที่เธอรู้สึกว่ามีแรงดึงดูดมหาศาลจากคนสองคนนั่น
“ นี่ แม่เมริสา เธอจะต้องจำไว้นะต่อจากนี้เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหมเพราะฉันเป็นพี่เลี้ยงเธอ เธอต้องรีบพูดให้คล่องเร็วๆ ไม่งั้นฉันจะหยิกเธอตัวเขียวแน่ “
เมริสามองแจนนี่ก่อนที่จะเกาะแขนเธออย่างอ้อนออด แจนนี่มองคนข้างๆที่รู้สึกว่าหากเธอปกติแล้วคงไม่มีใครที่จะปฏิเสธเด็กสาวคนนี้ลงแน่ขนาดเธอผู้หญิงยังรู้สึกใจอ่อนขนาดนี้
“ นี่ไม่ต้องมาทำอ้อนฉันหรอก ฉันไม่ใจอ่อนหรอกนะ ไป เราไปซื้อกับข้าวกันต่อ ฉันจะสอนเธอทำอาหารไง ไป “
แจนนี่พาเมริสากลับถึงคอนโดก็เย็นมากแล้วขณะที่แมททิวยังไม่กลับ ทั้งคู่ช่วยกันเก็บของเข้าที่ ก่อนจะขนข้าวของส่วนตัวไปยังห้องเล็กซึ่งวันนี้น้าสาวของแจนนี่จัดการเสียสะอาดเอี่ยม
“ นี่เชื่อไหม น้าฉันเค้าบอกว่าพี่แมททิวน่ะเจ้าชู้ก็จริงแต่ก็ไม่เคยพาสาวไหนเข้ามาที่นี่เลย แล้วพี่แมท ชอบความเป็นส่วนตัวมาก เพราะฉะนั้นถ้าเธออยากอยู่ที่นี่อย่าทำตัวเกะกะล่ะ พี่เค้าจะได้เอ็นดูเข้าใจไหม ไหนมาดูซิชุดที่ซื้อมา เสียดายนะนี่ถ้าพี่แมทไม่ห้ามนะ แจนจะแต่งให้เมย์เป็นสาวไปเลยนี่อาไร้ ให้เลือกชุดที่ไม่โป้ไม่รัดรูปมันเกินเด็ก คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก ผู้ใหญ่นี่น่าเบื่อจัง แต่ เมย์นี่ เธอเลือกชุดได้น่ารักดีนะ เข้ากับเธอดี ”
แจนนี่มองชุดสีสันสดใสสมวัยที่เมริสาเป็นคนเลือกด้วยตัวเองนั่นการเลือกของเธอมักเข้าเซทกันเสมอ แจนนี่มองหญิงสาวตรงหน้าดูจากการเลือกเสื้อผ้าพวกนี้เมริสาไม่น่าจะเป็นแค่ลูกตาสีตาสาไม่มีอันจะกินเหมือนเธอแน่
แล้วยังหน้าตาผิวพรรณนี่อีกมันลูกคุณหนูชัดๆ
“ พ.พะ.พี่ แจนนี่ พี่แจนนี่ “
แจนนี่หันมองอย่างไม่ค่อยเชื่อหูตัวเองนัก เธอลุ้นให้เมริสาเรียกอีกครั้ง
“ พี่ ..เจน..นี่ “
“ เยี่ยม ! ต้องอย่างนั้นซิ มาๆต้องฝึกอีกหลายคำ เธอจำเป็นต้องเรียนรู้ให้เร็วที่สุด “
แล้วแจนนี่ก็จับเธอมานั่งพูดอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเสียตีเพี๊ยะดังขึ้นหลายครั้งก่อนที่จะมีเสียงหัวเราะตามมาเป็นพักๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น