ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 2..เจออีกครั้ง
2
เจอกันอีกครั้ง
“ ฮัลโหล ว่าไงนะ ครับ ครับแล้วจะรีบไปครับ ครับ “
“ เป็นอะไรว่ะไอ้แมท ทำหน้าเหมือนเสียความบริสุทธิ์ “
เสกสรรถามเมื่อเห็นแมททิวรับโทรศัพท์แล้วสีหน้าไม่ดีนัก
“ ไม่มีอะไรหรอก เด็กที่แอบขึ้นรถฉันเมื่อคืนน่ะ หนีออกจากโรงพักน่ะ เมื่อบ่ายนี่เอง พ่อแม่ไม่ยอมมารับรึไงนะ ถึงยังอยู่จนถึงบ่าย แล้วมันเกี่ยวกับฉันตรงไหนเนี่ยที่จะต้องรับรู้เรื่องของเด็กคนนี้ “
เสกสรรหันมองคนที่พูดๆแล้วลุกขึ้นเดินออกไป อย่างรีบร้อนนั่น
“ เฮ้ย ! อะไรวะ ไหนว่าไม่เกี่ยวไงทำไมรีบร้อนอย่างนี้วะไอ้แมท นี่คอยกันก่อนซิ ไอ้แมท !”
เสกสรรเดินตามคนที่เดินจ้ำอ้าวมาติดๆ เสกสรรโดดไปนั่งข้างๆคนขับนั่นเองแล้วแมททิวก็สตาร์ทรถขับออกไปอย่างรีบร้อน ก็ไม่ใช่เรื่องของตัวเองหรอกแต่ก็ไม่รู้เหมือนกันแค่นึกถึงสายตาคู่นั้นแล้วรู้สึกเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูก
“ เฮ้ยไอ้แมท นี่ขับช้าๆซิวะ จะรีบร้อนไปไหนว่ะ ฉันหวาดเสียวนะโว้ย เมียก็ยังไม่มี “
เสกสรรจับที่จับข้างเบาะไว้แน่นขณะที่แมททิวเลี้ยวเข้าจอดข้างโรงพักอย่างรวดเร็ว
“ อ้าวคุณแมททิว คืองี้นะ ตอนนี้เราลองถามไปทั่วทั้งเขต เมืองหลวงและจังหวัดใกล้เคียงแล้วไม่มีการแจ้งเด็กหาย ตอนนี้เราประสานงานไปทั่วประเทศแล้ว คิดว่าถ้ามีเด็กหายจริงคงรู้ผลเร็วๆนี้ “
แมททิวมองหาคนที่เขาพามาฝากทางตำรวจไว้เมื่อคืนนี้ เหมือนนายตำรวจผู้นั้นจะรู้ เขา หันไปหาหมู่ที่เข้าเวรก่อนหน้าที่เขาจะเข้ามา
“ เล่าให้ฟังสิหมู่ “
นายตำรวจรูปร่างท้วมเดินเข้ามายังที่ทั้งคู่ยืนอยู่
“ คืองี้ครับ ตอนผมเข้าเห็นเธอนั้งอยู่ตรงนั้น ผมก็ไปทานข้าวเพราะเที่ยงพอดี ผมชวนให้เธอทานอะไรเธอก็ไม่ยอมทาน นั่งนิ่งอย่างเดียว ผมก็เลยออกไปนั่งทานที่โต๊ะข้างใน ก็ไม่คิดว่าเธอจะเดินหายไป เฉยๆ ผมลองเดินไปตามแถวๆนี้แล้วแต่ไม่มีใครเห็น ผมก็เลยสัณนิฐานว่าเธอคงกลับบ้านไปแล้วล่ะครับ “
“ แล้วคุณตำรวจตามผมมาทำไม ก็แค่บอกว่าเธอกลับบ้านไปแล้วก็แค่นั้น ผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลามา”
“ ขอโทษที ที่ทำให้คุณเสียเวลา แล้วก็ขอบคุณในความเป็นพลเมืองดีของคุณ“
เสกสรรมองตำรวจอย่างไม่สพอารมณ์นัก แค่นี้ ไม่รู้หรือไงว่าเพื่อนของเขาขับรถมานี่ เขาลุ้นเกือบตายแค่มาฟังคำว่าขอบคุณสำหรับการเป็นพลเมืองดีนี่ แมททิวเหมือนจะรู้ว่าเพื่อนของเขาคิดอย่างไร เขาเอามือแตะไหล่เพื่อนเบาๆ ก่อนที่จะเดินลงจากโรงพัก แมททิวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก
“ ยังกลางวันอยู่เลยไปไหนต่อดี ล่ะ “
แมททิวถามเมื่อเสกสรรขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว เสกสรรหันมายิ้มอย่างรู้ทัน
ตื้ดๆ ๆๆ ๆๆ
“ ฮ่ะโหล ฮะม่า ฮะ ๆ ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้ละฮะ “
แล้วเสกสรรก็วางโทรศัพท์พร้อมทำหน้าเจื่อนๆ
“ เฮ้ย ! ไว้วันหลังก็ได้ อาม่าคงต้องการเอ็งด่วน”
“ ไปส่งอั๊วรำไทเก๊กหน่อย “
เสกสรรเลียนเสียงอาม่าที่มักจะให้เขาไปส่งสนามกีฬาทุกวัน
“ ไม่รู้แกรักฉันหรือว่าอะไร อากู๋อยู่ก็ไม่ยอมใช้ต้องเรียกอาตี๋น้อยทุกทีซิน่า “
“ เถอะน่ะ บ่นไปได้ เดี๋ยวฉันไปส่งที่บ้านหละกัน “
แมททิวขับรถกลับออกจากหมู่บ้านหลังจากส่งเสกสรรแล้ว
ตื้ดๆๆ ๆๆ ๆๆๆ
“ ครับ แมททิวพูดครับ “
“ แมททิวขา นี่แอนนี่พูดนะคะ วันนี้ แมทว่างไหม คือแอนนี่จะชวนไปทานข้าว นะคะ “
“ ได้ซิครับ งั้นแอนนี่รอผมซักครึ่งชั่วโมงแล้วผมจะไปรับที่คอนโดนะครับ”
“ มาตอนนี้เลยไม่ได้เหรอคะ “
“ผมกลับมาจากคณะเมื่อกี้ ยังไม่ได้อาบน้ำเลยครับ น่า แค่ครึ่งชั่วโมง “
“ก็ได้ อย่าสายนะคะ “
“ คร๊าบ แล้วเจอกันครับ“
แมททิวมองนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้สองทุ่มแล้ว เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน เขาเลี้ยวรถเข้าคอนโดขณะผ่านสวนริมสระน้ำ แมททิวเหลือบไปเห็นวันรุ่นสามคนกำลังไล่จับกันอยู่คงเล่นกันกระมัง เขาหันมองกระจกรถเพื่อมองกลับไปด้านหลังเด็กที่กำลังถูกจับอยู่นั่นถ้ามองไม่ผิดเด็กผู้หญิงแน่ เด็กพวกนี้เล่นอะไรกัน แล้วแมททิวก็จอดรถ เขาถอยรถกลับทันทีที่คิดว่าอาจไม่ใช่การเล่น เด็กกลุ่มนั้นหยุดและหันมามองเมื่อแมททิวเปิดประตูรถ
“ เฮ้ย พ่อมึงมา เผ่นโว้ย ! “
แล้ววัยรุ่นกลุ่มนั้นก็วิ่งกันกระเจิง แมททิวมองไปยังไต้ต้นไม้ใหญ่ เงาตะคุ่มๆของอะไรบางอย่าง.. คน ..นั่งอยู่ตรงนั้น แล้วเขาก็ก้าวเข้ามาอย่างระแวดระวัง แสงไฟสลัวของไฟสนามนั่น ทำให้เขามองไม่ถนัดนัก แมททิวรู้แค่ว่าคนที่นั่งอยู่นี่กำลังฟุบหน้า กอดเข่า เขาเอื้อมมือไปแตะข้างหลังคนที่นั่งอยู่ เธอสะดุ้งสุดตัวก่อนแหงนหน้าขึ้นมอง โอ ..เธอคือเด็กสาวคนนั้น คนที่เขาไปส่งที่โรงพัก แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แมททิวมองหญิงสาวที่คลานถอยออกไปด้วยความกลัว เสียงร้องให้เบาๆ สะท้อนอยู่ในอกนั่น แมททิวรู้สึกเวทนาเธอนัก
“ พี่ไง คนที่เจอเธอเมื่อวาน พี่ไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า มาซิ “
ทว่าหญิงสาวยังคงถอยร่นไปถึงต้นไม้ เธอจึงพยุงตัวลุกขึ้นพิงต้นไม้ไว้ ตัวสั่นเทา แมททิวหยุดเพื่อไม่ให้เธอหนีอีก
“ เป็นอะไรหรือเปล่า แล้วพ่อแม่ไม่มารับเหรอ “
เด็กสาวส่ายหน้า แล้วเธอก็ร้องให้ออกมาดังๆอีกครั้งเกินจะกลั้นไว้อยู่ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าเธอเป็นใครเธอจะกลับบ้านได้อย่างไร เธออยากตายนัก ว่าแล้วเด็กหญิงก้าวออกจากต้นไม้เพื่อมุ่งไปยังสระน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก แมททิวมองตามเขาพอจะเดาออกว่าเด็กสาวคิดอะไร เขาดึงมือเธอไว้ทันทีที่เธอกำลังจะพุ่งไปยังสระ เขาคว้าตัวเด็กสาวเข้ามากอดแล้วตบไหล่นั่นเบาๆ
“ ไม่เอาๆ อย่าคิดอย่างนี้อีกนะ ถ้าพ่อแม่เรารู้คงจะเสียใจ ไม่เป็นไร ๆ “
แรงสะท้อนจากการร้องให้หญิงสาวทิ้งตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง แมททิวพยุงเธอไว้ ก่อนที่เธอจะล้ม แล้วเขาจะทำอย่างไรกับเธอดี แมททิวคิดขณะที่พยุงเด็กสาวขึ้นรถไป
“ แล้วค่อยคิดกันใหม่ก็แล้วกันว่าจะเอาไงกับเธอดี “
ที่คอนโด....................
“ เอ้า ! ผ้าเช็ดตัว อาบน้ำอาบท่าซะ เดี๋ยวจะพาไปทานข้าว นี่คงยังไม่ได้ทานอะไรซินะ “
แมททิวโยนผ้าขนหนูให้เด็กสาวก่อนที่ตัวเองจะหายเข้าไปในห้อง เด็กสาวมองผ้าขนหนูสีขาวที่ชายหนุ่มโยนมาให้ เธอมองมันแล้วยังเฉยอยู่ เด็กสาวชันเข่าขึ้น เธอนั่งกอดเข่า น้ำตาที่พาลจะไหลอยู่ตลอดเวลา ด้วยความสับสน เธออยากกลับบ้าน แต่ที่ไหนล่ะ แล้วตัวเธอล่ะเป็นใคร แล้วน้ำตาก็สุดจะกลั้นมันไหลออกมาอีกครั้งหญิงสาวฟุบหน้ากับหัวเข่าตัวเอง
แมททิวอาบน้ำเสร็จ เขาแต่งตัวสบายๆ เสื้อยืดแขนยาวเนื้อหนาคอกลมสีน้ำเงินเข้ม กางเกงยีนส์สีดำ ฉีดน้ำหอมกลิ่นอ่อนๆ แมททิวหยิบมือถือและกำลังจะเปิดประตูออกไป ทว่านึกขึ้นได้ในห้องยังมีอีกคนที่เขาเก็บมาเมื่อครู่ แล้วแมททิวก็มองคนที่นั่งกอดเข่าอยู่ตรงหน้า แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ จะทำอย่างไรกับเด็กคนนี้ดี เขาไม่ใช่คนที่จะรับเลี้ยงเด็กเสียด้วย สงสารก็สงสารหรอก แต่อย่างเขานี่ถ้าเลี้ยงสาวๆคงพอไหว แต่..แมททิวเอามือกุมขมับอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“ นี่ไปอาบน้ำซะ ไป ตัวเธอสรกปรกมาก ฉันไม่มีเสื้อตัวเล็กหรอก ทนใส่ไปก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวเธอคงได้กลับบ้าน ไม่มีพ่อแม่คนไหนใจดำกับลูกได้นานหรอกน่า ไปซิ เดี๋ยวฉันมีนัดนะ เร็วเข้า .”
แมททิวดึงให้เด็กสาวลุกขึ้นก่อนดันหลังให้เธอเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมกับส่งเสื้อผ้าให้
“ ฮัลโหล แอนนี่เหรอ วันนี้ผมขอไปสายซักครึ่งชั่วโมงนะแอน พอดีมีเหตุฉุกเฉินน่ะ “
“ แน่ใจนะคะว่าแค่ครึ่งชั่วโมงไม่ใช่ไม่มาเหมือนคราวก่อนล่ะ “
“ แน่ใจซีครับ น่า แล้วจะรีบไป คอยนะ “
ชายหนุ่มกดวางสาย เมื่อเด็กสาวก้าวออกจากห้องน้ำ แมททิวมองเด็กสาวตรงหน้าเด็กสาวผมเปียกปอน เสื้อของเขาดูตัวใหญ่มากเมื่อเด็กสาวคนนี้สวมใส่มัน แมททิวขำกับหน้าตาของเด็กสาวที่ยืนเหมือนลูกหมาตกน้ำอยู่นี่
“ นี่ ไม่เช็ดผมเสียหน่อยล่ะ เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก “
“
...”
“ อ้อ! รู้ไหมนี่เหมือนลูกหมาตกน้ำเลย ฮ่าๆๆ”
แมททิวหัวเราะเต็มเสียงก่อนโยนผ้าเช็ดตัวนั่นให้เธอ
เด็กสาวมองผ้าในมือก่อนที่จะลงมือเช็ดผมที่ยังเปียกโชก เธอรู้สึกดีขึ้น อย่างน้อยคืนนี้เธอก็ไม่ถูกรังแกจากคนพวกนั้น
แมททิวนำเด็กสาวไปยังร้านค้าใกล้ๆหมู่บ้าน เขาไม่อยากเป็นเป้าสายตาใครต่อใครนักด้วยสภาพชุดที่เธอใส่
“ เจ้ กระเพราไก่ ไข่ดาว ที่นึง ไม่ต้องเผ็ดมากนะ ของเด็กน่ะ “
เพียงครู่เดียวอาหารก็มาวางอยู่ตรงหน้า เด็กสาวมองหน้าเขาก่อนทำจมูกย่น เธอไม่คุ้นกับกลิ่นของมันเลย
“ ฮัด ชิ้ว ! ฮ้าด ชิ้ว! “
แมททิวมองเด็กสาวที่จามแล้วจามอีก จนจมูกแดง หน้าแดง น้ำตาไหล เขามองจานข้าวอีกครั้งเชิงถามว่าจะกินรึเปล่า เด็กสาวดึงจานข้าวเข้าไปใกล้แล้วมองหน้าเขาอีกครั้ง เธอไม่อยากเรื่องมากกับเขานักอย่างน้อยเขาก็ช่วยเธอมาหลายครั้งแล้ว หญิงสาวตักข้าวเข้าปากช้าๆ เธอเลี่ยงส่วนที่เป็นกับข้าว เพราะมันเผ็ดร้อนมากสำหรับเธอ แมททิวมองเด็กสาวตรงหน้า หน้าตาผิวพรรณเธอไม่ใช่คนที่มาจากบ้านนอกแน่ๆ ผิวขาวค่อนข้างจัด หน้าที่เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ แมททิวยื่นน้ำให้เมือเด็กสาวเริ่มเอามือพัดวีด้วยความเผ็ด ตอนนี้ไม่เฉพาะน้ำตาเท่านั้นแต่น้ำมูกเธอก็เริ่มไหล เด็กสาวเอามือปาดมันในขณะที่แมททิวหยิบทิชชูส่งให้
“ เจ้ใส่พริกไปกี่ดอกเนี่ยดูซิน้องสาวผม ไฟขึ้นหน้าแล้ว “
แมททิวถามเมื่อเรียกเจ้เจ้าของร้านมาเก็บเงิน
“ โอ้ย ! แม่คุณ นี่ฉันยังไม่ได้ใส่พริกซักกะเม็ดใช้แค่รอยครกของโต๊ะโน้นเท่านั้นนะเนี่ย โห!ดูซิ เผ็ดขนาดนี้เลยเหรอ น่าสงสาร อยู่เมืองไทยทานเผ็ดไม่ได้มีหวังอดตายแน่ลูกเอ้ย !“
แมททิวมองคนตรงหน้า แล้วหันไปมองแม่ค้า ก็ถูกของแก ขนาดเขายังทานเผ็ดได้ถึงจะไม่มาก แต่ก็ไม่ถึงขนาดนี้ บ้านของเด็กคนนี้อยู่ไหนน้า แล้วเลี้ยงกันยังไง ทานอาหารยังไง แมททิวคิดก่อนเดินออกจากร้าน เขาเดินมายังรถที่จอดอยู่ข้างทางนั่นเขาสตาร์ทรถขณะที่เด็กสาวเดินตามมาไม่ห่างนัก
เด็กสาวมองตามคนตัวใหญ่ที่เดิน ไปขึ้นรถเธอรู้สึกขอบคุณเขา ถึงแม้นเธอจะทานได้ไม่มากนักแต่มันก็ช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้น หวืบ!__._หวืบ __!! เด็กสาวหยุด กึก!เธอมองไปข้างหน้าภาพที่ขาดหายเป็นช่วงๆ แล้วเธอก็รู้สึกวูบไป
โรงพยาบาล.......
“ เธอเป็นอย่างไรบ้างครับหมอ “
แมททิวมองเด็กสาวที่นอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งไม่ไกลจากหมู่บ้านนัก เด็กสาวที่เดินตามเขามาดีๆ อยู่ๆก็ล้มฟุบไปโดยไม่มีสาเหตุ
“ ความดันต่ำกว่าปกติครับ อาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยได้นอน หรือความวิตกกังวล หรือทานน้อยก็มีส่วนะเลยทำให้หน้ามืด ถ้าไงก็คืนนี้ให้พักที่โรงพยาบาลก่อนก็แล้วกันให้น้ำเกลือซักขวดสองขวดอาการคงดีขึ้น ถ้ายังไงพรุ่งนี้ค่อยมารับกลับ”
“ ครับ ขอบคุณครับหมอ “
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น