คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 8 การกลับมาของเขา
Chapter 8
การกลับมาของเขา
วันต่อมาพี่สาวแสนดีของฉันก็หายดีเป็นปกติ กลับเป็นฉันเองที่มีไข้เล็กน้อย เมื่อเช้าฉันเลยต้องกินยาไปตามระเบียบ สงสัยติดมาจากเจ๊แหงๆ
ดูเหมือนเจ๊จะเริ่มทำใจได้บ้างแล้ว แต่ก็จะได้นิดหน่อยล่ะนะ เธอพูดมากขึ้นทีละนิดทีละหน่อย แต่ก็ยังเศร้าสลดเหมือนเดิม มันเป็นแบบนี้ก็เพราะทั้งซิงเกิ้ลทั้งฮันนี่ที่จะต้องเจอกันอยู่ทุกวันคอยตอกย้ำเธอน่ะสิคะ ฉันล่ะกลุ้ม ไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วเนี่ย ฉันหาทางออกไม่เจอ...
“แล้วเราจะเอายังไงกันต่อล่ะ” คำถามเดิมที่ใครๆก็ตอบไม่ได้ถูกถามขึ้นอีกครั้ง
“ฉันว่า...เราควรล้มเลิกแผนบ้าๆนั่นซะ ก่อนที่มันจะสายเกินไป...” ฉันฟุบลงกับโต๊ะม้าหินอย่างอ่อนล้า สงสัยพิษไข้จะทำงานแล้วสิ
“แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะเป็นเพื่อนกับทั้งสองคนนั้นไม่ได้นะ...ซัมวัน” เพราะคำพูดของไอ้เต้จึงทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นมาทำหน้าฉงนสงสัยเสียไม่ได้
“หมายความว่าไง แล้วทำไมต้องเป็นฉัน”
“ฉันพูดกันท่าแกไว้ก่อน ฉันรู้ดีว่าที่แกพูดหมายถึงอะไร ที่ว่ายกเลิกแผนน่ะ...” เฮ้ๆ ทำเป็นรู้ดี
ใช่ค่ะ...ในตอนแรกฉันกะไว้ว่าอยากจะขาดการติดต่อเลยด้วยซ้ำนะ ก็แค่ลังเล...ยังไม่ได้ตัดสินใจซะหน่อย เหอะ...ไอ้เพื่อนเลิฟทำเป็นแสนรู้ สนิทกันจนมองความคิดของอีกคนออกเลยเหรอเนี่ยฮะ...ไอ้โปเต้
“พูดอะไรกันง่ะ รู้สึกเหมือนวุ้นเป็นคนนอก =O=;;;” ยัยวุ้นแจกค้อนให้ทั้งโต๊ะทำเอาขำกันสนั่น
“บ้าน่า ไอ้เต้มันก็พูดตามสไตล์ของมันอ่ะ แกอย่าสนใจเลย ไอ้เต้...ดูแลแฟนแกดีๆ เดี๋ยวมันโมโหกลายร่างเป็นเสือเหมือนอังกอร์ฉันไม่รู้ด้วยนะ O-^” ฉันยิ้มกริ่ม อังกอร์ที่ว่ามันเหมือนกับวิญญาณของเสือร้ายที่มันสิงสถิตอยู่คนค่ะ กั่กๆๆ ถ้าโดนสิงแล้วจะทำอะไรโดยไม่รู้สึกตัว หุๆ
“เฮ้ๆ แฟนฉันเป็นคนไม่ใช่เสือเหมือนแกนะเฟ้ย” ดู๊ดูมัน! ออกรับกันซะจริงจริ๊ง!!
“เฮอะ! หมั่นไส้!~” ฉันฟุบหน้าลงกับโต๊ะอีกครั้ง ขอพักสายตาหน่อยเถอะ T^T
“อะโลฮ่าสวัสดีทุกๆคน ^O^”
“แฮะๆ ดีค่า”
จะใครซะอีกล่ะคะ...มาเป็นคู่อย่างนี้ยังให้ต้องบอกอีกเหรอว่าเป็นนายซิงเกิ้ลกับยัยฮันนี่น่ะ ฮะๆ ตายยาก!
ตั้งแต่ที่ฮันนี่ย้ายโรงเรียนมาที่นี่แล้วก็ดูๆเหมือนว่าทั้งสองจะไม่ทะเลาะกันอีกนะ สงสัยคงเป็นเพราะว่านายมีนไม่ได้ย้ายตามมาด้วย แหงสิคะ! ถ้าตามมาเขาเรียกว่าตามตื๊อแบบหน้าด้านๆเลยนะนั่น ทำไมถึงใช้คำว่า ‘ตามตื๊อ’ น่ะเหรอคะ? ก็สายตาที่มองฮันนี่มันไม่เหมือนกับคนอื่นนี่ มันดูเปล่งประกายซะจนผิดสังเกต ฉันฟันธงได้เลยว่าตามีนเนี่ยชอบฮันนี่!!
“สวัสดี!” ฉันเงยหน้าขึ้นมาทักทายก่อนที่จะฟุบลงไปตามเดิม
สองคนนี้มักจะมาสายเป็นประจำล่ะค่ะ มาหลังเคารพธงชาติแทบทุกครั้ง ไม่มีใครสนใจอยู่ดีนั่นแหละค่ะ คณะกรรมการจะจดรายชื่อส่งอาจารย์ที่ปรึกษา แล้วการลงโทษก็จะขึ้นอยู่กับท่านนั่นแหละ อยากมากก็แค่หักคะแนนจิตพิสัย ขนหน้าแข้งสองคนนี้ไม่ร่วงอยู่แล้ว ไม่เคยสนด้วยซ้ำล่ะมั้ง เดี๋ยวพอฉันเตือนก็หาว่าเทศนา ฉันไม่อยากยุ่งแล้วล่ะ
ฉันไม่ได้ยินเสียงไอ้เต้กับยัยวุ้นพูดอะไรสักคำ สงสัยคงจะแค่ยิ้มๆล่ะมั้ง ฉันฟุบหน้าอยู่ก็เลยไม่เห็นนี่นา แหะๆๆ
“อะไรเนี่ย มาเรียนหรือมานอน” เสียงผู้ชายข้างๆฉันดังขึ้นพร้อมๆกับนิ้วที่จิ้มมาที่กบาลฉันจึกๆ
“มานอนมั้ง อย่ากวนเซ่” ฉันตอบกวนๆไปตามอารมณ์ ก็เล่นมาขัดจังหวะการนอนของฉันนี่ ชิ!
“ไม่กวนก็ด้ายยยย โถ่เอ๊ย!” เขาขยี้ผมฉันอีกแล้ว =O=;;;
“เอ๊ะ! ก็บอกอย่ายุ่งไง คนจะนอน” ฉันว่าอย่างหัวเสียก่อนจะปัดมือเขาออกจากหัวตัวเอง ผมยุ่งหมดเลย T^T
“ยัยนี่เป็นอะไรฟะ พ่นไฟแต่เช้า แหย่นิดแหย่หน่อยทำเป็นหวงตัว เฮอะ” ดูเหมือนนายซิงเกิ้ลจะหันไปถามสมาชิกที่หลงเหลืออยู่บนโต๊ะ
“มันไม่ค่อยดี สงสัยติดไข้มาจากเจ๊น่ะ” ให้ฉันเดานะ เสียงเกือบจะแหลมแต่แฝงด้วยพลังมหาศาล (พลังอะไรวะ -__-^) นี้จะต้องเป็นของยัยวุ้นอย่างแน่นอน
“เอ๋ พอพี่สาวหายน้องสาวก็เป็นแทนเหรอเนี่ย แล้วกินยารึยังคะ” เสียงเล็กๆน่ารักจิ้มลิ้มแบบนี้ฮันนี่ชัวร์
“ยังอ่ะ เพิ่งจะมารู้สึกตอนถึงโรงเรียนแล้ว แต่ช่างมันเหอะ เดี๋ยวก็หายเองแหละ” ฉันเงยหน้าขึ้นมาตอบก่อนจะฟุบลงไปตามเดิม
“เชอะๆ หญิงแกร่ง ทนได้ทนไป” เสียงแบบนี้...กวนๆแบบนี้ ใช่เลย! ไอ้คนที่มันขยี้ผมฉันนั่นแหละ
ฉันทำเสียงจิ๊จ๊ะแบบไม่พอใจแต่หน้าก็ยังฟุบกับโต๊ะตามเดิม ฉันไม่สบายนะคะ! จะให้ไปสู้รบปรบมือกับไอ้คนพรรค์นั้นน่ะเหรอ เฮอะ! เสียเปรียบๆๆ
“เฮ้ย! วันนี้มีสอบย่อยวิชาสังคมอ่ะ แกจะไหวมั้ย ไม่ใช่ไปขึ้นอืดอยู่หน้าห้องสอบนะเฟ้ยยย” เสียงใครไม่รู้ค่ะ แต่ตอนนี้กระเด้งออกมาโดยอัตโนมัติ อะไรน้า! จะมีสอบวิชามหาโหดนั่นน่ะเหรอ ทำไมฉันจำไม่ด้ายยย TOT
“หึๆๆๆ” เสียงหัวเราะที่ฟังดูเย้ยหยันน่าประทับตราด้วยฝ่าเท้าดังขึ้น
“ก๊ากๆ สีหน้าแกดูไม่จืดเลยว่ะ” ยัยวุ้นพูดขำๆ
แน่นอน...คนอื่นเห็นทีมันก็หัวเราะเลยค่ะ หัวเราะเข้าไป อย่างนี้ต้องเล่นละคร...!
“อ๊า ปวดหัวววว T^T” ฉันใช้มือทั้งสองข้างกุมขมับของตัวเองทันที
“เฮ้ๆๆ ไหวมั้ยๆ” นายซิงเกิ้ลที่นั่งอยู่ข้างๆฉันแสดงความเป็นห่วงเป็นใยทันที
หึๆๆ ศึกนี้นายแพ้!
“แบร่!!! ล้อเล่นย่ะ สมน้ำหน้า” ฉันเชิดหน้าหนีทันที ฮี่ๆๆ สะใจๆ
ในตอนแรกฉันเห็นหน้าของทุกคนดูกังวลกันหมดเลยนะ แต่พอฉันเฉลยแค่นั้นแหละ ฮากระจายค่ะ เอิ๊กๆๆ
“หนอยยยย ล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่น นิสัยไม่ดี” ฉันเบ้ปากทันทีที่ได้ยินนายซิงเกิ้ลพูด เหอะ! ล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่น เชอะ!
ฉันทำหน้าล้อเลียนคำพูดที่เขาว่าเมื่อกี้พร้อมกับใส่ความกวนประสาทลงไปเต็มสตรีม คนอื่นเห็นทีถึงกับขำออกมาอย่างเสียไม่ได้
“โอ๊ยแก ฉันจะทำยังไงดีว้า วิชาอื่นมั่วได้ แต่สังคมนี่ให้ตายก็มั่วไม่ได้ว่ะ ฮือ!!!” ฉันคร่ำครวญจะเป็นจะตาย
ก็วิชาสังคมน่ะสิคะ เป็นวิชาที่ฉันเกลียดที่สุดเป็นอันดับหนึ่งเลยล่ะ แล้วถ้าฉันจำไม่ผิดสอบครั้งนี้มันมีททั้งภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ พับผ่าสิ!!! ฉันไม่อยากเป็นนักโบราณคดีจูเนียร์นะ! แง้!!!
“เอาไง หน้าเบะอย่างนี้ยังไม่ได้อ่านหนังสือล่ะสิ” ไอ้เต้มันรู้ทันค่ะ ฮือๆๆ ทำไงดี๊!~
“หรือเอาอย่างนี้มั้ย เดี๋ยวฉันบอก ‘จารย์ให้ว่าแกไม่สบายนิดหน่อย ขอเลื่อนสอบเป็นวันพรุ่งนี้”
“กรี๊ดดด ฉันรักแกที่สุดเลยวุ้นเส้น!!!” ฉันโผเข้ากอดยัยวุ้นเต็มเหนี่ยว แต่ฉันรู้สึกถึงรังสีอะไรสักอย่างนะ มันร้อนๆ - -*
“ออกไปเลยยัยบ้า แฟนฉันฉันกอดได้คนเดียวเฟ้ย” เจ้าของรังสีบ้าๆนั่นพูด ไอ้เต้! ไอ้หมาหวงกระดูก!!!
“โหยยยย เอาไปเลยยย ฉันไม่สนใจแล่ว เชอะๆๆ” งอนแต่พองามค่ะ มันเป็นวิธีเรียกร้องความสนใจอย่างหนึ่ง ใช้ได้ผลดีทีเดียว ลองดูกันต่อไปนะคะ
“งอนไปเหอะ ไม่ง้อหรอกเฟ้ย อย่างนี้แกก็ได้ไปนอนห้องพยาบาลอีกแล้วอ่ะดิ” แป่ว...! มันใช้กับไป้เพื่อนยากนี่ไม้ได้ อะไรของมันฟะ T^T
“หุๆ สงสัยจะเป็นอย่างนั้นว่ะไอ้เพื่อนเลิฟ วันนี้ได้โดดอีกแล้ว ก๊ากกก”
รู้สึกมั้ยคะว่าทำไมไม่มีเสียงกวนประสาทกับเสียงหวานๆแทรกขึ้นมาบ้าง นั่งกันอยู่ห้าคนแทนที่จะคุยเรื่องเดียวกันแต่มันไม่ใช่เลยค่ะ...นายซิงเกิ้ลกับฮันนี่คุยกันสองคนเหมือนมีโลกส่วนตัวอะไรแบบนั้น ทั้งๆที่นั่งกันอยู่ทั้งหมดห้าคน -*-
“ฉันหิวขนมว่ะ แกสองคนไปกับฉันหน่อยดิ” ฉันลากเพื่อนเกลอทั้งสองที่ยังงงงวยอยู่แล้วก็ไม่ลืมที่จะตามสมาชิกที่เหลือว่าจะเอาอะไรมั้ย
“ขอน้ำเปล่าขวดนึงก็พอค่ะ ซิงเกิ้ลไม่เอาอะไรใช่มั้ย” ฮันนี่หันไปถามแฟนหนุ่มของเธอ
“ไม่ล่ะ” สั้นๆ...ได้ใจความ
ฉันเดินนำทั้งสองคนไปเรื่อยๆ จริงๆฉันไม่ได้หิวอะไรทั้งนั้นแหละ แค่อยากจะถามความคิดเห็นไอ้สองตัวนี้สักหน่อย
“พวกแก...ฉันถามอะไรหน่อยดิ” ฉันหยุดเดินแล้วกลับหลังหันมาถามพวกมัน
“ฮะ? มีอะไรก็มาว่า” สีหน้าของยัยวุ้นแสดงอาการมึนงงอย่างเห็นได้ชัด
“คือ...แกคิดว่านายซิงเกิ้ลมันโกรธฉันรึเปล่าวะ พอแกล้งเสร็จพวกแกก็เห็นว่ามันเงียบไปเลยนะ”
ไอ้สองคนนั้นหันไปมองหน้ากันเองก่อนที่ไอ้เต้จะหันมายิ้มที่ฉัน
“เอ้า! แกคิดว่ายังไงล่ะ”
“ฉันคิดว่าหมอนั่นโกรธ เฮอะ! ผู้ชายบ้าอะไรขี้งอนชิบเป๋ง!”
“แกคิดมากไปรึเปล่า มันอาจจะอยากคุยกับแฟนมันสองต่อสองก็ได้ แกรอดูไปก่อนเถอะน่า” ยัยวุ้นมองฉันของแววตาขันๆ
“ทำไมพวกแกถึงมองฉันแปลกๆ อะไรของพวกแกวะ เออๆ ง้อก็ได้ฟะ ฮึ่ย!!!” ฉันกลอกตาไปมาอย่างกับคนเบื่อโลก
“ฮะๆ แต่เอ...ฉันเพิ่งรู้นะว่าแกก็ง้อคนเป็นน่ะ” ยัยวุ้นพูด
“ก็ไม่เป็นน่ะสิ! แต่พอมาคุยกับตานี่นะ ไม่เป็นก็ต้องเป็นล่ะ ผู้ชายขี้งอน เชอะ!” ฉันพูดๆๆแล้วก็เดินไปร้านขายของทันทีเพื่อที่จะไปซื้อน้ำกับขนมอีกนิดหน่อย
ใช่เลย! ฉันเป็นคนที่ง้อคนได้แย่พอๆกับการปลอบคน เห็นได้ชัดจากการไปเจรจากับฮันนี่ในตอนนั้น มันเป็นอะไรที่ขัดใจสุดๆ ประมาณว่าเก้ๆกังๆทำอะไรไม่ถูกเลย แต่พอมาเจอตาคนนี้ แทนที่ฉันจะเป็นคนงอน กลับกลายเป็นว่าฉันต้องง้อตลอด ประสาทกลับสุดๆเลย O-^ แต่ไม่ใช่ว่าฉันสักแต่ง้อนะ ฉันจะง้อก็ต่อเมื่อฉันผิดจริงๆนั่นแหละ ไม่งั้นจะง้อให้เสียพลังงานไปทำไม จริงมั้ย?
พอกลับมาที่โต๊ะก็ส่งน้ำเปล่าให้ฮันนี่ตามที่เธอบอกแล้ววางขนมที่เหลือไว้บนโต๊ะ นายซิงเกิ้ลแอบเหล่มองมาที่ฉันหน่อยๆก็จะเชิดหน้าซะคอเกือบเคล็ดล่ะมั้งเนี่ย เห็นแล้วน่าแกล้งชะมัดเลย หุๆๆ คิดแล้วก็เลยหยิบขนมขึ้นมาห่อนึงแล้วก็เปิดปากถุงออกมาซะ แล้วก็จ้วงค่ะ กรั่กๆๆๆ
“กินมาทั้งชีวิตแต่ทำไมเพิ่งรู้สึกว่าห่อนี้มันอร่อยเป็นพิเศษน้า ฮันนี่ลองสักชิ้นมั้ย หุๆ” ว่าแล้วก็ยื่นไปที่ฮันนี่ แน่นอนว่ามันต้องผ่านหน้าตานั่นค่ะ
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง เห็นแล้วสะใจเป็นบ้าเลย ก๊ากๆๆ
“ไหนๆ ลองเอามาชิมมั่ง ถ้ามันจะอร่อยก็คงเพราะ...” ไอ้เต้ยักคิ้วหลิ่วตาก่อนจะหยิบไปสองสามชิ้นเพื่อที่จะส่งให้ยัยวุ้นด้วย
ไอ้สองคนนี้มันเป็นเกมเหมือนกันแฮะ หุๆๆ
พอซิงเกิ้ลได้ยินอย่างนั้นก็ค้อนขวับเข้าไปใหญ่ งานนี้ง้อกันยาวแน่ๆ แต่ตอนนี้ขอแกล้งก่อนเถอะ หมั่นไส้มานานแล้ว ฮี่ๆ
“แกๆ ไอ้นี่ก็อร่อยว่ะ หยิบๆๆ ชิมๆ” ถึงตายัยวุ้นบ้าง คงจะเหมือนฉันกันหมดแหละเนอะ เวลาเห็นคนอื่นเขาทุกข์นี่สุขีเป็นที่สุด ฮี่ๆๆ
ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ขี้งอนแบบเต็มสตรีมเลยล่ะค่ะ เมินหน้าหนีได้ทั้งวัน คุณลองคิดดูสิคะ ถามคำตอบคำ ไม่พูดมากเหมือนตอนปกติ แต่ที่ไม่เข้าใจคือทีไอ้เต้กับวุ้นเส้นล่ะคุยจ้อเลย ง้อนิดหน่อยก็หายงอนแล้ว ทำไมต้องให้ฉันนั่งง้อทั้งวี่ทั้งวันอยู่คนเดียว อะไรของมันว้า?! T^T
“นี่!~ เมื่อไหร่นายจะหายโกรธสักทีฮะ เลิกทำตัวเหมือนผู้หญิงได้แล้วน่า”
พูดได้แค่นั้นไอ้เต้ถึงกับขำก๊ากออกมาทีเดียว ฉันทำอะไรผิดเนี่ย!!
“แกง้อคนได้ห่วยคงเส้นคงวาจริงๆ พวกฉันเลยไม่เคยคิดที่จะงอนแกไง ง้อแต่ละทีแกทำพวกฉันช้ำใจซะน่วมเลย” มันพูดขันๆ
“อะไรของแก ก็ฉันบอกแล้วว่าฉันง้อคนไม่เก่ง รู้ก็ดีแล้ว ฉันจะได้ไม่ต้องลำบากง้อพวกแก ฉันจะตาย!”
“การง้อคนมันทำให้เธอลำบากขนาดนี้เลยเหรอ” ซิงเกิ้ลพูดเสียงเย็นๆ
คนเดิมของนายหายไปไหนแล้วววว ฉันบอกออกไปเหลือเกินว่าฉันลำบากใจ!~ TT__TT
“อ๊า ไม่ใช่น้า หายโกรธได้แล้ว เลิกงอนซะที ฉันเหนื่อยแล้วจริงๆ”
ไม่เหนื่อยให้มันรู้ไปสิคะ พูดปากเปียกปากแฉะ นานเข้ามันก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ คำหวานๆฉันก็ไม่เคยคิดจะพูด เพราะสมองประมวลแล้วว่าปากแบบนี้ไม่คู่ควรกับคำพูดเช่นนั้น ฉันจะทำยังไงกับปากตัวเองดี -__-^
“ฮะๆๆ พอๆ เก็บของซะ กลับบ้านกัน ออดดังแล้ว” ยัยวุ้นพูดขึ้นมาหลังจากออดดัง
“ซิงเกิ้ลก็เหลือเกิน หายงอนได้แล้วน่านะ ฮันนี่สงสารซัมวัน” ฮันนี่ช่วยพูดไกล่เกลี่ย แต่ทำไมน้ำเสียงถึงแปร่งๆนะ
บ้าน่า...ทำไมฉันถึงคิดอะไรอกุศลได้แบบนี้เนี่ย
เขายังคงความเงียบไว้เช่นเคย แต่มือก็เก็บของใส่กระเป๋าไปพลาง พอปิดกระเป๋าเรียบร้อยก็เดินดุ่มๆออกจากห้องไปทันที รวมเร็วอะไรกันปานนั้น ของฉันก็ไม่ใช่น้อยๆ สงสัยต้องโทรไปง้อแล้วล่ะมั้งเนี่ย ฮึ่ยๆๆ
ฮันนี่ขอตัวกลับบ้านบ้าง พูดเสร็จก็รีบวิ่งหายไปกับกลีบเมฆ คงจะวิ่งตามแฟนตัวเองนั่นแหละ ดูมัน...โกรธฉันแต่ฮันนี่ดันเดือดร้อนไปด้วยเลย ฉันสมควรจะสำนึกผิดดีมั้ย =O=;;
พวกเราสามหน่อที่เหลือก็เลยรีบเก็บของบ้างก่อนจะเดินตามลงไปข้างล่าง วันนี้ก็เช่นเคย...เจ๊กลับบ้านก่อนไปแล้ว เฮ้อ...คิดแล้วก็หนักใจ
“อ้าว! นายซิงเกิ้ลยังไม่กลับอีกเหรอเนี่ย ลงมาได้สักพักนึงแล้วนี่” ยัยวุ้นชี้ไปทางประตูโรงเรียน ผู้ชายที่ถูกกล่าวถึงยืนนิ่งไม่ไหวติง แต่เมื่อมองผ่านไหล่ของเขาไปก็เห็นเข้ากับร่างสูงโปร่งยืนคู่กับผู้หญิงตัวเล็กๆที่คุ้นตาเป็นอย่างดี
ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่...
“นายโอเคนะ มันเกิดอะไรขึ้น?” ฉันรีบวิ่งเข้าไปหาเขาทันที ก่อนจะถามถึงเหตุการณ์ที่เป็นอยู่ขณะนี้
“จะเอายังไง?” เขาถามคนตรงหน้าทั้งสอง แววตาสื่อถึงความเจ็บปวด
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะซิงเกิ้ล! อย่าเพิ่งเข้าใจผิดสิ!! แล้วทำไมต้องไปว่ามีนเขาอย่างนั้นด้วย?!” ตาของฮันนี่แดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ น้ำใสๆเริ่มเอ่อที่ขอบตา
“หึ! ปกป้องกันเหลือเกินนะ ฉันมีทางเลือกให้เธอสองข้อ จะไปกับเขา...หรือจะอยู่กับฉัน”
ไอ้สองเกลอตอนนี้เดินมาถึงที่แล้ว พอเจอกับสถานการณ์ข้างหน้าก็ถึงกับงงเต้กพลางส่งสายตาเป็นคำถามว่าเกิดสงครามนองเลือดขึ้นรึเปล่า ซึ่งแน่นอนฉันส่ายหัวกลับไปในทันที ฉันก็งงเหมือนพวกมันนั่นแหละค่า!
ฮันนี่ได้ยินแค่นั้นก็กลับหลังหันทันที แล้วก็เอ่ยประโยคๆนึงออกมาเสียงเบา
“ไว้อารมณ์เย็นเมื่อไหร่เราค่อยคุยกันนะ”
“ถ้าเธอเดินไปกับเขาฉันจะถือว่าเราจบกัน” ซิงเกิ้ลพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความว่างเปล่า
นายพูดอะไรออกมา...ถ้าเกิดคำตอบมันออกมาแบบนั้นนายจะทำใจได้เหรอ...?
ฮันนี่ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับมายิ้มให้กับเขาแบบเศร้า...แล้วก็เดินจากไป
สองคนนั้นก้าวเดินออกไปอย่างช้าๆ สำหรับเขา...มันคงดูเหมือนว่าเธอก้าวออกไปจากชีวิตเลยล่ะมั้ง
ทำไมเธอถึงทำกับเขาแบบนี้นะ...
“ฉันรู้ว่าหน้าที่นี้เหมาะกับแกที่สุดแล้ว...พวกฉันไปก่อนนะ” ไอ้เต้เดินมากระซิบแล้วก็เดินออกไปพร้อมๆกับยัยวุ้น
เหลือแค่ฉันกับเขาแล้วสินะ
“นายอยากให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนมั้ย”
“ขอโทษนะ ขอฉันอยู่คนเดียวสักพัก” ได้ยินอย่างนั้นฉันก็ได้แต่เดินออกมา
ตอนนี้ฉันสงสารเขามากๆเลยนะ ถึงแม้จะไม่รู้รายละเอียดอะไรมากก็เถอะ เขาคงทนมามากแล้วถึงได้พูดแบบนั้นออกไป คงจะรู้สึกเหมือนตัวเองถูกหักหลัง
ขอแค่นายพูดออกมา...ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนายเอง
----- To be continued ----
เอ้า มาอัพให้ตามสัญญาสองตอนค่ะ >O< เป็นไง...ค้างคา...ค้างคา กร๊ากกกกก (สะใจๆๆ >__<)
พรุ่งนี้ปุ้ยก็เปิดเทอมแล้ว TT^TT (วันนี้ 16 พค) นิยายคงห่างหาย หึๆๆๆๆ -.,- ถ้ามีเวลาแต่งก็เต็มที่ค่ะ ^^ ช่วงนี้เริ่มห่างๆเกมแล้ว เหมือนรู้ซึ้งถึงสัจธรรมโลก (เกี่ยว?!)
มีตัวอย่างตอนต่อไปค่ะ ก๊ากๆๆๆ
“ผู้หญิงอะไรกลัวทุกอย่าง ฮะๆ” คำพูดของเขาทำให้ฉันอดคิดไม่ได้ว่าเขากำลังเยาะเย้ยฉัน ถึงจะรู้ว่าเขาพูดเล่นก็ตาม แต่...ความน้อยใจมันมีมากกว่า
“ฉันมันอ่อนแอนี่! นายคงไม่ชอบคนอ่อนแอ” ฉันกระแทกเสียงด้วยความตัดพ้อ
“ฉันพูดเหรอว่าเธออ่อนแอ ฉันพูดหรือยัง...? ฉันว่าน่ารักดีออก มันทำให้ฉันรู้สึกอยากปกป้อง...ใครสักคน” เขายิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน
ฮิ้วววว หวานแน่ค่ะ ตอนหน้า -.,- เอ้อ...! ตอนที่ทุกๆคนอ่านนี่ปุ้ยพิมพ์ว่าซิงเกิ้ลผมสีอะไรคะ?! ถ้าแดงล่ะก็...=__=;; ปุ้ยคงพิมพ์ผิดไป ถ้าใครยังจำได้ว่าปุ้ยพิมพ์ไว้ตรงไหน(เหอะๆ)ก็ช่วยบอกทีนะคะ ประมาณเอาก็ได้ O-^ เมื่อวานอ่านผ่านๆ(- -*)ไม่เจอเลยยย เลยเปลี่ยนอิมเมจด้วย ให้พระเอกผมสีน้ำตาลแซมทอง -.,- ดูที่แบนเนอร์เลยค่ะ อิมเมจเรา พี่วิคเอง!! 5555+
ใครสนใจแลกบอกได้นะคะ ^^”
$m[i]LeYz dEviL
ความคิดเห็น