ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sorry, my sis! รักไม่คาดคิด สะกิดใจยัยจอมดื้อ

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 6 ความแตกแล้ว! TOT

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 50


    Chapter 6

    ความแตกแล้ว! TOT

     

     

    เฮ้ยไอ้เต้! ฉันเข้าใจแล้วนะเว้ย ไอ้ที่แกพูดเมื่อวันก่อนน่ะ ฉันฉลาด โฮะๆๆ

     

    เช้าวันรุ่งขึ้นฉันก็ตรงดิ่งไปหาไอ้เต้และยัยวุ้นทันที ฉันต้องให้มันแสดงความยินดีกับฉัน กรั่กๆๆๆ

     

    เออ แล้วไปทำอีท่าไหนวะฮะ? ถึงได้ตรัสรู้ล่ะ เซลล์สมองของแกไม่น่าจะคิดอะไรล้ำลึกแบบนี้ได้นะไอ้เต้ทำท่าลูบคางตัวเองเหมือนคิดอะไรอยู่อย่างนั้นแหละ

     

    ถูกต้องเลยที่รัก อย่างมันต้องมีคนช่วยชัวร์ยัยวุ้นวาดวงแขนมาข้างหน้าพร้อมกับชี้หน้าฉัน เรามีต้นแบบค่ะ...ลองนึกถึงโคนันกำลังพูดว่า ความจริงต้องมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!สิคะ ท่ามันเป็นแบบนั้นแหละ -.,-

     

    เชอะ ก็เมื่อคืนฉันคุยกับนายซิงเกิ้ลแล้วก็ลองนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานไง ก็ประกอบเรื่องไปมามันก็ได้แล้วคำตอบ ฮ่าๆๆ ฉันเก่ง!

     

    “...” ไอ้เต้เงียบ

     

    “...” ยัยวุ้นก็เงียบ _ _”

     

    พวกแกเงียบกันทำไมวะ ฉันเล่าเพื่อจะให้แกแสดงความยินดีกับฉันนะเฟ้ย

     

    ดูเหมือนว่าเราต้องคุยอะไรกันหน่อยแล้ววุ้นพูดพลางทำหน้าเครียด

     

    อะไรกัน?! เรื่องที่ฉันฉลาดมันถึงขนาดต้องมานั่งจับเข่าคุยกันเลยเหรอไง T^T

     

    แกรู้มั้ยว่าทำไมพวกฉันถึงเงียบตอนที่ซิงเกิ้ลเอามืออังหน้าผากแกน่ะไอ้เต้ถาม แถมคิ้วมันยังผูกกันเป็นปมอีก

     

    “???” งงสิคะ -__-;;

     

    แล้วแกรู้มั้ยว่าทำไมฮันนี่ถึงร้องไห้ยัยวุ้นก็อีกคน

     

    “???” ไม่ทราบ

     

    แล้วแกรู้มั้ยว่าทำไมฮันนี่ถึงเดินปึงปังออกไปอย่างนั้นน่ะไอ้เต้ถามอีกค่ะ

     

    ไม่รู้ ไม่ทราบ และตอนนี้อยากตรัสรู้แล้ว! =O=”

     

    เพราะฮันนี่หึงแกกับซิงเกิ้ล!!นั่น! นัดกันมาพูดแหง พร้อมกันจนเป็นเสียงเดียวเลย -__-

     

    จะบ้าเหรอ?! จะหึงทำหอกอะไรฟะ ยังไม่ทันทำอะไรเลย

     

    งั้นเอาตั้งแต่คำถามแรก ที่พวกฉันเงียบเพราะอึ้งกับการกระทำของไอ้หล่อนั่น! เจอหน้ากันไม่กี่ครั้งมีแตะเนื้อต้องตัว แสดงความห่วงใยออกนอกหน้า มันสมควรมั้ย?!” ยัยวุ้นพ่นน้ำลายฟอดๆๆๆ เหอะ...เต็มหน้าฉันเลย –O-;;

     

    อันนั้นฉันก็อึ้งโว้ย แกเห็นฉันใจง่ายขนาดนั้นเลยเหรอฉันถามหน้าหงิก เฮอะ! เป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวอันนี้ฉันรู้ดีย่ะ

     

    เออ...แล้วที่ฮันนี่ร้องไห้อ่ะนะ ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาบอบบางมาจากไหน เห็นพวกแกเล่นบทสวีทขึ้นมาถึงกับต่อมน้ำตาแตก

     

    นี่! เขาเรียกว่าเสียความรู้สึก ผู้หญิงคิดมากเรื่องแบบนี้นะยะ เขาเรียกว่าละเอียดอ่อนในความรัก ที่รักพูดเหมือนดูถูกผู้หญิงเลยยัยวุ้นพูดแบบตัดพ้อ ก็ไอ้ประโยคเมื่อกี้ไอ้เต้เป็นคนพูดค่ะ ในขณะที่ฉันก็คิดตาม...

     

    เออๆ แล้วบทสวีทอะไรของพวกแกวะ ฉันไปสวีทกับไอ้บ้านั่นตอนไหนมิทราบ

     

    ฉันขอเวลานึกก่อน มันเยอะมากกกกก...อ่ะๆ อยากเช่นตอนที่อังหน้าผากล่ะหนึ่ง ตอนที่แกหยิกนายซิงเกิ้ลแล้วตานั่นก็จิ้มแก้มแกนั่นแหละ ฉันนึกได้แค่นี้ -__-“ ยัยวุ้นร่ายยาวใส่ฉัน

     

    ฮะ? สวีท...ตรงไหนฟะ =O=

     

    ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นเลยยัยบ้า แกอาจจะไม่รู้สึก แต่คนมองเป็นใคร ใครก็คิดวะ แกคิดดูนะ พวกฉันที่เป็นเพื่อนแกแท้ๆยังคิด แล้วแฟนเขาจะคิดยังไงวะอะไรนะไอ้เต้?!

     

    แต่เอาเถอะ ฉันจะถือซะว่าอย่างน้อยแผนเราก็สำเร็จไปเกือบครึ่งยัยวุ้นยิ้มอย่างพอใจ

     

    แต่ที่ฉันสงสัยคือแววตาของไอ้เต้...หรือว่าแกไม่ได้คิดอย่างยัยวุ้น?

     

    ยังไม่พอ...ฉันยังรู้สึกได้อีกว่าเหมือนมีใครอีกคนนอกจากพวกเรากำลังมองมาทางนี้...ลางสังหรณ์ฉันมันบอก และมันก็มักจะเป็นจริงเสมอ...

     

     

     

    ทุกๆคืนฉันก็ยังคุยกับซิงเกิ้ลตามปกติ คุยกันเรื่องไร้สาระนั่นแหละ แน่นอนว่าอย่างเราสองคนไม่ได้มีคำว่า สาระอยู่ในหัวเลยค่ะ อีกอย่าง...ตั้งแต่ที่ฉันพูดเรื่องผู้ชายอัธยาศัยดีกับผู้หญิงมนุษยสัมพันธ์เยี่ยมหมอนั่นก็ไปง้อฮันนี่ และพวกเขาก็แฮปปี้กันอีกครั้ง =__=;;; แต่เมื่อคืนวันพฤหัสบดีหรือวันที่ไอ้เต้กับยัยวุ้นโวยวายนั่นแหละค่ะ ก่อนจะวางสายซิงเกิ้ลพูดทิ้งท้ายให้ฉันสงสัยเล่นๆอีกแล้ว

     

    เหลืออีกสามวันแล้วสินะ...

     

    เป็นคุณจะงงกันมั้ยคะ? ยังไม่พอ...มันก็พูดนับถอยหลังของมันเรื่อยๆจนมันพูดแค่ว่า วันนี้แล้วสินะคือเราคุยกันถึงเที่ยงคืนกว่าๆน่ะค่ะ วันนี้ที่หมอนั่นว่าก็คือวันจันทร์นี่แหละ!! ความจริงกำลังจะเปิดเผย .\/.

     

    พวกเรารวมตัวกันที่เดิมนั่นแหละค่ะ แต่ว่ามีเจ๊ซัมเมอร์เพิ่มเข้ามาอีกคน แกบอกว่าเพื่อนยังมาไม่ถึง ก็เลยมาอยู่กับพวกเราก่อน

     

    ฉันมีอะไรจะเล่าให้พวกเราฟังล่ะ สังเกตมั้ยว่าพักนี้เพื่อนของพวกเธอชอบบ่นปวดหัว

     

    ระหว่างที่เรากำลังคุยกันเพลินๆอยู่นั้น เจ๊ได้จัดการเปิดบทสนาขึ้นมาใหม่ แล้วเพื่อนที่ว่านี่มันคนไหนฟะ...?

     

    ...เฮ้ๆ ฉันชอบบ่นว่าปวดหัว อย่างนี้ก็แปลว่าหมายถึงฉันน่ะสิ เฮือก!!!

     

    อ่า...อะไรกันเจ๊ เจ๊คิดอะไรอยู่เนี่ยฉันโวยวายก่อนใครเพื่อน

     

    ฉันคิดว่าแม่นี่คุยโทรศัพท์ดึกๆดื่นๆทุกวันเจ๊พูดเพียงแค่นั้นก็ทำเอาฉันเหงื่อตกเลยทีเดียว คำพูดของเจ๊กำลังจะทำให้ฉันทำตัวมีพิรุธ อ๊ากกก TOT

     

    อะ...อ๋อๆ! ก็ทำไมเล่า ฉันก็คุยกับไอ้เต้แล้วก็ยัยวุ้นไง ใช่มะๆ อะไรกันเจ๊ก็แน่นอนว่าฉันเป็นคนพูดเองเออเองหมด แล้วก็พยายามขยิบตาให้พวกนั้นรับมุขฉันด้วย

     

    อ่าใช่ๆ เจ๊คิดว่าไงเหรอครับ ^^;;” ไอ้เต้ที่ดูท่าว่าจะเก็ทเป็นคนแรกก็ช่วยด้วยอีกแรง

     

    เปล่าหรอก เจ๊แค่คิดว่าน้องสาวเจ๊จะขายออกซะอีก ตอนที่เจ๊แอบฟังนี่นะ แม่นี่นั่งขำก๊ากอยู่คนเดียว อย่างกับมีความสุขมากมายเฮือก! อะไรกัน T^T

     

    เจ๊คิดมากมั้งคะ พอดีพวกเรานั่งนินทาคนอื่นกันน่ะค่ะ หุๆเซลล์สมองของยัยวุ้นก็เริ่มเข้าที่แล้วเหมือนกัน

     

    ฉันคงคิดไปเอ...

     

    ไงทุกคน! ตกใจล่ะสิ อิๆเสียงผู้ชายที่ฟังดูคุ้นหูพูดขัดขึ้นมาก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงใสๆของผู้หญิงอีกคน

     

    ฮิๆ ดูน่าแต่ละคนสิ อะ...อ้าว ใครกันคะเนี่ย เพื่อนเหรอ ^^”

     

    ใช่ค่ะ! ตกใจ...ตกใจมาก เสียงผู้ชายที่ว่าก็นายซิงเกิ้ล ส่วนเสียงใสๆนั้นก็ฮันนี่แหละค่ะ สองคนนี้มาพร้อมๆกับเครื่องแบบโรงเรียนฉัน!

     

    นี่มันอะไรกัน?” เจ๊เป็นคนพูดขึ้นคนแรก ตายล่ะ...ทำไมเรื่องมันถึงเป็นแบบนี้

     

    เอ๊ะ! หน้าตาเธอคุ้นๆอยู่นา ใช่คนที่เดินชนกันตอนนู้นนนนนหรือเปล่าครับ ^^” ไอ้คนอัธยาศัยดีพูดขึ้น

     

    ใช่ และฉันก็เป็นพี่สาวของแม่นี่ด้วยเจ๊กระชากฉันให้ลุกขึ้นยืนตาม

     

    ฉันไม่ยักรู้ว่าเธอมีพี่สาวที่น่ารักอย่างนี้นะซัมวันซิงเกิ้ลพูดยิ้มๆ

     

    ใช่ค่ะ ฮันนี่ว่าซัมวันน่ารักแล้วนะ พี่สาวคนนี้ยังน่ารักกว่าอีก ^^”

     

    พวกเธอรู้จักกัน...?” สายตาของเจ๊ในตอนนี้ในแต่ความว่างเปล่า ตั้งแต่เกิดมาฉันเพิ่งจะเคยเห็นเจ๊ด้วยแววตาแบบนี้

     

    ครับ รู้จักกันดีด้วย ^^” นายจะพูดทำไมฮะเนี่ยนายซิงเกิ้ล!

     

    แหะๆ นี่ก็ได้เวลาแล้ว งั้นฮันนี่กับซิงเกิ้ลขอตัวไปรายงานตัวก่อนนะคะ แล้วเจอกันค่ะ ^^” เธอพูดพลางมองดูนาฬิกาข้อมือสีชมพูของเธอ

     

    หลังจากที่สองคนนั้นเดินหายไปแล้ว ก็เหมือนกับว่ายัยวุ้นกับไอ้เต้ก็เลิกอึ้งกันเสียที (นานมาก..._ _”)

     

    มีใครจะอธิบายได้บ้าง แล้วฮันนี่ใช่แฟนเขาหรือเปล่าเจ๊พูดเสียงเย็น ตอนนี้ดวงตาของเจ๊เริ่มจะแดงและสั่นระริก

     

    ใช่ เขาสองคนเป็นแฟนกันฉันพูด

     

    แล้วทำไมเธอไม่บอกฉัน!! ฮะ? ทำไมต้องปิดบังกันด้วยเจ๊เขย่าตัวฉันไปมา

     

    เจ๊ครับ ใจเย็นๆก่อน เรามีคำอธิบายไอ้เต้เดินเข้าไปแยกฉันกับเจ๊

     

    ฉันได้แต่ยืนนิ่งไม่ไหวติง ในหัวของฉันตอนนี้กำลังสับสนไปหมด ที่ฉันทำมาทั้งหมดมันเพื่ออะไรกัน...ถ้านายนั่นไม่ย้ายโรงเรียนมาเจ๊ก็จะไม่รู้เรื่องนี้ เจ๊จะได้ไม่ต้องมาเจ็บปวดแบบนี้ นายกำลังทำให้ทุกอย่างพังทลาย...ซิงเกิ้ล

     

    ว่ามาสิ! อธิบายมาเดี๋ยวนี้!!เจ๊เขื่อนแตกเรียบร้อย

     

    ซิงเกิ้ลเป็นเพื่อนผมเอง พวกเรารู้กันทุกคนว่ามันมีแฟนแล้ว เราก็เลยคิดที่จะ...

     

    แยกพวกเขาแล้วให้ฉันเข้าไปแทนที่?! ทำไมกันล่ะ!!! ทำไมไม่บอกกันตั้งแต่แรก! ฉันผิดหวังในตัวพวกเธอมากนะ...เจ๊ถึงกับทรุดลงกองกับพื้น ฉันรีบเข้าไปประคองเจ๊ขึ้นมาทันที

     

    อย่ามาแตะตัวฉัน เรื่องที่ปิดบังฉันยังไม่เท่าไหร่ แต่ที่คิดจะแยกพวกเขานั่นทำให้ฉันโกรธพวกเธอมากๆ! เธอน่าจะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ทำไมทำอะไรไม่คิดแบบนี้!!! แล้วรู้อะไรมั้ย...วันนั้นฉันบังเอิญไปได้ยินที่เธอคุยกัน แต่ฉันก็พยายามบอกตัวเองว่ามันไม่มีอะไร แล้วเป็นไง...ฉันคิดไม่ผิดเลย!!เจ๊ตะคอกใส่ฉันไม่หยุด ฉันกัดปากตัวเองแน่นจนปากแตก

     

    พวกเราก็แค่อยากให้เจ๊สมหวัง...ยัยวุ้นพูดขึ้นเสียงอ่อย

     

    ใครเป็นคนคิดเรื่องนี้...เธอใช่มั้ย?” เจ๊หันมามองฉันด้วยแววตาที่เย็นชา

     

    มะ...

     

    ใช่ ฉันเป็นต้นคิดเรื่องนี้ ฉันทำให้ทุกอย่างมันวุ่นวาย ฉันมันไม่ดีเอง...

     

    ฉันพูดขัดยัยวุ้นเสียก่อนแล้วเดินออกมานั่งเงียบๆคนเดียวที่สนามฟุตบอลหน้าโรงเรียน อะไรกัน...ฉันแค่อยากให้พี่สาวของฉันสมหวังมันผิดมากเลยเหรอ? ฉัน...ไม่เข้าใจ

     

    น้ำตาที่ถูกอัดอั้นไว้เมื่อกี้นี้ถึงกับทะลักออกมา ฉันเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ใครจะรู้ว่าสองคนนั้นจะมาย้ายโรงเรียนกัน ฉันเหนื่อย...

     

    สัมผัสที่ไหล่ทำเอาฉันสะดุ้งเล็กน้อย ฉันหันไปมองเจ้าของมือนั้นก็หันกลับมาที่เดิม

     

    ใจเย็นๆน่า เดี๋ยวเรื่องมันก็ดีขึ้นเอง...ไอ้เต้ลูบหัวฉันไปมาเป็นการปลอบ

     

    ไอ้เต้...ฉันไม่เข้าใจ ฉันทำอะไรผิด...

     

    ไม่มีใครผิดหรอกน่ะ ต่างฝ่ายต่างความคิด มองกันคนละมุม แต่ฉันก็เข้าใจว่าเจ๊รู้สึกยังไงนะ

     

    ยังไง แกจะบอกว่าพวกเราเป็นฝ่ายผิดใช่มั้ยที่คิดเรื่องบ้าๆนี่น่ะฉันยังคงสะอึกสะอื้นต่อไป

     

    เปล่า แต่แกลองคิดดูนะ ถ้าแกเป็นเจ๊ แกจะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่าแกมีส่วนที่จะทำให้สองคนนั้นเลิกกัน มันไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ?” ฉันเงยหน้าขึ้นมาฟังมันทันทีหลังจากที่ก้มหน้าร้องไห้อยู่นาน

     

    ถ้าเป็นฉันเหรอ...จริงสิ มันเลวร้ายมากๆเลยนี่นา

     

    ฉันพยักหน้าหงึกหงักตอบเขาไป

     

    แล้วเจ๊จะคุยกับฉันมั้ย?” ฉันถามไอ้เต้

     

    แกก็ต้องให้เวลาเจ๊บ้าง ให้เรื่องมันผ่านไปสักพักค่อยว่ากัน เช็ดน้ำตาด้วย หน้าแกดูไม่ได้เลยเขาพูดยิ้มๆ

     

    เช็ดให้หน่อยก็ไม่ได้ แล้วหนีแฟนมาอย่างนี้แฟนไม่หึงตายเหรอ?” ฉันแหย่มันเล่นบ้าง

     

    มันไม่ใช่เรื่อง! ที่รักฉันมีสมองพอ ฉันกับแกเป็นเพื่อนสนิทกันนะโว้ย ถ้ายัยวุ้นหึงอะไรไร้สาระแบบนั้นฉันไม่คบเป็นแฟนหรอก ยัยวุ้นเข้าใจว่าฉันกับแกไม่เคยล้ำเส้นคำว่าเพื่อนถ้ายัยวุ้นหึงฉันจะไปบอกมัน กั่กๆๆ

     

    แหม...ฉันอาจจะแอบชอบแกก็ได้ใครจะไปรู้ฉันส่งสายตาปิ๊งๆไปให้มัน

     

    อย่ามาตลก ผู้ชายหล่อๆอย่างฉันไปคิดสั้นชอบเพื่อนสนิทหรอก หุๆไอ้เต้ผลักหัวฉันเล่น

     

     

     

    พอได้เวลาเข้าเรียนก็พบว่านายซิงเกิ้ลกับฮันนี่อยู่ห้องเดียวกับฉัน สวรรค์เล่นตลกอีกแล้ว ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเจอหน้าสองคนนี้อย่างยิ่ง เพราะเรื่องของเจ๊ก็ทำให้ฉันหัวปั่นมากพออยู่แล้ว ฉันมั่นใจเลยว่าจะต้องมีคำถามมากมายพรั่งพรูออกมาจากปากนายซิงเกิ้ลแน่ๆ

     

    ฉันพยายามไม่พูดไม่จากับสองคนนั้น แต่พวกเขาก็มีความพยายามกันเหลือเกินที่จะชวนฉันคุย

     

    ซัมวันเป็นอะไรไป ทำไมสีหน้าดูแย่จังฮันนี่ถามฉันอย่างสงสัย

     

    “...” ฉันไม่ตอบ บอกแล้วไงว่าตอนนี้ฉันไม่อยากคุยกับสองคนนี้

     

    เอ๋? ไม่สบายอีกแล้วเหรอฮันนี่ยังพยายามต่อ

     

    ไม่ใช่เรื่องของเธอ!ฉันเผลอตะคอกออกมาอย่างเหลืออด

     

    ยัยวุ้นได้ยินอย่างนั้นจึงหันมาฉุดฉันให้ลงไปนั่งที่ตามเดิม ไอ้เต้ทำคิ้วขมวดกันอีกแล้ว...

     

    ทำไมต้องตะคอกกันด้วยฮะ?! ฮันนี่เป็นห่วงเธอนี่มันผิดใช่มั้ย?! เธอบอกฉันเองว่าเธอเกลียดคนที่ชอบตะคอก งั้นฉันก็เกลียดเหมือนกัน!!!นายซิงเกิ้ลหันมาตะคอกฉันกลับ

     

    ให้มันได้อย่างนี้สิ!!! อย่ามายุ่งกับฉันแล้วกัน!

     

    ตอนนี้อารมณ์ฉันกำลังเดือดปุดๆ ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด เรื่องใหญ่กว่าเดิมแถมยังทะเลาะกันเองอีก

     

    เฮ้ย ใจเย็นๆดิวะยัยวุ้นพยายามไกล่เกลี่ย

     

    ฉันก็ขอโทษแทนมันด้วยแล้วกัน แม่นี่มันกำลังเครียดนิดหน่อยไอ้เต้หันไปอธิบายให้นายซิงเกิ้ลกับฮันนี่

     

    พูดเหมือนพวกนายไม่เครียดงั้นแหละฉันบ่นอุบ

     

    แล้วยังไง? ทำไมต้องพาล คุยกันดีๆไม่ได้เหรอไงนายซิงเกิ้ลยังไม่เลิกรา หาเรื่องฉันจนได้

     

    ฉันไม่ได้พาล ต้นเหตุก็มาจากพวกนายนั่นแหละ...ช่างมันเถอะ!เหอะ!!! หลุดปากอีกแล้วฉัน

     

    เพลาๆหน่อยยัยซัมวันไอ้เต้พูดปราม

     

    ว่าแต่ฉันสงสัยมานานแล้วว่าทำไมไอ้โปเต้มันถึงดูเป็นผู้ใหญ่ซะเหลือเกิน =__=;;; เข้าใจคนนู้น พูดปลอบคนนี้ เดี๋ยวอย่างโน้น เดี๋ยวอย่างนี้ พับผ่า!

     

    อะไร! อย่ามากล่าวหาสิ แล้วต้นเหตุอะไร พูดให้เคลียร์ซิซิงเกิ้ลว่าต่อ

     

    ก็บอกว่าช่างมันไง ฉันขอโทษ!! พอใจรึยัง?! เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว ปวดหัว!!!ฉันพูดตัดบทเพราะไม่อยากจะพูดอะไรต่อไปอีก

     

    ไอ้เต้คงจะหมดความพยายามก็เลยเงียบ ตอนที่พวกเราทะเลาะทั้งห้องเงียบกริบเลยนะ พอฟังกันจบก็หันไปซุบซิบกัน พับผ่า!!!

     

    ไอ้พวกที่นินทาชาวบ้านเขาน่ะ หุบปากซะ หมดอารมณ์ว้อย!

     

    พอฉันเก็บของเสร็จก็เดินกระทืบเท้าปึงปังออกมาจากห้องทันที ตอนแรกก็กะว่าจะไปหาเจ๊ที่ห้องเหมือนกันนะ แต่พอนึกว่าต้องให้เวลากับเจ๊หน่อยฉันก็ล้มเลิกความคิดแล้วก็ตรงดิ่งกลับคอนโดทันที

     

    ระหว่างทางฉันแวะร้านสะดวกซื้อนิดหน่อยเพราะขนมที่บ้านหมดเกลี้ยงเลย เดินๆดูไปก็ไปจ๊ะเอ๋กับป๊อกกี้รสสตรอเบอร์รี่ของโปรดของเจ๊ ฉันหยิบมันมาสองสามกล่องแล้วก็หยิบอย่างอื่นอีกนิดหน่อยก็เดินไปจ่ายเงิน

     

     เมื่อถึงคอนโดแล้วฉันก็จัดการเก็บของเข้าตู้ให้เรียบร้อย ฉันเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อจะหาน้ำมาดื่มแก้กระหายนิดหน่อยก็ต้องเจอกับกระดาษโน้ตที่เจ๊เขียนทิ้งไว้

     

    กับข้าววางอยู่บนโต๊ะแล้ว จะกินก็อุ่นเองเขียนไว้เท่านี้แหละค่ะ

     

    แสดงว่าเจ๊ยังห่วงว่าฉันจะหิวตายใช่มั้ย...

     

    เหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างมาจุกอยู่ที่คอ ความรู้สึกผิดเข้ามาเกาะกุมอย่างช้าๆ ฉันควรจะทำอะไรต่อไป...

     

     

     

    เหมือนทุกๆวัน ก่อนเข้านอนฉันจะต้องเปิดโคมไฟทีหัวเตียงก่อนที่จะเดินไปปิดสวิตช์ไปที่ข้างๆประตู จู่ๆมือถือก็สั่นครืดคราดข้างๆโคมไฟ เมื่อมองหน้าจอก็เห็นว่าเป็นยัยวุ้นเลยกดรับ

     

    แกโอเคใช่มั้ย?” นี่แกโทรมาถามสารทุกข์สุขดิบหรือเนี่ย???

     

    อืม สบายดี ยังไม่อดตาย

     

    ฮะๆ งั้นก็ดีแล้ว เต้เล่าให้ฉันฟังหมดแล้วล่ะ ถ้าแกแอบชอบที่รักฉันจะตรอมใจตาย กั่กๆฉันนึกตามที่ยัยวุ้นพูด แหม...โดนพูดตัดหน้าซะแล้ว

     

    แหย่มันเล่นนิดหน่อยเองแหละน่า ว่าแต่แกหึงฉันรึเปล่าวะ?” หุๆ ยุเข้าไป ยุเข้าป๊ายยย

     

    ไม่ใช่เรื่อง! มันไร้สาระเกินกว่าที่ฉันจะหึง แกสบายใจได้เชอะ! ใช้คำพูดเดียวกันอีกต่างหาก ไม่ใช่เรื่อง!

     

    มันพยายามจะขุดเรื่องตลกต่างๆมาเล่าให้ฉันรู้สึกดีขึ้น แต่มันก็ขอวางสายก่อนเพราะฝืนหนังตาตัวเองไม่ไหว

     

    ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนฉัน ขอบคุณที่ไว้ใจกัน สวัสดี!!!ฉันบอกลามันด้วยประโยคนี้แหละค่ะ ซึ้ง...?

     

    พอวางสายเสร็จฉันก็เตรียมตัวจะเฝ้าพระอินทร์แล้วล่ะ แต่โทรศัพท์เจ้ากรรมก็สั่นอีกเป็นครั้งที่สอง คนๆนั้นไม่ใช่ใคร...เพื่อนสนิทอีกคนของฉันเองค่ะ

     

    อะไรกัน กลัวฉันจะฆ่าตัวตายหรือไงฮะ?” ฉันโวยวายเมื่อไอ้เต้ถามประโยคเดียวกันกับหวานใจของมัน

     

    พวกฉันเป็นห่วงแกไม่ได้เลยใช่มั้ย เฮอะ!ดูมันงอน! ทำไมผู้ชายขี้งอนอย่างงี้ฟะ!!!

     

    โถๆ ได้สิจ๊ะ ฉันผิดเอง แหะๆๆๆ

     

    ฉันมีเรื่องจะคุยกับแกไอ้เต้พูดเสียงเครียด

     

    แกจะบอกรักฉันเหรอ อย่านะโว้ย ไหนแกบอกว่าจะไม่โง่ชอบเพื่อนสนิทตัวเองไงฉันแหย่มันเล่น

     

    ไอ้นี่เดี๋ยวปั๊ด! ฉันจะคุยเรื่องเมื่อตอนเย็นตอนเย็น...ตอนที่ทะเลาะกัน?!

     

    อะไร จะคุยอะไร ตอนนั้นฉันโมโหนี่หว่า

     

    ฉันรู้แกโมโห ฉันรู้ว่าแกเครียด แต่แกไม่ควรจะพาลใส่มันนะ

     

    อะไรเล่า ก็ฉันรำคาญสองคนนั่นนี่นา ตัวต้นเหตุแท้ๆ เฮอะ!

     

    หยุดเลย ไม่ต้องโทษใครทั้งนั้น ฉันบอกว่าแล้วไม่มีใครผิด รวมถึงตัวแกเองด้วย เลิกโทษตัวเอง โทษคนอื่นได้แล้วง่า –O- มันมาจะไม้ไหนล่ะเนี่ย

     

    อย่ามาเทศน์กันน่า แกไปฝึกมาจากไหนฮะ? เมื่อก่อนล่ะไม่เค้ยไม่เคยมีสาระ เดี๋ยวนี้ล่ะหายใจเข้าออกไปพุธโธล่ะมั้ง

     

    มันไม่ใช่เรื่องตลก เข้าใจที่ฉันพูดแล้วใช่มั้ย?” ไอ้เต้ถามย้ำ

     

    อืม ไอ้เต้...ถึงเจ๊จะโกรธฉันแต่เจ๊ก็ไม่ใจร้ายให้ฉันท้องกิ่วว่ะฉันพูดไปก็นึกถึงเจ๊ ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง...

     

    เออ...ยังไงก็ฝันดีนะโว้ย ฉันไปนอนก่อนล่ะ สวัสดี!

     

    ไอ้โปเต้...ขอบคุณที่เข้าใจกัน ขอบคุณที่เป็นห่วงกัน ขอบคุณสำหรับคำว่าเพื่อน...สวัสดี!!!

     

    >O< ฉันพูดอะไรออกปายยย ฮ่าๆ ไม่รู้สิ เพียงแค่วันนี้วันเดียวที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าพวกมันสองคนเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับมากกกก เพื่อนแท้...ฮะๆ

     

    ฉันก็ไม่ไหวเหมือนกัน ฮะๆ วันนี้เจออะไรมาเยอะแยะ แถมยังร้องไห้อีกต่างหาก เหนื่อยมากๆแถมยังเพลียอีกต่างหาก ปากก็บอกง่วงแต่ทำถึงข่มตาหลับไม่ได้สักทีนะ! ฉันนอนพลิกไปพลิกมากระสับกระส่ายอยู่นาน ก็หันไปเจอะเข้ากับโทรศัพท์มือถือตัวเอง...หรือเพราะไม่ได้คุยกับเขาคนนั้น...???

     

     

    ----- To be continued -----

     

    อ๊า เป็นไงกันมั่งคะ >__< ดู...มาอัพก่อนจนได้ =__=;;

    ตอนนี้นิยายแทบจะไม่มีเหลือแล้ววว อ๊างงง

    ตอนนี้โปเต้ดูผู้ยั้ยผู้ใหญ้เนอะ น่ารัก! -.,-

     

    เจ๊ซัมเมอร์จะเป็นยังไงต่อน้า

    คิดๆแล้วสงสารซิงเกิ้ล =__=;;;

    อีกหน่อยจะมีบทสวีทเยอะขึ้นนน แบบคงจะเยอะมากกกก –O-^

    เพราะ...หึๆๆ ไม่บอก กั่กๆๆ ต้องติดตามๆๆ

     

    ทำไมคนเม้นท์เริ่มถดถอย TT^TT

    ไม่มีกำลังใจจะแต่งเลย แง้ TOT

    ปุ้ยเปิดเทอมวันที่ 17 นี้แล้ว >O<

    นิยายสงสัย...หึๆๆๆ

    ใครเปิดวันไหนก็บอกกันบ้างนะคะ ^^”

     

    $m[i]LeYz dEviL

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×