คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4 ที่ปรึกษา...
Chapter 4
ที่ปรึกษา...
ใช่แล้ว! คนที่โทรมาหาฉันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากตานี่อีกแล้ว ด้วยความที่ฉันยังคงช็อคไม่หายทำให้นายนั่นคิดเตลิดไปไกลว่าฉันโกรธเป็นฟืนเป็นไฟถึงขนาดที่ฉันไม่ยอมคุยกับเขา
“ซัมวันคร้าบ ผมขอโทษน้า ทีหลังจะไม่ว่าอะไรแล้ว ขอร้องเหอะนะ คุยกับฉันเถอะ!” เขาส่งเสียงวิงวอนขอร้องฉัน
ให้ตาย! ทำไมเขาต้องพูดอะไรขนาดนี้ด้วย?! แล้วไหนจะสรรพนามที่ใช้แทนตัวเองเมื่อกี้นี้เอง ...ผมงั้นเหรอ? ฮะๆ
“รู้แล้วๆ ฉันไม่ได้โกรธอะไรนายขนาดนั้นซะหน่อย”
“ไม่โกรธอะไร เล่นออฟไลน์หนีฉันซะขนาดนั้น” เขาเถียง
“ก็...ฉันแค่เพลีย วันนี้เหนื่อยมามากแล้ว ฉันเปิดคอมพ์นานๆไม่ได้ ปวดตา” ตอแหลทั้งเพ! =__=;;;
“อ้าวเหรอ ยังไงฉันก็ขอโทษนะ”
“พอแล้ว ขอโทษอยู่นั่นแหละ นายไปฆ่าใครตายเหรอไงฮะ? แล้วนี่ไปเอาเบอร์ฉันมาจากไหนเนี่ย”
“แค่นี้เอง...ง่ายนิดเดียว ดีดนิ้วทีนึงก็ได้แล่ว!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงทำนองว่าภูมิใจเหลือหลาย
“หึๆๆ งั้นเหรอ...”
“คะ...ครับ เธอคงไม่คิดอะไรแผลงๆหรอกเนอะ ฮะๆ” ซิงเกิ้ลหัวเราะแห้งๆ
“เชอะ ไม่หรอกน่า ว่าแต่ทำไมต้องลงทุนถึงขนาดโทรมาง้อเลยเนี่ย”
จริงมั้ยล่ะคะ? ทำไมต้องโทรมาด้วย -__-
“อ้าว! ฉันเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกคนรอบข้างนะ”
“แหม...คนดีจริงจริ๊ง! งั้นไม่มีอะไรแล้วใช่ป้ะ วางนะ สะ...”
“เดี๋ยวๆๆๆๆ ฉันอุตส่าห์โทรมาก็คุยกับฉันหน่อยจิ นะๆๆ นะครับนะ” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูด ‘สวัสดี’ จบเขาก็ขัดขึ้นมาก่อน
ว่าแต่เมื่อกี้อะไรนะ นะครับงั้นเหรอ กรี๊ดดดด >.<
“นายก็ไปคุยกับแฟนนายสิยะ ถ้าฮันนี่รู้โกรธนายตายไม่รู้ด้วย ฉันไม่รู้เรื่องด้วยนะ ฮ่าๆๆ”
แต่พอมาคิดอีกทีฉันจะผลักใสเขาไปเพื่ออะไร?! ฉันต้องตีสนิทกับเขาไว้นี่หว่า =[]=
“ง่า เธอรังเกียจฉันเหรอ ถึงได้ไล่ให้ฉันไปคุยกับฮันนี่น่ะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจ
อะไรจะขนาดน้าน! พ่อคนเซ้นซ์สิทีฟ~
“อ้าว! เป็นงั้นไปนายนี่ ฉันหมายถึงถ้าฮันนี่รู้เข้ามันจะไม่ดี เข้าใจมั้ย? เดี๋ยวเธอจะคิดว่าทำไมเป็นแฟนกันถึงไม่คุยกัน ดันไปคุยกับคนอื่นซะได้”
“ใครบอกว่าคนอื่น เธอก็เพื่อนฉันคนนึงนะ! เพื่อนคุยกับเพื่อนมันจะผิดตรงไหน!!!” เขาเริ่มขึ้นเสียง
“นี่! มันจะมากไปแล้วนะ โกรธใครก็อย่ามาพาลใส่ฉันสิ! แล้วอย่ามาตะคอกใส่ฉันด้วย ฉันไม่ชอบ!!” ฉันกดตัดสายทิ้งก่อนจะโยนโทรศัพท์ไว้ที่หัวเตียง แล้วล้มตัวลงนอนกอดหมอนข้างที่กอดอยู่เป็นประจำทุกคืน
เชอะ!!! ทำไมต้องตะคอกกันด้วย ฉันอุตส่าห์เห็นใจไม่อยากให้นายกับฮันนี่ผิดใจกันก็เท่านั้น! ฉันผิดตรงไหน ใครก็ได้บอกฉันที!!!
~ยัยขี้เหร่รับโทรศัพท์ด่วนนนน ถ้าไม่รับจะ...~
“อะไร?!” ฉันตะคอกใส่โทรศัพท์ไปบ้างเมื่อเห็นว่าเบอร์ที่โชว์เป็นเบอร์เดียวกับเมื่อครู่
“คือ...คือฉันลองคิดดูแล้วเธอไม่ได้มีส่วนผิดอะไรเลย ฉัน...ฉันขอโทษ ยกโทษให้ฉันทีนะ!” เฮอะ! จะมาขอโทษงั้นเหรอ?!
“อะไรกันพ่อคุณ!! เมื่อกี้ยังตวาดอยู่ฉอดๆๆๆ ทีอย่างนี้ล่ะมาพูดเสียงอ่อยขอโทษอย่างนู้นขอโทษอย่างนี้ เห็นฉันเป็นที่ระบายเหรอไง!” ฉันพูดออกมาอย่างเหลืออด
อะไรกัน! อารมณ์แปรปรวนเป็นบ้า
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันเป็นห่วงเรื่องของฮันนี่ แล้วเมื่อกี้ก่อนหน้าที่เธอจะออนฉันก็เพิ่งจะทะเลาะกับฮันนี่มา เลยควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้น่ะ”
“แล้วไง รู้อย่างนี้แล้วยังจะคุยกับชาวบ้านเขาอีกเหรอ ถ้ารู้ตัวก็ต้องคิดบ้างสิว่าถ้าเกิดพูดอะไรออกไปทั้งๆที่อารมณ์นายยังไม่คงที่อยู่แบบนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น แล้วขอโทษ! ฉันเกลียดคนที่ชอบตะคอกเป็นที่สุด!!!” ใช่ ฉันเกลียด ถึงแม้บางทีฉันจะทำเหมือนกันก็เถอะ ตอนนั้นฉันก็เกลียดตัวเองเหมือนกัน!
“แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ ฉันก็สำนึกผิดอยู่นี่ไงเล่า”
“คิดสิ! ตอนนี้ฉันโกรธมากกว่าเมื่อกี้อีกนะ ตอนแรกว่าจะคุยด้วยดีๆ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์แล้ว”
หัวเสีย! หัวเสียๆๆๆ!!! หงุดหงิดว้อย!!
“โอ๊ยยยย ขอโทษคร้าบ! ผมสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกแล้วครับ ขอโอกาสให้ผมอีกสักครั้งนะ น้า!”
“แน่นะ” เฮ้อ...นี่ก็อีกข้อล่ะที่ฉันเกลียดตัวเอง ใจง่ายชะมัด! T^T
“แน่นอนครับพ้ม!” ตกปากรับคำกันไปเรียบร้อย...
“แล้วพอจะบอกฉันได้มั้ยว่าทะเลาะอะไรกัน เผื่อฉันจะช่วยอะไรได้ ถึงจะช่วยไม่ได้ก็เป็นที่รับฟังก็ยังดี นายจะได้สบายใจขึ้น” ฉันเริ่มเข้าแผน ต้องทำให้เขาวางใจให้ได้!
“ได้สิ! ถ้าเป็นคนอื่นฉันไม่เล่าหรอกน้า ถ้าเป็นเธอฉันเล่าก็ได้”
“ทำไมล่ะ...นายไม่ได้เล่าให้คนอื่นฟังอีกเหรอ อืม...อย่างไอ้เต้เงี้ย”
“ไม่ล่ะ...เพราะเธอคือคนพิเศษนะ” ทันทีที่เขาตอบกลับมา หัวใจฉันเต้นถี่ไม่เป็นจังหวะ มือไม้สั่นไปหมด มันเกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย?!
แค่คำพูดเพียงคำเดียวเนี่ยน่ะเหรอ...คนพิเศษ...???
“ซัมวัน! เธอยังอยู่ในสายรึเปล่าน่ะ?!” เสียงของซิงเกิ้ลทำให้สติฉันกลับมาอีกครั้ง เขาคงจะเรียกหลายครั้งแล้วแต่ฉันยังคงอึ้งอยู่เลยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“ยังอยู่ๆ งั้นเล่ามาสิ”
“ก็ตอนที่ฮันนี่โทรมาบอกว่าถึงบ้านแล้วน่ะ ฉันได้ยินเสียงผู้ชายลอดเข้ามาด้วย แล้วพอถามว่าใคร เธอก็ตอบตะกุกตะกัก อย่างนี้มันน่าสงสัยใช่มั้ยล่ะ?! พอฉันถามให้แน่ใจเธอก็ตอบกลับมาว่าฉันไม่ไว้ใจบ้างล่ะ จับผิดบ้างล่ะ ฉันถามหน่อย...ฉันผิดเหรอ? ฉันผิดใช่มั้ยที่หวงเขาน่ะ??” เขาเล่ามาเสียยืดยาว พอจะจับใจความได้ว่าเขาหึงฮันนี่นั่นล่ะ
“นายไม่ผิดหรอกน่า แล้วผู้ชายคนนั้นคือใครน่ะ”
“ฮันนี่บอกว่าเป็นเพื่อนในห้อง เจอกันกลางทางเขาเลยอาสาไปส่งที่บ้าน แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องส่งกันถึงบ้านด้วย?! พอฉันจะไปส่งก็ปฏิเสธ ให้ตายสิ!!!”
“ใจเย็นๆสิ ฉันเข้าใจว่านายรู้สึกยังไง การหึงหวงมันก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา อันนี้ทุกๆคนก็คงเป็นกันนั่นล่ะ จะมากจะน้อยก็อีกเรื่องนึง แต่มันก็ต้องมีขอบเขตกันบ้างนะ นายลองคิดอีกแง่สิ อย่างน้อยฮันนี่ก็ถึงบ้านปลอดภัยดีใช่มั้ยล่ะ หรืออยากจะให้ฮันนี่กลับบ้านเองคนเดียวน่ะเหรอ มันอันตรายไม่ใช่เล่นเลยนะ” โถๆๆๆ ฉันต้องเล่นบทแม่พระหรือเนี่ย O-
“...” ปลายสายเงียบไป ฉันจึงเสริมต่อ
“ฉันจะบอกอะไรไว้ให้ การหึงหวงมันก็เหมือนการแสดงออกว่านายแคร์แฟนนายอยู่เหมือนกัน ฉันว่านายควรจะไปอธิบายให้ฮันนี่เข้าใจซะ ดีกว่ามานั่งหัวเสียกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ จริงมั้ย?” เมื่อไหร่บทเทือกนี้จะหมดสักที! T^T
“เฮ้อ!!! ฉันต้องขอบคุณเธออีกครั้งนะ! เธอนี่น่ารักจัง เจอกันคราวนี้เดี๋ยวจุ๊บทีนึง ฮ่าๆๆ” บรรยากาศตึงเครียดเมื่อครู่หายไปในบัดดล สภาวะกลับคืนสู่ปกติอีกครั้ง
“มากไป! น้อยๆหน่อย ฉันไม่เล่นด้วยหรอกนะยะ”
“แฮะๆ เธอน่าจะดีใจน้าที่มีคนหล่ออย่างฉันจุ๊บแก้มน่ะ มันไม่ได้หากันได้ง่ายๆเลยน้า” เขาพูดล้อเลียน
“ยังจะเพ้อเจ้ออีก อยากเจอหมัดเหรอไงยะ เชอะๆ ฉันเป็นผู้หญิงนะยะ จะให้ผู้ชายหอมแก้มได้ไง คิดบ้างสิ” ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าหน้าร้อนๆนะ หรือฉันจะไม่สบายล่ะเนี่ย
“แหม...แค่หอมแก้มเอง อ่ะแน่ะ...ไม่เคยอ่ะดิ๊ ฉันจะได้ประเดิมเหรอเนี่ย หายากๆ ฮ่าๆ”
“พูดมากน่า! จะเคยไม่เคยมันก็เรื่องของฉันย่ะ แล้วใครบอกว่านายจะได้ประเดิม ฮะ?! ฉันไปตกลงกับนายเมื่อไหร่ไม่ทราบ!!”
“ครับๆๆ แหย่นิดแหย่หน่อย จริงๆก็เขินล่ะว้า” น้ำเสียงแกวอนโดนตบมากเลยซิงเกิ้ล - -*
“เอ๊ะ! เดี...”
“รู้แล้วคร้าบๆ ไปนอนได้แล้ว เหนื่อยไม่ใช่เหรอ?” มีไล่ให้ไปนอน เดี๊ยะๆ -__-+++
“ไม่ต้องมาไล่เลย ใครบอกว่าฉันเหนื่อย ฉันไม่ง่วงง่ายๆหรอก ไม่มี้~” ฉันเถียงคอเป็นเอ็น
“อย่าดื้อสิ! ก็บอกเองว่าเหนื่อยนี่นา อยากคุยกับฉันต่อล่ะซี้” ซิงเกิ้ลพูดกลั้วหัวเราะ ถ้าให้ฉันเดาหน้าของหมอนั่นตอนนี้ล่ะก็คงจะยิ้มเยาะสะใจที่ยั่วฉันได้แหงๆ
“ใครบอกเล่า! ฉัน...เอ่อ...ฉัน...ฉันยังไม่ง่วงหรอก เชอะ!”
ง่า...จริงๆง่วงนะ ตาปรือๆแล้วล่ะ แต่...คุยกับหมอนี่แล้วสนุกดีนี่นา ไม่น่าเบื่อด้วยง่ะ
“งั้นคุยกันอีกสิบนาทีนะ แล้วไปนอนได้แล้วครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไม่ไหวน้า”
“เป็นห่วงอ่ะดิ๊” ฉันสวนทันควัน
“ช่าย!! เป็นห่วงหรอกน้าถึงได้ให้ไปนอนเนี่ย เดี๋ยวไม่มีคนให้ระบายล่ะยุ่งเลย แฮะๆๆ”
ที่ระบายงั้นเหรอ...ฮะๆ จะเป็นอะไรไปได้ล่ะ
เช้าวันรุ่งขึ้น...ฉันรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย คงจะเป็นเพราะว่านอนไม่พอล่ะมั้ง ฉันเป็นแบบนี้ประจำจนชินซะแล้วล่ะ เดี๋ยวกินยานิดหน่อยก็หายแล้ว เมื่อคืนที่ว่าสิบนาทีไปๆมาๆต่อตั้งครึ่งชั่วโมงแน่ะ แหม...มันติดลมนี่นา หมอนั่นก็คุยน่าเบื่อซะที่ไหนล่ะ
วันนี้ฉันมาโรงเรียนพร้อมๆกับเจ๊แต่เมื่อถึงโรงเรียนก็แยกย้ายกันไปที่ห้องของตัวเอง ฉันเดินไปเก็บของที่ล็อคเกอร์ก่อนจะเข้าห้องเรียน อาการปวดหัวยังไม่บรรเทาลงแม้แต่น้อยฉันจังตัดสินใจฟุบหัวลงกับโต๊ะเพื่องีบสักพัก
“อะไรกัน นอนดึกอีกล่ะสิ ถึงปวดหัวไม่เป็นท่าแบบนี้น่ะ ฮะ?” ยัยวุ้นคงจะเพิ่งมาถึงแล้วกล่าวทักฉันอย่างรู้ทัน
“แหงล่ะ เข้ามาที่ห้องก็กอดโต๊ะนอนซะอย่างนั้น กินยาหรือยังล่ะ?” คราวนี้เป็นไอ้เต้ค่ะ ไม่อยากเชื่อว่ามันก็ห่วงฉัน! โอ้วกล้วยทอด! มันน่าแปลกเสียจริงๆ!
ตอนนี้นักเรียนต่างก็มากันเยอะแล้ว มีเสียงเจื้อยแจ้วเป็นระยะไม่ขาดสาย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดาของเด็กทุกชั้นตั้งแต่เด็กยันโตที่จะต้องคุยกันก่อนเข้าเรียน แต่ก็นั่นล่ะ! ถึงจะได้คุยกันก่อนแต่พอเรียนจริงๆก็ยังคุยอยู่ดี มันถูกถ่ายทอดกันมาตั้งแต่ต้นตระกูลนั่นแหล่ะค่ะ
“กินแล้ว แต่ยังไม่ดีขึ้นเลย” ฉันเงยหน้าขึ้นมาตอบมัน รู้สึกตาลายด้วยแฮะ โอย~ ตายแน่ฉัน
“เออ...แล้วเมื่อวานไอ้ซิงเกิ้ลได้โทรไปหาแกรึเปล่าวะ มันโทรมาถามเบอร์แกน่ะ” เมื่อเต้พูดจบประโยคก็ทำให้ฉันกระจ่างทันที
แหม...ดีดนิ้ว ที่ไหนได้...ใช้นิ้วกดโทรศัพท์ต่างหาก โธ่!~
“อะไรนะ?! นี่ฉันพลาดอะไรไปรึเปล่าแก” ยัยวุ้นถามอย่างตื่นเต้น สังเกตได้จากดวงตาของมันที่ตอนนี้ได้เบิกโพลงขึ้นมาทำให้ตามันยิ่งโตเข้าไปใหญ่
“เปล่า หมอนั่นโทรมาปรึกษาฉันเรื่องฮันนี่น่ะ” จะให้เล่าหมดนั่นน่ะเหรอ...ทั้งวันยังไม่จบเลยค่ะ!
“แล้วทำไมเขาถึงเลือกแกวะ คนอื่นมีเยอะแยะ” วุ้นใช้มือซ้ายเท้าคางกับโต๊ะเรียนพลางทำหน้าครุ่นคิด
“คงจะคุยเรื่องนี้กันในเอ็มอยู่แล้วพอดียัยนี่ปิดคอมพ์ไปก่อนรึเปล่า?” ไอ้เต้ตอบมาอย่างรู้ทัน
“ฮะ? ฉันพลาดอะไรไปอีกแล้ว =__=;;; นี่ถึงขั้นแลกเมล์กันแล้วเหรอเนี่ย ว้าวๆๆ!” ตื่นเต้นอีกแล้วแม่คุณ!!!
“จะบ้าเหรอ ก็ตอนแรกฉันกะจะแอดเมล์เพื่อที่จะตีสนิทตามแผนไง ที่แกบอกว่าช้าแต่ชัวร์นั่นน่ะ อย่างที่ไอ้เต้มันบอก ฉันปวดตาก็เลยปิดคอมพ์ แล้วยังคุยกันไม่จบหมอนั่นก็เลยโทรมาปรึกษาต่อ ก็แค่นั้น...” ฉันพูดเนือยๆ
“ไม่มีอะไรจะถามแล้วใช่ป่ะ อยากไปห้องพยาบาลว่ะ พวกแกไปส่งฉันหน่อยดิ แหะๆๆ”
พูดเป็นนัยๆว่าอยากโดดนั่นแหละ!
“ยัยบ้า ฉันรู้หรอกนะว่าคิดอะไรอยู่ แต่ก็เอาวะ คงคุยกันถึงดึกล่ะสิ ไปนอนพักเถอะ” เพื่อนรัก! ฉันรักแกจังไอ้เต้ ^O^ เอ่อ...แบบเพื่อน - -* ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นกันก็ได้!
“นั่นสิ เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง” แหม...แกก็ด้วยยัยวุ้น >w< รู้ใจฉันซะจริงจริ๊ง!
“อะไรกัน นี่เธอจะหลับไปถึงไหนเนี่ยฮะ? กะจะโดดทั้งวันเลยเหรอไง” ใครหว่า มาแว้ดๆข้างหูฉันเนี่ย TT^TT
“ฮ้าววว ~O~ เปล่าสักหน่อย! เจ๊นี่ก็...น้องสาวไม่สบายยังแว้ดได้เรื่อยๆเลยเนอะ เมื่อเช้าก็กินยาไม่เห็นเหรอ แง้! T^T” ฉันบ่นอุบเมื่อเห็นว่าเป็นเจ๊ซัมเมอร์ พี่สาวสุดสวยของฉันนั่นเอง
“นี่กี่โมงแล้วอ่ะ ทำไมรู้สึกหิวๆ”
“พักเที่ยงแล้ว ก็จะมาปลุกไปหาไรกินอยู่เนี่ย” พี่สาวใครหว่า น่ารักจัง!!! >O<
“แล้วดีขึ้นรึยังน่ะ นอนไม่ดูเวล่ำเวลาเลย ทำไรดึกๆดื่นๆฮะ? ไม่หลับไม่นอน” ง่า...จะตอบยังไงดี๊~~~
“แหะๆๆ” หัวเราะกลบเกลื่อนเป็นอะไรที่ฉันคิดได้ในตอนนี้!
อาการฉันดีขึ้นมากแล้ว คงจะเข้าเรียนช่วงบ่ายได้สบายมาก การเรียนวันพุธเป็นอะไรที่ไม่ค่อยโสภาเท่าไหร่สำหรับฉัน ทำไมน่ะเหรอ...เคมี! ฟิสิกส์! ชีวะ! ถาโถมเข้ามาภายในวันเดียวและติดต่อกันตลอดช่วงบ่ายเป็นเวลาสามชั่วโมง!!! รู้งี้นอนต่อซะก็ดีอ่ะ =__=;;; ทำไมฉันถึงจำตารางสอนตัวเองไม่ได้นะ T^T ไม่ใช่!!! เรื่องนี้ฉันไม่ผิด! ยัยวุ้นกับไอ้เต้ต่างหากที่ไม่บอกฉัน O-
“แก๊! หัวฉันยังไม่เข้าที่ก็ต้องมาเจออะไรโหดร้ายแบบนี้ตั้งสามชั่วโมง ฉันรับม่ายด้ายยยยย” ฉันโอดครวญ ให้ตาย! อย่างที่บอกนั่นแหละ เวลาสามชั่วโมงก็ช่างยาวนานเสียเหลือเกิ๊น ฉันยังไม่หายดีเลยนะ T^T
“สมน้ำหน้า แกน่าจะจำได้นะ วันพุธเป็นอะไรที่สุดๆแล้วล่ะ ช่วงเช้าก็โหดพอกันล่ะว้า ไว้อาทิตย์หน้าฉันจะโดนมั่ง โฮะๆ” วุ้นทำมือป้องปากตอนหัวเราะ พับผ่าสิ!! เหมือนอาซิ้มข้างบ้านเลยท่าหัวเราะเนี่ย!
“ไปกินไอติมกันเถอะ!!!” สะ...เสียงผู้ชายที่ไม่ใช่ไอ้เต้...=[]=;;
ระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินกลับบ้านพร้อมๆกับวุ้นและโปเต้ ก็มีเสียงผู้ชายคนนึงขัดก่อนน่ะเซ่!
“เอ่อ...ซิงเกิ้ล -__-^^” ให้ตาย...ไอ้นี่โผล่มาได้อย่างไร?!
“อ๊ะ...ฮันนี่ด้วย =__=;;;” หา...ฮันนี่...??? ทำไมแกทำหน้างั้นล่ะวุ้น...=[]=
“อ้าว! มากันหมดเลย หวัดดีๆ” เต้ทักทั้งสองคนก่อนใครเพื่อน
มีนายนั่นแหละตั้งสติได้ก่อนคนอื่นน่ะ เหอะๆ
“ดีค่ะ ^^ พอดีซิงเกิ้ลเขาชวนฮันนี่ไปทานไอศกรีมน่ะค่ะ ฮันนี่เลยมาชวนซัมวัน วุ้น แล้วก็เต้นั่นแหละ” นั่น! รอยยิ้มพิฆาตอีกแล้ว แจกจ่ายทั่วบ้านทั่วเมือง หน้าโรงเรียนนะยะหน้าโรงเรียน -__-
“เอาไง ฉันยังไงก็ได้อยู่แล้ว” เต้หันมาถามพวกเราบ้าง
“ถ้าเต้ไปวุ้นไปด้วยก็ได้ แกอ่ะ” วุ้นตอบตกลงแล้วหันมาถามฉัน
“พวกแกไปแล้วฉันไม่ไปได้ไงเล่า อีกอย่าง...วันนี้เจ๊ก็ไปช็อปกับเพื่อน ฉันเป็นอิสระ”
ว่าไปแล้วอะไรจะพอเหมาะพอเจาะขนาดนั้นก็ไปรู้ ปกติเจ๊ก็กลับพร้อมๆกับพวกเรานั่นแหละ แต่วันนี้เจ๊แกไปเที่ยวกับเพื่อนต่อซะงั้น เอาเถอะ! ถือว่าเป็นเรื่องดีแล้วกัน
“รับอะไรดีคะ?” พนักงานสาวถามหาออเดอร์ตามหน้าที่
ภายในร้านถูกตกแต่งเป็นสีหวานสดใส เฟอร์นิเจอร์ต่างๆเก๋ไก๋ดูมีสไตล์ พนักงานแต่งตัวน่ารักเข้ากับบรรยากาศ อ๋าย! ร้านนี้ฉันชอบ >.<
“ขอมะนาวเชอร์เบ็ตที่นึงค่ะ” ฉันเอ่ยปากบอกพี่พนักงานโดยไม่ได้ดูเมนูเลยแม้แต่น้อย ฉันไปที่ไหนก็ต้องชิมเจ้านี่แหละ มะนาววว มะน้าววมะนาววว ^O^
“อ๊า เธอสั่งตัดหน้าฉันง่ะ!” ซิงเกิ้ลพูดแก้มป่อง นายงอนฉันเหรอเนี่ย =__=;;;
“อะไรของนาย จะกินก็สั่งสิ...มะนาวเชอร์เบ็ตสองค่ะ” ฉันแว้ดๆๆนายนั่นแล้วก็หันไปสั่งเพิ่มเป็นสองที่
“เชอะ อย่างอื่นเยอะแยะมีไม่กิน มากินรสเดียวกันอีก” เขาบ่นงึมงำๆ แต่ขอโทษ...ฉันได้ยิน!
“บ่นอะไร เงียบๆไปเหอะน่า สั่งเพิ่มแล้วไม่ได้ยินเหรอ พวกแกล่ะเอาไร ฮันนี่ด้วย”
“ฮันนี่ขอสตรอเบอรี่แล้วกันค่ะ ^^ ราดแยมสตรอเบอรี่ด้วยนะคะ” เธอหันไปสั่งบ้าง
เชอะ! ไอศกรีมยังไม่พอ ต้องมีท็อปป้งท็อปปิ้งราดอีก
“ฉันขอช็อคโกแลตชิป...ส่วนเต้ก็กาแฟ?” ทันทีที่วุ้นหันไปถามแฟนหนุ่มอย่างรู้ใจ เต้ก็ยิ้มตอบแล้วพยักหน้าหงึกๆ
“แหม...วุ้นกับเต้นี่รู้ใจกันดีจริงๆเลยนะคะ ไม่เหมือนฮันนี่...ซิงเกิ้ลชอบทานรสอะไรฮันนี่ยังไม่รู้เลย ฮันนี่นี่แย่จังเนอะ” เธอก้มหน้าพลางเบะปากเหมือนคนจะร้องไห้
“อะไรกัน ฉันไม่ได้ชอบรสไหนเป็นพิเศษหรอกน่า ไม่ต้องคิดมาก พอดีวันนี้ฉันอยากกินรสมะนาวพอดีน่ะ ไม่เป็นไรหรอกครับ ^^” เขาลูบผมของเธอเป็นเชิงปลอบ
แหม...ใครๆก็มีคู่ แต่ฉันไม่มีใคร แง้!~ TOT
“เหอะ...เหอะ” ฉันหัวเราะแห้งๆขัดขึ้นอย่างช้าๆ มันไม่มีอะไรทำนี่ -__-
“เออนี่ แกไม่สบายแล้วแกกินของเย็นๆได้เหรอ เดี๋ยวก็เป็นหนักอีกหรอก” เต้ถามขึ้น
ให้ตาย! ยังจำกันได้อีก T^T ของกินอยู่ตรงหน้าจะมาขัดอาร้ายยยย
“อะไรกัน?? เธอไม่สบายเหรอ เป็นอะไรมากรึเปล่า?” เสียงใคร...=__=;;;
ฉันกำลังจะมองหาว่าใครเป็นคนถาม ก็มีมือๆหนึ่งมาทาบบนหน้าผากของฉัน แต่ก็ถึงกับผงะเมื่อรู้ว่าเจ้าของมือคือใคร...ซิงเกิ้ลนั่นเอง
บรรยากาศชวนให้อึดอัด ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาใดๆทั้งสิ้น แต่แล้วก็ยังดีที่พี่พนักงานมาเสิร์ฟไอศกรีมพอดี
“มะนาวเชอร์เบ็ตสอง สตรอเบอรี่ราดแยมหนึ่ง ช็อคโกแลตชิปหนึ่งและกาแฟอีกหนึ่ง ได้ไอศกรีมครบแล้วใช่มั้ยคะ...? ^^”
“...” ทุกคนยังคงเงียบ ฉันที่ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกก็ได้แค่ขานรับออกไป
“ค่ะ ครบแล้วค่ะ” แล้วทุกอย่างก็กลับมาเงียบอีกครั้ง...
“เอ่อ...ไม่เป็นไรมากแล้วล่ะ เมื่อเช้าปวดหัวนิดหน่อยน่ะ นอนไม่พอ” ฉันพูดทำลายความเงียบแล้วส่งถ้วยไอศกรีมตามที่ทุกคนสั่ง
สายตาของแต่ละคนต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง สำหรับยัยวุ้นนั้น...แววตาอึ้งๆบวกกับท่าทีเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ส่วนเต้...รายนี้จะส่อแววประมาณว่า ‘ทำไมไอ้ซิงเกิ้ลมันทำอะไรแบบนี้วะ?’ ทำนองนั้น -__-;;; (อะไร...สายตามันเป็นอย่างนี้จริงๆนะ ไม่ได้โม้ T^T) ส่วนฮันนี่...เธอมองไปที่ซิงเกิ้ลด้วยแววตาเจ็บปวด แถมยังเบะปากเตรียมระเบิดเสียงอีกต่างหาก ส่วนตาเพี้ยนซิงเกิ้ลนั่นน่ะเหรอ...ไม่รู้ไม่ชี้อะไรทั้งสิ้น ไม่ได้สนใจใครเล้ย! ส่วนฉัน...ฉันกำลังส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนยากทั้งสองอยู่น่ะสิ! T__T
คงกำลังสงสัยกันล่ะสิว่าซิงเกิ้ลอังหน้าผากฉันได้ยังไง ฉันนั่งหัวโต๊ะค่ะ ทางด้านขวาของฉันก็จะเป็นไอ้เต้กับวุ้น ด้านซ้ายก็เป็นฮันนี่กับซิงเกิ้ลโดยที่เขานั่งอยู่ด้านนอกหรือพูดง่ายๆก็ติดกับฉันนั่นแหละค่ะ!
และเหมือนสมองของไอ้เพื่อนเลิกสองตัวข้างๆฉันยังพอจะทำงานได้บ้างบางส่วน ก็เลยช่วยทำลายความเงียบอีกแรง
“เอ้าชิมๆๆ ไอศกรีมที่นี่ใช้ได้เลยยย อร่อยๆๆ” เต้ว่าพลางตักไอศกรีมรสมะนาวของซิงเกิ้ลแล้วยัดเข้าปากเขาเข้าไปทันที _ _”
“ใช่เลยๆ สงสัยรสสตรอเบอรี่ก็คงอร่อยเหมือนกัน น่าจะอร่อยทุกรสเลย ชิมดูสิๆ ^O^” ตายัยวุ้นมั่งล่ะ ชีก็ตักรสสตรอเบอรี่จ่อปากฮันนี่เช่นกัน ดูเหมือนแกจะไม่กล้ายัดเข้าไปนะนั่น -__-;;;
และดูเหมือน...เธอจะไม่เล่นด้วยซะแล้ว
“ฮันนี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวมา” เธอลุกออกจากที่ไปในขณะที่ยัยวุ้นก็ถือช้อนค้างอยู่อย่างนั้น ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าฮันนี่น้ำตาไหลลงมาแล้ว...
“แกสมควรจะตามไป...” ไอ้เต้หันมากระซิบข้างฉัน
“งั้นเดี๋ยวฉันมา กินกันไปก่อนแล้วกัน” ฉันลุกขึ้นไปตามฮันนี่ไป
ให้ตาย...ฉันควรจะสงสารยัยนี่มั้ยเนี่ย
------------ To be continue ----------
เอิ๊กๆ เป็นไงคะ ^O^ ค้างคากันอีกแล้วชิมิ เอิ๊กๆๆๆๆ
แกล้งคนอ่าน สนุกจริงหนอ ฮี่ๆ
ซิงเกิ้ลน่ารักถูกใจทุกคนมั้ยคะ ปุ้ยแต่งเองกรี๊ดเอง ฮ่าๆ
นางเอกเราซื้ออออซื่อเนอะ =__=;;;
ครั้งแรกในชีวิตที่แต่งให้นางเอกบ้องแบ๊วแถมต๊องอีกต่างหาก
ปกติจะฝีปากกล้า 55555+
ตอนนี้ปุ้ยแทบไม่เหลือนิยายในสต็อกแล้วง่ะ
ห้ามทวงจิกนิยายจากปุ้ยนะ ไม่มีจะลงให้ แหะๆๆๆ
กำลังปั่นตอนที่เจ็ดอยู่ค่ะ TT^TT เลยไม่มีเวลาไปอ่านของเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเลย -*-
พี่ฟูก :: อ๊า TT^TT ขอโทษจริงๆค่ะที่ยังไม่ได้ไปอ่านเลย T/l\T ยังไงก็ต้องอ่านแน่ค่ะ (แอบอ่านไปจึ๊งนึง แม่เรียกเลยต้องปิดคอมพ์เลย O-^)
พี่แน้ม :: จะตามเก็บค่ะ - -“
พี่แพร :: จะทวง อิชั้นจะทวงงงง 5555+
เจ๊โต๋ :: อัพด่วนนนๆๆๆ
เท่ห์ :: เดี๋ยวจะไปหาเก็ตนะ T^T
ฯลฯ ยังมีอีกเยอะ =__=;;;
ไปละๆๆๆ บ๊ายบาย เจอกันวัน...อาทิตย์มั้ง T^T
$m[i]LeYz dEviL
ความคิดเห็น