ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (fic exo) DRINK! -chanbaek-

    ลำดับตอนที่ #9 : PART 7 .GALLIANO.

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 57


    PART 7 .GALLIANO.
     
     
    ทำคนอื่นเจ็บพอรึยัง..?
    ทำลายเขาจนพอใจรึยัง..?
    ศักดิ์ศรีที่มีมันเพิ่มขึ้นรึเปล่า..?
     
    ที่ถามมา..
     
    อะไรคือค่าวัดของสิ่งเหล่านั้นหรอครับ?
    คุณตอบผมได้รึเปล่า?
     
     
     
         เมื่อลู่ฮานเดินออกมาจากโบสถ์ด้วยความยากลำบากก็ถูกลากให้เข้าไปนั่งที่รถของอีกคนโดยการบังคับ! แต่ขึ้นรถมาได้สักพักก็เพลอหลับไปด้วยความเหนื่อย
     
     
     
    "ลู่ฮานๆ"
     
        แรงเขย่าเบาๆที่แขนทำให้อีกคนตื่นขึ้นมาด้วยความง่วงลืมตาขึ้นมาก็เจอกับใบหน้าของคนเดิม มองไปรอบๆก็พบว่าที่ไม่ใช่สถานที่ที่คุ้นเคย เขาคิดว่าอีกคนจะพาเขากลับบ้านหรือไปส่งที่โรงแรมแต่เปล่าเลย รถมาจอดอยู่ที่..ผับงั้นหรอ? The base pub ถ้าจำไม่ผิด..
     
     
    "ผับผมเองหละ"
    "พามาทำไม.."
    "พาคุณนายหญิงมาดูร้านไงครับ"
    "ฉันไม่ใช่"
    .GALLIANO.

    "ได้กันแล้วจะให้เรียกอะไรละครับ"
     
    "ฉันไม่เต็มใจ"
    "แค่ร้องครางก็ถือว่าสมยอมแล้วละที่รัก"
     
     
          ร่างสูงพูดเสร็จก็หันมายิ้มให้อีกคนที่ใบหน้าค่อยๆแดงขึ้นเพราะความเขินหรือโมโหหรือสองอย่างรวมๆกัน
     
           ลู่ฮานเองก็ไม่แน่ใจ..
     
           แต่เขาไม่ได้สมยอมสักหน่อย..ร้องครางแต่ไม่เต็มใจก็ได้นี่.. นั่งคิดได้แปปเดียวก็ต้องหยุดเพราะแรงดึงที่แขนคล้ายว่าจะให้ลุกขึ้นลู่ฮานทำตาโตใส่อีกคนหวังจะใหกลัวแล้วปล่อย แต่เปล่าเลย! แรงที่ดึงกลับมากขึ้นเรื่อยๆแรงบีบก็เจ็บมากขึ้นอีก จำใจลุกขึ้นแต่เมื่อลุกขึ้นยืนก็ต้องทรุดลงที่เบาะเพราะความเจ็บที่นอกเหนือยจากข้อมือ! สะโพกไงละ!
     
     
    "โอ๊ย!.."
    "เห้ยพี่เป็นไร"
     
    "ยังเจ็บอยู่หรอ เดี๋ยวผมอุ้มไป"
     
     
          ความตกใจเพิ่มขึ้นเมื่อร่างของตัวเองลอยขึ้นจากเบาะแล้วอีกคนก็กำลังอุ้มเขาด้วยท่าเจ้าสาว!!
     
     
    "เขาเรือนหอกันนะฮะ" 
     
     
          ร่างสูงพูดโดยการเอาหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจรินรดอยู่ที่ซอกคอขาวอดไม่ได้ที่จะประทับริมฝีปากลงไป ทำเอาลู่ฮานขนลุกชันอยากจะลงเดินเองแต่มันเจ็บ เลยต้องปล่อยให้อีกคนอุ้มตัวเองเข้าไป ถ้าไม่เจ็บไม่ยอมหรอก!
     
     
    "ตอนเจ็บนี่ว่าง่ายจังเลยนะ
     
     
    ต่อไปต้องทำให้เจ็บบ่อยๆแล้วละ"
     
     
    "นี้นาย..! หยุดคิดเลยนะ! มันจะไม่มีครั้งต่อไป!"
     
     
         ถลึงตาใส่นี้คิดว่าน่ากลัวหรอ.. เฮ้อ ใครสั่งใครสอนให้ถลึงตาใส่เวลาอยากให้คนกลัว มันอยากให้คนอื่นอยากจะขย้ำมากกว่าน่ะสิ่
     
       ร่างสูงพาร่างบางเดินเข้ามาในผับของตัวเองที่ตอนนี้ยังไม่เปิดให้บริการเพราะเวลาที่ยังคงเช้าอยู่ ร่างสูงวางกวางน้อยไว้ที่เคาท์เตอร์ก้มลงสูดดมซอกคอขาวประทับริมฝีปากลงไปอีกครั้ง ทำรอยรักสีกุหลาบให้มันเห็นเด่นชัดมาขึ้นมือก็เริ่มลูบไลที่เอวบางด้วยความกระหายนิ้วมือหยาบสะกิดตุ่มใตสีชมพูสวยนั่นเพียงนิดเดียวมันก็แข็งขืนสู้นิ้วมือหยาบซะแล้ว..
     
     
    "หืม.. ที่พูดมาจริงหรอครับ.."  พูดไปก็ขบเม้มใบหูเล็กเบาๆจนมีเสียงครางออกมาจากกลีบปากหวาน
     
    "อะ..อื้อ.."
     
    "อะ..อื้อ.." ร่างสูงบดเบียดริมฝีปากลงไปที่ริมฝีปากของลู่ฮานด้วยความอ่อนโยนแต่คนที่นั่งอยู่บนเคาท์เตอร์กลับดิ้นไปมา อยากจะพลักออกไปแต่ก็พลักไม่ได้เพราะมือที่ถูกจับไว้ทั้งสองข้างจากมือหนาเพียงมือเดียว
     
     
     
    "อย่าดิ้นสิ่ฮะ เมื่อกี้ยังครางอยู่เลย" 
     
     
     
         พละออกจากริมฝีปากของอีกคน คิ้วขมวดเป็นปมพูดกับคนตรงหน้าที่ดูจะไม่ร่วมมือเอาซะเลยทั้งๆที่ของร่างบางมันก็เริ่มมีปฎิกิริยาแล้ว! บดริมฝีปากลงไปอีกครั้งด้วยความเอาแต่ใจปนความอยากเอาชนะ ขบเม้มริมฝีปากแรงๆให้ลิ้นหยาบได้เข้าไปลิ้มรสความหวาน ร่างบางที่โอนอ่อนไปแล้วนิดหน่อยแต่ก็ยังคงไม่หยุดดิ้น ลู่ฮานกัดริมฝีปากของอีกคนจนเลือดซึมถึงจะหยุดการกระทำนั้น
     
     
     
    "ออกไปนะ..โอเซฮุน"
     
     
     
         ร่างบางเริ่มรู้สึกเอียนกับคำว่สออกไปหรือคำที่บอกลางๆว่าให้ไปเพราะวันนี้พูดกับอีกคนไปแทบจะร้อยรอบแต่อีกคนกลับมีท่าทีเหมือนเดิม..
     
     
    ..หยุดแล้วก็..
     
     
     
    ..ทำต่อ!..
     
     
     
         คำที่พูดไปนี่เข้าหัวสมองบ้างรึเปล่าว่ะ!
     
     
     
        แต่ทุกความคิดต้องหยุดชะงัก ทุกการกระทำต้องหยุดลงเมื่อมีเสียงประตูร้านเปิดดัง ปัง! พร้อมกับบุคคลปริศนาที่ลู่ฮานไม่รู้จักแต่ พอมองไปที่เซฮุนดวงตาของเขาเบิกกว้างดูเหมือนจะตกใจมากกับคนที่เปิดประตูเข้ามาเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว! มือของเขาที่กุมมือผมไม่ให้ขยับจับบีบมันแรงขึ้นเมื่อคนๆนั้นเดิมเข้ามาเขามองผมด้วยสายตาดูแคลนนิดหน่อยซึ่งเขาคงคิดว่าผมเป็นคู่นอนของอีกคนแต่ผิดถนัด! ผมไม่ใช่ครับ ปรับความเข้าใจด้วย! แต่ผมก็ไม่คิดจะเถียงอะไรหรอกนะเพราะคนที่บีบมือผมเนี่ยสิ่บีบแรงจนผมรู้สึกเจ็บมากเลยละ สายตาของร่างสูงดูเปลี่ยนจากตกใจเป็นคนเย็นจนผมไม่แน่ใจว่าที่เขาบีบมือเพราะความกลัวหรือเพราะความแค้น..
     
     
     
     
     
    "มึง..มาทำไม.."


    .GALLIANO.

    "มึง..มาทำไม.."
     
     
     
     
     
    "มารื้อฝืนความหลังกับมึงมั๊ง"
     
     
     
     
     
    "ของมึงมันเก่าแล้วว่ะ กลับไปเหอะ"
     
     
     
     
     
        โอเซฮุนพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆมองไปที่อีกคนด้วยแววตาท้าทายทำเอาอีกคนกำมัดด้วยความโมโหแต่ยังคงก้าวเดินเข้ามาราวกับไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น
     
     
     
    "เฮอะ อย่างน้อยกูก็คนแรก"
     
     
     
     
    "คนแรกกับคนสุดท้ายมันต่างกัน"
     
     
     
           ตอนที่ทั้งสองถกเถียงกันมีอีกคนที่เซฮุนลืมไป ลู่ฮาน ไงละแต่ก็ดีแล้วจะได้มีเวลาติดกระดุมให้เข้าที่เข้าทางแต่ที่พูดกันนี่ไม่ใช่อย่างที่ลู่ฮานคิดใช่มั๊ย.. บ้าหน่า..ไม่ใช่หรอก
     
          โอเซฮุนหันไปมองลู่ฮานเพียงครู่เดียวก็หันกลับไปคุยกับบุคคลปริศนาที่จนถึงตอนนี้ลู่ฮานก็ไม่รู้ว่าคือใครแต่คุ้นหน้าเหมือนเคยเจอที่ไหนสักที่แต่คิดไม่ออก
     
     
    "มึงไปรอกูที่ห้องทำงาน เดี๋ยวกูตามไป"
     
    "เออจัดการเด็กมึงให้เรียบร้อย"
     
     
         ลู่ฮานไม่ใช่ของโอเซฮุนสักหน่อย.. ทำไมคนๆนั้นชอบมองด้วยสายตาแบบนั้นด้วยนะ
     
     
    "หรือจะให้เขาไปฟังความชั่วของมึงดีละ.."
     
     
    "หึ วันเดียวก็ไม่จบ มึงว่างพูดรึเปล่าละ?"
     
     
         เมื่อจบคำพูดของโอเซฮุน อีกคนก็หัวเราะเบาๆก่อนจะเดินไปที่ห้องทำงานของเซฮุน ลู่ฮานรับรู้ได้ว่าภายในประโยคที่พวกเขาคุยกันมันมีความแค้นปนอยู่ แต่นั่งคิดได้สักพักร่างเล็กก็โดนอีกคนอุ้มเข้าไปข้างในด้วยท่าเจ้าสาวอีกตามเคย ร่างสูงพาไปที่ดูเหมือนจะเป็นห้องไว้รับรองแขกวีไอพีทั้งหลาย มีทั้งไวน์ เบียร์ เหล้ายี่ห้อดังๆวางอยู่สองสามขวด ร่างสูงวางร่างบางลงบนโซฟาตัวยาวด้วยความอ่อนโยนพร้อมกับก้มลงมากระซิบด้วยถ่อยคำอ่อนหวาน
     
     
    "เดี๋ยวมานะครับ ..ภรรยา"
     
     
         ประโยคเดียวแต่มันละมุนนุ่มนวลทำเอาลู่ฮานเคลิบเคลิมจนไม่รู้ว่าร่างสูงเดินออกไปแล้วแต่เสียงปิดประตูทำให้ลู่ฮานตื่นจากภวังค์.. 
     
       เมื่อลู่ฮานเห็นว่าเซฮุนเดินลงไปที่ห้องทำงานตัวเองเพื่อไปเจอใครสักคนที่ลู่ฮานคุ้นหน้ามากๆเขาอาจจะเป็นลู่ค้าวีไอพีที่มาพักเมื่อสองวันที่แล้วหรือเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทอยู่แน่นอน มือเรียวหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงโทรออกไปหาเบอร์ลูกน้องคนสนิท เพียงครู่เดียวปลายสายก็กรอกเสียงลงมาด้วยความตื่นกลัวว่าจะรับสายช้าเกินไป ซึ่งมันจะมีผลกระทบต่องานนะสิ่รับช้าโดนบ่นเป็นแน่หรือไม่รับโดนหนักกว่าเดิมสองเท่า ทางที่ดีคือรับเร็วยิ่งดี
     
     
    'สวัสดีครับคุณลู่ฮาน..'
     
    "ฉันขอรายชื่อลูกค้าวีไอพีที่มาเมื่อสองสามวันที่แล้วหน่อย"
     
    'สองสามวันที่แล้ว..มีสองคนครับ..'
     
    "..."
     
    'มี..
     
     
    โอ เซฮุน..กับ..
     
     
    ปาร์ค ชานยอลครับ..'

     

    .GALLIANO.

    "เครือปาร์คกรุ๊ปรึเปล่า.."
     
     
    'ครับ หุ้นส่วนรายใหญ่ของบริษัท'
     
     
     
     
          ปาร์ค ชานยอลงั้นหรอ.. หุ้นส่วนรายใหญ่?
     
          เกี่ยวข้องอะไรกับโอเซฮุนกันละ?
     
     
     
     
     
     
        หลังจากที่โอเซฮุนพาร่างบางไปไวที่ห้องรองรับแขกคนสำคัญเดินลงบันได้มาหา 'ปาร์ค ชานยอล' คนที่เขาเคยเป็นเพื่อนกันมาหลายปีจนเรียกได้ว่ารู้กันทุกเรื่องทุกอย่างไปไหนไปกันจนรู้สึกดีให้กันมากกว่าเพื่อนแต่ความสัมพันธ์ก็ต้องจบลงเพราะ 'คำว่ารัก' คำเดียวตัดขาดความสัมพันธ์ทุกอย่างจนหมดสิ้น..
     
     
       ..เก็บความลับทุกอย่างให้อยู่ลึกที่สุด..
     
     
       ..ต้องทำเป็นเย็นชาตลอดเวลา..
     
     
     
     
    "มีอะไร" 
     
     
        โอเซฮุนถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา ในเมื่อไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว..จะพูดดีด้วยทำไม?มันจบไปตั้งนานแล้ว
     
     
    "มึงเป็นอะไรกับลู่ฮาน"
     
     
     
       โอเซฮุนฟังคำถามจากอีกคนก็แสะยิ้มด้วยความสะใจ พวกดีแต่ปากแล้วไม่ลงมือทำมันก็ไม่ได้อะไรเลยไม่รู้หรอ?
     
     
     
    "แล้วมึงคิดว่าอะไร?"
     
     
    "เฮอะ"
     
     
    "มึงมาเพื่อจะถามแค่นี้ ก็กลับไป"
     
     
    "อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่ามึงทำอะไร"
     
     
    "..."
     
     
    "เห็นแก่เงิน จนกลายเป็นคนไร้หัวใจ"
     
     
    "..."
     
     
    "ที่ไปเอาเขาก็แค่หวังบริษัท..กับเงิน"
     
     
    "ถ้าจะมาเสือกเรื่องของคนอื่นก็กลับไป!!"
     
     
        หึ คำพูดมันตรงใจขนาดต้องตะโกนเลยละสิ่ แสดงว่าเป็นความจริง
     
     
    "กูก็แค่พูดความจริง ไม่มีสิทธิ์?"
     
     
    "ใช่ มึงไม่มีสิทธิ์ ไม่มีตั้งแต่กูไล่มึงออกจากชีวิตแล้ว.."
     
     
    "กูก็ไม่อยากกลับมาหรอก แต่ยังไงบริทษัทต่างๆในเครือเดียวกันของลู่ฮานก็จะเป็นของกู"
     
     
    "เฮอะ ละเมอหรอ"
     
     
    "กูแค่พูดความจริง มึงรอวันที่พินัยกรรมถูกเปิดเผย แล้วมึงจะรู้"
     
     
    "พินัยกรรมมันก็แค่กระดาษแผ่นหนึ่งที่คนตายเขียนไว้เท่านั้นหละว่ะ.."
     
     
    "กูแค่ให้มึงเตรียมใจไว้ ได้แค่ร่างกายเขาไม่ใช่บริษัท"
     
     
    "กูได้เขาแล้วมึงยุ่งไรด้วย อิจฉา?"
     
     
    "ไร้สาระวะ"
     
     
           พอปาร์ค ชานยอลพูดจบก็หมุนตัวกลับออกไปทางประตูแล้วเดินออกจากร้านไปด้วยความสะใจ
     
          ..หึ ยังไงเขาถือไพ่เหนือกว่าหลายก้าวเมื่อก่อนที่โอเซฮุนคิดว่าชนะเขาทุกอย่าง ผิดถนัด แม่งแพ้มาตั้งแต่ต้นแล้วแต่มันไม่ยอมรับความจริงเอง ก็ต้องตอกย้ำให้จำว่าใครกันแน่ที่ชนะ
     
     
     
          ทางโอเซฮุนที่ถึงกับสะถบคำหยาบออกมาด้วยความโมโห 
     
    ชีวิตเขาทำไมต้องยุ่งเกี่ยวกับปาร์ค ชานยอลตลอด? 
     
    แล้วทำไมคนที่แพ้ก็ต้องเป็นโอเซฮุนตลอด?
     
     
     
          ทั้งสองคนที่เอาแต่นึกถึงตัวเองว่าใคร 'ชนะ' หรือ 'แพ้' จนลืมคนที่เข้ามาอยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ ..ลู่ฮาน.. 
     
          ที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเจ้าตัวแอบออกมาจากห้องตั้งแต่รู้เรื่องจากลูกน้องเพราะความอยากรู้ทำให้ฝืนสังขารตัวเองที่ยังไม่หายดีและยังไม่ได้พักผ่อนเดินมาแอบฟังที่บันได ไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่โหดร้ายขนาดนี้อยู่บนโลก! โลภกันจนบ้าไปแล้วรึไง? แต่ที่ลู่ฮานไม่ยอมออกไปให้เห็นเพราะเขาเองก็อยากรู้ว่าพินัยกรรมวันพรุ่งนี้มันจะมีอะไรเหมือนกัน.. จะเป็นอย่างที่ปาร์ค ชานยอลพูดรึเปล่า แล้วชานยอลรู้ได้ยังไงว่าพินัยกรรมของพ่อมีอะไร? 
     
         แต่..พ่อเขาถูกฆ่าตายจะมีเวลาเขียนพินัยกรรมได้ยังไงกัน.. หรือพ่อเขารู้อยู่แล้วว่าจะโดนฆ่า? มันต้องมีอะไรมากถูกฆ่าแน่ๆ..


    .GALLIANO.


          หลังจากที่ปาร์ค ชานยอลเดินออกมาจากผับของโอเซฮุนหรือ the base pub ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่แข่งของเขาแต่แน่ละผับของมันก็เป็นได้แค่ที่สองอยู่ดี
     
     
        ..เป็นที่สองรองจากกูต่อไปละกันนะโอเซฮุน..
     
     
         ตอนที่ร่างสูงเดินออกจากผับมาหางตาของเขาหันไปเห็นร่างบางที่ยืนอยู่ตรงบันไดสิ่งที่ร่างสูงเห็นคือดวงตากวางน้อยสั่นคลอนิดหน่อยแต่หากมีอะไรมาสะกิดน้ำตาก็อาจจะไหลลงมาอย่างง่ายดาย.. พวกอ่อนแอยากที่จะอยู่ในสังคมจอมปลอม คนอย่างเสี่ยวลู่ฮานจะอยู่ในสังคมนี้ได้นานแค่ไหนกันเชียว ปาร์ค ชานยอลก็อยากจะรู้เหมือนกัน..
     
     
        มือหยาบหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูออกจากกระเป๋ากางเกงกดเบอร์ที่รู้สึกช่วงนี้โทรบ่อยเป็นพิเศษ.. บยอน นาบี..
     
    (ฮัลโหล..)
     
    "..."
     
    (มีอะไร)
     
    "..."
     
    (ฉันจะวางแล้วนะ!)
     
    "..ไปกินข้าวกัน.."
     
    (ห่ะ?)
     
    "เดี๋ยวไปรับที่คอนโด..แต่งตัวให้เสร็จภายในห้านาที"
     
    (ฮะ เฮ้ย! เดี๋ยว!!)
     
     
     
          ติ๊ด.. มือหยาบกดวางสายโดยที่ไม่สนใจคนปลายสายที่พยายามทักท้วงเลยสักนิด! เรื่องอะไรจะให้มาปฏิเสธกันละกว่าจะจองร้านอาหารนี้ได้ใช้เวลาตั้งนาน ร่างสูงยกยิ้มอ่อนๆที่มุมปากลืมเรื่องไร้สาระไปให้หมด แล้วขึ้นรถขับตรงไปที่คอนโดของอีกคน
     
     
     
     
         ทางด้านแบคฮยอนเมื่อรับคำสั่งจากเจ้านายก็ต้องทำตาม จริงมั้ย? ร่างเล็กวิ่งวุ่นทั่วห้องเพื่อหาเสื้อผ้าสำหรับใส่วันนี้ มือเรียวบางคว้ายกทรง ถุงเท้า วิกผมมั่วไปหมดจนห้องเริ่มรกขึ้นเรื่อยๆ
     
    "อ้ากกก ใส่ชุดไหนดี"
     
    เผลอยกมือขยี้หัวอย่างหงุดหงิดจนลืมตัว ร่างเล็กลงมือรื้อตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง สายตาสะดุดกับเดรสสายเดี่ยวสีขาวที่อยู่ในสุด เพราะมันดูเรียบๆมันเลยไม่ค่อยถูกใส่ไปทำงานในผับสักเท่าไหร่หนัก
     
    เมื่อเห็นชุดก็ไม่รอช้ามือเรียวคว้ามันมาทาบกับร่างกายทันที
     
    ห้านาทีต่อมาแบคฮยอนก็อยู่ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวบริสุทธิ์ แบคฮยอนคว้าวิกผมมาสวมพร้อมกับเซตผมไปพร้อมๆกัน
     
     
    ก๊อกๆ..ก๊อกๆ
     
     
    ..บางทีชานยอลก็ตรงเวลาเกินไป..
     
     
    ..บางทีอาจไม่ใช่ชานยอล..
     
     
    ขาเรียวเดินตรงไปที่ประตู
     
     
    จ้องตาแมว..
     
     
    เห้ย..
     
     
    ..บุรุษไปรษณีย์มาส่งของครับ..
     
     
    ทำใจหายหมด..ไม่เคยไปกินข้าวกับใครแล้วใจวาบๆเท่านี้นี่บอกเลย..
     
    มือบางบิดลูกบิดประตูชะโงกหน้าออกไปรับของแล้วเซ็นต์ลายเซ็นต์ลงไป
     
    "อ่า..บยอน แบคฮยอนหรอครับ..ผู้หญิง?"
     
    ..เป็นแค่บุรุษไปรษณีย์ ยุ่งไรเนี่ย..ได้แค่นึกในใจ..แต่ริมฝีปากยังยกยิ้มหวานใส่ผู้ชายแปลกหน้าที่แม้แต่ชื่อยังไม่รู้จัก
     
    "ปาร์ตี้แฟนซีนะ.."
     
    "อ่อ แต่งแบบนี้แล้วสวยนะครับ.."
     
     
    ติ๊งง ติ๊งงๆๆๆๆๆๆๆๆ!!
     
     
          โทรศัพท์เครื่องหรูสั่นอยู่ภายในกระเป๋ากระโปรงสั่นเยอะจนเจ้าของอดสงสัยไม่ได้ว่า บ้านใครไฟไหม้หรือบุพการีใครเสียรึเปล่า.. 
     
     
    แต่..
     
     
    ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง..
     
     
    ..ปาร์ค ชานยอล.. รัวสติกเกอร์ใส่..
     
     
    Park: สติกเกอร์โคนีแอนด์หมีน้อย
     
             และ
     
             สติกเกอร์โคนีแอนด์หมีน้อย
              .
     
     
              .
     
     
     
              และ..สติกเกอร์..โคนี...
     
     
    Byun: ส่งมาทำไม
     
    Park: เลิกคุยกับมันได้แล้ว..
     
    Byun: คุยกับใคร
     
     
    "เอ่อ..ขอบคุณที่ชม..นะ.."
     
     
             บอกขอบคุณพร้อมกับยิ้มหวานให้บุรุษไปรษณีย์ไปอีกที
     
             คนที่ถูกยิ้มหวานใส่หน้าเคลิมไปสักพักแล้วค่อยกลับมาสู่สภาพปกติที่ยังติดเหม่อๆนิดๆ..
     
    "อ่า คะ ครับ.."
     
            เมื่อพูดจบแบคฮยอนก็โค้งตัวให้แล้วปิดประตูห้อง ทันทีที่ปิดเสร็จ..
     
     
    ติ๊งๆ ติ๊งๆๆ!
     
     
    เสียงไลน์ก็มา..
     
     
    Park: ยิ้มหวานใส่มันทำไม
     
    Byun: ห่ะ..
     
    Park: เปิดประตู
     
    Byun: ถึงแล้วหรอค่ะ
     
     
          ขาเรียวเดินไปที่ประตูอีกครั้ง..จ้องตาแมว..
     
          ..ก็ไม่มีอะไรนี่
     
     
    Park: เปิดประตูสิ่..
     
    Byun: ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่
     
    Park: ก็บอกให้เปิดประตูไง!
     
     
            มือเรียวบิดลูกบิดประตู เมื่อประตูเปิดออกก็เจอเจ้าของไลน์ที่เขาคุยด้วยเมื่อกี้! ดวงตาร่างเล็กเบิกกว้าง!
     
            มาได้ไง..!! คงไม่ได้ยินตรงที่บอกชื่อหรอกนะ! ความแตกชัวร์ๆ!
     
     
    ติ๊งๆ ติ๊งๆ!
     
     
           ไลน์หรอ.. คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าเป็นปม..ปาร์ค ชานยอลจะส่งมาทำไม?
     
     
    "เปิดไลน์สิ่.. ให้คนทักรอนานมันไม่ดีนะ.."
     
     
     
     
     
    Park: วันนี้สวย..
     
     
    Park: ขอโทษที่แต่งตัวมาไม่หล่อ..
     
     
    Park: คนสวยตรงหน้าจะยอมไปด้วยมั๊ยครั
     
     
    Park: จะยอมไปกับคนไม่หล่อรึเปล่า..
     
     
     
     
            ..คนอ่านไลน์ได้แต่ยืนก้มหน้าเพื่อปิดบังแก้มที่กำลังขึ้นสีแดงอยู่ แต่ยังไงอีกคนก็เห็นมันอยู่ดี..
     
     
          เมื่อรู้สึกว่าตัวเองหายแก้มแดงแล้ว ก็เงยหน้าจ้องมองคนที่ส่งข้อความมาว่าไม่หล่อ! มองตั้งแต่หัวจรดเท้า! วันนี้ชานยอลใส่เสื้อเชิ้ตสียีนส์น้ำเงินเข้มพับแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อยมีแว่นกันแดดเน็บอยู่ตรงกระเป๋าเสื้อข้างซ้าย กระดุมเม็ดบนสามเม็ดไม่ได้ติดเผยให้เห็นไหปลาร้าเรียวสวยราวกับคนที่เข้ายิมเป็นประจำ แล้วสวมกางเกงยีนส์สีดำบวกกับรองเท้าสีน้ำตาลอ่อนที่ดูเข้ากันสุดๆ! เมื่อคนตรงหน้าเห็นแบคฮยอนมองมาแบบอึ้งหน่อยๆก็ยกยิ้มแล้วเอามือใส่ในกระเป๋ากางเกง
     
     
          ปาร์ค ชานยอลจะบ้ารึเปล่า! ไม่หล่อเนี่ยนะ?! คำว่าไม่หล่อของชานยอลคือหล่อโคตรๆของคนปกติ! ถ้าบอกว่าหล่อนี่จะขนาดไหน..
     
     
    "นี่..ไม่หล่อหรอ"     ..คนตัวเล็กถามแบบไม่เชื่อสายตาตัวเอง..
     
    "มีหล่อกว่านี้อีก"     ..หล่อกว่านี้ไม่กลายเป็นเทพบุตรเลยหรอ..  
     
     
    "....."
     
     
    "ไว้คราวหน้าจะแต่งมาให้ดูนะครับ.."
     
     
           ร่างสูงพูดพร้อมกับหน้าที่ค่อยๆเลื่อนลงมาให้อยู่ระดับเดียวกับแบคฮยอน สายตาที่ส่งมาราวกับจะอ้อนนิดๆ..
     
           มาอ้อนทำไม! แค่นี้ก็เขินจะตายแล้ว!
     
    "อื้อ.."    เพราะความเขิน..ทำได้แค่ส่งเสียงไปในลำคอ..
     
          ร่างสูงที่ยกยิ้มเล็กๆให้กับปฎิกิริยาน่ารักของร่างบางตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบกลุ่มผมนุ่มนิ่มของอีกคนเบาๆ
     
    "ไปกันเลยมั้ย?"
     
    "ดะ..เดี๋ยว เอากระเป๋าก่อน" 
     
          ร่างเล็กมุดตัวเข้าไปในห้องและกลับออกมาพร้อมกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อดัง มือหนาส่งมากุมมือเรียวสวยไว้หลวมๆ เมื่อถึงรถปอร์เซ่สีขาวดูสะอาดตา ร่างสูงเดินไปเปิดประตูให้คนตัวเล็กก่อนจะวนกลับมาฝั่งคนขับ..
     
     
    "จะไปกินข้าวที่ไหนหรอ.."
     
     
    "ความลับครับที่รัก.."
     
     
    "..."
     
     
    "ถ้าอยากรู้..หนึ่งจูบ..หนึ่งตัวอักษร.."
     
     
     
          ใครจะไปบ้าพนันกันเล่า!
     
     
           ตัวเล็กได้แต่บ่นอยู่ในใจ ร่างสูงที่รู้ดีว่าคนตัวเล็กยังไงก็ไม่ยอมทำอะไรแบบนี้แน่ๆ จริงๆเขาแค่พูดไปเล่นๆเท่านั้นหละ..
     
     
          แต่ถ้ายอม..เขาก็จัดให้ได้อยู่แล้ว..
     
     
          ใบหน้าคมคายเลื่อนลงไปให้ระดับริมฝีปากและสายตาอยู่ตรงกัน ดวงตากลมโตจ้องมองลึกเข้าไปภายในดวงตาเรียวสวย เห็นแววตาไหววูบชั่วหนึ่ง.. คนตัวสูงยกยิ้มมุมปากราวกับว่าจะท้า ยังไงร่างบางก็คงไม่มีทางทำอยู่แล้ว..
     
     
         คนตัวเล็กกว่าเมื่อเห็นสายตาท้าทายก็รู้สึกเหมือนโดนอีกคนหยามว่าป๊อดยังไงยังงั้น! ถ้าแข็งขึ้นมาอย่ามาโทษก็แล้วกัน! 
     
     
          ไม่รู้ฤทธิ์แบคฮยอนซะแล้ว..
     
     
         คนตัวเล็กก็ยกแขนขึ้นคลองคออีกคนลอบเลียริมฝีปากเล็กเผื่อความเยายวน กดคออีกคนลงมาให้ริมฝีปากประทับกัน ร่างบางส่งลิ้นเล็กเข้าไปในโพร่งปากของอีกคนตัวความไร้เดียงสาที่ทำให้คนตัวสูงมีอารมณ์ได้ง่ายๆ! ชานยอลเอื้อมมือไปจับท้ายทอยอีกคนปรับระดับองศาได้พอดีกับการจูบ ส่งลิ้นหยาบเข้าไปเกี่ยวตวัดกับลิ้นเล็ก แลกน้ำลายรสหวานกันไปมาจนคนตัวเล็กเริ่มหมดแรงส่งเสียงอืออึงในลำคอ.. คนตัวโตที่เห็นว่าร่างเล็กใกล้จะไม่ไหวแล้วจริงๆก็ค่อยๆถอนจูบออกมาช้าๆ..
     
     
     
    "ไม่อยากกินข้าวแล้ว.."
     
     
     
    "...."
     
     
     
    "กินเธอแทนได้รึเปล่า..?"


    talk

    ไรท์ตัวจริงฝากมาบอกว่าขอโทษมากๆเลยค่ะที่มาลงให้บ่อยๆไม่ได้ คืออยู่ที่นู่นนางสอบตลอดเลอ ชีวิตช่างอาภัพนัก555555

    ติดแท็กด้วยน้า #ฟิคดื่ม ค่า

    PS.แท็กไม่ถึง20ไรท์ไม่อัพนะบอกเลอออออออ



     
    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×