ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : PART 4 .RUM.
You can do anything but not everything.
คุณสามารถทำอะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่ 'ทุกอย่าง'
. R U M .
..หน้ากาก..
หน้ากากที่ถูกแต่งแต้มจน
..น่าสะอิดสะเอียน..
ไร้ความจริงใน 'ใบหน้า'
ไร้ความจริงใน 'คำพูด'
..แล้วเราจะหาความจริงได้จากที่ไหนละครับ?..
ภายในห้องของ 'โรงแรม' ที่ถูกจัดไว้อย่างลงตัวแต่มีขนาดใหญ่กว่าห้องสวีทปกติทำไมนะหรอ? เพราะร่างบางในห้องน่ะเป็นถึงลูกเจ้าของโรงแรมนี้จึงได้พื้นที่ของโรงแรมไปชั้นหนึ่งเต็มๆ เป็นชั้นที่มีเพียงแม่บ้าน บอดีการ์ด และพ่อแม่ของร่างบางเท่านั้นที่จะสามารถเข้ามาในชั้นนี้ได้ แต่หากเป็น 'แขก' ที่พิเศษมากๆ..ก็สามารถเข้ามาได้เช่นกันแต่ต้องพิเศษจริงๆเท่านั้นนะ..
ร่างบางอยู่ในชุดสูทสีขาวบริสุทธิ์ที่ดูเป็นทางการ บวกกับรูปร่างที่คล้ายผู้หญิงมันทำให้คนในชุดดูดีขึ้นได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องแต่งเติมอะไรให้มากมาย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ใครครับ"
"ป้าเองค่ะ"
เมื่อรู้ว่าคนที่มาเค๊าะประตูหน้าห้องคือป้าแม่บ้านที่เขาคุยด้วยเป็นประจำร่างบางจึงเดินออกไปเปิดประตูให้เข้ามา
"คุณป้ามีอะไรหรอครับ"
"คุณท่านให้มาเรียกคุณหนูลงไปห้องทานอาหารชั้นล่างค่ะ"
"แขกมาแล้วหรอครับ"
"ค่ะ รู้สึกว่านัดคราวนี้คุณท่านดูจริงจังมากเลยนะคะ"
"เห? ยังไงหรอครับ?"
"ก็นัดคราวนี้คุณท่านให้บอร์ดีการ์ดสิบกว่าคนไปรับแขกมาเลยนะค่ะ"
"ขนาดนั้นเลยหรอครับ ชักอยากเห็นหน้าแล้วสิครับ"
"เห็นพวกเด็กๆบอกว่าหน้าตาดีมากเลยค่ะ"
"งั้น.. ผมลงไปเลยดีกว่า ฝากป้าเก็บของให้ด้วยนะครับ"
"ค่ะคุณหนู"
พูดจบร่างบางก็เดินออกจากห้องนอนของตัวเอง ไม่บ่อยนักหรอกนะที่เขาจะมานอนที่โรงแรมแต่เพราะเมื่อวาน 'คุณท่าน' หรือ 'พ่อ' ของ 'ลู่ฮาน' บอกไว้ว่าจะมีแขกคนสำคัญมากินอาหารที่โรงแรมทั้งเขาและพ่อจึงนอนหลับที่โรงแรมเลยจะได้ไม่ต้องขับรถจากที่บ้านมาที่นี้อีก แต่เมื่อพูดถึงแขกคนสำคัญ..ลู่ฮานชักอยากจะรู้แล้วละว่าจะสำคัญแค่ไหนเชี่ยว..
เดินออกมาก็พบว่ามีบอดีการ์ดยืนรออยู่หน้าลิฟต์เรียบร้อยแล้ว ร่างบางเดินเข้าไปในลิฟท์ก่อนแล้วจึงมีบอดีการ์ดเดินตามเข้ามา ลิฟต์เคลื่อนตัวลงไปยังชั้นล่างสุดซึ่งก็คือห้องทานอาหาร
เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกร่างบางจึงเดินไปที่ห้องอาหารสำหรับวีไอพีเปิดเข้าไปก็พบกับชายร่างสูงใบหน้าคมคายออกแนวนายแบบชื่อดัง นั่งอยู่กับพ่อของเขาและมองมาด้วยแววตาร้ายกาจ ซึ่งแววตาแบบนี้ลู่ฮานพบเจอในบ่อยในสังคมของธุรกิจก็ไม่ต่างอะไรจากพ่อของลู่ฮานนักหรอก.. ขาเรียวก้าวเดินออกไปหยุดอยู่หน้าผู้ชายแปลกหน้าและโค้งตัวพอเป็นพิธีให้กันและกัน ก่อนจะหันมาโค้งให้ผู้เป็นพ่อและเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับสามคน
"ลู่ฮาน นี่โอเซฮุนแขกของเราในวันนี้"
ผู้เป็นพ่อพูดจบลู่ฮานก็หันไปยิ้มให้กับผู้ชายที่ชื่อว่า 'โอ เซฮุน' ก่อนที่อีกคนจะยิ้มตอบกลับมา
...ขอบอกเลยว่าเป็นรอยยิ้มที่ไร้ความจริงใจสุดๆ!
นั่งกินข้าวกันอยู่สักพักก็มีบอดีการ์ดประจำตัวของพ่อเปิดประตูเดินเข้ามากระซิบที่ข้างหูของพ่อ พอกระซิบเสร็จผู้เป็นพ่อเบิกตากว้างแล้วหันมาพูดประโยคที่ทำให้ลู่ฮานตกใจตาม!
"ลู่ฮาน เซฮุน เดี๋ยวพ่อมานะ"
"พ่อไปไหน?"
"พ่อมีงานด่วนนะ"
"แล้ว..พ่อไปนานมั๊ย?"
"ก็คงสักพักใหญ่ๆหละ"
"ก็ได้ครับ"
ภายใต้ความตกใจของลู่ฮาน มีอีกคนกำลังยิ้มอยู่ในใจ..
ภายใต้ความไว้ใจของผู้เป็นพ่อ มีอีกคนกำลังหักลังมันจนไม่เหลือชิ้นดี!
หากมีใครหันไปสนใจอีกคน ก็คงจะรับรู้ได้ว่าสีหน้านั้นแสดงออกถึงความ 'สนุก' มากเพียงไหน!
"ลู่ฮาน พ่อฝากเซฮุนหน่อยนะ"
"ครับ"
ยังไม่ทันที่ชายสูงอายุจะทันได้เห็นสีหน้านั้นโอ เซฮุนก็ได้ปรับเปลี่ยนสีหน้าไปอย่างรวดเร็ว..
ความจริงเขาก็ไม่ต่างอะไรกับ..กิ้งกาเปลี่ยนสีดีๆนี่เอง..
เมื่อผู้เป็นพ่อเดินออกจากห้องอาหารไปได้สักพัก ร่างสูงลุกขึ้นยืนให้เห็นความสูงที่แท้จริงแล้วเดินไปที่ประตูพลักประตูออกไปได้เสี้ยวหนึ่งเสียงหวานก็พูดขึ้น
"นายจะไปไหน"
"กลับ"
"ไม่ไปส่งนะ"
"ฉันไม่ได้ขอ"
ร่างบางที่ถูกร่างสูงตอกกลับแบบนั้นก็หน้าชาไปชั่วครู่แต่ยังคงรอยยิ้มหวานไว้ไม่จางหาย ทางร่างสูงเห็นดังนั้นก็ยิ้มเยาะในสิ่งที่เห็น
เฮอะ..ร่างบางก็ไม่ต่างจากเขาที่เป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสีสักเท่าไหร่หรอก..
โอเซฮุนเดินออกมาจากห้องทานอาหารและตรงไปที่ลิฟท์กดลิฟท์ไปยังชั้นจอดรถสายตามองหารถของตัวเองเมื่อเจอก็ดีดนิ้วตามนิสัย ยิบกุณแจรถออกมาปลดล็อครถแล้วเดินเข้าไปในรถคันหรูของตัวเองคว้าโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครบางคน
[สวัสดีครับ]
"ฮัลโหล วันนี้เขาเป็นไง"
[ก็เหมือนเดิมครับ]
"งั้น เดี๋ยวฉันเข้าไปที่บริษัท"
[โอเคครับ]
กดวางสายก่อนจะเหยียบคันเร่งออกจากโรงแรมห้าดาวชื่อดัง ...ได้เจอกันอีกแน่ลู่ฮาน..
. R U M .
เมื่อร่างสูงเดินออกจากห้องไปร่างบางก็ผุดลุกขึ้น ในใจรู้สึกไม่ถูกชะตากับร่างสูงแปลกๆ มือเรียวยิบสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกงสไลด์หน้าจอเปิดเครื่อง พิมพ์ข้อความค้นหาคำว่า 'โอ เซฮุน' ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีข้อมูลของร่างสูงก็ปรากฏอยู่ในสายตา
โอ เซฮุน
วัน/เดือน/ปี เกิด : 12 April 19xx
อายุ : xx ปี
ส่วนสูง : 183 ซม.
เจ้าของกิจการ THE BASE PUB
รายได้ต่อปี : 7,xxx,xxx,xxx บาท
ครอบครัว : (ไม่เปิดเผย)
ลักษณะนิสัย : -
วัน/เดือน/ปี เกิด : 12 April 19xx
อายุ : xx ปี
ส่วนสูง : 183 ซม.
เจ้าของกิจการ THE BASE PUB
รายได้ต่อปี : 7,xxx,xxx,xxx บาท
ครอบครัว : (ไม่เปิดเผย)
ลักษณะนิสัย : -
เฮอะ ลักษณะนิสัยน่ะให้ลู่ฮานตอบให้ก็ได้นะ นิสัยแย่ ไร้มารยาท กวนสุดๆ!! นี่แค่เจอกันไม่กี่นาทีก็ขนาดนี้แล้ว ถ้าเจอกันเป็นชั่วโมงจะขนาดไหน? ถ้าเป็นไปได้ก็ขออย่าเจอกันอีกเลยโอเซฮุน!! นั่งดูข้อมูลของร่างสูงอยู่สักพักโทรศัพท์ก็สั่นและขึ้นหน้าจอว่าคนที่โทรมาคือบอดีการ์ดของพ่อจึงสไลด์หน้าจอรับสายอย่างรวดเร็ว..
"ฮัลโหล"
[เอ่อ..คุณหนูครับ..]
"อะไร?"
[คุณท่าน..เสียแล้วครับ..]
"อะไรนะ.."
[คุณท่าน..เสียแล้ว..]
"อย่ามาล้อเล่น!"
[ผมไม่กล้าหรอกครับ..]
"ฉันไม่เชื่อ!!"
[ตอนนี้กำลังนำร่างของคุณท่านไปที่โรงพยาบาล]
"พ่อโดนอะไร.."
[โดนบริษัทคู่แข่งเล่นงานทีเผลอครับ..]
"แล้วพวกนายทำอะไรกันอยู่?!!!"
[ผมขอโทษครับ..]
"พ่อฉันจ้างนายมาทำไม?"
[เพื่อดูแลคุณท่าน..ครับ]
"ละ แล้ว..ทำไม..นายไม่ดูแลเขาละ"
เสียงหวานเริ่มขาดตอน..
ข้างในดวงตาเริ่มมีน้ำสีใสคลอ..
มันเตรียมจะหยดมาได้ตลอดเวลา..
[ผม..ขอโทษ..]
"ฉันถามว่าทำไม ทำไมนายไม่ช่วยเขา.."
[.....]
"หน้าที่ของพวกนายคือดูแล..
แล้วทำไม.. ทำไมพ่อถึงตาย.."
ควบคุมไม่ได้แล้ว.. กำแพงความเข้มแข็งกำลังจะพังทลาย.. น้ำตาเริ่มหยดลงมาจากดวงตาคู่สวยโทรศัพท์ที่แนบอยู่ข้างหูก็ร่วงหล่นตามความรู้สึกร่างทั้งร่างทรุดลงที่พื้น ไร้เรียวแรง.. ไร้จุดยืน.. ไร้คนปลอบประโลมด้วยความอบอุ่น..
ร่างบางนั่งปล่อยให้น้ำตาหยดออกจากดวงตาหยดแล้วหยดเล่าก็ไม่สามารถปลอบประโลมความเจ็บปวดให้เจือจางลงไปได้.. ตอนเป็นเด็กหากร้องไห้ มีพ่อคอยปลอบไม่ห่าง.. เวลานี้เสียน้ำตาไปสักกี่หยดเขาก็ย้อนกลับมาปลอบเราไม่ได้.. ย้อนกลับมาเป็นคนที่ห่วงใยเราเหมือนแต่ก่อนไม่ได้..
ตอนนี้เขาไม่เหลือใครอีกแล้ว.. เมื่อก่อนไม่มีแม่ที่เคยสั่งสอน มีเพียงพ่อที่แม้จะงานยุ่งขนาดไหนก็ยังหาเวลามาเล่นกับเขา ในช่วงเวลาเด็กความผูกพันธ์เดียวที่มีก็คือ 'พ่อ' แล้วในตอนนี้ เวลานี่เขาไม่เหลืออะไรแล้ว.. ไม่เหลือพ่อ ไม่เหลือแม่..
เกราะกำแพงความสุขที่เขาและพ่อเคยสะสมกันมา..สร้างจากความทรงจำทั้งหลายเมื่อรวมกันแล้วมันช่างเป็นเกราะที่เข้มแข็ง..แต่ในเมื่อวันนี้..พ่อไม่อยู่แล้ว..เสียงลมหายใจที่เคยได้ยินตั้งแต่ลืมตาดูโลก เสียงกล่อมที่คุ้นเคยไม่ว่าจะร้องกี่ครั้งก็ยังคงก้องอยู่ในหูและไม่มีท่าทีว่าจะจางหายไป..เสียงอบรมบ่มสอนที่คอยจัดให้เราอยู่ในกรอบ เสียงที่ชื่นชมเราจากหัวใจถึงแม้มันจะไม่ดีในสายตาผู้อื่น..สัมผัสที่ประสานหัวใจพ่อกับลูก การกระทำต่างๆจะยังคงหมุนเวียนอยู่ในความทรงจำเหมือนกับเทปวนไปซ้ำๆ ถึงแม้ภาพจะเก่าเพียงไร แค่เป็นวินาทีที่สุขใจต่อให้มันเก่าจนคนไม่เห็นค่า..เขาก็จะรักษาความทรงจำเหล่านั้นไว้จนวินาทีสุดท้าย..จนเขาจะได้พบกับผู้เป็นพ่อในที่ไหนซักแห่งหนึ่ง...แม้จะไม่ใช่บนโลกนี้ก็ตาม..
ในห้องทานอาหารวีไอพี..มีเพียงเสียงสะอื้นและหยาดน้ำตาของลู่ฮาน..
ชีวิตของนักธุรกิจก็เปรียบเสมือนกับถนนที่สองข้างทางมี 'ทอง' แต่หนทางข้างหน้าคือ 'หน้าผา' รู้ว่าหนทางต่อไปเป็นหน้าผาแต่เพราะความโลภทำให้เดินทางต่อโดยมีกิเลสตัณหาครอบงำชักจูงให้ก้าวไปสู่อันตราย.. จะถอยหลังกลับมาก็ไม่ได้เพราะสิ่งที่เราเสียไปกับการเดินทางก็คือ 'หยาดเหงื่อ' และ 'ความพยายาม'
คนที่เราไม่คิดว่าจะจากไปเร็ว.. เขาก็จากเราเร็วเกินไป.. จากไปแบบไม่มีวัน 'หวนคืน'
.
.
.
.
.
.
.
.
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่แบคฮยอนต้องไปทำงานที่ร้านของปาร์ค ชานยอล อันที่จริงก็ต้องไปแทบทุกวันน่ะแหละ ถึงงานจะทำแค่เสิร์พเหล้า เชียร์เหล้าแต่ก็เหนื่อยใช่เล่น
..ไม่ได้เหนื่อยกับลูกค้าหรอก..เหนื่อยกับคนบางคนมากกว่า..หาเรื่องกันได้ทุกวัน
วันนี้แบคฮยอนรู้สึกขี้เกียจทำกับข้าวกินเองจึงเลือกที่เดินไปตลาดข้างๆคอนโด ตลาดแห่งนี้มีขนาดใหญ่เพราะอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย ขาเรียวก้าวตรงไปยังร้านข้าวแกงร้านโปรด ร่างบางเลือกที่จะนั่งที่โต๊ะในสุด ถึงแม้ว่าแบคฮยอนจะไม่ได้ปลอมตัวมาแต่ด้วยรูปร่างอันโดดเด่นชวนมองจึงสามารถดึงดูดสายตาผู้คนได้มากโข
เอ๊ะ!?
นั่นจงอิน!!
รุ่นน้องของปาร์คชานยอลนี่!?
ร่างบางของผุดลุกขึ้นทั้งๆที่อาหารยังมาไม่ถึงโต๊ะ!!
ยังไงเขาจะไม่ใหัเรื่องที่เขาปลอมตัวเป็นผู้หญิงต้องความแตกเพราะเด็กหื่นนี่คนเดียวหรอกนะ ร่างบางวิ่งออกมาจากร้านมองหาร้านอาหารอื่นที่มันดูจะไม่ค่อยมีคนเข้าแล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ร้านๆหนึ่ง ซึ่งร้านมีสภาพที่เก่าพอสมควร แบคฮยอนเดินเข้าไปในร้านนั้นและมองดูบรรยากาศร้านที่มีแนวโบราณนิดๆ นี้แหละร้านอาหารที่เหมาะสมสำหรับซ่อนตัว!! คนน้อยๆ ร้านโทรมๆ โดนใจแบคฮยอนสุดๆ!! คนที่ดูมีระดับอย่างคิม จงอิน หรือปาร์ค ชานยอลไม่มีทางจะก้าวเข้ามาในร้านนี้แน่ๆแบคฮยอนรับประกันเลย
ทางด้านคิม จงอินที่เข้ามานั่งในร้านอาหารได้สักพักก็ต้องนั่งมองดูสถานการณ์ที่วุ่นวายเนื่องจากมีลูกค้าคนหนึ่งอยู่ดีๆก็วิ่งออกจากร้านไป เป็นผู้ชายตัวเล็กๆ ปากนิดแก้มหน่อย เอวเล็กๆ.. คล้ายๆผู้หญิงหน้าคุ้นๆเหมือนเคยเจอที่ไหนสักที่ แต่คนนั้นคงต้องเก็บไว้ก่อนแล้วมาสนใจเด็กเสริฟที่มาเขียนรายการอาหารให้เขาก่อนซะแล้วสิ่.. คนอะไรไม่รู้ตาโตจนจะออกมาแล้วนะนั้น แล้วปากที่บวมเจ่อนิดๆ ผิวขาวใส คนอะไรน่าฟัดชะมัด..
"เอ่อ..คุณจะรับอะไรดีครับ"
"อะ เอ่อ ผมขอ.."
ผมเหม่อนานเกินไปหรอเนี่ย.. แม้แต่เสียงยังน่ารักน่าฟัด! อยู่บนเตียงจะขนาดไหนเนี่ย!
"....."
"คุณมีอะไรแนะนำผมบ้างมั๊ยครับ"
"ก็มี อาหารไทยเป็นสปาเก็ตตี้ต้มยำกุ้งแล้วก็.."
โอ้ย ตายครับตาย ทำท่าเอาปากกาทิ่มไว้ที่คางตามองขึ้นสูง มันคือท่าคิดที่โคตรน่ารัก!
"งั้น ผมเอาสปาเก็ตตี้ต้มยำกุ้งก็ได้ครับ"
"แล้วรับน้ำอะไรดีครับ"
"ผมขอน้ำเปล่าละกันครับ"
"ครับ"
ก่อนที่ตัวเล็กของผมเดินหันหลังไป ผมแอบมองป้ายชื่อเขาด้วย เขาชื่อ 'โด คยองซู' คนอะไรน่ารักจริงๆ มือหนาหยิบโทรศัพท์กดโทรออกหาเพื่อนสนิท 'คิม จงแด' จงแดเนี่ยถ้าคุณเจอมันหน้าตามันดูธรรมะธรรมโมนะแต่อย่าดูคนที่หน้าตา แม่งชอบมอมเหล้าสาวแล้วพาขึ้นห้อง!! มันรู้ว่าอะไรผสมกับอะไรแล้วน็อคเดียวจอด ไม่ใช่เล่นๆนะครับคนนี้
[ว่าไงครับเพื่อนไค]
"เห้ยมึงวันนี้ไปพาราไดซ์ผับป่ะ"
[ได้ข่าวว่าเมื่อวานกูกับมึงพึงไป]
"แล้วไปมั๊ย"
[ไปดิ่ว่ะ!]
"ก็แค่นั้น! เออมึงเมื่อกี้กูเจอคนหนึ่งแม่งน่ารักชิบหาย!!"
[หญิงหรือชายว่ะ]
"ชายเว้ย น่ารักโคตรๆอ่ะ"
[โห ไม่ใช่แนวกูว่ะ แนวกูต้องเอ็กซ์ๆอึมๆ มอมเหล้าง่ายๆหน่อย]
"ระวังนะมึง เดี๋ยวก็มอมเหล้าหญิงจนได้เรื่องอ่ะ"
[ระดับกู ไม่มีทาง!]
"เออตามใจมึง กูแดกข้าวก่อน"
[เคๆ แล้ววันนี้พาราไดซ์กี่โมงว่ะ]
"สองทุ่มก็ได้มึง"
[เออๆ เจอกันสองทุ่ม]
หลังจากโทรหาจงแดเสร็จอาหารก็มาเสริฟด้วยเด็กเสริฟคนเดิม เดินมาถือถาดอาหารมาวางไว้ที่โต๊ะ
"อาหารได้แล้วครับ"
"ขอบคุณครับ"
โอ้ย พูดแล้วยิ้มนี้ต้องการอะไรรึเปล่าครับคนสวย รู้ตัวรึเปล่าว่ารอยยิ้มรูปหัวใจนั้นทำให้คนมองไปหลายคนแล้ว! ซึ่งคิมจงอินก็เป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน
"เอ่อ..หน้าผมมีอะไรติดอยู่รึเปล่าครับ"
ผมคงจะจ้องหน้าเค้านานเกินไป ผมว่าถึงมีอะไรติดอยู่ความน่ารักของคนตรงหน้าก็ไม่ลดลงหรอก
"ถ้าจะมีก็คงหัวใจผมมั๊งครับ"
"เอ๋?"
"คยองซูรับออเดอร์ลูกค้าโต๊ะ C9 หน่อยสิ่"
"คะครับ"
ไอพนักงานตุ๊ดมันขัดจังหวะผมครับทุกคนนน ผมกำลังจะจีบเขาสักหน่อย อยู่ดีๆก็มีไอหน้าตุ๊ดหันมาเรียกคยองซูของผมแล้วมันก็ทำหน้าหวานเลี่ยนใส่ผม! บอกไว้ก่อนเลยว่าวันนี้เป็นวันที่ทำให้ผมเกลียดตุ๊ด! อยากจะถีบใส่หน้ามันสักยก หึย บังอาจมาขวางทางคิมจงอิน!
พูดแล้วก็โมโห กินสปาเก็ตตี้ก่อนดีกว่าตัวเล็กอุสายกมาให้ทั้งที~
เมื่อกินเสร็จแล้วผมมีแผลนที่จะนั่งในร้านนี้นานๆเลยคิดที่จะกินขนมหวานอีกสักอย่าง ในที่สุดเป้าหมายของผมก็กำลังจะเดินผ่านมา
"คุณครับ"
"ครับ?"
"ผมขอเมนูหน่อยครับ"
"นี่ครับ"
มือบางหยิบเมนูส่งมาให้ อยากจะจับมือนั้นมากุมไว้จริงๆ แต่อดทนไว้คิมจงอิน ไม่งั้นเค้าอาจจะหาว่าเราโรคจิต..
"มีขนมหวานอะไรแนะนำบ้างครับ"
ส่งยิ้มหวานไปให้อีกคน อีกคนก็ส่งยิ้มเล็กๆมาให้ มันกำลังจะทำให้เขาคลั่ง!
"มีไอศครีมวนิลากับพุดดิ้งนมสดครับ"
"แล้ว..คุณชอบอันไหน"
"เห? ผมหรอ"
"ครับ คุณชอบอันไหนผมขออันนั้น"
"จะดีหรอครับ"
"ผมมีความเชื่อว่าคนน่ารักๆต้องกินของอร่อยๆนะครับ"
แก้มของร่างบางตรงหน้าขึ้นสีแดงระรื่อ บ่งบอกว่ากำลังเขินอยู่แน่ๆ อยากจะเอาปากของตัวเองไปหอมแก้มแดงๆนั้นจริงๆ
"งั้น..รอสักครู่นะครับ"
หลังจากที่ร่างบางเดินไปพร้อมกับใบหน้าแดงนั้น ร่างสูงไม่รู้หรอกนะว่าอีกคนจะสั่งขนมอะไรให้เขาทานแต่ถ้าตัวเล็กเป็นคนเลือกเขาก็ไม่มีปัญหาหรอกถ้าจะกินมัน
เมื่อตัวเล็กหายเข้าไปในครัวนานก็เดินออกมาพร้อมกับขนมหน้าตาน่าทานมากๆ ไม่รู้ว่าเพราะคนถือหรือเพราะขนมกันแน่
ด้านคยองซูที่ใช้เวลาตัดสินใจว่าจะยกขนมหวานออกมาให้ผู้ชายผิวสีแทนเองดีรึเปล่า หรือจะฝากให้พนักงานคนอื่นเอาออกมาให้ดีแต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเอาออกมาเองเพราะไม่อยากรบกวนพนักงานคนอื่นยิ่งตอนนี้ก็เย็นแล้วลูกค้าเยอะหลายๆคนก็คงยุ่ง พอเดินออกมาจากครัวแค่ก้าวเดียว ก้าวเดียวจริงๆนะผู้ชายสีผิวแทนคนนั้นก็หันมายิ้มโชว์ฟันตัดกับสีผิว หน้าตาเค้าก็ดูดีนะ ไม่ได้แย่ออกจะนายแบบเลยด้วยซ้ำแต่หวานเลี่ยนไปหน่อยน่ะ..
"นี่ครับ ขนมหวานไอศครีมวนิลาผสมพุดดิ้งนมสด"
"ขอบคุณครับ ว่าแต่.."
"ครับ?"
"คุณเลิกงานกี่โมงครับ"
"เห?"
"ผมจะมารับนะครับ"
"เอ่อ.."
"ถ้าคุณไม่บอกผมก็จะนั่งอยู่ในร้านจนกว่าจะปิด"
"ยะ อย่าเลยดีกว่าครับ"
"งั้น..ผมขอเบอร์คุณได้รึเปล่าครับ โด คยองซู"
"เอ๋?"
โอ้ย ผมจะบ้าตายแล้วครับ ท่าทางที่เขาตกใจแม่งโคตรน่ารัก! น่ารักแล้วอยากจับฟัดมาก ทำตาโตๆ ปากบวมเจ่ออุทานออกมา เค้าทำให้ผมยิ้มจนแก้มจะแตกแล้วนะครับ!
"คยองซู เสริฟอาหารโต๊ะ A11 ให้พี่หน่อย"
ไอตุ๊ดเวรมารผจญ! ทำไมนะทำไม อีพนักงานตุ๊ดนี่ต้องขัดตลอดเวลาเลยว่ะ ให้ตายสิ่! ดูมันคราวนี้ไม่ได้ให้ยิ้มหวานเลี่ยนแล้วครับ แม่งยิ้มเยาะเย้ยมาให้ผม! ที่มาขัดนี่ต้องเป็นแผนของมันชัวร์ แล้วคยองซูผู้ใสซื่อของผมก็ตกหลุมพรางมัน! ถ้าผมรู้จักเจ้าของร้านผมจะให้เจ้าของร้านไล่มันออกแน่นอน ตอนนี้ผมหมดอารมณ์จะจีบแล้วละ เพราะมารผจญที่เป็นตุ๊ด! ทำผมหมดอารมณ์แบบสุดๆอ่ะ ผมเลยลุกไปจ่ายตังด้วยสีหน้าบูดบึ้งสุดๆ บอกเลยว่าเฟลมาก! เบอร์เขาก็ไม่ได้ จีบเขาก็ไม่ติด ไม่ให้เฟลจะให้ผมยิ้มหน้าบานเดินออกจากร้านหรอครับ เฮ้อ ผมควรจะไปรอจงแดที่พาราไดซ์เลยดีมั๊ยเนี่ย ไปหาไรทำแก้เบื่อสักหน่อยพรุ่งนี้ค่อยมาร้านนี้ใหม่ ถึงวันนี้ผมเฟลแต่ผมก็ไม่หยุดจีบเขาหรอกนะ ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาจงแดให้เลื่อนนัดให้เร็วขึ้นหวังว่ามันจะว่างนะ
[มีไรอีกไอไค!]
"โห มึงคราวที่แล้วคุณ คราวนี้ไอ มึงต้องการไรจากสังคมว่ะ"
[กูเจอเรื่องช็อคสิ้นโลกมาสัส!]
"กูก็เจอเรื่องเฟลชิบหายมา"
[มึงจำเด็กที่กูมอมเหล้าเขาไม่สำเร็จได้ป่ะ!]
"เออจำได้คนแรกในรอบปีที่มึงมอมไม่สำเร็จ"
[เชี่ยแม่งเป็นกระเทย!! ดีนะที่คืนนั้นกูกับแม่งไม่ได้กัน!]
ทำไมเจอแต่คำว่ากระเทย ตุ๊ด !
"ของกูตุ๊ดแม่งขัดจังหวะตอนกูจีบเขา"
[โห เฟลไปดิ่มึง]
"กูโทรมาบอกมึงว่าให้ไปพาราไดซ์เร็วหน่อย"
[ไปตอนนี้เลยป่ะ กูอยากดริ๊งค์]
"เออก็ดี กูจะไปหาเจสด้วย"
[เด็กมึงอ่ะน่ะ]
"เออ แค่นี้เจอกันพาราไดซ์"
หลังจากที่ผมวางสายจากจงแดผมก็เดินไปที่คอนโดข้างๆเพื่อไปเอารถก็เจอใครบางคนหน้าตาคุ้นๆ ใบหน้าหวานแต่งหน้านิดๆ เอวบางๆ ผมรู้แล้วเขาคือใคร!
...เด็กพี่ชานยอล!!
หูย เด็ดมากเกาะอกสีเหลืองดึงดูดสายตาสุดๆ เขากำลังเดินออกจากคอนโดหยิบกุญแจรถออกมาผมว่าเขาคงจะต้องไปพาราไดซ์แน่ๆ ผมว่าผมก็เอารถมาจอดที่นี้บ่อยนะแต่ทำไมผมไม่เจอเขา? หรือเขาพึงมาอยู่? คิมจงอินเก็บความสงสัยไว้แล้วก้าวขึ้นรถของตัวเองขับไปพาราไดซ์ผับ..
:) Shalunla
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น