ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [HaeEun fiction] .. ●~A Moment of Remember ~●

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 : เป็นเรื่องจนได้…

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 52


    A Moment of Remember.

    Chapter 5 : เป็นเรื่องจนได้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                            อึนอยอกจางงงงงงงง!!

    เสียงร้องอย่างสดใสของซองมินดังขึ้นเหมือนกับทุกวัน แต่เมื่อร่างอวบ ๆ เปิดประตูเข้าไปก็ถึงกับผงะ เพราะใบหน้าของคนในห้อง ขอบตาบวมช้ำเหมือนกับผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ใบหน้าที่บ่งบอกความอ่อนล้าอย่างซ่อนเท่าไหร่ก็ไม่มิด

     

     

                                   

                                    เสียงดังแต่เช้าเลยนะ   --  อึนฮยอกยิ้มแห้ง ๆ ให้กับซองมิน ก่อนจะเอื้อมมือเปิดลิ้นชักที่อยู่ข้างเตียง เพื่อเก็บแผ่นกระดาษสีขาวที่เค้ากอดมันไว้ทั้งคืนลงไป แล้วค่อย ๆ ปิดมันลงอย่างเบามือ

     

     

     

     

                                    คะ ใครทำอะไรนายเนี้ย ทำไมถึงตาบวมขนาดนี้ ... หรือว่า จะเป็น ..... ท ง เ ฮ ทงเฮใช่มั้ย ต้องเป็นทงเฮแน่ ๆ ๆ   --   ซองมินยืนเตะอากาศอย่างหัวเสีย

     

     

     

                                    มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดหรอก ...... ฉันแค่นอนเยอะไปหน่อย ตาก็เลยบวม   --   เมื่อเห็นท่าทางหงุดหงิดที่แสนจะน่ารักของซองมิน ความรู้สึกหดหู่ที่ครอบครองพื้นที่รอบ ๆ ห้องสี่เหลี่ยมนี้ก็ดูเหมือนจะสลายไป

     

     

     

                                    นายอย่ามาโกหกฉันหน่อยเลย อย่างนายเนี้ยนะจะนอนเยอะ เป็นไปไม่ได้ ..... ที่นายตาบวม ต้องมีสาเหตุมาจาก ทงเฮ แน่ ๆ ...... อย่าให้เจอเชียวนะ จะจัดการให้เข็ดเลย   --   ซองมินบ่นพร้อมกับอ้าปากเล็ก ๆ ฮุบอากาศด้วยท่าทางน่ารัก จนคนในห้องอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

     

     

     

                                    เอาน่า ๆ  มันไม่มีอะไรหรอก นายคิดมากเกินไปแล้ว ... ... ว่าแต่!!!  ฉันหิวข้าวแล้วล่ะ นายทำฟักทองหวานให้กินหน่อยสิ ฉันไม่ได้กินฝีมือนายนานแล้ว ไม่รู้จะยังอร่อยอยู่หรือเปล่า.........    --   อึนฮยอกพูดติดตลกพร้อมกับรอยยิ้ม ... ...  รอยยิ้มที่ออกมาจากหัวใจที่แสนจะเหนื่อยล้า

     

     

     

     

                                    มันต้องอร่อยอยู่แล้ว ฝีมือฉันซะอย่าง!!!! “  --   ซองมินยกกำปั้นขึ้นอย่างมุ่งมั่น ก่อนจะหันหลังเพื่อออกไปเตรียมอาหารให้เพื่อนรักของเค้า

     

     

     

     

     

     

     

                                    โอ๊ยยยยยยยย!!!

    ยังไม่ทันจะได้ไปไหน เท้าของซองมินก็เตะเข้ากับบานประตูอย่างจัง ซองมินร้องตะโกนลั่นบ้าน จนคยูฮยอน เรียวอุคและเยซองที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในห้องของตัวเองถึงกับสะดุ้งโหยง

     

     

     

                                    ซุ่มซ่ามจริง ๆ เลยนะนายเนี้ย......   --   อึนฮยอกส่ายหัวไปมาอย่างเอือมระอาในความซุ่มซ่ามของเพื่อนรัก ก่อนจะเดินเข้าไปหาซองมินที่กำลังนั่งโอดครวนน้ำตาเล็ดด้วยความเจ็บปวด

     

     

                                    - - - -

     

                                    - - -

     

                                    - -

     

                                    -

     

     

                                    คยูฮยอนวิ่งมาถึงหน้าประตูห้องนอนของร่างบางเป็นคนแรก ภาพแรกที่คยูฮยอนเห็นคือ .... ซองมินที่กำลังนั่งร้องไห้โอดครวน มือทั้งสองข้างกุมเท้าตัวเองไว้ โดยที่อึนฮยอกเองก็กำลังจะก้มลงไปช่วย ... ... คยูฮยอนไม่ได้แสดงอาการตกใจหรือว่าหน้าตาตื่นอะไรมากนัก เค้าเพียงเข้าไปประคองร่างของซองมินให้ยืนขึ้น ก่อนจะใช้แขนที่แข็งแรงทั้งสองข้างช้อนตัวคนรักของเค้าขึ้นมา โดยที่มือทั้งสองข้างของซองมินก็โอบรอบคอคนรักของตัวเองไว้เหมือนกัน ......

     

     

     

                                    ไม่เป็นไรครับฮยอง ... เด๋ว!!  ผมจัดการเอง   ---   สิ้นเสียง .. คยูฮยอนที่ยังคงอุ้มร่างของซองมินไว้ ก็เดินออกจากห้องนอนของร่างบาง เพื่อตรงไปยังห้องนอนของพวกเค้า ..... แต่ระหว่างทางดูเหมือนจะมีสงครามเล็ก ๆ เกิดขึ้นซะแล้ว

     

     

                                    - - -

     

                                    - -

     

     

                                    นี่!!  หมู่นี้แอบหาอะไรกินตอนดึก ๆ หรือเปล่า  ทำไมตัวถึงได้ตัวหนักขนาดนี้นะ ..... แบบนี้ กว่าจะเดินถึงห้อง แขนของผมคงจะแหลกก่อนแน่ ๆ    --   คยูฮยอนพูดประชดประชัดซองมินที่ชอบซุ่มซ่ามไม่ยอมดูแลตัวเอง แม้ลึก ๆ เค้าจะเป็นห่วงมากก็ตาม

     

     

                                    ย๊าาาาาา นายพูดอะไรออกมาเนี้ย ใครอ้วนเอิ้น ไม่มีอะ .... วางเลย วางฉันลงเด๋วนี้เลยนะ ฉันเดินเองได้ ไม่ต้องมายุ่ง!!!    --   ดูเหมือนวิธีนี้จะใช้ได้ผล คยูฮยอนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

     

     

     

                                    อยากให้วางใช่มั้ย .... งั้นจะวางบนเตียงนอนนุ่ม ๆ แล้วกันนะ   --   คยูฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงชวนสยิ้วกริ้ว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์กระตุกขึ้นที่มุมปากอย่างไม่น่าไว้ใจ  .... .... ดูท่าหมาป่าผู้หิวโหยคงอยากจะกินกระต่ายอวบ ๆ เป็นอาหารเช้าซะแล้ว

     

     

                                    - - - -

     

                                    - - -

     

                                    - -

                   

                                    -

     

     

     

                                    เรียวอุคกับเยซองที่ยืนมองเหตุการณ์ตั้งแต่คยูฮยอนอุ้มซองมินออกจากห้องของอึนฮยอก ยาวไปจนถึงเสียงประตูของห้องนอนคยูมินถูกปิดลง ท่าทางของทั้งสองคน ดูจะงงเป็นอย่างมากว่าเกิดอะไรขึ้น เยซองกับเรียวอุคจึงหันหน้าไปยังใครอีกคนที่ยืนอึ่ง ๆ อยู่เพียงลำพัง

     

     

     

     

     

                                    อึนฮยอก .. มันเกิดอะไรขึ้นหรอ ? ?    --   เยซองถามขึ้น  เรียวอุคที่อยู่ข้าง ๆ ก็ผงกหัวเป็นเชิงอยากรู้ด้วยเหมือนกัน

     

     

                                    ก็ไม่มีอะไรสำคัญหรอก ผมแค่ขอให้ซองมินเค้าทำฟักทองหวานให้กินหน่อย ... แล้วจังหวะที่เค้าเดินออกจากห้อง เท้าของเค้าก็ดันไปเตะเข้ากับประตูอย่างจัง   --   อึนฮยอกพยายามเล่าให้สั้นที่สุด เยซองพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ  .. .. .. แต่คนตัวเล็กที่อยู่ข้าง ๆ ดูเหมือนว่าจะไม่………

     

     

     

     

     

                                    ฮ ย อ ง!! ... ถ้าฮยองอยากกินข้าว ทำไมถึงไม่บอกผม   --   เรียวอุคพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน อารมณ์ของเค้าเวลานี้เริ่มพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ เรียวอุครู้สึกไม่พอใจที่อึนฮยอกไม่ยอมบอกว่าหิว  ..  ร่างบางหันไปยิ้มอย่างหน่าย ๆ ให้กับเยซอง โดยที่เยซองเองก็ทำได้เพียงยกมือทั้งสองข้างแบขึ้นพร้อมกับเอียงคอยักไหล่ ก่อนที่ทั้งสองจะถอนหายใจออกมาพร้อมกัน

     

     

                                    อะ อะ ฉันขอโทษ ... ฉันแค่นึกว่านายยังไม่ตื่น  แต่ไหน ๆ ตอนนี้นายก็ตื่นแล้ว งั้นนายทำอาหารเช้าที่สุดแสนจะอร่อยให้ฉันหน่อยได้มั้ย .... ตอนนี้ฉันหิวจนจะยืนไม่ไหวแล้วนะ!!!   --   อึนฮยอกพูดน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะพนมมือถูไปมา

     

     

     

     

     

    รอยยิ้มที่สดใสปรากฎขึ้นบนใบหน้าเรียวเล็กทันทีที่ได้ยินคำว่า ทำอาหาร  เรียวอุคกระโดดโลนเต้นอย่างมีความสุขเข้าไปในห้องนอนเยเรียว ก่อนจะวิ่งออกมาพร้อมกับผ้ากันเปื้อนสีฟ้าอ่อนที่ปักเพียงข้อความสั้น ๆ .... 욱이  사랑해.  [อุคกี้ ฉันรักนายนะ.]  ... ...

                                                                                               

     

    ทุกครั้งที่ร่างบางเห็นข้อความที่พี่ใหญ่ของหอพักชั้น 11 เป็นคนนั่งหลังขดหลังแข็ง ปักคำทีละคำลงบนผ้ากันเปื้อนของเรียวอุคด้วยด้ายสีแดงที่เยซองชอบ .. ความคิดของอึนฮยอกก็กำลังสะท้อนภาพของตัวเองกับทงเฮทำอาหารด้วยกัน ซึ่งทุกครั้งทงเฮก็จะใส่ผ้ากันเปื้อนลายสก๊อตสีน้ำเงินที่เค้าเป็นคนซื้อให้ตลอด .. ไม่ว่าจะเป็นที่หอพัก หรือแม้แต่ตอนถ่ายทำรายการ ... ... .. เฮ้อ!! ความสุขแบบนั้น จะย้อนกลับมาหาฉันอีกไหมนะ


     



     


                                    - -

     

                                    -

     

     

                                    คืออออออ ฉันต้องขอโทษแทนอุคกี้ด้วยนะ .... เค้ามักจะโมโหกับเรื่องแบบนี้เสมอเลย  แย่จริง ๆ    --   เยซองรู้สึกอายที่เรียวอุคงี่เง่าใส่อึนฮยอก เค้าแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี

     

     

     

                                    ไม่เป็นไรหรอกครับฮยอง  ผมชินกับนิสัยแบบนี้แล้วล่ะ  ..... งั้น ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ   --   อึนฮยอกตอบพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ

     

                                   

     

     

     

     

     

     

                                    เมื่อช่วงเวลาอาหารเช้าที่แสนจะวุ่นวายสิ้นสุดลง อึนฮยอกเดินกลับเข้ามาในห้องนอนของเค้าอีกครั้ง เพื่อเก็บของเตรียมตัวสำหรับการทำงานตลอดทั้งวันนี้ ...... ก่อนที่จะออกจากห้องเหมือนทุก ๆ ครั้ง ร่างบางไม่ลืมที่จะหันมองตัวเองในกระจก เค้ามองภาพคนที่สะท้อนอยู่ในกระจกอยู่นาน

     

     

     

                                    วันนี้ก็ต้องทำให้ดีที่สุดนะ ... อย่าร้องไห้อีกล่ะ ... ยิ้มเข้าไว้นะ!!!!    --   ร่างบางเอ่ยกับตัวเองในกระจกเหมือนเช่นทุกวัน

     

     

     

                                    - - - -

     

                                    - - -

     

                                    - -

     

                                    -

     

     

     

                                    ตึ๊ง!!  ประตูลิฟท์ชั้น 11 เปิดออก...... อึนฮยอกก้าวเท้าเข้าไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตามมาด้วยเสียงพูดคุยของสมาชิกอีก 4 คน ที่กำลังเดินตามเข้ามา จนเมื่อประตูลิฟท์ปิดลง ... ความโกลาหลก็เกิดขึ้นแทบจะทันที เมื่อชายหนุ่มหน้าตาดีทั้ง 9 คน กำลังเบียดเสียดไปมา เพื่อแย่งพื้นที่ยืนในส่วนของตัวเอง อึนฮยอกที่พยายามทำตัวลีบแบนสุดชีวิต ค่อย ๆ ขยับถอยหลังไปเรื่อย ๆ ก่อนจะชนเข้ากับไหล่ของใครบางคนจนทำให้เสียหลัก มือของทงเฮคว้ามือของอึนฮยอกไว้แน่น ก่อนจะโอบรอบเอวให้เข้ามาใกล้ ......  คนถูกโอบหน้าตาตื่นเป็นอย่างมาก ดวงตาเรียวบางกำลังประสานกับดวงตาคู่สวย

     

     

                                   

                                    อึนฮยอกทั้งอาย ทั้งทำอะไรไม่ถูก พยายามจะหลบสายตา แต่เหมือนหัวใจมันกำลังเรียกร้อง ... เพราะทงเฮกำลังกระชับร่างบางเข้ามาแน่นจนแผงอกของทั้งสองสัมผัสกัน จนปลายจมูกแทบจะชนกัน

     

     

     

     

     

                                    ปะ .. ปล่อยฉันนะ .... มันใกล้เกินไปแล้ว   --   อึนฮยอกพยายามเบือนหน้าหนี แต่ดูเหมือนทงเฮจะไม่ได้สนใจคำพูดนั้นเลย เพราะสายตาของเค้ายังคงเพ่งมองพวงแก้มสีขาวนวล ที่ตอนนี้เริ่มจะระเรื่อขึ้นมานิด ๆ แล้ว .. ร่างสูงพยายามคิดหาทางที่จะครอบครองพวงแก้มนั้น จนในที่สุด....

     

     

                                    “ ฮยอกกี้ นายยังกินข้าวไม่หมดอีกหรอ..... ให้ฉันช่วยจัดการนะ

    ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ทงเฮใช้ริมฝีปากสัมผัสเข้าที่พวงแก้มที่ตอนนี้กลายเป็นสีชมพูระเรื่อ .. . ร่างบางพยายามขัดขืน แต่ดูเหมือนแขนขาจะไม่ค่อยสามัคคีกันสักเท่าไหร่ เพราะยิ่งดิ้นก็ยิ่งเหมือนถูกกระชับเข้าหากันมากขึ้นกว่าเดิม

     

     

     

     

    ชายหนุ่มทั้ง 7 คนที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ถึงกับตะลึงอ้าปากค้างไปตาม ๆ กัน ไม่เว้นแม้แต่ชินดงที่กำลังกินขนมคานาเบ้ก็ถึงกับค้างด้วยเหมือนกัน .... แต่ ยังไม่ทันจะได้เลยเถิดไปไหนต่อไหน เสียงประตูลิฟท์ก็ดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะตามมาด้วย........

     

     

    - - -

     

    - -

     

    -

     

     

     

    ปึ้ก!! “ 

    ลีดเดอร์พี่ใหญ่ของวงเดินตรงมาตบเข้าที่กกหูของทงเฮอย่างแรง เสียงที่ดังสนั่นส่งผลให้ร่างบางหลุดพ้นจากการกอดรัดทันที อีทึกจ้องมองทงเฮด้วยสายตาขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก

     

     

    เยซองเหมือนรู้ว่าอีทึกต้องการอะไร ... เค้าพยายามไล่ต้อนให้สมาชิกทั้ง 5 คน เดินไปขึ้นรถของบริษัทที่จอดอยู่ไม่ไกลมากนัก แต่ดูเหมือนจะมีอยู่หนึ่งคนที่ไม่ยอมเดินไปไหน ... ฮันเกิง ไม่เข้าใจในสิ่งที่เยซองพูด  เค้ายังคงยืนทำหน้ามึน ๆ อยู่แบบนั้น ... เยซองเริ่มรู้สึกจนปัญญา เค้าพ่นลมออกจมูก ก่อนจะกวักมือเป็นสัญญาณให้เดินตามมาคนจีนถึงเข้าใจ .... เยซองส่ายไปมาอย่างระอา ก่อนจะก้าวขึ้นรถไปเป็นคนสุดท้าย .......

     

     

     

     

    เมื่อทุกคนหายเข้าไปในรถหมดแล้ว พี่ใหญ่ของวงก็เริ่มเล่นบทโหดทันที...

    ย่าาา  นายทำบ้าอะไรเนี้ย ฮะ!!! ... สนุกนักหรอ  ... สนุกนักใช่ไหมที่ทำให้อึนฮยอกเค้าขายหน้าเนี้ย ฮ่ะ!! ... ไอ้ปลาเน่า!!!!!!  --   อีทึกตะโกนเสียงดังท่าทางโมโหจัด

     

     

                                   

                                    ไม่มีเสียงตอบรับ ... เวลานี้ ทงเฮก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงทำเรื่องนั้นลงไป เค้าเพียงแค่อยากหอมแก้มคนรักเท่านั้น ... ทงเฮรู้สึกตำหนิตัวเองที่หักห้ามใจไม่ได้จนทำให้ร่างบางต้องขายหน้า  ...

     

                                    อึนฮยอก .... ฉันขอโทษ   --   ทงเฮกล่าวเสียงสั่น ๆ พยายามจะเอื้อมมือเข้าไปจับ ร่างบางปัดมือออกทันที อึนฮยอกจ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตาผิดหวังอย่างมาก ก่อนจะเดินตรงไปยังรถเก๋งสีดำของตัวเองพร้อมกับอีทึก

     

     

                                   

                                    - - -

     

                                    - -

     

                                    -

     

     

     

     

                                    ลี ทงเฮ  .. . วันนี้ทั้งวัน นายต้องอยู่ห่างจากอึนฮยอก .... นี่คือ คำสั่ง!!!!

                                    อีทึกตะโกนด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจโดยเฉพาะประโยคสุดท้ายใส่ร่างสูง ก่อนจะก้าวขึ้นรถแล้วขับจากไป......

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×