ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 7 : เพราะรักใช่ไหม ? ?
A Moment of Remember.
Chapter 7 : เพราะรักใช่ไหม ? ?
ผิวขาวนวลอมชมพู ริมฝีปากแดงระเรื่อน่าสัมผัส ดวงตาเรียวเล็กที่แฝงไปด้วยความเศร้าหมอง ... ยามแสงจันทร์สาดส่องกระทบคนตรงหน้า .... .. เหมือนตกอยู่ในภวังค์ ความรู้สึกมากมายที่เคยเก็บกักไว้ยังส่วนที่ลึกสุดของหัวใจ ค่อย ๆ แทรกซึมขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ .. เพียงเพราะได้เห็นใบหน้าของคนที่เขาแอบรักมาตลอด .. คนที่เขารู้ว่าไม่มีทางเข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจดวงเล็ก ๆ ของคน ๆ นี้ได้ ....
ชายหนุ่มร่างผอมสูงที่อยู่ตรงหน้าไม่มีอาการตกใจใด ๆ สายตาที่ล่องลอย ใบหน้าเรียบเฉยราวกับหุ่นที่ไร้ชีวิต
“ นะ นะ นาย ..... ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ? “
คิบอมพลั้งปากออกไปโดยไม่รู้ทันได้คิด เขารีบยกมือปิดปากทันที .. แต่ก็สามารถเรียกสติให้อีกคนรู้สึกตัวได้
“ ฉันดูเหมือนคนที่ตายแล้วหรือไง.... “ -- อึนฮยอกตอบท่าทางเย็นชา
“ เปล่า ๆ ... ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ!!!! “ -- คิบอมหัวเราะกลบเกลื่อน แต่อีกคนไม่เล่นด้วย เขาจึงเม้นปากแน่นรู้สึกพูดอะไรไม่ออก
“ เอ่อ ... ฉันหมายถึง .... นายดูสวยดีตอนอยู่ในที่มืด “ -- ได้ผล .. คนตรงหน้าทำแก้มพองลมแสดงอาการไม่พอใจทันที
“ สวย!!!!!! งั้นหรอออออ “ -- อึนฮยอกลากเสียงสูง ก่อนจะทำมือเป็นกำปั้นเล็ก ๆ แล้วไปตีที่ไหล่หนาของคิบอมด้วยความโมโหบนหมั่นเขี้ยว ..
เสียงหัวเราะพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม เริ่มปรากฎอีกครั้งหลังจากที่หายไปนานตลอดทั้งวันนี้ .. ร่างบางนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิมอีกครั้ง โดยมีคิบอมที่กำลังนั่งอมยิ้มอยู่ข้าง ๆ จนอึนฮยอกสังเกตเห็น
“ ยิ้มอะไรของนายเนี้ย!! “
“ เปล่า ... ฉันแค่รู้สึกถึงวันเก่า ๆ ที่เราเคยมานั่งคุยกันตอนกลางคืนน่ะ ... คิดถึงบรรยากาศตอนนั้นจังเลย .. โรแมนติกชะมัด นายว่าม่ะ “
พูดจบ อึนฮยอกก็ถึงกับหน้าแดงขึ้นมาทันที คิบอมเองก็หันหน้าหลบไปทางอื่นเช่นกัน ถึงแม้บรรยากาศรอบ ๆ จะยังคงสงบเงียบ แต่คงมีเพียงเขาทั้งสองคนเท่านั้นที่รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ... จนอึนฮยอกต้องสูดลมข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกมาเพื่อทำลายบรรยากาศชวนอึดอัดนี้
“ คิบอม .. เมื่อไหร่นายจะกลับมาสักที .... นายยังเป็นส่วนหนึ่งของ Super Junior อยู่นะ .... ฉันรู้ว่าตอนนี้ นายกำลังยุ่งกับงานแสดง .... แต่รู้ไหม ทุก ๆ คน รวมทั้งเอลฟ์ที่อยู่ทั่วทุกมุมโลกต่างก็รอให้กลับมานะ....... “ -- คิบอมหันขวับมามองอึนฮยอกที่กำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาที่อ่านได้ว่า .. ฉันต้องการคำตอบและฉันไม่ได้ถามเล่น ๆ .. ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของคิบอมฉายแววเศร้าออกมาแวบหนึ่ง ก่อนจะหันหน้าหนีเพื่อเก็บความรู้สึกกดดันที่เขาต้องทนรับกับคำพูดเหล่านี้ ... คิบอมหันกลับมาอีกครั้งพร้อมกับแววตาเป็นประการะยิบระยับราวกับคนละคน
“ แล้วนายรอวันที่ฉันจะกลับไปได้ไหมล่ะ .. .......... ว่าแต่ อึนฮยอก .. ฉันสงสัยมานานแล้ว ทำไมนายถึงสามารถเขียนขอบตาได้ล่ะ ในเมื่อตาของนายก็ออกจะเล็กซะขนาดนี้ “ -- คิบอมยิ้มอย่างอารมณ์ดีพลางเสยผม แต่คนตรงหน้ากับรู้สึกงุนงงที่อยู่ดี ๆ คิบอมก็เปลี่ยนเรื่องกะทันหัน .... ในช่วงที่อึนฮยอกกำลัง งง ๆ อยู่นั้น คิบอมเองก็ค่อย ๆ เอื้อมมือมาจับใบหน้าของเขา และยื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“ แก้มนายนุ่มจัง ... ฮยอกกี้ “ -- ร่างบางสะดุ้งโหยง ก่อนจะเขกหัวคิบอมดัง โป๊ก!!!!
“ อย่าเล่นอะไรแบบนี้อีกนะคิบอม “ -- อึนฮยอกตะโกนใส่คิบอมอย่างขุ่นเคือง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าคิบอมกำลังนั่งกุมหัว ทำหน้าบิดเบี้ยวราวกับกำลังเจ็บอย่างแสนสาหัส
“ เอ่อ....... ฉันไม่ได้ตั้งใจ ... ขอโทษนะ เจ็บหรือเปล่า“ -- อึนฮยอกพูดเสียงอ่อย
“ มือหนักจังเลยนะ .. ว่าแต่นี่ก็ดึกแล้วนะ ทำไมนายถึงยังไม่กลับไปนอนอีกล่ะ ... พรุ่งนี้ยังต้องไปทำงานอีกไม่ใช่หรอ “ -- คิบอมถามด้วยความเป็นห่วง แม้ในส่วนลึกของหัวใจจะไม่ต้องการก็ตาม
“ อืม .. . ฉันก็ว่าจะกลับตั้งนานแล้วล่ะ แต่พอดีมาเจอนายซะก่อน “ -- อึนฮยอกตอบยิ้ม ๆ
“ งั้น กลับบ้านไปนอนกันเถอะ..... “ -- คิบอมเอ่ยขึ้น พร้อมกับดึงแขนคนข้าง ๆ ให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะหยิบกระเป๋าพาดบ่า แล้วเดินออกไปพร้อมกัน
เมื่อเดินมาถึงทางแยกที่กั้นด้วยสวนสาธารณะเพื่อแบ่งโซนของหอพัก คิบอมและอึนฮยอกต่างก็ไม่ลืมที่โบกมือร่ำลา ... คิบอมยืนรอจนร่างบางเดินหายเข้าไปยังภายในตัวอาคาร เมื่อพ้นสายตาแล้ว .. เขาก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ .....
“ เฮ้อออออ ..... ทำไม แววตาของนายถึงไม่เคยมีฉันอยู่ในนั้นเลยนะ... “ คิบอมเอ่ยออกมาเบา ๆ ก่อนจะหันหลังแล้วเดินกลับไปยังหอพักของตัวเอง
- - - -
- - -
- -
-
แสงไฟจากประตูห้องน้ำที่อึนฮยอกเปิดออกหลังจากอาบน้ำเสร็จ เผยให้เห็นร่างของใครบางคนที่ยืนพิงกำแพงหน้าห้องนอนของเขา
“ นี่มันตี 2 แล้วนะ .. นายหายไปไหนมา “ -- ทงเฮพูดเสียงเข้ม
“ มันเรื่องของฉัน.... นาย ......... เอาเวลาไปสนใจ ... เจสสิก้าเถอะ “ -- อึนฮยอกพูดออกมาด้วยความยากเย็น เพราะคงไม่มีใครหรอกที่อยากจะหยิบยื่นคนที่ตัวเองรักให้กับคนอื่น
“ .................... “ -- ทงเฮถึงกับพูดอะไรไม่ออก
“ ฉันคงทำให้นายลำบากใจมากสินะ “ -- ดวงตาเรียวบางเริ่มมีม่านน้ำตาอีกครั้ง
“ ไม่ .. ฉันไม่เคยคิดแบบนั้น ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นจริง ๆ “ -- ทงเฮดึงร่างของคนตรงหน้าเข้ามากอด เพราะเวลานี้ คน ๆ นี้กำลังอ่อนแอ .. อ่อนแอเพราะหัวใจที่ไม่มั่นคงของเขา
“ ท ง เ ฮ ... ฉัน“
“ ฉันขอโทษอึนฮยอก ... ฉันขอโทษที่ทำให้นายเสียความรู้สึก ฉันขอโทษจริง ๆ “ -- ทงเฮกอดคนที่กำลังซุกหน้าลงบนอกกว้างของเขาแน่น .. กี่ครั้งแล้วนะ ที่ฉันทำให้นายเสียใจ ทั้งที่นายก็ไม่เคยทำผิดอะไร แต่ทำไมฉันถึงกล้าเอาความรักของนายมาล้อเล่นแบบนี้
“ นายควรจะนอนได้แล้วนะอึนฮยอก .. ดึกมากแล้ว “ -- ทงเฮพูดเบา ๆ เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดเริ่มสงบลงแล้ว ก่อนจะจูงมือคนตรงหน้าเข้าไปในห้อง
อึนฮยอกเอนกายนอนลงบนเตียง โดยที่สายตาก็ยังคงจับจ้องร่างสูงของทงเฮที่นั่งลงด้านข้าง รอยยิ้มที่อ่อนโยนกับความอบอุ่นยังคงมีให้เสมอและดูจะมากกว่าที่ผ่านมาด้วยซ้ำ
“ หลับฝันดีนะครับ “ -- เสียงกระซิบที่ข้างหู ก่อนจะจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเนียน แต่ไม่ทันที่ร่างสูงจะก้าวออกจากห้อง อยู่ดี ๆ มือของใครอีกคนที่อยู่บนเตียงก็จับรั้งที่แขนของเขาไว้ ... ทงเฮหันไปมอง
“ อยู่กับฉันก่อนได้ไหม........ “ -- ร่างบางเอ่ยเบา ๆ ก่อนจะปล่อยมือที่รั้งไว้ออก พร้อมกับพลิกตัวหันไปด้านที่ติดกำแพงห้องทันที เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังถอนหายใจ
ทงเฮส่ายหน้าอย่างเอือมระยากับความขี้งอนของอึนฮยอก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังล้มตัวลงนอนด้านข้าง ก่อนจะโอบกอดอีกฝ่ายไว้แน่น
“ ยังงอนอยู่หรอ ... ขอโทษนะ .. หลับฝันดีอีกครั้งนะครับ “ -- ทงเฮเอ่ยเบา ๆ ก่อนจะหอมลงบนกอผมที่อยู่ด้านหลัง
“ ฝันดีนะ “ -- คนถูกกอดระบายยิ้มจาง ๆ
- - - -
- - -
- -
-
ทงเฮ ..... ดวงตาเบิกกว้างขึ้นในความมืด....
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ .. ที่ฉันมองข้ามช่วงเวลานั้น
ทำไมนะ .... ทำไมฉันถึงเลือกที่จะมองข้ามความผิดพลาดของตัวเอง
ทำไมถึงเลือกที่จะบอกว่าไม่เคยทำให้คนข้าง ๆ คนนี้เสียใจล่ะ
อ้อมกอดที่อบอุ่นกระชับร่างของคนที่อยู่ในการครอบครองให้แน่นยิ่งขึ้น ไม่มีแม้แต่คำพูด ไม่มีแม้แต่เสียงปลอบโยน มีเพียงอ้อมกอดของทงเฮเท่านั้นที่ยังคงเป็นของอึนฮยอกคนนี้เสมอ ..
“ ฝันร้ายหรอ “ -- ทงเฮเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ก่อนจะคลายอ้อมกอดให้คนตัวเล็กเป็นอิสระ
“ อืม ... .. แล้ว ฉันทำให้นายตื่นหรือเปล่า “ -- คนตัวเล็กถามกลับ พร้อมกับเอนหัวพิงกับอกแกร่งของทงเฮ
“ คิดมากนะ ..... ฉันยังไม่ได้หลับเลย “ -- ทงเฮพูดน้ำเสียงขี้เล่น ก่อนจะโอบกอดคนตรงหน้าอีกครั้ง
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงยังไม่นอน ...... อาจจะเพราะกำลังคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาอยู่ก็ได้
ฉันควรจะแก้มันยังไงดีนะ.....
ในเมื่อคิดว่าจะมั่นคงกับคน ๆ นี้ จะซื่อสัตย์ จะไม่ทรยศต่อหัวใจที่แสนบริสุทธิ์ของคน ๆ นี้
แต่ทำไม ...
หัวใจของฉันถึงได้อ่อนไหวต่อคำพูดของผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงคนที่เหยียบย้ำหัวใจของฉัน
คนที่บอก .. ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้
แล้วทำไม.....
ฉันถึงเลือกที่จะหันกลับไปแล้วเลือกที่จะปล่อยมือจากคนที่อยู่เคียงข้าง
ทำไมฉันถึงเลือกที่จะหลอกหัวใจตัวเองว่ายังรัก “ เจสสิก้า “
แล้วฉันควรทำไง....
ในเมื่อทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้ม ทุกครั้งที่ได้มองตา....
ฉันก็เหมือนกลับตกอยู่ในภวังค์ เหมือนกำลังเดินอยู่ในเขาวงกตที่ไม่สามารถหาทางออกได้
อึนฮยอก....
ฉันขอโทษ... ที่หัวใจของฉัน มันไม่เข้มแข็งพอ
ฉันขอโทษ... ที่ฉันคอยแต่ทำร้ายหัวใจของนาย
ฉันขอโทษ... สำหรับหยดน้ำตา
....แล้ว....
จะเป็นไปได้ไหม.... ถ้าสักวันนายจะฉุดดึงให้ฉันหลุดพ้นจากภาพหลอนพวกนั้น
จะเป็นไปได้ไหม.... ถ้านายจะตบหน้าฉัน แล้วบอกว่า “ นายมันโง่ ที่ยอมให้เธอหลอกได้อีก...... “
อึนฮยอกขยับตัวเล็กน้อย เพื่อให้หลุดพ้นจากอกแกร่งและอ้อมกอดของอีกฝ่าย
“ นายกลับไปนอนได้แล้วล่ะ..... ฉันไม่เป็นไรแล้ว .... เด๋ว!! ฉันเดินไปส่งหน้าประตูนะ “ -- ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทงเฮพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะยันกายลุกจากเตียงนอนแล้วเดินตามหลังอึนฮยอกออกไป
“ อึนฮยอก ... ฉันขอโทษนะ ที่ทำให้นายเสียใจ ขอโทษที่ทำให้นายผิดหวังในตัวฉัน ... แต่อย่างน้อยฉันก็ขอบคุณนะ ที่ฉันยังเลือกที่จะอยู่ตรงนี้ อยู่เพื่ออภัยให้ฉัน ........ ลี ทงเฮคนนี้ รัก ลี ฮยอกแจ นะครับ!! “ --
ทงเฮพูดน้ำเสียงหนักแน่นโดยมือของเขายังคงกุมมือของร่างบางไว้แน่น ก่อนจะจูบลงเบา ๆ ที่ปลายจมูกของคนตัวเล็ก ... ไร้เสียงตอบรับจากอึนฮยอก มีเพียงรอยยิ้มที่อ่อนโยนเท่านั้น ..... ทงเฮดึงร่างของคนตรงหน้ามากอดอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป
- - - -
- - -
- -
ทงเฮ.... นายต่างหากที่ยังยืนอยู่ตรงนี้ เพราะต่อให้นายจะอยากกลับไปหาสิ่งที่เรียกว่า “ รักครั้งแรกของนาย“ มากแค่ไหน
แต่อย่างน้อย นายก็ยังเลือกที่จะจับมือฉัน .... นายเลือกที่จะหันมามองความรู้สึกของฉัน
ทงเฮ ... นายรู้ไหม ... ต่อให้ฉันมอบความรัก มอบหัวใจทั้งหมดของฉันให้นาย
แต่มันก็คงไม่ต่างอะไรกับคนเห็นแก่ตัว ... เพราะลึก ๆ แล้ว ฉันก็ยังหวังผลตอบแทนของมัน
ยิ่งฉันได้รับความอบอุ่นจากนายมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งขาดมันไม่ได้
จะเห็นแก่ตัวเกินไปไหม... ถ้าฉันอยากให้แววตาของนายมีฉันเพียงคนเดียว
ถ้าฉันอยากให้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ฉันห่วงแหนนั้น แสดงออกแต่กับฉันเท่านั้น
และถ้าฉันอยากให้.... ทั้งฉันและนายได้อยู่ด้วยกันตลอดไป
แบบนี้... ยังจะเรียกว่า “ รัก“ ได้อีกไหม
ในเมื่อทั้งหมดที่มอบให้ไป .... ท้ายที่สุดแล้ว ก็เพื่อหวังที่จะได้รับความรักตอบแทนจากนาย........
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น