คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Me a rii :: p1 >> kim hee chul
ประเดิมเปิดฟิคเรื่องใหม่สามตอนรวดไปเลย.. อิอิ
ใครที่เคยติดตามไรเตอร์มาอยู่บ้าง..
ก็อย่าลืมมาอุดหนุดติดตามเรื่องนี่ต่อนะค่ะ ขอบคุณที่กรุณาค่า..
เนื้อหาในเรื่องถ้าเกิดขัดข้องผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยน้าค่ะ
แล้วไรเตอร์จะปรับปรุงค่ะ
ป่ะอ่านกันเลยดีกว่าเนอะ หุหุ 가자!!!!!!
------------------------------------------------------------------------------------------------
ในวันที่ฝนตกหนัก อากาศแย่ๆ เด็กผู้ชายตัวเล็กๆตากลมโตกำลังนั่งจ้องมองสายฝนผ่านทางหน้าต่าง
บนเตียงสีขาวสะอาดตาของโรงพยาบาล น้ำฝนนั่นจะเย็นมากมั้ยนะ? เด็กน้อยคิดพลางล้มตัวลงนอนเพื่อจะ
หลับตาจินตนาการนึกถึงตัวเค้าเองกำลังวิ่งเล่นกลางสายฝน ลมแรงแบบนั้น..
“นี่!! นี่!! นายน่ะ นาย นาย!!”
เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กผู้ชายดังขึ้น ทำให้คนที่กำลังเข้าสู่ห้วงนิทราตกใจตื่น
“อะไร!!!!!!!!!!”
เด็กชายตาโตหันมาตะหวาดใส่อีกคนด้วยความหงุดหงิด คนจะนอนไอ้บ้านี่ก็เรียกจัง!!
“เอ่ออ.. คือ..”
“มีอะไร!!!!!!!”
“เอ่ออ .. นายน่ะเป็นอะไรหรอ ถึงมาอยู่โรงพยาบาล” ถามด้วยน้ำเสียงที่กล้าๆกล้วๆ
“เกี่ยวอะไรกับนาย” ตอบอย่างไม่ใยดีและพยายามที่จะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
“อืมมม แล้วนายเป็นอะไรหรอ??” ก็ยังคงถามต่อไปอย่างไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของอีกคนเลย
“ก็บอกแล้วไงว่าเกี่ยวไรกับนาย หนวดหูจริงคนจะนอน!!!!!” พูดจบก็คว้าผ้าห่มมาคลุมโป่ง เด็กน้อย
อีกคนมองคนที่นอนหันหลังคลุมโป่งให้กับตัวเองก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้
“อ่ออออ งี้นี่เองนายคงอยากให้ฉันบอกนายก่อนใช่มั้ยล่ะ..”
“...”
“ฉันน่ะนะแขนหักมาล่ะ เป็นเพราะเพื่อนในห้องฉันน่ะสิเอารองเท้าฉันไปซ่อนไว้ซะสูงเลย ฉันก็เลย
ต้องปีนขึ้นไปเก็บ แต่ดันพลาดตกลงมาซะก่อน แหะๆแย่จังเลยเนอะ ><!!”
“...”
ก็ยังคงไร้ปฎิกิริยาของเด็กชายอีกคนกลับมา แต่เค้าก็ยังคงพูดด้วยเสียงที่นุ่มนิ่มต่อไปว่า
“แต่ฉันก็ชินแล้วล่ะที่ถูกแกล้งแบบนั้น ฉันถูกแกล้งบ่อยๆจนชินซะล่ะ ฮ่าๆๆๆ”
“พูดอยู่นั่นหล่ะใครเค้าถามนายกัน ฉันไม่ได้บอกหรอไงว่าหนวดหูน่ะ”
“อ่า..”
เมื่อโดนพูดใส่แบบนั้นถึงกับทำให้อีกคนไม่รู้จะพูดอะไรต่อทันที เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสอง
เด็กชายที่มีลักยิ้มเม้มปากตัวเองเข้าเล็กน้อยเมื่อเค้าพยายามหาเรื่องจะพูดคุย แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรก็มี
นางพยาบาลสองคนเข้ามาซะก่อน และพาตัวเด็กน้อยที่นอนคลุมโป่งนั่งรถเข็นออกไป ด้วยความสงสัยเค้าจึง
ค่อยๆเดินตามไปจนกระทั่งไปถึงห้องๆนึงที่มันไม่แตกต่างจากห้องที่พักเมื่อกี้ แต่แค่มีอุปกรณ์การแพทย์
เยอะแยะมากกว่า ด้วยความสูงที่มีไม่มากนักเค้าพยายามยืดตัวมองผ่านทางช่องหน้าต่างของประตู แต่ก็ไม่
สามารถมองเห็นภายในได้ เค้าจึงตัดสินใจเดินกลับไปยังห้องพัก..
“อื้อออออ~”
เสียงครางเบาๆทำให้เด็กชายที่นอนอยู่เตียงข้างๆรู้สึกตัวตื่น เค้าลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงียและเบนสายตา
ไปทางต้นเสียงก็เห็นเด็กชายอีกคนที่นอนอยู่ข้างๆที่ไม่รู้ว่ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กำลังครางเบาๆด้วยความทรมาน
เค้าลุกเดินไปอยู่ข้างๆเตียงของเด็กคนนั้น และฝ่ามือนุ่มๆอุ่นๆก็สัมผัสลงบนหน้าผากของอีกคนอย่างแผ่วเบา
“นายตัวร้อนจี๋เลย.. ไม่สบายรึเปล่าเนี้ยะ!!!”
เด็กชายอุทานขึ้นทำตาโตด้วยความตกใจเมื่อได้รับสัมผัสไอร้อนจากเด็กอีกคน เด็กน้อยพยายามฝืน
ลืมตาขึ้นเพราะเสียงอุทานที่ดังทำลายความเงียบภายในห้อง
“ถ้าฉันสบายดีจะมาอยู่ที่นี่หรอ.. ถามโง่ๆ = =!! “
ตอบด้วยความลำบากเพราะคอที่แห้งผาดจึงทำให้เสียงที่เคยดังลั่นแสบแก้วหูแหบลง
“...”
“...”
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสองอีกครั้ง เด็กชายจึงเดินกลับเตียงของตัวเองอย่างเงียบๆ แต่ทันทีที่ก้าวขา..
“เดี๋ยวสิ!!” เด็กชายตาโตที่อยู่บนเตียงตะโกนเรียกอีกคน
“มีอะไรหรอ??” สีหน้าจ๋อยๆหันกลับมาถาม
“ก่อนไป.. ช่วยหยิบน้ำให้ฉันหน่อยสิ” เค้าออกคำสั่งกับเด็กอีกคนทันที เด็กชายทำหน้างงๆก่อนจะเดิน
ไปหยิบเหยือกน้ำมารินใส่แก้วให้เด็กน้อยที่รออยู่บนเตียง ก่อนจะเดินกลับไปยังเตียงของตัวเอง..
“ขอบใจ” เสียงแผ่วเบาที่แทบจะไม่ได้ยินแต่มันกลับชัดเจนมากสำหรับอีกคน เค้าหยุดชะงักและหัน
กลับมามองอีกคนที่ตอนนี้ฟุบนอนคลุมโป่งไปเรียบร้อยแล้ว รอยยิ้มน้อยๆปรากฏอยู่บนหน้าไม่น่าเชื่อว่าคนที่
เกรี้ยวกราดก็มีมุมน่ารักแบบนี้ได้เช่นกัน
วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆทั้งสองเริ่มจะคุ้นเคยกันมากขึ้น เล่นด้วยกันบ่อยขึ้น บางทีก็นั่งวาดรูปอยู่ด้วยกัน
แต่ด้วยอารมณ์ใจร้อน ขี้หงุดหงิดของเด็กอีกคนจึงทำให้ไม่สามารถใช้เวลาอยู่กับที่แบบนั้นได้นานๆ
“เฮ้ออออ ไม่เห็นจะสนุกตรงไหนเลย ไม่มีอย่างอื่นให้เล่นแล้วหรอไงนะ??”
“อ่า.. แล้วนายอยากเล่นอะไรล่ะ??”
“ไม่ล่ะ!! ฉันไม่อยากเล่นแล้ว.. นอนดีกว่า”
พูดจบก็เดินกลับเตียงแล้วลงนอนทันที
“อ้าวแล้วฉันจะเล่นกับใครล่ะเนี้ยะ”
เด็กชายทำหน้าผิดหวังจ้องมองเด็กอีกคนอย่างนึกน้อยใจ
“นายก็นั่งวาดรูปเล่นของนายต่อไปสิ ฉันจะนอน”
“แต่..”
แต่แล้วเด็กชายก็เหมือนนึกบางอย่างออกเค้าฉีกยิ้มกว้างเผยให้เห็นลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้าง พร้อมกับ
ถืออุปกรณ์การวาดรูปเดินมาอยู่ด้านหน้าของคนที่นอนหลับตาสนิท เค้าเริ่มลงมือวาดรูปคนตรงหน้าทันที..
..
เช้าวันหนึ่งเด็กชายลักยิ้มตื่นขึ้นมาพร้อมกับยิ้มกว้าง แต่พอหันไปทางเตียงข้างๆมันกลับว่างเปล่าเด็ก
คนที่เคยนอนอยู่ตรงนี้ได้หายไปเค้ามองไปทั่วทั้งห้องก็ไม่เจอ เดินไปยังห้องที่เด็กอีกคนมักจะถูกพามาอีกห้องแต่
พอเปิดเข้าไปมันก็ว่างเปล่าไม่มีใครอยู่ในห้องเลยสักคน เค้าเดินกลับมายังห้องเดิมเพื่อหวังว่าจะเจอคนที่คุ้น
หน้าคุ้นตานอนอยู่ที่เดิมแต่เตียงนั้นมันก็ว่างเปล่าอยู่ดี ..เค้าหายไปไหนแล้ว.. เด็กชายนึกอยู่ในใจ
“เด็กคนนั้นเค้ากลับไปตั้งแต่เช้าแล้วล่ะจ้ะ..”
เสียงนางพยาบาลดังขึ้นข้างๆเมื่อเค้าเห็นว่า เด็กชายเอาแต่จ้องมองเตียงที่ว่างเปล่าอยู่จนไม่ทัน
รู้สึกตัวว่ามีคนเดินเข้ามา เด็กชายรีบหันกลับมาสนใจต้นเสียงนั้นทันที
“เค้ากลับไปแล้วหรอฮะ”
“ใช่จ้ะ.. อาการของเด็กคนนั้นน่ะดีขึ้นมากคุณหมอเลยอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูก็ได้
กลับบ้านแล้วเหมือนกันนะ แต่ก่อนนั้นต้องรีบกินยานี่ให้หมดซะก่อนโอเคนะ ^^”
เมื่อกินยาจนหมดเด็กชายลักยิ้มเดินไปที่เตียงของเด็กอีกคน เค้าสังเกตเห็นบางอย่างติดไว้อยู่ข้างๆหัว
นอนที่เตียงซึ่งมันยังไม่ถูกดึงออกไป เค้าพยายามที่จะสะกดอ่านมันให้ออก
“คะ.. คะ.. คิ.. คิม.. ฮะ.. ฮึย.. จอ.. ชอ.. อ่า!! “
เค้าเบิกตาโตกว้างทันทีเมื่อสะกดออกและรีบไปหยิบรูปวาดขึ้นมาเขียนชื่อที่เพิ่งสะกดได้ลงไปในนั้น
“ คิม.. ฮี.. ชอล..”
.
.
..
- 12 ปีต่อมา
“ย้ะ!!! ทำไมถึงมาช้านักล่ะรู้มั้ยว่าฉันรอนานขนาดไหนแล้ว เห็นมั้ยๆๆๆ ผิวสวยๆของฉันมันจะเปื่อย
หมดแล้ว นี่ถ้าอีก 30 วินายยังไม่โผล่มานะฉันไม่รอแล้วจริงๆด้วย ทงแฮ!!!!!!!!!”
“โธ่!! พี่จะบ่นให้มันได้อะไรเล่าฉันก็รีบมาแล้วนี่ไง”
“ให้ตายนี่มันก็เกินเวลามาตั้ง 1 นาทีทงแฮนายหัดตรงเวลาซะหน่อยสิฉันจะได้ไม่ต้องบ่น เสียเวลา
จริงๆ”
“พี่ฮีชอลแล้ววันนี้พี่จะรีบไปมหาลัยทำไมแต่เช้าอ่ะ??”
สิ้นสุดคำถามหน้าสวยหันควับทันที แววตาเปร่งเป็นประกาย ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย พร้อมกับ
หัวเราะดั่งผู้กุมชัยชนะ เล่นเอาทงแฮถึงกับตกตะลึงกับสิ่งที่กำลังเกิดอยู่ตรงหน้าเค้า
“วันนี้ก็เป็นวันวาเลนไทน์ไงล่ะ..”
“แล้วยังไงอ่ะ” ทงแฮเกาหัวอย่างไม่เข้าใจแล้วมันเกี่ยวอะไรกับการไปมหาลัยแต่เช้า
“โธ่.. ซื้อบื้อจริงเลย.. อย่าทำให้ฉันหงุดหงิดแต่เช้าได้มั้ยเนี้ยะ วันนี้ผู้หญิงจะต้องเป็นคนให้ช็อคโกแลค
กับผู้ชายใช่มั้ยล่ะ.. แล้วมินอาจะต้องเอาช็อคโกแลคมาให้ฉันอย่างแน่นอน แล้วก็นี่... แอ้นแอ๊นนนน”
ฮีชอลหยิบกล่องบางอย่างขึ้นมาโชว์ให้ทงแฮดูทันทีที่เห็นกล่องนั้นคนหน้าหวานถึงกับอ้าปากค้าง
“โหววววววว!! ช็อคโกแลคนี่พี่ให้ผมหรอ” ชี้ที่ตัวเองพร้อมกับเอื้อมมือจะไปหยิบแต่ก็โดนมือเรียวพลั่ก
จนกระเด็น
“ย้ะ!!!!!! อย่าได้บังอาจเอามือแกมาแตะต้องโดนกล่องนี้เชียวนะ!!! “ พูดพร้อมแยกเขี้ยวใส่พยายาม
ไม่ให้ทงแฮเข้าใกล้กล่องนี่ได้ แต่ก็เปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็วเมื่อพูดถึงอีกคน
“กล่องนี่น่ะมีไว้ให้เฉพาะมินอาเท่านั้น.. มินอา.. มินอาของฉัน ^[]^ !!!”
ทงแฮมองคนหน้าสวยด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะแอบนึกในใจ ..คนอะไรช่างมั่นใจซะจริง..
.
“กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดด นั่นพี่ฮีชอลกับทงแฮนี่ เค้ามากันแล้วววว!!! “
“กริ๊ดดดดดด ไหนแกไหนๆๆ กริ๊ดดดดดพี่ฮีชอลลลลลล พี่ฮีชอลลลทางนี่!!!!!!!!!”
เมื่อก้าวเท้าเข้ามหาลัยได้ไม่เท่าไหร่สาวๆในมหาลัยต่างก็กริ๊ดให้กับทั้งคู่ทันที และพยายามกรูเข้ามา
ให้ถึงตัวพวกเค้าทั้งสอง ในเวลาแบบนี้ฮีชอลล่ะไม่ชอบสุดๆทั้งความเสียงดัง ความเบียดเสียดที่น่ารำคาญแต่
ก่อนที่ฮีชอลจะระเบิดตับ ทงแฮก็ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ทัน
“เอ่ออออ.. ขอทางให้พวกเราขึ้นห้องเรียนหน่อยนะครับสาวๆ ^^”
ด้วยรอยยิ้มที่แสนหวานเหมือนเทพบุตรนั้นทำให้ผู้หญิงหลายคนถึงกับตกอยู่ในห้วงของความสุข และ
ความทรมานใจกับรอยยิ้มนั้นมันช่างน่ากลืนกินเข้าไปทั้งตัวเลยจริงๆ เสียงที่ดังเงียบสนิททันทีและหลีกทางให้
ทั้งสองได้ผ่านไป แต่ก็ยังคงไม่ละสายตาจากทั้งคู่จนทั้งคู่หายลับตาไป ฮีชอลหยุดมองทงแฮก่อนจะเดินเข้า
ห้องเรียนของตัวเอง
“อะไร??” ทงแฮเอ่ยถาม
“นายนี่มัน!!” ฮีชอลไม่รู้จะหาคำไหนมาพูด ได้แต่ทำท่าหมั่นไส้ใส่แล้วเดินเข้าห้องไป
“อะไรของเค้า???” แต่ทงแฮก็ยังไม่เข้าใจท่าทางของฮีชอลอยู่ดี
ในระหว่างเปลี่ยนคาบเรียน ฮีชอลกำลังซุ่มแอบดูหญิงสาวน่ารักผิวขาวผมยาวตรงสวยผ่านล็อคเกอร์
โดยไม่ทันรู้สึกตัวเลยว่ามีใครบางคนมายืนอยู่ด้านหลังเค้า
“ไงพี่ให้เค้าไปยัง!!!!” อยู่ๆทงแฮก็โผล่งเข้ามาทำให้ฮีชอลสะดุ้งสุดตัวจนหัวไปกระแทกกับประตูล็อค
เกอร์อย่างแรงด้วยความเสียงดังทำให้หลายๆคนหยุดทำกิจกรรมของตนเองแล้วหันมามองฮีชอลเป็นตาเดียว
รวมถึงหญิงสาวคนนั้นด้วย เธอหัวเราะคิกคักให้กับท่าทางที่ทำตัวไม่ถูกของฮีชอล มือเรียวโบกเข้าที่หัวของคน
หน้าหวานเต็มพาวเว่อร
“โอ๊ยยยยยย พี่ฮีชอลผมเจ็บนะเนี้ยะ”
ป๊าบบบบบบบบบ
“โอ๊ยยยยยยยยย” ทงแฮถึงกับร้องเสียงหลง
“อันแรกสำหรับที่ทำให้ฉันเจ็บตัว ส่วนนี้สำหรับที่ทำให้ฉันขายหน้า” อีกครั้งที่ฮีชอลตีหน้าแยกเขี้ยว
ใส่ทงแฮเค้ายืนกอดอกเพื่อสั่งสอนทงแฮ แต่สายตาก็ไม่วายที่จะคอยเหลือบไปมองที่หญิงสาว ทงแฮเห็นกล่อง
ช็อคโกแลคเมื่อเช้าอยู่ในล็อคเกอร์ของฮีชอลก็รู้ได้ทันทีเลยว่าฮีชอลนั้นยังไม่ได้มอบให้ไป
“มินอา.. จอง มิน อา!!!”
ทงแฮตะโกนเรียกหญิงสาวออกไปโดยที่ฮีชอลยังไม่ทันได้ตั้งตัว คนหน้าสวยถึงกับเลิ่กลั่กไปมาเมื่อ
หญิงสาวหันมาทางตนเอง
“พี่ฮีชอลมีเรื่องจะคุยด้วยแหน่ะ”
จบประโยคหญิงสาวทุกคนถึงกับมองมินอาด้วยความอิจฉา..
ณ สถานที่แห่งนึงใต้ต้นไม้ใหญ่ในรั้วมหาลัยหญิงสาวจ้องมองฮีชอลด้วยความฉงน ฮีชอลยังคงซ่อน
กล่องช็อคโกแลคไว้ด้านหลังยังไม่กล้าที่จะยื่นให้
“พี่มีอะไรรึเปล่าค่ะหนูมีเรียนต่อนะ..”
หญิงสาวเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าฮีชอลไม่มีทีท่าว่าจะทำอะไรต่อไปเลยนอกจากยืนจ้องหน้าตนเองอยู่อย่าง
นั้น ฮีชอลตัดสินใจแล้วยื่นกล่องช็อคโกแลคให้แทบกระแทกหน้าหญิงสาว
“ช่วยรับมันไปด้วยได้มั้ย..”
คำพูดที่กลั่นกลองมาจากสมองแล้วอย่างดิบดี มันยากที่จะหาคำพูดดีๆได้สักประโยคเมื่อยืนต่อหน้า
คนที่ชอบด้วยแบบนี้ แล้วยิ่งคนอย่างฮีชอลด้วยแล้วยิ่งยากหนักเข้าไปใหญ่ - -“
“ขอโทษด้วยค่ะ.. ฉันคงรับไว้ไม่ได้”
“ทำไมล่ะ ทำไมถึงรับมันไว้ไม่ได้” ยิ่งนึกก็ยิ่งไม่เข้าใจ นี่ช็อคโกแลคของคิมฮีชอลคนดังของมหาลัย
เชียวนะทำไมถึงรับไว้ไม่ได้!!
“ก็เพราะว่า ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้วน่ะสิค่ะ” จบประโยคหญิงสาวรีบเดินหนีออกมาจากบรรยากาศที่
เริ่มมาขุที่ก่อตัวขึ้นตรงนั้นทันที ฮีชอลเมื่อได้ยินประโยคนั้นถึงกับแทบช็อคเค้ายืนนิ่งค้างไปเลย หญิงสาวที่แอบ
หลงรักมาปีกว่ามลายหายไปในพริบตา ..
ในขณะที่ฮีชอลกำลังเดินขึ้นบันไดด้วยความรู้สึกว่างเปล่า ก็มีหญิงสาวเดินถือขนมเค้กช็อคโกแลค
ตรงมาหาเค้าด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและเขินอาย ด้านหลังมีเพื่อน 2 3 คนยืนเชียร์เป็นกำลังใจให้หญิงสาวคน
นั้น แต่เค้าไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลังจะเกิดฝันร้ายขึ้นกับตัวเอง
“พี่ฮีชอลค่ะ.. คือ.. ฉันทำขนมเค้กมะ..”
ยังไม่ทันที่จะได้พูดจบประโยคฮีชอลพลั่กขนมเค้กใส่หน้าหญิงสาวอย่างไม่ลังเล เพื่อนๆที่ยืนอยู่
ด้านหลังถึงกับช็อคจนพูดไม่ออก
“น่ารำคาญ”
พูดด้วยเสียงที่เย็นชา และสายตาที่เยือกเย็นไม่แม้แต่จะมองหน้าของหญิงสาวเลยสักนิด หญิงสาว
ถึงกับหลั่งน้ำตาและวิ่งจากไป แต่นั่นก้ไม่ได้ทำให้ฮีชอลรับรู้หรือรู้สึกอะไรเลย เมื่อผ่านถังขยะเค้าโยนกล่องช็อค
โกแลคทิ้งไปอย่างไร้เยื่อใย ตอนนี้ฮีชอลคนหน้าสวยได้กลายเป็น “ Devil “ แล้วอย่างสมบูรณ์แบบทุกคนต่าง
หลีกทางและไม่กล้าสบตากับฮีชอลแม้แต่กับทงแฮเองก็เช่นกันยังไม่อยากที่จะเข้าใกล้เลย ผู้ชายโชคร้ายคนนึง
บังเอิญเดินชนกับฮีชอลจนตนเองล้มลงแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฮีชอลหันมาแยแสเลยแถมเหยียบซ้ำอีกต่างหาก
ตอนนี้ไม่มีใครสามารถเข้าใจถึงความคิดของฮีชอลได้ว่าคนหน้าสวยตอนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่..
“พี่ฮีชอลรอผมด้วยสิ!!!!”
ทงแฮตะโกนเรียกคนหน้าสวยที่เดินจ้ำเอาๆไม่ได้รอกันเลย แต่ก็นั่นแหละฮีชอลเหมือนปิดกั้นตัวเองทุก
อย่างจนไม่ได้ยิน ไม่เห็น ไม่ได้รับรู้อะไร
“พี่ฮีชอลถ้าพี่รีบพี่ก็กลับไปคนเดียวก็แล้วกัน พี่รู้ตัวเองมั้ยทำตัวน่ารำคาญเกินไปแล้ว!!!”
ประโยคสุดท้ายทงแฮตะโกนออกไปสุดเสียงก่อนจะหันหลังกลับไปอีกทาง ทิ้งให้ฮีชอลนั้นเดินต่อไปคน
เดียวคนหน้าสวยเดินอย่างไม่รับรู้โลกภายนอกแต่มาได้ไม่เท่าไหร่เค้าก็เดินชนเข้ากับผู้ชายร่างสูงใหญ่จนตัวเอง
ล้มลงไปนั่งกองกับพื้น และข้าวของของอีกคนกระจัดกระจายไปทั่ว ฮีชอลลุกขึ้นยืนปัดๆฝุ่นออกแล้วก็เดินต่อไป
ไม่คิดแม้แต่จะขอโทษสักคำ
“เห้ยนี่!!! ไม่คิดจะขอโทษสักหน่อยหรอ เห้ยอะไรว่ะ.. “
..
ความคิดเห็น