คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 : ความเจ็บปวด
A Moment of Remember.
Chapter 2 : ความเจ็บปวด
ภายในห้องพักศิลปิน....
Sorry Sorry Sorry Sorry
내가 내가 내가 먼저
แน กา แน กา แน กา มอน จอ
네게 네게 네게 빠져
เน เก เน เก เน เก ปา จยอ
빠져 빠져 버려 baby
ปา จยอ ปา จยอ บอ รยอ เบบี้
Shawty Shawty Shawty Shawty
눈이 부셔 부셔 부셔
นู นี บุ ชยอ บุ ชยอ บุ ชยอ
숨이 막혀 막혀 막혀
ซู มี มัค คยอ มัค คยอ มัค คยอ
내가 미쳐 미쳐 baby
เน กา มิ ชยอ มิ ชยอ มิ ชยอ เบบี้
“ ว่าไง อึนฮยอก “ อีทึกพูดด้วยน้ำเสียงกระหือกระหอบ
“ จองซูฮยอง ตอนนี้ผมอยู่ในรถแล้วนะ ..... ฮยองช่วยหยิบกระเป๋ามาให้ผมด้วยได้ไหม “ เสียงปลายพูดด้วยน้ำเสียงปกติ
“ โอเค ... เด๋วฉันจะเอาไปให้ เจอกันที่รถนะ “ อีทึกพับฝามือถือเครื่องบางลงพร้อมกับยัดมันลงไปในกระเป๋ากางเกง มือเรียวยาวเอื่อมไปคว้ากระเป๋าทั้งสองใบขึ้นมาสะพายไว้บนไหล่กว้าง
“ ฉันไปก่อนนะทุกคน หวังว่าตอน 5 ทุ่ม ฉันจะเห็นพวกนายทุกคนนะ .... อย่าลืมล่ะ “
ลีดเดอร์กล่าวเสียงเข้ม ก่อนจะมุ่งตรงไปยังประตูห้อง แต่เส้นทางคงไม่ราบรื่นง่าย ๆ สำหรับเวลาที่เร่งรีบแบบนี้ เพราะตอนนี้มีร่างของใครบางคนมายืนขว้างทางเค้าไว้
“ ฮยอง ... ให้ผมเดินไปเป็นเพื่อนนะ “ ทงเฮพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนนิด ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าของคนรักออกจากไหล่กว้างของลีดเดอร์ เพื่อมาสะพายไว้เอง
อีทึกมองท่าทางแปลก ๆ ของทงเฮด้วยสายตาครุ่นคิด เค้ามองออกว่าเจ้าลูกปลาตัวดีคงไม่ได้ตั้งใจจะไปส่งเค้าหรอก แต่คงตั้งใจจะไปหาเจ้าปลาแห้งที่นั่งรออยู่ในรถมากกว่า อีทึกหัวเราะในลำคอออกมาเบา ๆ พลางพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ เมื่อเห็นดังนั้น ทงเฮก็ยิ้มออกมาอย่างร่าเริง ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับอีทึก
....
...
..
.
เสียงรองเท้าส้นสูงดังก้องกังวานไปทั่วทั้งลานจอดรถชั้นใต้ดิน เสียงที่ดังแทรกซึมเข้ามาภายในรถเก๋งสีดำ จนทำให้ใครบางคนที่นั่งอยู่ในนั้น ต้องหันมอง ... ดวงตาเรียวบางจ้องมองหญิงสาวผมสั้นสีบรอนด์ที่เดินอยู่ด้านหลังสุด ดูเหมือนเธอจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภายในรถเก๋งสีดำที่จอดนิ่งสนิทติดกับรถแวนของเธอ มีใครบางคนกำลังจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เกินกว่าจะสามารถบรรยายได้
“ ฉันกำลังจะกลับแล้วล่ะ โอป้าล่ะ ... จะกลับหรือยัง “ (^O^)
“ งั้น ... หลังเที่ยงคืน โอป้าก็หมดงานของวันนี้แล้วใช่มั้ย เราไปหาอะไรหม่ำกันม่ะ “ (⌒ε⌒*)
“ อะ อะ เข้าใจแล้ว สิก้าไม่งี่เง่าหรอกนะ ... ไว้วันอื่นก็ได้ “ o(︶︿︶)o
“ ฉันกำลังจะขึ้นรถแล้ว คงต้องวางแล้วล่ะ ไว้คุยกันใหม่นะ ........... บ๊าย ๆ ค่ะ ทงเฮโอป้า “ (^_^)
รถแวนแล่นออกไปแล้ว แต่สายตาของคนในรถอีกคันนึง ยังคงมองค้างอยู่แบบนั้น อึนฮยอกถึงกับพูดอะไรไม่ออก ภาพในสตูดิโอ เสียงคุยโทรศัพท์เมื่อกี้อีก มันหมายถึงอะไรทงเฮ .... ทั้ง ๆ ที่นายเพิ่งจะบอก “รักฉัน” เนี้ยนะ ... อะไรกัน ................... นายกำลังจะทำอะไร
.....
....
...
..
.
เสียงเปิดประตูรถดังขึ้นพร้อมกับการก้าวเข้ามาของลีดเดอร์ประจำวง ชั่วแวบนึง ... อีทึกสังเกตุเห็นอะไรบางอย่าง เค้าหันไปมองใบหน้าของคนในรถ ทำไมฉันถึงรู้สึกได้ว่านายกำลังเศร้านะ อีทึกนึกในใจ แต่เค้าก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรออกไป
เวลานี้ ....... ร่างบางพยายามกล่ำกลืนความรู้สึกเจ็บปวด ใบหน้าที่ปวดร้าวค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นปกติ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองใครบางที่กำลังยืนยิ้มแฉ่ง พร้อมกับส่งกระเป๋ามาให้เค้า รอยยิ้มบริสุทธิ์เหมือนเคย ทงเฮ ........ ฉันอยากรู้จัง นายทำได้ยังไง นายทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ นี่!! กระเป๋าของนาย ... “
ทงเฮเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง ร่าเริงเหมือนกับใบหน้าของเค้าตอนนี้ ร่างบางเอื้อมมือไปรับกระเป๋าจากมือของทงเฮ เค้าไม่ได้พูดอะไร แต่สายตากลับจ้องมองใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มอยู่แบบนั้น ทำไมยิ่งมอง .. ฉันถึงเห็นใครอีกคนซ้อนอยู่บนใบหน้าของนายนะ ...
“ นายจะไปแล้วใช่มั้ย ขับรถดี ๆ นะ แล้วเจอกันที่คีส ..... ฉันรักนายนะ “ ทงเฮพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะใช้หลังมือลูบที่แก้มใสของร่างบาง
ฉันรักนาย .... คำนี้อีกแล้ว ทำไมนายถึงพูดมันออกมาได้อย่างหน้าตาเฉยอย่างนี้นะ หัวใจนายทำด้วยอะไร ทำไมถึงได้ใจร้ายกับฉันขนาดนี้ .... ร่างบางรู้สึกจุกจนพูดอะไรไม่ออก เค้าทำได้เพียงฝืนยิ้มให้ร่างสูงเท่านั้น ก่อนจะขับรถออก ร่างบางชำเลืองมองกระจกรถด้านข้าง เค้ายังคงเห็นทงเฮยืนโบกมือให้อยู่ไกล ๆ
...
..
.
ใบหน้าที่สงบนิ่งยามขับรถของร่างบาง ไม่มีแม้แต่น้ำตาสักหยด .... แต่ทำไมอีทึกกลับรู้สึกว่า อึนฮยอกกำลังเจ็บปวดเจียนตาย มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างนายกับทงเฮนะ อีทึกหันมองเล็กน้อย ก่อนจะเสมองไปทางอื่น
“ อึนฮยอก ... ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าระหว่างนายกับทงเฮมันเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันขอได้ไหม .... ขอนายอย่าเลิก ยิ้ม ได้ไหม ... ถึงมันจะฝืดตัวเองไปบ้าง ....... แต่ฉันก็อยากให้ทุก ๆ วันใบหน้าของนายมีแต่รอยยิ้มนะ “ อีทึกเอามือลูบผมของอึนฮยอกไปมาเบา ๆ ทั้ง ๆ ที่ปกติจะร่าเริง แต่ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ
สิ้นเสียงของลีดเดอร์ อึนฮยอกก็ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา ทั้งที่น่าจะร้องไห้มาตั้งนานแล้ว ตัวเค้าเอาก็ไม่รู้เหมือนกัน เค้าไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย
“ ผม .... ฮึก .... ผมไม่เป็น .... ฮึก .... ผมไม่เป็นไรหรอกครับ “ อึนฮยอกพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น ก่อนจะสะบัดหัวสองสามครั้ง
“ อึนฮยอก!! ฉันยังนั่งอยู่ด้านซ้ายเคียงข้างนายเสมอนะ ถ้าวันไหนที่นายเกินจะทนได้ หันมานะ ..... พี่พร้อมจะรับฟัง พี่พร้อมจะปกป้องนาย ...... นายเหมือนน้องชายแท้ ๆ ของพี่เลยนะ .... รู้ไหม “
คำพูดที่อีทึกพยายามถ่ายทอดออกมา เหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่สามารถทำให้ร่างบางรู้สึกปลอดภัย อึนฮยอกไม่ได้พูดอะไร เค้าเพียงพยักหน้าน้อย ๆ เป็นการตอบรับในความรักของพี่ชายที่มักจะนั่งอยู่ด้านซ้ายของเค้าเสมอเท่านั้น
“ จองซูฮยอง .... ขอบคุณครับ “ อึนฮยอกพลางคิดในใจ
ความคิดเห็น