คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 10 : บรรยากาศสุดอึมครึม
A Moment of Remember.
Chapter 10 : บรรยากาศสุดอึมครึม
ณ หอพัก
ชายหนุ่มร่างผอมบางก้าวเดินอย่างโซซัดโซเซ เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่อาคารที่พัก แต่เพราะอากาศที่เย็นจัดในเวลากลางคืน บวกกับสภาพร่างกายที่แสนอ่อนล้าทั้งเรื่องงานและเรื่องของหัวใจ..... จึงส่งผลให้ร่างของชายหนุ่มเริ่มหนาวสั่น อาการมึนหัวค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นทีละนิด... อึนฮยอกพยายามสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะพาร่างของตัวเองก้าวเข้าไป ภายในลิฟท์.... อึนฮยอกค่อย ๆ เอียงหัวพิงบานประตูที่เย็นเฉียบพร้อมหลับตาลงอย่างอ่อนล้า...... แต่เพียงไม่นานนัก .....
ตึ๊ง!!
เสียงลิฟท์ดังขึ้นพร้อมกับบานประตูที่เปิดออก เปลือกตาที่แสนหนักอึ้งเปิดออกอย่างช้า ๆ เช่นกัน หากแต่ภาพที่ฉายอยู่เบื้องหน้ากับพร่ามัวจนไม่สามารถมองออกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้คืออะไร มือเรียวบางทาบเข้าที่กำแพงห้องข้างทาง ก่อนจะพยายามพาร่างของตัวเองไปให้ถึงยังห้องพัก..... เพียงแค่เวลาสั้น ๆ แต่กลับทำให้รู้สึกยาวนานจนแทบทนไม่ไหว
ร่างผอมบางที่ไร้เรี่ยวแรงของอึนฮยอก ยืนโงนเงนอยู่หน้าประตูห้องพักของตัวเอง ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือข้างหนึ่งไปจับเข้าที่ลูกบิดประตูแน่น แต่ยังไม่ทันจะได้เปิดประตู.... ร่างกายของอึนฮยอกก็ร่วงหล่นนอนราบไปกับทางเท้าหน้าห้องพักทันที......
- - - - - - -
- - - - -
- - -
-
ความเย็นจากผ้าขุนหนูสีขาวผึนบางค่อย ๆ ซับลงบนใบหน้าสีขาวซีดของอึนฮยอกอย่างอ่อนโยน ถึงแม้เวลานี้อึนฮยอกจะรู้สึกสบายตัว แต่อาการหนาวเหน็บก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ แม้จะไม่หนักหนาเท่าตอนแรกแล้วก็ตาม...
“ นายอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับทงเฮ ได้มั้ย.... เยซอง เด๋ว.... ฉันจะคุยกับเจ้าตัวปัญหาเอง “
เสียงของลีดเดอร์ดังแว่วเข้ามาภายในโสตประสาทหูของคนที่กำลังนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง อึนฮยอกไม่เข้าใจในสิ่งที่อีทึกกำลังพูด แต่นั่นก็คือเสียงสุดท้ายในค่ำคืนนี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงไปอีกครั้ง
- - - - - -
- - - -
- -
เช้าวันใหม่.....
“ อึนฮยอกจัง!!! ตื่นได้แล้ว...... “
มืออวบอิ่มเขย่าร่างของคนที่กำลังนอนอุตุอยู่บนเตียงนอนนุ่ม ๆ อึนฮยอกลืมตาขึ้นช้า ๆ มือเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นขยี้ดวงตาเรียวเล็กนั้น ก่อนจะเพ่งมองไปยังคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ ขออีกสิบนาทีนะ....ซองมิน “
อึนฮยอกเอ่ยอย่างแผ่วเบา พลางพลิกตัวคลุมโปงพร้อมหันหน้าหนีทันที
“ ไม่ได้นะอึนฮยอก .... ถ้านายขืนนอนต่อ นายจะต้องสายเป็นคนสุดท้ายแน่ ๆ .... เช้านี้เราต้องไปซ้อมเต้นที่บริษัทด้วยนะ นายลืมไปแล้วหรอ!!! “ -- ซองมินพยายามคิดหาเหตุผลทุกวิถีทาง เผื่อให้เพื่อนรักของเขาลุกขึ้นมาจากเตียง
“ รู้แล้วน่ะ... งั้นขออีกห้านาทีแล้วกัน ห้านาทีตื่นเลยยยยยย “
อึนฮยอกเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ในขณะที่ใบหน้ายังคงทาบติดแน่นกับหมอนใบใหญ่ที่แสนนุ่ม ซองมินเริ่มรู้สึกได้ว่าเพื่อนรักจะต้องไม่ยอมตื่นง่าย ๆ แน่... มืออวบอิ่มทั้งสองข้างของซองมินกำแน่นเข้าที่ผ้านวมผืนใหญ่ ก่อนจะกระตุกดึงอย่างแรงให้ผ้าผืนใหญ่นั้น หลุดจากการปกคลุมร่างของอึนฮยอก
“ ตอนนี้ผู้จัดการซึงกำลังปลุกอีทึกฮยองอยู่..... นายอยากให้เขาลงมาปลุกนายด้วยมั้ยล่ะ “
ซองมินพูดพลางเอื้อมมือดึงแขนผอมบางของอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น คราวนี้อึนฮยอกยอมลุกขึ้นแต่โดยดี เมื่อนึกถึงการปลุกอันแสนโหดร้ายของผู้จัดการซึงฮวาน.....
- - - - - -
- - - - -
- - -
-
“ อันยองฮาเซโย!!!! “
เสียงทักทายจากชายหนุ่มทั้ง 12 คนดังขึ้นพร้อมกับการโค้งให้ทุกคนที่เดินผ่านไปมา ก่อนที่ทุกคนจะพากันเดินขึ้นไปชั้นบน เพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องซ้อมของบริษัท SMTOWN...... ภายในห้องซ้อมทุกคนต่างทยอยวางกระเป๋าของตัวเองกองไว้ด้านในสุดของห้อง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงพูดคุยที่ดังโหวกเหวกอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนั้น
“ ฮยอกกี้!!! “
เสียงหวานเจ้าของใบหน้าสวย ตะโกนเรียกน้องชายที่ยืนเหม่อลอยอยู่ริมหน้าต่างมุมห้องคนเดียว เจ้าของชื่อหันมองด้วยสายตาสงสัยและแปลกใจ ก่อนจะ.....
“ โอ๋!! ..... สวัสดีครับ ฮีชอลฮยอง “
อึนฮยอกเดินเข้ามาหาพี่ชายหน้าสวยด้วยท่าทางหวาดทันที
“ นายเป็นยังไงบ้าง... ฉันได้ข่าวจากเจ้าหมาทึก* ว่านายไม่ค่อยสบาย แถมยังต้องมามีปัญหากับเจ้าทงเฮอีก “ -- ฮีชอลถามขึ้นอย่างอ่อนโยน เพราะถึงแม้จริง ๆ แล้ว เขาจะไม่สนิทกับเจ้าไก่น้อยคนนี้มากเท่าสมาชิกคนอื่นในวง แต่ถึงยังไง....อึนฮยอกก็คือน้องชายคนนึงของเขา
“ หน้านายดูเหนื่อยมากเลยนะอึนฮยอก.... จนฉันแทบจำไม่ได้ว่า ฉันเคยเห็นรอยยิ้มของนายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ “ -- ฮีชอลพูดทีเล่นทีจริงกับน้องชายที่กำลังจ้องมองมาที่เขาอยู่อยู่ตอนนี้ เพื่อหวังให้อึนฮยอกหัวเราะขึ้นมาได้บ้าง... มือเรียวสวยดุจดั่งมือของเจ้าหญิงยกขึ้นสัมผัสอย่างนุ่มนวลบนเส้นผมสีดำเงางามของน้องชายเบา ๆ ก่อนจะรับรู้ได้ถึงแรงสั่นเล็กน้อยจากคนตรงหน้า
“ ขอบคุณที่ฮยองเป็นห่วงผมนะครับ.... แต่ผมไม่เป็นอะไรหรอก ฮีชอลฮยองสบายใจได้ “
อึนฮยอกเอ่ยเสียงสั่นพลางก้มหน้า เพราะถึงแม้ฮีชอลจะไม่พูดออกไปตรง ๆ ว่าเขาเป็นห่วงน้องชายคนนี้มากเพียงใด แต่อึนฮยอกก็สัมผัสความรักและห่วงใยนั้นได้.....
“ นี่!! นายอย่าร้องไห้สิ เด๋วคนอื่นก็คิดว่าฉันเป็นคนทำให้นายเป็นแบบนี้อีกหรอก “
คนหน้าสวยพูดน้ำเสียงติดตลกนิด ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ดันปลายคางของน้องชายขึ้นมา มือเรียวสวยอีกข้างหยิกเข้าที่แก้มสีแดงระเรื่อในเวลานี้ ก่อนจะตบซ้ำที่เดิมเบา ๆ อีกทีนึง.... ฮีชอลอดไม่ได้ที่จะเผลอแกล้งอึนฮยอกด้วยความเอ็นดู
อีกด้านหนึ่ง..... ทงเฮที่กำลังเดินฝ่าฝูงผู้คนมากกว่าสิบคนภายในห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ นี้ เพื่อเข้าไปหาอึนฮยอกที่กำลังยืนอยู่กับฮีชอล.... หากแต่อยู่ดี ๆ ก็มีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งเปิดประตูห้อง ก่อนจะเดินตรงเข้ามายังร่างของทงเฮพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสจนน่าหมั่นไส้
“ มีอะไรหรือเปล่า... ทิฟฟานี่ “ -- ทงเฮเอ่ยถาม หญิงสาวพูดคุยอยู่ไม่นาน ทงเฮก็เดินตามอีกฝ่ายออกไป โดยไม่ลืมที่จะหันมามองยังร่างที่กำลังจ้องมาทางเขาแวบนึง
ฮีชอลสัมผัสได้ในสิ่งที่อึนฮยอกกำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้...... เพราะน้องชายของเขาเงียบเสียงและหยุดทุกการกระทำทันที ตั้งแต่หันไปเห็นว่าเพื่อนสนิทของใครกำลังเดินเข้าห้องมา ก่อนจะก้มหน้าลงอีกครั้งเมื่อเห็นสายตาบางอย่างของทงเฮ ก่อนที่จะเดินตามอีกฝ่ายออกไป......
แม้ใจจริงแล้ว.....ฮีชอลจะอยากแก้ปัญหาของเรื่องนี้มากแค่ไหน แต่เพราะเคยสัญญากับอีทึกไว้.... ว่าจะปล่อยให้อีทึกพูดเรื่องนี้กับเจ้าทงเฮเอง เวลานี้ฮีชอลจึงทำได้เพียงยืนเคียงข้างแล้วโอบแขนของอึนฮยอกไว้แน่น พลางหันไปกระซิบคำบางคำที่ข้างหูของอึนฮยอก
“ ถ้าวันไหนที่นายทนไม่ไหว มาหาฉันนะ แล้วฉันจะจัดการให้นายเอง .. พี่รักนายนะอึนฮยอก ” -- จบประโยค ริมฝีปากเรียวสวยเหมือนใบหน้าของฮีชอลก็สัมผัสลงเบา ๆ ที่กอผมหนาของน้องชาย ก่อนจะเดินจากออกมา เพื่อตรงไปยังร่างของอีทึกที่กำลังนั่งอยู่มุมห้องอีกด้านหนึ่งในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น
ห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ทั้งห้องเงียบเสียงไปได้พักใหญ่แล้วตั้งแต่ประตูห้องถูกปิดลง สมาชิกทุกคนหันมองชายหนุ่มที่ยืนนิ่งก้มหน้าอยู่คนเดียวเป็นตาเดียวกัน พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงให้สถานการณ์เลวร้ายนี้ เพื่อให้คลายความตึงเครียดลงมาได้
จนในที่สุด.... ใครคนหนึ่งที่แทบไม่เคยรับรู้ ไม่เคยเข้าใจอะไรเลยในช่วงหลังมานี้ ... เดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาร่างของชายหนุ่มที่ยืนก้มหน้าอยู่ พร้อมกับยื่นแผ่นกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งให้ไป.... ดวงตาเรียวเล็กของอึนฮยอกมองกระดาษแผ่นนั้น ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นข้อความหนึ่งที่บอกว่า ... “ เขากับทงเฮจะต้องเต้น Battle ร่วมกันในช่วงหนึ่งของ Sorry Sorry Vol.Remix “ อึนฮยอกเงยหน้ามองคนที่อยู่ตรงหน้าทันที
ทุกคนในห้องเวลานี้ มีสีหน้าไม่ต่างไปจากร่างของชายหนุ่มที่ยืนโงนเงนอยู่เลย หลายคนยกมือตบเข้าที่หน้าผากของตัวเอง บางคนถึงกับทรุดตัวลงไปนั่งกองกับพื้น เพราะแทบไม่เชื่อว่า..... ฮันเกิง จะทำให้เหตุการณ์นี้ย่ำแย่ลงไปอีก... ฮีชอลที่รู้สึกเหลืออดกับสมองที่บ่องตื้นของเพื่อนคนจีนของเขา ร่างเพรียวบางที่นั่งอยู่ข้างอีทึกลุกขึ้นแทบจะทันที เพราะต้องการจะตบกระโหลกคนจีน เพื่อสั่งสอนให้หายซื่อบื่อสักที....... แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร มือหนาของอีทึกคว้าเข้าที่ข้อมือเล็กนั้นได้ก่อนที่ฮีชอลจะก้าวเดินไป... คนหน้าสวยหันควบมาที่คนรักอย่างเคือง ๆ โดยที่อีทึกเพียงแค่ส่ายหน้าไปมาเท่านั้น
- - - - - - - -
- - - - - -
- - - -
- -
-
ประตูห้องเปิดออกอีกครั้ง ก่อนจะปรากฎร่างของผู้จัดการซึงฮวานพร้อมชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่เดินตามหลังเข้ามาติด ๆ ด้วยท่าทางหอบเล็กน้อย.... ทงเฮเดินเข้ามาหาร่างของคนตัวเล็กที่อยู่ในห้องพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลง พลางใช้หัวซบเข้าที่หัวของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว... ก่อนจะหลับตาลง เพื่อขอพักเหนื่อย.....
อึนฮยอกยังคงนั่งนิ่ง ไม่พูดอะไรสักคำ... จนทงเฮเริ่มนึกขึ้นได้ว่าเขาทั้งสองยังมีเรื่องกันอยู่ แต่เพราะทงเฮไม่อยากให้คนตัวเล็กต้องเป็นแบบนี้ เขาจึงพยายามเบี่ยงเบนเหตุการณ์ เพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้น....
ดวงตากลมโตลืมตาพลางหันมองมาที่ใบหน้าสีขาวใส ก่อนจะสังเกตได้ว่าคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กำลังเอาแต่เหม่อมองสตอรี่บอร์ดมากกว่าจะจดจำท่าเต้นพวกนั้น
“ ตาลอยขนาดนั้น แล้วจะจำได้มั้ยเนี้ย “
ทงเฮพูดขำ ๆ เพื่อหวังจะให้คนที่นั่งอยู่ด้านข้างหันมามอง แต่กับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิ้วเรียวหนาของทงเฮขมวดขึ้นเล็กน้อยอย่างแปลกใจ
“ นายเป็นอะไร ยังโกรธเรื่องนั้นอยู่อีกหรอ ? ? “ -- คนตัวเล็กไม่ตอบเช่นเดิม ใบหน้าเรียวบางหันมองไปทางอื่น ทงเฮลุกขึ้น ก่อนจะเพื่อนั่งลงอีกครั้งในด้านที่อึนฮยอกกำลังหันไป
“ นายยังโกรธอยู่จริง ๆ หรอ “
ทงเฮยังคงไม่หมดความพยายาม เขายังคงถามเหมือนเดิม แต่คราวนี้คนตัวเล็กกว่ากลับใช้โอกาสที่ครูฝึกหันมาเรียกให้เขาทั้งสองลุกขึ้นเพื่อเตรียมตัวซ้อม.... อึนฮยอกเดินนำหน้าไปยืนอยู่ตรงลายของตัวเอง โดยทิ้งให้ทงเฮยืนมองอยู่แบบนั้น ก่อนจะถูกผู้จัดการซึงฮวานตะคอกเรียกอีกครั้ง.... ทงเฮรีบวิ่งเข้ามาหยุดอยู่ที่ลายของตัวเองเช่นเดียวกับคนตัวเล็ก
เสียงเพลง Sorry Sorry ดังขึ้น... ก่อนที่ครูฝึกจะสั่งให้สมาชิกทุกคนลองเต้นให้ดูคราว ๆ ก่อนรอบนึง เพื่อดูความพร้อมและข้อผิดพลาด.... อึนฮยอก ทงเฮ รวมทั้งคนอื่น ๆ ยกเว้น คิบอม ที่ไม่ได้อยู่ร่วมโปรโมตในอัลบั้มนี้ ต่างตั้งใจเต้นกันอย่างเต็มที่
“ โอเคดีมาก.... คราวนี้จะเปิดเวอร์ชั่น Remix แล้วนะ พวกนายจะต้องพยายามจำลายที่อาจจะเปลี่ยนไปบางของตัวเองให้ได้รู้ไหม... ต้องทำให้ดีที่สุด เข้าใจนะทุกคน “
ครูฝึก โปรดิวเซอร์ รวมทั้งผู้จัดการและลีดเดอร์ของวงต่างบอกรายละเอียดและพูดให้กำลังใจสมาชิกทุกคน ก่อนการฝึกที่แสนหนักหน่วงจะเริ่มขึ้น
หมาทึก* = ต้องขอโทษสำหรับเอลฟ์ทุกคนด้วยจริง ๆ ที่ไรเตอร์ใช้คำนี้ แต่เพราะต้องการแสดงออกให้เห็นภาพจริง ๆ ระหว่างอีทึกและฮีชอล.... ไรเตอร์จึงต้องเลือกคำนี้ขึ้นมาใช้ หวังว่าคนอ่านทุกคนจะเข้าใจนะค่ะ
ฟิคตอนนี้... อาจจะไม่ถูกใจคนอ่านบางคนก็ได้ ... ไรเตอร์ยอมรับจากใจเลยว่า ตอนที่ 10 นี้ ถูกเขียนขึ้นมาด้วยความยากลำบากจริง ๆ เนื่องจากอากาศที่ร้อน รวมทั้งไรเตอร์คิดพร๊อตไม่ออกด้วย 555555+ .....
หวังว่าผู้อ่านทุกคนจะไม่หนี “ไรเตอร์” ไปไหน....
คอยติดตามความสุขและความโศกเศร้าที่เกิดเริ่มเกิดขึ้นหลังจาก ฟิคตอนนี้ด้วยนะ
อยู่เป็นกำลังใจให้กันและกันด้วยนะ ...
ขอบคุณมากค่ะ
ความคิดเห็น