Memorable memories
เรื่องที่น้องๆจะได้อ่านต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2534 มันเป็นความทรงจำที่ผมมีต่อสาวน้อยคนหนึ่ง ( หรือ หลายคนหว่า ? ) ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้นิยายเรื่อง "คอนเซนโญ่แห่งพรอสต์"
ผู้เข้าชมรวม
185
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Memorable memories
วันที่ ยี่สิบห้า
มีนาคม พ.ศ. สองพันห้าร้อยสามสิบสี่หลายคนคงจะงง ถ้าพวกคุณได้มาพบไดอารี่เล่มนี้ ว่าทำไมมาเขียนเอาวันที่ 25 มีนาคม ( 2534 ) วันนี้เป็นวันสอบแก้ตัวของผู้ที่สอบตกในการสอบไล่ สองวันก่อนหน้านี้เป็นวันเกิดครบรอบอายุ 16 ปีของผมเอง 22 มีนาคมวันนี้ผมตื่นเช้าเพราะเพื่อนสนิทจะไปเข้าเรียนที่โรงเรียนนายร้อย
มันดันไปแต่เช้ามือเลยไปไม่ทัน
วันนี้หลังจากสอบซ่อมแล้ว ผมเดินไปห้องม.1 / 8 ผมไปทำไมน่ะรึ? อ่านต่อไปสิ...ห้องม. 1 / 8 เป็นห้องของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นเด็กน่ารักมากอายุเพิ่ง...เดี๋ยวก่อน...21...22...23...อย่าเพิ่งเข้าใจผิด มันเป็นพ.ศ.ครับ 13 ปี! ที่จริงผมก็ไม่รู้จะเข้าไปทำไม บังเอิญจริงๆ ผมไปเจอเฟรนด์ชิพของเธอเข้า แน่นอน! คนนิสัยดีอย่างผมก็ต้องเก็บมาอ่านแล้วเอากลับบ้าน ข้อความในนั้นมีว่าอย่างไรบ้าง มาอ่านเองที่นี่ ( บ้านผม ) เกือบๆเที่ยง ผมกับ...เอ้ย! ผมกำลังจะกลับบ้าน พอดีเจอรุ่นพี่ก็เลยอยู่คุยด้วย พอดีอาจารย์ยุทธนาซึ่งผมต้องการให้สอนบอลให้ขี่มอเตอร์ไซค์สวนเข้ามา ผมเลยไปนั่งรอบนตึก ระหว่างที่รออาจารย์ ผมนั่งอ้า...ลืมบอกว่าอาจารย์เข้าไปที่มุมตึก ( ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการเคมีของพวกเรียนแผนวิทย์เค้า ส่วนผมเรียนแผน2 แผนอังกฤษ-คณิต ซึ่งเป็นแผนที่รองจากแผนวิทย์ซึ่งเป็นแผน 1 ) แทบไม่อยากเชื่อ! ผมเห็นเด็กคนนั้นโผล่พ้นหน้าประตูมานิดหนึ่ง ผมก็คิด...เอ๊ะ...ใช่มั้ยเอ่ย? แล้วก็ใช่จริงๆ เธอหันมามองผม ผมก็มองเธอ นานพอควรทีเดียว ผมจึงละสายตาจากเธอ ถ้ามองต่อมีหวังมองกันทั้งคืนบ้านช่องไม่ต้องกลับ สักครู่เพื่อนของเธอซึ่งแต่งชุดไปรเวทขึ้นบันไดลงบันไดไปหาเธอหลายรอบ...แล้วเธอก็ลุกขึ้นเดินไปดูบันไดสักครู่...แล้วเธอก็หันมามองผมอีก ที่จริงพออาจารย์ยุทธนาออกมาผมจึงบอกสิ่งที่ผมต้องการ อาจารย์โอเค! ผมดีใจมาก ผมกลับบ้านทันที แต่ผมเจอเด็กคนนั้นตอนรอรถ ผมให้ผู้หญิงคนอื่นขึ้นก่อน ผมได้ยืนข้างเธอ ตัวเธอเตี้ยกว่าผมมาก แต่เธอสมส่วนดูดีทีเดียว ตัวเธอหอมคงเพราะน้ำหอมแน่ ผมเพิ่งมาอ่านหนังสือราศีของเธอ พบว่าเธอชอบใส่น้ำหอม แม้ระยะทางจะใกล้เพียง หกร้อยหรือเจ็ดร้อยเมตร แต่ผมรู้สึกว่ามันนานเหลือเกิน มือผมสัมผัสมือเธอหลายครั้ง แต่อย่าคิดว่าผมเป็นพวกฉวยโอกาสนะ ผมรู้สึกแปลกๆ เธอเองก็น่าจะเป็นเหมือนกัน เสียงเธอเพราะดี ผมได้ยินเพราะเธอคุยกับเพื่อนของเธอบนรถสองแถว พอเธอลง เพื่อนของเธอถามกันเองว่าใครน่ะ น่ารักดีนะ อีกคนว่า อือ...เรียบร้อยด้วย ผมหันไปมอง น่าแปลกที่เธอก็มองผม ตามเคยผมหันกลับเพราะคิดว่าเดี๋ยวเธอจะหาว่าผมสนเธอ.วันจันทร์ที่ หก พฤษภาคม พ.ศ. สองพันห้าร้อยสามสิบสี่ ว่าจะไปส่งสักหน่อย วันนี้เข้าหยุดชดเชย พ่อผมก็อยู่เลยต้องโกหกว่ามาช่วยอาจารย์ขายหนังสือ พอออกจากบ้านเพื่อนผมก็ไปรอน้องหนูที่น่ารักที่ผมเขียนไปตอนวันที่ยี่สิบห้ามีนานั่นแหละ รอถึงเก้าโมงเธอก็ยังไม่มา ผมตัดสินใจขึ้นรถมาที่โรงเรียน พอมาถึงเขาก็ขายหนังสือกันแล้ว ผมเลยจองทำเลใกล้ห้องปฏิบัติการเคมีเลย จะได้เห็นชัดๆหน่อย ไม่งั้นต้องเพ่งแบบคราวก่อน ผมนั่งรออยู่สักครู่หนึ่ง เธอเดินมาจากอีกทางที่ผมหัน ผมหันกลับมาพอดี เห็นเธอพอดี ผมเฝ้ามองทุกๆอิริยาบถของเธอ ไม่ว่าเธอจะลงบันได เอาขยะไปทิ้งแล้วกลับขึ้นมา หรือแม้แต่การไหว้เธอทำได้อย่างไม่มีที่ติจริงๆ อ่อนช้อยน่ารักจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะทำได้ดีขนาดนั้นผมคิดในใจ ผมคิดว่าเธอคงเคยไปประกวดมารยาทมาแล้วแน่ๆ ผมเสียอีกที่นั่งไหว้อาจารย์แล้วยังซุ่มซ่ามตกช่องระบายอากาศ ( โรงเรียนผมสร้างแบบโรงเรียนในสิงคโปร์ คือมีเนินหญ้าลาดขึ้นไปที่ชั้นสอง ดังนั้นชั้นล่างจึงต้องมีช่องระบายอากาศขึ้นมาชั้นสองด้วย เพราะไม่มีหน้าต่างรอบๆชั้นล่างด้านนอกอย่างที่พ่อผมชอบเรียกเล่นๆว่าเอาไว้เพาะยุง ) ของชั้นล่างที่มีเหล็กดัดกั้นไว้ ผมมองอากัปกิริยาของเธออยู่นาน เริงร่าน่ารักจริงๆ มีเพื่อนคนหนึ่งเข้ามาคุยกับผมนานทีเดียว แต่ผมก็หาโอกาสมองเธอจนได้ จนคนน้อยแล้วผมเห็นเธอจะกลับ เลยตามไปห่างๆพร้อมกับเพื่อน ซึ่งมันไม่รู้หรอกว่าผมตามเธอ ที่แท้เธอออกมาซื้อน้ำนอกโรงเรียนแล้วกลับเข้าไปอีก ผมอยากจะบ้า ไอ้เพื่อนก็กลับไปแล้ว เอาวะ! อยู่ต่อ ผมเห็นเธออยู่บนอาคารชั้นล่าง ผมกะตามห่างๆ แต่พอผมเดินไปถึงกลางอาคาร พวกเพื่อนสองสามคนของเธอหัวเราะผมใหญ่ บอกว่า "โดนหลอก" ผมงงเลย ไรวะ? หรือเธออาจจะรู้ตัวแล้วก็ได้ว่าผม...ผมเลยวางฟอร์มต่อเดินขึ้นชั้นบนไป เธอตะโกนคล้ายๆการเผากันกับเพื่อนนั่นแหละว่า "นี่...ไปหลอกคนอื่นเค้าทำไม เป็นโรคจิตเหรอ?" ผมละอยากมุดตึกไปเลย แต่ตอนที่เพื่อนเธอหัวเราะ เธอกลับจ้องหน้าผมตอนก่อนที่ผมจะขึ้นบนตึกน่ะ ผมอยู่บนตึกนานพอควร ผมไปแอบฟังเธอคุยกับเพื่อนนานทีเดียว จากนั้นเธอก็กลับ ผมตามกลับพร้อมเธอไม่ทัน เสียดายจริงๆวันอังคารที่
สือชั้นม
เจ็ด พฤษภาคม พ.ศ. สองพันห้าร้อยสามสิบสี่วันนี้ผมตื่นสายเพราะนอนดึกแต่ก็ไปโรงเรียนตามปกติ วันนี้ยังมีการขายหนัง.สาม ผมดอดไปแอบดูว่าเธอมารึยัง แต่ก็ไม่เห็น ที่จริงผมเห็นแต่ไม่รู้ว่าใช่เธอ วันนี้เธอใส่เสื้อสีส้ม ไม่เหมือนตอนก่อนโน้น วันนั้นเธอใส่เสื้อสีเหลือง เสร็จแล้วผมก็ไปซ้อมบอลตามปกติของผม แต่วันนี้เลิกแค่สิบโมงเช้า เพราะไม่มีใครอยู่ซ้อมด้วย แน่นอน ผมไปนั่งอยู่ที่ห้องปฏิบัติการเคมี เอ้ย! ใกล้ๆห้องปฏิบัติการเคมี ผมเดินมาก่อน เห็นเธอกำลังโทรศัพท์อยู่ในตู้สาธารณะ พอดีผมเจอรุ่นพี่สารวัตินักเรียน เลยนั่งคุยกันตรงฟุตปาธสนามหน้าเสาธง เธอคงโทรศัพท์เสร็จแล้วจึงเดินมา รุ่นพี่แซวว่าโทรหาแฟนเหรอ เธอบอกว่าไม่มีหรอกแฟน แล้วเดินขึ้นตึกไปห้องเคมี สักพักก็เดินลงมาอีก รุ่นพี่ก็ถามอีกว่าไปไหน เธอบอกเดินเล่น ถึงตรงนี้ผมยังไม่หายเสียดาย ทำไมไม่ตามไปคุยกับเธอนะ เดี่ยวๆแล้วแท้ๆ ผมนี่โง่งมงายจริงๆ คราวนี้ผมเดินขึ้นไปนั่งบนตึกที่เดิม ช่วงเวลานี้ช่างผ่านไปอย่างไร้ค่าจริงๆ แต่ผมและเธอก็มีโอกาสสบตากันบ่อยๆ แต่คงเพราะบังเอิญเธอมองมาเท่านั้น ในที่สุดผมก็ตัดสินใจไปวิ่งห้ารอบใหญ่ ( ราวสามกิโลเมตร ) ในใจก็นึกถึงแต่เธอ เสร็จแล้วก็ดื่มน้ำแล้วกลับไปนั่งที่เก่า เหตุการณ์ก็เหมือนเดิมจนผมนั่งนึกน้อยใจตัวเอง ชาตินี้คงไม่มีทาง เหมือนดอกฟ้ากับหมาวัด แต่ผมก็คิดในใจว่าจะต้องเป็นแบบ ดอกฟ้ากับหมาพันล้านให้ได้ ผมจึงออกมากินน้ำอัดลมไปห้าขวด แล้วกลับใจเข้าไปใหม่ พอดีเจอเพื่อนเลยไปกับมันพักหนึ่ง แล้วก็ออกมานอกโรงเรียนอีกครั้ง คราวนี้ผมเห็นเธอนั่งกินน้ำอยู่กับรุ่นพี่และเพื่อนผู้ชายอีกคน ผมเดินต่อเพราะไม่อยากให้มีพิรุธ แล้วก็รอ...รอ...รอ...จนเธอขึ้นรถนั่นแหละ ผมจึงได้ขึ้นพร้อมกับเธอ ผมนั่งแถวเดียวกับเธอ แต่มีรุ่นพี่นั่งอยู่กลาง ผมคุยกับรุ่นพี่อยู่แป๊บนึงรุ่นพี่ออกค่ารถให้ พอรุ่นพี่ลงผมก็มองเธอเพราะลงที่เดียวกัน ผมมองเธอ เธอก็มองผมมาอยู่เรื่อยๆจนลับตา...วันพุธที่
วันนี้ผมไปเข้าค่ายรับน้องใหม่ที่โรงเรียน
แปด พฤษภาคม พ.ศ. สองพันห้าร้อยสามสิบสี่ กะไปหาหัวใจของผมแต่กลับไม่เจอ อาจารย์เรียกพี่เลี้ยงไปอบรมก่อนราวชั่วโมงกว่าๆ แล้วจึงให้แยกย้ายไปประจำฐานทำซุ้มรับน้องใหม่ทั้งวัน พอตกเย็นอาจารย์ก็แบ่งหน้าที่ให้นักเรียนทำจนดึกทีเดียว พวกผมไปอาบน้ำ พวกรุ่นพี่วางแผนไปนอกโรงเรียนแต่ผมไม่ไป ผมอยู่ช่วยงานพวกผู้หญิง งานที่ว่าคือติดชื่อและรูปของรุ่นพี่ที่สอบเอ็นทรานซ์ได้ พอเสร็จก็แยกย้ายกันไปห้องนอน ( ผู้หญิงนอนห้องพยาบาล ชายนอนห้องโสตทัศนศึกษา ) สักสามทุ่มกว่า ผู้ชายก็มานั่งช่วยกันทำด้ายสำหรับผูกข้อมือรุ่นน้อง ตอนผูกนี่ปแหละพวกเราก็งัดเอาเรื่องผีขึ้นมาคุยกัน คุยไปคุยมากลายเป็นเรื่องลามกไปเสียฉิบ คุยไปทำไปไม่ง่วงหรอก พอเที่ยงคืนครึ่งพี่อุ้มกับพี่นัทเขาทำทีจะไปหลอกพวกผู้หญิงที่ห้องพยาบาล ผมเลยไปด้วยกะว่าจะทำเสียงดังหน่อยเท่านั้นแหละ แต่คุณเธอไม่ได้ยินกัน ผมเลยไปเดินเล่นต่อ จากนั้นอีกนาทีนึงพวกที่ตามหลังมามันไปดึงลูกบิดดังๆ พวกผู้หญิงกรี๊ดกันลั่นห้องเลย พวกผมเดินเลยไปดูซุ้มต่อจนตีหนึ่งแล้วจึงกลับมานั่งทำงานต่อ ปากก็คุยไปสิเรื่องลามกเนี่ยแบบโขมงเลย แต่ทำไปทำมาด้ายมันดันหมดเสียก่อน ตอนตีสอง ทุคนจึงแยกย้ายไปหามุมนอนกัน.วันพฤหัสที่
วันนี้ตื่นมาตอนตีห้า
เก้า พฤษภาคม พ.ศ. สองพันหน้าร้อยสามสิบสี่ ออกไปเดินเล่นกับเคน พอตีห้าห้าสิบแปด นักเรียนม.หนึ่งก็มาแล้ว ยังไม่ได้กินข้าวเลย เลยต้องรับเด็กตั้งแต่เช้าจนแปดโมงยี่สิบนาที อาจารย์จึงให้พี่เลี้ยงได้พักบ้าง ช่วงกลางวันก็ให้เด็กลอดซุ้มแล้วจึงแนะนำพี่เลี้ยงทีละคนและอาจารย์หัวหน้าคณะสี่ จากนั้นจึงแยกย้ายกันไป พอตกเย็นอาจารย์ให้พาเด็กไปอาบน้ำแล้วพาขึ้นหอประชุม มีวิทยากรมาให้ความบันเทิงแบบเด็กๆ พี่เลี้ยงอย่างพวกผมก็กระจายไปตามคณะสี ที่จริงผมอยู่สีเขียวแต่มาสีเหลืองบ่อยๆเพราะมีเคนเพื่อนสนิทของผมต่อจากอติชาติที่สอบเข้านายเรือได้แล้ว วิทยากรให้เด็กทำเชือกไขว้มือกันสองคน เคนเคยเห็นวิธีแก้มาก่อนจึงไปสอนเด็ก พอผมรู้จึงไปสอนเด็กบ้าง เวลานี้เองที่เคนรู้จักปริญญาเด็กม.หนึ่งที่น่ารัก มีพี่เลี้ยงหลายคนติดแต่ไม่ใช่ผมเพราะผมมีแล้ว พอถึงเวลาสองทุ่มห้าสิบสองนาที ผมกับเคนลงไปเดินข้างล่างและไปย้ายของไปที่นอนใหม่ ผมกับเคนคุยกันหน้าห้องพักครูคณิตศาสตร์จนเด็กลงมาจึงไล่ให้ไปนอน แล้วจึงมารวมตัวกันไปอาบน้ำเวลาสี่ทุ่มสามสิบนาที แล้วมานั่รวมกลุ่มพี่เลี้ยงหญิงชายตรงสนามในตึกอาคารวชิรา จุดเทียนสว่างไสวโรแมนติกมากจนอาจารย์ไล่พี่เลี้ยงหญิงไปนอนนั่นแล้วพวกผู้ชายจึงงัดเอาเรื่องถนัดมาคุยกัน เคนงัดเอามังกรพ่นไฟออกมาเล่น คือเอาเทียนเผาบนช้อนให้เดือดแล้วเป่าน้ำที่มีออกซิเจนพ่นไป ไฟจึงลุกแดงขึ้นมา เล่นกันนานจนเลิกแล้วกลับมาคุยกันอีกชั่วโมง แล้วจึงไปโรงอาหารมาคุยกับพวกผู้หญิงจนมีเด็กไม่ยอมนอนต้องนำมาลงโทษทั้งห้อง เสร็จแล้วจึงไปเล่นมังกรพ่นไฟต่ออีกสักพักจึงชวนเคนกลับไปนอนรวมกับคนอื่นในห้องโสตวันศุกร์ที่
วันนี้ตื่นตั้งแต่เช้า
สิบ พฤษภาคม พ.ศ. สองพันห้าร้อยสามสิบสี่ ตอนตีห้า ปลุกเคนแล้ว มันบอกเดี๋ยวตามลงไปผึกให้น้องเล่นอะไรกันนิดหน่อย เราก็รอไปสิ ไอ้เคนก็ไม่ลงมาสักที ให้โจไปตามก็ไม่เจอ ผมได้มาคุมสีเหลืองเจอปริญญาด้วย อาจารย์ให้หญิงชายจับคู่ถามอะไรต่ออะไรเพื่อไปเล่นเกม พวกพี่กบ พี่กิจ และไอ้วินมันนั่งลุ้นไม่ให้ปริญญาโดนเรียกตัวออกไป จนแล้วจนรอดก็ไม่โดน เล่นเกมสักพักอาจารย์ก็ปล่อยให้นักเรียนไปอาบน้ำแต่งชุดนักเรียน พวกพี่เลี้ยงก็ไปพักผ่อนกันตามอัธยาศัย จากนั้นก็เรียกรวมนักเรียนม.หนึ่งที่หน้าเสาธง จากนั้นอาจารย์ก็เรียกรวมนักเรียนม. หนึ่งที่หน้าเสาธงพวกผมมี พี่อุ้ย พี่อุ้ม เคน วัน และพี่โอมไปอาบน้ำที่ห้องน้ำ ตอนอาบน้ำพี่ใหญ่ซึ่งมาทีหลังอาบน้ำแล้วมีอะไรแล่บออกมา ผมจึงล้อ พอพวกผมอาบกันเสร็จก็มานั่งคุยกันที่ขอบสระ ( พวกผมอาบน้ำกันในสระว่ายน้ำของโรงเรียน ) คุยกันเรื่องถนัดนั่นแหละ จนพี่โอมอาบเสร็จจึงไปที่พักพร้อมกัน จากนั้นจึงพากันไปห้องโสต พอไปถึงพวกพี่เลี้ยงผู้หญิงผู้ชายนอนกันเป็นตับ ผมเห็นพี่ใหญ่ที่นอนอยู่ก่อนจึงหัวเราะผมเอากระดาษตัดเป็นรูปเจ้าหนูแล้ววางบนเป้ากางเกงของพี่ใหญ่ แล้วพวกเราก็หัวเราะกันใหญ่ แล้วพวกเราก็คุยกันเรื่องพวกนั้นนั่นแหละ หัวเราะเสียงดังจนบางคนที่นอนอยู่เดินออกไป จนอาจารย์เรียกพี่เลี้ยงไปรวมกันเตรียมอาหารให้เด็กม. หนึ่ง เสร็จแล้วพวกพี่เลี้ยงก็มานั่งเล่าเรื่องผี เคนเล่าก่อน ผมนั่งค่อมหลังเพื่อนเข้าไปฟัง เจ้ยเล็ก ( มีสองเจ้ย ) มันโจนมาบนหลังผม ผมร่วงลงไปจูบพื้นจนปากเจ่อเลย ตกเย็นอาจารย์ส่งเด็กลับ พวกผม ( พี่เลี้ยงชายหญิง ) มานั่งคุยกัน ผมรู้สึกเศร้าที่ต้องจากกันในวันนี้ พอเย็นผมกลับกับเคน เคนนัดให้ผมมาเจอมันตอนเจ็ดโมงครึ่งพรุ่งนี้ จากนั้นจึงแยกกันกลับบ้าน.วันเสาร์ที่
วันนี้ผมไปหาเคนที่บ้าน
สิบเอ็ด พฤษภาคม พ.ศ. สองพันห้าร้อยสามสิบสี่ มันให้ผมรอตั้งครึ่งชั่วโมง มันไปรีดผ้าซักผ้าแล้วจึงไปโรงเรียน พอไปถึงก็เจอพี่หนิง พี่หนิงชวนผมไปเอาของที่ฝากไว้กับเพื่อนที่บ้านอาจารย์ใกล้ๆโรงเรียน แล้วจึงกลับเข้าไปในโรงเรียนพร้อมกัน พวกผมไปนั่งที่หน้าห้องพยาบาล อยู่สักพักจึงเดินเข้าไปในโรงอาหารแล้วออกมาที่ห้องพยาบาลสักพัก วันยืมวอล์คแมนของผมไปฟัง ผมก็ให้ไป เคนชวนผมเข้าไปดูซ้อมสีเหลือง ผมชี้ให้เคนดูหน้าของเด็กที่ผมชอบแล้วกระชากตัวเคนมาเพราะเธอมองมาพอดี เป็นการกระทำด้วยความเขิน จากนั้นเคนก็เริ่มกวนประสาทผมด้วยการพาคนโน้นคนนี้ขึ้นไปหาเธอที่ห้องปฏิบัติการเคมีแต่ที่สุดแล้วเคนก็บอกว่าไม่ได้พูดอะไร ผมจึงโล่งใจ ผมไปกินข้าว เอ้ย! ไปเป็นเพื่อนเคนกินข้าวที่โรงอาหาร พอดีฝนตกลงมาอย่างหนัก ต่อมาผมไปช่วยพวกรุ่นพี่เข้าทำนกเกี่ยวเข็มกลัดให้น้องแล้วคุยกันเรื่องความเซ่อซ่าของพี่ใหญ่ จนไปรับน้องลอดซุ้มแล้วแล้วจึงแจกของที่ระลึกแล้วอาจารย์จึงให้น้องขึ้นหอประชุมแล้วให้พี่เลี้ยงได้พักผ่อน สักพักน้องลงมาทานอาหารว่างเสร็จแล้วพวกพี่เลี้ยงจึงวาดลวดลายเล่นเอาน้ำแข็งใส่เสื้อกัน ผู้หญิงก็โดนเหมือนกัน มาตอนหลังจึงโดนเล่นงานกันเป็นรายคน เจอรุมกันทีละคนสองคน จนภารโรงไล่จึงเปลี่ยนมาเล่นน้ำดินสอพองป้ายหน้ากันเละเลย ผู้หญิงก็เจอ ผมมีดินสอพองอยู่ในกระเป๋ากางเกงจึงเติมได้เรื่อยๆ ช่วงที่ผมไล่สาด ผมกำลังหาเหยื่ออยู่ พี่กั้ง ( พี่ชายของกิ่ง ) จับมือผมเทน้ำใส่หน้าผมหมดแก้ว เล่นเอาขาวไปทั้งหน้า จากนั้นน้องก็ลงมา พอหมดพวกผมจึงมาร้องเพลงที่เกี่ยวกับเพื่อนที่ต้องลาจาก กระชากอารมณ์ของผมมาก จากนั้นจึงแยกย้ายกันกลับไปเก็บซุ้มแล้วจึงไปรอรถที่หน้าโรงเรียน.วันอาทิตย์
วันนี้ไม่ได้ออกไปไหน
ที่สิบสอง พฤษภาคม พ.ศ. สองพันห้าร้อยสามสิบสี่ เลยเหมือนกับวันธรรมดาที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีอะไรมาเขียนเป็นพิเศษ.วันจันทร์ที่
วันนี้ผมไปโรงเรียนช่วยอาจารย์เขาทำแล็ปโดยไม่มีเธอ
สิบสาม พฤษภาคม พ.ศ. สองพันห้าร้อยสามสิบสี่ เซ็งจัง รู้สึกเพลียๆยิ่งไม่เจอเธอยิ่งเซ็งไปกันใหญ่ ผมช่วยอาจารย์ขุดหน้าดินที่ไม่มีสารอาหารไปทดลองปลูกกุหลาบโดยใช้ดินเนี่ยกับกากกาแฟบดละเอียดเคล้ากับโฟมดูว่ามันจะโตมั้ย ผมก็ช่วยอาจารย์เขาอยู่จนเที่ยงกว่า วันนี้จึงเหมือนกับวันที่แสนน่าเบื่ออีกวันแล้วจึงกลับบ้านไปซื้อเทปของนีโน่กับเต๋อของฟังเพลงยิ่งสูงยิ่งหนาวกับเพลงขอเป็นพระเอกแล้วจึงหลับไปวันอังคารที่
วันนี้ผมไปโรงเรียนกะไปช่วยอาจารย์ทำให้เสร็จ
สิบสี่ พฤษภาคม พ.ศ. สองพันห้าร้อยสามสิบสี่ แต่แล้วเด็คนนั้นก็ยังไม่มาอีตามเคย ผมชักเอะใจว่าทำไม ผมช่วยอาจารย์จนอาจารย์เลิกประชุม แล้วอาจารย์ก็ให้พวกผม ( มีพี่ผู้หญิงสามคน น้องผู้ชายสองคน หญิงสองคน ) ขนของจากห้องแลบเคมีซึ่งตอนนี้กำลังจะไม่ใช่แล้วไปบนห้องวิทย์บนตึกนวชนนี อยู่บนชั้นสามริมสุดตรงข้ามห้องม.หกทับสิบสอง ขนกันจนเสร็จแล้วจึงมาช่วยอาจารย์ยกกระถางต้นไม้ที่จะใช้ทดลองไปไว้ตรงศาลานิทรรศการจนครบหมด อาจารย์จึงล็อคห้องผมไปล้างมือแล้วก็ฟอกด้ายที่พี่หนิงถักไว้ที่ข้อมือผมพร้อมกับคำอวยพรเป็นของขวัญระหว่างที่เข้าค่ายรับน้องใหม่ให้ขาวเหมือนตอนแรก ด้ายเส้นก่อนนี้ผมยังไม่ล้างทุกวัน ที่ผมเรียกว่าเส้นก่อนเพราะมันโดนอาจารย์ห้องปกครองตัดไปทั้งหมดเลย มีดายที่อาจารย์นวรัตน์ผูกให้ตอนปัจฉิมนิเทศเป็นด้ายเส้นเล็ก อีกเส้นมีตัวหนอนเหมือนอันใหญ่อีกอันที่ผมไปเก็บมาจากห้องพิมพ์ดีดนั่นแหละ ทั้งสี่เส้นโดนตัดหมด พอล้างมือเสร็จอาจารย์ขึ้นไปเช็คความเรียบร้อยบนชั้นสามอีกที แล้วอาจารย์ก็พาไปเลี้ยงมือเที่ยงจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้านวันนี้ผมกลับมาวิ่งอีกครั้งโดยวิ่งสองกิโลเมตรก่อน เพราะหยุดไปหลายวันก็สักห้าหรือหกวันที่ไปเข้าค่ายรับน้องนั่นแหละ แล้วก็ผมมีน้ำมูกด้วยวิ่งไม่ถนัดเพราะหายใจไม่สะดวก แต่ซิทอัพกับแทงปลาไหลอย่างละแปดสิบทีไม่มีขาดเว้นแต่ตอนเข้าค่าย ผมต้องฟิต ทำหรือไม่ทำคนที่ได้คือเรานี่นา.วันอังคารที่
วันนี้ผมมาจดตารางสอนที่โรงเรียน
สิบห้า พฤษภาคม พ.ศ. สองพันห้าร้อยสามสิบสี่ เจอพวกพี่สารวัตินักเรียนคุยกันตอนเช้าก่อน พอเข้าห้องเรียนอาจารย์ให้จ่ายเงินก่อน แล้วจึงจดตารางสอนแล้วก็เก็บกวาดห้องเพราะมันรกมาก ผมหนักใจเรื่องน้องจริงๆ เพราะกลัวว่าเขาจะไม่มา พอเสร็จจากกิจกรรมในห้องแล้วผมจึงชวนพวกพี่อุ้ม พี่ตึ๋งไปช่วยพี่ไก่ทำโครงงานวิทย์รอเด็กคนนั้นนานพอควรกว่าเธอจะขึ้นมา พอเธอขึ้นมาพี่อุ้มเขาก็แซวว่า "น้องหิวน้ำจัง" เธอจึงตอบว่า "ไปซื้อกินเองซิพี่" เนี่ย! เจ๋งป่าว จากนั้นเธอก็จ้ำพรวดเลย ผมสงสัยว่าเธอโกรธอะไรหรือเปล่า แต่ไม่แน่อาจไม่ใช่ก็ได้ แต่ข้างหลังดูเหมือนกันเลย พวกพี่ๆเขาเลี้ยงกันในโอกาสอะไรก็ไม่รู้ พวกผมไปซื้อของกินกันก่อน จากนั้นจึงหิ้วตามไปที่บ้านกิ่งแถวๆวัดลาดปลาเค้า ไปถึงพวกผู้หญิงก็ทำพวกของกินกลางวัน พวกผมออกมานั่งคุยกันข้างนอก บ้านเก๋คล้ายๆบ้านผมเพียงแต่บานเก๋ทำบ้านเท่ากับข้างนอกบ้านผมยกขึ้นมาเยอะ และบ้านเก๋มีพื้นที่มากกว่า ส่วนใหญ่ของบ้านเป้นต้นไม้มีแคร์ไม้เก่าๆ พวกผมมานั่งคุยยุทธการจีบเด็กคนนี้กันอยู่นานส่วนใหญ่ผมจะพูดเล่นซะมาก จนพวกพี่เขาเอาไพ่มาทำนาย ไพ่บอกว่าดวงผมกับเธอมีอุปสรรคเยอะนี่ตำราพี่นก ตำราพี่อุ้มบอกว่าใจผมอยู่ที่เธอ ใจเธอก็อยู่ที่ผม เนี่ย! เจ๋งมะ ผมดีใจจัง แต่พี่อุ้มบอกไพ่อย่างนี้เชื่อไม่ค่อยได้เพราะเล่นมาหลายหนจนเก่าแล้ว ต้องไพ่ใหม่หรือที่เอาไว้ใช้ดูดวงอย่างเดียว ใครจะว่ายังไงผมไม่สน ผมเชื่อของผมก็แล้วกัน จนพี่เก่งเอากล้องมาถ่ายรูปหมู่บนแคร่นี่แหละ ผมขยับไปนั่งกลางๆ แคร่มันดันหักผมก็กลิ้งลงมาเลยสิ ขวดน้ำแก้วน้ำลงมาหมดเลย ดีที่เขาไม่ถ่ายไว้แบล็คเมล์ ไม่งั้นอายเขาแย่ ทุกคนไม่มีใครลงเลยมีผมตีลังกาลงข้างหลังคนเดียว แต่ในที่สุดพี่เก่งก็แอบถ่ายรูปผมตอนนอนหลับบนแคร่หักจนได้ จากนั้นสักสามโมงสี่สิบห้านาที ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ก่อนกลับพี่อุ้มเขาสนใจเด็กป.หก ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับกิ่งชื่อบิว ชื่อจริงลืมแล้ว รู้แต่ว่าแปลว่าดวงอาทิตย์ "ฮิเดโกะ" เป็นแรกที่พวกผมอุทานขึ้น พี่ๆเขาคุยเรื่องอื่นกับบิว เพราะน้องบิวเนี่ยเขาเป็นนางแบบตั้งแต่เด็กแล้ว แล้วก็เยอะจนลืมว่ากี่ชิ้น เคยเป็นแบบให้ปิแอร์ กาแด็งด้วย ไอ้ผมก็ไม่รู้ซะด้วยว่ามันคืออะไร ทีนี้ด้วยความซกมกของพี่อุ้ม ทำให้เขาไปขอเด็กบิวถ่ายรูปกับพี่นก ผมย่องไปข้างหลังต่อเขาพี่อุ้มตอนหลังพี่อุ้มรู้เลยโมโหใหญ่ จากนั้นพี่อุ้มก็ดูไพ่อีหลายคนแล้วจึงแยกย้ายกันกลับ วันนี้ผมไปตัดผม ช่างเขาตัดซะเกรียนเลย เสียดายจริงๆ นี่เพราะผมเชื่อที่พี่อุ้มบอกให้ตัดผมให้เนี้ยบแท้ๆ แต่วันนี้ก็ยังวิ่งสามกิโลเมตร ซิทอัพ แทงปลาไหลอีกแปดสิบทีเหมือนเดิม.ผลงานอื่นๆ ของ เต้ยชาย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เต้ยชาย
ความคิดเห็น